ใบฮว่านง็อก...สมุนไพรรักษามะเร็ง...
   เนื่องจากบริษัทมีนโยบายส่งเสริมให้ความรู้ด้านต่างๆ กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องงานและทักษาะความรู้ด้านต่างๆ เลยมอบหมายให้โจทำวารสารขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ในหน่อยงานในบริษัท และบริษัทในเครือ..ทำให้โจต้องหาความรู้เรื่องอื่นๆ มาสอดแทรกเรื่องทางด้านเทคนิค ด้วยทั้งเรื่องสุขภาพและเทคโนโลยี อื่นๆ แม้กระทั่งสูตรอาหารยังแอบจิ๊กของคุณสา และเพื่อนๆ ไปลง...โดยมีตัวหนังสือเบ้อเร่อว่า ครัวชมพู่ติดไปด้วย โดยใครทำอาหารหน้าตาน่ากินเหล่านั้น..วันนี้หาเรื่องเกี่ยวกับประเพณียี่เป็งอยู่ เพื่อเอามาเป็นเกร็ดให้พนักงานได้อ่านเล่นๆ แล้วบังเอิญ มีน้องมาบอกให้หาข้อมูลเรื่องว่านที่ใช้รักษามะเร็งให้หน่อย เลย หามาได้ข้อความเหล่านี้...ก็หวังว่าพอจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆหลายๆ คน และคนอื่นต่อไปบ้าง...โจขอ อนุญาติคนที่พิมพ์บทความนี้เอามาลง และให้อนิสงฆ์ที่คุณได้เผยแพร่นี้ส่งผลให้คุณและครอบครัวปลอดโรคปลอดภัยนะคะ...หากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็ไปตามเวลที่วางไว้นะคะ .. และต้องขอขอบคุณเจ้านายที่ทำให้โจได้มีโอกาสค้นหาข้อมูลต่างๆ ให้กับพนักงานด้วยค่ะ..https://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/nation/tour/hoanngoc.htm .....สมุนไพรฮว่านง็อก

เมื่อประมาณสักสามสิบกว่าปีมาแล้ว ผมทำหน้าที่ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ ไปปฎิบัติการรบในสมรภูมิเวียดนาม ได้มีความรู้ว่าสมุนไพรชนิดหนึ่งของญวน ที่พวกเวียดกงจะใช้เป็นยาสมานแผล และมักจะมีติดตัว เพื่อให้ให้ได้ทันทีเมื่อเวลามีบาดแผล แต่ผมไม่ใช่ทหารราบที่จะเข้าประชิดกับฝ่ายตรงข้ามแบบตัวถึงตัว ก็เลยไม่เคยเห็นว่าหน้าตาของสมุนไพรชนิดนี้เป็นอย่างไร และมีสรรพคุณวิเศษอย่างไรบ้าง ทราบแต่ว่ามี และรักษาแผลได้ ส่วนชื่อนั้นเคยทราบเหมือนกัน แต่ไม่ได้จดได้จำ เพราะร่วมรบกับอเมริกันนั้น เรื่องการส่งกำลังบำรุงจะเยี่ยมยอดมาก ทั้งยา ทั้งหมอมีพร้อม หมอไทยก็มีในอัตรา หนักหนาก็ส่งโรงพยาบาลอเมริกัน ที่อยู่ไม่ห่างจากค่ายแบร์แคทของทหารไทย และยังมีนางพยาบาลไทยหมุนเวียนไปประจำที่โรงพยาบาลของอเมริกันด้วย เลยไม่ต้องลำบากถึงขนาดหายาจากสมุนไพร
๓๗ ปีผ่านไป ผมกลับมาพึ่งสมุนไพรของเวียดนาม ซึ่งเข้ามาเมืองไทยทางภาคอีสาน แต่ก็ไม่แพร่หลาย ทราบว่ามีแถว ๆ บุรีรัมย์ ศรีษะเกษ และสุรินทร์ วันนี้เลยขอพาไปเที่ยวนิดเดียว อยากเล่าเรื่องของฮว่านง็อกให้ทราบ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับคนที่สงสัยว่า เป็นมะเร็งหรือเป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ในต่อมน้ำเหลือง และยังรักษาหรือลดน้ำตาลในเส้นเลือด ไข้หวัด อาการทางเดินอาหารไม่ปกติ โรคกระเพาะอาหาร เลือดออกตามลำไส้ ตับเอักเสบ ไตอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด หรือขุ่นข้น โรคตาทุกชนิด โรคความดันโลหิตสูง – ต่ำ
โรคที่กล่าววมานี้เว้นโรคมะเร็ง แต่ที่ประสบกับตัวของผมเอง คือเกือบเป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ผมจึงอยากนำมาเล่าให้ฟัง เพราะคนเป็นมะเร็งนั้น น่าจะ ๙๙% รับรองว่าเรียบร้อยไป "เมรุ" แน่นอน ดังนั้นคนเป็นมะเร็ง ใครบอกให้ทำอะไร พอทำได้พอเชื่อได้ ก็น่าจะทดลองดู ดีกว่านอนรอความตายด้วยความเจ็บปวด เพราะผมเห็นคนใกล้ชิดกับผมมา ๓ คนแล้ว ที่กว่าจะตายก็แสนทรมาน ๒ คนเป็นน้องชาย และน้องสาวของผมเองที่เสียชีวิต ด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังไม่ถึงห้าสิบปี อีกท่านก็คุณยายของผมที่ตายเอาเมื่ออายุกว่าเก้าสิบ แต่ตายอย่างทรมานด้วยโรคมะเร็ง อีกท่านก็บิดาเลขา ฯ ของผมก็ตายด้วยโรคมะเร็ง แถมด้วยพี่สาวแท้ ๆ ของเลขา ฯ ที่เป็นแพทย์หญิงก็ตายด้วยโรคมะเร็ง จึงเป็นโรคที่น่ากลัวมาก แต่ที่เขาเป็นแล้วไม่ตาย กว่าสิบปีแล้ว ก็มีคนหนึ่งเป็นอดีตผู้ใต้บังคับัญชาของผม แล้วก็ป่วยเป็นมะเร็งต้องลาออกจากราชการ แต่เป็นมากกว่าสิบปีแล้ว "ไม่ตาย" ยังเดินได้ กินได้ ไปวัดได้ (ไปทำบุญ) หน้าตายังสดใส ไม่มีวี่แววว่าจะตาย เพราะรักษาตัวอย่างดี ปฎิบัติตามคำสั่ง คำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใครว่าอะไรดี ทำหมด อีกคนก็เป็นลูกสาวของอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นมาสิบกว่าปีเช่นกันยังอยู่ดี แต่ต้องระวังตัวอย่างดีก็อยู่ได้
ก่อนไปรู้จักต้นฮว่านง็อก ขอเล่าเรื่องของตัวผมเสียก่อน ว่าทำไมผมถึงต้องไปพึ่งฮว่านง็อก เมื่อประมาณปลายปี ๒๕๔๘ ผมเริ่มมีอาการถ่ายไม่เป็นเวลา และปัสสาวะบ่อย อาการหลังนี้เป็นอาการทั่วไปของคนสูงอายุมาก น่าจะเป็นตั้งแต่หกสิบปีขึ้นไป เช่นต้องลุกขึ้นปัสสาวะกลางดึกทุกคืน และเดินทางต้องหมั่นแวะปั๊มเข้าไว้ อย่ารอจนปวดปัสสาวะ จะกลั้นไม่อยู่ ไม่เหมือนคนหนุ่ม คนสาว หรือที่อายุน้อยกว่านี้ ส่วนการขับถ่ายนั้นปกติคือ ตอนเช้าเมื่อตื่นนอนและสำหรับผมจำเป็นมาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นนักเดินทาง หากภารกิจตอนเช้าไม่เรียบร้อย ออกเดินทางก็จะเป็นกังวล
อาการของผมขั้นต่อมาคือ นอกจากจะถ่ายไม่เป็นเวลาแล้ว บางทีข้ามวันไปเลย เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการเดินทางเวลาไปไหนกันเป
โดย: [0 3> ( IP )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 1
็นส่วนรวม อาการต่อมาเพิ่มอาการขึ้นมาอีกคือ จะขับถ่ายทุกครั้งแบบคนท้องเสีย เรียกว่าปวดเมื่อไร เป็นอั้นกันไม่อยู่ว่างั้นเถอะ ผมก็เลยต้องไปเล่าให้คุณหมอที่ดูแลหัวใจ คุณหมอให้ผมไปตรวจเลือด ตรวจได้ผลมาแล้วก็นำไปให้คุณหมอ หมอไม่พูด ไม่จาบอกอะไรผม ส่งใบตรวจให้ไปเอ็กซ์เรย์กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กมาให้ ไม่บอกสักคำว่าผลการตรวจเลือดนั้น ตัว "C E A" ย่อมาจากคำว่า CARCINOMA EMBRYONIC ANTIGEN เลือดคนปกติเขาบอกว่าตัวนี้อยู่ระหว่าง ๐ - ๓.๔ แต่ผลการตรวจเลือดของผมปรากฎว่า สูงถึง ๑๗.๕ เรียกว่าสูงมาก อ่านผลการตรวจเลือดแล้ว แต่เขาก็ไม่บอก บอกแต่ว่าให้นำอุจจาระมาให้ตรวจเช็คโดยด่วน ผมก็ไม่เชื่อเขาอยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่เพราะเขาไม่บอกเหตุผลว่า ทำไมต้องเอาไปตรวจ ที่นี้ไปหาหมอเอ็กซ์เรย์ เลยบอกว่าตัวร้ายของผมมันสูงมาก ถึงต้องเอ็กซเรย์ลำไส้ และกระเพาะอาหาร ให้กินแป้งแล้วรอสักพักให้น้ำแป้งไหลเข้าไปยังลำไส้เล็ก (ลำไส้เล็กเขาว่ายาวประมาณ ๒๐ ฟุต) ผอืดผอมดีพิลึก แต่พอทนได้ ผลการเอกซ์เรย์ไม่มีแผลในกระเพาะ ลำไส้ปกติ แต่คุณหมอบกว่าหากไม่เจอใน ๒ ตัวนี้ ขอให้เอ็กซ์เรย์ลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะต้องเตรียมการก่อนวันเอ็กซ์เรย์ คือ กินยาขับถ่ายล่วงหน้าถึง ๒ ขนาน ถ่ายกันให้เกลี้ยงกระเพาะ เกลี้ยงลำไส้ไปเลย งดอาหารตั้งแต่ก่อนวันไปเอกซ์เรย์ และก่อนหน้านั้น ๒- ๓ วัน ก็ต้องกินอาหารเบา ๆ เช่น ซุป เขาจะกำหนดมาให้ว่าก่อนกี่วัน กินอาหารอย่างไร วันไปเอกซ์เรย์ลำไส้ใหญ่เรียกว่า ไปแบบตัวเบาโหวงเลยทีเดียว ผู้ช่วยแพทย์นำสายยางมาฉีดแป้งเข้าไปในช่องทวารหนัก ตอนนี้ทรมานอย่าบอกใคร เพราะเกิดการปวดการขับถ่ายอย่างรุนแรง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอาหารในกระเพาะและลำไส้แล้ว ทีนี้คุณหมอก็สั่งพลิกซ้าย พลิกขวา ตะแคง วุ่นไปหมดคือ ถ่ายกันหลายท่า ส่วนคุณหมอก็ยืนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มองเห็นหมดว่าในลำไส้ของผมเป็นอย่างไร จบแล้วหมอบอกให้ผมดูที่จอคอมพิวเตอร์ ชี้ให้ดูว่ามีจุดผิดปกติ มีลักษณะเหมือนเนื้องอก หากดูด้วยตา ไม่ทราบว่าภาพในจอจะขยายหรือเปล่า เนื้องอกในลำไส้ใหญ่ โตสักเท่านิ้วก้อยและยาวประมาณหนึ่งเซ็นติเมตร หมอบอกว่าไม่รับรองว่าเนื้อมะเร็งหรือไม่ แต่จากผลการตรวจเลือด และภาพเอ็กซเรย์น่าจะใช่ เอากันให้แน่ ๆ ต้องไปส่องกล้องฉายไฟดูอีกที แล้วตัดเอาเนื้อชิ้นนี้ไปตรวจว่า เป็นเนื้อของโรคร้ายหรือเปล่า ผมก็เอาผลเอกซ์เรย์ และข้อแนะนำของหมอ ที่เอกซ์เรย์ผมไปให้หมอหัวใจเจ้าของไข้ของผม หมอออกใบสั่งอีกว่า ให้ไปตรวจด้วยวิธีส่องกล้อง และตัดเนื้อร้ายไปตรวจ แต่เมื่อนัดแพทย์ทางเดินอาหารแล้ว บอกว่าต้องรออีกประมาณ ๑๕ วัน และต้องเตรียมร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะคราวนี้จะเอากล้องซึ่งติดไฟฉาย ใส่เข้าไปทางทวารหนัก แล้วส่องตรวจดูกันเลย พร้อมกับตัดเนื้องอก (ถ้ามี ) ในลำไส้ไปตรวจว่า เป็นเนื้อมะเร็งหรือไม่
- มาดูการเตรียมตัวส่วนตัวของผมเอง ไม่มีใครแนะนำ ผมมีเวลา ๑๕ วัน
กินขมิ้นชันก่อนอาหาร และออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยานให้มากขึ้น
กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด กินแต่ปลา กับผัก เนื้อวัว งดเด็ดขาด
ผมมีคาถาอยู่บทหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเคยเขียนเล่าไปแล้วหรือยัง แต่ผมเที่ยวบอกเขาไปเรื่อย และเวลาข้ามสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี ข้ามไปยังฝั่งวัดมณีชลขันธ์ หรือข้ามกลับมา ผมจะยกมือไหว้ที่ศาลหลวงปู่แสง ที่สร้างอยู่เชิงสะพานขาข้ามไปอยู่ฝั่งซ้ายมือ หลวงปู่แสงคือ พระอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี ดูเหมือนจะเป็นอาจารย์ท่านแรกของสมเด็จโต เลยทีเดียว หลวงปู่แสง มีคาถาอยู่บทหนึ่งบอกว่า ใครเป็นมะเร็งท่องบ่น จะไม่ลุกลามต่อไป และอาจจะหายได้ ผมเคยเล่าให้หมอ นายพลหมอ บอกว่าเป็นไปได้เพราะหากท่องคาถาด้วยความเชื่อมั่น จิตสงบ มะเร็งมันไม่มีเชื้อโรคติดต่อใคร มันจะหยุดการเติบโต แต่ยิ่งกลัวมันมาก ไปกินอาหารที่มันชอบ มันจะลุกลามอย่างรวดเร็ว คาถาบทนี้ของหลวงปู่แสงคือ "ระโช หะระนัง ระชัง หะระติ" สั้นแค่นี้ผมท่องทุกครั้งที่ผ่านหน้าวัดมณี ฯ ผ่านหน้าศาลหลวงปู่แสง และก็ขอบารมีหลวงปู่แสง อย่าให้ผมเป็นโรคร้ายนี้เลย พอมาคราวนี้รู้ตัวว่า จะต้องไปตรวจมะเร็ง ตรวจเพราะมีอาการแล้ว ไม่ใช่อยากไปตรวจ ผมก็ท่องคาถาหลวงปู่แสง เรียกว่าท่องกันทั้งวัน ว่างเมื่อไร นึกถึงเมื่อไร เป็นท่องเมื่อนั้น ทำติดต่อตลอด ๑๕ วัน ก่อนวันไปส่องกล้อง เมื่อทำจิตให้สงบแล้ว ท่องคาถาก็ทำให้เกิดความสงบขึ้นในใจเรียกว่า "กูไม่กลัวมึง" นายพลหมอ เคยบอกว่าพี่ไม่ต้องท่องคาถาหลวงปู่แสงก็ได้ แต่ท่องว่า "กูไม่กลัวมึง" อ้ายมะเร็งร้ายก็จะหยุดเติบโต เช่นกัน เพราะไม่กลัว จิตสงบ
อ่างทอง สิงห์บุรี ผมมีธุรกิจที่ต้องไปเกือบทุกสัปดาห์ อาศัยแต่เงินบำนาญนั้นไม่พอกิน เมื่อตอนปลดเกษียณอายุราชการ ทองคำบาทละสี่พันบาท ทุกวันนี้ก๋วยเตี๋ยวชามละยี่สิบบาทขึ้นไป ทองคำหนักบาทละหมื่นบาทเศษ แต่บำนาญขึ้นมา ๕ % ประ
โดย: [0 3> ( IP )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 2
มาณ ๒,๐๐๐ บาท ต้องอยู่อย่างอดทน ค่าเรื่องที่เขียนก็พอใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ผมไปอ่างทอง ลพบุรี ก็มักจะไปซื้อยา จากร้านตลาดล่าง อ.เมืองลพบุรี ชื่อร้านลพบุรีเภสัช พอผมเล่าให้ฟังว่า ผมจะไปตรวจมะเร็งในลำไส้ คุณลพบุรีเภสัชก็แนะนำว่า ลองไปคุยกับคุณ "ฉ่าง" ลูกค้าประจำของเขา ดูบ้างไหม เขามีสมุนไพรดี และเขาเป็นโรคมะเร็งในลำไส้ขั้นสุดท้าย ชนิดหมอสั่งเมียให้เตรียมใจว่า ไม่เกิน ๓ เดือน แต่เขารักษาด้วยสมุนไพร นี่เกินปีแล้วไม่ตาย กลับอ้วนท้วนแข็งแรงดี ผมก็ไปหาคุณฉ่าง
คุณฉ่างก็เล่าให้ฟังว่า เขาไปตรวจช้าไป มะเร็งในลำไส้ใหญ่ลุกลามไปมากแล้ว และเป็นในลำไส้ใกล้ทวารหนักด้วย ทำให้ตัดไส้ทิ้งไม่ได้ และต้องเจาะช่องท้องต่อท่ออุจจาระ ออกทางช่องท้องที่เจาะ ออกมาแล้วก็จะอยู่ในถุง เมื่อรักษาหมอโรงพยาบาลก็ให้สารเคมี ฉายแสง แต่ไม่ร่วงเพราะไปได้ยาดี และมีผู้แนะนำให้กินสมุนไพรจากเวียดนาม คุณฉ่าง ก็ไปดูถึงเวียดนามว่าเขารักษากันอย่างไร แล้วนำต้นฮว่านง็อกมาด้วย คงจะซื้อมาหลายต้น และกลับมากว้านซื้อในเมืองไทยอีกอย่างคือ ว่านขันหมากเศรษฐี รักษาด้วยการกินใบฮว่านง็อก สด ๆ มื้อละ ๗ ใบ ก่อนอาหาร และซื้อต้นฮว่านง็อกตากแห้ง เอามาต้มทั้งราก ทั้งโคนและใบ เอาต้นขันหมากเศรษฐีทั้งต้น และใบมาต้มกินต่างน้ำ ใบฮว่านง็อก รักษามะเร็งในลำไส้ ส่วนขันหมากเศรษฐีจะรักษามะเร็งในต่อมน้ำเหลือง บอกว่าหากมันลามเข้าต่อมน้ำเหลืองแล้ว จะแพร่ไปทั่วร่างกายได้ ผมฟังคุณฉ่างอธิบายแล้ว ต้องกินมื้อละ ๗ ใบ วันละ ๒๑ ใบ ส่วนน้ำขันหมากเศรษฐีต้มนั้นถุงละ ๗๕๐ ซีซี กินวันละถุง
ผมกินได้ ๑๕ วัน ก็ไปตรวจส่องกล้อง ที่ต้องถ่ายกระเพาะอาหาร ลำไส้หนักยิ่งกว่าคราวเอกซ์เรย์ จับนอนตะแคง ฉีดยาให้หลับ แต่ประสาทผมคงจะแข็งเลยไม่หลับ นอนดูจอทีวีเฉยเลย ถึงเวลาคุณหมอหลายคนก็จัดการนำกล้องที่ติดไฟฉาย สอดเข้าไปทางทวารหนัก เข้าไปในลำไส้ใหญ่ เข้าไปลึกมากจึงพบเนื้องอกมีสีแดง เหมือนแผลกำลังจะหาย คุณหมอก็พูดกันเองว่า ทำไมสีแดง ต้องตัด โดยไม่ทราบว่าผมมองดูอยู่ตลอดเวลา มีคีมยื่นผ่านไฟออกมา ตัดฉับเข้าให้ เป็นอันเสร็จวิธีการส่องกล้อง หมอถามว่าจะส่องกล้องกระเพาะอีกไหวไหม ผมก็รับว่าไหว คราวนี้เอายางมาครอบปากกันไม่ให้กัดกล้อง สอดกล้องและไฟเข้าไปในปาก ลงไปส่องดูในกระเพาะและลำไส้เล็ก สักพักก็บอกว่าไม่มีอะไร เรียบร้อย อีก ๑๕ วัน ให้ผมมาฟังผลการตรวจเนื้อที่ตัดออกไป ว่าเนื้องอกหรือเนื้อร้าย หากเนื้อมะเร็งก็ต้องรักษากัน แต่บอกว่าผมเป็นส่วนลึกของลำไส้ ตัดต่อได้
ผมกลับมาหาคุณฉ่างอีก ขอซื้อใบฮว่านง็อก และน้ำยาขันหมากเศรษฐีมาอีก และขอต้นขันหมากเศรษฐีมาได้ ๑ ต้น ฮว่านง็อก ๑ ต้น แล้วไปหาซื้อแถวจตุจักร ซื้อได้แต่ขันหมากเศรษฐีมาต้นเดียว บอกว่ามีคนมากว้านซื้อกันไปหมด ฮว่านง็อกหาซื้อไม่ได้เลย พรรคพวกไปหามาได้จากบางขุนนนท์ ต้นนิดเดียวมีไม่ถึง ๑๐ ใบ ราคาต้นละ ๑๕๐ บาท ต่อมาผมไปหาซื้อได้จากสวนศรัณพันธุ์ไม้ ที่โคกกระเทียมลพบุรี ราคาต้นละ ๑๐๐ บาท แต่เขามีไม่มาก บอกว่าปลูกงายเพียงแต่แยกกิ่งชำเท่านั้น เลยขายกันแพงเพราะหายาก ปลูกง่าย
ต้นฮว่านง็อก ผมถ่ายต้นที่ผมขอพันธุ์จากคุณฉ่างมาปลูกไว้ แต่กินลดลงเหลือมื้อละ ๕ ใบ วันละ ๒ มื้อ เพราะตรวจ C E A ครั้งสุดท้ายลดลงมาเหลือไม่ถึงสิบแล้ว ผลการตรวจเนื้อที่ตัดออกมา ไม่ใช่เนื้อร้าย เป็นเนื้องอกธรรมดา และระบบขับถ่ายเกือบปกติ แต่เห็นว่าดี รักษาท้องก็เลยกินต่อไป ไม่มีรส จืด ๆ กินเหมือนกินผัก กินคู่กับใบสมุนไพรจีนที่ลดน้ำตาล รักษาเบาหวานคือ "แปะ ตำ ปึง" กินตอนเช้ามื้อละ ๕ ใบ แปะตำปึง หาซื้อง่าย ที่สวนศรัณ ก็น่าจะมี ราคาไม่แพง เหมือนฮว่านง็อก
ร้านอาหารวันนี้เลยพาไปชิม ร้านที่ต้องยกให้เป็นช้างเผือกในป่าเลยทีเดียว เพราะอยู่ถึงอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี เส้นทางไปตามเส้นทางถนนพหลโยธิน ผ่านสระบุรี พระพุทธบาท เลยไปอีก ๑๘ กม. ก็จะถึงวงเวียนที่มีราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์ ประทับยืนอยู่กลางวงเวียน หากตรงไปก็จะไปผ่านวงเวียนสระแก้ว ศาลพระกาฬ เข้าสู่ตัวเมือง หากอ้อมวงเวียนสมเด็จพระนารายณ์ หรือชื่อจริงคือ วงเวียนเทพกษัตริย์ ส่วนวงเวียนสระแก้ว ชื่อวงเวียนสุริโยทัย อ้อมวงเวียนเลี้ยวขวาตามป้ายไปโคกสำโรง ผ่านสี่แยกโรงพยาบาลอนันต์ ตรงต่อไปผ่านหน่วยทหารไปตลอด จนถึงเสาธงประตูเข้าบ้านทหารปืนใหญ่ เลี้ยวซ้ายตามโค้งถนนไปอีก ๓ กม. จะถึงหลัก กม. "๑๖๕" หลัก กม.๑๖๕ ตั้งอยู่หน้าสวนศรัณพันธุ์ไม้ สวนอยู่ทางขวามือ
ต้นฮว่านง็อก หากปลูกลงดินจะสูงประมาณ ๑ เมตร ไม่ใช่ไม้ล้มลุกปลูกกินใบได้นาน ใบอ่อนสีเขียวอ่อน ใช้กินได้ตั้งแต่ใบอ่อน ใบแก่จะมีสีเข้ม กรอบเป็นผักอย่างดี ขยายพันธุ์ด้วยการฉำกิ่ง


โดย: โจ [8 พ.ย. 51 15:38> ( IP A:58.10.6.177 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 3
สรรพคุณและขนาดการใช้ใบว่านลิง(พญาวานร,ฮว่านง็อก)



มีคนสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทางวิชาการของฮว่านง็อกมาเยอะค่ะ อยากจะบอกว่าปัจจุบันในไทยยังไม่มีข้อมูลนะคะ ได้ความว่าเนื่องจากเป็นสมุนไพรของเวียดนาม...

บริษัทยาในญี่ปุ่น อเมริกา คว้าไปแล้วค่ะ สำหรับคนที่ต้องการความแน่ใจทางวิชาการและใช้ในรูปยาแผนปัจจุบันคงต้องอดใจรออีก หลายๆปีนะคะ กว่าจะทำมาให้เราซื้อ

สำหรับประเทศไทยไม่หวังอะไรหรอกค่ะ ดูจากเปล้าน้อย กวาวเครือขาว ไม่เห็นจะเข็ดกันสักที ตื่นตูมช่วงนึงแล้วเรื่องก็เงียบ รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญในการแก้ปัญหา วัวหายล้อมคอก ไม่มีการสนับสนุนการวิจัยอย่างแท้จริง(เงินทุน) คนไทยเราเก่งนะคะ บุคคลากรมีความสามารถ แต่ เราไม่มีเงินค่ะ การวิจัยต้องใช้เวลา เงินทุน และอุปกรณ์ที่พร้อม ทันสมัย คำถาม รัฐบาลไทยสนุบสนุนตรงนี้หรือเปล่าคะ?

บริษัทยาต่างประเทศเค้าทุนหนา ถึงได้วิจัยแล้วจดสิทธิบัตรไปไงคะ เราก็อ้าปากหวอ ดูเค้าเอาไปกอด แล้วมาเต้นแร้งเต้นกาทีหลัง เปล่าประโยชน์ค่ะ มีตั้งนานไม่ทำไม่เห็นความสำคัญ คนไทยก็ควักกระเป๋าซื้อยาเค้ามาใช้ ที่เขียนมายืดยาวคือจะอธิบายว่าทำไมไม่มีข้อมูลวิชาการสนับสนุน แต่ทางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการศึกษาบางส่วนค่ะ จากใจผู้เขียน

สรรพคุณของต้นสมุนไพร (จากเอกสาร ฮานอย 2-9-1995 ถ่ายทอดจากต้นฉบับจริง)

รักษาคนสูงอายุ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำงานหนัก เกิดประสาทหลอน
รักษาไข้หวัด ความดันโลหิตสูง ท้องไส้ไม่ปกติ
รักษาบาดแผล เคล็ดขัดยอก กระดูกหัก
รักษาอาการทางเดินอาหารไม่ปกติ
รักษาอาการโรคกระเพาะอาหาร โรคเลือดออกในลำไส้ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
รักษาอาการคอพอก ตับอักเสบ
รักษาอาการไตอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่นข้น
รักษาอาการโรคมะเร็งปอด อาการปวดต่างๆที่ไม่ทราบสาเหตุ ให้รับประทานต่อไป 100-200 ใบ อาการจะหายขาด
รักษาโรคตาทุกชนิด เช่น ตาแดง ตาต้อ ตาห้อเลือด
รักษาอาการมดลูกหย่อนของหญิงคลอดบุตรใหม่ ให้ผลดี ช่วยให้มดลูกเข้าอู่
รักษาโรคความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ โรคประสาทอ่อนๆ
สามารถใช้กับสัตว์ได้ จากเอกสารระบุว่าใช้กับไก่ชนหลังจากชนไก่แล้วต้องการให้ไก่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ให้ไก่กินใบของต้นสมุนไพร จะฟื้นตัวได้เร็ว
รายละเอียดในการใช้รักษาแต่ละโรค

โรคกระเพาะอาหารเป็นแผล รับประทานครั้งละไม่เกิน 7 ใบ วันละ 2 ครั้ง รับประทานติดต่อกันไปจนครบ 50 ใบ
โรคเลือดออกในลำไส้ รับประทานใบสด 7-13 ใบ หรือคั้นเอาน้ำ วันละ 2 เวลา
โรคเกี่ยวกับลำไส้ใหญ่ เป็นบิด รับประทานครั้งละไม่เกิน 7 ใบ วันละ 2 ครั้ง รับประทานติดต่อกันไปประมาณ 100 ใบ
โรคตับอักเสบ คอพอก รับประทานครั้งละ 7 ใบ วันละ 3 ครั้ง รับประทานติดต่อกันไปจนครบ 150 ใบ
โรคไตอักเสบ ปวดเป็นประจำ รับประทานครั้งละ 3-4 ใบ วันละ 3 ครั้ง รับประทานไปจนครบ 30 ใบ
อาการท้องไส้ไม่ปกติ รับประทาน 7-14 ใบ 2 ครั้ง หาย
ปวดเมื่อยตามร่างกาย รับประทาน 7-14 ใบ 2 ครั้ง หาย
อาการปัสสาวะแสบ ปัสสาวะเป็นเลือด รับประทาน 14-21 ใบ โดยการคั้นเอาน้ำข้นๆรับประทาน
โรคตาแดง รับประทาน 7 ใบ และบด 3ใบ ปิดที่ตาเวลานอน 1 คืน จะหาย
โรคความดันโลหิตสูง จะลดทันทีเมื่อรับประทาน 5 – 9 ใบ
แก้โรคเบาหวาน ผู้ชายรับประทาน วันละ 7 ใบ ผู้หญิงรับประทานวันละ 9 ใบ ภายใน 90 วัน หาย
ใช้กับสัตว์ เช่น ไก่เหงา เป็นอหิวาต์ หรือ นิวคาสเซิ่ล ให้ไก่กิน 2-3 ใบ ไก่ชนหลังจากการชนแล้วให้กิน 2-3 ใบ
สตรีหลังคลอด รับประทานวันละ 1 ใบ ทุกวัน จะทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว
* ข้อมูลอ้างอิงจาก เล่าขานตำนานว่าน ลำปาง ปาซิโร หนังสือ เทคโนโลยีชาวบ้าน

หมายเหตุ- ควรใช้ใบสด สีเขียวไม่เหลือง ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป

- ต้นกล้าที่จำหน่าย ย้ายปลูกลงกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รดน้ำเช้าเย็น ต้นไม้ชอบที่ร่มไม่ชอบแสงแดด ปลูกต่ออีกประมาณ 2 เดือน จึงนำใบมาใช้ได้ค่ะ

ตอนนี้ ทางญี่ปุ่นและสหรัฐได้ทำการวิจัยเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ข้อมูลถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อทำการทดลองทางคลีนิค และจดสิทธิบัตร ก่อนจะออกมาเป็นยาให้พวกเราซื้อใช้กัน อยากจะแนะนำว่าเรามีต้นไม้ ใช้ใบสดประหยัดและคุ้มค่า แนะนำกินเป็นผักแนมน้ำพริกสำหรับโรคทั่วๆไป หรือปั่นใบเอาน้ำดื่ม สำหรับโรคมะเร็ง(เพราะใช้ทีเป็น100ใบ) ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นคำสอนที่ใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัยค่ะ
https://blog.sanook.com/DesktopModules/MIH/Blog/BlogView.aspx?tabID=0&alias=medplant&ItemID=15058&mid=189449
โดย: โจ [8 พ.ย. 51 15:44> ( IP A:58.10.6.177 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 4
คำถามที่พบบ่อย


--------------------------------------------------------------------------------

ถาม-ข้อมูลทางวิชาการของฮว่านง็อก
ตอบ-ในประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาอย่างจริงจังจากการสอบถามข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับคำตอบว่า เนื่องจากฮว่านง็อกเป็นสมุนไพรของเวียดนาม ไทยจึงยังไม่ได้ศึกษาตอนนี้

--------------------------------------------------------------------------------

ถาม-มีการผลิตเป็นยาหรือยัง
ตอบ-ข้อมูลต่างๆถูกเป็นความลับ เพราะบริษัทยาในญี่ปุ่นและอเมริกาเป็นผู้ลงทุนในการทำวิจัยและคงจดสิทธิบัตรในไม่ช้าแต่ระยะเวลากว่าจะเป็นยาออกมาใช้นานหลายปีเพราะต้องทำการทดลองใช้หลายขั้นตอน

--------------------------------------------------------------------------------

ถาม-ฮว่านง็อกเป็นของเวียดนาม?
ตอบ-จริง เพราะไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางรัฐบาลเวียดนามได้ร่วมมือกับต่างชาติทำแผนที่ทางอากาศระบุพื้นที่ เรียบร้อยแล้
โดย: โจ [8 พ.ย. 51 15:47> ( IP A:58.10.6.177 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 5
คุณโจจ๋า ใบฮว่านง็อก เพิ่งเคยได้ยิน สรรพคุณมากมาย เดี๋ยวต้องก๊อบไปอ่านก่อนนอน ขอบคุณมากๆเลยจ๊ะ
ปล.ถ้าเอามากินเป็นผักแนมน้ำพริก คงจะยิ่งดี เพราะ ชอบกินผักอยู่แล้ว น่าลองๆ แต่ไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนนะค่ะ
โดย: ชมพู่ (เจ้าบ้าน ) [9 พ.ย. 51 2:23> ( IP A:213.114.231.134 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 6
คุณสา เค้าว่าถ้าเอาไปผ่านความร้อนสรรพคุณมันจะลดลงน่ะค่ะ...เดี๋ยวอาทอตย์หน้าน้องที่ทำงานจะตัดกิ่งของพ่อเค้าเอามาให้ ถ้าคุณสากลับมาคราวหน้าก็เอาไปแบบตำลึงน่าจะผ่านนะคะ..
โดย: โจ [9 พ.ย. 51 11:28> ( IP A:61.91.163.248 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 7
...สวัสดีทุกท่านครับ แวะเข้ามาทักทายครับ
โดย: จินจง [9 พ.ย. 51 15:48> ( IP A:125.24.180.149 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 8
เอาไมปผ่านความร้อนไม่ได้ก็กินแบบสดๆๆเลยดิอร่อยดีๆๆๆ
โดย: ฟร้อน [9 พ.ย. 51 16:40> ( IP A:124.13.230.7 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 9
คุณโจจ๋า ถ้าได้กิ่งมา เอามาให้ดูด้วยนะ เที่ยวหน้าไปไทย จะแวะไปเอาจ๊ะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยจ๊ะ คนอาไร น่ารักจริงๆเลย มาจุ๊บทีนะจ๊ะ จ๊วบ.......
โดย: ชมพู่ [10 พ.ย. 51 3:04> ( IP A:213.114.231.160 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 10
เอเซียมีพืชพันธุ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์อยู่เยอะเลยนะคะ
โดย: แอนน์-ครัวคาวบอย [10 พ.ย. 51 5:11> ( IP A:68.88.122.65 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 11
ได้มาแว๊ววว...ว..5 ต้น 5555 ปากพระร่วง บอกอยากได้ มาเลย...เหลืออีกหลายอย่างค่อยๆ สะสมค่ะ สมุนไพร..เอาให้มีเยอะๆ
โดย: โจ [10 พ.ย. 51 10:22> ( IP A:58.10.6.108 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 12
คุณสา...ฮือ..ๆ..ๆ อุตสาห์วานคนอื่นไปหาซื้อมาให้วันนี้น้องเค้าหอบมาให้ 5 กระถาง ดีใจจะแบ่งให้ป้าข้างบ้าน ป้า บอกเอามาทำไมลูก เนี่ยป้าปลูกไว้ทั่วเลย..แล้วป้าก็พาเดินไปดูบ้านติดๆกันต้นเบ้อเร่อ...อาม่าข้างบ้านอีกคน บอกเนี่ยชั้นก็ไปปลูกไว้ที่หน้าบ้านเธอด้วย อีกต้นนึงนะถ้า ไอไปเด็ดมากินเลยนะ รับรองหาย...เค้าเรียกแป๊ะตำปึงลูก...เง้อ...อ..ใบ้เลย ...แล้วป้าก็จูงมาดูหน้าบ้านที่อ่ะฮั้นอยู่ ให้ดูว่าต้นไหนคืออาราย แบบก็สงสัยอยู่ทำกระถางหน้าบ้านมันเรี่ยมแร้เรไร แถมมีผักสารพัดมาปลูก ต้นเตยงี้..มะขามงี้...สมุนไพรงี้...น่ารักจังเยย
โดย: โจ [10 พ.ย. 51 19:21> ( IP A:61.91.160.178 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าเป็นมะเร็งโพรงจะหมูกจะรักษาอย่างไรคับ
โดย: pkpok555@hotmail.com [31 มี.ค. 52 9:23> ( IP A:58.10.170.228 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 14
ว่านง็อกมะเร็งปากมดลูกกินแล้วหายรึเปล่าค่ะถ้าหายมีวิธีการกินอย่างไรบ้างค่ะ(ขอบคุณไว้ณ.โอกาสนี้ค่ะ)
โดย: sasikran@gmail.com [18 พ.ค. 52 19:14> ( IP A:119.31.50.199 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 15
ปลูกเอาไว้เยอะมาก กินเป็นประจำ แต่ทำให้น้ำหนักตัวลดลงเร็วมาก
จนต้องหยุดกิน เพราะไม่ใช่คนอ้วน
โดย: คนดี ที่ไม่ค่อยน่ารัก [18 พ.ค. 52 20:02> ( IP A:118.174.103.141 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 16
Freeze Dried Crocodile Blood in Capsules

สรรพคุณ หากรับประทานประจำเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกาย จะมีประโยชน์

- ช่วยเสริมธาตุเหล็กในผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง ความดันต่ำ
- ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงกระปี้กระเป่า สดชื่น ลดความเครียด
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอบเดือนผิดปกติ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค และต่อต้านอนุมูลอิสระ(สาเหตุของการเกิดมะเร็ง)
- มีส่วนช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดในผู้ป่วยที่ต้องการฉายแสงและผู้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้
ข้อมูล**https://pongrat35.spaces.live.com
สนใจทานแคปซูลเลือดจระเข้
ติดต่อได้ - อีเมลล์ r.pongrat@hotmail.com
โทร 087-5843722 087-1293135
โดย: r.pongrat@hotmail.com [4 มิ.ย. 52 15:43> ( IP A:118.174.77.145 X: )

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 17
มะเร็งเนื้องอกยุบและฝ่อได้ รักษา/ต้านมะเร็งแนวใหม่ ระยะสี่ไม่สิ้นหวัง ทานได้พร้อมยา คีโม/ฉายแสง
แพทย์ทางเลือกแผนใหม่รักษามะเร็งด้วยพลูคาว ฉายแสงคีโมเป็นทางเลือกรักษามะเร็งที่เจ็บปวดเลือกสมุนไพรช่วยไหม
เบาหวานทานยามาเป็นสิบๆ ปีไม่หาย อัมพฤกษ์ ความดัน รักษาด้วยสมุนไพรดีกว่า พลูคาวช่วยได้จริงๆแพทย์พิสูจน์แล้ว
ประสบการณ์จริงของผู้ทานติดต่อ วรรณ 08-9121-5523 MSN: orakukl@hotmail.com
แวะมาดูสรรพคุณที่ https://www.kingherb.biz/?id=23

การรับรองความปลอดภัย
มีฟาร์มพลูคาวกว่า 180 ไร่ ไม่ใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง
การสกัดจึงได้คุณค่าทางอาหารอย่างเต็มที่เพราะนำเข้าโรงผลิตทันที
เป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่ออกงานสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และถวายจุฬาราชมนตรี ชาวอิสลามดื่มได้
อย. เจ้าแรกของไทยมีโรงงานผลิตมาตรฐาน GMP เป็นของตนเอง
และ สคบ.อย่างถูกต้อง เลขที่ นร 0307/14759 ได้รับเครื่องหมายรับรอง “ฮาลาล” เลขที่ กอท.ฮล. A 733/2549

สรรพคุณ
ค้นพบทางห้องวิทยาศาสตร์ สกัดจากใบพลูคาว มีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงใต้
หรือ ผักคาวตอง (Houttuynia Cordata thumb) เป็นสมุนไพรที่พบในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออก และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ที่เกี่ยวกับผักคาวตอง คือ
— ฤทธิ์ในการบำบัดฟื้นฟู โรคความดันโลหิตสูง (Artrosclerosis)
— ฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็ง (Cytotoxicity Against Tunor Cellines)
— เซลล์มะเร็งปอด เซลล์มะเร็งรังไข่ เซลล์เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย เซลล์มะเร็งสมอง มะเร็งลำไส้ มีฤทธิ์
ทำลายเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดอย่างมีนัยสำคัญ
— ฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Antileukemic Activty)
— ฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานโรค ยับยั้งเนื้องอก กระตุ้นเซลล์น้ำเหลือง ยับยั้งเบาหวาน
รักษาความสมดุลของร่างกายและอื่นๆ
— ฤทธิ์กับการติดเชื้อไวรัส กระตุ้นเซลล์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันไข้ทรพิษ หัด หัดเยอรมัน การติดเชื้อทาง
เดินหายใจ HIV เริม งูสวัด
— ฤทธิ์เกี่ยวกับการต้านเชื้อราและแบคทีเรีย เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา Cryptocoecus
Neoformans) ทางเดินปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคทางเดินอาหาร โรคปริทันต์ โรค
ระบบสืบพันธุ์ กลากเกลื้อน โรคติดเชื้อในปาก
— ฤทธิ์ต้านการอักเสบต่างๆ (Anti – Inflamnation) ยับยั้งเอนไซม์ (Cyclooxygenase) บ่อเกิดโรคที่มี
อาการอักเสบ
— ฤทธิ์ขับปัสสาวะ (Diuretic Actuvity) ขยายหลอดเลือด ทำให้อัตราไหลเวียนของเลือดและขับปัสสาวะ
เพิ่มขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง 1.จากหนังสือ ผักคาวตอง สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวง
สาธารณสุข
2.จากหนังสือ THE ASEAN JOURNAL OF RADIOLOGY


โดย: orakukl@hotmail.com [14 มิ.ย. 52 14:00> ( IP A:58.64.104.132 X: )

--------------------------------------------------------------------------------

ดำ ขาว น้ำเงิน แดง เขียว เหลือง ส้ม น้ำตาล ม่วง ฟ้า เขียวมะนาว

รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail : แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :

ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา

เสียงประกอบ : .wav .mp3 .wma .ogg < 300K
โดย: เจ้าบ้าน [22 ส.ค. 52 20:05] ( IP A:81.227.34.24 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน