ไปอยู่ไหนมา
   เห็นมา 2 คดีแล้วที่หมอเทพ นำเอาข้อความในตำรามากล่าวอ้างหักล้างคำให้การของพยานฝ่ายจำเลย ทั้งคดีบล็อคหลังเอย ทั้งคดีนี้เอย.. ซึ่งผมพูดตรงๆ ว่า ความรู้ดังกล่าวผมก็เพิ่งจะทราบเช่นกัน .. เพราะตอนเรียนมหาลัย อาจารย์ก็ไม่เคยสอนเช่นนี้ ตอนใช้ทุน staff ก็ไม่เคยสอนอย่างนี้
ซึ่งถ้าคดีนี้เราแพ้อีก ก็คงต้องสังคายนาตำราแพทย์ให้หมด แล้วนำมาเขียนใหม่ โดยเขียนตามการที่นำมาใช้ในเวชปฏิบัติในประเทศไทยจริงๆ (ไม่ใช่ลอกตำราฝรั่งมาเขียน)
ขอบคุณครับ
โดย: คุณหมอก้อนหิน [10 ก.พ. 53 21:42] ( IP A:58.11.86.65 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
    ทั้งคดีบล็อคหลังเอย
เราเคยฟ้องคดีบล็อกหลังสองคดี
คดีแรก ร่อนพิบูลย์ คดีที่สองแถวอุดร
เราฟ้องว่า ไม่ได้โหลดน้ำก่อนแทงหลัง หรือโหลดก็โหลดไม่พอ
แทงหลังก็ไม่เตรียมยาแก้ความดันตก
เวลาความดันตกแทนที่จะเอาหัวลงดันเอาหัวขึ้น (ตายสถานเดียว)
โดย: ฟฟ [10 ก.พ. 53 21:46] ( IP A:58.11.86.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ผมจะเอาหนังสือ emergency surgery ของ hamilton bailey ปี พ.ศ. 1953 มาให้อ่านนะ ก่อนผมเกิดซะอีก เขาเขียนว่า

โดย: aa [10 ก.พ. 53 22:00] ( IP A:58.11.86.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   Evidence Level III: Opinions of respected authorities, based on clinical experience, descriptive studies, or reports of expert committees.
โดย: 222 [10 ก.พ. 53 22:06] ( IP A:58.8.221.59 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ปี ค.ศ.1953 นะครับ
ตอนนี้คงจะเป็น established medical practice ไปแล้ว
guideline ของราชวิทยาลัยวิสัญญีเขาก็ว่าแบบเดียวกัน
basic physiology ก็เข้าใจได้ว่าเป็นอย่างไร
ความรู้ตั้งแต่สมัยวิลเลี่ยส์ ฮาร์วีย์
สมัยนี้ มันเรียนแต่ EBM กับ molecular medicine
มันเลิกเรียน BEDSIDE MEDICINE ทั้งๆที่ใช้ในชีวิตประจำวันหมอ
คนไข้ก็เลยตายแบบที่เขาเตือนไว้ก่อนแล้วก็ไม่อ่านกัน
อยู่โรงเรียนแพทย์ ทำงานหลายแผนกช่วยกัน อยู่บ้านนอกทำคนเดียว
ถ้าอยากลุย ต้องอ่านหนังสือเก่าๆ ที่หมอผ่าตัดทั้งผ่าตัดเอง ดมยาเอง และผ่าตัดตั้งแต่หัวยันเท้า หนังสือ emergency surgery ของ hamilton bailey เล่มเก่าๆนะดีสำหรับพวกหมอลูกทุ่ง เล่มใหม่ๆยังไม่ดีเท่าเลย
โดย: aa [10 ก.พ. 53 22:17] ( IP A:58.11.86.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   อ่านหนังสือเก่าๆสำนวนเขาสอนให้ทำงานรักษาคนไข้
หนังสือใหม่ๆมีแต่ทฤษฏี สำนวนไม่ใช่สอนให้ทำงาน
ถ้าอยากทำงานต้องอ่านหนังสือเก่าๆประกอบด้วยจะทำงานได้ดี
โดยเฉพาะตำราผ่าตัดเก่าๆ
หมอ George Crile ผ่าตัดไทรอยด์เฉลี่ยวันละ 22 ราย วันที่ผ่าตัดมากที่สุด 33 ราย ก่อนผมเกิดอีก ถ้ามันไม่แน่จริง ทำไม่ได้หรอกครับ ผมว่าหมอสมัยนี้ ยังผ่าตัดได้ไม่ดีเท่าเลย
โดย: ฟฟ [10 ก.พ. 53 22:21] ( IP A:58.11.86.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ผมเข้าข้างท่าน ฟฟ แบบเต็มๆเลยนะ

เพราะเห็นว่า การ "จะทำ" หรือ "ไม่ทำอะไร" หรือ "ทำแหกคอก" ก็ตาม ในบริการทางการแพทย์เนี่ย มีชีวิตและสวัสดิภาพระยะยาว หรืออาจตลอดชีวิตคนไข้เป็นเดิมพันขั้นปฐม และชื่อเสียงของหมอผู้รักษาเป็นเดิมพันขั้นปลาย

หมอที่เอาแต่รอลอกตำราอยู่ร่ำไป โดยไม่มีสามัญสำนึก ไม่ขวนขวายหาความรู้ หรือ เรียนรู้จากประสบการณ์ จากข้อผิดพลาดของ case ก่อนๆที่แล้วๆมา ก็รังแต่ทำให้คนไข้เสี่ยงอันตรายหรืออย่างน้อยที่สุดก็พลาดโอกาสที่จะหายจากอาการป่วย/เจ็บอย่างเบ็ดเสร็จ

กรณีตัวอย่างที่ท่าน ฟฟ เคยยกมา case ที่ออสเตรเลีย ซึ่งหมอใช้เลื่อยหรือสว่านไฟฟ้าของช่างมาเจาะกะโหลกคนไข้จนช่วยชีวิตคนไข้ได้อย่างสำเร็จ งดงาม และปลอดภัย นั่นแสดงถึง "กึ๋น" ของตัวหมอที่กล้าตัดสินใจลงมือ แทนที่จะปลงใจยอมแพ้ แล้ส "ไม่ทำอะไร" ที่นอกเหนือจากตำราหรือที่รู้

สำหรับ case ของกระทู้นี้ ท่าน ฟฟ อ้างอิงจากประสบการณ์เก่าของหมออื่นมาใช้ให้การในคดี ซึ่งข้อปฏิบัติโดยพื้นฐานของการทำงานในคลีนิคที่ใช้สามัญสำนึกของคนธรรมดาที่มีความรู้ระดับปรกติ "สามารถ" เข้าใจได้

นี่คือ ความเห็นของผมครับ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [11 ก.พ. 53 7:29] ( IP A:58.8.109.12 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   อีกอย่างที่ผมนึกได้ จากประสบการณ์ที่เป็นผู้เสียหายทางการแพทย์เองและจากการับรู้เรื่องราวของเพื่อนร่วมชะตากรรมรายอื่นๆเป็นร้อยๆเรื่อง

ทำให้ผมสรุปได้อีกอย่างว่า วงการแพทย์ไทยระยะ 10 - 20 ปีหลังมานี้ หมออ่อนหัดลงเยอะ รู้มาแต่ตำราที่อาจารย์สอน แต่บรรดาอาจารย์ "ไม่ได้สอนและไม่บอกเรื่องผิดพลาด" ที่เคยทำๆมาหรือเคยเจอมาถ่ายทอดให้หมอรุ่นหลังๆได้รู้

เราจึงเห็นเรื่องผิดพลาดทางการแพทย์ "โผล่ออกมาซ้ำๆเดิมๆ" อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด โดยเฉพาะในเครือข่ายฯ นี้

ที่สำคัญก็คือ หน่วยงานที่ควรและมีหน้าที่ต้องบริหารจัดการเรื่องแบบนี้ คือแพทยสภา ทำตัวเป็นโจร หมกเม็ดและปิดบังรวมทั้งบิดเบือนข้อมูลเหล่านี้ออกเสียจากการรับรู้ทางภาคปฏิบัติของวงการแพทย์และของสาธารณชนอย่างจงใจ

เราถึงได้เห็นเรื่องซ้ำเดียวกับคดีของท่านประธานเครือข่ายฯกับโรงพยาบาลพญาไท๑ ที่เป็นความผิดพลาดของหมอเต็มๆ โผล่ให้เห็นซ้ำอยู่ 3 - 4 คดีในเครือข่ายนี้ ซึ่งแต่ละคดีก็ทอดเวลาห่างกันเป็นปี

หรืออย่างคดีบล๊อกหลัง/วางยาสลบที่ร่อนพิบูลย์ซึ่งท่าน ฟฟ เคยพูดเคยเอ่ยไว้ ก็เป็นเหตุเกิดซ้ำที่แพทยสภาถึงขนาดกล้าระดมหมอจากราชวิทยาลัยไปให้การโกหกศาล แล้วยังยุให้หมอจำเลยกลับคำให้การโกหกในชั้นศาลจนต้องคำพิพากษาจำคุกในที่สุด

อีกกรณีที่เห็นชัดก็คือ กรณีผ่าตัดต้อกระจกที่ ร.พ. ในขอนแก่นจนคนไข้ติดเชื้อตาบอดสนิทไป 9 รายจาก 22 ราย ทั้งๆที่เคยมีรายงาน case แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่ ร.พ.ในเชียงใหม่ก่อนหน้านั้นหลายปี

ทั้งหมดนี้ ผมขอชี้ให้เห็นว่า แพทยสภา (ซึ่งมีกรรมการหลายคนมากเป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์อยู่ในเครือเมดิคอลฮับ) ไม่ทำหน้าที่ที่สมควรทำและต้องทำ แต่กรรมการแต่ละคนมีเงิน (ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน) มีเวลาไปทุ่มให้กับโรงพยาบาลและผลประโยชน์ส่วนตัวที่มาจากวงการแพทย์ ขณะที่ก็ ฉ้อฉลต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นตุลาการทางวิชาชีพเฉพาะเช่นนี้ จนมีคดี "ไม่มีมูล" โผล่ออกมาที่เครือข่ายนี้ เป็นแรมสิบปีเท่าที่ "แดง" ออกมา (แล้วที่เราไม่รู้และยังไม่แดงออกมา ที่น่าจะเป็นบทเรียนไปสอนให้หมอรุ่นหลังๆได้น่ะ อีกเท่าไหร่????)
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [11 ก.พ. 53 7:50] ( IP A:58.8.109.12 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   กรณีผ่าตัดต้อกระจกแล้วเกิดการติดเชื้อทีเดียวเยอะๆ จากแหล่งเดียวกัน ยังไงก็ต้องเกิดขึ้นอีกครับ ทุกที่ในโลกด้วย
โดย: ชัวร์ [11 ก.พ. 53 10:09] ( IP A:58.8.221.59 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เอ่อ...เคสรพ.ขอนแก่นตาบอด 11 ราย
(ข้อมูลคลาดเคลื่อนนิดหน่อย)
แต่ผอ.รพ.รับผิดชอบดีมาก ขอชื่นชม
โดย: 11 ราย [11 ก.พ. 53 13:54] ( IP A:58.9.189.112 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   การติดเชื้อจากการผ่าตัดเนี่ย เป็นเรื่องปรกติ ไม่มีใครเถียงได้

แต่เมื่อรู้สาเหตุ รู้ที่มาที่ไปแล้ว เราในฐานะ "มนุษย์" และทั้งในฐานะทาง "วิชาชีพ" ก็ควรและ "ต้องรู้จักพัฒนา" องค์ความรู้นี้ไปแก้ไปป้องกันไม่เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ ซ้ำๆๆๆๆ ขึ้นมาอีก

ไม่ใช่มากล่าวอ้าง (ในเชิงแก้ต่างหรือแก้ตัวก็แล้วแต่) ให้เข้าใจว่า

เป็นเรื่องที่ป้องกันไม่ได้ หรือ หลีกเลี่ยงไม่ได้

และตรงนี้ไง ที่ทำให้ผมและอีกหลายๆคนที่ไม่ใช่หมอ มีภาพให้รับรู้ว่า
คนที่แสดงตัวเป็นหมอหรือพวกหมอแถวๆนี้ส่วนใหญ่ ชอบบิดเบือนหรือเบี่ยงเบนประเด็นในการรับรู้หรือสามัญสำนึกของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่หมอ

ขอย้ำอีกครั้งว่า ความผิดพลาดน่ะ เป็นเรื่องปรกติคนมนุษย์ แต่การปิดบังความผิดพลาดนั้น "ให้อภัยไม่ได้" และที่สำคัญ "การล้มเหลวที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น ก็เป็นเรื่องที่ยกโทษให้ไม่ได้"

แพทยสภา ทั้งคณะ ในกว่าสิบปีจวบมาจนถึงปัจจุบัน และ โรงพยาบาลพญาไท ๑ ที่เป็นคดีความกับประธานเครือข่ายฯนี้ เป็น ตัวอย่างตรงๆ ของวาทะท่านเซอร์เลียม โดนัลสัน ซึ่งผมอ้างไว้ข้างบนนี้

ผมขอผสมโรงต่อเนื่องไว้ว่า

ความผิดพลาดนั้น ไม่เคยทำให้ใครล้มเหลว

แต่คนที่ไม่รับรู้ และ ไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดต่างหาก

คือพวกที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในความเป็นมนุษย์
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [12 ก.พ. 53 7:58] ( IP A:58.8.107.43 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   คุณหมอก้อนหินยังอยู่เหรอ ?
คิดถึงเป็นบ้าเลย
แล้วแพทย์ผู้อยากระบายหายไปไหนเอ่ย
คิดถึงมากกว่า หลายบ้าเลย
โดย: จีเอ็น [12 ก.พ. 53 10:53] ( IP A:113.53.216.251 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   A:58.11.86.65
ไม่ว่าชื่ออะไร คนเดียวกันหรือเปล่าครับ
โดย: Man [12 ก.พ. 53 12:18] ( IP A:58.9.247.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   มาร...เป็นคนเดียวกัน
มาร...อยู่กันเป็นฝูง ๆ
โดย: โฮ่งงงงงงงงงๆ ๆ ๆ ๆ [12 ก.พ. 53 15:55] ( IP A:115.87.152.99 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน