จุรินทร์ ปัดเสนอ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ฉบับเอ็นจีโอ
|
ความคิดเห็นที่ 1 ขณะที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาเห็นด้วยที่จะมี พ.รบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขพ.ศ... เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ไม่เห็นด้วยในวิธีการโดยเฉพาะประเด็นที่จะเอาผิดกับแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำการรักษา หลักการของพรบ.ฉบับนี้คือเยียวยาผู้เสียหาย และลดปัญหาการฟ้องร้อง ยังไม่มีสาระสำคัญส่วนไหนที่ระบุว่าจะเอาผิดกับแพทย์หรือพยาบาลเลย เพียงแต่ร่าง 7 ฉบับนั้นสาระต่างกันออกไปเพียงเล็กน้อย แต่สามารถไปปรับได้ในสภาฯ ฝนยังไม่ตกนายกแพทยสภาก็กางร่มแล้ว จะหาเสียงไปถึงไหน
และการให้ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นร่วมเป็นคณะกรรมการในการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับทางการแพทย์ที่มีลักษณะเฉพาะ เพราะเป็นเหมือนการใช้ระบบเสียงข้างมากในการตัดสินหลักการทางการแพทย์ โดยไม่คำนึงถึงข้อมูลเชิงวิชาการด้านการแพทย์ใดๆทั้งสิ้น ประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่าย เขายึดหลักโปร่งใสตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาปัญหาเกิดเพราะแพทยสภาประกอบไปด้วยแพทย์ทั้งสิ้นไม่มีคนนอกอยู่เลยไม่ใช่หรือ ความเป็นธรรมพวกคุณไม่เคยให้ชาวบ้านแล้วยังกล้าออกมาพูดแบบนี้อีก
นายกแพทย์สภา กล่าวด้วยว่า จากศึกษารายงานกฎหมายในลักษณะใกล้เคียงกันถึง 10 ฉบับ พบว่า หลักการดำเนินการในเรื่องนี้ของประเทศสวีเดนเหมาะที่ประเทศไทยจะนำมาปรับปรุง เนื่องจากการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับความเสียหาย โดยยึดหลักหากแพทย์รักษาด้วยวิธีการที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แล้วเกิดความผิดพลาดขึ้น จะไม่มีการจ่ายเงินชดเชย แต่หากเกิดความผิดพลาดจากการรักษาที่สามารถหลีกเลี่ยงได้จึงจะมีการจ่ายชดเชย คนที่เขายกร่างกฎหมายฉบับนี้เขาศึกษาวิจัยกันมาดีแล้ว โดยยึดต้นแบบมาจากสวีเดนที่คุณพูดนั่นแหละ ไม่ใช่ไม่มีความรู้ คณะกรรมการของสวีเดนเขาก็ประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่าย เวลาเขายกร่างทำไมนายกแพทยสภาไม่เข้าไปมีส่วนร่วม แต่พอเขาทำเสร็จดีแต่วิจารณ์โดยไม่รู้ที่มาที่ไป
การดำเนินการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นี้ในไทยจะทำแบบผิวเผินไม่ได้ ควรมีทบทวน พิจารณา และศึกษาข้อมูลอย่างลึกซึ้ง โดยเทียบกับประเทศต่างๆที่มีการดำเนินการเช่นนี้ เมื่อได้ข้อสรุปควรเริ่มทดลองใช้ในบางพื้นที่ก่อนไม่ใช่เริ่มพร้อมกันหมดทั้งประเทศ เขาฟังความคิดเห็นกันนานเป็นปี ๆ คุณไม่รู้หรือ ผู้เชี่ยวชาญจากสวีเดนก็มาวิจารณ์กฎหมายฉบับนี้ของไทย ชมเปราะว่าก้าวไกลกว่าของเขาเรื่องการพัฒนาระบบป้องกันความเสียหาย ไม่เช่นนั้นกองทุนเท่าไหร่ก็จะไม่พอ การพิจารณาร่างนี้ไม่ได้ทำแบบผิวเผิน แพทยสภาส่งคนเข้าไปแต่ละครั้งเป็นกลุ่มหลายคน ฝ่ายผู้เสียหายเสียอีกส่วนใหญ่มีคนเดียวด้วยซ้ำไป คุณได้เปรียบทุกอย่างแล้ว จะเอาอะไรอีก
ท้ายที่สุดหากร่างพรบ.นี้มีผลบังคับใช้โดยไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างลึกซึ้งและรอบด้าน ผลเสียจะเกิดกับประชาชนเอง อย่ามาขู่เสียให้ยาก ปล่อยให้ประชาชนไปพึ่งแพทยสภาน่ากลัวกว่าเยอะ เราไม่กลับไปพึ่งคุณหรอก
แพทย์ไม่เสียอะไรถ้าไม่อยากเสี่ยงกับการถูกฟ้องร้องก็แค่ไม่รักษา แต่ผู้ป่วยจะไม่มีคนรักษาโรค คุณก็ดีแต่จับคนไข้เป็นตัวประกัน เป็นถึงนายกแพทยสภาคิดได้แค่นี้หรือ คุณคือตัวปัญหาที่สร้างปัญหาให้สังคม ที่คอยยุหมอไม่ให้รักษาคนไข้ เวลาไม่ได้ดังใจ
และจะเป็นช่องโหว่ให้คนหาเงิน ด้วยการไปพบแพทย์บ่อยๆแล้ว อ้างว่าเกิดความเสียหายจากการรักษาของแพทย์เพื่อหวังได้เงินชดเชยโดยที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิดใดๆทั้งสิ้น เช่น ไปพบแพทย์แล้วบอกว่าแพ้ยา ก็จะได้เงินทันที ซึ่งเงินที่นำมาจ่ายก็ได้จากรัฐบาลและประชาชนที่ต้องเสียเงินมากขึ้นทั้งสิ้นศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว คุณพูดเหมือนคนอื่นเขาโง่ไปหมด คุณฉลาดอยู่คนเดียวใช่ไหมหมอสมศักดิ์ โล่ห์เลขา คุณต้องไปเช็คระบบประสาทและหัวใจของคุณว่ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า | โดย: เครือข่ายฯ [22 มิ.ย. 53 20:02] ( IP A:58.9.222.233 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ขณะที่อีก 5 ร่างนั้นเป็นของสส. ซึ่งส่วนใหญ่จะให้นำสำนักงานกองทุนฯ ไปอยู่ในความดูแลของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร(กทม.) อันนี้ขอแก้ข่าว..ว่าร่างพรบ.ของสส.นั้นส่วนใหญ่จะให้สำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่ที่สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร | โดย: เครือข่ายฯ [22 มิ.ย. 53 20:22] ( IP A:58.9.222.233 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 อ่านข่าวเสร็จตอนแรก ผมว่าจะช่วยโต้ตอบ แต่อ่านต่อพบว่ามีคนโต้แล้ว ผมก็วางใจได้ เพราะคิดเหมือนกัน ต่างกันนิดหน่อย สังคมสมัยนี้มันเรียนรู้ได้จากการทำงาน การไปเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่การเรียนรู้จริงๆเกิดจากการทำงาน คนไข้ต่อสู้มานานๆจะฉลาดที่หมอโกหกไม่ได้ นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมระยะหลังหมอไม่ยอมออกทีวีกับผู้เสียหาย มันน่าละอายที่ไม่กล้าสู้หน้าคน ผมว่าแพทย์ยังมองว่าคนไข้โง่เหมือนเดิม ที่ออกสื่อโกหกด้านเดียว ยิ่งพูดโกหก เครดิตตัวเองยิ่งเตี้ยลง
แพทย์ไม่เสียอะไรถ้าไม่อยากเสี่ยงกับการถูกฟ้องร้องก็แค่ไม่รักษา แต่ผู้ป่วยจะไม่มีคนรักษาโรค คุณก็ดีแต่จับคนไข้เป็นตัวประกัน เป็นถึงนายกแพทยสภาคิดได้แค่นี้หรือ คุณคือตัวปัญหาที่สร้างปัญหาให้สังคม ที่คอยยุหมอไม่ให้รักษาคนไข้ เวลาไม่ได้ดังใจ คงไม่จริงหรอก ก็ยังมีหมอที่ต้องการเงินประกอบอาชีพซื่อสัตย์เลี้ยงชีพ ยิ่งไม่มีคนทำ ยิ่งไม่ต้องแข่ง ผูกขาดรวยคนเดียว | โดย: คนโกหกอีกหน่อยเขาก็จับได้ [23 มิ.ย. 53] ( IP A:58.8.14.19 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ท้ายที่สุดหากร่างพรบ.นี้มีผลบังคับใช้โดยไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างลึกซึ้งและรอบด้าน ผลเสียจะเกิดกับประชาชนเอง อย่ามาขู่เสียให้ยาก ปล่อยให้ประชาชนไปพึ่งแพทยสภาน่ากลัวกว่าเยอะ เราไม่กลับไปพึ่งคุณหรอก อันนี้เห็นด้วย ผมเจอคดีไม่มีมูลบ่อย จนคิดว่าวันหนึ่งอาจได้เห็นกรรมการแพทยสภาติดคุกเพราะปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ | โดย: คงไม่นานเกินรอ [23 มิ.ย. 53] ( IP A:58.8.14.19 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 และจะเป็นช่องโหว่ให้คนหาเงิน ด้วยการไปพบแพทย์บ่อยๆแล้ว อ้างว่าเกิดความเสียหายจากการรักษาของแพทย์เพื่อหวังได้เงินชดเชยโดยที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิดใดๆทั้งสิ้น เช่น ไปพบแพทย์แล้วบอกว่าแพ้ยา ก็จะได้เงินทันที ซึ่งเงินที่นำมาจ่ายก็ได้จากรัฐบาลและประชาชนที่ต้องเสียเงินมากขึ้นทั้งสิ้นศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว คุณพูดเหมือนคนอื่นเขาโง่ไปหมด คุณฉลาดอยู่คนเดียวใช่ไหมหมอสมศักดิ์ โล่ห์เลขา คุณต้องไปเช็คระบบประสาทและหัวใจของคุณว่ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า พวกหมอคงไม่โง่ให้หลอกขนาดนี้ ก็ขนาดผิดเห็นๆยังเอาผิดไม่ได้เลย | โดย: ง่าย/โง่ อย่างนั้นก็ดีสิ [23 มิ.ย. 53] ( IP A:58.8.14.19 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องนี้เริ่มจากคนไข้ไทยเมื่อตกเป็นผู้เสียหาย รัฐไม่มีระบบรองรับปัญหา
มีสถิติของสถาบัน IOM คนไข้อเมริกันตายโดยป้องกันได้ในปี2543มากถึง 98,000-190,000 คน (Source: To Err Is Human. 2000. Kohn LT, Corrigan J, Donaldson MS, eds,. Washington, DC: National Academy, p.1.) ไทยเราไม่มีสถิติ แต่ประมานได้โดยเอา 4 หาร ก็จะได้ตัวเลขคนไข้ไทยตายโดยป้องกันได้ประมาน 24,500-47,500 คนต่อปี มากกว่ารถชนตายเสียอีก แต่ถูกปกปิดเอาไว้ หมอคือผู้มีพระคุณยามเจ็บป่วยเราต้องพึ่งหมอ แต่ขณะเดียวกันชีวิตเราบางครั้งก็เป็นเครื่องมือลองผิดลองถูกแต่กลับไม่มีระบบมาช่วยเหลือยามเกิดความผิดพลาดขึ้น
เมื่อได้รับความเสียหาย พึ่งแพทยสภาและหน่วยงานใดไม่ได้เลย เพราะช่วยกันหมด จนคนไข้ไม่มีทางออก บางคนสู้จนหมดเนื้อหมดตัว ทั้งที่ผิดเห็น ๆ ก็ยังเอาผิดไม่ได้
พอไปฟ้องศาลก็บ่นว่าหมอลาออก โยนบาปให้ผู้เสียหาย
ชาวบ้านไม่อยากฟ้องหมอ ไม่อยากให้หมอลาออกก็รวมกลุ่มเป็นเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ เรียกร้องให้รัฐจัดตั้งกองทุนชดเชยความเสียหาย จะได้ไม่ต้องฟ้องหมอให้เขาบ่น
เราคือประชาชนที่บริสุทธิ์จริง ๆ ไม่ใช่ม็อบรับจ้าง เรียกร้องตามยถากรรมมานาน 5 ปีจนพี่รวีวรรณถูกยิงตาย อดีตรัฐมนตรีสธ.นพ.มงคล ณ สงขลา จึงสั่งให้ยกร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ขึ้น
คณะทำงานยกร่างมีครบทุกหน่วยงาน หมอ, คนไข้(เครือข่ายผู้เสียหายฯ), กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง, นักกฎหมาย, นักวิชาการ และNGO จะเห็นได้ว่าไม่ใช่มีเพียง NGO ยกร่าง คนที่เขาไม่ใช่NGO ก็มีมาก
ข้อพิพาทเรื่องนี้มี 2เรื่อง 1. เรื่องแพทยสภาพยายามให้ใส่มาตราลงไปว่าห้ามฟ้องอาญาหมอ เครือข่ายฯ เองก็ไม่ต้องการให้คนไข้ฟ้องอาญาหมอเช่นกัน แต่นักกฎหมาย แม้กระทั่งกฤษฎีกาท่านบอกว่าทำไม่ได้ ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน มันขัดต่อประมวลกฎหมายอาญาหลักของบ้านเมือง และในร่างของภาคประชาชนก็ไม่มีแม้แต่มาตราเดียวที่ระบุว่าให้ฟ้องอาญาหมอได้ (แพทยสภาพูดเท็จ)
2.เรื่องสำนักงานกองทุน กระทรวงสธ.นำเอาสำนักงานกองทุนไปไว้กับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สังกัดกระทรวงสธ. ผู้เสียหายก็บอกว่าไม่เอาเพราะสธ.เป็นผู้ให้บริการถือเป็นคู่กรณีของผู้เสียหาย ไม่เหมาะสม กระทรวงให้เหตุผลว่ารัฐบาลไม่ให้ตั้งสำนักงานใหม่ ผู้เสียหายบอกว่าถ้าอย่างนั้นใช้ สปสช.ก็ได้เพราะมีสำนักงานอยู่แล้ว มีสาขาทั่วประเทศ มีประสบการณ์เรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่...สธ+แพทยสภาไม่เห็นด้วยเพราะแพทยสภามีความพยายามจะยุบสปสช.อยู่
ทีนี้ชาวบ้านอย่างเครือข่ายฯ จะหันซ้ายก็ไม่ได้ หันขวาก็ไม่ได้ เราก็เรียกร้องว่าอยู่ไหนก็ได้แต่ขอให้เป็นอิสระ
เป็นเรื่องของการแย่งอำนาจ การกลัวเสียอำนาจ ไม่เกี่ยวกับเรื่องหมอจะลาออก หมอจะลาออกได้อย่างไร ในเมื่อเวลาทำชาวบ้านเสียหายแล้ว มีกองทุนชดเชยให้อย่างเป็นธรรม ด้วยความรวดเร็วเรื่องไม่บานปลายจนเป็นคดีรกศาล ทำไมแพทยสภามองในแง่ร้ายจนเกินไป
แพทยสภาเอาเวลาไปคิดเรื่องจะคืนหมอ+พยาบาลกลับสู่รพ.รัฐได้อย่างไรดีกว่า เพราะดูดไปอยู่รพ.เอกชนของตนเองเอาไปรักษาฝรั่งต่างชาติฟันกำไรกันปีละนับแสนล้าน โดยไม่ได้ลงทุนผลิตหมอแม้แต่บาทเดียว | โดย: เถียงกันยาว [23 มิ.ย. 53 17:56] ( IP A:58.9.187.236 X: ) |  |
|