consumer.pantown.com
เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กรุณาโพสต์ข้อความที่นี่ <<
กลับไปหน้าแรก
Fw: จดหมายถึงเพื่อนร่วมวิชาชีพบริการทางสาธารณสุขต่อกรณี พรบ. คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธ
Subject: SPAM: แพทย์หมดเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ในหนทางการต่อสู้แล้วหรือ จึงต้องใช้การประท้วง และ การแต่งดำ ต่อกรณี ร่าง พรบ. คุ้มครองผู้เสียหาย
Date: Wed, 28 Jul 2010 07:55:41 +0700
From: Suthee Rattanamongkolgul <
suthee2006@gmail.com
>
เรียนเพื่อนร่วมวิชาชีพการบริการทางสาธารณสุข
ต่อกรณีการประท้วงยับยั้ง ร่าง พรบ. คุ้มครองผู้เสียหาย ฯ ด้วยการชุมนุมประท้วงและแต่งชุดดำ
ที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข วันที่ 30 ก.ค. นี้ มีประเด็นที่น่าจะได้ทำความเข้าในกันดังนี้
ประการที่ 1. ทุกคนรับรู้ว่าความผิดพลาดในการบริการทางการแพทย์ (medical error) เกิดขึ้นได้ในเวชปฏิบัติ
เช่นที่อเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีความเจริญทางการแพทย์ คาดว่าคนตายปีแสนรายจาก medical error
ดังนั้นการเยียวยาผู้ที่ได้รัีบผลกระทบจึงควรเป็นสิ่งที่ควรจะกระทำตามหลัก มนุษยธรรม
ประการที่ 2. แพทย์หมดเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ในหนทางการแสดงความคิดเห็นแล้วหรือ จึงต้องใช้การชุมนุมประท้วง และ การแต่งชุดดำ เช่นนี้ ต่อกรณี ร่าง พรบ. คุ้มครองผู้เสียหาย ถ้าเราใช้ยาแรง ตั้งแต่แรก ต่อไป เชื้อก็ดื้อยา หากจะคัดค้านอะไรเราต้องทำเช่นนี้อีกหรือไม่
แล้วเราจะเอา ความน่าเคารพ น่าเชื่อถือ อะไร ไปพูดกับสังคมให้เชื่อเราได้อีก แพทย์เรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในสังคม ได้ด้วยการช่วยเหลือชีวิตและปลดเปลื้องความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์และการใช้ วุฒิภาวะในการแก้ไขปัญหาให้คนไข้
ดังนั้น บรรดา ผู้ทำวิชาชีพบริการทางการแพทย์ น่าจะใช้วิธีการที่มีวุฒิภาวะ ด้วยการการพูดคุยเจรจากันกับผู้ร่าง กม.คุ้มครองผู้ไดัรัีบความเสียหายจากการบริการทางสาธารณสุข ไม่น่าจะใช้วิธิการประท้วง การแต่งดำ มันทำให้เราเสียหายในสถาบันวิชาชีพมากกว่าผลที่ได้รับ และทำให้วิชาชีพเราจะยิ่งตกต่ำมากขึ้นในสังคม ต่อไป อะไร มีปัญหา เราก็จะใช้วิธีนี้ในการต่อสู้เช่นนั้นหรือ
เราเลียนแบบภาพใหญ่ในสังคมหรือเปล่าที่ต่อสู้ในสภาไม่ได้ก็ออกมาต่อบนท้อง ถนน ซึ่งมันเป็นวิธีของผู้ด้อยอำนาจในสังคม ในการเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจ
จึงสงสัยว่า เครดิตความน่าเชื่อถือของแพทย์ หมดไปแล้วหรือในการที่จะพูดจากกันบนโต๊ะ ดี ๆ ถ้าต้องทำถึงขนาดออกมาชุมนุมนี้เรื่อยไป แสดงว่า สังคมเขาไม่ฟังเราพูดแล้ว
ประการที่ 3. พวก เรากลัวอะไรในกฎหมายนี้ ผมเชื่อว่าพวกเราหลายคนต้องการทักท้วงด้วยใจอันบริสุทธิ์
แต่ผมก็ยังคิดว่ามีบางคนที่ไม่ได้ทำด้วยจิตที่เป็นกุศลเท่าใดนัก
สิ่งหนึ่งที่ได้ยินมาคือ เรื่องเราต้องส่งเงินเข้ากองทุนตาม กม. นี้
ซึ่ง รพ. ในภาครัฐไม่มีปัญหาเพราะเป็นเงิน รพ. อยู่แล้ว คนที่ได้รับผลกระทบน่าจะเป็น รพ.เอกชนมากกว่า
เป็นไปได้หรือไม่ที่มีผู้ที่ไม่ต้องการสมทบ ขยายเรื่องนี้ให้บานปลายใหญ่โต
จริงแล้วโรงพยาบาลชุมชนเป็นจุดเปราะบางมากกว่าเพราะมีแพทย์จบใหม่ไปอยู่รพช. มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ไม่ได้แสดงท่าทีรุนแรงแต่อย่างใด
จริงแล้ว เรื่อง พรบ. นี้ ทำกันมากครึ่งค่อนปีแล้ว แพทยสภารับรู้ทุกขั้นตอน
เหตุใดจึงไม่ได้บอกให้พวกเรารับรู้ตั้งแต่แรก เพิ่งจะมาตีข่าวช่วงนี้
ฤาไม่สามารถต่อสู้ทางเหตุผลกับคณะทำงานของกฤษฏีกาได้ จึงต้องออกมาใช้กำลังแพทย์
ฤาใกล้ ฤดูการเลือกตั้งอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ออกมาเรียกร้องตอนนี้ต้องการหาเสียงแต่อย่างใด
แต่กลัวคนที่ไม่ได้ออกมาแต่ใช้สถานการณ์นี้เป็นประโยชน์ในการสร้างฐานอำนาจ ในแพทยสภา
เหตุการณ์นี้คล้ายกับเหตุการณ์เมื่อออก มาตรา 41 พรบ.หลักประกันสุขภาพ ฯ แพทย์ลุกขึ้นมาประท้วง
ผมก็เป็นคนหนึ่งนี้ร่วมลงชื่อประท้วงกับเขาด้วยในตอนนั้น ด้วยเชื่อตามสิ่งที่เล่ากันมา
ประเด็นเหล่านี้แพทยสภารู้เรื่องนี้น่าจะบอกความจริงว่ากระบวนการเป็นมา อย่างไร
ประการที่ 4. ใน การต่อสู้เรียกร้องของแพทย์ครั้งนี้ความรู้สึกร่วมอาจ จะรุนแรงกว่าเดิมเพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์เรื่องหมอถูกฟ้องคดีอาญา
ซึ่งบางทีเราก็ได้รัีบข้อมูลที่เกินความจริงที่โอเวอร์เช่น หมอถูกใส่กุญแจมือ หรือถูกเข้าห้องขัง ซึ่งไม่เป็นความจริง
และแพทย์น่าจะได้รับรู้และเรียนรู้กันว่าจริง ๆ แล้วทำไมเหตุการณ์ถึงได้กลับมาบานปลายไปขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เรื่องราวกำลังจะลงเอยอยู่แล้ว เขาเล่าว่าเพราะมีหมอผู้ใหญ่จากกรุงเทพ ไปแนะนำว่าอย่าขอโทษ อย่าไปงานศพ เดี๋ยวจะแสดงว่าผิด
จนกระทั่งเกิดเป็นตราบาปในวงการแพทย์ และ เป็นบาปบริสุทธิ์ให้กับคนไข้ และแพทย์ รพ.จังหวัดที่ต้องรับการส่งต่อคนไข้จาก รพช. จำนวนมาก ไส้ติ่งอักเสบผ่ากันข้ามวันข้ามคืน จนไส้ติ่งแตกมากขึ้น แทนที่ รพ. จังหวัดจะเอาเวลาไปผ่าคนไข้ยาก ๆ ผมเชื่อว่าโดยธรรมชาติแล้วไม่มีใครอยากขึ้นโรงขึ้นศาล ถ้าไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรม และถ้ามีการชดเชยเยียวยาแล้วก็จะช่วยไม่ต้องไปฟ้องร้องต่อไปอีก เพราะฟ้องไปจะคุ้มเสียหรือไม่ เช่น เสียจากถูกมองแง่ลบ เวลาไปหาหมอ หมอก็จะหวาดระแวง เสียเวลาทำงานเสียค่าทนายแและก็เสียความรุ้สึก ถ้าท่านเคยได้รับความไม่เป็นธรรมท่านจะซาบซึ่งได้ดีกว่าคำอธิบายใด ๆ
ในขณะที่ รพ. ขอนแก่น คนไข้ผ่าตา ตาบอดจำนวนมาก แต่กลับไม่โดนฟ้องอะไรเลยแถมเป็นข่าวครึกโครม
เราน่าจะเรียนรู้สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อมาสร้างความสัมพันธ์ที่ดี มากกว่าการสร้างภาพ ลบ ๆ ขึ้นมา
ถ้ามี พรบ นี้ คนไข้ ที่ รพ. ขอนแก่นก็จะได้รับการเยี่ยวยาจาก กม. ฉบับนี้ไปด้วย
เราสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมไม่ดีกว่าหรือครับ และสิ่้งนี้น่าจะจรรโลงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของวิชาชีพได้ดีกว่าสิ่งใด
คนไข้ยังรู้สึกดีกับหมอ หมอก็รู้สึกดีกับคนไข้
ประการที่ 5. การ ที่แพทย์และวิชาชีพอื่น ๆ ร่วมกันประท้วงต่อเรื่องนี้จึงต้องดูว่า เราประท้วงอะไร เราประท้วงหลักการ หรือ เนื้อหารายละเอียด
เราควรใช้วิธีการประท้วงและแต่งดำ หรือ มีวิธีการอื่นใดที่ดีกว่าหรือไม่
เพราะสุดท้ายต้องสู้กันด้วยเหตุผลมากกว่า
เราศึกษาประเด็นกันชัดเจนดีแล้วหรือ หรือเราเชื่อเพราะเล่าตาม ๆ กันมา เชื่อเพราะตรรกะ หรือเชื่อเพราะคนที่พูดที่บอกน่าเชื่อถือ
เราใช้ evidence-based กันเพียงใด
เราศึกษาความเป็นมาเรื่องนี้กันมากน้อยเพียงใด เราได้ยินคนที่เขาสนับสนุนและคัดค้านเท่านั้น
แต่ก็น่าเห็นใจที่เรายุ่งจนไม่มีเวลาศึกษา จึงต้องอาศัยผู้รู้แทน ซึ่งผู้รู้ก็มีทั้งจิตบริสุทธิ์และที่ไม่ใช่
ประการที่ 6. เราใช้การให้คำปรึกษา (counseling) กันในเวชปฏิบัติเพื่อให้เกิดการสื่อสารสองทางกับคนไข้เพื่อรับฟังปัญหาและทางเลือกของผู้ป่วย แต่ตอนนี้เรากลับเลือก วิธีการปลุกระดมฝ่่ายเดียว เราไม่ฟังคนอื่นเลยหรือเปล่า
ทำไมไม่คุยกับ คนร่าง พรบ. ดี ๆ ว่าปัญหาคืออะไร ถ้าเราเห็นด้วยในหลักการว่า เราต้องการให้ กม.นี้เป็นเครื่องมือในการชดเชยเยี่ยวยา เพราะใน มาตรา 41 ใน พรบ หลักประกัน ฯ ไม่มีกลไกอันนี้
กม.ใหม่นี้ก็จะได้ทำให้เกิดการชดเชยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เราน่าจะแก้ปัญหาแบบที่มีวุฒิภาวะ ด้วยเหตุด้วยผล และชี้ให้ตรงประเด็น
จากรายการดีเบทในทีวีมาสองสามรายการ แพทย์เราไม่สามารถทำประเด็นให้กระจ่างได้อย่างตรง ๆ เพียงพยายามพูดว่า แพทย์ทำงานหนักแบบขอความเห็นใจ แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ว่า เมื่อคนไข้เกิดความเสียหายขึ้นเราจะช่วยกันช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร ในเวทีสาธารณะ เราต้องสู้ด้วยเหตุและผลในประเด็็นมากกว่า และ แสดงออกด้วยน้ำใจต่อกัน มากกว่าเอาชนะ
ถ้าคิดว่าวิชาชีพเรายังมีศักดิ์ศรี มีอำนาจบารมี ก็ควรใช้หลักเมตตากรุณาธรรม
เครือข่ายผู้ป่วยที่เกิดขึ้นก็คงไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นมาเองหรืออยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาร้องเรียนแพทย์ ผมเชื่อว่าเขาได้รัีบความสูญเสียจริง แล้วพวกเราไม่สามารถให้ความกระจ่างกับเขาได้ และครั้้งนี้เขาก็ต้องการเรียกร้องที่จะมีระบบอะไรมารองรับ
ประการสุดท้าย เราจะหาทางออกร่วมกันอย่างไร
เราน่าจะมาใช้ใจคุยกันกับผู้ที่เรียกร้องต้องการ พรบ. ว่าหรือว่าที่ต่อสู้เรียกร้องเพื่อผู้ป่วยต้องการอะไร มีปัญหาอะไร และต้องการ พรบ. ออกมากอย่างไร ส่วนในมุมมองแพทย์ เรามีข้อจำกัดอย่างไร
เช่น ในกรณีไม่ต้องจ่ายเงิน ในข้อ 6 (2)พูด เรื่องมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งในร่างที่ฝ่ายประชาชนเสนอไปไม่มีข้อนี้และก็ให้ออกได้ เพราะฝ่ายผู้ต้องการ พรบ ไม่ได้ต้องการ แต่ แพทยสภา เป็นผู้เติมลงไปเอง
เราไม่ควรไปแสดงออกที่บ่งบอกถึงการตอกลิ่มความขัด แย้งระหว่างแพทย์กับคนไข้อีกต่อไปเลย คนไข้ส่วนใหญ่ก็ยังเคารพนับถือแพทย์และเพื่อนร่วมวิชาชีพทางการแพทย์อยู่ และสังคมส่วนใหญ่ก็ยังให้เกียรติพวกเราอยู่
เราควรรักษาต้นทุนทางสังคม ไว้ในยามที่สามารถช่วยเหลือสังคมได้จะดีกว่า
เรามาพูดคุยร่วมกัน แบบขอนแก่นโมเดล ที่คนไข้ต้องตาบอดจากการติดเชื้อระหว่างการรักษายังคงรักษากับแพทย์อยู่ไม่ออกมาฟ้องร้องแม้จะเป็นข่าวดังทั่วประเทศ เราก็ควรมองว่านี่คือน้ำใจคนไข้เช่นกัน
ถ้าเราส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น รู้จักการตอบสนองในทางบวกเหมือนที่ รพ.ขอนแก่น
เราก็จะได้ไม่ต้องทำ defensive practice
เราน่าจะพลิกวิกฤตินี้เป็นโอกาส
ในการสร้างบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่่วยในระดับภาพรวมในการสร้างความเข้าใจกันกับกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. ในข้อจำกัดในทรัพยากรที่ได้รับ หรือระบบที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วส่งผลต่อการ บริการที่เสียงต่อความผิดพลาดเสียหาย
รวมถึงสื่อสารกับสังคมในข้อจำกัดของการ บริการทางการแพทย์ แม้ว่าประเทศที่เจริญแล้วก็เกิดขึ้น เพราะเมื่อใดที่เกิดปัญหากับผู้ป่วยทางสื่อ แพทย์ก็จะเป็นจำเลยไว้ก่อน
เวลานี้น่าจะเอาสรรพกำลังที่บริสุทธิ์มาสร้างสรร สิ่งดี ๆ ในวิชาชีพ มากกว่าการเอาชนะทางแง่กฎหมาย
อย่างไรเสียแพทย์กับคนไข้ก็ต้องอยู่ร่วมกันตราบเท่าที่ยังมีคนเจ็บป่วย และแยกกันไม่ออก
ในเมื่อเราเห็นด้วยว่าความเสียหายจากการบริการควรได้รับการเยียวยา เราก็ควรให้ กฎหมายนี้ผ่านเข้าสภา เพื่อรับหลักการเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะเรื่องนี้ทำกันมานานแล้ว
เรื่องนี้ก็ยังไม่สายที่เราจะปรับแก้กันในวาระสองในสภาผู้แทนต่อไป
และเราควรได้พูดคุยกันแบบนั่งจับเข่าคุยกันมากกว่ายืนกอดอกคุยกัน
การประท้วงเอาชนะ ต่อไปก็อาจจะแพ้ทั้งหมอทั้งคนไข้ และสังคมก็แพ้เพราะแพทย์กับคนไข้ทะเลาะกัน
คนที่ได้กลับเป็นนักการเมืองและผู้บริหาร และฝ่ายที่ได้ผลประโยชน์จากการยับยั้งกฎหมายนี้ครับ
หากเห็นว่าจดหมายนี้เป็นประโยชน์ โปรดส่งต่อไปยังเพื่อนร่วมวิชาชีพต่อไป ขอบ คุณครับ
นพ.สุธีร์ รัตนมงคลกุล
อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อีเมล์
suthee@swu.ac.th
โทร 037-395-085 ต่อ 10727
จริงแล้วกฎหมายนี้มีผู้เสนอมาหลายร่าง
เราอาจจะ ดาวน์โหลดมาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
Download ร่างได้ตามwebsite ข้างล่างนี้
1. ร่างพระ ราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ)[1>
2. ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... (นายเจริญ จรรย์โกมล กับคณะ เป็นผู้เสนอ)[2>
3. ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... (นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)[3>
4. ร่าง พระราชบัญญัติสร้างเสริมความสัมพันธ์ในระบบบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... (นายบรรพต ต้นธีรวงศ์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)[4>
5. ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ให้บริการและผู้รับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... (นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)[5>
6. ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....(นายสุทัศน์ เงินหมื่น กับคณะ เป็นผู้เสนอ)[6>
7. ร่าง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... (นางสาวสารี อ๋องสมหวัง กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 10,631 คน เป็นผู้เสนอ)[7>
--------------------------------------------------------------------------------
[1> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-05.pdf
[2> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-08.pdf
[3> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-09.pdf
[4> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-10.pdf
[5> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-11.pdf
[6> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-12.pdf
[7> ดูรายละเอียดที่
https://library2.parliament.go.th/giventake/content_hr/d051253-13.pdf
--------------------------------------
โดย: ส่งต่อให้แล้วครับ ขอบคุณครับ (เจ้าบ้าน
) [28 ก.ค. 53 9:21] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
หากแม้นแพทย์เข้าใจสถานการณ์ดีเช่นนี้ แล้วหาทางออกร่วมกัน คงไม่มีเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์
สำคัญคือเราทั้งสองฝ่าย จะทำให้ระบบมีความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร
จับเข่าคุย ไม่กอดอกคุย แบบอ.สุธีร์พูด เครือข่ายฯ เห็นด้วย และให้เกียรติแพทย์เสมอ เพราะท่านคือปัจจัยที่ห้าของชีวิตพวกเรา
เพราะพวกเราไม่อยากขัดแย้งต่อท่านอีกต่อไป เราจึงต้องการพรบ.มารองรับปัญหา
เพราะเราเข้าใจการทำงานของท่านว่าเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ เราจึงต้องการพรบ.มารองรับปัญหา
เพราะเราหาความเป็นธรรมแทบไม่ได้ เราจึงต้องการพรบ.มาช่วยแก้ปัญหาความทุกข์ยากของเรา
ขอบพระคุณมากมายสำหรับความเข้าใจครั้งนี้ ขอบพระคุณแทนสังคมไทยที่มีอาจารย์แพทย์ดี ๆ ผลิตลูกศิษย์ลูหาออกมารับใช้สังคม หากวิสัยทัศน์ของท่านเป็นแบบนี้ เราต้องรีบเลิกเครือข่ายฯ ในเร็ววันแน่นอน
โดย: เครือข่ายฯ [28 ก.ค. 53 9:34] ( IP A:58.9.224.165 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
โชคดีของ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ที่มีคนแบบนี้อยู่
ก็หวังว่าจะนำพา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต
มิน่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงคิดหลักสูตรอินเตอร์ ผมสนับสนุนเรื่องนี้นะ ขอให้หลักสูตรอินเตอร์ของท่านไปได้ดี ผลิตหมอได้ปีละหลายๆคน ถ้าผลิตได้ปีละหมื่นคน เก็บคนละ 1 ล้าน ท่านก็จะมีหมื่นล้าน ส่วนคนสอนจะหาโปรเพสเซ่อร์จากที่ไหนก็ได้ขอให้มีเงินจ่ายค่าสอน ส่วนเวลาเรียนก็ผ่านอินเตอร์เน็ทก็ได้ เจ็ดสิบสองจังหวัด ส่ง นศพ ไปทำงานจังหวัดละ 100 คน วอร์ดละ 10 คน ก็เจ็ดพันกว่าๆ ไม่เปลืองสถานที่ด้วย จ่ายค่าสอนหัวหน้าแผนกและหมอในแผนก ตามผลงาน นศพ สอบผ่านก็จ่าย สอบตกไม่ให้ ขี้คร้านจะรับสอน
คุณธรรมจริยธรรมก็คงสอนได้ สมัยนี้อะไรก็ผ่านอินเตอร์เน็ท หาไม่ได้จริงๆ ให้ฟัง ว วชิรเมธี ก็ยังได้
โดย: แค่แนวทาง ไม่ต้องเชือ่ผมหรอก [28 ก.ค. 53 9:48] ( IP A:58.8.240.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
ดีใจที่ยังเจอแพทย์คิดดีดี
เชื่อว่ามีจริง และก็มีจริง ๆ
อ่านแล้ว มั่นใจ
โดย: จีเอ็น [28 ก.ค. 53 9:55] ( IP A:1.46.168.28 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
อ.สุธีร์นี่เอง
สุดยอดมากครับ
โดย: MD SWU [28 ก.ค. 53 12:02] ( IP A:61.19.199.142 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ในที่สุด
แกะขาว ในท่ามกลางฝูงแกะดำหงำเหงือกกลุ่มใหญ่ ก็ปรากฎตัวแล้ว
ไชโย ไชโย ไชโย
ปณิธานขององค์พ่อหลวง องค์พระบรมราชชนกและสมเด็จย่า
มีแววยืนยาวต่อไปให้คนไทยทั้งประเทศได้พึ่งต่อๆไปแล้ว
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [28 ก.ค. 53 12:48] ( IP A:58.8.126.13 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
แปลกใจบ้างไม๊ แพทย์ที่เห็นด้วย แทบทั้งหมดคือแพทย์ที่ไม่ได้ตรวจคนไข้แล้ว
โดย: แกะขาวแต่ไม่ได้ตรวจคนไข้ [28 ก.ค. 53 14:46] ( IP A:182.52.121.216 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1280293672
« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:31:51 »
พี่น้องครับอ้ายเดนนรก(อายเดนนิฟิเคชั่น)มานไม่ใช่หมอครับ
มันเป็นใส้ศึกครับอย่าไปเชื่อมัน มันเป็นพวกเครือข่ายครับ มันเคยด่าพวกเรายังกะหมูกะหมามาแล้ว พวกมันจ้องจะฆ่าหมอทุกคนครับ(ไม่เว่อร์แน่นอน) มันกลัวพวกเรารวมตัวกันมาก มันรู้ว่าถ้าพวกเรารวมกันได้พรบไม่เกิดแน่ อย่ายอม อย่ายอม และอย่ายอม มัน ถ้าพวกเราปล่อยให้พรบนี้เกิด ผมบอกได้คำเดียวว่าแย่ทุกกลุ่มทุกคนถ้าเป็นหมอที่ยังต้องตรวจและรักษาอยุ่ ยกเว้นพวกที่เอาแต่บริหารไม่ตรวจคนไข้แล้ว
พรบ.ออกมาช่วยไม่ให้หมอถูกฟ้อง ก็คุณเคยบ่นว่าถูกฟ้องมากเครียด
พรบ.ออกมาช่วยคนไข้ที่เสียหาย ไม่ได้เอาเงินหมอสักบาท
พรบ.ออกมาลดคดีแพ่งและอาญา ก็คุณเคยบ่นว่าจะลาออก
ถ้าไม่เอาพรบ.นี้ แล้วจะเอายังไง
โดย: นี่หรือปัญญาชนที่เรียกว่าหมอ [28 ก.ค. 53 17:22] ( IP A:58.9.224.33 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
อยากคุยกับคนคนนี้จังเลยครับ ใครพอจะเชิญเขาเข้ามาในบอร์ดนี้ได้มั๊ยครับ
โดย: Dr.K [28 ก.ค. 53 17:38] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
คห 10 อ.สุธีร์อยู่มศวครับ แกเป็นคนน่ารักมาก
โดย: Iden ต่อต้านเกรียน [28 ก.ค. 53 19:05] ( IP A:124.157.211.80 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
แน่ใจเหรอว่าออกมาจะลดการฟ้องร้องน่ะ
อาจารย์เคยทำงาน ที่รพช. รพท. สมัยนี้มั้ยล่ะ
รู้มั้ยว่าภาระงานเป็นอย่างไร
ที่เค้าเลิกผ่าทั้งๆที่ผ่าเป็นน่ะเพราะอะไร พูดเหมือนรู้ดี
โดย: ผีดิบ [28 ก.ค. 53 19:59] ( IP A:118.173.232.5 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
ผมก็ไม่เข้าใจว่าคุณจะเลิกทำไมในเมื่อผ่าตัดได้ และผ่าตัดเป็น
หากทุกอย่างเป็นไปตามหลักวิชาการ คุณไม่ต้องกลัวหรอก ฟ้องไปก็ไม่ชนะ
ฟ้องแพ่งไม่ได้อยู่แล้ว ต้องฟ้องกระทรวง กระทรวงจ่าย
ฟ้องอาญาคุณเตรียมทุกอย่างพร้อม ฟ้องไปก็ไม่ชนะ
ขนาดผิดเห็นๆ พวกคุณยังชนะเลย ท่ามกลางน้ำตาผู้พิการ
แต่คุณแทงหลังโดยไม่เตรียมยาแก้นี่ ให้สิบร่อนพิบูลย์ คุณมีโอกาสติดคุกแน่นอน ไม่เชื่อทำอีกซิ
โดย: ฟฟ [28 ก.ค. 53 20:20] ( IP A:58.8.15.60 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
คนไม่ตรวจคนไข้แล้ว ย่อมไม่เข้าใจคนทำงานสักเท่าไหร่ หมอ รพศ รพช คนทำงานจริงๆต้องร่วมกันต้าน
คนบริหารบนหอคอยงาช้างเค้าไม่เข้าใจหรอก
โดย: ฟั่นเฟือน [28 ก.ค. 53 22:49] ( IP A:182.52.125.28 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
ความคิดเห็นที่ 11
คห 10 อ.สุธีร์อยู่มศวครับ แกเป็นคนน่ารักมาก
โดย: Iden ต่อต้านเกรียน [28 ก.ค. 53 19:05> ( IP A:124.157.211.80 X: )
================================
ขอบคุณครับ พอจะมีทางติดต่อมั๊ยครับ
โดย: Dr.K [28 ก.ค. 53 23:58] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
Dr.K มีความรู้เป็นหมอ
และเล่น internet เป็น
คงหาตัวอ.สุธีร์ได้ไม่ยาก
โดย: หมอทำได้ทุกอย่าง [29 ก.ค. 53] ( IP A:58.9.224.33 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
ผมเป็นวิศวกร ผมไม่เคยเห็นว่าสภาฯ ที่มีหน้าที่ควบคุมดูแล จะปกป้องวิศวกรที่ทำผิดและทำให้คนตายเลย
ในมุมกลับ หากหน่วยงานต่างๆ ที่ควบคุมแพทย์อยู่ ดำเนินการลงโทษแพทย์ที่ทำผิดอย่างจริงจังและจริงใจ ประชาชนคงไม่ต้องออกมาเรียกร้องขนาดนี้ครับ
โดย: ms_synerth@yahoo.com [29 ก.ค. 53 10:11] ( IP A:124.121.19.71 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
นพ.สุธีร์ รัตนมงคลกุล
อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อีเมล์
suthee@swu.ac.th
โทร 037-395-085 ต่อ 10727
โดย: นี่ไงเบอร์ติดต่อ [29 ก.ค. 53 10:17] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
เท่ห์จัง แมนจริง วิศวกร เยี่ยม ยกมือนิ้วโป้งให้ กับความคิด
โดย: ขอแสดงความนับถือ [29 ก.ค. 53 14:12] ( IP A:115.67.144.159 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
...ประเทศไทยและคนไทยก็เป็นเช่นนี้แหละ...
...ลองไปเปรียบเทียบเทียบเคียงกับ...พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๔๔...มี สอง คำถาม...
......1.แต่ละเดือนในแต่ละปี "รัฐ"ต้องจ่ายเงินไปทั้งหมดเท่าใด และ ที่สำคัญ มีการทุจริตและหรือคอร์รัปชั่น หรือไม่...อย่าได้คิดว่า"คนไทยกินแกลบ"...
......2."ค่าตอบแทน ค่าทดแทน ค่าใช้จ่ายผู้เสียหาย" ถามว่า"รัฐ"เอาเงินมาจากไหน แตกต่างจาก"ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์ฯ" กลับบังอาจกำหนดให้"ใคร"ต้องจ่ายเงิน???...
...มีคำอยู่ สี่ คำ...
...1.นิติธรรม...อยู่ร่วมกันต่อกันซึ่งกันและกันโดยคิด พูด ทำโดยยึดหลักธรรมคำสั่งสอนของศาสนา...เพียงแต่ว่า คนไทยนับถือหลายศาสนา แน่นอน ถ้าเป็น"พุทธศาสนิกชน ก็ต้องยึดศีลห้า"...แล้วคนไทยศาสนาอื่นละ...ว่าไง???...และหากใครละเมิดและหรือไม่ปฏิบัติ...การลงโทษคืออะไร แบบไหน จะได้ให้เกรงกลัว เคารพ ยำเกรง ไม่บังอาจลอกเลียนแบบ???...
...2.นิติรัฐ...อยู่ร่วมกันต่อกันซึ่งกันและกันโดยคิด พูด ทำโดยยึดบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ณ เวลานั้น...แน่นอน ถ้าเป็นประเทศไทยและคนไทย รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ลำดับศักดิ์ของกฎหมายใดก็จะขัดหรือแย้งไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น พระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา ฯลฯ...
...3.นิติพรรค(พวก)...อยู่ร่วมกันต่อกันซึ่งกันและกันโดยคิด พูด ทำโดยยึดกฎ กติกา ข้อกำหนดที่พรรค(พวก)ข้าฯ กลุ่มของข้าฯ...พวกอื่น กลุ่มอื่นต้องยอมรับ...ประเทศไทยและคนไทยจะเอาเยี่ยงนี้ กระนั้นหรือ...
...4.นิติกู...อยู่ร่วมกันต่อกันซึ่งกันและกันโดยคิด พูด ทำโดยยึดกฎ กติกา ข้อกำหนดที่กูกำหนดเท่านั้น...พวกเอ็งต้องยอมรับ...ประเทศไทยและคนไทยจะเอาเยี่ยงนี้หรือ...
...ขออนุญาตบังอาจอ้าง...รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 80 วงเล็บ(2)...ผู้มีหน้าที่ให้บริการสาธารณสุขซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรม "ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย"...ได้รับความคุ้มครองหมายความเยี่ยงไร...มีคำรับรองมีหนังสือรับรอง"การทำที่ได้มาตรฐานวิชาชีพและจริยธรรม"จากแพทยสภา(หน่วยงานของรัฐ) จากราชวิทยาลัยและหรือวิทยาลัยต่างๆ(องค์กรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของแต่ละสาขา)...ความคุ้มครองก็คือยังถูกฟ้องอาญาได้ ฟ้องแพ่งได้ ต้องจ่ายเงินค่าเสียหายด้วย...กระนั้นหรือ...
...บ้านเมืองใด ไร้ซึ่งขื่อแป ตั้งกฎสร้างกติกาของพรรคพวกข้าฯ ของข้าฯ มาบังคับใช้...หายนะและความวิบัติจึงมาเยือน...
...ใช้หลักกาลามสูตร หลักความจริง หลักสติปัญญา หลักศีลธรรม...คิด พูด ทำ พิจารณากันเอาเอง...
โดย: pimsen/policemajor@hotmail.com [30 ก.ค. 53 14:00] ( IP A:58.10.128.13 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
กลัวกันจัง
เบื่อเนอะ
พูดกับคนฉลาดๆ อย่างหมอ ๆ
เขารู้เยอะไป หรือ ว่า กังวลเยอะไป
หรือ ว่ายังไง
แล้วประชาชนที่ไม่รู้เรื่องเลย เอาอะไรไปเถียงเนี่ย
โดย: ลาออกไปให้หมดปะ ? ต้มยากินกันซะหมดเรื่อง กินไม่ได้ก็ตายกันซะ [30 ก.ค. 53 15:15] ( IP A:1.46.216.16 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
ชื่อคนที่โพสต์ความเห็น 21 นี่เข้าท่าเนอะ
โดย: ดี [30 ก.ค. 53 15:46] ( IP A:118.172.81.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
แหม
ความหลง
ความโกรธ ความโลภ เนี่ย
เข้าใคร ออกที่ใครแล้ว บางทีก็เหนียวแน่น + อยู่ยั้งยืนยังซะจริงๆ
ใช่ไหมครับท่าน pimsen/
policemajor@hotmail.com
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [2 ส.ค. 53 10:41] ( IP A:58.8.86.130 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
อย่าเกลียดชังหมอกันขนาดนั้นเลยค่ะ
ตัวเองเป็นหมอ และก็เคยเป็นคนไข้ และเคยเป็นญาติคนไข้ด้วย
เคยผ่านสถานการณืมาทั้งสามอย่าง
หมอเราตอนนี้เหมือนถูกมัดมือ ปิดปาก ชก ใครดิ้นรนพยายามส่งเสียงก็ถูก แพทย์ที่ไม่ไดรักษาผู้ป่วยแล้ว แพทย์ที่กำลังจะสมัคร สส และกลุ่มคนไข้ที่ไม่เข้าใจ รุมต่อว่า
สงสารกันบ้างเถอะค่ะ
หมอที่ทำงานหนัก เสียสละ และรักคนไข้จริงๆ ก็มีอยู่มากมาย
ตอนคุณพ่อหลอดเลือดแดงใหญ่แตก ช้อค ไม่รู้สึกตัว อาจารย์สมชาย ท่านก็ขับรถฝ่าฝนตกหนัก มาผ่าตัดให้ตั้งแต่ตีสองถึง เก้าโมงเช้า โดยที่ไม่ตังค์ซักบาท
มีหมอเด็ก หลายคนทิ้งลูกตัวเองที่ไข้ขึ้นไว้กับพี่เลี้ยงที่บ้าน แล้วมานอนเฝ้าไข้ลูกคนอื่นที่ รพ.
ถามว่า เวลาเป็น เวลาตาย เวลาเครียดขนาดนั้น เครือข่ายคุ้มครอง.... อยู่ที่ไหนคะ หลับสบายอยู่บนเตียงหรือเปล่า........
โดย: nin [6 ส.ค. 53 11:32] ( IP A:114.128.19.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
ในฐานะที่เห็นหลายๆ อย่างในวงการนี่มายาวนาน ก็ยังเป็นคนนึงที่กราบแพทย์ได้ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ และยังเคารพเสื้อกราวน์อย่างที่สุด ไม่ว่าในฐานะที่ตัวเองเป็นคนไข้ หรือญาติ หรือแม้แต่ ในฐานะแพทย์ ก็ยังเคารพเพื่อนร่วมวิชาชีพทุกคนค่ะ
หมอยังศรัทธาในพระพุทธศาสนา เชื่อพระพุทธเจ้า อย่างไม่สงสัยใดๆ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นไปตามกรรมค่ะ ถึงเวลาตาย ร้อยหมอ ก็ช่วยไม่ได้
พระพุทธเจ้า ท่านก็เคยป่วยนะคะ และก็ปรินิพพาน ไปแล้ว
หมอเองก็ต้องตายนะคะ อาจารย์หมอ ที่ว่าเก่งๆ ก็ตายไปนับไม่ถ้วนแล้ว ก็ถ้าชีวิตของตัวหมอเองหมอยังรักษาไว้ไม่ได้ จะให้รับผิดชอบดึงทุกชีวิตคนไข้ไม่ให้ตายได้อย่างไร
คนเราเกิดไม่จริง ตายไม่จริง ตายละจากร่างนี้ก็เพื่อไปเกิดใหม่ เราให้ความสำคัญกับการเจ็บป่วย การตาย กันมากมาย แต่ให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวตายกันน้อยมาก
ยิ่งกว่านั้นเรากำลังจะเอาคนที่บางทีเสียชีวิตไปแล้ว มาต่อกรรมกับแพทย์ที่ดูแลรักษาเขาอีก.......
โดย: nin [6 ส.ค. 53 11:59] ( IP A:114.128.19.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราเรียกเจตนานั่นแหละ ว่าเป็นกรรม
แพทย์ไม่มีเจตนาให้คนไข้เสียชีวิต หรือ พิการอยู่แล้ว ดังนั้นย่อมไม่ใช่กรรม
แต่ที่กำลังทำกันอยู่นี่มันอะไรคะ มีทั้งฟ้องร้องแพทย์ ประนามแพทย์ ให้ทุกข์ใจ เสียชื่อเสียง แปลว่าเรากำลังจะทำให้ผู้ที่ไม่มีเจตนา (ไม่เป็นกรรม) ต้องรับกรรม อย่างนั้นหรือคะ
นี่ตั้งอยู่บนหลักสัจธรรมหรือเปล่า
การก่อกรรมกับผู้ที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นบาปหนักนะคะ
แล้วเมื่อไหร่จะจบเวร จบกรรมกันล่ะคะ
ถ้า พรบ นี้ยืนอยู่บนสัจธรรม ก็ขอสนับสนุนค่ะ
จะเยียวยาผู้เดือดร้อนอย่าไรก็ว่ากันไป
แต่ต้องระบุให้เลิกฟ้องแพ่ง ฟ้องอาญาแพทย์ได้แล้วค่ะ บอกตามตรงว่ามันบาปปปปปปปป มากกกกกกกก
ยิ่งถ้าไปทำกับแพทย์ที่ท่านเสียสละมามากตลอดชีวิตท่าน จะยิ่งบาป หนัก เหมือนไปทำบาปกับคนที่มีศีลสูงๆ ใช้กันไม่รู้กี่ชาติ เลยนะคะ
โดย: nin [6 ส.ค. 53 12:10] ( IP A:114.128.19.195 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
เพื่อนแพทย์ที่จะสมัคร สส หรือ อยากเอาใจเจ้านาย หรือ ไม่ได้ตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว กรุณานึกถึงแพทย์ผู้ปฏิบัติงานให้มากๆ นะคะ อย่าเอาดีเข้าตัว อย่างเดียวเลยค่ะ ฟังกันบ้าง
แพทย์ที่ไม่เห็นด้วยกับ พรบ ก็รักผู้ป่วย ไม่น้อยกว่าที่ท่านรัก บางทีที่ท่านนอนหลับสบายอยู่ยนเตียงอุ่นๆ ที่บ้าน ยังมีพี่น้องร่วมวิชาชีพเรา อดนอนผ่าตัด เฝ้าไข้คนไข้ อยู่ใน รพ ทั่วประเทศ นะคะ
เมตตาต่อกัน มุ่งดี ต่อกันเถอะค่ะ ทั้งเพื่อนแพทย์ ผู้ป่วย และญาติ อย่าให้ทนายที่อยากดังหรือ ได้ผลประโยชน์มาสร้างความร้าวฉาน ให้เราเลย
โดย: nin [6 ส.ค. 53 12:19] ( IP A:114.128.19.195 X: )
ดำ
ขาว
น้ำเงิน
แดง
เขียว
เหลือง
ส้ม
น้ำตาล
ม่วง
ฟ้า
เขียวมะนาว
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :
แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้
(ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ :
.wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน