มองปัญหาการเมือง
   **วันที่ 04 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 22:10:56 น. มติชนออนไลน์


ส.ส.ปชป.งงนายกฯประกาศโรดแมปหวั่นคะแนนตกฮวบ "ชวน" ปัดน้อยใจ"อภิสิทธิ์"ไม่ปรึกษาเข้าใจทำงานเหนื่อย


"ชวน"ปัดน้อยใจ"มาร์ค"ไม่ถามซักคำยุบสภาก่อนครบเทอมเข้าใจนายกฯทำงานเหนื่อย



เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสนอทางออกในการแก้ปัญหาประเทศโดยระบุว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.ว่า ไม่ทราบที่ไปที่มาจริงๆ เพราะตนไม่ได้อยู่ในฐานะเหมือนกับนายกฯ มีเพียงนายกฯ เท่านั้นที่รู้ข้อเท็จจริงว่าอยู่ภายใต้การกดดันอย่างไรหรือไม่ ก็เห็นใจนายกฯ ในฐานะคนที่ทำงานอย่างเหนื่อยยากลำบาก และต้องตัดสินใจในบางเรื่อง ทั้งนี้ ที่ตนยืนยันไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา เพราะรัฐบาลยังสามารถบริหารงานได้เป็นอย่างดี จึงเป็นสิทธิที่รัฐบาลจะอยู่จนถึงปีหน้าก็ได้ เรื่องการยุบสภานั้นตนไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น แม้แต่ข้อเสนอที่รัฐบาลจะยุบสภาภายในเวลา 9 เดือนนั้นตนก็ยังไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐบาลก็บริหารงานมาได้ด้วยดีและมาด้วยความชอบ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะทำงานต่อไปได้ แต่เมื่อฟังนายกฯ อธิบายแล้ว เราก็เข้าใจว่าเป็นทางออกที่ไม่ต้องการจะให้เกิดความรุนแรง แม้ว่าขณะนั้นจะยังไม่มีการสูญเสียอะไรเลยก็ตาม แต่เพราะต้องการจะให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม อำนาจการตัดสินใจยุบสภาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนายกฯ แต่จะต้องขึ้นกับดุลยพินิจด้วย ไม่ใช่การถูกบังคับหรือมีใครมาสั่งให้ยุบสภา ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด เพียงแต่การประกาศครั้งล่าสุดยังไม่ได้พูดคุยกันเท่านั้น



ผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยใจหรือไม่ ที่นายกฯไม่มาหารือก่อน นายชวนกล่าวว่า ไม่ได้น้อยใจเพราะไม่เกี่ยวอะไรกับตน เป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งก็เข้าใจการทำงานของรัฐบาล ทั้งหมดเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา โดยขณะนี้มีเพียงอย่างเดียวที่หัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้คือ การต่อสู้ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องใช้เวลาในการเตรียมข้อมูล ก็อ่านเอกสารกันหนักทุกคน



"ชวน"เผย"มาร์ค"ไม่เคยปรึกษา"โรดแมป"


วันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเสนอแผนโรดแมปปรองดอง โดยกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า ยังไม่มีโอกาสได้ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยรู้มาก่อน และยังไม่มีโอกาสได้พบนายกฯ ไม่ทราบว่า จะเป็นทางออกของประเทศได้หรือไม่ ทั้งนี้ ตนอยู่ในกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการยุบสภามาตั้งแต่ต้น แต่อำนาจการยุบสภาเมื่อใดเป็นอำนาจของนายกฯ แต่จะยุบเมื่อใดก็เป็นสิทธิของนายกฯ ซึ่งที่เราเคยพูดกัน คือ ไม่ควรยุบเพราะมีคนมาขู่ให้ยุบ แต่จะยุบเมื่อใดก็เป็นอำนาจของนายกฯ


เมื่อถามว่า แนวทางดังกล่าว นายกฯ ได้มาหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า "มีกำนันอยู่แล้ว ผู้ใหญ่เล็กกว่ากำนัน"



เมื่อถามว่า แนวทางออกของประเทศขณะนี้ ควรเป็นอย่างไร นายชวน กล่าวว่า มีทางให้เดินเยอะแยะ ปัญหาว่าจะเดินไปทางไหนเท่านั้น ยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ต้องไปถามนายกฯ เอง เพราะเราไม่เคยคุยเรื่องนี้กัน เราคุยกันแต่เพียงว่าในระบอบประชาธิปไตยเราต้องรักษาหลักนิติธรรม และกฎหมายบ้านเมืองเอาไว้ ดังนั้น การทำอะไรก็ตามที่ไม่ถูกกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ต้องแก้ไข ปัญหากับบ้านเมืองเป็นของคู่กัน ส่วนจะแก้วิธีไหนก็เป็นอีกเรื่อง


เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับข้อเสนอนิรโทษกรรม นายชวน กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวไม่เคยเห็นด้วยกับวิธีการที่ไปยกเว้นการกระทำความผิด คิดว่าความเป็นธรรมในบ้านเมืองต้องอาศัยกติกา ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด แต่เรื่องที่นายกฯ ประกาศเราไม่เคยทราบมาก่อน


เมื่อถามว่า การที่นายชวนไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา จะทำความเข้าใจเรื่องนี้กับนายกฯ หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ตนพูดในหลักการมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ถ้ายุบสภาเพราะกลัวที่เขามาขู่ เราก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังเห็นอย่างนั้น แต่ก็เข้าใจที่นายกฯ ต้องประกาศยุบสภาภายใน 9 เดือนตั้งแต่ต้น เพราะนายกฯ พยายามแก้ปัญหาความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ เราไม่ทราบมาก่อนว่านายกฯ คิดอย่างไร และหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร


เมื่อถามว่า ในวันที่ 14 พ.ย. พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมรับการเลือกตั้งหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า "ไม่ทราบ ผมไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค"


"ชินวรณ์"เผย"ชุมพล"นัดหารือโรดแมป 6 พ.ค.



ขณะที่ นายชินวรณ์ บุญยเกรียติ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอโรดแมปปรองดองว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกฝ่ายจะยอมรับและร่วมมือกัน แต่ในรายละเอียดนายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะนัดหารือในที่ 6 พฤษภาคม ซึ่งข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ เป็นแนวทางที่ชัดเจนว่าหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือจะเป็นทางออกให้กับประเทศได้เดินหน้าต่อไป



"ชัย"แทงกั๊กตอบรับโรดแมปนายกฯ


ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการเสนอโรดแมปปรองดองว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียด เพราะขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งให้ทราบว่า จะมีการยุบสภาจริงหรือไม่ เบื้องต้นต้องแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบก่อน อย่างไรก็ตาม ตนไม่กลัว แต่เกรงว่าเสื้อแดงจะไม่ยอมรับ รวมทั้งต้องถามความเห็นจากเสื้อเหลือง เสื้อหลากสี และทุกฝ่ายว่ายอมรับกันได้หรือไม่


เมื่อถามว่า ถ้าหากมีการยุบสภา แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งลดลงหรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ความขัดแย้งอย่างนี้ 10 ชั่วโคตร ก็ยังแก้ปัญหาไม่หมด ต้องค่อยๆ รอเวลาให้สลายไป แต่ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายกฯ แต่ก็ยังไม่ตอบรับ เพราะถ้าพูดไปก็เสียผู้ใหญ่ เรื่องอย่างนี้ถามตนคนเดียวไม่ได้ ต้องถามทุกฝ่ายว่ายอมรับได้หรือไม่ ไม่เว้นแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ต้องไปถามสมาชิกว่า เห็นด้วยหรือไม่ บางคนบอกว่า หากจะยุบสภาก็พร้อม แต่บางคนปากบอกพร้อม แต่ขาสั่น สำหรับตนยุบวันนี้ พรุ่งนี้ก็พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ได้


"ฝ่ายนิติบัญญัติต้องพร้อมน้อมรับอะไรที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่สิ่งใดที่อยู่นอกเหนือจากกฎหมายก็รับไม่ได้ ถ้าทุกฝ่ายเห็นตรงกันก็ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม การยุบสภาจะต้องเกิดจากความขัดแย้งของฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารตามหลักสากลโลก ดูอย่างประเทศอังกฤษเป็นตัวอย่างที่ยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกันหรอก" นายชัย กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้กลไกฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่สามารถทำงานได้จะถือว่าเป็นความขัดแย้งหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังทำงานกันได้อยู่ ไม่เห็นขัดแย้งอะไรกัน ต้องให้ตีกันหนักๆ ก่อน



ส.ส.ปชป.งงนายกฯประกาศโรดแมปไม่บอกก่อนหวั่นคะแนนเสียง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการโทรศัพท์สอบถาม ส.ส.ปชป.หลายคน ต่างงุนงงกับการประกาศโรดแมปพร้อมเลือกตั้งใหม่วันที่ 14 พ.ย.ของนายกรัฐมนตรี เพราะยังเข้าใจว่าน่าจะมีการสลายการชุมนุมภายหลังงานฉัตรมงคล ทั้งนี้ยอมรับว่าประชาชนในพื้นที่ได้ตำหนิส.ส.ปชป.มาตลอดว่าเหตุใดรัฐบาลถึงไม่รีบจัดการกับผู้ชุมนุมเสียที เมื่อนายกฯประกาศออกมาเช่นนี้ จึงต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเหตุใดนายกฯจึงตัดสินใจเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการตัดสินใจดังกล่าว อาจกระทบกับฐานเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากพรรคการเมืองบางพรรคอาจฉวยโอกาสไปโจมตีว่ารัฐบาลกลัวคนเสื้อแดง ทำให้คะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปสั่นคลอน โดยเฉพาะในพื้นที่สุ่มเสี่ยงอย่าง จ.ชลบุรี เพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ฯลฯ ส่วนจ.ภาคใต้ไม่น่ามีปัญหาอะไร
โดย: เทียบปัญหาการแพทย์ [5 พ.ค. 53 10:03] ( IP A:58.8.3.139 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ผมว่ายังไงก็ดีกว่ายอดประชากรตกฮวบ
คนเสื้อแดงที่หลงเชียร์ทักษิณแบบไม่ลืมหูลืมตา แก้ไขไม่ได้หรอกต้องปล่อยแก่ตายไปตามเวลา
ส่วนรุ่นใหม่ๆ การศึกษา จะช่วยให้เขาตาสว่าง คงต้องใช้เวลา
สำคัญที่ต้องเข้าใจว่าการศึกษาไม่ใช่เข้าโรงเรียน การให้มีทีวีดีดีสักช่องแบบบีบีซี หรือซีเอ็นเอ็น รับรองได้ ไม่นานเกินรอ นักการเมืองเลวๆจะหาที่ยืนยาก
ประเทศที่มีแบบทักษิณ มาคอส ซูฮาร์โต้ ฮูนเซน ประชาชนต้องไร้การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาในโรงเรียนชาติหน้าตอนบ่ายๆก็ทำความเจริญทางการเมืองไม่ได้
โดย: ฟฟ [5 พ.ค. 53 10:07] ( IP A:58.8.3.139 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ว่าจะไม่แตะไม่ลงลึกเรื่องการเมือง

แต่ไหนๆ ท่าน ฟฟ. ก็กระโจนใส่แล้ว ก็เลยตามเลย

บ้านไหนเมืองไหน ก็มีทั้งคนดีคนชั่วปะปนกันไป

เพียงแต่บ้านเรามีคนชั่วแรกฏตัวให้เห็นมากกว่าคนดี ณ. เวลานี้ซึ่งเป็นการสะสมความชั่วช้าสามานมาอย่างยาวนานตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา

และที่เป็นเรื่องโชคร้ายก็ตรงที่ สังคมไทยเรามีปรากฏการณ์ที่ว่า ใครผิดใครทำชั่วไว้ยังไงก็ช่าง ถ้ากูไม่เจ็บไปกระเทือน กูก็ไม่รับรู้ไม่ใช่เรื่องของกู

นี่ร่วมกับระบอบนักเลงบัดซบที่เกิดจากกลุ่มอันธพาลท้องถิ่นที่ตั้งตัวกันเป็นกลุ่มอิทธิพล จนกลายเป็นนักการเมืองที่ทั้งปีทั้งชาติทั้งโคตรก็ไม่รู้จักว่าการทำมาหากินอย่างสุดจริตเค้าทำกันยังไง

ในหลายๆปีหลังมานี้เราจึงเห็นตัวตะกวดหางแดงลิ้นสามบ้างสองแฉกบ้างเพ่นพ่านอยู่ในสภาและในรัฐบาลเต็มไปหมด ซึ่งเราจะเห็นสัตว์เดรัชฉานในคราบคนหน้าตาประหลาดๆเหล่านี้ขึ้นวอเป็นผู้บริหารเป็น รมต หรืออะไรทำนองนั้น นั่งหน้าสลอนหน้าตาเฉยทั้งๆที่เราจับได้+มีหลักฐานคาหนังคาเขาว่าโกงชาติโกงแผ่นดิน+โกหกซ้ำซาก

แต่ที่ยิ่งน่ากลัวกว่านี้ก็ตรงที่ พวกที่มีการศึกษาสูงๆอย่างในแพทยสภาเนี่ยซิ ที่เป็นทั้งหมอผู้ซึ่งสังคมคาดหวังให้มีหน้าที่ช่วยชีวิตหรือปลดทุกข์เรื่องเจ็บป่วยให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และมีหน้าที่ต้องคอยสอดส่องตรวจสอบความถูกต้องในวิชาชีพ

แต่กลับมาทำตัวเป็นสัตว์มนุษย์/ปีศาจร้ายที่คอยเอาประโยชน์ค้ากำไรเกินคนจากเลือดเนื้อมนุษย์ ทั้งฉ้อฉลในการทำงานตามหน้าที่อีกต่างหาก แล้วพอสอบที่มาที่ไปของความร่ำรวยส่วนตัวระดับร้อยระดับพันล้านในชั่วอายุคนเดียว ก็หาที่มาที่ไปโดยโปร่งใสของความร่ำรวยเช่นว่าไม่ได้ เฮ้อ พูดไปก็ยาว เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง กับปัญหาเดิมๆที่แก้ไขไม่ได้ เพราะกลไกประชาธิปไตยที่คนบ้านเราหลงงมงายอยู่กับมันมากว่า 70 ปีจากการริเริ่มก่อการของคณะราษฏร์ ไม่สามารถหาคนดีมาช่วยกันคัดเอาคนไม่ดีออกไป แต่กลับได้คนเลวๆหรือพวกคนดีบังหน้าแต่แอบจิตเลวชั่วช้าอย่างในแพทยสภา+ในศาล มาลอยนวลก่อความเดือดร้อนให้สังคมอย่างที่เป็นอยู่ เฮ้อ

แล้วเมื่อไร องค์พ่อหลวงของเรา ท่านจะได้ทรงพระเกษมในพระทัย ได้จริงๆซะทีหนอ ?????
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [6 พ.ค. 53 8:28] ( IP A:58.8.107.184 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   กว่าสิบวันก่อน ในช่วงบ่ายของรายการ สภากาแฟ ของช่อง ASTV

ผมได้เห็นได้ยินท่าน พล.อ. ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เอ่ยอยู่ตอนหนึ่งที่ว่า

ระบบการเมืองไหนก็ไม่สำคัญ หากไม่เป็นระบบที่เป็นธรรมเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ ระบอบนั้นก็ไม่มีประโยชน์และประชาชนก็รับไม่ได้

ประชาธิปไตยของไทยเราที่ผ่านมา (ตรงนี้ผมว่า) ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่เป็นของแท้และเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ (ไม่ใช่เพื่อประชาชนเป็นใหญ่ เพราะประชาชนเป็นใหญ่นั้นมันไม่แน่ ประชาชนเป็นใหญ่แล้วเห็นแก่ตัว ชิบหายหมด, ตรงนี้ท่านพุทธทาสภิกขุว่านะครับ ขออนุโมทนา)

แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆที่เราเรียกว่า ธุรกิจการเมือง (สามานแบบโกงกันเป็นกำพืด ยักยอกกันเป็นโตครเหง้า และเล่นพวกกันเป็นสันดานอันธพาลบนความทุกข์ยากของประชาชนรากหญ้าชั่วนาตาปีตลอดกว่า 60 ปี ขององคืพ่อหลวงที่ทรงครองราชย์)

และเมื่อเทียบกับระบอบคอมมิวนิสต์อย่างของประเทศจีนในทุกวันนี้ ก็เท่ากับพิสูจน์แล้วว่า ระบอบไหนๆก็ไม่สำคัญเท่า ผู้ปกครองในระบอบนั้นๆมีความเป็นธรรม ซื่อสัตย์สุดจริตต่อหน้าที่และความรับผิดชอบที่เต็มเปี่ยมต่อความทุกข์ร้อนของประชาชนและความเจริญก้าวหน้าของประเทศโดยรวม

ณ. วันนี้ ประเทศจีนซึ่งเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว ประชาชนที่อดอยาก ความเป็นอยู่ที่ล้าหลังอัตคัด และส่วนใหญ่มากที่ต้องอาศัยการช่วยเหลือทางการเงินจากญาติพี่น้องชาวจีนโพ้นทะเลด้วยกัน

วันนี้ประเทศจีนผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการเงิน รวมทั้งเป็นตัวคานสมดุลทางการทหารของโลกที่น่าเกรงขามมาก จากที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ที่อดอยากและถูกป้ายสีจากโลกตะวันตกให้เป็นตัวภัยร้ายที่คุกคามต่อระบอบเสรีประชาธิปไตยที่ประเทศไทยเราหลงเดินตามก้นฝรั่งมาเป็นแรมสิบๆปีจนถึงทุกวันนี้ จนเราท่านทั้งหลายลืมรากเหง้าแห่งภูมิปัญญาทางสังคม-ประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองภายใต้ระบอบกษัตริย์ ที่สะท้อนมาอย่างลึกซึ้งเบ็ดเสร็จในกระแสพระราชดำรัสซึ่งเป็นปฐมบรมราชโองการของพ่อหลวงพระองค์นี้ที่ว่า

"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม"

ผมได้ยินได้เห็นหลายๆคนพูดว่า ประเทศไทยโชคดีมากที่ได้พ่อหลวงพระองค์นี้ทรงครองราชย์ด้วยพระวิริยะอุตสาหะและเมตตาเพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ ไม่เลือกว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน ศาสนาใด สีผิวอะไรก็ตาม

แต่ผมเองก็สะอึกเมื่อได้ยินลูกสาวของเพื่อนชาวตะวันตกที่มาเที่ยวเมืองไทย และชอบเมืองไทยรู้เรื่องเมืองไทยมาเป็นแรมปี เอ่ยขึ้นครั้งหนึ่งต่อหน้าผมเมื่อหลายปีมาแล้วว่า

แล้วองค์พ่อหลวงของเรา ทรงโชคดีหรือเปล่าที่ได้พสกนิกรอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ (ณ. ตอนนั้นหลายปีมาแล้ว จนกระทั่งถึงวันนี้, ตรงท้ายผมว่านะ)
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [11 พ.ค. 53 8:50] ( IP A:58.8.109.253 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   From George Adams,

My name is Mr. George Adams, a Chief Accountant working with a Commercial Bank here in Abidjan Ivory Coast. I'm contacting you for a business deal to present you as the next of kin to one Mr. Bouchout Geoffroy our deceased client so that the proceeds of his account with our Bank amounting to ($ 19million US dollars) can be paid to you and then you and I will share the money. I know that you will be surprised to receive this message since we have not met before, however this the only way I can contact you at this moment due to the nature of this deal.

We shall know ourselves better as soon as you indicate interest to work with me. I just want you to know that I have had everything planned out so that we shall come out successful, all I require is your honest co-operation to enable us see this deal through. I guarantee that this deal will be executed under all legitimate arrangement that will protect you from any breach of the law. Late Mr. Bouchout Geoffroy is a Swizerland business man based here in my country. He use to supply goods to most of the Oil servicing company here in my country before he got a contract with the Kellogg Brown & Root, a subsidiary of the Houston-based oil company Halliburton in Swiss in .1995

Before his death he made a numbered fixed deposit for years, with a value of (Nineteen million United States Dollars) in my branch. Upon maturity in 1990, several notices were sent to him, even during the crises in swizerland. Early this year another notification was sent and still no response came from him. We later found out that he was among the passenger during the plan crach since 2nd of September 1998. According a reliable information I gather by myself.

The facts is that Mr. BOUCHOUT GEOFFROY made the deposit, as a facts no one except me has the details of his deposit in our bank. So, the $ 19,000,000.00 (Nineteen million United States Dollars) is still lying in our bank, and no one will ever come forward to claim it. What bothers me most is that according to the laws of my country, at the expiration of 3 years the funds will be reverted to the ownership of the Ivory Coast government, if nobody come up as the deceased next of kin to claim the funds. Against this backdrop, my suggestion to you is that I will like you as a foreigner to stand as his next of kin.

Looking forward to hear from you
Sincerely,
George adams.

KINDLY CONTACT ME THROUGH MY PRIVATE EMAIL ADDRESS: georgeadam123@hotmail.fr


CONFIDENTIAL
โดย: GEORGE ADAMS [11 พ.ค. 53 18:11] ( IP A:213.136.118.182 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน