ความคิดเห็นที่ 1 ข้อเท็จจริงเป็นไงไม่รู้ รู้แต่ว่าเลวมากๆ | โดย: แน่ๆ เลย ชัวร์ [21 มี.ค. 53] ( IP A:61.90.5.76 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 รักษาได้ ห้ามตาย ห้ามพิการ ไม่งั้นกรูจะฟ้อง เรียกร้องทุกอย่าง
ถ้าหายได้ ไม่ตายไม่พิการ ก็ ทางใครทางมัน เรื่องของกรู
รู้แต่ว่า งานนี้ เสียใจด้วยกับคนไข้ แต่ใครอยากให้เกิดแบบนี้
ไม่มีหรอก
สุดท้าย ต่อไปนี้ ถ้า ตรรกะ เป็นแบบ บรรทัดแรก
คงต้องพึ่งป้าเช็ง กับ สุดยอดน้ำ มหาบำบัด แล้วครับ พี่น้องงงงงง | โดย: เกรียนขั้นเทพ [22 มี.ค. 53 5:47] ( IP A:220.108.252.75 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ
ความเลวลำดับที่ ๑ คือที่แพทยสภา ซึ่งไม่มีอะไรแปลก เพราะเป็นโดยสันดาน ผู้เสียหายทางการแพทย์แถวๆนี้ "โดน" มาอย่างนี้แทบทั้งนั้น บางรายโดนหนักกว่านี้เยอะ
ความเลวลำดับที่ ๒ คือที่ กระทรวง ซึ่งแสดงพฤติกรรมเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา+ปิดบังซ่อนเร้นเวชระเบียน ทำให้น่าสงสัยว่า เตรียมการฉ้อฉลในการต่อสู้คดี และน่าคิดต่อไปว่า ความผิดพลาดที่เกิดกับตัวคนไข้ เป็นการ "ฝึกและ/หรือ ลองวิชา" โดยเอาชีวิตและสวัสดิภาพของคนไข้มาล้อเล่น อย่างไม่น่าที่จะจำเป็น
ความเลวลำดับที่ ๓
ก็คือความเห็นที่ 2 ซึ่งส่อพฤติกรรมจากวาจาว่า เป็นหมอที่มีอคติในตัวตนแห่งวิชาชีพ ซึ่งมองคนไข้ที่ได้รับความเสียหายจากงานในอาชีพเดียวกับตนเป็นผู้ร้ายที่เอาแต่ได้ แทนที่จะให้ความเห็นใจต่อสภาพของคนไข้ตามสมควรแห่งสำนึกที่ถูกต้องในวิชาชีพ
ถ้าความเห็นที่ 2 เป็นหมอจริงๆ ก็เป็นอันตรายต่อวิชาชีพนี้ในประเทศนี้ เท่าๆกับการที่เรามีแพทยสภาที่มีพฤติการณ์เป็นสภาแพทยโจรจนสังคมระหว่างแพทย์และคนไข้ส่วนหนึ่งของประเทศนี้ ขาดการยอมรับนับถือและระแวงสงสัยกันตลอดมาจนทุกวันนี้ | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [22 มี.ค. 53 7:48] ( IP A:58.8.112.208 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 หัวข้อ 1809: มะเร็งหาย แต่ก็เหมือนตายทั้งเป็น (จำนวนคนอ่าน 657 ครั้ง) « เมื่อ: 03/20/10 เวลา 09:08:26 »
แพทย์มีจรรยาบรรณหรือไม่ในการรักษาผู้ป่วย สิ่งที่ผู้คนสงสัยกับความยุติธรรม การฟ้องร้อง ความสูญเสีย กับสิ่งที่ผมเผชิญด้วยตนเอง เพราะเหตุใด ถึงมีประชาขนร้องเรียนมากขึ้น อาจเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม เนื่องจาก นาย สุวโรจน์ นิธิธนพานิชย์ (คุณพ่อของผม) ได้เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งที่ลิ้น โดยแพทย์ได้ตัดลิ้นนำส่วนเนื้อร้ายออกและนำเนื้อและเส้นเลือดมาต่อส่วนที่ตั ดไป และได้รับเข้าโครงการทดลองยาจากต่างประเทศกับ บริษัท โปรโตคอร์ ควบคู่ไปกับการฉายแสง ซึ่งคุณพ่อผมก็ได้ตรวจรักษาตามโครงการจนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และใกล้จะรักษาสำเร็จ แต่ก่อนจะให้คุณพ่อกลับบ้าน แพทย์ได้ตรวจพบว่าในช่องปากมีชิ้นเนื้อติดกระพุ้งแก้มจากการต่อลิ้น จึงแนะนำให้ผ่าตัดเพื่อสะดวกในการบังคับลิ้น ผู้ป่วยจึงเข้ารับรักษาการผ่าตัดศัลยกรรมลิ้นตามคำแนะนำของแพทย์ หลังผ่าตัดเสร็จ และกลับบ้านได้ประมาณ 2-3 วัน เลือดได้ทะลักออกมาทางปากและจมูก ส่วนชิ้นเนื้อก็ไหมหลุด ทำให้ผู้ป่วยเสียเลือดหมดตัวจนหมดสติต่อหน้าพยาบาล จากนั้นได้มีการปั๊มหัวใจและให้เลือดจนผู้ป่วยรู้สึกตัว แต่ต้องนอนเป็นอัมพาต พร้อมตาบอด หลังจากนั้น รพ.ให้ผู้ป่วยกลับบ้านโดยให้เหตุผลว่า ผู้ป่วยอาการทรงตัวทั้งที่ญาติยังเห็นว่าอาการยังไม่ดีขึ้น หลังจากนั้นทางญาติได้ไปติดต่อแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด แต่ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นท่านใดเนื่องจากทาง รพ.พยายามปกปิด ทางญาติจึงนำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท เพื่อขอเรียกเอกสารสำหรับส่งให้แพทยสภาชี้แจง แต่เรื่องก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด หลังจากผ่านไปเกือบ 1 ปี ญาติจึงไปติดต่อแพทยสภาเองแต่ก็ได้รับคำตอบว่าได้รับเอกสารไม่ครบ ไม่สามารถดำเนินงานได้ หลังจากนั้นทางญาติจึงมาร้องเรียนที่ศาลจังหวัดนนทบุรี จึงทราบว่า อีก 1 วัน จะหมดอายุความทางแพ่ง ญาติจึงรีบเข้าชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่ร้องเรียนไปแล้วและไม่ได้รับการดำเน ินการได้ เจ้าหน้าที่ศาลนนท์จึงส่งหนังสือไปที่กระทรวงสาธารณสุขกับแพทยสภา ในการฟ้องร้อง และเมื่อศาลนัดไกล่เกลี่ย ทางฝ่าย รพ.ได้ มี นิติกรของรพ., รองผอ. และแพทย์ผู้ผ่าตัด เดินทางมาไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้เนื่องจากเป็นรพ.ของรัฐ และแพทย์ไม่สามารถรับผิดได้จนกว่าศาลจะตัดสิน ทางนิติกรของทาง รพ.ได้แนะนำให้ถอนฟ้องและให้ไปฟ้องกับกรมการแพทย์ เพราะจะทำให้ได้รับการสั่งจ่ายเร็วขึ้น แต่ด้วยที่ทางญาติไม่มีใครรู้เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว จึงยังไม่กล้าถอนฟ้องตามคำแนะนำ หลังจากนั้น ในนัดต่อไปที่ต้องมาให้การกับศาล ทาง รพ.ก็ได้ส่งนิติกรและอัยการของกระทรวงสาธารณสุขมาแค่ 2 ท่านโดยไม่มีแพทย์ผู้ผ่าตัดที่จะต้องเป็นผู้ชี้แจงต่อศาลมาแต่อย่างใด และหลังจากที่เรื่องถึงศาลทางแพทยสภาจึงได้เรียกสอบสวน นายแพทย์ที่เกี่ยวข้องทีละคน ซึ่งตรงจุดนี้ ผม อยากจะชี้ให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่ชัดเจน เพราะเรื่องถูกร้องเรียนไปนานแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถ้าผมไม่มาร้องเรียนที่ศาล จ.นนท์ และทำเพียง รอกับรอ ถึงเวลานี้ เรื่องนี้ก็คงหมดอายุความไม่สามารถเรียกร้องสิ่งใดได้ ซึ่งถ้ามองจากมุมของผู้สูญเสียอย่างครอบครัวของผม ที่ต้องสูญเสียรายได้หลัก จากการที่หัวหน้าครอบครัว(คุณพ่อ) พิการจากการทำงานผิดพลาดของแพทย์ท่านใดท่านหนึ่ง หรือหลายท่าน คงจะทราบกันดีว่าสถานะตอนนี้ ครอบครัวของผมจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด ถึงตรงนี้ผมมีข้อสงสัยที่อยากจะเรียนถามผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆหน่วยงาน รวมถึงท่านที่พอจะแนะนำได้ว่า 1.คำแนะนำที่นิติกร แนะนำให้ถอนฟ้องแล้วไปฟ้องใหม่กรมการแพทย์ แล้วจะทำให้กระบวนการฟ้องร้องเร็วขึ้นนั้น จริงหรือไม่ เพราะถ้าถอนฟ้อง ณ เวลานั้น คดีก็จะหมดอายุความทันที(คุณต้องการแนะนำ หรือ ต้องเอาตัวรอดจากการรับผิดชอบ) 2.แพทย์ท่านหนึ่งมาออกตัวและอธิบายวิธีการที่ผ่าตัด แต่พอให้การต่อศาลกลับเป็นชื่อของแพทย์ อีกท่านหนึ่ง (มันคืออะไร?) 3.เอกสารเวชระเบียนทั้งหมดในการผ่าตัด หายไปไหน? 4.กรณีนี้ ที่ครอบครัวผม ต้องมาเสียหัวหน้าครอบครัวไป หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่าย ในช่วงเวลาที่รอคำตัดสินของศาล? 5.ในการพิจารณาคดี โจทย์ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการต่างๆทั้งทางแพทย์และทาง................... . กรณีนี้ ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มาชี้แจง และพิจารณาว่าการรักษาที่เกิดขึ้นนั้นถูกต้องตามกระบวนการหรือไม่ จะสามารถให้ความเป็นธรรมแก่ โจทย์ ได้มากน้อยเพียงใด จากการที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวหา และให้ร้ายใครทั้งสิ้น เพียงแต่อยากนำมาเผยแผ่เพื่อประโยชน์สำหรับท่านที่อาจจะประสบเหตุการณ์ที่ใก ล้เคียงกันกับนี้ และนี่คือ ความโชคดี หรือ โชคร้ายกันแน่กับการเข้ารับการรักษาการผ่าตัดมะเร็ง ปัจจุบัน คุณพ่อของผม ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว ยังคงต้องทนทุกข์ทรมานกับการเป็นอัมพาตและตาบอดและที่สำคัญต้องทนทุกข์ทรมาน กับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่เป็นอย่างมากที่ต้องเห็นครอบครัวลำบาก โดยที่ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้ ส่งโดย: release_note สถานะ: Newbie จำนวนความเห็น: 1 124.120.71.* | โดย: ก๊อปปี้มาให้อ่านกันเลย [22 มี.ค. 53 12:24] ( IP A:58.9.195.31 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 สาเหตุที่นำมาสู่การฟ้องร้องคือ
1.หลังจากนั้น รพ.ให้ผู้ป่วยกลับบ้านโดยให้เหตุผลว่า ผู้ป่วยอาการทรงตัวทั้งที่ญาติยังเห็นว่าอาการยังไม่ดีขึ้น (ญาติไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ)
2.ญาติได้ไปติดต่อแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด แต่ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นท่านใดเนื่องจากทาง รพ.พยายามปกปิด (พฤติกรรมแบบนี้ชาวบ้านรับไม่ได้ นอกจากพวกที่ชอบเข้าข้างกันเอง)
3.ทางญาติจึงนำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท เพื่อขอเรียกเอกสารสำหรับส่งให้แพทยสภาชี้แจง แต่เรื่องก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด (เวชระเบียนคือหลักฐานเดียวในที่เกิดเหตุ ถูกถึงไว้แก้ไข ปรับปรุงให้พ้นผิด)
4.หลังจากผ่านไปเกือบ 1 ปี ญาติจึงไปติดต่อแพทยสภาเองแต่ก็ได้รับคำตอบว่าได้รับเอกสารไม่ครบ ไม่สามารถดำเนินงานได้ (แพทยสภาไม่เคยปรับปรุงตัวเอง จากอดีตถึงปัจจุบันห่วยแตกเช่นเดิม)
5.หลังจากนั้นทางญาติจึงมาร้องเรียนที่ศาลจังหวัดนนทบุรี จึงทราบว่า อีก 1 วัน จะหมดอายุความทางแพ่ง (หน่วยงานห่วยแตก ดึงเรื่องชาวบ้านจนหมดอายุความ เพราะต้องการช่วยพวกพ้อง)
6.หลังจากที่เรื่องถึงศาลทางแพทยสภาจึงได้เรียกสอบสวน นายแพทย์ที่เกี่ยวข้องทีละคน ซึ่งตรงจุดนี้ผมอยากจะชี้ให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่ชัดเจน เพราะเรื่องถูกร้องเรียนไปนานแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น (ก็บอกแล้วว่าห่วยแตก) | โดย: ห่วยแตก..คำตอบสุดท้าย [22 มี.ค. 53 12:35] ( IP A:58.9.195.31 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 เอาเท่าที่ฟังมา ยังไม่ต้องดูเวชระเบียน ถ้าคุณเล่าถูกต้อง คดีนี้ ร้อยเอาขี้หมากองเดียว หมอคงไม่มีทางชนะ เดด สมอร์เร่แบบนี้ | โดย: พระเจ้ายังเซ็งแทน [22 มี.ค. 53 12:56] ( IP A:58.8.213.29 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 เป็นอุบัติเหตุ แบบชนแล้วหนีพร้อมกับตำรวจช่วยกลบเกลือ่นหลักฐาน เสร็จสรรพ | โดย: เจ้าบ้าน [22 มี.ค. 53 23:57] ( IP A:124.121.140.197 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 ซ่องโจร นักกฎหมายระดับคณบดีเคยให้นิยามไว้ | โดย: แบบเดิมๆที่เขาเคยด่าไว้ [23 มี.ค. 53 2:22] ( IP A:58.8.1.45 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 แม้กระทั่งคนในกระทรวงสาธารณสุขเองเวลามีเรื่องเขายังบอกว่าอย่าไปหวังพึ่งพาระบบตรวจสอบของกระทรวงและแพทยสภา | โดย: ยิ่งกว่าซ่อง....โจน [23 มี.ค. 53 11:15] ( IP A:58.9.220.34 X: ) |  |
|