consumer.pantown.com
เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กรุณาโพสต์ข้อความที่นี่ <<
กลับไปหน้าแรก
แย้งทุกเรื่อง
*จดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีทุกท่าน
25 มิ.ย. 2553
เรื่อง ขอให้พิจารณาไม่ให้พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขผ่านมต ิเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
เรียน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีทุกท่าน
ตามที่ได้ทราบมาว่า มีร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขพ.ศ. .... รอเข้าวาระเร่งด่วนในการพิจารณาออกมาเป็นกฎหมายใช้บังคับอยู่ 6 ร่าง เรียงตามลำดับที่เสนอคือ
1.นายเจริญ จรรย์โกมล และสส.พรรคพลังประชาชน 24 เม.ย. 2551
2.นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และสส.พรรคพลังประชาชน 2 ต.ค. 2551
3.นายสุทัศน์ เงินหมื่น และสส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 พ.ย. 2552
4.นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ และสส.พรรคภูมิใจไทย 19 พย. 2552
5.นส.สารี อ๋องสมหวัง และประชาชนอีก 10,007 คน 5 มิย. 2552
6.ค.ร.ม.โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 27 เมย. 2553 เสนอเป็นเรื่องด่วนเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ร่างพ.ร.บ.ทั้งหมดมีหลักการและเหตุผล คล้ายๆกันคือ อ้างว่าความเสียหายจากบริการสาธารณสุขยังไม่ได้รับการเยียวยา ในทันที ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เปลี่ยนไป จึงแก้ปัญหาโดยการจัดตั้งกองทุนเพื่อชดเชยความเสียหาย ส่งเสริมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
-ข้อสังเกตจากกลุ่มผู้ที่จะต้องตกเป็นจำเลย (ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข)
คัดค้านจากกลุ่มผู้เสียหายที่จะต้องตายและพิการ ขายบ้านขายช่องบ้านแตกสาแหรกขาดไม่มีการเยียวยา และตายซ้ำซากเพราะการปกปิดหมกเม็ด
1.ความเสียหายเกิดขึ้นเพราะอะไร?
ตอบ เพราะบุคลากรน้อย ผู้ป่วยมาก ควรแก้ปัญหาที่นั่น จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย ดีกว่าการที่จะมาเยียวยา หลังจากประชาชนเสียหายแล้ว
แย้ง จากกรณีที่พบมา เป็นเพราะขาดการดูแลเอาใจใส่ และขาดความระมัดระวัง ไม่เห็นชีวิตผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญ เช่นทำหัตถการโดยที่ไม่ศึกษาเตรียมพร้อมช่วยเหลือหากเกิดปัญหา คนไข้บอกแพ้ยาหมอก็ไม่เชื่อ และหลักฐานที่สำคัญ คือในประเทศสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ามีความพร้อมทางด้านบุคคลากรมากที่สุด ก็ยังผิดพลาดมากจนคนไข้ตายมากกว่ามะเร็ง หรืออุบัติเหตุ อันนี้ไม่เห็นด้วย เห็นว่าโกหก
2. คณะกรรมการที่จะมาตัดสินชี้ขาดว่าเป็นความเสียหายนั้น ไม่ใช่ผู้มีความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นส่วนใหญ่ และการตัดสินชี้ขาดไม่ได้อาศัยหลักวิชาการทางการแพทย์ แต่ใช้การตัดสินจากอารมณ์ความรู้สึกของคณะกรรมการที่ไม่มีความรู้ ทางการแพทย์ โดยการนับคะแนนเสียงข้างมาก
แย้ง /////// อันนี้ก็โกหกอีก ก็ยังไม่ได้ตั้งใครเลยจะไปว่าเขาไม่มีความรู้ได้อย่างไร แต่ที่เจอในศาลมีแต่พวกมีความรู้ไปเบิกความเท็จทั้งนั้น คดีไม่มีมูล คนไข้ฟ้อง ยังตามไปเบิกความเท็จ ศาลลงโทษให้จ่าย เคยพิจารณาตัวเองไหม พวกรู้มากแต่ชอบโกหก
บรรทัดฐานการตัดสินเรื่องความเสียหายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามมติกรรมการนั้นจะเชื่อถือได้หรือไม่
แย้ง ////// ถ้าไม่เชื่อก็ฟ้องศาลปกครองได้นี่นา
เหมือนกับเอาคนที่ไม่ได้ใบประกาศรับรองว่าเป็นกรรมการตัดสิน ฟุตบอล ให้ไปเป็นกรรมการในสนามแข่งขันฟุตบอลโลก แล้วจะเชื่อถือได้หรือไม่ว่า เป็นการตัดสินที่ถูกต้อง ยุติธรรม มีมาตรฐาน
แย้ง //// สมัยก่อนมีการให้ใบประกาศนียบัตร ทั้งหมอและทั้งกรรมการ ก็เป็นหมอเป็นกรรมการจนกระทั่งมาถึงยุคให้ประกาศนียบัตรทั้งหมอทั้งพยาบาล แล้วก็ลืมตีนกันว่าไม่มีใบประกาศก็ทำงานดีจนมีทุกวันนี้ คนทำดีหรือเลว ประกาศนียบัตรไม่เกี่ยวหรอก ผมแก้งานผู้เชี่ยวชาญที่มีประกาศนียบัตรของแพทยสภาก็แก้บ่อย ทำผ่าตัดเละเทะทั้งๆที่มีประกาศนียบัตรแพทยสภารับรอง ไม่มีความหมายหรอกครับ สิ่งสำคัญอยู่ที่คุณทำอะไร แล้วเหตุผลมันถูกหรือไม่ต่างหาก
การมีพ.ร.บ.นี้ จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานภายใต้ความกดดัน เกิดความอึดอัดคับข้องใจ เครียด มีความเจ็บปวด(ปวดใจ ที่ตั้งใจช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ แต่ต้องคอยระวังว่าจะถูกทำร้ายกลับโดยการฟ้องร้องหรือเปล่า) มีความทุกข์ทรมาน และความหวาดกลัวว่าจะตกเป็นจำเลยของคณะกรรมการ จำเลยของศาลอีก หลายศาล และเป็นจำเลยสังคม (ถูกประณามหยามเหยียด) ที่ผู้ป่วยและญาติจะกลายมาเป็นผู้ เสียหาย และตนเองจะตกเป็นผู้ถูกสอบสวนและยังจะต้องถูกฟ้องศาลได้อีก ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
แย้ง //// เรื่องแบบนี้คุณก็ผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ ทำข้อสอบไม่ได้ก็สอบตกไม่ได้เป็นหมอ และยังอายเพื่อนอีก แต่คุณก็ต้องทนอ่านหนังสือ ทำงาน จนจบมาได้ คนทำงานทุกคนต่างตกเป็นจำเลยทั้งนั้น จะมากหรือน้อย ก็อีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิ์ถูกฟ้องได้ ดู กกต สามหนาห้าห่วง ปปช ขึ้นเงินเดือนตัวเอง ฯลฯ
ทำให้พ.ร.บ.นี้ เพิ่มช่องทางการฟ้องบุคลากรทางการแพทย์อีก 1 ช่องทาง นอกจากการฟ้องสภาวิชาชีพ และฟ้องศาลแพ่ง/ศาลอาญาแล้ว และการตัดสินตามพ.ร.บ.นี้ก็ใช้บุคคลที่ไม่รู้เรื่องวิชาการทางการแพทย์และสา ธารณสุขมาตัดสิน ซึ่งเชื่อได้ว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างแน่นอน
แย้ง/// คุณก็ฝนยังไม่ตกก็กางร่ม แล้วก็ว่าคนอื่นว่าเลวตั้งแต่ยังไม่ทำงาน ส่วนช่องทางฟ้องที่เพิ่มนั่นก็ไม่ใช่ เขาร้องเรียนเรียกค่าชดเชยที่คุณทำงานพลาด แต่คุณก็หาว่าเขาฟ้องร้อง คำว่าฟ้องร้องใช้กับศาล คุณต้องใช้คำว่าร้องเรียน และการร้องเรียนเขาร้องเรียนเรียกค่าเสียหาย ไม่ได้ร้องเรียนให้เอาเรื่องคน ส่วนเรื่องไม่มีมาตรฐานทางการแพทย์นั้นก็ต้องเชื่อคุณ เพราะคงไม่ได้เป็นมาตรฐานดีแล้วแบบที่พวกคุณตัดสินแน่นอน เพราะที่ตัดสินมาว่าได้มาตรฐานดีแล้วนั้น ชาวบ้านเขาอ๊วกแตกเป็นประจำ
บุคลากรที่ปฏิบัติงานบริการรับใช้ประชาชน คงจะไม่ได้รับความยุติธรรม เสื่อมเสียชื่อเสียง จากการถูกร้องเรียน/ฟ้องร้องมากขึ้น
แย้ง //// คุณก็ดูถูกระบบตรวจสอบ ระบบยุติธรรมไปหมด ทั้งๆที่พวกคุณก็บอกไม่มีมูลตลอด และแต่ละคดีที่ถูกฟ้อง ก็สมควรเสียชื่อเสียง ต่อไปหมอจะได้ระวัง ผมก็โดนหน้า 1 เป็นประจำแต่คนไข้ก็แน่นคลินิกทุกวัน เขาเข้าใจว่าอะไรดีไม่ดี คนไม่ดีก็ไปไม่รอด คนดี ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนคงจะ ไม่ดีขึ้นตามที่ผู้เสนอพ.ร.บ.นี้ต้องการอย่างแน่นอน เพราะประชาชนได้รับ การรักษา ได้รับการช่วยเหลือและได้รับการชดเชย แต่แพทย์ทำงานดูแลรักษา ต้องถูกสอบสวน ถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุแห่งความเสียหาย
แย้ง ผมว่าความสัมพันธ์จะดีเพราะท่อนแรก แต่ท่อนหลังหากว่าคุณใจกว้างรับได้ว่าผิด ผมก็ว่าความสัมพันธ์ก็จะดี ในเมืองนอกเขามีนโยบายให้หมอรับผิด หัดพูดว่าผมผิด ผมขอโทษ ผมเสียใจ แต่เมืองไทยคำพวกนี้ ไม่หัดพูด ก็ต้องตกนรกไป ก็เมืองนอกทำผิดก็สารภาพบาปได้
บุคลากรทางการแพทย์ ก็คงจะไม่กล้ารับรักษาผู้ป่วย เพราะเกรงว่า ถ้าผู้ป่วยตายไปในระหว่างการรักษา ก็จะถูกร้องเรียนว่าทำให้เกิดความเสียหาย และต้องถูกสอบสวนแน่นอน ก็ต้องจำใจที่จะเลือกส่งผู้ป่วยไปตายเอาดาบหน้า
แย้ง///// ส่งไปตายดาบหน้า ก็โดนลงโทษเหมือนกัน มีคดีโดนมาแล้ว พยายามช่วยจนตายจะไม่โดนลงโทษ กฏหมายยกเว้นความผิดให้
การให้กรรมการที่ไม่รู้เรื่องมาตรฐานทาง การแพทย์มาตัดสินการประกอบวิชาชีพแพทย์ จึงเป็นการทำลายล้างมาตรฐานการแพทย์ที่ดี ของวงการแพทย์ไทย สภา วิชาชีพไม่สามารถควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพที่รับผิดชอบชีวิต และสุขภาพของมนุษย์ได้ ต้องให้คนที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์มาตัดสิน
แย้ง//// ทุกวันนี้ที่มีปัญหาก็คือให้กรรมการที่มีความรู้ มาตัดสินแพทย์เข้าข้างแพทย์ สิ่งที่คุณพูดมา ถ้าคนไข้ดู ว่าเขาคิดยังไง การตัดสินผิดหรือถูกนั้น เขาใช้เหตุผล ไม่ใช่ความรู้
สภาวิชาชีพและผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์สาขาต่างๆจากราชวิทยา ลัยแพทย์สาขาต่างๆ ก็ไม่มีความหมายในการที่จะทำหน้าที่ในการควบคุมการประกอบวิชาชีพให้ เป็นไปตามมาตรฐานที่ดีที่สุด เพราะไม่สามารถที่จะรับรองได้ว่ามาตรฐานที่ดีที่สุดคืออย่างไร
แย้ง ///// อันนี้คงไม่ใช่ มาตรฐานคุณแทบไม่ต้องตั้งเลย ตอนนี้แทบจะเป็นมาตรฐานโลกไปแล้ว สิ่งที่เราพบจากราชวิทยาลัย คือการทำลายมาตรฐานทางการแพทย์โดยชี้ว่าไม่มีมูล นี่เป็นเรื่องอันตรายต่อสภาวิชาชีพเอง เป็นการทำลายสภาวิชาชีพให้กลายเป็นสภาสภาวิชาชีพฉ้อฉลได้อย่างมีมาตรฐาน
เพราะมีคนอื่นมาเป็นผู้ตัดสินว่าการประกอบวิชาชีพนั้นมีมาตรฐาน หรือไม่/อย่างไร
การออกพ.ร.บ. นี้ จึงเป็นการบ่อนทำลายมาตรฐานการแพทย์ที่บรรพบุรุษของแพทย์ไทยได้ สั่งสมมาอย่างยาวนาน สภาวิชาชีพไม่ต้องมีก็ได้ ถือเป็นการยุบแพทยสภา(ทั้งๆที่แพทยสภาได้ทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง มีกรรมการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาการแพทนย์ที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง ) โดยคณะรัฐบาลชุดนี้ ที่มีหัวหน้ารัฐบาลมาจากครอบครัวแพทย์
แย้ง//// ผมว่าพวกที่ค้านๆ พรบ. นี้อยู่นี่จึงเป็นพวกทำลายสภาวิชาชีพตัวจริง สภาวิชาชีพในอดีตคงถึงกาลอวสานหากไม่แก้ไข แต่อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าตุลาการภิวัฒน์จะทำลายคนเลว เพื่อความคงอยู่ของสภาวิชาชีพ เมื่อไหร่มีคนโดน 157 ก็คงจะดีขึ้น
3.การยืดเวลาความเสียหายไปถึง 3 ปี นับจากผู้เสียหายรู้ว่าเกิดความเสียหาย ไม่ได้นับจากเวลาที่เกิดเหตุการณ์เป็นการยากที่จะพิสูจน์คำกล่าว อ้างของผู้เสียหาย ว่าทราบความเสียหายเมื่อใด)
แย้ง///// คุณเป็นสุภาพบุรุษในวงราชการ คุณไม่ควรอ้างเรื่องอายุความ
และการยืดอายุความไปถึง 3 ปี เหมือนพ.ร.บ.วัตถุอันตราย หรือพ.ร.บ.สินค้าที่ไม่ปลอดภัย น่าคิดว่าคนเสนอกฎหมายมองว่า บุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพทั้งหมดเป็น วัตถุอันตรายหรือสินค้าไม่ปลอดภัย หรือบุคคลอันตราย สำหรับ ประชาชนทั่วไป
แย้ง//// ผมว่าอันตรายกว่า จึงตายมากกว่ารถชนกัน ผมว่าเขาคิดถูก
ซึ่งเป็นการทำร้ายจิตใจของบุคลากรทางการแพทย์ (ความเสียหายนี้ ใครจะเป็นผู้เยียวยา) ที่คิดแต่จะช่วยผู้คนให้หายเจ็บป่วย และมีสุขภาพดี มิใช่เป็นอาชญากร
แย้ง/// กฎหมายเขาลงโทษคนเลว ยังมีศาลช่วยตรวจสอบ คุณน่าจะดีใจที่คนเลวๆจะได้ออกจากวิชาชีพคุณ อย่างน้อย ผมก็เคยโดนพยายามเขี่ยออกมาหลายที ถ้าเลวก็ยินดีไป ยังไม่เคยโวยวาย
4. การบังคับเก็บเงินจากโรงพยาบาล คลินิก และอื่นๆที่รักษาผู้ป่วย เป็นการบังคับให้ ประกันความเสียหาย โรงพยาบาลก็ต้องขึ้นราคาค่าบริการทางการแพทย์มากขึ้น รัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินสองต่อ คือเงินค่ารักษา (ตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) และเงินช่วยทำศพและชดเชยความเสียหาย
แย้ง //// แค่ 3 % และคนไข้เขายินดีจ่ายเพิ่ม หมอไม่ต้องควัก บ่นทำไม
5.ทำไมรัฐบาลไม่คิดปฏิรูปการบริการทางการแพทย์ให้มีมาตรฐาน โดยการช่วยให้โรงพยาบาลมีบุคลากรให้ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือตามาตรฐาน จะได้รักษาประชาชนได้ตามมาตรฐาน
เพื่อช่วยให้กระทรวงสาธารณสุขให้บริการที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย คงจะดีกว่าปล่อยให้มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลแต่มีบุคลากรไม่เพียงพอ ต้องรีบเร่งทำงาน เสี่ยงต่อความผิดพลาด แล้วก็คอยออกกฎหมายมาซ้ำเติมบุคลากรที่ต้องรับ ภาระงานหนัก และประชาชนไม่ปลอดภัย
บุคลากรเป็นทุกข์ เครียด หวาดกลัวและหวาดหวั่น (อ้างตามข้อความในพ.ร.บ.ที่ยื่นเข้าสภา) ว่าประชาชนต้องได้รับค่าชดเชยนี้ แต่บุคลากรจะได้ด้วยหรือไม่?
แย้ง//// คนไข้ล้นโรงพยาบาล ก็คุณผูกขาด จะได้ค่าแรงดี ขูดรีดได้ เป็นลูกไก่ในกำมือ เมื่อไหร่เลิกผูกขาด ก็จะดีขึ้นเอง ไปโทษรัฐบาลทำไม
รัฐบาลจ่ายเงินค่ารักษาประชาชน และค่าเยียวยาประชาชน
แต่บุคลากรที่เสียขวัญ และมาตรฐานการแพทย์ที่ควบคุมโดยสภาวิชาชีพจะเสียหาย รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรจะรับผิดชอบอย่างไร?
คุณก็ไปเรียกหากฎหมายคุ้มครองคุณเอง ซิ ดูซิว่าคนเขาจะรับได้ไหม ห้ามฟ้องอาญาหมอ
ระบบบริการสาธารณะด้านสาธารณสุขไทยคงรอวันล่มสลาย เพราะประชาชนที่มารับบริการได้รับบริการฟรี โดยโรงพยาบาลและรัฐบาลประกันความเสียหาย ส่วนบุคลากรเป็นฝ่ายรับความเสียหายสถานเดียว ทั้งๆที่อดทนทำงานหนัก เพื่อบริการประชาชน
หรือให้อดทนต่อไป ใครทนไม่ได้ก็ลาออกไปอยู่ medical hub ที่รัฐบาลสนับสนุนต่อไป
แย้ง //// ไม่ล่มหรอกเว้นแต่พวกคุณยังอยู่ ก็ไม่แน่
สรุป ความเห็นจากสมาชิกสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทยคือ
การเขียนกฎหมายแบบนี้ จะกระทบต่อมาตรฐานวิชาชีพ และเป็นการผลักภาระให้แก่บุคคลากรและหน่วยงานทางการสาธารณสุขเกิน สัดส่วน
ไม่สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน
แย้ง//// ก็คุณไม่เคยเห็นสิ่งที่ดี ในกฎหมายฉบับนี้
แพทยสภา จะหมดความหมายไปในทันที ระบบตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพถูกทำลาย ทำให้การรักษามาตรฐานและจริธรรมธรรมของบุคคลากรด้านสาธาณสุข หลุดออกจากกระแสของพัฒนาการในระดับนานาชาติที่กำลังดำเนินอยู่ และอาจจะ เรว ร้ายจนกระทบต่อพัฒนาการการรักษาผู้ป่วยในอนาคต
เพียงเท่านี้ ก็ไม่สมควรมีกฎหมายฉบับนี้แล้ว
แย้ง //// ความจริงแพทยสภาก็ไม่มีความหมายอยู่แล้วทุกวันนี้ ผู้เสียหายเขาไม่ศรัทธา เพราะเขาไม่เชื่อในความเป็นกลางของแพทยสภา ระบบตรวจสอบคุณหมดความหมายไปนานแล้วเนื่องจากกรณีที่คุณตัดสินไม่เป็นธรรมว่า แพทย์ทำได้มาตรฐานดีแล้ว ทุกวันนี้ แพทยสภาเป็นผู้สร้างปัญหา ทำให้แพทย์ไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร เพราะไม่ลงโทษเมื่อแพทย์ทำผิด เรื่องนี้ผู้เสียหายเขาทราบดี ศาลท่านก็ทราบดี จึงตัดสินให้คดีที่แพทยสภาบอกไม่มีมูลแพ้คดี แม้ว่าจะไม่หมดสิ้นทุกคดี แต่เพียงแค่คดีเดียวผมว่าแพทยสภาน่าจะพิจารณาลาออกได้แล้ว อาจเขาบ้าง
กฎหมายสร้างปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหา เอาแต่ได้อย่างเดียว ไม่ได้พิจารณาผลกระทบและความเสียหาย ที่จะติดตามมา ซึ่งยากต่อการเยียวยาหรือสร้างระบบให้กลับคืนมาใหม่ได้.
ขอเรียกร้องให้ค.ร.ม. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณาพ.ร.บ.นี้เพื่อไม่ให้กฎหมาย ฉบับนี้ ผ่านมติสภาผู้แทนราษฎร
แย้ง/// กฎหมายสร้างปัญหาให้ทรชนเสมอ และกฏหมายแม้บางครั้งมีผลกระทบต่อสุจริตชน แต่กฎหมายก็แก้ไขปัญหาที่ไม่เป็นธรรมในสังคม การอ้างว่ากฎหมายสร้างปัญหาทั้งที่แท้จริงแล้วกฎหมายนี้แก้ปัญหาคนไข้ที่ตายจากความผิดพลาดที่ป้องกันได้ปีละมากกว่ารถยนต์ชนคนตาย คนที่พยายามล้มกฎหมายนี้จึงต้องพิจารณาตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำความดีหรือทำบาปทำกรรม คนไข้สมัยนี้เขาไม่ได้โง่ที่จะให้หมอกดขี่ ยุคนี้สังคมอินเตอร์เน็ทรู้ถึงกันทั่วโลกทุกปัญหาและวิชาการ จึงเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัว ไม่ใช่เรื่องต้องแก้ตัว ก็หวังว่าในโลกนี้ไม่มีสภาควาย ที่จะระงับกฎหมายที่มีประโยชน์ ถ้ามิฉนั้นก็ต้องถือว่าเป็นกรรมของคน ไม่ใช่กรรมของสัตว์
โดย: ผลัดกันแย้ง [25 มิ.ย. 53 14:43] ( IP A:58.8.11.228 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
จดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีทุกท่าน
25 มิ.ย. 2553
เรื่อง ขอให้พิจารณาไม่ให้พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขผ่านมต ิเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
เรียน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีทุกท่าน
ตามที่ได้ทราบมาว่า มีร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขพ.ศ. .... รอเข้าวาระเร่งด่วนในการพิจารณาออกมาเป็นกฎหมายใช้บังคับอยู่ 6 ร่าง เรียงตามลำดับที่เสนอคือ
**********************************************
1.นายเจริญ จรรย์โกมล และสส.พรรคพลังประชาชน 24 เม.ย. 2551
2.นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และสส.พรรคพลังประชาชน 2 ต.ค. 2551
3.นายสุทัศน์ เงินหมื่น และสส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 พ.ย. 2552
4.นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ และสส.พรรคภูมิใจไทย 19 พย. 2552
5.นส.สารี อ๋องสมหวัง และประชาชนอีก 10,007 คน 5 มิย. 2552
6.ค.ร.ม.โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 27 เมย. 2553 เสนอเป็นเรื่องด่วนเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ร่างพ.ร.บ.ทั้งหมดมีหลักการและเหตุผล คล้ายๆกันคือ อ้างว่าความเสียหายจากบริการสาธารณสุขยังไม่ได้รับการเยียวยา ในทันที ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เปลี่ยนไป จึงแก้ปัญหาโดยการจัดตั้งกองทุนเพื่อชดเชยความเสียหาย ส่งเสริมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
-ข้อสังเกตจากกลุ่มผู้ที่จะต้องตกเป็นจำเลย (ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข)
คัดค้านจากกลุ่มผู้เสียหายที่จะต้องตายและพิการ ขายบ้านขายช่องบ้านแตกสาแหรกขาดไม่มีการเยียวยา และตายซ้ำซากเพราะการปกปิดหมกเม็ด
**********************************************
1.ความเสียหายเกิดขึ้นเพราะอะไร?
ตอบ เพราะบุคลากรน้อย ผู้ป่วยมาก ควรแก้ปัญหาที่นั่น จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย ดีกว่าการที่จะมาเยียวยา หลังจากประชาชนเสียหายแล้ว
แย้ง จากกรณีที่พบมา เป็นเพราะขาดการดูแลเอาใจใส่ และขาดความระมัดระวัง ไม่เห็นชีวิตผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญ เช่นทำหัตถการโดยที่ไม่ศึกษาเตรียมพร้อมช่วยเหลือหากเกิดปัญหา คนไข้บอกแพ้ยาหมอก็ไม่เชื่อ และหลักฐานที่สำคัญ คือในประเทศสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ามีความพร้อมทางด้านบุคคลากรมากที่สุด ก็ยังผิดพลาดมากจนคนไข้ตายมากกว่ามะเร็ง หรืออุบัติเหตุ อันนี้ไม่เห็นด้วย เห็นว่าโกหก
**********************************************
2. คณะกรรมการที่จะมาตัดสินชี้ขาดว่าเป็นความเสียหายนั้น ไม่ใช่ผู้มีความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นส่วนใหญ่ และการตัดสินชี้ขาดไม่ได้อาศัยหลักวิชาการทางการแพทย์ แต่ใช้การตัดสินจากอารมณ์ความรู้สึกของคณะกรรมการที่ไม่มีความรู้ ทางการแพทย์ โดยการนับคะแนนเสียงข้างมาก
แย้ง /////// อันนี้ก็โกหกอีก ก็ยังไม่ได้ตั้งใครเลยจะไปว่าเขาไม่มีความรู้ได้อย่างไร แต่ที่เจอในศาลมีแต่พวกมีความรู้ไปเบิกความเท็จทั้งนั้น คดีไม่มีมูล คนไข้ฟ้อง ยังตามไปเบิกความเท็จ ศาลลงโทษให้จ่าย เคยพิจารณาตัวเองไหม พวกรู้มากแต่ชอบโกหก
**********************************************
บรรทัดฐานการตัดสินเรื่องความเสียหายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามมติกรรมการนั้นจะเชื่อถือได้หรือไม่
แย้ง ////// ถ้าไม่เชื่อก็ฟ้องศาลปกครองได้นี่นา
**********************************************
เหมือนกับเอาคนที่ไม่ได้ใบประกาศรับรองว่าเป็นกรรมการตัดสิน ฟุตบอล ให้ไปเป็นกรรมการในสนามแข่งขันฟุตบอลโลก แล้วจะเชื่อถือได้หรือไม่ว่า เป็นการตัดสินที่ถูกต้อง ยุติธรรม มีมาตรฐาน
แย้ง //// สมัยก่อนมีการให้ใบประกาศนียบัตร ทั้งหมอและทั้งกรรมการ ก็เป็นหมอเป็นกรรมการจนกระทั่งมาถึงยุคให้ประกาศนียบัตรทั้งหมอทั้งพยาบาล แล้วก็ลืมตีนกันว่าไม่มีใบประกาศก็ทำงานดีจนมีทุกวันนี้ คนทำดีหรือเลว ประกาศนียบัตรไม่เกี่ยวหรอก ผมแก้งานผู้เชี่ยวชาญที่มีประกาศนียบัตรของแพทยสภาก็แก้บ่อย ทำผ่าตัดเละเทะทั้งๆที่มีประกาศนียบัตรแพทยสภารับรอง ไม่มีความหมายหรอกครับ สิ่งสำคัญอยู่ที่คุณทำอะไร แล้วเหตุผลมันถูกหรือไม่ต่างหาก
**********************************************
การมีพ.ร.บ.นี้ จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานภายใต้ความกดดัน เกิดความอึดอัดคับข้องใจ เครียด มีความเจ็บปวด(ปวดใจ ที่ตั้งใจช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ แต่ต้องคอยระวังว่าจะถูกทำร้ายกลับโดยการฟ้องร้องหรือเปล่า) มีความทุกข์ทรมาน และความหวาดกลัวว่าจะตกเป็นจำเลยของคณะกรรมการ จำเลยของศาลอีก หลายศาล และเป็นจำเลยสังคม (ถูกประณามหยามเหยียด) ที่ผู้ป่วยและญาติจะกลายมาเป็นผู้ เสียหาย และตนเองจะตกเป็นผู้ถูกสอบสวนและยังจะต้องถูกฟ้องศาลได้อีก ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
แย้ง //// เรื่องแบบนี้คุณก็ผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ ทำข้อสอบไม่ได้ก็สอบตกไม่ได้เป็นหมอ และยังอายเพื่อนอีก แต่คุณก็ต้องทนอ่านหนังสือ ทำงาน จนจบมาได้ คนทำงานทุกคนต่างตกเป็นจำเลยทั้งนั้น จะมากหรือน้อย ก็อีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิ์ถูกฟ้องได้ ดู กกต สามหนาห้าห่วง ปปช ขึ้นเงินเดือนตัวเอง ฯลฯ
**********************************************
ทำให้พ.ร.บ.นี้ เพิ่มช่องทางการฟ้องบุคลากรทางการแพทย์อีก 1 ช่องทาง นอกจากการฟ้องสภาวิชาชีพ และฟ้องศาลแพ่ง/ศาลอาญาแล้ว และการตัดสินตามพ.ร.บ.นี้ก็ใช้บุคคลที่ไม่รู้เรื่องวิชาการทางการแพทย์และสา ธารณสุขมาตัดสิน ซึ่งเชื่อได้ว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างแน่นอน
แย้ง/// คุณก็ฝนยังไม่ตกก็กางร่ม แล้วก็ว่าคนอื่นว่าเลวตั้งแต่ยังไม่ทำงาน ส่วนช่องทางฟ้องที่เพิ่มนั่นก็ไม่ใช่ เขาร้องเรียนเรียกค่าชดเชยที่คุณทำงานพลาด แต่คุณก็หาว่าเขาฟ้องร้อง คำว่าฟ้องร้องใช้กับศาล คุณต้องใช้คำว่าร้องเรียน และการร้องเรียนเขาร้องเรียนเรียกค่าเสียหาย ไม่ได้ร้องเรียนให้เอาเรื่องคน ส่วนเรื่องไม่มีมาตรฐานทางการแพทย์นั้นก็ต้องเชื่อคุณ เพราะคงไม่ได้เป็นมาตรฐานดีแล้วแบบที่พวกคุณตัดสินแน่นอน เพราะที่ตัดสินมาว่าได้มาตรฐานดีแล้วนั้น ชาวบ้านเขาอ๊วกแตกเป็นประจำ
**********************************************
บุคลากรที่ปฏิบัติงานบริการรับใช้ประชาชน คงจะไม่ได้รับความยุติธรรม เสื่อมเสียชื่อเสียง จากการถูกร้องเรียน/ฟ้องร้องมากขึ้น
แย้ง //// คุณก็ดูถูกระบบตรวจสอบ ระบบยุติธรรมไปหมด ทั้งๆที่พวกคุณก็บอกไม่มีมูลตลอด และแต่ละคดีที่ถูกฟ้อง ก็สมควรเสียชื่อเสียง ต่อไปหมอจะได้ระวัง ผมก็โดนหน้า 1 เป็นประจำแต่คนไข้ก็แน่นคลินิกทุกวัน เขาเข้าใจว่าอะไรดีไม่ดี คนไม่ดีก็ไปไม่รอด คนดี ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
**********************************************
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนคงจะ ไม่ดีขึ้นตามที่ผู้เสนอพ.ร.บ.นี้ต้องการอย่างแน่นอน เพราะประชาชนได้รับ การรักษา ได้รับการช่วยเหลือและได้รับการชดเชย แต่แพทย์ทำงานดูแลรักษา ต้องถูกสอบสวน ถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุแห่งความเสียหาย
แย้ง ผมว่าความสัมพันธ์จะดีเพราะท่อนแรก แต่ท่อนหลังหากว่าคุณใจกว้างรับได้ว่าผิด ผมก็ว่าความสัมพันธ์ก็จะดี ในเมืองนอกเขามีนโยบายให้หมอรับผิด หัดพูดว่าผมผิด ผมขอโทษ ผมเสียใจ แต่เมืองไทยคำพวกนี้ ไม่หัดพูด ก็ต้องตกนรกไป ก็เมืองนอกทำผิดก็สารภาพบาปได้
**********************************************
บุคลากรทางการแพทย์ ก็คงจะไม่กล้ารับรักษาผู้ป่วย เพราะเกรงว่า ถ้าผู้ป่วยตายไปในระหว่างการรักษา ก็จะถูกร้องเรียนว่าทำให้เกิดความเสียหาย และต้องถูกสอบสวนแน่นอน ก็ต้องจำใจที่จะเลือกส่งผู้ป่วยไปตายเอาดาบหน้า
แย้ง///// ส่งไปตายดาบหน้า ก็โดนลงโทษเหมือนกัน มีคดีโดนมาแล้ว พยายามช่วยจนตายจะไม่โดนลงโทษ กฏหมายยกเว้นความผิดให้
**********************************************
การให้กรรมการที่ไม่รู้เรื่องมาตรฐานทาง การแพทย์มาตัดสินการประกอบวิชาชีพแพทย์ จึงเป็นการทำลายล้างมาตรฐานการแพทย์ที่ดี ของวงการแพทย์ไทย สภา วิชาชีพไม่สามารถควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพที่รับผิดชอบชีวิต และสุขภาพของมนุษย์ได้ ต้องให้คนที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์มาตัดสิน
แย้ง//// ทุกวันนี้ที่มีปัญหาก็คือให้กรรมการที่มีความรู้ มาตัดสินแพทย์เข้าข้างแพทย์ สิ่งที่คุณพูดมา ถ้าคนไข้ดู ว่าเขาคิดยังไง การตัดสินผิดหรือถูกนั้น เขาใช้เหตุผล ไม่ใช่ความรู้
**********************************************
สภาวิชาชีพและผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์สาขาต่างๆจากราชวิทยา ลัยแพทย์สาขาต่างๆ ก็ไม่มีความหมายในการที่จะทำหน้าที่ในการควบคุมการประกอบวิชาชีพให้ เป็นไปตามมาตรฐานที่ดีที่สุด เพราะไม่สามารถที่จะรับรองได้ว่ามาตรฐานที่ดีที่สุดคืออย่างไร
แย้ง ///// อันนี้คงไม่ใช่ มาตรฐานคุณแทบไม่ต้องตั้งเลย ตอนนี้แทบจะเป็นมาตรฐานโลกไปแล้ว สิ่งที่เราพบจากราชวิทยาลัย คือการทำลายมาตรฐานทางการแพทย์โดยชี้ว่าไม่มีมูล นี่เป็นเรื่องอันตรายต่อสภาวิชาชีพเอง เป็นการทำลายสภาวิชาชีพให้กลายเป็นสภาสภาวิชาชีพฉ้อฉลได้อย่างมีมาตรฐาน
**********************************************
เพราะมีคนอื่นมาเป็นผู้ตัดสินว่าการประกอบวิชาชีพนั้นมีมาตรฐาน หรือไม่/อย่างไร
การออกพ.ร.บ. นี้ จึงเป็นการบ่อนทำลายมาตรฐานการแพทย์ที่บรรพบุรุษของแพทย์ไทยได้ สั่งสมมาอย่างยาวนาน สภาวิชาชีพไม่ต้องมีก็ได้ ถือเป็นการยุบแพทยสภา(ทั้งๆที่แพทยสภาได้ทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง มีกรรมการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาการแพทนย์ที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง ) โดยคณะรัฐบาลชุดนี้ ที่มีหัวหน้ารัฐบาลมาจากครอบครัวแพทย์
แย้ง//// ผมว่าพวกที่ค้านๆ พรบ. นี้อยู่นี่จึงเป็นพวกทำลายสภาวิชาชีพตัวจริง สภาวิชาชีพในอดีตคงถึงกาลอวสานหากไม่แก้ไข แต่อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าตุลาการภิวัฒน์จะทำลายคนเลว เพื่อความคงอยู่ของสภาวิชาชีพ เมื่อไหร่มีคนโดน 157 ก็คงจะดีขึ้น
**********************************************
3.การยืดเวลาความเสียหายไปถึง 3 ปี นับจากผู้เสียหายรู้ว่าเกิดความเสียหาย ไม่ได้นับจากเวลาที่เกิดเหตุการณ์เป็นการยากที่จะพิสูจน์คำกล่าว อ้างของผู้เสียหาย ว่าทราบความเสียหายเมื่อใด)
แย้ง///// คุณเป็นสุภาพบุรุษในวงราชการ คุณไม่ควรอ้างเรื่องอายุความ
**********************************************
และการยืดอายุความไปถึง 3 ปี เหมือนพ.ร.บ.วัตถุอันตราย หรือพ.ร.บ.สินค้าที่ไม่ปลอดภัย น่าคิดว่าคนเสนอกฎหมายมองว่า บุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพทั้งหมดเป็น วัตถุอันตรายหรือสินค้าไม่ปลอดภัย หรือบุคคลอันตราย สำหรับ ประชาชนทั่วไป
แย้ง//// ผมว่าอันตรายกว่า จึงตายมากกว่ารถชนกัน ผมว่าเขาคิดถูก
**********************************************
ซึ่งเป็นการทำร้ายจิตใจของบุคลากรทางการแพทย์ (ความเสียหายนี้ ใครจะเป็นผู้เยียวยา) ที่คิดแต่จะช่วยผู้คนให้หายเจ็บป่วย และมีสุขภาพดี มิใช่เป็นอาชญากร
แย้ง/// กฎหมายเขาลงโทษคนเลว ยังมีศาลช่วยตรวจสอบ คุณน่าจะดีใจที่คนเลวๆจะได้ออกจากวิชาชีพคุณ อย่างน้อย ผมก็เคยโดนพยายามเขี่ยออกมาหลายที ถ้าเลวก็ยินดีไป ยังไม่เคยโวยวาย
**********************************************
4. การบังคับเก็บเงินจากโรงพยาบาล คลินิก และอื่นๆที่รักษาผู้ป่วย เป็นการบังคับให้ ประกันความเสียหาย โรงพยาบาลก็ต้องขึ้นราคาค่าบริการทางการแพทย์มากขึ้น รัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินสองต่อ คือเงินค่ารักษา (ตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) และเงินช่วยทำศพและชดเชยความเสียหาย
แย้ง //// แค่ 3 % และคนไข้เขายินดีจ่ายเพิ่ม หมอไม่ต้องควัก บ่นทำไม
**********************************************
5.ทำไมรัฐบาลไม่คิดปฏิรูปการบริการทางการแพทย์ให้มีมาตรฐาน โดยการช่วยให้โรงพยาบาลมีบุคลากรให้ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือตามาตรฐาน จะได้รักษาประชาชนได้ตามมาตรฐาน
เพื่อช่วยให้กระทรวงสาธารณสุขให้บริการที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย คงจะดีกว่าปล่อยให้มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลแต่มีบุคลากรไม่เพียงพอ ต้องรีบเร่งทำงาน เสี่ยงต่อความผิดพลาด แล้วก็คอยออกกฎหมายมาซ้ำเติมบุคลากรที่ต้องรับ ภาระงานหนัก และประชาชนไม่ปลอดภัย
บุคลากรเป็นทุกข์ เครียด หวาดกลัวและหวาดหวั่น (อ้างตามข้อความในพ.ร.บ.ที่ยื่นเข้าสภา) ว่าประชาชนต้องได้รับค่าชดเชยนี้ แต่บุคลากรจะได้ด้วยหรือไม่?
แย้ง//// คนไข้ล้นโรงพยาบาล ก็คุณผูกขาด จะได้ค่าแรงดี ขูดรีดได้ เป็นลูกไก่ในกำมือ เมื่อไหร่เลิกผูกขาด ก็จะดีขึ้นเอง ไปโทษรัฐบาลทำไม
**********************************************
รัฐบาลจ่ายเงินค่ารักษาประชาชน และค่าเยียวยาประชาชน
แต่บุคลากรที่เสียขวัญ และมาตรฐานการแพทย์ที่ควบคุมโดยสภาวิชาชีพจะเสียหาย รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรจะรับผิดชอบอย่างไร?
คุณก็ไปเรียกหากฎหมายคุ้มครองคุณเอง ซิ ดูซิว่าคนเขาจะรับได้ไหม ห้ามฟ้องอาญาหมอ
**********************************************
ระบบบริการสาธารณะด้านสาธารณสุขไทยคงรอวันล่มสลาย เพราะประชาชนที่มารับบริการได้รับบริการฟรี โดยโรงพยาบาลและรัฐบาลประกันความเสียหาย ส่วนบุคลากรเป็นฝ่ายรับความเสียหายสถานเดียว ทั้งๆที่อดทนทำงานหนัก เพื่อบริการประชาชน
หรือให้อดทนต่อไป ใครทนไม่ได้ก็ลาออกไปอยู่ medical hub ที่รัฐบาลสนับสนุนต่อไป
แย้ง //// ไม่ล่มหรอกเว้นแต่พวกคุณยังอยู่ ก็ไม่แน่
**********************************************
สรุป ความเห็นจากสมาชิกสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทยคือ
การเขียนกฎหมายแบบนี้ จะกระทบต่อมาตรฐานวิชาชีพ และเป็นการผลักภาระให้แก่บุคคลากรและหน่วยงานทางการสาธารณสุขเกิน สัดส่วน
ไม่สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน
แย้ง//// ก็คุณไม่เคยเห็นสิ่งที่ดี ในกฎหมายฉบับนี้
**********************************************
แพทยสภา จะหมดความหมายไปในทันที ระบบตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพถูกทำลาย ทำให้การรักษามาตรฐานและจริธรรมธรรมของบุคคลากรด้านสาธาณสุข หลุดออกจากกระแสของพัฒนาการในระดับนานาชาติที่กำลังดำเนินอยู่ และอาจจะ เรว ร้ายจนกระทบต่อพัฒนาการการรักษาผู้ป่วยในอนาคต
เพียงเท่านี้ ก็ไม่สมควรมีกฎหมายฉบับนี้แล้ว
แย้ง //// ความจริงแพทยสภาก็ไม่มีความหมายอยู่แล้วทุกวันนี้ ผู้เสียหายเขาไม่ศรัทธา เพราะเขาไม่เชื่อในความเป็นกลางของแพทยสภา ระบบตรวจสอบคุณหมดความหมายไปนานแล้วเนื่องจากกรณีที่คุณตัดสินไม่เป็นธรรมว่า แพทย์ทำได้มาตรฐานดีแล้ว ทุกวันนี้ แพทยสภาเป็นผู้สร้างปัญหา ทำให้แพทย์ไม่ระมัดระวังเท่าที่ควร เพราะไม่ลงโทษเมื่อแพทย์ทำผิด เรื่องนี้ผู้เสียหายเขาทราบดี ศาลท่านก็ทราบดี จึงตัดสินให้คดีที่แพทยสภาบอกไม่มีมูลแพ้คดี แม้ว่าจะไม่หมดสิ้นทุกคดี แต่เพียงแค่คดีเดียวผมว่าแพทยสภาน่าจะพิจารณาลาออกได้แล้ว อาจเขาบ้าง
**********************************************
กฎหมายสร้างปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหา เอาแต่ได้อย่างเดียว ไม่ได้พิจารณาผลกระทบและความเสียหาย ที่จะติดตามมา ซึ่งยากต่อการเยียวยาหรือสร้างระบบให้กลับคืนมาใหม่ได้.
ขอเรียกร้องให้ค.ร.ม. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณาพ.ร.บ.นี้เพื่อไม่ให้กฎหมาย ฉบับนี้ ผ่านมติสภาผู้แทนราษฎร
แย้ง/// กฎหมายสร้างปัญหาให้ทรชนเสมอ และกฏหมายแม้บางครั้งมีผลกระทบต่อสุจริตชน แต่กฎหมายก็แก้ไขปัญหาที่ไม่เป็นธรรมในสังคม การอ้างว่ากฎหมายสร้างปัญหาทั้งที่แท้จริงแล้วกฎหมายนี้แก้ปัญหาคนไข้ที่ตายจากความผิดพลาดที่ป้องกันได้ปีละมากกว่ารถยนต์ชนคนตาย คนที่พยายามล้มกฎหมายนี้จึงต้องพิจารณาตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำความดีหรือทำบาปทำกรรม คนไข้สมัยนี้เขาไม่ได้โง่ที่จะให้หมอกดขี่ ยุคนี้สังคมอินเตอร์เน็ทรู้ถึงกันทั่วโลกทุกปัญหาและวิชาการ จึงเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัว ไม่ใช่เรื่องต้องแก้ตัว ก็หวังว่าในโลกนี้ไม่มีสภาควาย ที่จะระงับกฎหมายที่มีประโยชน์ ถ้ามิฉนั้นก็ต้องถือว่าเป็นกรรมของคน ไม่ใช่กรรมของสัตว์
**********************************************
โดย: อ่านง่ายหนอ่ย [25 มิ.ย. 53 14:49] ( IP A:58.8.11.228 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
โปรดส่งแกไปตรวจเช็คสมองหน่อย
ว่าปกติหรือเปล่า
หัวใจยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า
ถึงได้เห็นขาวเป็นดำ
เห็นดำเป็นขาวได้ขนาดนี้
แกมีปัญหาครอบครัวหรือเปล่า
โดย: สงสัย [25 มิ.ย. 53 18:25] ( IP A:58.9.224.89 X: )
ดำ
ขาว
น้ำเงิน
แดง
เขียว
เหลือง
ส้ม
น้ำตาล
ม่วง
ฟ้า
เขียวมะนาว
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :
แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้
(ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ :
.wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน