ประวัติพญานาคแต่ละองค์
   NakarajSociety.pantown.com   
ประวัติพญานาคแต่ละองค์

ส่งรูปนี้เข้ามือถือ
ชื่อรูป :พญานาคาอธิปบดีศรีสุทโธ
คำอธิบายรูป : เจ้าพ่อพญาศรีสุทโธเป็นพญานาค ครองเมืองหนองกระแสครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งเป็นพญานาคเช่นเดียวกันปกครอง มีชื่อว่าสุวรรณนาค และมีบริวารฝ่ายละ 5,000 เช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกัน
ด้วยความรัก ความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมีอาหารการกินก็แบ่งกันกิน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นเพื่อนตายกันตลอดมา แต่มีข้อตกลงกันอยู่ข้อหนึ่งว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกไปหากินล่าเนื้อหาอาหารอีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องออกไปล่า เนื้อหาอาหารเพราะเกรงว่าบริวารไพร่พลจะกระทบกระทั่ง
กัน และอาจจะเกิดรบรากันขึ้นแต่ให้ฝ่ายที่ออกไปล่าเนื้อหาอาหารนำอาหารที่หามา ได้แบ่งกันกินฝ่ายละครึ่ง การกระทำโดยวิธีนี้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
ตลอดมา อยู่มาวันหนึ่งสุวรรณนาคพาบริวารไพร่พลออกไปล่าเนื้อหาอาหารได้ช้างมาเป็น อาหาร ได้แบ่งให้สุทโธนาคครึ่งหนึ่งพร้อมกับนำขนของช้างไปให้ดูเพื่อเป็นหลักฐาน ต่างฝ่ายต่างกินเนื้ออย่างอิ่มหนำสำราญด้วยกันทั้งสองฝ่าย และวันต่อมาอีกวันหนึ่งสุวรรณนาคได้พาบริวารไพร่พลออกไปล่าเนื้อ
หา อาหารได้เม่นมา สุวรรณนาคได้แบ่งให้สุทโธนาคครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม พร้อมทั้งนำขนของเม่นไปให้ดู ปรากฎว่าเม่นตัวเล็กนิดเดียว แต่ขนของเม่นใหญ่เม่นตัวเล็กเมื่อแบ่งเนื้อเม่นให้สุทโธนาคจึงต้องแบ่งให้ น้อยสุทโธนาคได้พิจารณาดูขนเม่นเห็นว่าขนาดขนช้างเล็กนิดเดียวตัวยังใหญ่โต ขนาดนี้
แต่นี้ขนใหญ่ขนาดนี้ตัวจะใหญ่โตขนาดไหนถึงอย่างไรตัวเม่นจะต้อง ใหญ่กว่าช้างอย่างแน่นอน คิดได้อย่างนี้จึงให้เสนาอำมาตย์นำเนื้อเม่นที่ได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งไป คืนให้สุวรรณนาคพร้อมกับฝากบอกไปว่า \"ไม่ขอรับอาหารส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมจากเพื่อนที่ไม่ซื่อสัตย์\" ฝ่ายสุวรรณนาคเมื่อได้ยิน
ดังนั้น จึงได้รีบเดินทางไปพบสุทโธนาคเพื่อชี้แจงให้ทราบว่าเม่นถึงแม้ขนมันจะใหญ่โต แต่ตัวเล็กนิดเดียว ขอให้เพื่อนรับเนื้อเม่นไว้เป็นอาหารเสียเถิด สุวรรณนาคพูดเท่าไรสุทโธนาคก็ไม่เชื่อผลสุดท้ายทั้งสองฝ่ายจึงประกาศสงคราม กัน ฝ่ายสุทโธนาคซึ่งมีความโกรธเป็นทุนอยู่ตั้งแต่เห็นเนื้อเม่น
อยู่ แล้วจึงสั่งบริวาร ไพร่พลทหารรุกรบทันที ฝ่ายสุวรรณนาคจึงรีบเรียกระดมบริวารไพร่พลต่อสู้ทันทีเช่นเดียวกัน ตามการบอกเล่าสู่กันฟังมาว่า
พญานาค ทั้งสองรบกันอยู่ถึง 7 ปีต่างฝ่ายต่างเมื่อยล้า เพราะต่างฝ่ายต่างหวังจะเอาชนะกันให้ได้ เพื่อจะครองความเป็นใหญ่ในหนองกระแสเพียง
คนเดียวจนทำ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บริเวณหนองกระแสและบริเวณรอบ ๆ หนองกระแสเกิดความเสียหายเดือดร้อนไปตามกัน
เมื่อเกิดรบกันรุนแรงที่สุดจนทำให้ พื้นโลกสะเทือนเกิดแผ่นดินไหวทั้งหมด เทวดาน้อยใหญ่ทั้งหลายเกิดความเดือดร้อน ไปทั้งสามภพความ
เดือดร้อนทั้ง หลายได้ทราบไปถึง พระ อินทรา ธิราชผู้เป็นใหญ่ เทวดาน้อยใหญ่ทั้งหลายไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เพื่อร้องทุกข์และเล่าเหตุการณ์ ต่าง ๆ
ให้ฟังเมื่อพระอินทร์ได้ทราบเรื่องตลอดแล้ว จะต้อง หาวิธีการให้พญานาคทั้งสองหยุดรบกันเพื่อความสงบสุขของไตรภพจึงได้เสด็จจาก ดาวดึงส์ ลงมา ยัง
เมืองมนุษย์โลกที่หนองกระแส แล้วพระอินทร์ตรัส เป็นเทวราชโองการว่า \"ให้ท่านทั้งสองหยุดรบกันเดี๋ยวนี้\" การทำสงครามครั้งนี้ถือว่าทุกฝ่ายเสมอ
กัน และหนองกระแสให้ถือว่าเป็นเขตปลอดสงคราม ให้พญานาคทั้งสองพากันสร้างแม่น้ำคนละสายออกจากหนองกระแสใครสร้างถึงทะเล ก่อนจะ ให้ปลา บึก ขึ้นอยู่ในแม่น้ำแห่งนั้น และให้ถือว่าการทำ สงครามครั้งนี้มีความเสมอกัน เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทของพญานาค ทั้งสอง ให้เอาภูเขาพญาไฟ เป็น เขตกั้นคนละฝ่าย ใครข้ามไปราวีรุกรานกันขอ ให้ไฟจากภูเขาดงพญาไฟไหม้ฝ่ายนั้นเป็นจุลมหาจุล เมื่อพระอินทร์ตรัสเป็นเทวราชโองการ ดัง กล่าวแล้วสุทโธนาคจึงพาบริวารไพร่พลอพยพออก จาก หนองกระแสสร้างแม่น้ำมุ่งไปทางทิศตะวันออกของหนองกระแส เมื่อถึงตรง ไหนเป็นภูเขาก็คดโค้ง ไปตามภูเขาหรือ อาจจะลอดภูเขาบ้างตามความยาก ง่ายในการสร้าง เพราะสุทโธนาคเป็นคนใจร้อน แม่น้ำนี้เรียกชื่อว่า \"แม่น้ำโขง\"
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live


ความคิดเห็นที่ 2
   you.
I very like
thank flowers
โดย: arisa_138@hotmail.co.th [6 มี.ค. 56 14:32]

ความคิดเห็นที่ 3
   ชอบมากค่ะ แล้วก็ศรัทธามากๆ
ขอบคุณนะคะ
บางสิ่งอาจไม่มีเครื่องมือใดสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้นั้น จะไม่มีอยู่จริง
บนโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราไม่สามารถรู้ หรือ เห็นได้
อาจเรียกว่าเป็นสิ่งลี้ลับอย่างหนึ่งก็ได้
แต่หนูเชื่อนะคะ ว่าบางสิ่งมีจริงๆ
แต่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปไม่อาจที่จะรับรู้ได้ เท่านั้นเอง
และการที่สิ่งเหล่านั้นไม่ปรากฎให้มนุษย์รู้ก็เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ควรรู้ใช่ไหมคะ แต่บางครั้งมนุษย์ก็อดที่จะอยากรู้ไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่หนูเชื่อว่าต้องมีจริงแน่เลยค่ะ แต่บางเรื่องบางสิ่งก็อาจจะเป็นอดีตไปแล้ว แต่มันก็เป็นความจริงใช่ไหมคะ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คร้าบ //mzrry
I like this story.*-*flower
โดย: arisa_138@hotmail.co.th [6 มี.ค. 56 14:43]

ความคิดเห็นที่ 4
   ดีจังได็รู้อะไรหลายๆอย่าง แม้กระทั่งประวัติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและประวัติของพยานาค เรื่องนี้เป้นความเชื่อส่วนบุคคลแล้วแต่ใครจะเื่ชื่อหรือไม่เชื่อ..ส่วนตัวผมเชื่อนะ..เพราะเคยบวชมาก่อน ในพุทธประวัติก็ยังเคยกล่าวถึงพยานาคเลย ซึ่งประวัติของพุทธองค์มีมานานก่วา 2500ปี ประวัติของพญานาคก็คงจะต้องนานก่วาด้วย เพราะพระพุทธเจ้าของเราก็มีตั้ง 4 พระองค์แล้ว อีกไ่ม่นานก็จะเข้าสู่พระองค์ที่ 5 สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
โดย: ื่าืาาส [20 ก.ย. 56 12:18]

ความคิดเห็นที่ 5
   มีประโยชน์มากกกกกกsmile
โดย: s [8 พ.ย. 56 14:20]

ความคิดเห็นที่ 6
   ผมเคยไม่เห็น ..แต่เชื่อมากๆว่ามีจริง !
เพราะมีผู้ชายคนหนึ่งเล่าให้ผมฟัง ใช่คับ มันแค่การบอกเล่าแค่นั้น
แต่เป็นการบอกเล่าจากชายคนหนึ่ง ที่ผมมั่นใจว่าว่าเท่าที่รู้จักมาเขาไม่เกือบทั้งชีวิตเขาแทบไม่เคยโกหกผม ผมถึงเชื่อ..
และที่มันอัศจรรย์มากๆก็คือ เขาเห็นพญานาค ที่มีรูปร่าง แบบในรูปภาพด้านบน แบบนั้นแหละคับ..
ผมนั่งหามาสักพักแล้วคับว่าจะมี พญานาครูปร่าง อย่างที่ชายคนที่มรู้จักเล่าให้ฟังรึป่าว เพราะผมจำได้แค่เพียงลักษณะรูปร่างที่เขาเล่าให้ฟังแค่นั้น เขาบอกว่า สวยงามมากๆคับเป็นแสงเปล่งประกายระหยิบระหยับทั่วไปทั้งตัว แต่แค่ที่ช่วงใบหน้าคับเขาบอกว่ามันมืดไม่เห็นหน้าเห็นแต่หัวพญานาคข้างหลัง เขาบอกน้ำรอบๆค่อยๆสั่นกระเพื่อมเบาๆสง่างามมากๆ ผมถึงเชื่อคับว่ามีอยู่จริงๆ ขอบคุณคับ ....

ขอบคุนคับ
โดย: rock_n_rolla_ton@hotmail.com [2 มี.ค. 57 3:26]


รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
เสียงประกอบ : .wav .mp3 .wma .ogg < 300K

พิมพ์เพื่อยืนยันตัวตนว่าไม่ใช่ คอมพิวเตอร์
CAPTCHA code


คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน