คณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
   สำหรับคณะกรรมการฯประกอบด้วย 1.นายประสาท สืบค้า 2.นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ 3.นายตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ 4.นายศภุชัย ยาวะประภาษ 5.นายแสวง บุญเฉลิมวิภาส 6.นายจรัส สุวรรณมาลา 7.นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ 8.นายศักดา ธนิตกุล 9.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 10.นายบรรเจิด สิงคะเนติ

11.นายเจษฎ์ โทณะวณิก 12.นายสุนทร มณีสวัสดิ์ 13.นายไชยา ยิ้มวิไล 14.นายทวี สุรฤทธิกุล 15.นายสิริวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ 16.นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต 17.นายเธียรชัย ณ นคร 18.นายวุฒิสาร ตันไชย และเจ้าหน้าที่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน ร่วมเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
โดย: มีหมอด้วย [16 มิ.ย. 53 11:17] ( IP A:58.11.71.2 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   อาจารย์แสวง ท่านว่าความทีท่านยุ่งกับกฎหมายการแพทย์มาก บรรดาอาจารย์ในคณะนิติฯ ธรรมศาสตร์เลยเรียกท่านว่าหมอแหวง
โดย: ดีที่ไม่ใช่หมอเหวง [16 มิ.ย. 53 11:18] ( IP A:58.11.71.2 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   นับถืออ.แสวง ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา
ไม่เข้าใครออกใคร ใครก็ใช้ท่านเป็นประโยชน์ส่วนตนไม่ได้
แพทยสภาหนาวกับคนคนนี้มานานแล้ว
โดย: นับถือ [16 มิ.ย. 53 11:49] ( IP A:58.9.183.187 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   นับเป็นโอกาสที่เปิดขึ้นอีกครั้ง ในการแก้ไขกฎหมายแม่บทของประเทศไทยแลนด์ ดินแดนแว่นแคว้นของ

องค์พ่อหลวงผู้ทรงเป็นเสาหลักค้ำความร่มเย็นเป็นสุขของอาณาประชาราษฎร์มาตลอดกว่า 60 ปีที่ทรงครองราชย์


ผมอยากเสนอประเด็นความเห็น 3 ประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพื่อความชอบธรรมของมวลชนคนไทยทั้งประเทศครับ

ข้อแรก มีรัฐธรรมนูญอยู่มาตราหนึ่งที่บัญญัติไว้ในทำนองว่า ให้สิทธิของบุคคลากรทางการแพทย์ (หรืออาจจะเป็นการสาธารณสุข) ย่อมได้รับความคุ้มครองภายใต้การปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งข้อความที่ถูกต้องผมค้นหาไม่เจอ เลยไม่แน่ใจว่าลงข้อความได้ถูกต้องหรือครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ใจความจะเป็นทำนองที่ผมว่าไว้ ประเด็นเรื่องนี้มีว่า ข้อความตอนนี้ในรัฐธรรมนูญได้ก่อ "ความเคลื่อนไหวทางกระบวนการทางศาลและการยุติธรรม "ต้นน้ำ" ตั้งแต่ที่ตำรวจ (ท่านโกวิทย์ วัฒนะซึ่งภรรยาเป็นหมอ ออกหนังสือเวียนห้ามตำรวจรับแจ้งความคดีที่หมอเป็นจำเลยทางคดีอาญา) ยันไปถึงที่ตุลาการในศาลและ ส.ส. ที่ได้ก่อหวอดให้มีกฎหมาย "ยกเว้นอาชีพหมอให้ไม่ต้องรับโทษทางอาญาในคดีทางการแพทย์" แม้ว่าปัจจุบันเรื่องนี้จะซาไปและดูเหมือนไม่สำเร็จ แต่ที่ตัวรัฐธรรมนูญ ก็ต้องแก้ไขให้มันถูกต้องและชอบธรรมต่อมวลชนคนไทยทั่วประเทศทุกสาขาอาชีพ ไม่ใช่จงใจเขียนกั๊กไว้เฉพาะเปิดช่องให้หมอ (ที่เป็นโจร แล้วมีโจรหมอที่จบเนติฯ หรือมีเครือข่ายเมดิคอลฮับกระหายเงิน ที่จ้องเอาเงินคนไข้ แต่ไม่ต้องการรับผิดชอบความผิดพลาด) ได้รอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายอย่างอภิสิทธิ์ชน

ในฐานะหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายฯนี้ และเจ็บปวดมาอย่างสาหัสกับพฤติการณ์โจรและฉ้อฉลของทั้งแพทยสภา และหมอโรงพยาบาล เช่นคดีของท่านประธานฯเครือข่ายที่ฟ้องทั้งโรงพยาบาลพญาไท๑ และแพทยสภา ซึ่งพบจากหลักฐานคาศาลอยู่ชัดเจนว่า ทั้งสองจำเลยโจรนี้ ให้การเท็จและใช้หลักฐานเท็จในศาล แต่ศาลก็พิพากษายกฟ้อง ปล่อยให้โจรทั้งสองลอยนวลพ้นผิดไป โดยอ้างแง่มุมทางข้อกฎหมายที่บกพร่องไปในสำนวนคำฟ้องของท่านประธานเครือข่ายฯ แทนที่จะพิจารณาจากหลักฐานเอกสารที่ชี้บอกการกระทำของโจรทั้งสองที่แสดงเจตนาจะละเมิดกฎหมายและละเมิดกฎระเบียบทางศาลและทางวิชาชีพเฉพาะอย่างจะแจ้ง

คดีของท่านประธานเครือข่ายฯ เป็นตัวอย่างเบ็ดเสร็จที่ครบถ้วยซึ่งแสดงการฉ้อฉลของกระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบวิชาชีพแพทย์ซึ่งหมายถึงวิชาชีพหัวขบวนของการสาธารณสุขของประเทศ ทั้งยังเป็นแสดงความฉ้อฉลของกระบวนการศาลที่ตระบัดสัตย์ที่เคยให้ไว้กับองค์พ่อหลวง และทุรยศต่ออำนาจในการตัดสินคดีความที่องค์พ่อหลวงทรงมอบให้ไว้ภายใต้พระปรมาภิไทย

ในเมื่อจะแก้ไขกฎหมายที่เป็นแม่บทกันทั้งที ก็ขอให้แก้ไขกันอย่างถูกต้อง "เพื่อความชอบธรรมของปวงชนชาวไทยทั้งมวล" เถอะครับ ขออย่าลืมว่า แม้แต่องค์พ่อหลวงเอง ก็ทรงมีปฐมบรมราชโองการตั้งแต่เมื่อราชาภิเษกว่า

เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม

ผมหวังว่าท่านกรรมการทุกๆท่าน จะได้ทำงานครั้งนี้ให้สมดังพระบรมราชโองการขององค์พ่อหลวง ที่ได้ทรงแสดงและอดทนดำเนินตามพระบรมราชโองการนี้มาตลอดกว่า 60 ปีที่ทรงครองราชย์ ด้วยเทอะ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [17 มิ.ย. 53 11:38] ( IP A:115.87.202.216 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ข้อสอง

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ความเพิ่มเติมอำนาจให้คณะกรรมการชุดนี้ซึ่งแต่งตั้งโดยองค์พ่อหลวง ให้มีอำนาจให้คุณให้โทษได้ทั้งแก่ภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งนี้ อาจเป็นการให้อำนาจให้คุณให้โทษทางอ้อมก็ได้ แต่ต้องให้อำนาจที่เด็ดขาดและเห็นผลทันตาพอสมควร ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อแสดงว่า ประเทศไทยเรานี้ให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับคำว่า "สิทธิมนุษยชน อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญที่ให้ไว้กับประชาชนทุกๆคน ไม่จำกัดว่า จะเป็นหมอ หรือตำรวจ หรือ ผู้พิพากษา หรือโจรในคราบของผู้ประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง ก็ตาม อีกเช่นกันที่ คดีที่โรงพยาบาลพญาไท ๑ และ แพทยสภา ละเมิดสิทธิของท่านประธานเครือข่ายฯ และอาจรวมทั้ง ศาลทั้งสามศาลที่ยกฟ้องคดีที่ท่านประธานเครือข่ายฯ ฟ้องโรงพยาบาลพญาไท ๑ และฟ้องแพทยสภา ก็เป็นตัวอย่างที่โจ่งแจ้งมากๆว่า แม้กรรมการสิทธิมนุษยชน จะตัดสินอย่างเป็นทางการแล้วว่า ทั้งสององค์กรที่ผมพาดพิงนั้น ละเมิดสิทธิท่านประธานเครือข่ายฯ อย่างร้ายแรงและให้เยียวยาโดยทันที แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นจนป่านนี้กว่า 3 ปี แล้วหลังคำตัดสินของคณะกรรมการที่ว่านี้ การละเมิดสิทธิของคนไข้ในเรื่องเวชระเบียนของทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐเอง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เรารับรู้และเห็นกันอยู่ดาษดื่นมาตลอดตั้งแต่ ส.ธ. ประกาศสิทธิผู้ป่วยมานับสิบปีเข้านี่แล้ว ยังไม่นับรวมกับสิทธิของผู้ป่วยอื่นๆขั้นวิกฤตถึงเป็นถึงตาย ซึ่งถูกละเมิดเป็นประจำและซ้ำซาก ทั้งมีตัวอย่างอยู่ในแฟ้มคดีร้องเรียนของเครือข่ายฯนี้อยู่นับร้อยๆคดี มากมายจนคร้านที่จะจำหรือเอ่ยถึง

อ้อ ก่อนจบประเด็นที่สองนี้ ก็อยากฝากเตือนไปถึงท่านนายกอภิสิทธิ์อีกครั้ง (เคยเตือนไปก่อนหน้านี้ นานมากแล้ว) ว่าอย่าเพิ่งพาประเทศไทยเข้าเป็นภาคีสมาชิกว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเลยครับ ท่านอาจเป็น นักเรียนเก่าอ๊อกซ์ฟอร์ด ท่านอาจมาเป็นลูกหม้อพรรคการเมืองที่เน้นการสร้างภาพและแก้ตัวมากกว่ายอมรับความจริง ท่านอาจมีความเชื่อมั่นในตัวตน (และพวกพ้องรอบข้างท่านรุ่นราวคราวเดียวกันเพียงไม่กี่คนที่มีประวัติสูงส่งและเก่งการคิดการทำงานตามกรอบการศึกษาและสังคมแบบอย่างทางตะวันตก) อยู่สูงมากจนไม่ฟังใครแม้แต่ผู้ใหญ่ในพรรคของท่านเอง แต่อยากขอให้ท่านหันมาพยายามมองและรับรู้ความเป็นจริงในสังคมไทยระยะสิบกว่าปีหลังมานี้ด้วยว่า เป็นสังคมที่ล้มเหลวอย่างแทบจะสิ้นเชิงในเรื่องของการบริหารจัดการ "โดยธรรมเพื่อประโยชน์และสุขที่ยั่งยืนของมหาชนชาวสยาม" และนี่เป็นความจริงแท้แน่นอนอย่างที่มันเป็น ที่ทำให้องค์พ่อหลวงแม้จะทรงพระชนมายุมากถึงขนาดนี้ ก็ยังทรงต้องเหน็ดเหนื่อยและไม่มีโอกาสได้ทรงพักการทรงงานแม้แต่วันเดียวจนทุกวันนี้ ซึ่งทั้งหมดที่พระองค์ทำนี้ ไม่ใช่เพื่อทั้งท่านนายก ทั้งผม ทั้งคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง และอีกบรรดาเสื้อหลากสีทั้งหลาย ใช่ไหม?

ขอต่อประเด็นที่สามพรุ่งนี้ครับ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [17 มิ.ย. 53 12:24] ( IP A:115.87.202.216 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ก่อนต่อประเด็นข้อที่สาม ขอย้อนมาเสริมประเด็นข้อที่สองอีกหน่อย เพราะสำคัญมากจนข้ามไปไม่ได้เลย ซึ่งก็คือ บรรดากรรมการสิทธิมนุษยชนทั้งหมดนั้น ผมหวังให้มีการเขียนกฎให้ผ่านกระบวนการคัดกรองโดยภาคประชาชนด้วย ทั้งนี้เพราะว่า การทำงานของคณะกรรมการในบางเรื่องที่อ่อนไหวและ/หรือส่อการเอื้อประโยชน์ผ่านความคุ้นเคยหรือเส้นสายวงศ์วานอย่างน่าเกลียด เช่น กรรมการชุดปัจจุบันบางคนที่เป็นนายตำรวจ ปรากฏว่ามีลูกหลานเป็นหมออยู่ทั้งนั้น แล้วก็เป็นคนเดียวกับที่ทำหน้าที่ ผ.ช. ผบ. สตช. ซึ่งตอบจดหมายร้องเรียนของเครือข่ายฯนี้เรื่องที่ อดีต ผบ. สตช. โกวิทย์ วัฒนะ ( ซึ่งมีภรรยาเป็นหมอ) มีหนังสือเวียนไป ส.น. ทั่วประเทศให้งดเว้นการรับแจ้งความคดีแพทย์ (ซึ่งด้วยความซวยอย่างบังเอิญจริงๆ ที่หนึ่งในคดีของเครือข่ายฯ นี้ก็ดันเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยที่มีเรื่องกับหมอซะด้วยเลย) แล้วท่าน ก.ก. สิทธฺฯ คนนี้ที่เป็น ผช. ผบ.ตร. ก็ตอบปฏิเสธข้อร้องเรียนของเครือข่ายฯ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเราให้บุคคลอย่างนี้มาทำหน้าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนได้ยังไงกัน ??? เฮ้อ น่าสมเพชเวทนาเมืองไทยเราจริงๆ

ข้อที่สาม

ในรัฐธรรมนูญส่วนที่ว่าด้วยเรื่อง ศาล ผมไม่เห็นบทไหนเลยที่กล่าวถึงการให้โทษตุลาการที่ฉ้อฉล เลยอยากขอให้มีการระบุให้ชัดเจน เพราะผมเห็นว่า ในวงหรือแม้แต่สถาบันตุลาการ/ศาลนั้น ไม่มีใครกล้าแตะหรือเอ่ยถึง ซึ่งผมเข้าใจเอาเองว่า จะไปละเมิดอำนาจศาลและอาจล่อแหลมถึงละเมิดพระราชอำนาจ แต่จากข่าวเรื่องคดีซุกหุ้นภาค ๑ เรื่องสินบนตุลาการในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นี่เรื่องนึง คดีประวัติศาสตร์ที่ท่านอาจารย์สถิตย์ เล็งไธสง ฟ้องเนติบัณฑิตยสภาเรื่องการทุจริตการตัดสินผลสอบเนติบัณฑิตในการสอบเนติฯรุ่นของท่าน นี่ก็เรื่องนึง และท้ายที่สุดก็คดีที่ท่านประธานเครือข่ายฯ ฟ้องโรงพยาบาลพญาไท๑ และ ฟ้องแพทยสภา ซึ่งจากการดำเนินเรื่องที่ติดตามมาคือกรรมการสิทธิมนุษยชนสรุปชี้ว่าทั้งโรงพยาบาลพญาไท๑ และแพทยสภา กระทำละเมิดอย่างร้ายแรง และที่ศาลปกครองสูงสุดเช่นกันที่พิพากษาให้ (หลายคดีที่คนไข้ไปฟ้องแพทยสภาเอง) ให้สามารถทำได้ สวนกับคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่ท่านประธานเครือข่ายฯ ฟ้องแพทยสภา ซึ่งยกฟ้องท่านประธานฯบนแง่กฎหมายที่ว่า ท่านประธานฯไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่สามารถฟ้องได้

ทั้งหมดนี้เป็นที่สรุปได้ว่า ศาลเองไม่ว่าจะชั้นไหน ล้วนทำผิดได้ทั้งนั้น จะถึงขนาดฉ้อฉลหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ผิดแล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ประชาชนที่เป็นคู่ความทางคดีกับคู่กรณีซึ่งไม่เป็นฝ่ายรัฐเอง หรือไม่ก็เป็นฝ่ายที่มีอำนาจเงินและเส้นสายมากกว่าในการต่อสู้ตามกระบวนการ

อย่างนี้แล้ว เมื่อไรเมื่อไหร่ ความสมานฉันท์ปรองดอง ไม่มีวันเกิดหรอกครับ และที่สำคัญ การตัดสินและความเป็นไปในหลายกรณีที่ผมว่า เท่ากับเป็น การทรยศต่อพระปรมาภิไทที่องค์พ่อหลวงทรงไว้วางพระราชหฤทัยพระราชทานให้ไว้กับ "ศาลสถิตย์ยุติธรรม" ซึ่งผู้พิพากษาทุกๆท่านต่างล้วนเคยเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วทั้งนั้น
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [18 มิ.ย. 53 11:42] ( IP A:58.8.42.79 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน