หลักสูตรใหม่ 2552....ลดเวลาเรียนน้อยลง...และชัดเจนมากขึ้น
   


สพฐ.ส่งร่างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับปรับปรุงให้ รมว.ศธ.ลงนามแล้ว เผยเด็กเรียนน้อยลง ตัดเนื้อหาซ้ำซ้อน กำหนด เวลาเรียนแต่ละช่วงชั้น ประถมไม่เกิน 1,000 ชั่วโมงต่อปี ม.ต้น ไม่เกิน 1,200 ชั่วโมงต่อปี และม.ปลายรวม 3 ปี ไม่เกิน 3,600 ชั่วโมง นำร่อง 555 แห่งในปี 2552 ก่อนทยอยใช้จริงปี 2555

นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอร่างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการพิจารณาลงนามก่อนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา

ทั้งนี้ หลักสูตรใหม่นี้มี 8 กลุ่มเหมือนเดิมแต่เด็กจะเรียนน้อยลง เพราะกำหนดเวลาเรียนแต่ละช่วงชั้นไว้ชัดเจน ระดับประถมเรียนไม่เกิน 1,000 ชั่วโมงต่อปี ระดับม.ต้น ไม่เกิน 1,200 ต่อปี และม.ปลายรวม 3 ปี ไม่เกิน 3,600 ชั่วโมง หลักสูตรเก่าไม่มีการกำหนดชัดเจน และปรับลดมาตรฐานตัวชี้วัดจาก 76 เหลือ 67 โดยตัดมาตรฐานชี้วัดที่ซ้ำซ้อนกันออกไป

นอกจากนี้ ยังกำหนดชัดเจนว่า แต่ละปีต้องมีเวลาเรียนขั้นต่ำในแต่ละสาระ เช่น ป.1 เรียนภาษาไทย 200 ชั่วโมง คณิตศาสตร์ 200 ชั่วโมง วิทยาศาสตร์ 80 ชั่วโมง สังคมศึกษา 80 ชั่วโมง สุขศึกษาและพลศึกษา 80 ชั่วโมง ศิลปะ 80 ชั่วโมง การงานอาชีพและเทคโนโลยี 40 ชั่วโมง และภาษาต่างประเทศ 40 ชั่วโมง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 ชั่วโมง ขณะที่หลักสูตรเดิมไม่มีการกำหนดไว้

ทั้งนี้ มีการกำหนดโครงสร้างเวลาเรียนโดยในระดับประถมให้เน้นสอนวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ เพราะเป็นพื้นฐานการเรียนทุกวิชา ส่วนระดับม.ต้น เน้นภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และภาษาต่างประเทศ ระดับ ม.ปลาย จะลดวิชาการเน้นทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมากขึ้น โดยหลักสูตรใหม่จะนำร่องใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 ในระดับ ป.1-ป.6 ,ม. 1 และ ม.4 ในโรงเรียนประถม มัธยม และโรงเรียนขยายโอกาสทั่วประเทศ 555 แห่ง เมื่อถึงปีการศึกษา 2553 เริ่มใช้จริงในทุกโรงเรียน จะเริ่มใช้ทีละชั้นปีจนครบทุกระดับชั้นปีในปี 2555

ดร.สมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการกพฐ. กล่าวถึงการปรับปรุงการสอบวัดประเมินผลระดับชาติ (เอ็นที) ระดับชั้นป.3 ซึ่งสพฐ.จัดสอบเองว่า นอกจากสอบภาษาไทย กับ คณิตศาสตร์แล้ว จะเพิ่มวิชาวิทยาศาสตร์ด้วย ข้อสอบจะมีข้อเขียน และเลือกตอบเพื่อวัดการอ่าน คิดวิเคราะห์ความรู้ที่แท้จริงของเด็ก ไม่ให้เด็กเดาข้อสอบได้



ที่มา - คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551


โดย: ชวลิต จิตต์ชื่น [10 ก.ค. 51 21:10] ( IP A:125.24.32.152 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เวียนหัวค่ะกับหลักสูตร วันนี้ยังไม่ลงตัวเลย ในการจัดวิชา จัดโครงสร้าง

โดย: ครู [4 มี.ค. 52 21:18] ( IP A:202.47.230.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา..ของเก่ายังไม่เกิดผลของใหม่มาอีกแล้ว
โดย: pae2517@hotmail.com [5 เม.ย. 52 10:11] ( IP A:125.24.73.232 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ++ ตายแน่ ๆ ถึงจะเรียนน้อยลง แต่เนื้อหาทุกอย่างต้องอาศัยความเข้าใจนะครับ บ....
โดย: น.ร. >>ม.4 [17 เม.ย. 52 20:14] ( IP A:58.9.196.158 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   นักวิชาการ เก่งๆ ทั้งน้านในเมืองไทย ปรับตลอดชาติ
โดย: ครูไทย [14 พ.ค. 52 8:14] ( IP A:125.25.51.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เพราะมีพวกนักวิชาการที่จบสูง ๆ นี่แหละการศึกษาไทยจึงได้ฉิบหายกันไปหมด อยากให้ย้อนไปดูการศึกษาสมัยโบราณบ้างว่าเขาทำกันอย่างไร
โดย: ครูอนัตตา [27 พ.ค. 52 15:28] ( IP A:125.25.95.62 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ดิฉันเห็นด้วยกับการศึกษาสมัยก่อน "เลข-คัด-เขียน" น่าจะดีสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-ป.3)ควรจะปูพื้นฐานให้แน่นก่อน ขึนป.2ควรจะอ่านหนังสือแตกฉานเหมือนสมัยดิฉีน ท่านดร.กลับมาจากนอกเมืองเอ้ยเมืองนอก ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย ก็เลยไปเอาอย่างเมืองนอก เลยนักเรียนสมัยนี้อยู่ชั้นม.6 แล้วยังอ่านหนังสือแย่มาก เดี๋ยวพวกดร.ก็จะมาโทษหาว่าครูไม่เอาใจใส่บ้างล่ะ แล้วแต่จะอ้างโดยไม่หันมามองว่าหลักสูตรที่พวกท่านนั่งเทียนเขียนนะมันเหมาะกับเด็กไทยหรือไม่ ในฐานะที่ดิฉันก็เคยเป็นครู(ปัจจุบันเกษียณแล้ว)เคยสอนตั้งแต่ประถมต้น ประถมปลาย มัธยมต้นและมัธยมปลาย ดิฉันเข้าใจปัญหาหลักสูตรดีและจะว่าดีกว่าพวกดร.ก็ว่าได้ เพราะถ้าพูดกันแล้วดร.ก็รุ่นลูกศิษย์ดิฉันด้วยซำ ขนาดนักเรียน ม.6ที่ดิฉันสอนเขายังถามเลยว่าทำไมการจัดทำหลักสูตรจึงไม่เอาครูอาวุโสที่มีประสบการณ์การสอนมามากๆ และรู้ปัญหาดีกว่ามาจัดทำ เวลาจัดทำหลักสูตรส่วนใหญ่มักดึงเอาพวกพ้องกับดร.มาทำ หลักสูตรจึงออกมาแย่ๆ ไม่สนองความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง ดิฉันว่าหลักสูตรปี2552 ก็คงจะแบบเดิมๆไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะพวกดร. คิดแต่ผลประโยชน์ที่แอบแฝงรวมมือกันกับพวกมาเฟียในกระทรวงศึกษา แทนที่จะเห็นประโยชน์ของชาติ เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ เพราะเด็กฉลาดชาติก็จะเจริญ ขอฝากอีกนิด "วิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม, ภูมิศาสตร์-ประวัติศาสตร์" ของเก่าเขาดีอยู่แล้ว สอนให้เด็กมีคุณธรรมจริยธรรมและรู้จักกำพืดของตนเอง ทำให้เด็กรักเทิดทูนสถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดร.ก็จับมาทำเป็นวิชาจับฉ่าย เด็กสมัยนี้จึงมีความรู้เหมือนเป็ด คือ บินก็ได้แต่เท่าเทียมนก ว่ายนำก็เป็นแบบงูๆปลาๆ ดำน้ำก็ได้แต่สู้ปลาไม่ได้ แล้วน่าเวทนามากยิ่งเห็นคะแนนเด็กที่ได้อันดับ 1ของประเทศกระจอกเหลือเกิน การศึกษาไทยมันน่าอดสูเสียนี่กระไร
โดย: ครูไทย [11 มิ.ย. 52 18:19] ( IP A:125.27.148.225 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
    ดิฉันเป็นครูอยู่ในยุคกลางเก่ากลางใหม่ ดิฉันเข้าใจว่านักวิชาการต้องการให้เด็กไทยเป็นบุคคลที่กล้าแสดงออก คิดเป็น ทำเป็น(ให้ตัวเองมีผลงานที่โดดเด่น)แต่หารู้ไม่ว่าระบบการศึกษาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นักเรียนไม่มีความรู้ที่แท้จริงเรียนไปลืมไปและขาดคุณธรรมในใจ ครูทำอาชีพสอนเป็นอาชีพเสริมทำขั้นทำวิทยฐานะเป็นอาชีพหลัก
แล้วเอาการสอบลาส เอ็นที โอเน็ต ฯลฯมาวัดระดับความรู้ รู้แล้วคุณแก้อย่างไร ก็เป็นภาระของสพท. สพฐ.อะไรอีกจิปาถะเหมือนงูกินหาง จบแล้วตกงานอีกต่างหากต้องต่อโท -จบดอกเตอร์มาวาดฝันใส่กระดาษ การเรียนจนชำนาญเหมือนหลักสูตรเก่าดีแล้วอย่าคิดอะไรใหม่ๆแต่ไม่ได้เรื่องอีกเลย
โดย: ครูที่สอนมานาน
โดย: ครูสอนนาน [25 ส.ค. 52 14:14] ( IP A:125.26.138.253 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ปีนี้หนูเรียนหลักสูตรแกนกลาง 51 (โรงเรียนนำร่องนั่นแหละค่ะ) แล้วยังจะมีหลักสูตรใหม่ 52 อีกหรอคะ โอยจะเปลี่ยนอะไรนักหนาค้า!
โดย: อนาคต [28 ก.ย. 52 8:29] ( IP A:203.113.1.130 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   คุณครูเก่าครับอย่าว่าพวกท่านคิดหลักสูตรเลยครับปัจจุบันประเทศชาติก็กำหลังเปลี่ยนแปลงสับสนการศึกษามันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปธรรมดา ท่านลองคิดซิว่าระยะหลังๆมีรัฐมนตรีกระทรวงศึกษากี่คนแล้วครับ อีกประการเวลาเขาคิดเขาก็นำเอาโรงเรียนที่มีความพร้อมเป็นฐานนำไปคิดเพิ่มปรับปรุง เขาไม่คิดถึงเด็กที่อยู่ในโคลนตรมบ้านนอกที่รับกรรม โรงเรียนมีเด็กน้อยครูก็ต้องน้อยตามไปกับเด็กเพราะนำเอาจำนวนเด็กมาเป็นเกณฑ์ แต่จำนวนชั้นเรียนมีคงเดิมครู ๑ คนต้องวิ่งสอนอย่างน้อย ๒ ห้องเรียน แถมมีงานจรที่จะต้องให้ความกระจ่างกับ สพท. สพฐ.อีกมากมายที่ต้องการ ครูก็ต้องวิ่งมาโต้ตอบงานเท่ากับโรงเรียนที่มีความพร้อม น่าหัวเราะเวลาวัดผล เอ็นที โอเน็ต ใช้ข้อสอบมาตรฐานเดียวกันหมด แต่เวลาจัดสรรบุคลากรให้กับสถานศึกษาไม่คำนึงถึงชั้นเรียน หลักสูตรการเรียนที่ให้แต่ละชั้นเหมือนกัน คุณท่านทั้งหลายจะคิดทำหลักสูตรใหม่ๆอย่างไรก็ตามเด็กก็คงได้รับเหมือนเดิม ถ้าพวกท่านไม่ปรับบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน หวังว่าจะให้เด็กได้เรียนรู้อย่างท่านคงเหลือน้อยเปอร์เซนต์ ท่านลองหันไปมองดูบุคลากรฝ่ายปกครองซิ เดิมอำเภอหนึ่งๆ มีบุคลากรภายในอำเภอเท่านั้น แต่ปัจจุบันมี อบต.แต่ละอำเภอมีหลาย อบต.แต่ละ อบต.ก็มีบุคลากรหลายคน ถ้าคิดทั้งประเทศใช้บุคลากรเพิ่มเท่าไร เขายังมีได้ถามว่าประชากรยังมีความเป็นอยู่ดีกว่าเดิมหรือไม่ .....ถ้าอยากให้ผลสำฤทธิ์การศึกษามีคุณภาพอย่าไปกลัวขาดทุนในการจัดการศึกษา เสริมบุคลากรให้แต่ละสถานศึกษาให้พอเพียงกับชั้นเรียน ให้พอเพียงกับหลักสูตรซึ่งมีรายวิชาที่ตั้งไว้ กำไรอันงดงามคือเด็กได้รับการเรียนรู้เต็มที่ (ข้อเสนอแนะ ปฎิรูปจัดสถานศึกษาใหม่ โดยจัดศูนย์การศึกษาในรูปของ BIG. C หรือศูนย์กระจายฝ่ายการขาย )
โดย: ครูพันธุ์แท้ [4 ต.ค. 52 7:07] ( IP A:125.26.38.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   การศึกษาไทยน่าสงสารมากอยากให้นักวิชาการทั้งหลายลองไปสอนจริงๆจะรู้ว่าคืออะไร
โดย: ครูบ้านนอก [29 พ.ย. 52 16:30] ( IP A:113.53.20.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   รัฐบาลบอกว่าเรียนฟรีผู้ปกครองทำไมต้องเสียค่อเทอมลูกอีก
โดย: พ่อแม่ [29 พ.ย. 52 16:33] ( IP A:113.53.20.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ตามหน้าที๋ครับทุกคน
โดย: เรดเดวิล(***@***) [23 ธ.ค. 52 11:20] ( IP A:125.26.142.110 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
    หลักสูตรใหม่ครูต้องทำอีกหรือในเมื่อมีหลักสูตรพื้นฐานเด็กทุคนน่าจะเรียนเหมือนกัน แต่ในสาระเพิ่มเติมที่ครูแต่ละโรงทำเพราะมีจุดเน้นที่ต่างกัน คุณคูจะตายแล้ว และที่สำคัญเด็กเมื่อย้ายโรงเรียนจะต่อได้งาย อย่างเมื่อก่อนที่มัวิชาบังคับ วิชาเลือก เด้กเป็นใหญ่มากท่านก็เรียนมาแล้วมิใช้หรือท่านรัฐมน......
โดย: ครูที่รู้น้อยแต่มองไกล [23 ธ.ค. 52 21:28] ( IP A:58.147.116.176 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   เปลี่ยนแล้วไม่เห็นจะดีกว่าของเดิมให้เวลาครูพัฒนาตัวเอง พัฒนาการสอน คุณกำลังทำลายป่าทางอ้อม มีแต่งานเอกสาร ขเสอนแทบจะไม่มีเวลาเตรียม ครูคุณภาพลาออกจะหมดประเทศแล้ว คุณอยู่เฉยๆๆเป็นกำลังใจแก่ข้าราชการชั้นผ้น้อยก็ดีอยู่แล้ว
โดย: ครูบ้านนอก [11 ม.ค. 53 6:06] ( IP A:61.7.138.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   หนูเต็มประเทศ
โดย: เด็กโง่เพราะผ้ใหญ่ [11 ม.ค. 53 6:08] ( IP A:61.7.138.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   เปลี่ยนแล้วไม่เห็นจะดีกว่าของเดิมให้เวลาครูพัฒนาตัวเอง พัฒนาการสอน คุณกำลังทำลายป่าทางอ้อม มีแต่งานเอกสาร เข้าสอนแทบจะไม่มีเวลาเตรียม ครูคุณภาพลาออกจะหมดประเทศแล้ว คุณอยู่เฉยๆๆเป็นกำลังใจแก่ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็ดีอยู่แล้ว
โดย: ครูบ้านนอก [11 ม.ค. 53 6:09] ( IP A:61.7.138.27 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   จะหาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานปี2552ได้ที่ไหน
โดย: paysexy2551@hotmail.com [23 ม.ค. 53 14:37] ( IP A:118.172.70.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 6 เลข คัด เขียน เรียนเฉพาะภาษาไทย และคณิตศาสตร์ก่อน แล้ววิชาอื่นจะตามมา ดิฉันเรียน ป. 1 มานี มานะ วีระ อ่านหนังสือคล่องมากค่ะ แล้วทำไมต้องให้ครูผู้สอนเขียนหลักสูตรเอง ทำไมส่วนกลางไม่ทำหลักสูตรมาให้เลย แล้วทั้งประเทศเรียนเหมือนกันหมด ทำมาให้หมดทุกอย่างเหมือนสมัยก่อน จะได้เรียนเหมือน ให้ใช้หนังสือกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น ไม่ต้องมีสำนักพิมพ์เอกสาร ไม่ต้องเปลืองเงินด้วย
โดย: ครูภูอ้อม [22 มี.ค. 53 20:14] ( IP A:118.174.64.126 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   เบื่อ นักวิชาการ ที่ไม่รูจริง เผยแพร่ ผิด ๆ ถูก ๆ ให้รู้ว่าแพร่เผยแล้ว
โดย: ผู้พอจะรู้บ้างเหมือนนักวิชาการ [1 เม.ย. 53 11:09] ( IP A:110.49.113.104 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   ผมชอบอะไรที่มันใหม่ๆ มีหลักสูตร 2555 หรือยังครับเมื่อไหร่จะประกาศใช้
โดย: sitwee\"gmail.com [16 เม.ย. 53 13:53] ( IP A:202.176.71.43 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
    5555555+ หลักสูตร 2555
โดย: 555 [5 พ.ค. 53 10:31] ( IP A:118.173.146.32 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   จะบ้าตาย รับไม่ทัน หัวโน หัวแตก
โดย: คูบ้านนอก [5 มิ.ย. 53 14:28] ( IP A:125.26.106.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   ผมไม่ใช่ครู แต่มีพ่อเป็นครู
ครูสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยพ่อผม ความภาคภูมิใจในความเป็นลูกครูแทบไม่เหลือ โชคดีที่ไม่ได้เลือกทำอาชีพครู ไม่อย่างนั้นต้องนอนทุเรศตัวเองทุกวัน
ครู...อาชีพเหลือเดน เริ่มต้นจากเด็กที่สอบเอ็นทร้านซ์ได้คะแนนน้อยสุด (โง่สุด) ทำอาชีพอื่นไม่ได้ก็ไปเป็นครู พอสอบบรรจุติด คิดแต่การปรับวิทยฐานะ
ครูที่สอนโรงเรียนตามหมู่บ้านต่างๆ ทุกวันนี้เหลือเด็กมาเรียน ราว40-50คน มีผอ. กินซี8 + อาจารย์3 กับมีครูแก่ๆหงำเหงือกอีกราว 10 คน เพื่อรับผิดชอบเด็กแค่ 60 คน นี่คือสิ่งที่ผมจะทุเรศตัวเองถ้าเป็นผอ.คนนั้น
ปัญหาเด็กหายไปไหนนี่ ส่วนหนึ่งมาจากการที่เด็กเกิดน้อยลง แต่อีกส่วนหนึ่งมาจากการย้ายที่เรียน มีลูกผอ.และลูกครูกี่โรงเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่พ่อ-แม่มันสอนอยู่ ไม่ค่อยมีหรอก ส่งไปเรียนในเมืองกันหมด ไอ้ผอ.ซี8 ซี9 ทั้งหลายก็ไม่อายที่เด็กหนี วงการศึกษามันจะพัฒนาได้อย่างไร ก็ครูส่วนใหญ่มันสมองไม่ดี(โง่นั่นแหละ) ทั้งขี้เกียจ ไม่ค่อยพัฒนาตนเอง เก่งแต่เรื่องกู้ หาที่มีมันสมองพอสอนคนได้ไม่มาก ถึง10%หรือเปล่ายังไม่รู้
จะเปลี่ยนหลักสูตร เปลี่ยนแผนกี่หมื่นแผน ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุคือ เน้นจับครูทุกคนมาอบรม มาเรียนใหม่
ผมว่าการศึกษาเมืองไทย แย่กว่าประเทศอื่นมาก ที่มีเด็กเก่งๆนั่นล้วนเป็นผลมาจากพ่อ-แม่ทุ่มทุนสร้างเองทั้งนั้น อนาจใจจริง วันหลังจะเขียนมาใหม่ครับ
โดย: skhthaithani04@gmail.com [16 มิ.ย. 53 15:54] ( IP A:118.172.221.95 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องการให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางมากเกินไปจนทำให้นักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ การสอนที่ดีที่สุดเท่าที่มีประสบการณ์มาครูควรเป็นผู้ที่คอยให้นักเรียนเรียนรู้มากควบคู่กับให้ทำมากมากไปกับการเรียนการสอนของครูและการสอบ O-NET เป็นการทดสอบคิดวิเคราะห์ที่นอกกรอบจากที่นักเรียนได้เรียนมากเกินความสามารถแล้วมาวัดว่านักเรียนแย่ไม่มีประสิทธฺภาพครูสอนไม่ดีคุณต้องกลับไปคิดเสียใหม่ว่ามันแย่ตรงไหนกันแน่
โดย: ครูบ้านนา [22 เม.ย. 54 20:05] ( IP A:182.52.13.60 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   หลักสูตรเมื่อไรจะหยุดนิ่งเสียที่ การเรียนของนักเรียนเริ่มแย่ลงทุกวันเพราะหลักสูตรแต่ละโรงเรียนวัดไม่ได้เลยว่าใครดีกว่าใครไม่เหมือนกันสักโรงเรียนแล้วเวลาวัดผล O-NET จะวัดผลกันอย่างไร หนังสือก็มีหลายสำนักไม่เหมือนก่อนใช้ของกระทรวงเหมือน หนังสือที่ไม่ใช้ของกระทรวงก็นำมาใช้สอนเสริมทำให้นักเรียนเรียนดี เรียนเก่งมากกว่าทุกวันนี้เหมือนสร้างความวุ้นวายให้กับพวกครูไปกันใหญ่ งบซื่อหนังสือก็แปลกๆแล้วอย่างนี้จะให้นักเรียนบรรลุจุดประสงค์ของหลักสูตรอย่างไรครูก็ทำเต็มที่ดีที่สุดแล้วสอนไม่มีเวลาพักแล้วงานนอกเหนือการสอนก็มาก ไม่เหมือนสมัยก่อน ศึกษานิเทศทำแต่เดียวนี้ศึกษานิเทศสบายสั่งอย่างเดียวครูตายแน่ๆ
โดย: ครูครวญ [22 เม.ย. 54 20:15] ( IP A:182.52.13.60 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   https://www.356bt.info
https://www.35637.info
https://www.35618impactdriver.info
https://www.3561835.info
https://www.35614.info
https://www.354002.info
https://www.3520b.info
https://www.351002.info
https://www.350bt.info
https://www.34614.info
https://www.345maxgrinder.info
https://www.342sander.info
https://www.341002.info
https://www.341001rt.info
https://www.3400saw.info
https://www.340020.info
https://www.338502.info
https://www.3365-planer.info
https://www.332k.info
https://www.331501rt.info
https://www.330sander.info
https://www.32325tools.info
https://www.314circularsaw.info
https://www.31120sander.info
https://www.3108k.info
https://www.3107dvssander.info
https://www.3107-6.info
https://www.31028.info
https://www.30473.info
https://www.30471.info
โดย: kjlp [7 ธ.ค. 54 18:24] ( IP A:124.120.174.158 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   กรูละเซ็ง
โดย: ครู [27 เม.ย. 55 22:54] ( IP A:49.48.127.177 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
   การศึกษาไทยหายนะ แน่ๆประเทศไทย หนูทดลองเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
หาจุดยืนไม่ได้ จะลดเวลาเรียนแบบไร้สาระ น่าจะไปลดราคาสินค้าจะดีกว่าไหม ข้าวของแพงเดือดร้อนกันทั่วประเทศ แก้ปัญหาค่าครองชีพซิครับ
ถ้าทำได้ถึงจะเรียกว่าเก่งจริง
โดย: ppp542931@yahoo.com [11 ก.พ. 56 9:01] ( IP A:110.77.152.47 X: )


คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน