แถลงการณ์เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์
   เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์
27 ซอยเพชรเกษม 50/1, บางหว้า, ภาษีเจริญ, กรุงเทพฯ 10160.
โทร. 081-629-4440 /089-210-6281 / แฟ็กซ์: 02-869-6984
Website: https://www.consumer.pantown.com E-mail: ouidolla@yahoo.com

แถลงการณ์
27 กรกฎาคม 2553

จากกรณีที่แพทยสภาและกลุ่มแพทย์ เคลื่อนไหวต่อต้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขพ.ศ... และนัดรวมพลครั้งใหญ่ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เพื่อล้มร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว พร้อมขนานนามว่าเป็นพ.ร.บ.อัปยศนั้น

เครือข่ายฯ ขอชี้แจงให้สังคมรับทราบว่า ทำไมต้องมี พ.ร.บ.ฉบับนี้ ดังต่อไปนี้

เครือข่ายฯ คือกลุ่มคนไข้ที่เคราะห์ร้าย ผลกระทบจากความประมาทไม่เอาใจใส่ของบุคคลากรทางการแพทย์ นำมาซึ่งความตายและความพิการพลิกผันชีวิตพวกเราแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป สร้างความทุกข์กายทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส หมดโอกาสหาความก้าวหน้า ชีวิตเต็มไปด้วยปัญหาที่ไร้ทางออก บางครอบครัวต้องอยู่ไปวัน ๆ อย่างสิ้นหวังทั้งที่ยังมีลมหายใจ พวกเราเข้าใจดีว่าความผิดพลาดเป็นของคู่กันของมนุษย์ เราเห็นใจบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนัก เสียสละ แต่ความตายที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อนั้น มีการวิจัยในสหรัฐและยอมรับโดยองค์การอนามัยโลกว่า เป็นความผิดพลาดที่ป้องกันได้ ที่เจ็บและพิการยังไม่ต้องนับ ประเทศไทยมีคนไข้ 4 กลุ่มคือบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ และคนไข้ที่จ่ายเงินเอง เมื่อได้รับความเสียหายกลับไม่มีระบบรองรับ มีแต่คนไข้บัตรทองที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 แต่ก็มี เพดานสูงสุดคือ 2 แสนบาทกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร แต่สำหรับผู้เสียหายที่ต้องให้อาหารทางสายยางตลอดชีวิตและคนในครอบครัวต้องออกจากงานมาดูแลตลอด 24 ชั่วโมง หรือผู้เสียชีวิตคือเสาหลักของครอบครัวนั้นถือว่าไม่เพียงพอต่อการดูแลผู้เสียหายในระยะยาว ที่สำคัญไม่ครอบคลุมคนไข้สิทธิอื่น
การเรียกร้องหาความเป็นธรรมของผู้เสียหายทางการแพทย์ เป็นไปด้วยความยากลำบาก หาความเป็นธรรมแทบไม่ได้ มีการเอนเอียงเข้าข้างวิชาชีพเดียวกัน ดังจะยกตัวอย่างต่อไปนี้

1. เรื่องร้องเรียนของคนไข้มักถูกแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดึงเวลาจนหมดอายุความทางแพ่ง 1 ปี และมักตัดสินว่าเป็น”คดีไม่มีมูล” แพทย์รักษาได้มาตรฐานดีแล้วแทบทุกกรณี

2. แพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งทีมแพทย์ที่จบกฎหมายขึ้นมาต่อสู้กับคนไข้ และมักยกเรื่องอายุความซึ่งเป็นจุดอ่อนของคนไข้ขึ้นมาต่อสู้คดี

3. เมื่อคนไข้ไปแจ้งความ เพื่อนำเอาอายุความทางอาญาที่ยาวกว่ามาประกอบในการฟ้องคดีแพ่งแพทยสภาก็ขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ก่อนรับแจ้งความต้องฟังความเห็นแพทยสภาก่อน ปกติที่คนไข้ร้องเรียนแพทยสภามักใช้เวลา 3ปี 5ปี 8ปีก็ไม่ชี้มูล แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความเห็นแพทยสภาใช้เวลาเพียง 3 เดือนก็ตอบว่าไม่มีมูลแทบทุกคดี

4. เวชระเบียน(ประวัติการรักษาพยาบาล) คือหลักฐานเดียวในที่เกิดเหตุ แต่อยู่ในมือสถานพยาบาล กรรมการแพทยสภาท่านหนึ่งประกาศทางเว็บไซต์ว่า หากมีวี่แววว่าจะถูกคนไข้ตรวจสอบให้ส่งเวชระเบียนให้ทีมกฎหมายที่ตั้งขึ้นตรวจสอบก่อน มีการอบรมวิธีเขียนเวชระเบียนเพื่อป้องกันการฟ้องร้อง การขอคัดถ่ายสำเนาเวชระเบียนของคนไข้เป็นไปด้วยความลำบาก มักถูกปฏิเสธอ้างว่านายกแพทยสภาบอกว่าเป็นสมบัติของโรงพยาบาลให้ไม่ได้ เวชระเบียนของพวกเรามักถูกแก้ไข ถูกดึงส่วนสำคัญออก หรืออ้างว่าหาย

5. นายกแพทยสภานำทีมแพทย์จากราชวิทยาลัยไปเบิกความสู้กับคนไข้ในศาลเพื่อช่วยแพทย์แทบทุกคดี ขณะที่พยานทางการแพทย์ฝ่ายคนไข้นั้นหายากมาก

6.ต่อมาหลายกรณีที่แพทยสภามีมติว่า”คดีไม่มีมูล” ศาลพิพากษาให้คนไข้ชนะคดี แต่กระทรวงสาธารณสุขไม่มีกองทุนเฉพาะสำหรับเรื่องนี้ ต้องสู้คดีให้ถึงที่สุดแล้วกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จ่ายซึ่งใช้เวลานานหลายปีสร้างความทุกข์ให้ทั้งฝ่ายผู้เสียหายและแพทย์ ทั้งที่ตามพรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท พ.ศ.2539 นั้นมาตรา 11 มีสองแนวทางคือหนึ่งร้องเรียนแล้วหน่วยงานสามารถตั้งกรรมการสอบแล้วกำหนดค่าชดเชยได้เลย แต่ผลสอบสวนก็ไม่ต่างอะไรจากแพทยสภา และผลักให้ผู้เสียหายไปฟ้องร้องเอาเองแทบทั้งสิ้น

7.ความไม่เป็นธรรมของหน่วยงาน ทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นจนมีคนไข้ถูกยิงจนเสียชีวิตก่อนวันนัดฟังคำพิพากษา เช่นกรณีนางรวีวรรณ เสตะรัต ผู้เสียหายจากการทำศัลยกรรม ที่ผ่านไป 5 ปีแล้วแพทยสภาก็ยังไม่ชี้มูลเรื่องร้องเรียนของเธอ มิหนำซ้ำนายกแพทยสภายังพูดต่อที่ประชุมในกระทรวงสาธารณสุขต่อหน้าผู้ร่วมประชุมนับร้อยว่า การตายของคุณรวีวรรณนั้นถ้าไม่เรียกว่าสมน้ำหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี
การตอบโต้กับคนไข้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันของหน่วยงานนั้น ทำให้คนไข้เสื่อมศรัทธา และก่อให้เกิดวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับคนไข้อย่างรุนแรง กรณีแพทย์หญิงคนหนึ่งบล็อคหลังคนไข้ก่อนผ่าตัดไส้ติ่งแล้วเกิดเหตุทำให้คนไข้เสียชีวิด ถูกศาลอาญาตัดสินลงโทษจำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญานั้น แพทยสภาหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาปลุกปั่นวงการแพทย์อย่างหนัก ไม่ให้โรงพยาบาลชุมชนผ่าตัดไส้ติ่ง หรือทำคลอด โยนความผิดให้คนไข้และเครือข่ายฯ ว่าเป็นสาเหตุทำให้คนไข้อื่นต้องเสียชีวิตระหว่างส่งต่อ ทำให้แพทย์หวาดระแวงไม่กล้ารักษา ทำให้หมอลาออก ทำให้นักศึกษาไม่อยากเรียนแพทย์ ทั้งที่เรื่องนี้แพทย์ไม่ได้เข้าไปอยู่ในห้องขังและไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือ อีกทั้งก่อนหน้านั้นแพทย์เตรียมที่จะขอโทษและทำบุญให้ผู้เสียชีวิต แต่แพทยสภากลับไม่ให้แพทย์ขอโทษและให้สู้คดีในทางที่ไม่ถูกต้องจนนำไปสู่เหตุการณ์ที่น่าเศร้าใจ จนกระทั่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.มงคล ณ สงขลารับทราบข้อเท็จจริงได้กรุณาแก้ไขปัญหาจนนำไปสู่ความเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายในที่สุด
การประกาศให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาของเอเชีย บุคลากรทางการแพทย์ภาครัฐถูกดูดไปอยู่ภาคเอกชน นำไปรักษาชาวต่างชาติ โดยที่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลเอกชนเหล่านั้นส่วนหนึ่งก็คือกรรมการแพทยสภา ที่ไม่ได้ลงทุนผลิตบุคลากรของรัฐเหล่านั้นเลยแม้แต่บาทเดียว มิหนำซ้ำยังทิ้งภาระงานหนักให้กับบุคลากรที่ยังอยู่ในระบบ ขณะที่คนไข้ล้นโรงพยาบาล ความผิดพลาดจากการให้บริการจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
8 ปีที่ก่อตั้งเครือข่ายฯ พวกเราเห็นว่าการต่อสู้ได้สร้างความทุกข์ให้เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย จึงสมควรต้องมีระบบที่มาดูแลรับผิดชอบต่อคนไข้ที่ได้รับความเสียหายแทนบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยให้บุคคลากรทางการแพทย์ไม่ต้องรับภาระใช้ค่าเสียหาย จะได้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ต่อไปอย่างเต็มที่
ร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ.. เป็นความหวังเดียวของพวกเราที่จะได้รับความเป็นธรรมและจะลดปัญหาการฟ้องร้องต่อบุคคลากรทางการแพทย์ เพราะจะมี 1.กองทุนชดเชยความเสียหายด้วยความรวดเร็ว 2.จะมีคณะกรรมการกลางที่ไม่ใช่แพทย์ทั้งหมดเหมือนแพทยสภามาพิจารณาการชดเชยที่เป็นธรรม และ3.มีการพัฒนาระบบป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ เงินกองทุนจะมาจากการจ่ายสมทบ รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายสมทบแทนสถานพยาบาลของรัฐ และในส่วนสถานพยาบาลของเอกชนก็ต้องมีการจ่ายสมทบเช่นกัน เงินทั้งหมดก็มาจากภาษีชาวบ้านและเงินที่คนไข้ช่วยกันจ่ายคนละเล็กคนละน้อย แพทย์พยาบาลไม่ได้เป็นผู้จ่าย การจ่ายเงินชดเชยจะไม่มีการเพ่งโทษไปที่ตัวบุคคลากรทางการแพทย์ จะมีการสอบสวนให้รู้สาเหตุและหาทางป้องกันแก้ไขเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ พรบ.ฉบับนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาทั้งต้นเหตุและปลายเหตุไปพร้อมกัน
การออกมาต่อต้านของแพทย์ และข่มขู่ว่าจะตรวจช้า ๆ ตรวจละเอียดและส่งต่อไม่รักษา เรียกร้องเป็นอภิสิทธิ์ชนที่ห้ามฟ้องแพทย์เป็นคดีอาญา จะคิดค่ารักษาแพง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและยอมรับไม่ได้ ทั้งที่เรื่องนี้ก็ชัดเจนโดยนโยบายขององค์การอนามัยโลกที่บอกว่าความผิดพลาดทางการแพทย์นั้นอันตรายและพบมาก ต้องรีบแก้ไขเยียวยา การผลักให้ผู้เสียหายกลับไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับหน่วยงานและฟ้องคดีต่อศาลเหมือนเดิมนั้น ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่ทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายใหญ่โตมากกว่าที่ผ่านมา

สุดท้ายขอวิงวอนให้แพทยสภาและกลุ่มแพทย์ที่ต่อต้านพรบ.ฉบับนี้ ได้โปรดหยุดคิดและเห็นใจในความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ ขอความเมตตาให้ท่านมองพวกเราอย่างเข้าใจ ว่าครั้งหนึ่งชีวิตของพวกเราก็คือวัตถุดิบในการเรียนรู้ของท่านในอันที่จะพัฒนายกระดับมาตรฐานวิชาชีพ และขอวิงวอนให้รัฐบาลได้โปรดเดินหน้านำร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ.. เขาบรรจุเป็นวาระในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ตามที่ท่านได้รับปากกับประชาชนว่าจะผลักดันร่างพรบ.นี้ล้านเปอร์เซ็นต์ เพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ในอันที่จะสร้างความเป็นธรรมและสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป
___________
หมายเหตุ
เราพบความจริงว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนไข้เสียชีวิตจากความผิดพลาดทางการแพทย์ที่ป้องกันได้(ไม่นับรวมพิการ) ประมาน 44,000- 98,000 คนต่อปี เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งที่มากกว่าการอุบัติเหตุทางการจราจร มะเร็งเต้านม หรือเอดส์ เชื่อกันว่าในประเทศที่กำลังพัฒนา รวมทั้งประเทศไทยจะมีอัตราการเสียชีวิตจากความผิดพลาดทางการแพทย์ที่ป้องกันได้สูงกว่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของชาติอย่างมหาศาล ไม่นับความเสียหายทางจิตใจที่ประเมินค่าไม่ได้
https://www.usatoday.com/news/health/2004-10-27-who-mistakes_x.htm
โดย: เจ้าบ้าน [28 ก.ค. 53 9:56] ( IP A:210.86.181.20 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 28 กันยายน 2550 08:54:00 น.

พัชรวาท โวหลักฐานแน่น รอง ผบช.ก. ขอเวลา 3 วันจ่อออกหมายจับคนร้ายฆ่าสาวหน้าเด้งเพิ่ม รรท.ผบก.ป. ปฏิเสธข่าวน้องหมอซุกปีกซุ้ม ตร.ชั้นผู้ใหญ่ เผยทีมสังหารวางแผนเนียนแต่กำลังหาทางเชื่อมคดีอยู่ ด้าน ไอ้ตึ๋ง ถูกคุมทำแผนแล้ว ขณะที่ สภ.อ.วังน้อย พาเจ้าทุกข์มาขออายัดตัวสอบเพิ่มข้อหาพยายามฆ่าอีก

จากกรณีเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ยื่นขอคัดค้านการประกันนายจตุรงค์ เบ็ญกูล หรือ ไอ้ตึ๋ง มือลั่นไกสังหารนางรวีวรรณ เสตะรัต และนายวรรธนะ หรือบุญลือ รุ่งเรือง โชเฟอร์แท็กซี่ อดีตคนขับรถ น.พ.ไพศาล ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่จะขึ้นให้การช่วยเหลือนางรวีวรรณในคดีที่มีเรื่องฟ้องร้องกับนายแพทย์คนดังเจ้าของไบโอคลินิก เนื่องจากคดีมีความซับซ้อนและกลัวผู้ต้องหาจะหลบหนีพนักงานสอบสวนจึงขออนุญาตจากศาลอาญารัชดาขอนำตัว ไอ้ตึ๋ง กลับไปควบคุมที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพและสอบสวนขยายผลไปสู่ผู้ต้องหารายอื่นเพิ่มเติมตามที่ได้เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

รองฯ พัชรวาท สั่งชุดทำงานเน้นความรอบคอบ
ความคืบหน้าของคดีนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.ย.50 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลคดี ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดทำงานที่ร่วมคลี่คลายคดีนี้มาตั้งแต่ต้นทั้งหมดประกอบด้วย พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สส.น.4 และพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เข้าร่วมประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยใช้เวลาหารือร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดทำงานทั้งหมดทำสำนวนอย่างรอบคอบทั้งเรื่องของคำให้การของผู้ต้องหา และการตรวจสอบพยานหลักฐานทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใสตามกระบวนการของกฎหมาย และหากจะมีการควบคุมตัวผู้กระทำผิดก็ให้ทำตามระเบียบของกฎหมายที่กำหนดไว้เท่านั้น

เตรียมจ่อออกหมายจับเพิ่ม
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.สุชาติ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมร่วมกันของชุดปฏิบัติงานทั้งหมด เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้คดีนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้หนักใจในการทำงาน และตนมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดในตอนนี้น่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ แม้ผู้ต้องหาจะออกมาปฏิเสธก็ตาม สำหรับเวลานี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสาวให้ถึงผู้ใช้จ้างวาน และผู้ต้องหารายอื่นอีก แต่จะสามารถออกหมายจับเพิ่มเติมได้เมื่อไหร่ และออกหมายจับได้อีกกี่คนตนยังไม่สามารถบอกได้ ขอเวลาทำงานอีก 2-3 วันก่อนเพราะตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอยู่

ผบก.ป.เผยทีมฆ่าทั้ง 3 คดีวางแผนแนบเนียนมาก
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจพยายามตรวจสอบความเชื่อมโยงทั้งคดีฆาตกรรมนางรวีวรรณ เหยื่อศัลยกรรม นายบุญลือ อดีตคนขับรถของ น.พ.ไพศาล และนายชาญวิทย์ เซลส์แมนขายชุดสูท ว่า คดีทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ เรากำลังประมวลพยานหลักฐานที่ได้มาทั้งหมด แต่จากการตรวจสอบพบว่าบางส่วนมีความเกี่ยวข้องกัน ในขณะที่บางส่วนก็ยังก้ำกึ่งอยู่ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ทำให้เห็นว่าคนร้ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี และพยายามที่จะทำลายร่องรอยพยานหลักฐานของทุกคดีมาโดยตลอด ซึ่งชุดทำงานทั้งหมดก็ต้องพยายามสืบสวนต่อไป แต่ยังไม่ได้วางกรอบเวลาเอาไว้ว่าจะต้องเสร็จเมื่อไหร่

ปฏิเสธน้องหมอซุกปีกซุ้ม ตร.ชั้นผู้ใหญ่
พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ กล่าวต่อไปว่า จากกรณีที่ได้มีข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่านายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย น.พ.ไพศาล กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในซุ้มมือปืนของอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในพื้นที่ภาคกลางตอนบนนั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ในขณะนี้ได้มีการประสานความร่วมมือระหว่าง ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรทุกแห่งทุกพื้นที่ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะไปหลบซ่อนตัวอยู่ คาดว่าน่าจะได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้

ต่อ ค.ห. ถัดไป
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [28 ก.ค. 53 11:19] ( IP A:58.8.126.13 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    สภ.อ.วังน้อยเบิกตัว ไอ้ตึ๋ง สอบเพิ่มเติมอีก
เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันเดียวกันได้มี ร.ต.อ.บรรจง แสงปรีชา พนักงานสอบสวน สภ.อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นำตัวผู้เสียหายรายหนึ่งจากคดีพยายามฆ่าเหตุเกิดในท้องที่ สภ.อ.วังน้อย เมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมาติดต่อขอเข้าพบ พ.ต.ท.อานพ วินัยโรจน์ สารวัตรเวร สน.ลาดพร้าว ซึ่งเป็นเจ้าของคดีฆ่านางรวีวรรณ เพื่อขอเบิกตัว ไอ้ตึ๋ง มาสอบปากคำ เนื่องจากผู้เสียหายสงสัยว่า ไอ้ตึ๋ง น่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เพราะรูปพรรณสัณฐานและวิธีการก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคลึงกันอย่างมาก หลังจากที่ ร.ต.อ.บรรจง สอบปากคำ ไอ้ตึ๋ง นานกว่า 4 ชั่วโมงก็รีบพาตัวผู้เสียหายรายนี้กลับทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่มีรายงานว่า ไอ้ตึ๋ง มีส่วนเกี่ยวพันกับคดีนี้ด้วยอย่างแน่นอน

ตำรวจตรึงกำลังเข้มทำแผน 7 จุด
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.อ.วังน้อย ทำการสอบปากคำ ไอ้ตึ๋ง และนำตัวผู้เสียหายกลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว และ พ.ต.ท.เอกสฤษดิ์ วิโรจน์ยุติ รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว ได้ร่วมกันควบคุมตัว ไอ้ตึ๋ง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าบ้านพักของนางรวีวรรณ เลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. และรอบๆ บริเวณรวมทั้งสิ้น 6 จุด ท่ามกลางการอารักขาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย จากนั้นนำตัว ไอ้ตึ๋ง ไปทำแผนที่ประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าร้านครัวริมทาง ตรงข้ามประตู 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝั่งถนนงามวงศ์วาน ซึ่งเป็นจุดที่ นายศักดา ขับรถเก๋งมารอรับ ไอ้ตึ๋ง และ ไอ้กอบ หลบหนีไป

กบดานที่ จ.ปทุมธานี ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว ไอ้ตึ๋ง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพครบทั้ง 7 จุดแล้ว ก็ได้นำตัว ไอ้ตึ๋ง กลับไปควบคุมต่อที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อรอพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เบิกตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัว ไอ้ตึ๋ง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีที่ก่อเหตุยิงนายวรรธนะ หรือบุญลือ รุ่งเรือง โชเฟอร์แท็กซี่ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญของนางรวีวรรณต่อไป
********************************

คนตายจากคดีเกี่ยวเนื่องทั้งหมด 3 คนแล้วครับ คนฆ่า+คนบงการทุกๆคน ลอยนวลอยู่ครับ + ตำรวจสรุปแล้วว่า มูลเหตุจูงใจของคดีมาจากข้อพิพาททางการแพทย์ครับ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง (เรื่องหมอ) [28 ก.ค. 53 11:22] ( IP A:58.8.126.13 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ตอนแรกก็ไม่นะ แต่อ่านความเห็นในบอร์ดนี้นานๆ ผมชักสงสัยในจุดประสงค์แอบแฝงของพวกคุณในการผลักดันพรบ.ฉบับนี้แล้วสิ

แค่สงสัยนะ เหมือนที่คุณสงสัยแพทย์สภาไง
โดย: Dr.K [28 ก.ค. 53 17:49] ( IP A:58.64.31.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   สงสัยก็ต้องตามตรวจสอบ
ใครดีใครชั่วระยะยาวฉาวโฉ่มีให้เห็น
เหมือนสังคม ยี้ แพทยสภา

เราไม่เคยกลัวการตรวจสอบ
เราถนัดการตรวจสอบแพทยสภา
โดย: เครือข่ายฯ [29 ก.ค. 53] ( IP A:58.9.224.33 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   นับถือคนดีเสมอ ที่ยอมเสียสละ
โดย: ขอบคุณ คนดี [29 ก.ค. 53 14:02] ( IP A:115.67.144.159 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน