ให้ข่าวไม่สร้างสรรค์
   **วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553
คนอ่าน 441 คน ส่งต่อ พิมพ์ ขนาดตัวอักษร Reset

คมชัดลึก > อาชญากรรม > ข่าวทั่วไป
ตั้งท้อง2เดือนไปคลินิกกินยาผิวหนังพุพองทั้งตัว
Share Share คมชัดลึก :สาวตั้งครรภ์ 2 เดือน เป็นไข้ไปคลินิกหมอให้ยาไปกินที่บ้าน รุ่งเช้าอาการทรุดหนัก แถมเป็นผิวหนังลอก พุพองทั้งตัว น้ำเหลืองไหล ญาติรีบส่งโรงพยาบาลปทุมฯ นอนห้องไอซียู โชคดีปลอดภัยทั้งแม่ลูก หมอชี้มาช้าอาจถึงตาย เตือนคนไข้อย่าซื้อยากินเอง

โฆษณาโดย Google
เพิ่มยอดขาย ขยายลูกค้า
โปรโมทเว็บแบบ ยั่งยืน ไม่แพง เห็นผล รับคูปองทดลองฟรี 1,500 กับ AdWords
https://www.Google.co.th
ดูดวงเลขท้ายบัตรประชาชน
ดูดวงง่ายด้วยเลขท้ายบัตรประชาชน บอกคุณได้ทั้งการงาน การเงิน ความรัก
https://www.horoclubs.com/horoidcard
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปเยี่ยม น.ส.เสาวคนธ์ วงศ์สุวรรณ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/28 หมู่ 4 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีอาการผิวหนังพุพองหลังจากกินยาแก้ไขที่ได้รับจากคลินิกแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นางวาสนา หมวดสันเฑียะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/6 หมู่บ้านเอื้ออาทร(บางคูวัด) ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี แม่เลี้ยงของ น.ส.เสาวคนธ์ เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณาว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ น.ส.เสาวคนธ์เป็นไข้สูงและไปรักษาตัวที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านเมืองปทุมธานี โดยแพทย์จ่ายยาให้ไปกินที่บ้าน แต่หลังจากกินยาไปแล้ว ตอนเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ อาการกลับทรุดลง แถมยังมีผดผื่นขึ้นเต็มตัว ผิวหนังพุพอง มีน้ำเหลืองไหลตามลำตัว ญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลปทุมธานี แพทย์นำเข้ารักษาในห้องไอซียู โดยบอกว่าอาจจะเกิดจากการแพ้ยา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปวีณาได้ประสานกับ นพ.ทรงพล ชวาลตันพิพัทธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี เพื่อขอทราบอาการป่วย และขอให้เร่งรักษา น.ส.เสาวคนธ์ ให้หายเป็นปกติโดยเร็ว เพราะ น.ส.เสาวคนธ์ กำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน เกรงว่าจะได้รับผลกระทบถึงเด็กที่อยู่ในท้อง ซึ่งแพทย์แจ้งต่อนางปวีณาว่า ขณะนี้ผิวหนังของ น.ส.เสาวคนธ์ อยู่ในระยะลอกตัว ผิวหนังที่ผุพองเริ่มแห้ง แต่ยังมีอาการเยื่อบุในช่องปากและตาอักเสบ ต้องใช้น้ำเกลือล้างทำความสะอาด และใช้ใบตองรองเพื่อไม่ให้น้ำเหลืองติดผ้า นอกจากนี้ยังให้อาหารเสริมที่ทำจากไข่ขาวเพื่อบำรุง โดยยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปทุมธานี อีกประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนบุตรในครรภ์จะอัลตราซาวนด์อย่างละเอียด

พญ.นิรมล สกุลพานิชย์ แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการแพ้ยาอย่างหนัก ประมาณ 80-90% แต่ตอนนี้อาการเริ่มเป็นไปในทางที่ดีแล้ว เพราะมาถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา

"ตอนนี้ผิวหนังลอกจนจะหมดทั้งตัวอยู่แล้ว และต่อไปเซลล์ผิวก็จะสร้างผิวหนังใหม่ขึ้นมาแทน ส่วนเด็กในครรภ์นั้นไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด แต่ทีมแพทย์ก็ยังไม่ไว้วางใจพยายามให้กินยาบำรุงอยู่ตลอด สิ่งที่ทีมแพทย์หนักใจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเยื่อบุในช่องปากและตาอักเสบ เพราะถึงวันนี้อาการยังไม่ดีขึ้นเท่าใด" พญ.นิรมล กล่าว

ด้าน นพ.ทรงพล กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลให้ผู้ป่วยเข้าอยู่ห้องไอซียู เพราะแพทย์และพยาบาลจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้น มีสิทธิ์การรักษาฟรีอยู่แล้ว และโรงพยาบาลได้จัดการรักษาอย่างดีที่สุดเป็นพิเศษอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนผู้ที่ป่วยแล้วหาซื้อยากินเองให้ระวัง เพราะบางคนไม่ทราบว่าตัวเองแพ้ยาอะไรบ้าง ถ้าแพ้ยามากๆ อาจส่งผลถึงชีวิตได้ เหมือนกับผู้ป่วยรายนี้ ถ้ามาถึงมือแพทย์ไม่ทันก็อาจจะเสียชีวิตได้

นางปวีณา กล่าวว่า ถ้ามีอาการเจ็บป่วยแต่ไม่มากก็อาจซื้อยาสามัญประจำบ้านมากินได้ แต่หากเป็นมากควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัย

"ขอขอบคุณผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี และพยาบาลทุกคน ที่ช่วยกันดูแลรักษา น.ส.เสาวคนธ์ เป็นอย่างดี และขอให้ น.ส.เสาวคนธ์หายเร็วๆ จะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้" นางปวีณา กล่าว
โดย: ก็จะตายแบบเดิมๆ [18 ก.พ. 53 7:56] ( IP A:58.8.213.181 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ผมว่าเรื่องแพ้ยานี่ หาหมอหรือซื้อยากินเองก็พอๆกัน
เรามีคดีฟ้องหมอเพราะแพ้ยามากหลายคดีทีเดียว
ส่วนใหญ่ ทั้งซื้อยากินเองหรือฟ้องหมอ ก็แพ้ครั้งแรก ไม่มีใครรู้ว่าแพ้แล้วกินอีก
แต่ที่พลาดจนถูกฟ้อง ก็คือคนไข้บอกว่สงสัยแพ้ยา แต่หมอบอกสงสัยยุงกัด และก็ไม่รีบหยุดยา ไม่รีบรักษา ไม่นัดมาดูทุกวัน อีก 3 วัน คนไข้เละทั้งตัว จะตายรอมมะล่อ (สงสัยสะกดไม่ถูก)
การให้ข่าวที่ถูกต้อง
ต้องระมัดระวัง เพราะใช้กันเยอะ ก็จะแพ้เยอะ
ต้องรู้ว่าแพ้ยาอันตรายถึงตายได้
ถ้ามีผื่น ให้สงสัยว่าแพ้ยาเสมอ รีบหยุดยา(อันนี้สำคัญมากๆ)
แล้วรีบพบแพทย์ แพทย์ต้องรีบรักษาและนัดมาดูต่อเนื่องทุกวัน
แพทย์ทุกคนต้องรู้เรื่องการแพ้ยาอย่างดีเยี่ยม และรู้วิธีจัดการ
อย่าคิดว่าแพ้ยาเป็นเรื่องเล็ก
โดย: บ้านเมืองไม่พัฒนาเพราะสื่อเลว รับเงินและโง่ [18 ก.พ. 53 8:02] ( IP A:58.8.213.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   SJS: WHAT IS IT?
Stevens Johnson Syndrome (SJS), and TENS (Toxic Epidermal Necrolysis Syndrome) another form of SJS are severe adverse reactions to medication. Adverse drug reactions (ADR s) account for approximately 150,000 deaths per year in the U.S. alone, making drug reactions the fourth leading cause of death in the United States. SJS is one of the most debilitating ADR s recognized. It was first discovered in 1922 by pediatricians A.M. Stevens and S.C. Johnson after diagnosing a child with severe ocular and oral involvement to a drug reaction.


WHAT CAN CAUSE SJS?
Almost any medication including over-the-counter drugs, such as Ibuprofen, can cause SJS.
Most commonly implicated drugs are anti-convulsants, antibiotics (such as sulfa, penicillin and cephalosporin) and anti-inflammatory medications.


WHO CAN GET SJS OR TENS?
Although SJS afflicts people of all ages, a large amount of its victims are children. More female cases have been reported than male, however it does not discriminate against anyone. The SJS Foundation hears from people around the world who suffer from SJS and TENS.


SJS: KNOW THE SIGNS!
Recognition of the early symptoms of SJS and prompt medical attention are the most invaluable tools in minimizing the possible long-term effects SJS may have on its victims.


SYMPTOMS
• Rash, blisters, or red splotches on skin
• Persistent fever
• Blisters in mouth, eyes, ears, nose, genital area
• Swelling of eyelids, red eyes
• Conjunctivitis
• Flu-like symptoms
• Recent history of having taken a prescription or over-the-counter medication Target lesions are not always seen in SJS!

IF YOU NOTICE TWO OR MORE OF THESE SYMPTOMS, CONTACT A PHYSICIAN IMMEDIATELY!

RISKS:
SJS and TENS are life-threatening reactions. If left untreated, they can result in death.
Complications can include permanent blindness, dry-eye syndrome, photophobia, lung damage, chronic obstructive pulmonary disease (COPD), asthma, permanent loss of nail beds, scarring of the esophagus and other mucous membranes, arthritis, and chronic fatigue syndrome. Many patient s pores scar shut, causing them to retain heat. These are just some of the side-effects that have been reported.


TREATMENT:
First and foremost, affected persons must stop taking the offending drug immediately to prevent complications.
Treatment for SJS is good supportive care. Because patients literally burn from the inside out, burn, infectious disease, ophthalmology and dermatology teams are recommended. IV fluids and high calorie formulas are given to promote healing. Antibiotics are given when necessary to prevent secondary infections such as sepsis. Pain medications such as morphine are administered to make the patient as comfortable as possible. Most SJS patients can be managed in medical ICU or pediatric ICU. Patients with TENS should be treated in a burn unit.


DRUG REACTIONS:
A SERIOUS ISSUE Drug reactions are one of the leading causes of death in the United States. Yet, less than one percent are reported to the FDA, because there is no mandatory reporting system in effect for postmarketing adverse drug reactions.
Similarly, no one has an accurate count of the cases of SJS and TENS. Although SJS is listed as a rare disease, it may be more prevalent than previously thought.


WHO WE ARE:
The SJS Foundation was founded to be a resource to SJS victims and their families. Our mission is to provide support services, and compile and distribute valuable information about SJS to the public and medical professionals regarding treatments and therapies that may prove beneficial to SJS sufferers. We work to promote awareness about the signs of SJS so that a quick diagnosis can be made and the offending agent stopped as soon as possible. STEVENS
https://www.sjsupport.org/forphysicians.shtml








The Stevens Johnson Syndrome Foundation is a non-profit organization.
Contact SJS Foundation at:
Stevens Johnson Syndrome Foundation
PO BOX 350333, Westminster, CO 80035-0333
E-mail: sjsupport@aol.com / phone: 303-635-1241
https://www.sjsupport.org
โดย: oujg]p [18 ก.พ. 53 8:28] ( IP A:58.8.213.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
    แต่หากเป็นมากควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัย
คงต้องคิดใหม่ทำใหม่
ดูป้ายนี้

โดย: ฟฟ [18 ก.พ. 53 8:37] ( IP A:58.8.213.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ตายมากกว่าบนถนน

โดย: ยังไม่รีบแก้ไข เลวจริงๆ [18 ก.พ. 53 8:38] ( IP A:58.8.213.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
    ฝากเตือนผู้ที่ป่วยแล้วหาซื้อยากินเองให้ระวัง เพราะบางคนไม่ทราบว่าตัวเองแพ้ยาอะไรบ้าง ถ้าแพ้ยามากๆ อาจส่งผลถึงชีวิตได้ เหมือนกับผู้ป่วยรายนี้ ถ้ามาถึงมือแพทย์ไม่ทันก็อาจจะเสียชีวิตได้
กรณีนี้เขาไปหาหมอนะ ปล่อยจนเละได้อย่างไร ต้องสืบเสาะ วิเคราะห์ แก้ไข
โดย: ผมว่าแบบนี้ก็ตายอีกฟ้องอีก [18 ก.พ. 53 8:58] ( IP A:58.8.213.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ปรมจารย์นิติเวช เคยกล่าวว่า โรงพยาบาลอันตรายที่สุด ถ้าไม่จำเป็นให้อยู่บ้าน
โดย: ไม่เชื่อก็ตามใจ [18 ก.พ. 53 9:00] ( IP A:58.8.213.181 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   วัด ครับ ปลอดภัย ที่สุด ไม่มีแพ้ยา ไม่มีหมอมั่วๆ ชั่วๆ มารักษาหรอก

เชื่อดิ

มีอะไรไปวัดครับ เจ็บป่วยก็ไปวัด หรือ เป็นมากไปหา ป้าเช็ง ครับ

อย่าไปเลยครับ โรงพยาบาลน่ะ มันเป็นโรงฆ่าสัตว์ ไปแล้วตาย

แต่เกิดเป็นคนไทย ไม่มีการตาย ไม่มีพิการ ถ้าเป็น กรู ฟ้อง

เกิดเป็นคนไทย โชคดี โรงพยาบาลจะเก็บตัง กรูไม่มี กรูไม่จ่าย

ไปวัด ดีกว่า

ตายแล้วเผาได้เลย
โดย: โชคดีที่เกิดเป็นคนไทย ไม่เสียใจเลย [18 ก.พ. 53 16:04] ( IP A:58.89.189.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   วงการนักข่าว....ก็มีทั้งดีและไม่ดีต้องทำใจ

อย่าไปหวังพึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้มากนัก พึ่งตนเองดีที่สุด วงการนักข่าวมีรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนคนทั่วไป
โดย: เลือกให้ข่าวคนดี ๆ ก็แล้วกัน [18 ก.พ. 53 21:07] ( IP A:61.90.110.80 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เห็นด้วยกับ #4#5#7 ครับ มหาบำบัดดีสุดครับ น่าจะช่วยๆบอกต่อกันครับว่า อย่ามา รพ
โดย: ป้าเช็ง [21 ก.พ. 53 16:29] ( IP A:118.174.112.7 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   
ตอนนี้ใครทราบ หรือติดต่อ ผญที่แพ้ยาในข่าวได้บ้างคะ คือตอนนี้ต้องการทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน ยังมีชีวิตอยู่หรือเป่า เพราะหลังจากที่เขาแพ้ยาสองปีก็ไม่เจอเขาอีกเลยจะ 6 ปีแล้ว เขาไม่ติดต่อมาหาไครเลย ถ้ารู้ช่วยติดต่อมาที่ aorzeeiii@yahoo.co.th ด้วยนะคะ ขิบคุณค่า

โดย: Aorzeeiii@yahoo.co.th [2 พ.ย. 59 7:02] ( IP 223.24.112.66 X: )
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ : .wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน