อันนี้คูณโกหกได้เลวร้ายมาก หรือไม่ก็ไม่รู้เรื่องเลยแต่พูดๆๆๆ
   « ความเห็นที่ #5 เมื่อ: วันนี้ เวลา 11:29:25 »


คุณถามหรือคุณจะสอนผมครับ

สรุปคุณเห็นด้วยกับ พรบ นี้ แล้วพยายามจะชวนให้ผมเห็นตามงั้นหรือ

แล้วที่แล้วๆมานั่นหมอตกใจกันไปเองหรือเช่นยายปรียานันท์ฟ้องว่าทำลูกพิการโ ดยที่จริงเป็นแค่เหตุสุดวิสัย,กรณีผ่าตัดใส้ติ่งด้วยความหวังดีแต่โชคร้ายเส ียชีวิตทั้งที่พูดดีๆและรักษาฟรีแล้วถูกฟ้องจนนอนไม่หลับมาหลายปี,ให้ยาเพื่ อหวังรักษาโรคแต่โชคร้ายแพ้ยาจนตาบอดแล้วฟ้องสาสุขจนตัวเองแพ้คดี ทุกอย่างที่ยกตัวอย่างมานี่ตกใจเหรอ ขูดรีดเหรอ พูดจาไม่ดีเหรอ ไม่ทำตามหลักวิชางั้นหรือ

ผมว่าคุณกมลเป็นหมอจริงหรือเปล่า ถ้าจริงถามนิดว่าถ้าเรื่องความโชคร้ายนี่มันเกิดกับคนไข้ของคุณแล้วคุณถูกคน ที่คุณหวังดีรักษาทำตัวเป็นงูเห่ามากัดมาฟ้องร้องคุณจนเสียชื่อเสียเวลาเสีย กำลังใจทำงานหรืออาจติดคุก ถามว่าคุณอยู่เฉยได้ อ๋อหรือเพราะเรื่องเหล่านี้ยังไม่มาถึงตัวคุณ ไม่เป็นไรครับคุณเก็บความหวังดีของคุณไปใช้กับตัวเองเถอะ ผมจะคอยดูพ่อหมอยอดคนดีศรีสังคม ส่วนผมก็จะปฏิบัติไปตามทางของผม ผมรักตัวเองมากที่สุดครับ ผมไม่ใช่พ่อพระเหมือนคุณครับ ผมเองเป็นคนธรรดาเหมือนคนไข้เช่นกันที่อยากมีสวัดิภาพการทำงานที่ปลอดภัย ถ้าให้ดีผมอยากให้สังคมเกื้อกูลเห็นอกเห็นใจกันมากกว่ามาใช้กฎหมายมาบังคับก ันเกินควร

ปล ถึงผมจะไม่ใช่พ่อพระ แต่ผมก็พอมีจิตสำนึกความเป็นคนครับ ทุกอย่างน่าจะพูดคุยกัน รับฟังข้อดีข้อเสียจากทุกฝ่ายก่อนให้รอบคอบแล้วจึงนำมาปรับปรุงให้เกิดความเ ป็นธรรมมากที่สุด ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมายหรอก มันอยู่ที่คนๆที่ไม่เชื่อการตัดสินของแพทยสภา(หาว่าไม่ยุติธรรมเพราะผลตัดสิ นว่าเราไม่ถูก ต่างอะไรกับกรณีทักษิณหรือ) เครือข่ายต้องการแก้พรบ ส่วนทักษิณต้องการแก้รัฐธรรมนูญ บ้านเมืองวุ่นวายแน่ถ้ามีแต่คนที่เอามาตรฐานของข้าเท่านั้นเรียกว่าถูก สรุปถ้าคุณไม่หวาดกลัวก็เฉยๆไว้ดีกว่า ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะมาบอกให้คนอื่นเข้มแข็งแบบคุณ หรือจะให้ผมชมคุณว่าเก่งงั้นหรือ





ส่งโดย: antitaksin_doctor
สถานะ: Executive Member
จำนวนความเห็น: 1335
โดย: antitaksin_doctor [24 ก.ค. 53 13:19] ( IP A:58.8.13.183 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เพราะคดีคุณปรียานันท์ นั้น คณะกรรมการสิทธิ์ชี้ว่าแพทยสภาละเมิดสิทธิมนุษยชน ให้เยียวยา
ผ่าตัดไส้ติ่งเขาตายจากการบล็อคหลัง ศาลแพ่งให้ใช้เงิน แต่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องว่าขาดอายุความ คดีอยู่ทีฏีกา
คดีตาบอด ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่าต้องรีบให้สเตียรอยด์ เพราะหยุดยั้งการลุกลามได้ แต่ก็ไม่ได้ให้เขา ให้แค่น้ำเกลือซีพีเอ็มแล้วรอหมอเจ้าของไข้พรุ่งนี้ โรคสตีเว่นส์ จอห์นสันซินโดรมนะ เขาก็เลยเป็นสตีวี่วันเดอร์
โดย: คุณไม่น่าจะพูดอย่างนี้ [24 ก.ค. 53 13:23] ( IP A:58.8.13.183 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ถ้าหมอรักษาดี ตั้งใจดูแลดี คงไม่มีใครอยากฟ้องหรอก คดีที่ผมฟ้องหมอก็เพราะไม่ใส่ใจ สับเพร่า ตั้งแต่การประเมินคนไข้ก่อนผ่าตัดแล้ว หลังผ่าตัดจึงมีปัญหา หลังเกิดปัญหาก็มาทำเวชระเบียนเท็จอีกจนผมจับได้.......ร้องไปที่หน่วยงานรัฐก็ยืด...ดองจนเน่าทั้งๆที่หลักฐานเห็นชัดว่าทำเท็จ...แบบนี้หน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่นี้จะได้รับการเชื่อถือจากประชาชนได้อย่างไร นอกจากจะยืดเวลาหาทางออกให้พ้นตัวแพทย์ที่รักษา(แบบช่วยกันทุกวิถีทาง) ตอนนี้หลักฐานอยู๋ครบใครฟ้องผมก็ยินดีเชิญ จะได้รู้กันซะทีว่าองค์กรห่วยๆแบบนี้ทำงานกันอย่างไร
โดย: ห่วยแตกจริงๆ [24 ก.ค. 53 14:24] ( IP A:202.29.9.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   อะไรคือสตีวี่วันเดอร์

แล้วบล็อคหลังตายนี่แพ่งให้ใช้เงิน แต่อาญาให้ติดคุกไม่รอลงอาญาเลย :/ แรงไปมั๊ยอ่า
โดย: bromine [24 ก.ค. 53 16:13] ( IP A:118.173.179.237 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   เพราะคดีคุณปรียานันท์ นั้น คณะกรรมการสิทธิ์ชี้ว่าแพทยสภาละเมิดสิทธิมนุษยชน ให้เยียวยา<< เยียวยา เพราะเห็นใจ ไม่ใช้ผิดให้ชดใช้ ไม่อย่างนั้นทำไมไม่ฟ้องศาลปกครอง เอาแพทยสภาผิดไปเลยล่ะ ทำไม่ศาลทั้งหลายไม่ให้ชนะละ หรือว่าศาลยุติธรรมไม่พอ


ผ่าตัดไส้ติ่งเขาตายจากการบล็อคหลัง ศาลแพ่งให้ใช้เงิน แต่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องว่าขาดอายุความ คดีอยู่ทีฏีกา<<
ช่วยผ่าตัดตาย ติดคุกไม่รอลงอาญา ทั้งที่เหนื่อยรักษาเนี่ยนะ..รพ.รัฐ เงินก็ไม่ได้ มาผ่าให้นอกเวลา
ถ้าไม่ผ่า มาไม่ถึง ไม่ทัน ธรรมชาติโรคก็แย่ ตายได้เองอยู่แล้ว..
อุทธรณ์ขาดอายุความนี่มั่วรึเปล่า..
ไม่น่าใช่แน่ๆผมเคยอ่าน..เอาคำพิพากษาอุทธรณ์มาดูก่อนไหม หมอเทพมีแน่ๆมายืนยันหน่อยซิ
เรื่องนี้ผู้พิพากษาเขารู้กันหมดว่าอะไรเป็นอะไร ต้องไปดูชื่อพยาน จะเข้าใจ น่าจะหา download ได้จาก web

คดีตาบอด ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่าต้องรีบให้สเตียรอยด์ เพราะหยุดยั้งการลุกลามได้ แต่ก็ไม่ได้ให้เขา ให้แค่น้ำเกลือซีพีเอ็มแล้วรอหมอเจ้าของไข้พรุ่งนี้ โรคสตีเว่นส์ จอห์นสันซินโดรมนะ เขาก็เลยเป็นสตีวี่วันเดอร์ << หยุดได้กี่% ไม่ใช่ทุกคน อาจแค่พลาดไม่ได้จงใจทำร้ายฆ่าทำให้ตาย หรือตาบอด ต้องดูการตรวจวันนั้น ถ้าไม่มีเหตุให้ steroid มั่วๆ ก็เป็นพิษได้ ..โดนฟ้องเพราะยาแทน
ซึ่งหากมารักษาไม่ทันก็บอดได้อยู่แล้ว หากได้ยาไป ใช้ยาไม่ถึงขนาด ไม่ตรงเวลา ก็บอด เล่นคาดการณ์แล้วโยนให้หมอผิดคนเดียวนี่ลำบาก แล้วมองย้อยหลังด้วย
บางโรคหมอเทวดาก็ช่วยไม่ได้ (ยกเว้นหมอระดับเทพจริงๆที่ เก่งทุกเรื่อง )
ถ้าหมอเป็นลูกสาวคุณที่ไปทำงานชุมชน ให้ชาวบ้านล่ะจะยอมให้ติดคุกไม่รอลงอาญา จากไม่ได้ฆ่าคนไหม..

ผู้เชี่ยวชาญ คดีนี้เป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ..ชื่ออะไร อยู่ราชวิทยาลัยไหนล่ะ ..ของจริงหรือเปล่า..น่าจะเอาชื่อมาดูนะ


โดย: คุณไม่น่าจะพูดอย่างนี้ << คุณต้องอย่าพูดโกหกด้วย
โดย: โกหก ตกนรก กรรมถึงลูกหลาน.. [24 ก.ค. 53 18:55] ( IP A:66.45.237.122 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ต่างกรรมต่างวาระ ตัดสินกันไม่ได้หรอก :/
ตำราหรือวิจัยก็บอกได้แค่แนวทาง เอาเข้าจริงๆก็อยู่ในดุลยพินิจ
เล่นมาตัดสินดุลยพินิจกันแบบนี้ อีกน้อยก็ defensive med กันหมดเมือง
โดย: bromine [24 ก.ค. 53 19:50] ( IP A:118.173.217.12 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   เพราะคดีคุณปรียนันท์ นั้น คณะกรรมการสิทธิ์ชี้ว่าแพทยสภาละเมิดสิทธิมนุษยชน ให้เยียวยา<< เยียวยา เพราะเห็นใจ ไม่ใช่ผิดให้ชดใช้ ไม่อย่างนั้นทำไมไม่ฟ้องศาลปกครอง เอาแพทยสภาผิดไปเลยล่ะ ทำไม่ศาลทั้งหลายไม่ให้ชนะละ หรือว่าศาลยุติธรรมไม่พอ

ปรียนันท์ฯ ร้องเรียนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย รวมทั้งดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เจ้าของโรงพยาบาลซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในสมัยนั้น แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง เมื่อขอคัดถ่ายสำเนาเวชระเบียนเพื่อนำไปรักษาลูก ก็ถูกคู่กรณีท้าทายให้นำทนายความไปฟ้องเอา

ฟ้องโรงพยาบาลพญาไท 1
ปรียนันท์ฯ ยื่นฟ้องโรงพยาบาลคู่กรณีและแพทย์ผู้รักษา เป็นคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย ใช้เวลาต่อสู้คดีนานถึง 9 ปี ศาลชั้นต้น, อุทธรณ์และฎีกา พิพากษายกฟ้อง เหตุเพราะคดีหมดอายุความทางแพ่งหนึ่งปี (เหตุเกิดปี 2534 ยื่นฟ้องปี 2539) แม้จะต่อสู้ว่าเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญา เนื่องจากลูกของเธอได้รับอันตรายสาหัสจนถึงขั้นพิการ ต้องนับอายุความทางอาญาที่ยาวกว่าคือ 10 ปี แต่ศาลฎีกาให้เหตุผลว่าเธอบรรยายฟ้องไม่ครบองค์ประกอบคดีอาญา นับอายุความที่ยาวกว่าไม่ได้ จึงพิพากษายืน ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขสภาผู้แทนราษฎร ชี้ว่าเป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลอ้างว่าศาลตัดสินว่าโรงพยาบาลไม่ผิดจึงไม่ยอมเจรจา ทั้งที่ศาลตัดสินว่าคดีหมดอายุความ ยังไม่ได้พิสูจน์ถูกผิด (คดีสิ้นสุดแล้ว)

ถูกฟ้องกลับ
เมื่อใช้กฎหมายไม่เป็นผล ปรียนันท์ฯ ไปถือป้ายประท้วงที่หน้าโรงพยาบาลคู่กรณี พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อทั้งวิทยุ,หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ เป็นเหตุให้คู่กรณีฟ้องเธอ 2 คดีทั้งทางแพ่งและอาญา ข้อหาละเมิดและหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท (ระหว่างนี้โรงพยาบาลเปลี่ยนเจ้าของใหม่ บริหารโดยนายวิชัย ทองแตง ทนายความคดีซุกหุ้นของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร)
คดีอาญาใช้เวลาต่อสู้นาน 5 ปี ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคำพิพากษาระบุว่า “เห็นว่าจำเลยได้ยื่นร้องเรียนตามสิทธิข้อกฎหมาย เป็นการแสดงเพื่อความสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันผลกระทบด้านความปลอดภัยของชีวิตและครอบครัวการกระทำของจำเลยจึงไม่มีมูลความผิด” (คดีสิ้นสุดแล้ว)
คดีแพ่งคู่กรณีฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเธอ 100 ล้านบาทใช้เวลาต่อสู้นาน 7 ปี ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง คำพิพากษาระบุว่า “เห็นว่าคำกล่าวของจำเลย เป็นการกล่าวไปตามความเข้าใจเพื่อความชอบธรรมและปกป้องสิทธิตามครองธรรม จึงไม่เป็นการละเมิด พิพากษายืน” คู่กรณียื่นฎีกา (คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา) เกี่ยวกับคดีนี้คู่กรณีร้องขอให้ศาลออกคำสั่งปิดปากเธอไม่ให้ออกสื่อ ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ออกหมายห้าม (คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา)

เมื่อถึงทางตันกับคำว่า “หมดอายุความ” แต่การละเมิดสิทธิเด็กยังคงอยู่ ปรียนันท์ฯ ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ใช้เวลานาน 5 ปี มีแต่ความไม่ชอบมาพากลจนต้องไปประท้วงประธานอนุกรรมการที่เป็นแพทย์ เรื่องจึงถูกโอนไปกสม.ชุดใหญ่ ที่ต่อมามีมติอย่างตรงไปตรงมาว่า
(1) แพทย์ผู้ทำคลอดและกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลพญาไท1 ประมาทเลินเล่อรวมทั้งโรงพยาบาลพญาไท 1 ไม่มีมาตรการแก้ไขเยียวยา จึงก่อให้เกิดเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงให้ช่วยเหลือเยียวยาทันที (แต่รพ.พญาไท 1 เพิกเฉยไม่ทำตามมติ)
(2) กระบวนการตรวจสอบของแพทยสภาไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้องให้รื้อฟื้นเรื่องขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 30 วัน (กระทรวงสาธารณสุข ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า แพทยสภาไม่มีอำนาจในการรื้อคดีใหม่ โดยแพทยสภาได้เข้าชี้แจงเพียงฝ่ายเดียว)

กสม.ก็ไม่ถอย
เมื่อกสม.ไม่สามารถบังคับให้รพ.พญาไท 1 และแพทยสภาให้ทำตามมติได้ จึงรายงานนายกรัฐมนตรี (นายสมัคร สุนทรเวช) ให้มีบัญชาภายใน 60 วัน แต่นายสมัครฯไม่มีบัญชา (พี่สาวของนายสมัครฯ เป็นกรรมการแพทยสภาชุดที่ปรียนันท์ฯ ฟ้องคดี) กสม.รายงานต่อประธานรัฐสภาและวุฒิสภา เรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรนาน 4 ชั่วโมงในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ ต่อมานายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งกรรมการไกล่เกลี่ยประธานกรรมการเสนอให้ปรียนันท์ฯ รับเงิน 5 แสนบาทและให้ยุติเรื่อง แต่เธอขอให้คู่กรณีแสดงความเสียใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมาเสียก่อน แล้วค่อยพูดถึงการเยียวยาแต่คู่กรณีปฏิเสธ ขณะที่รัฐบาลให้เหตุผลว่านอกเหนือวิสัยที่รัฐจะเข้าไปแทรกแซงได้ เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับโรงพยาบาลเอกชน

ฟ้องแพทยสภา
เมื่อร้องเรียน แพทยสภา เรื่องเงียบนานเกือบ 3 ปี พอเธอยื่นฟ้องโรงพยาบาล แพทยสภาก็รีบมีมติว่าเรื่องของเธอเป็น”คดีไม่มีมูล” โดยไม่เคยเรียกเธอชี้แจง และละเว้นไม่สอบสวนผอ.โรงพยาบาลที่นั่งออกรายการโทรทัศน์คู่กับพญ.ประสบศรี อึ้งถาวร รองเลขาธิการแพทยสภาผู้เซนต์มติ รวมทั้งคู่กรณีทำรายงานเท็จขัดต่อข้อเท็จจริงในเวชระเบียน ความไม่ชอบมาพากลทำให้ปรียนันท์ร้องขอให้แพทยสภารื้อคดีใหม่ แต่แพทยสภายกคำร้องไม่รื้อคดีใหม่ แม้จะมีกรรมการสองท่านให้ความเห็นแย้งว่า”คดีมีมูล” และการวินิจฉัยมีความล่าช้าไม่ทันท่วงทีก็ตาม เธอจึงฟ้องแพทยสภาทั้งคณะ 33 คน เป็นคดีอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้เวลานาน 6 ปีในการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้น, อุทธรณ์และฎีกาพิพากษาไม่รับฟ้อง คำพิพากษาระบุว่า“..แม้จะเป็นความจริงว่า เป็นการช่วยเหลือแแพทย์ผู้ถูกร้องไม่ให้ถูกลงโทษ ก็มิได้ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือกระทบกระเทือนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยตรงแต่ประการใด โจทก์ทั้งสองไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องแพทยสภาทั้ง 33 คน”
ปรียนันท์ฯ เลือกที่จะไม่ดำเนินคดีอาญาต่อแพทยสภาอีก เนื่องจากคณะกรรมการสิทธิฯ มีมติแล้วว่า แพทยสภาผิด สังคมรับรู้แล้วว่าแพทยสภาผิด เธอไม่ประสงค์จะให้ใครติดคุก เพียงแค่ต้องการปรามไม่ให้แพทยสภาทำกับคนอื่นในสังคมอีก แต่กลับเป็นเหตุให้แพทยสภานำคดีนี้ไปเป็นบรรทัดฐาน ในการต่อสู้กับผู้เสียหายที่ฟ้องแพทยสภาเป็นคดีอาญา แทบทุกคดี

ความเสียหายใหม่
ต่อมาเมื่อลูกชายอายุได้ 17 ปี มีอาการปวดหลังร้าวลงไปที่ขาอย่างรุนแรง หลายครั้งไม่สามารถนอนหลับลงได้ ผลการตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์เมื่อ 14 มิ.ย. 51 พบว่า “กระดูกสันหลังเคลื่อน โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท” เป็นความเสียหายใหม่ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากความเสียหายเดิม

“ศาล” คือที่พึ่งสุดท้าย..อีกครั้ง
ปี 2551 ประเทศไทยมีกฎหมายใหม่ “พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551” มาตรา 13 บัญญัติว่า “ในกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัย...เป็นกรณีที่ต้องใช้เวลาในการแสดงอาการ ผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภค ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในสามปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย ....”
19 พ.ค. 52 ปรียนันท์ฯ ฟ้องโรงพยาบาลคู่กรณี เป็นคดีผู้บริโภค คู่กรณีซึ่งเป็นนักกฎหมายใหญ่ไม่ประสงค์เจรจาไกล่เกลี่ย และต่อสู้โดยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดว่าเป็นคดีฟ้องซ้ำและหมดอายุความ
28 ก.ค. 52 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องว่า “เป็นการฟ้องซ้ำและคดีหมดอายุความ” ปรียนันท์ฯ ยื่นอุทธรณ์ (คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์) โดยกรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรมช่วยดูแลเรื่องคดีความ
โดย: ข้อเท็จจริง [24 ก.ค. 53 21:06] ( IP A:58.9.192.49 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ผมถามคุณคำเดียว ว่าหากคุณจะทำ spinal block หลังให้ลูกเมียคุณ ถ้าไม่มียาช่วยเหลือเวลาความดันตก คุณจะทำไหม
ถ้าคุณทำก็ไม่ต้องไปติดคุก ไม่ว่ากัน
ขณะเดียวกัน ถ้าคนไข้น้ำหนัก 80 ก.ก. คุณจะให้น้ำเกลือก่อนบล็อกหลัง 500 ซี.ซี. เท่ากับที่ให้ทั่วๆไปไหม โดยเฉพาะคนไข้งดน้ำและอาหารตั้งแต่เที่ยงจนสองทุ่ม ถ้าให้ 500 ซี.ซี. ก็ไม่ต้องไปติดคุก
และถ้าคนไข้ความดันตก วัดความดันไม่ได้ คุณจะยกหัวเขาสูงไหม ถ้ายก ก็ไม่ต้องไปติดคุก
คดีที่เขาเอาติดคุกก็เพราะตามหลักของศาลถ้าผิดแล้วสู้คดีไม่เยียวยา ศาลแม้อยากจะเมตตารอลงอาญาก้ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ
ก็หวังว่าจะเป็นบทเรียน อย่าได้มีแบบนี้บ่อยๆ
ผมว่าเรื่องนี้ผู้ใหญ่ทำไม่ถูก แต่จะไม่เห็นด้วยกับผมก็ได้ไม่เป็นไร คนที่รู้เรื่องนี้ดี เขาก็รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร โกหกตัวเองไม่ได้หรอก
โดย: ฟฟ [24 ก.ค. 53 22:27] ( IP A:58.8.212.184 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   เอาไปอ่านบ้าง หนังสือตีพิมพ์ตั้งแต่ผมอายุได้ 4-5 ขวบ (1958)
เขาบอกว่าต้องเตรียมยาอะไรไว้กู้ความดัน (keep a second dose at hand)

โดย: ก็มันทำหัตถการไม่อ่านหนังสือ [24 ก.ค. 53 22:34] ( IP A:58.8.212.184 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เขาบอกให้เอาหัวต่ำ นี่มันเอาขาลง หัวสูง
โดย: แล้วจะเหลืออะไร [24 ก.ค. 53 22:35] ( IP A:58.8.212.184 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ส่วนคดีตาบอดนั้น ไม่ต้องอธิบายหรอก ผู้เชี่ยวชาญศาลท่านให้เกียรติและเชื่อ ชื่อท่านไม่ต้องมาแปดเปื้อนบนเน็ทหรอก คุณไม่มีเกียรติพอจะรู้จัก อยากรู้ไปถามกระทรวงเอาเอง ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงมาก่อน คงไม่ใส่ร้ายกระทรวงตัวเอง
การกระทำครั้งนี้ของท่าน พวกที่รู้เรื่องดีต่างนับถือท่านที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรม
โดย: ไปไกลๆ [24 ก.ค. 53 22:37] ( IP A:58.8.212.184 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ก็ไม่ต้องไปทำอะไรมันทั้งนั้น จะได้ไม่ต้องมาโดนไล่ถามตามตำรา
โดย: bromine [25 ก.ค. 53 13:03] ( IP A:118.173.217.12 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ความเห็นที่ 12
ผมว่าคนเราทำผิดกันได้ แต่ผิดแล้วก็ควรจะแก้ไข และอย่าทำผิดอีก
คนที่ไม่ทำผิดเลยก็คงไม่มี รวมถึงผมด้วย
แต่วิธีที่ปฏิเสธ ไม่เคยผิดเลยไม่รับผิดชอบเลย นี่มีใครเขาทำกันไหมหากเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ
"Human error is inevitable," said Sir Liam Donaldson, chief medical officer of the British Department of Health and chair of the WHO coalition on patient safety, By raising awareness of the issue, Donaldson said, "we can reduce error, but most importantly, we can reduce its impact."
https://www.usatoday.com/news/health/2004-10-27-who-mistakes_x.htm
และนี่ https://www.psqh.com/mayjun06/consumers.html
We are committed to spread the word from person to person, town to town, country to country. There is a right to safe healthcare and we will not let the current culture of error and denial, continue. We call for honesty, openness and transparency. We will make the reduction of healthcare errors a basic human right that preserves life around the world.
London declaration
THE LONDON DECLARATION
Patients for Patient Safety
WHO World Alliance for Patient Safety
We, Patients for Patient Safety, envision a different world in which healthcare errors are not harming people. We are partners in the effort to prevent all avoidable harm in healthcare. Risk and uncertainty are constant companions. So we come together in dialogue, participating in care with providers. We unite our strength as advocates for care without harm in the developing as well as the developed world.
We are committed to spread the word from person to person, town to town, country to country. There is a right to safe healthcare and we will not let the current culture of error and denial, continue. We call for honesty, openness and transparency. We will make the reduction of healthcare errors a basic human right that preserves life around the world.
We, Patients for Patient Safety, will be the voice for all people, but especially those who are now unheard. Together as partners, we will collaborate in:
• Devising and promoting programs for patient safety and patient empowerment.

• Developing and driving a constructive dialogue with all partners concerned with patient safety.

• Establishing systems for reporting and dealing with healthcare harm on a worldwide basis.

• Defining best practices in dealing with healthcare harm of all kinds and promoting those practices throughout the world.
In honor of those who have died, those left disabled, our loved ones today and the world's children yet to be born, we will strive for excellence, so that all involved in healthcare are as safe as possible as soon as possible. This is our pledge of partnership.
January 17, 2006
โดย: ฟฟ [25 ก.ค. 53 14:29] ( IP A:58.11.86.36 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   หนังสือตีพิมพ์ตั้งแต่ผมอายุได้ 4-5 ขวบ (1958)
เขาบอกว่าต้องเตรียมยา อะไรไว้กู้ความดัน (keep a second dose at hand)

เอ่อ ขอ reference ที่มัน update หน่อยครับ
บ้านท่านรักษากันด้วยวิทยาการยุคนั้นเหรอ
โดย: โบราณมาก [25 ก.ค. 53 17:00] ( IP A:117.47.126.198 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   หลักการที่เขาใช้ ณ วันนี้ยังใช้ได้ดี ตั้งแต่การให้น้ำเกลือ การให้ยาแก้ความดันตก
จะแตกต่างกันเพียงรายละเอียด
สิ่งที่หมอใหม่ๆพลาดเสมอก็คือเมินคำเตือนของหมอเก่าๆ
โดย: โง่มาก มรึงนะ [25 ก.ค. 53 20:33] ( IP A:58.11.86.36 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   คริ คริ
หัวเราะออกไปอย่างไม่มีเหตุผล



อันนี้หนูไม่เกี่ยว!!!!!!!!!!!

โดย: หนูโง่เป็นบางเวลา [25 ก.ค. 53 20:52] ( IP A:111.84.167.219 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   คดีตาบอด ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่าต้องรีบให้สเตียรอยด์ เพราะหยุดยั้งการลุกลามได้ แต่ก็ไม่ได้ให้เขา ให้แค่น้ำเกลือซีพีเอ็มแล้วรอหมอเจ้าของไข้พรุ่งนี้ โรคสตีเว่นส์ จอห์นสันซินโดรมนะ
=================================

แก้ความเข้าใจนิดนะครับ

Supportive care should be the primary focus of management of SJS/TEN. Beyond this, there is insufficient evidence to establish the benefit of any adjunctive therapies

อันนี้เป็นการศึกษานะครับ

Effects of treatments on the mortality of Stevens-Johnson syndrome and toxic epidermal necrolysis: A retrospective study on patients included in the prospective EuroSCAR Study.
AU Schneck J; Fagot JP; Sekula P; Sassolas B; Roujeau JC; Mockenhaupt M
SO J Am Acad Dermatol. 2007 Oct 4;.
 
  BACKGROUND: No treatment modality has been established as standard for patients with Stevens-Johnson syndrome and toxic epidermal necrolysis. OBJECTIVE: We sought to evaluate the effect of treatment on mortality in a large cohort of patients with Stevens-Johnson syndrome or toxic epidermal necrolysis. METHODS: Data on therapy were retrospectively collected from patients in France and Germany enrolled in EuroSCAR, a case-control study of risk factors. RESULTS: Neither intravenous immunoglobulins nor corticosteroids showed any significant effect on mortality in comparison with supportive care only . Compared with supportive care, odds ratios for death were 1.4 (95% confidence interval: 0.6-4.3) for intravenous immunoglobulins in France and 1.5 (0.5-4.4) in Germany, and 0.4 (0.1-1.7) for corticosteroids in France and 0.3 (0.1-1.1) in Germany. LIMITATIONS: Such an observational study with retrospective data collection has obvious limitations, including heterogeneity between the countries, supportive care, treatment doses, and durations. CONCLUSIONS: We found no sufficient evidence of a benefit for any specific treatment
โดย: เข้าใจหน่อยครับ [27 ก.ค. 53 2:59] ( IP A:118.172.72.243 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศยังให้เป็น controversy อยู่เลยในการให้ glucocorticoid

แต่ศาลไทยกับตัดสินไปแล้วว่า ต้องให้ !

ดังนั้น Guideline ประจำประเทศไทย สามารถสร้างได้จากศาลไทย ไม่จำเป็นต้องทำการศึกษา oh !
โดย: เข้าใจหน่อยครับ [27 ก.ค. 53 3:06] ( IP A:118.172.72.243 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   ผมจะบอกคุณให้นะ สมัยนี้มันชอบทำวิจัย ทั้งๆที่บางครั้งการทำวิจัยก็ยากลำบากโดยเฉพาะกับกรณีที่พบไม่บ่อยและหาคนไข้ที่ใกล้เคียงกันยาก
แต่ประสบการณ์ที่ดีกลับถูกละเลย
ผมถามหมอมาหลายคน ว่าถ้ามรึงหรือลูกมรึงเพิ่งแพ้ยาตาบวม กลัวเป็นแบบดอกรัก มรึงจะเอาสเตียรอยด์ไหม
เห็นมันตอบว่าเอาทุกคน
แล้วถ้าผมเจอพวกคุณ ผมจะถามก่อนเสมอว่าเอาไหม ถ้าไม่เอาให้เซ็นชื่อไว้
สมัยก่อนเขาใช้ควินินรักษามาลาเรียน ใช้ปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ถามว่าเคยมีการทำคอนโทรลสตัดดี้ไหม
โดย: หมอสมัยนี้ปัญญาอ่อนกว่าคนโบราณ ฝรั่งหลอกแดกตลอด [27 ก.ค. 53 3:58] ( IP A:58.8.2.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   #19 ตกลงไม่ใช่หมอใช่มั้ย
การรักษาเดี่ยวนี้มันเปลี่ยนไปครับ
การทำอะไรต้องมีงานวิจัยรองรับ ทำเพราะประสบการณ์มันก็ได้ครับ
จะเอาคนไข้มาเสี่ยงเพราะเเค่ประสบการณ์โดยไม่สนการงานวิจัยต่างๆๆนี่มัน Do Harm หรือเปล่า
การวิจัยต่างๆมันทำให้การรักษาเปลี่ยนไปมากมาย
มียาใหม่ๆที่การวิจัยเเล้วให้ผลดีกว่า
เเล้วจะเอาเเค่ประสบการณืรักษาคนเนี่ย นะ

เดี่ยวนี้มัน Evidence Base Medicine
ตอนจบมาใหม่เคยคิดว่าเเค่ที่เรียนมาก้อพอ เเต่มันไม่ครับการเปิดใจหาความรู้ใหม่ๆสำคัญครับ
โดย: Evidence Base Medicine [27 ก.ค. 53 12:29] ( IP A:61.19.199.142 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   ถามเบอร์ 20 ถ้าเป็นแบบดอกรัก จะเอาสเตียรอยด์ไหม
ตอบไม่เอาก็ได้นะ
โดย: บอดแล้วจะรู้สึก [27 ก.ค. 53 14:03] ( IP A:58.8.1.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   ความคิดเห็นที่ 18
ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศยังให้เป็น controversy อยู่เลยในการให้ glucocorticoid

แต่ศาลไทยกับตัดสินไปแล้วว่า ต้องให้ !

ดังนั้น Guideline ประจำประเทศไทย สามารถสร้างได้จากศาลไทย ไม่จำเป็นต้องทำการศึกษา oh !
โดย: เข้าใจหน่อยครับ [27 ก.ค. 53 3:06> ( IP A:118.172.72.243 X: )
รูปคนไข้ข้างล่างนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างเบิกความว่าหมอผ่าตัดได้มาตรฐานแล้ว ศาลร้องเลย ต้องถามหมอซ้ำ
สุดท้ายศาลสั่งให้ใช้เงิน
โดย: มาตรฐานศาลสูงกว่าหมอทั้งวิชาการและคุณธรรม [27 ก.ค. 53 14:06] ( IP A:58.8.1.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   รูปนี้ เอาไปดูแล้วฝันร้ายได้เลย

โดย: ฟฟ [27 ก.ค. 53 14:09] ( IP A:58.8.1.162 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   รูปอะไรหล่ะครับ???
แล้วฝันร้ายจากอะไร???
โดย: bromine [27 ก.ค. 53 20:33] ( IP A:61.7.188.160 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   ความคิดเห็นที่ 19
ผมจะบอกคุณให้นะ สมัยนี้มันชอบทำวิจัย ทั้งๆที่บางครั้งการทำวิจัยก็ยากลำบากโดยเฉพาะกับกรณีที่พบไม่บ่อยและหาคนไข้ที่ใกล้เคียงกันยาก
แต่ประสบการณ์ที่ดีกลับถูกละเลย
ผมถามหมอมาหลายคน ว่าถ้ามรึงหรือลูกมรึงเพิ่งแพ้ยาตาบวม กลัวเป็นแบบดอกรัก มรึงจะเอาสเตียรอยด์ไหม
เห็นมันตอบว่าเอาทุกคน
แล้วถ้าผมเจอพวกคุณ ผมจะถามก่อนเสมอว่าเอาไหม ถ้าไม่เอาให้เซ็นชื่อไว้
สมัยก่อนเขาใช้ควินินรักษามาลาเรียน ใช้ปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ถามว่าเคยมีการทำคอนโทรลสตัดดี้ไหม
โดย: หมอสมัยนี้ปัญญาอ่อนกว่าคนโบราณ ฝรั่งหลอกแดกตลอด [27 ก.ค. 53 3:58> ( IP A:58.8.2.41 X: )
====================================

ใช้เหตุผลหน่อยครับอย่าใช้แต่อารมณ์ มันจะบ่งบอกถึงระดับจิดใจและการศึกษาของคุณนะครับ

หากการศึกษาไม่สำคัญเอาแต่ใช้ประสบการณ์ เวลานี้การรักษาคนไข้ทุกโรคคงจะได้รับยาเสตียรอยด์หมดแล้วครับ เสตียรอยด์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ดี แต่การอักเสบในแต่ละโรคนั้นมันมีกลไกและการตอบสนองต่อสเตียรอยด์ที่ต่างกัน การศึกษาจึงจำเป็นเพื่อดูว่าโรคใหนได้ประโยชน์จากสเตียรอยด์บ้าง เนื่องด้วยเสตียรอยด์นั้นผลข้างเคียงสูง อย่างหนึ่งที่กังวลในเคส stevenjohnson คือ กดภูมิคุ้มกันในร่างกาย ผู้ป่วย steven johnson นั้นมีแผลบริเวณผิวหนังที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก หากมีจะมีโอกาสเสี่ยงที่ติดเชื้อในกระแสเลือดตามมา โอกาสเสียชีวิตจะเพิ่มขั้นอีก 50-60% ทันที
การรักษาของแพทย์จะคิดเสมอครับว่า do no harm , save life before save organ เมือเทียบความเสี่ยงที่ให้สเตียรอยด์แล้วมีโอกาสเสียชีวิตเพิ่ม กับไม่ให้ก็ไม่ได้มีหลักฐานในการเพิ่มโอกาสการรักษาอวัยวะผู้ป่วย ทางเลือกที่ไม่ให้ดูจะเหมาะสมกว่าครับ

ยาวหน่อย หวังว่าจะอ่านจนจบนะครับ เผื่อจะเข้าใจกันได้มากขึ้น
โดย: Dr.K [27 ก.ค. 53 20:48] ( IP A:117.47.43.29 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   รูปอะไรหล่ะครับ???
แล้วฝันร้ายจากอะไร???
โดย: bromine [27 ก.ค. 53 20:33> ( IP A:61.7.188.160 X: )
--------------------------------------------------------------------
รูปการผ่าตัดศัลยกรรมความงามจากผู้ป่วยที่หมอที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ เขาไปฟ้องศาล พยานผู้เชี่ยวชาญจากราชวิทยาลัยฯเบิกความแก้ต่างให้หมอที่ศาลว่าผ่าตัดได้มาตรฐานดีแล้ว เป็นแบบนี้จะให้ศาลเชื่อราชวิทยาลัย หรือแพทยสภาอีกหรือ
โดย: ภาพจากคุณหมอเราเอง [27 ก.ค. 53 21:58] ( IP A:124.121.137.35 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   ผมจะบอกให้นะ เวลาเริ่มแพ้ยา ให้สเตียรอยด์โด๊สแรกก็ดูการตอบสนองได้ว่าให้ต่อไปจะดีหรือไม่
ยาสเตียรอยด์ไม่แพง โดสเดียวไม่ได้ทำให้ติดเชื้อหรือตายเพิ่มหรอก แต่ถ้าโด๊สแรกไม่ให้ แล้วชิบหาย จะมานั่งเสียใจ
คุณลองเองได้นะ หากเจอคนไข้แพ้ยา มีผื่น เริ่มบวมๆ
ลองให้สเตียรอยด์โด๊สแรก แล้วคุณจะเลิกเถียงผม
โดย: ไม่ต้องทำสตัดดี้หรอก [27 ก.ค. 53 23:51] ( IP A:58.8.240.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   Drug allergy ธรรมดา ผมก็ไม่ให้ครับ
Angioedema , anaphylaxis อันนี้มี role ผมให้ครับ
SJS อันนั้ controversy ผมพิจารณาเป็นรายๆครับ
TEN อันนั้ใครให้ก็บ้าแล้วครับ หรือว่าคุณให้ ??
โดย: Dr.K [28 ก.ค. 53 17:54] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
   TEN ไม่ให้ก็บ้าบัดซบแล้ว
มีตำรายืนยันว่าการให้ใน early case อาจจะเป็น life saving
แต่ตอนแรกๆ มันแยกไม่ได้หรอกว่าเป็นอะไร รอจนแยกได้ก็แปลว่าสายไปแล้ว
โดย: ไม่เชื่อก็ตามใจ [28 ก.ค. 53 19:43] ( IP A:58.8.15.60 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
   31TI
Burn center care for patients with toxic epidermal necrolysis.
AUKelemen JJ 3rd; Cioffi WG; McManus WF; Mason AD Jr; Pruitt BA JrSOJ Am Coll Surg 1995 Mar;180(3):273-8.

BACKGROUND: Toxic epidermal necrolysis (TEN) is a life threatening exfoliative disorder that is most commonly precipitated by the administration of a medication. Efforts to reduce morbidity and improve survival have brought into question the use of corticosteroids and recommend the transfer of patients to a burn center to facilitate wound care.
STUDY DESIGN: This study evaluated the correlation of measures of disease severity and impact of treatment strategies on morbidity and mortality in patients with TEN. The records of all patients with TEN admitted to the United States Army Institute of Surgical Research during a 12 year period were reviewed. Patient characteristics, etiologic agents, time to referral of patients to the burn center, corticosteroid therapy, and other demographic features were studied. Univariate and multivariate analyses were used to determine the significance of these factors with respect to outcome.
RESULTS: The sulfonamides and phenytoin were the most frequently identified etiologic agents. Patients at the extremes of age had a higher mortality rate. The period of hospitalization was longer in patients transferred to the burn center more than seven days after skin slough. Percent of epidermalysis, white blood cell count nadir, and corticosteroid administration for more than 48 hours were independently associated with mortality.
CONCLUSIONS: These data indicate that the sulfonamides and phenytoin are the most common etiologic agents, expeditious transfer to a burn center reduces morbidity, and corticosteroid administration dramatically increases mortality.
ADDepartment of General Surgery, Brooke Army Medical Center, Sam Houston, Texas.PMID7874336
==================================

มีเคส TEN เมื่อใหร่แล้วให้ corticosteroid อย่าลืมเรียกผมไปดูนะครับ ผมจะไปเป็นผู้เชี่ยวชาญนำคนไข้ฟ้องกับตัวเองเลย

ข้างต้นคงไม่ต้องอ่านให้ฟังนะครับ ^^
โดย: Dr.K [29 ก.ค. 53] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 30
    and corticosteroid administration for more than 48 hours were independently associated with mortality.
เขาบอกว่าให้มากกว่า 48 ชั่วโมง ก็จะแย่
ปกติมีแผลก็ไม่ให้สเตียรอยด์อยู่แล้ว
การให้เพียงระยะสั้นๆและก่อนจะเป็นมาก เขาว่าเป็นไลฟ์เซฟวิ่ง
ถ้าไม่ให้ก็คงได้เจอกันในศาล และถ้าศาลตัดสินให้จ่ายเงินก็อย่าโวยวาย
ก็หวังว่าหมอจะอ่านหนังสือออกแปลถูก และรักษาคนไข้ได้ดีรู้เรื่องตามตำรา
ก็ขนาดว่า should ให้ยา โซวิแล็กซ์ มันยังเถียงว่าไม่ให้ไม่ผิด ต้อง must ถึงจะโอเค
ผมเจอมาเยอะแล้วพวกอ่านหนังสือไม่แตกฉาน
โดย: ห เอ้ย [29 ก.ค. 53 1:35] ( IP A:58.11.88.171 X: )
ความคิดเห็นที่ 31
   บอกตรงๆ วันไหนว่างๆ Dr K ช่วยไปศาลหน่อย จะได้รู้ว่าบนศาลไม่ได้หมูเหมือนโรงพยาบาล
ก็ไอ้ที่คุณเอามามันก็ฆ่าตัวตายชัดๆ
ผมเจอบ่อย แปลมั่วพอผมแปลให้ฟัง มันถอนคืนไม่ยอมส่งศาลเลย
เจอกับตัวมาแล้ว 3 คดี
โดย: ยังละอ่อน [29 ก.ค. 53 1:38] ( IP A:58.11.88.171 X: )
ความคิดเห็นที่ 32
   การให้เพียงระยะสั้นๆและก่อนจะเป็นมาก เขาว่าเป็นไลฟ์เซฟวิ่ง
=====================================
ขอ reference หน่อยครับ , แล้วก่อนจะเป็นมากเนี่ยมันจะเป็น TEN ได้ยังไง เข้าใจผิดกับ anaphylaxis รึเปล่าครับ ?


อันนี้เป็นอีกpaperนะครับ

TI
Improved burn center survival of patients with toxic epidermal necrolysis managed without corticosteroids.
AU
Halebian PH; Corder VJ; Madden MR; Finklestein JL; Shires GT
SO
Ann Surg 1986 Nov;204(5):503-12.

Fifteen consecutive patients with toxic epidermal necrolysis or the Stevens-Johnson syndrome managed without corticosteroids after transfer to the burn center (group 2) are compared to a previous consecutive group of 15 who received high doses of these drugs (group 1). Group 2 had a 66% survival, which was a significant improvement compared to the 33% survival in group 1 (p = 0.057). In group 1, mortality was associated with loss of more than 50% of the body surface area skin. In group 2, mortality was related to advanced age and associated diseases. Age, extent of skin loss, progression of skin loss after burn center admission, incidence of abnormal liver function tests, and the incidence of septic complications were not significantly different in the two groups (p greater than 0.10). The incidence of detected esophageal slough was similar in both groups. Nonsteroid (group 2) management was associated with a decreased incidence of ulceration of gastrointestinal columnar epithelium, Candida sepsis, and an increased survival after septic complications. The combined experience of these 30 patients suggests that corticosteroids are contraindicated in the burn center management of toxic epidermal necrolysis and the Stevens-Johnson syndrome. AD
PMID
3767483
โดย: Dr.K [29 ก.ค. 53 12:02] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 33
   บอกตรงๆ วันไหนว่างๆ Dr K ช่วยไปศาลหน่อย จะได้รู้ว่าบนศาลไม่ได้หมูเหมือนโรงพยาบาล
ก็ไอ้ที่คุณเอามามันก็ฆ่าตัวตายชัดๆ
ผมเจอบ่อย แปลมั่วพอผมแปลให้ฟัง มันถอนคืนไม่ยอมส่งศาลเลย
เจอกับตัวมาแล้ว 3 คดี
โดย: ยังละอ่อน [29 ก.ค. 53 1:38> ( IP A:58.11.88.171 X: )
=======================================

บอกตรงๆว่าผมไม่มีประสบการณ์ในศาลครับ เพราะผมไม่เคยมีคนไข้ฟ้อง รพ.ที่ผมทำอยู่นี่ก็ไม่หมูแล้วครับ มีคนที่อยากช่วยให้ได้แต่สุดท้ายเอาชนะสังขารไม่ได้ก็มากมาย ผมต่อสู้กับความตายครับ ไม่ได้มีคู่ต่อสู้แบบเดียวกับคุณ สิ่งที่ผมนำมาให้คนไข้คือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่จะเอาชนะคะคาน หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

ต่อไปถ้าหมดแรงเมื่อไหร่ ผมคงไปเรียนกฎหมายต่อเป็นทนายความด้านการแพทย์ ตอนนั้นอาจจะมีโอกาสได้เจอกันครับ แล้วจะรู้เองว่าหมูหรือไม่หมู
โดย: Dr.K [29 ก.ค. 53 12:07] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 34
   ลุ้นให้เรียนอ่ะ
จบมาทำหน้าที่ให้สมกับเป็นหมอทนายนะคะ
เอามาช่วยเบิกความพยานศาลให้คนไข้บ้างดิ ได้ปะ ?
หรือว่าจะไปเบิกความ หรือ ทำคดีให้พวกหมอเหมือนกันอีก

อ่ะลุ้นให้เรียนเลยอ่ะ
อาจจะเก่งกาจฉลาดปราดเปรืองอย่างที่ว่าก็ได้นะ

หมูๆ หมอๆ น่ะ ลุ้นให้เรียนอ่ะ
แต่ห้ามเรียนมาสู้กับคนไข้แบบแพทยสภาสอนนะ
ไม่เอาๆ ไม่รักนะ
โดย: Dr.GN [29 ก.ค. 53 16:04] ( IP A:115.67.67.89 X: )
ความคิดเห็นที่ 35
   ความคิดเห็นที่ 35
ลุ้นให้เรียนอ่ะ
จบมาทำหน้าที่ให้สมกับเป็นหมอทนายนะคะ
เอามาช่วยเบิกความพยานศาลให้คนไข้บ้างดิ ได้ปะ ?
หรือว่าจะไปเบิกความ หรือ ทำคดีให้พวกหมอเหมือนกันอีก

อ่ะลุ้นให้เรียนเลยอ่ะ
อาจจะเก่งกาจฉลาดปราดเปรืองอย่างที่ว่าก็ได้นะ

หมูๆ หมอๆ น่ะ ลุ้นให้เรียนอ่ะ
แต่ห้ามเรียนมาสู้กับคนไข้แบบแพทยสภาสอนนะ
ไม่เอาๆ ไม่รักนะ
โดย: Dr.GN [29 ก.ค. 53 16:04> ( IP A:115.67.67.89 X: )
====================================
ผมอยู่ฝ่ายที่คิดว่าสมควรได้รับความเป็นธรรมครับ ^^
โดย: Dr.K [29 ก.ค. 53 17:09] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 36
   สุดยอด คารวะความเห็น 35

"ผมอยู่ฝ่ายที่คิดว่าสมควรได้ความเป็นธรรม"
โดย: haha [30 ก.ค. 53 15:44] ( IP A:118.172.81.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 37
   ,! . s.hi.nam.i.n.sk2015@gmail.com
โดย: autohitdiz [21 มี.ค. 60] ( IP A:178.125.83.121 X: )
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ : .wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน