คุณรุ้งชนะคดี ศาลตัดสินแล้ววันนี้
|
ความคิดเห็นที่ 1 จับมือให้มั่น แล้วฝ่าฟันไปด้วยกัน | โดย: เจ้าบ้าน [14 ต.ค. 48 21:15] ( IP A:61.91.161.239 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 อย่าลืม... อีกร้อยกว่าคดีรอเราอยู่ ...วันข้างหน้าสถานการณ์อาจเปลี่ยนไป
เพื่อนร่วมทุกข์อย่าเพิ่งดีใจ .... ทำงานหนักกันต่อไปครับ ..เพื่อความปลอดภัยของพวกเราและญาติมิตร | โดย: เจ้าบ้าน [14 ต.ค. 48 21:19] ( IP A:61.91.161.239 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณเว็ปมาสเตอร์แพนทาวน์ และไซเบอร์โปลิศที่กรุณาเปิดเว็ปให้เราอีกครั้งหนึ่ง หลังจากปิดไป 2-3 วัน  | โดย: เจ้าบ้าน [14 ต.ค. 48 21:22] ( IP A:61.91.161.239 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ศาลมีคำพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ่ายเงินให้กับครอบครัว ร.ต.อ.สังกัด สศก. เป็นเงินกว่า 1.6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ภายใน 30 วัน หลังจากที่ ร.ต.อ.เข้าผ่าตัดฝีคัณฑสูตรที่ รพ.ตำรวจ และแพ้ยาเสียชีวิต ในขณะที่ภรรยา ร.ต.อ.วอน สตช.อย่าอุทธรณ์ วันนี้ (14 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 604 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่นางวิลาวัลย์ และ ด.ญ.มนพร ทีระฆัง ภรรยาและบุตรของ ร.ต.อ.เลอพงษ์ อดีตรองสารวัตรสืบสวน กองบังคับตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) ที่เสียชีวิตจากการแพ้ยา ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) เป็นจำเลย ซึ่งกำกับดูแลโรงพยาบาลตำรวจ ในความผิดเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 14,774,800 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามฟ้องโจทก์ระบุว่า ระหว่างวันที่ 7- 12 สิงหคม 45 ผู้ตายเข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ด้วยโรคฝีที่ทวารหนัก โดยจำเลยเป็นผู้จัดหาและรับผิดชอบดูแลแพทย์พยาบาล ซึ่งวันที่ 8 สิงหาคม พ.ต.อ.นพ.ณรงค์ชัย เจียรสกุล นายแพทย์งานศัลยกรรม เป็นผู้ผ่าตัดฝี ต่อมาผู้ตายมีอาการไข้ขึ้นสูง มีผื่นแดงทั่วทั้งตัว เมื่อโจทก์ที่ 1 ขอให้เรียกแพทย์มารักษากลับไม่มีแพทย์มาตรวจดูอาการ กระทั่งวันที่ 9 สิงหาคม แพทย์เวรเข้ามาดูอาการ และวันที่ 10 -11 สิงหาคม พ.ต.อ.นพ. ณรงค์ชัย แพทย์เจ้าของไข้ จึงบอกว่าผู้ตายมีอาการแพ้ยา ซึ่งแพทย์เวรนำผู้ตายเข้ารักษาตัวฟอกไตในห้องไอซียู กระทั่งเสียชีวิตลงด้วยสาเหตุตับและไตวาย และระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งโจทก์ทั้งสองยืนยันว่าการเสียชีวิตเกิดตากความประมาทเลินเล่อในการตรวจรักษาของแพทย์เจ้าของไข้ แพทย์เวร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของจำเลย ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ จำเลย แล้วคดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำการโดยประมาทเลินเล่อหรือไม่ คดีนี้โจทก์มี ร.ต.อ.รุจิรา จงศุภวิศาลกิจ พยาบาลเวร เบิกความว่า เมื่อพบว่าผู้ตายมีไข้ขึ้นสูง พยานแจ้งให้ น.พ.วิฑูรย์ บุญถนอมวงศ์ แพทย์เวร ทราบซึ่งแพทย์สั่งฉีดยาแก้แพ้ให้ ขณะที่ น.พ.วิฑูรย์ พยานจำเลย เบิกความว่า ก่อนสั่งฉีดยา ได้สอบถามพยาบาลเวรว่าผู้ตายมีอาการแพ้ยาหรือไม่ พร้อมให้นักศึกษาแพทย์ตรวจดูอาการและให้รายงานผล จากข้อเท็จจริงดังกล่าวศาลเห็นว่า เหตุที่ ร.ต.อ.รุจิรา พยาบาลเวร รายงานอาการผู้ตายให้แพทย์เวรทราบ เพราะคิดว่าน่าจะมีอาการแพ้ยาจึงรายงานเพื่อให้แพทย์มาตรวจดูอาการด้วยตนเอง แต่ที่ น.พ.วิฑูรย์ อ้างว่า ขณะนั้นกำลังผ่าตัดคนไข้รายอื่นจึงสั่งฉีดยาแก้แพ้นั้น ศาลเห็นว่าคำเบิกความของ น.พ.วิฑูรย์ เป็นเพียงคำกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีใบบันทึกรายงานการผ่าตัดที่ระบุช่วงเวลา มาเป็นหลักฐานแสดงในชั้นพิจารณา อีกทั้งยังพบว่ายาแก้แพ้ที่แพทย์เวรสั่งฉีดนั้นเป็นยาแก้แพ้ทั่วไป ซึ่งหลังจากผู้ตายมีอาการผิดปกติแต่แพทย์เจ้าของไข้และแพทย์เวรไม่ได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอตามวิสัยของแพทย์ที่จะรักษาคนไข้ จึงเห็นว่าการกระทำของแพทย์ของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์จริง ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยต่อมา คือจำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทก์ทั้งสองเป็นจำนวนเท่าใด ศาลเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์ที่ 1 เรียกค่าเสียหายเงินบำเหน็จของผู้ตายจำนวน 7,260,670 บาท เป็นเพียงความคาดหวังของโจทก์ทั้งสองเอง ว่าหากยังมีชีวิตอยู่ผู้ตายจะได้รับราชการจนถึงเกษียณอายุ ซึ่งกรณีถือว่าเป็นความไม่แน่นอน สำหรับค่าการศึกษาที่โจทก์ที่ 2 ร้องขอจำนวน 5.8 ล้านบาท เห็นว่า ก่อนเสียชีวิตโจทก์ที่ 2 ก็ได้การเลี้ยงดูจากผู้ตายที่ให้ได้รับการศึกษาแล้ว ดังนั้นศาลจึงไม่เห็นควรกำหนดค่าเสียหายดังกล่าว พิพากษาให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทน ค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์ทั้งสอง เป็นเงินจำนวน 1,662,130 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.45 ที่ผู้ตายเสียชีวิต และให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสองจำนวน 10,000 บาทด้วย ภายหลังนางวิลาวัลย์ กล่าวพร้อมน้ำตาว่า รู้สึกดีใจที่ศาลพิพากษาให้ชนะคดี ซึ่งไม่ติดใจที่จะยื่นอุทธรณ์อีกโดยหวังว่า สตช. จะให้ความเห็นใจไม่ยื่นอุทธรณ์เช่นกัน สำหรับเงินจำนวน 1.6 ล้านเศษนั้น ส่วนหนึ่งจะนำไปเป็นทุนการศึกษาของบุตรสาววัย 8 ขวบ พร้อมทั้งจะนำไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อต่อสู้คดี อีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิดของแพทย์และโรงพยาบาลอื่นต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฟังคำพิพากษาวันนี้นางดลพร ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มผู้เสียหายอื่นเพื่อร่วมให้กำลังใจนางวิลาวัลย์ด้วย ขณะเดียวกันนางวราภรณ์ รัตนแก้ว ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาของแพทย์โรงพยาบาลจังหวัดระนอง ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนอีกด้วยกรณีที่สามีเสียชีวิตจากการรักษาอาการหอบหืด ซึ่งนางวราภรณ์เตรียมจะยื่นฟ้องคดีต่อไป
อ่านจบแล้วคงทราบนะครับว่าเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ได้รับการสนับสนุนจากใคร | โดย: ALEX [14 ต.ค. 48 21:48] ( IP A:61.91.161.239 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 . . . Join us ... Thai Iatrogenic network ... you will never be ALONE . . . | โดย: . [14 ต.ค. 48 21:56] ( IP A:61.91.161.239 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ผมอยากให้คุณรุ้งเก็บเงินไว้ให้ลูกเถอะครับ เรื่องจะช่วยเครือข่ายขอเพียงเป็นกำลังใจ ไม่ทิ้งกัน และช่วยลงแรงขยายเครือข่ายของเราดีกว่า  . . | โดย: เจ้าบ้าน [15 ต.ค. 48] ( IP A:61.91.161.123 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 เครือข่ายฯ เรายังไม่มีบัญชีเลยครับท่าน คนในสังคมโทรตามคุณดลพรทุกวันว่า เมื่อไหร่จะมีบัญชี จะบริจาคเพื่อให้นำไป ช่วยผู้เสียหายที่ยากจนเป็นค่าเดินทาง ค่าสู้คดี
เครือข่ายฯ ยังเข็ดไม่หายจากผู้เสียหาย ด้วยกันที่หลอกเอาเงินกันเอง จึงต้องให้แน่ ใจก่อนว่าใครมือสะอาด ใครของจริง ใครแอบแฝง มาเพื่อผลประโยชน์ | โดย: เครือข่ายฯ [15 ต.ค. 48 8:58] ( IP A:61.90.15.115 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 ปิด รพ. ปิด โรงเรียนแพทย์ ปิดแพทยสภาเถอะครับ รักษาอย่างไร ทำให้มีคนตายได้ทุกวัน อยู่แบบดั้งเดิมของไทยเราดีกว่า สบายใจกว่าด้วย | โดย: หมอแถวนี้ [15 ต.ค. 48 22:32] ( IP A:203.188.26.249 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 Thanks for replies 9
your group look better.  | โดย: Patient no 222048 [16 ต.ค. 48 9:18] ( IP A:210.86.181.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 เคยคุยกับแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เขาก็บอกว่าเขาเสียใจ และบอกว่าก็ผิดกันทุกคน ถามว่าจะสู้คดีไหม ก็บอกว่าอยากสู้ นะ ลองคิดดูว่าทำงานมา 6 ปี มีเงินเก็บไม่ถึงล้าน นี่ต้องจ่ายไปตั้งล้านหก คือต้องถูกไล่เบี้ยจากหน่วยงาน ไม่รู้เมื่อไรจะใช้หมด ผมสังเกตดูแล้วน่าสงสารหมอเหมือนกัน | โดย: เป็นกำลังในให้แพทย์สู้ต่อ [16 ต.ค. 48 10:05] ( IP A:203.157.14.245 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ไล่เบี้ยหรอกครับ ถ้าไล่เบี้ยมาบอกเครือข่ายจะฟ้องให้ที่ศาลปกครอง ไม่ต้องจ่ายนะหมอ อันนี้ประมาทธรรมดา ไม่ใช่ประมาทร้ายแรง | โดย: jjxyz [16 ต.ค. 48 13:00] ( IP A:61.90.97.172 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 ประมาทธรรมดากับร้ายแรงมันต่างกันยังไง แล้วเครือข่ายจะมีวิธีไม่ให้หมอโดนไล่เบี้ยเหรอ | โดย: น [16 ต.ค. 48 17:16] ( IP A:203.146.191.209 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 ผมคิดว่าคุณหมอ jjxyz น่าจะทราบดีนะครับ เพราะท่านจบนิติศาสตร์มาด้วย
. | โดย: . (เจ้าบ้าน ) [16 ต.ค. 48 18:58] ( IP A:58.9.175.247 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 14 อะไรที่หมอทำผิดพลาดกันได้ทั่วโลก ผมว่าประมาทธรรมดานะ เช่นให้ยาผิด ลืมตะไกร์ ลืมผ้าก็อส แต่อย่างดื่มเหล้าเมามาทำผ่าตัดนี่ผมว่าคงต้องไล่เบี้ย หรือเป็นหมอแผนกสูติ เดินผ่านแผนกตา ขอเข้าไปผ่าเล่น เขาตาบอดอย่างนี้ ไม่ธรรมดานะ เป็นหมอสูติทำผิดในหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ผิดธรรมดาไล่เบี้ยไม่ได้หรอก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ศาลจะเป็นผู้พิจารณา เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ศาลไม่เอาเรือ่งหมอหรอก อย่างมากก็ให้หน่วยงานใช้ค่าเสียหายตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าต้องใช้ ถ้าลูกน้องทำเสียหาย | โดย: jjxyz [17 ต.ค. 48 1:25] ( IP A:61.90.97.168 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 15 แล้วอย่าง case นี้ หมอไม่มาดูคนไข้ สั่งการรักษาทางโทรศัพท์ถือว่าผิดร้ายแรงไหม ผมว่ามันก็ไม่ธรรมดานะ ผมไม่รู้รายละเอียดไม่อยากตัดสิน แม้ผมจะชอบเครือข่าย แต่ผมก็ไม่ชอบหมอที่ไม่ไปดูคนไข้ แล้วสั่งรักษาทางโทรศัพท์ ถ้าแพทย์ไปดูคนไข้เอง แล้วผิดพลาด แต่ก็มีความตั้งใจ ก้อยากให้เครือข่ายอภัยด้วย ผมขอรับรองว่าหมอดี ๆ มีเยอะ และการวินิจฉัยผิดก็ไม่ใช่ความผิดด้วย ต่างวันต่างเวลาการรักษาไม่เหมมือนกัน การวินิจฉัยเปลี่ยนได้ พอลงข่าวที่แพทย์วินิจฉัยผิดก้โดนประณามว่าโง่ กลับไปเรียนไหม่อะไรประมาณนี้ ถ้าเปลี่ยนหน้าที่กันได้ หรือเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะเข้าใจแพทย์มากขึ้น | โดย: dude [19 ต.ค. 48 15:58] ( IP A:203.156.45.153 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 16 ผิด จะเขียนว่า แม้ผมจะไม่ชอบเครือข่าย | โดย: dude [19 ต.ค. 48 15:58] ( IP A:203.146.191.209 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณหมอ dude ขอเรียนว่าถ้าหมอดูแลคนไข้ด้วยใจแล้ว เรื่องจบด้วยดีทุกราย
. | โดย: เครือข่ายฯ (เจ้าบ้าน ) [19 ต.ค. 48 17:29] ( IP A:210.86.181.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 18 ขอยืมคำพูดคุณหมอไก่มาพูดหน่อยว่า
เมื่อเรากำลังทำความสะอาดพื้นอยู่ มันย่อมสกปรกเลอะเทอะ มอมแมมบ้าง
ฉะนั้น เครือข่ายฯ เองไม่รู้สึกอะไรหากจะมีหมอไม่ชอบเครือข่าย เป็นเรื่องธรรมดา เพราะหากจะทำให้คนไข้อื่น ๆ ในสังคมปลอดภัย มากขึ้น หมอระมัดระวังกันมากขึ้น ไม่ขอบใจเราก็ไม่เป็นไร | โดย: รู้ดีแก่ใจ [23 ต.ค. 48 22:30] ( IP A:61.90.9.39 X: ) |  |
|