ฟ้องหมอและโรงพยาบาลนี่มันเหนื่อยจริงๆ
   ตามที่ผมได้ดำเนินการฟ้องร้องหมอและโรงพยาบาลเอกชนในคดีแม่ของผมเป็นเจ้าหญิงนิทราหลังผ่าตัดสะโพกและเสียชีวิตไปโดยฟ้องคดีผู้บริโภคต่อเจ้าพนักงานคดี ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดปัญหาในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ศาลในประเด็นสำคัญ ไม่รู้ว่าเกิดจากการบกพร่องของเจ้าหน้าที่เองหรือมีอิทธิพลภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว
เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานเอกสารเวชระเบียนและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการรักษาแม่ของผมโดยเจ้าพนักงานคดีเป็นผู้ดำเนินการทำคำร้องให้และให้ผมไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคำร้องนี้ด้วยตนเอง ซึ่งศาลท่านก็สั่งและออกหมายเรียกตามคำขอในวันนั้นโดยให้ทางโรงพยาบาลนำเวชระเบียนและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการรักษาทั้งหมดส่งศาลภายในเวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งผมก็นอนใจว่าเมื่อถึงวันนั้นคงได้เห็นเอกสารทั้งหมด แต่กลับไม่เป็นดังนั้นเมื่อถึงกำหนดกลับไม่พบเอกสารในสำนวนและที่สำคัญไม่มีรายงานการส่งหมาย พอถามไปที่เจ้าหน้าที่ศาล ก็ตามเรื่องให้อยู่พักนึงก็ได้ความว่าหมายมีชุดเดียวจึงต้องนำเข้าสำนวนจึงไม่มีชุดที่จะนำส่งให้จำเลย ผมฟังดูแล้วเรื่มมีอารมณ์แต่ก็ต้องคุมไว้ ผมไม่คิดว่าปัญหาแบบนี้จะเกิดขึ้นได้กับระบบงานของเจ้าหน้าที่ศาลที่ทำเป็นประจำทุกวัน พอนั่งทำใจระงับอารมณ์โกรธได้หน่อยแล้ว จึงขอให้ทางเจ้าพนักงานคดีทำคำร้องขอให้ออกหมายเรียกใหม่และผมก็เดินนำไปส่งอีกครั้ง ตอนนี้ผมไม่ไว้ใจแล้ว เมื่อรู้ว่าศาลท่านสั่งให้ออกหมายอีกครั้ง ก็รอวันเวลาที่จะดูรายงานหมายในสำนวนหลังออกหมาย 2 สัปดาห์ พอได้เวลา 2 สัปดาห์ผมไปดูสำนวนก็เห็นว่ายังไม่มีการส่งหมายไปยังให้จำเลยแต่อย่างใดจึงถามเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ปลดหมายในสำนวนไปส่งหมาย นี่ถ้าผมไม่ติดตามเรื่องนี้ หมายเรียกฉบับที่ 2 ก็คงไม่ไปถึงจำเลยแน่ๆ เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ศาลเลย ไม่รู้ว่าบกพร่องโดยไม่รู้ หรือมีอะไรเข้ามามีอิทธิพลในการทำงานหรือเปล่าก็ไม่รู้.............เฮ้อ..นี่หรือประเทศไทย
โดย: คนเสียแม่ [18 ก.พ. 53 10:40] ( IP A:202.29.9.9 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เดิมคิดจะร้องเรียน แต่คิดอีกทีก็ขออโหสิกรรมให้จะดีกว่า เพราะเข้าใจถึงระบบสังคมไทยดี ผมว่าปัจจุบันยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานอย่างโปร่งใส ประชาชนคงต้องก้มหน้ารับสภาพไปอีกสักระยะหนึ่ง หมายใจว่าคงไม่เกินร้อยปีคงจะดีขึ้นครับ cry
โดย: คนเสียแม่ [18 ก.พ. 53 10:53] ( IP A:202.29.9.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   เห็นใจเจ้าของกระทู้
นี่คือสภาพความเป็นจริงของการเรียกร้องสิทธิของคนไข้ไทย
เรามีสิทธิ...แต่จะเรียกร้องได้ตามสิทธิหรือไม่..ก็อีกเรื่อง

เครือข่ายฯ เราต้องพยายามรวมตัวกัน เวลาไปนำเสนอปัญหา
ต้องเสียสละมาช่วยกันมาก ๆ พวกเราไม่ใช่ม็อบรับจ้าง ดังนั้นจึง
ต้องการผู้เสียหายตัวจริงมาช่วยกัน ... แล้ววันหนึ่งสังคมมันจะดี
ขึ้นเอง

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว
สิทธิของผู้ป่วยก็คงไม่ได้มาโดยง่ายฉันนั้น
โดย: ขอให้กำลังใจผู้ป่วยหัวก้าวหน้าทุกท่าน [18 ก.พ. 53 15:18] ( IP A:115.87.152.49 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ขอเอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

ผมอยากฟันธงว่า ในบรรดาเจ้าหน้าศาลที่เกี่ยวข้องคดีท่าน จขกท นี้
มีเส้นสายของทางกลุ่มหมออยู่ค่อนข้างแน่

หากจะให้แน่ใจ ก็ลองสอบถามย้อนหลังเทียบคดีผู้บริโภคคดีอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับการฟ้องหมอดู ว่าเจอคล้ายกันนี้ไหม?? งานด้านเอกสารของศาลที่สำคัญอย่างนี้ ไม่น่า "พลาดได้สะเพร่าได้ขนาดนี้" จนดูเหมือนจงใจมากกว่าที่จะใสซื่อบริสุทธิ์อย่างที่ชอบอ้างว่า บกพร่องโดยสุดจริต

แล้วก็น่าทำใจได้ว่า งานนี้เตะถ่วงกันเพื่อจุดประสงค์แอบแฝงบางอย่าง อาจจะทำการแก้ไขเอกสารหรือเวชระเบียนบางส่วนหรือทั้งหมด

ก็ขอให้ท่านทำใจ เพราะผมเองก็ "ตีรันฟันแทง" กับเส้นสายแพทยสภา/ร.พ. เอกชนในที่ทำงานผมเองมาแรมปรเหมือนๆกัน เฮ้อ พวกบัดซบนี่ มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงจริงๆ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [18 ก.พ. 53 15:52] ( IP A:58.8.104.73 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   กำหนดในหมายเรียกคือวันที่ 26 กุมภานี้ครับ ถ้าไม่มีอะไรพลาดอีกก็คงได้เห็นเวชระเบียนทั้งหมดสักที.....cry
โดย: คนเสียแม่ [18 ก.พ. 53 17:17] ( IP A:202.29.9.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   การฟ้องร้อง ทุกเรื่องทุกคดี ไม่มีหมูสักคดี ใช่ว่าแต่เรื่องทางการแพทย์ มันยากทุกคดีนั่นแหละ

เพราะบ้านเมืองเราระบบเส้นสาย ระบบพวกใครก็พวกใครบางครั้งก็ยังใช้ได้มากอยู่ ทุกวงการมีทั้งคนดีและคนไม่ดี

เพียงแต่เรื่องคดีการแพทย์นั้น เราสู้กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องวิชาการ และสายป่านที่ยาวกว่า อำนาจเงินที่มีปัญญาจ้างทนายความบางคนเป็นถึงอดีตผู้พิพากษา

หากเป็นคดีที่ฟ้องกระทรวงฯ เราก็จะเจออัยการเป็นทนายความให้กระทรวงฯ ซึ่งทนายความบางคนก็มีเส้นสายอุปถัมภ์ก็มาก แถมบางคนยังทำตัวเป็นทาสรับใช้แพทยสภา รวมไปถึงคนของสภาทนายความบางคนที่สนิทสนมกับกรรมการแพทยสภา ทำตัวเป็นลูกน้องกินเหล้า ไปนวดกัน แล้วเราจะไปหวังหาความเป็นธรรมจากอะไร จากใคร คงต้องรอให้พวกมันตายไปทีละคนสองคนเสียก่อน

รุ่นลูกหลานเราคงได้เห็นความเป็นธรรมกันบ้าง
โดย: รอไปก่อนเถอะ [18 ก.พ. 53 21:02] ( IP A:61.90.110.80 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   รอติดตามครับ กำลังจะลุยเหมือนกัน
โดย: 999 [19 ก.พ. 53 15:07] ( IP A:118.174.94.53 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   เอาให้ปิดโรงพยาบาลไปเลยครับ

หรือเอาให้ ตายตกไปตามกัน เลยครับ

เอาแบบว่า คุณแม่ จขกท เสียชีวิต ก็ ต้องเอาชีวิต หมอมาแลกครับ

บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระครับ สิบปีไม่สาย
โดย: 555 [19 ก.พ. 53 20:17] ( IP A:58.89.189.115 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ความคิดเห็นที่ 7

มันคนละประเด็นกันกับที่คุณอยากประชด
เขาพูดถึงเรื่องความยากในการเข้าถึงความเป็นธรรมของคนไทย
ถ้าเป็นญาติพี่น้องคุณโดนแบบนี้จะทำอย่างไร สมมุติว่าคุณไม่ใช่
หมอสิ

เขายังไม่ได้พูดเรื่องใครผิด-หรือไม่ผิด
พูดเรื่องความยากในการใช้สิทธิ
โดย: คนละเรื่องเดียวกันเลย [19 ก.พ. 53 22:40] ( IP A:58.9.218.148 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ต้องเรียนคุณ 555 นะครับ เหตุที่ผมต้องฟ้องหมอและโรงพยาบาลเอกชนนี้ก็เพราะว่าผมเชื่อว่าทางคุณหมอและโรงพยาบาลปฏิบัติกับคุณแม่ของผมไม่ได้มาตรฐานและเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ผมเห็นกับตาประกอบกับหลักฐานเวชระเบียนที่ผมมี 2 ชุด(ได้มาคนละเวลา) เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าความเชื่อของผมถูกต้อง แต่ทางคุณหมอและทางโรงพยาบาลก็เชื่อว่าตนเองทำตามมาตรฐานการแพทย์แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องให้ศาลท่านวินิจฉัยครับ ถ้าผลออกมาว่าทางคุณหมอและโรงพยาบาลไม่ผิดผมก็ยอมรับครับ จนปัจจุบันนี้ผมยังไม่ได้ร้องแพทยสภาเลยและยังไม่ได้แจ้งความเอาผิดอาญาคุณหมอด้วย เพราะผมยังให้เกียรติวิชาชีพนี้อยู่จริงๆ..........แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้เสียหายให้เกียรติหมอ ไม่ได้จิกแบบถึงลูกถึงคน ท่าทีของหมอก็ออกมาแบบเย็นๆเฉื่อยๆ ไม่สนใจ ซึ่งความอดทนของคนเราก็มีขีดจำกัดครับ ผมขออำนาจศาลเรียกเวชระเบียนทั้งหมด ก็เพราะผมไม่ได้รับการตอบสนองจากโรงพยาบาล จริงๆถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่น่าอิดออดเรื่องเวชระเบียน..........cry
โดย: คนเสียแม่ [20 ก.พ. 53 14:31] ( IP A:202.29.9.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   พอมาเจอเรื่องทางธุรการของศาลที่ไม่น่าจะเกิด ก็ทำให้อดคิดไปไม่ได้ว่ามีการใช้อิทธิพลเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ศาล เพราะการต้องให้ออกหมายสั่งอีกครั้งก็ต้องเสียเวลาไปอีกเดือนเศษ ซึ่งผมว่าเป็นเวลามากพอที่ใครบางคนจะทำอะไรกับเอกสารสำคัญได้ ผมจึงตั้งกระทู้เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจให้ชาวเครือข่ายได้รับรู้บ้างก็เท่านั้นครับcry
โดย: คนเสียแม่ [20 ก.พ. 53 14:40] ( IP A:202.29.9.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ทุกคนในบ้านนี้เจอมาแล้วแบบคุณ จขกท.ครับ มีไรเล่ามาช่วยกัน
โดย: อย่าถอย [20 ก.พ. 53 22:55] ( IP A:124.121.138.142 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   เครือข่ายฯ ก่อตั้งมาได้เกือบ 8 ปีแล้ว
นำเสนอปัญหานี้มาทุกปี ทุกวิธีที่จะบอกให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้

นายกรัฐมนตรีก็รู้ปัญหานี้
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขก็รู้ปัญหานี้
สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็รู้ปัญหานี้
แพทยสภาก็รู้ปัญหานี้
กองการประกอบโรคศิลปะก็รู้เรื่องนี้

แพทยสภา+กองประกอบฯ
ก็รวมหัวละเมิดสิทธิคนไข้เรื่องฟิล์มเอกซ์เรย์มาแล้ว

แล้วเราจะร้องไปเพื่ออะไร ใครจะฟังเรา ใครจะแก้ปัญหา
ให้เรา เพราะอะไรถึงไม่มีใครแก้ไขปัญหานี้
โดย: เครือข่ายฯ [20 ก.พ. 53 23:12] ( IP A:58.9.187.12 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ถึงคุณคนเสียแม่

ผมคิดอยู่หลายตลบว่า จะส่งข้อความนี้ออกมาดีไหม?

เพราะใจหนึ่งก็ไม่อยากกลายเป็น "ยุยง" ให้คุณจ้องฟ้องร้องให้เป็นเรื่องหนักหนาสำหรับฝ่ายคู่ความ ร.พ. ของคุณ

แต่อีกใจหนึ่งก็เห็นวิธีคิด วิธีจับถือคดีของคุณแล้ว ก็กลัวว่าคุณจะแพ้แล้วก็ไม่ได้ข้อสรุป "อย่างชอบธรรมและเป็นทางการ" ออกมาให้สังคมได้รับรู้ เพื่อเป็นการระวังป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำรอยที่คุณแม่ของท่านต้องเอาชีวิตแลกไป

เอาเป็นว่า ผมขอแสดงความเห็น แล้วท่านก็เลือกดูเอาว่าชอบหรือไม่ก็แล้วกัน ขอให้ลองคิดตามเหตุผลของผมที่จะว่าต่อไปนี้ดู แล้วหักลบกลบกันกับเหตุผลที่ท่านเจตนาทำเรื่องนี้แต่แรกว่า สมควรหรือไม่อย่างไร

ก่อนอื่น ผมขอสรุปจากข้อมูลที่คุณเล่าแจ้งมาว่า คุณแม่เสียชีวิตจากการผ่าตัดข้อสะโพก แบบเร่งด่วนกระชั้นชิด + โดยไม่ได้รับความยินยอมของคุณและหมู่ญาติก่อน

ตลอดมาที่คุณพูดถึง คุณใช้คำว่า "เป็นการปฏิบัติที่ไม่ได้มาตรฐาน" และคุณดำเนินการเพียงฟ้องเป็น "คดีแพ่ง" โดยไม่ต้องการฟ้องเป็น "คดีอาญา" เพราะยังต้องการให้เกียรติ "หมอ" ที่เป็นต้นเรื่อง

สองประเด็นที่ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง คือ

1. คำกล่าวหาของคุณ "เบาเกินความจริง" และจะพาให้เมื่อเรื่องเข้าสู่ศาลและกระบวนการยุติธรรมแล้ว จะถูกหน่วงช้าและทำให้เอื้อต่อกระบวนการระหว่างทางที่จะปัดเป่าทำให้เป็นเรื่องเบาบางจนคุณแพ้คดีได้ในที่สุด ผมขอให้คุณเริ่มต้นคิดอย่างนี้ได้ไหม?? เพราะจากเท่าที่คุณเล่ามาแต่ต้น ผมว่า นี่เป็นกรณีที่หมอต้นเรื่อง "จงใจและเจตนา" เอาชีวิตคุณแม่ของคุณมา "เสี่ยงรักษาเกินโรคโดยไม่จำเป็น" อีกทั้งดูเหมือนไม่ได้มีความชำนาญการรักษาในเรื่องนี้มากพอที่จะทำการผ่าตัดใหญ่ขนาดนี้ให้ลุล่วงลงโดยสวัสดิภาพ เพราะหากมีพอ คุณแม่ของคุณต้องไม่ตายไปง่ายๆแบบนี้ และหากชำนาญพอ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้อง "เร่งด่วนทำ" โดยไม่แจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า เพื่อปรึกษากันในหมู่เครือญาติก่อน อย่างที่สมควรทำกันตามสำนึกของชาวบ้านธรรมดาทั่วๆไป

เหตุต้นเรื่องของคุณแม่คุณนี้ ผมขอฟันธงว่า เป็นการประมาทเลินเล่อร้ายแรงแบบเอาชีวิตคนไข้มาล้อเล่น ทั้งนี้ โดยประสงค์ต่อผลเชิงพาณิชย์ในแง่ของการทำให้ค่ารักษาบานปลายเป็นตัวเงินโดยไม่มีความจำเป็น

เป็นทำนองเดียวกันกับ กรณีเด็กหนุ่มตายจากหวัด 2009 แล้วญาติคนตายยังต้องจ่ายไป 2 ล้านบาทค่ารักษา ทั้งๆที่เรื่องออกมาเห็นชัดว่า หมอเจ้าของไข้ "จงใจเตะถ่วง" ขั้นตอนปฏิบัติเร่งด่วนทันที ซึ่งถูกกำหนดกันไว้ชัดเจนแล้วสำหรับกรณีนั้น เป็นการละเลยเพื่อปล่อยให้โรคลุกลามบานปลายเพื่อประสงค์ต่อการบานปลายค่ารักษาพยาบาลเชิงพานิชย์ออกไป

หากที่ผมว่ามานี้ มีอะไรตรงไหนที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลทางด้านของคุณที่เคยบอกมา ก็ขอให้ชี้แจงไว้ด้วย เพื่อให้ความยุติธรรมแก่คู่กรณีของคุณ

แต่หากข้อมูลที่ผมว่าถูกต้อง ก็ขอแนะนำให้คุณ "แจ้งความดำเนินคดีอาญา" กับหมอคู่กรณีเสีย ด้วยเหตผลคือ

1. ประสบการณ์ของคนในเครือข่ายนี้ นับสิบกรณีที่คิดแบบเดียวกับคุณที่ให้เกียรติหมอ ไม่ยอมแจ้งความดำเนินคดีอาญา จนแพ้คดีหรือเกือบแพ้คดีในที่สุด เช่น ของท่านประธานเครือข่ายฯ ที่ฟ้องโรงพยาบาลพญาไท ๑ หรือ คดีที่ร่อนพิบูลย์ หรือ คดีหญิงโรคเอสแอลอีกับโรงพยาบาลย่านริมน้ำพรานนก เหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างบอกเราว่า คุณคิดจะให้เกียรติ "โจรในคราบหมอ" ก็เป็นการ คิดผิดอย่างมหันต์

2. คุณคงไม่มองข้ามว่า พอเป็นคดีความถึงโรงศาลแล้ว พวกเราอยู่ในฐานะเสียเปรียบทุกประตู คุณต้องยอมรับว่า "มีเส้นสาย" อยู่ในทุกขั้นทุกตอนของกระบวนการศาล ตั้งแต่เส้นแบบอ่อนๆคือเอาพวกมากลากไป จนกระทั่ง "แบบฉ้อฉลสกปรก" ไปจนถึงแม้กระทั่งที่ศาลแบบ "โกงกันซึ่งๆหน้าอย่างกรณีศาลฏีกายกฟ้องของท่านประธานเครือข่าย" ดังนั้น ผมจึงมีความเห็นว่า พอตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้ มาจนถึงขั้นนี้ ถ้าท่าน "ไม่กล้าชกตรงๆแรงๆให้ตรงเป้าตรงประเด็น" ผมว่าท่านมี "โอกาสแพ้" ตั้งแต่ยังไม่ครบยกแรกบนสังเวียน เพราะเอาแต่ "เต้นฟุตเวิ้รค์ไปๆมาๆไม่กล้าแลกหมัด" ทั้งๆที่รู้ว่ากรรมการตัดสินบนเวที กรรมการรอบสนามล้วนเข้าข้างคู่ต่อสู้ทั้งนั้น มีแต่พวกเราคนดูที่คอยให้กำลังใจ แต่ก็ช่วยอะไรคุณในสนาม (ในเรื่องที่ถูกต้อง)ไม่ได้มากเท่าไร!!!

เอาล่ะ ขอแค่นี้ก่อน ขอความเห็นท่านก่อน แล้วเราค่อยมาถกกันต่อ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [8 มี.ค. 53 9:21] ( IP A:58.8.103.215 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน