ดูว่าแพทยสภาและหมอเขาคิดอย่างไรกับเรา
   ข่าวจากนายกแพทยสภา :
เมื่อ 7/1/2549 18:56:51

สวัสดีปีใหม่สมาชิกแพทยสภาทุกท่าน ในช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่มีข่าวเกี่ยวกับแพทย์ในสื่อบ่อยมาก สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทราบรายละเอียด ผมจะขอสรุปข้อเท็จจริงไห้ทราบ

เรื่องที่ 1
เด็กอายุหนึ่งเดือนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เข็มที่สองเมื่ออายุ หนึ่งเดือนเมื่อตอนเย็นแล้วพบว่าเสียชีวิตตอนเช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่นอนอยู่ รัฐมนตรีสั่งปิดคลีนิก แต่เมื่อตรวจแล้วคลินิกทำถูกต้องตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ถ้าสั่งปิดไม่มีกฎหมายรองรับ กระทรวงอาจถูกฟ้องศาลปกครอง เลยได้ขอร้องให้แพทย์ช่วยปิดคลินิกเองชั่วคราวเพื่อไม่ให้บางคนเสียหน้า ปัจจุบันเปิดทำการปรกติแล้ว

ข้อเท็จจริง วัคซีนที่ใช้ฉีดให้เด็กคนนั้นได้ฉีดให้กับเด็กสองคน อีกคนปรกติไม่มีปัญหา ผลการตรวจศพพบว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน เด็กตายด้วยโรค Sudden Infant Death Syndrome (SIDS) หรือ Sudden Unexpected Death in Infancy (SUDI) ตรงตำแหน่งที่ฉีดวัคซีนไม่มีอาการบวมหรือแม้แต่เลือดออก โรคSIDS นี้พบในเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 1 ปี แต่ทีพบบ่อยสุดคืออายุ 1 ถึง 4 เดือน ซึ่งเป็นอายุที่เด็กเริ่มฉีดวัคซีนพอดี ถ้าบังเอิญเกิดหลังวันที่ไปพบแพทย์ผู้ป่วยก็จะโทษแพทย์ทันที Institute of Medicine ของสหรัฐได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดและได้ตีพิมพ์หนังสือ เรื่อง Immunization Safety Review: Vaccinations and Sudden Unexpected Death in Infancy ในปี พ.ศ. 2546 สรุปว่าไม่เกี่ยวกัน ในสหรัฐฯเคยพบโรคSIDS นี้ประมาณ 5000-6000 ตนต่อปี ปัจจุบันได้แนะนำให้เด็กนอนหงาย ไม่ให้นอนคว่ำ พบว่าอุบัติการณ์ลดลงเหลือ 2200 คนต่อปี

เรื่องที่ 2
เด็กอายุ 1 ปี 9 เดือน มีไข้มาสองวันมารดาซื้อยาลดไข้ให้กินเองอาการไม่ดีขึ้น จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลของรัฐในตอนเช้า เวลา 8.51 น. ผู้ป่วยมีไข้สูง พยาบาลได้ให้ยาลดไข้และเช็ดตัวให้ แพทย์ได้ให้ amoxy-clavulanic acid, benadryl expectorant และ paracetamol ในตอนเย็นเวลา 17.19 น. มารดาได้พาเด็กกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลซ้ำเนื่องจากไข้ยังไม่ลดพบแพทย์คนที่ส อง แพทย์ตรวจไม่พบสิ่งผิดปรกตินอกจากไข้สูงและมี small VSD ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีภาวะขาดน้ำ ไม่มีอาการชัก ไม่มีอาการหอบ แพทย์ได้ตรวจเลือด พบ wbc 7300 เกล็ดเลือด 297,000 cu.mm ลักษณะเหมือนการติดเชื้อไวรัส เนื่องจากผู้ป่วยมีบ้านอยู่ใกล้โรงพยาบาล แพทย์จึงให้ยาแก้อาเจียนและให้กินยาต่อและแนะนำให้กลับมาใหม่ถ้าอาการไม่ดีข ึ้น หลังจากที่แพทย์ตรวจแล้วขณะที่รอยาผู้ป่วยมีอาการตาเหลือก ศรีษะและลำตัวแอ่นจากอาการชัก แต่มารดาเข้าใจว่าเป็นอาการตกใจ เลยไม่ได้เอากลับไปให้แพทย์ดูซ้ำ ถ้าแพทย์ทราบว่าชักแล้วไม่รับไว้ในโรงพยาบาลน่าจะเป็นความผิดของแพทย์แต่มาร ดาผู้ป่วยไม่ได้แจ้งแพทย์แถมนำเด็กกลับไปบ้าน ไปชักต่อที่บ้านโดยไม่ทราบว่าบุตรชัก มารดาเข้าใจผิดว่าอาการชักคืออาการหมดสติ บิดาเด็กมาพบตอนค่ำพบเด็กมีอาการเกร็งมากจึงนำไปโรงพยาบาลเอกชน ได้รับยากันชัก ต่อมาผู้ป่วยหยุดหายใจ ทำ CT scan พบสมองบวมทั่วไป ผู้ป่วยมีอาการเลวลงอย่างรวดเร็ว จนถึงอาการสมองตายในเวลา 72 ชั่วโมง ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน ผลการเพาะแบคทีเรียไม่พบเชื้อ ผู้ป่วยมี ไข้สูง อาการซึม ชัก hypotonia, hyperglycemia และ มี supraventricular tachycardia มี heart rate ขึ้นไปถึง 230/นาที เป็นระยะๆ มีอาการหอบอาการทีกล่าวมานี้ เป็นอาการ ของ brain stem encephalitis ที่พบใน enterovirus 71 ผลการตรวจศพพบมีสมองบวมมาก แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจไม่ได้ตรวจ brain stem เนื่องจากสมองส่วนนั้น เละแล้ว และไม่ได้ส่งไปทำ PCR หา enterovirus โรคนี้มีรายงานในไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร ส่วนประเทศไทยก็เคยพบแต่ไม่ได้ครวจหาเชื้อไวรัส

เรื่องที่สาม
ผู้ป่วยอายุ 35 ปีมีบุตรตายในครรถ์ ญาติต้องการให้ผ่าเอาเด็กออก อย่างที่ทราบกันดีในวงการแพทย์ว่าร้อยละ 80 ของเด็กที่ตายจะคลอดออกมาเองในเวลา 2 สัปดาห์ ถ้าปากมดลูกเปิดก็ให้ยากระตุ้นมดลูกให้ดลอดได้ ส่วนเรื่องผ่าคลอดโดยทั่วไปเราเอาเป็นหนทางสุดท้าย ในรายนี้ขณะที่กระตุ้นให้เกิดการคลอดผู้ป่วยเกิดอาการของ amniotic emboli เสียชีวิตปุปปับ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือมารดาอายุเกิน 30 ปี มีเด็กตายในครรถ์ มดลูกบีบตัวแรง ผลการตรวจศพ พบว่ามีเลือดออกที่สมองซีกซ้าย มีเลือดออกบริเวณผิวตับจำนวนมากและมีเลือดในช่องท้องประมาณ 2000 มล. มดลูกไม่ได้แตก หัวใจข้างขวาโต การตรวจพบเข้าได้กับ amniotic emboli แต่ถ้าจะให้แน่ต้องตรวจดูปอดด้วยกล้องจุลทรรศ์ amniotic emboli ที่มีอาการรุนแรงรักษาไม่ได้ ตายทุกราย

เรื่องที่สี่
ผู้ป่วยชายอายุ 34 ปี ไปเที่ยวปีใหม่แล้วเกิดทะเลาะวิวาท ผู้ป่วยรู้สึกเสียวแปลบ มีเลือดออกที่อกด้านซ้าย ได้ไปที่โรงพยาบาลชุมชน 30 เตียงเวลาตี 2 พยาบาลได้ตรวจดูแผล พบว่ามีแผลถูกของมีคมขนาดกว้าง 2 ซม ลึก 1 ซม เลือดหยุดแล้ว ผู้ป่วยเดินได้ รู้สึกตัว มีกลิ่นเหล้า พยาบาลได้เย็บแผลให้ พยาบาลได้รายงานแพทย์หญิงใช้ทุนปี 2 .ให้ทราบแพทย์ได้แนะนำให้กลับมาถ้าอาการไม่ดีขึ้น อีกสองวันต่อมาผู้ป่วยมีอาการเจ็บที่แผลมากขึงไปรักษาอีกโรงพยาบาล เอกเรย์พบมีดหักฝังอยู่ในกล้ามเนื้อ หน้าอก ได้ส่งต่อให้โรงพยาบาลศูนย์ผ่าเอามีดออก ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ในรายนี้ผู้ป่วยก็ไม่ทราบว่าถูกแทง พยาบาลตรวจแผลไม่พบมีดเพราะกล้ามเนื้อหดปิด ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีมีดหักอยู่ในกล้ามเนื้อ

ปัญหาที่เป็นข่าวบ่อยในระยะนี้เพราะเป็นเรื่องกระแส มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและมึคนยุ แพทย์เราจะต้องปรับปรุงเรื่องการติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดจขึ้น ต้องรีบแจ้งและอธิบาย อย่าหนีปัญหา มีการบันทึกเวชระเบียนมากขึ้น โรงพยาบาลจะต้องเข้ามาช่วยแพทย์ จะต้องให้ประชาชนมีความรู้ดีขึ้น ที่ผ่านมามีช่องว่างระหว่างความรู้ของแพทย์และประชาชนส่วนใหญ่ต่อนข้างมาก ประชาชนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจ และชอบโทษคนอื่น จะต้องปรามสื่อที่ลงข่าวโดยฟังความข้างเดียว ในต่างประเทศไม่มีการลงข่าวเรื่องการรักษาพยาบาลในหนังสือพิมพ์ แพทยสภากำลังดำเนินการเรื่องการประกาศข้อเท็จจริงทางการแพทย์ และกำลังหาทางแก้กฎหมายอยู่




ยุให้ฟ้องศาลปกครองไปเลยครับ แล้วกลัวทำไมใครบางคนเสียหน้า หน้ามันเสีย ปุปะ จนดูไม่ได้อยู่แล้ว เอาให้มันยับกว่านี้จะเป็นไรไป
แล้วหนังสือพิมพ์ลงข้อเท็จจริงนี้บ้างไหมครับ ใครตัดเก็บไว้บ้าง มันกล่าวหาเรายังไง ฟ้องมันกลับไป
โดย: ดูไว้เสีย ว่ามานไม่ได้เห็นใจ [22 ส.ค. 53 16:30] ( IP A:58.9.204.48 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   มันเป็นความเห็นตามหลักวิชาการซึ่งถูกต้องอยุ่เเล้วนะครับ
คุนอย่ามั่วดีกว่า
ผมเชื่อว่าหมอทุกคนเห็นใจคนที่สูญเสียเเต่นี่มันเรื่องวิชาการครับไม่ใช่อารมณ์
โดย: เฮ้อ [22 ส.ค. 53 16:46] ( IP A:124.122.17.229 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   แล้วมีคดีไหนที่เครือข่ายไปช่วยฟ้องไหม
คดีที่ผิดเห็นๆก็ไม่เคยเอามาพูด
https://www.pantown.com/board.php?id=12163&area=4&name=board12&topic=1471&action=view
โดย: ฟฟ [22 ส.ค. 53 20:30] ( IP A:58.8.2.70 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   แต่คดีโดนแทงนั้น ผมว่ายังไม่แน่
ถ้าเอาเวชระเบียนและเอาคนไข้มาสอบถาม อาจจะต้องมีคนจ่ายเงิน
โดย: ฟฟ [22 ส.ค. 53 20:31] ( IP A:58.8.2.70 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ยุให้ฟ้องศาลปกครองไปเลยครับ แล้วกลัวทำไมใครบางคนเสียหน้า หน้ามันเสีย ปุปะ จนดูไม่ได้อยู่แล้ว เอาให้มันยับกว่านี้จะเป็นไรไป
แล้วหนังสือพิมพ์ลงข้อเท็จจริงนี้บ้างไหมครับ ใครตัดเก็บไว้บ้าง มันกล่าวหาเรายังไง ฟ้องมันกลับไป
โดย: ดูไว้เสีย ว่ามานไม่ได้เห็นใจ

หนังสือพิมพ์มักลงข่าวที่รวดเร็วฉับไว ได้ข่าวมาด้านเดียว แล้วประโคมข่าวให้ใหญ่โต ไม่ได้กรองผิดถูก จึงมีปัญหาความเข้าใจผิดบ่อยๆ
แต่พอความจริงปรากฏ ก็มักจะทำเฉยๆ ไม่แก้ข่าวไม่ขอโทษ

เช่นว่า ออกข่าวหมอชุ่ย พอความจริงปรากฏ ก็ไม่มีการออกมาขอโทษ
แต่พอพิสูจน์แล้วว่าชุ่ยจริงก็ดำเนินการต่อ
ทำให้ข่าวที่ปรากฏมีแต่ด้านลบ ซึ่งเกิดจากความกลัวเสียหน้าของใครบางคน
ผมไม่เชื่อว่าเครือข่ายไม่เคยพลาด แต่ไม่ปรากฏการออกมาขอโทษผ่านสื่อ

บางทีไปฟ้องศาลก็หาว่าหมอใจร้าย ไปแก้ต่างในศาลก็หาว่าไม่เห็นใจ เพราะคนกลุ่มหนึ่งมักมองแยกกันไม่ออกระหว่าง ความถูกต้องและความสงสาร
ก็เหมือนกับว่า ไม่ว่ากรณีใดๆระหว่างรถเก๋งกับรถมอเตอร์ไซด้ รถมอเตอร์ไซด้น่าสงสารกว่า เพราะคนขับมักได้รับบาดเจ็บ ควรได้รับการชดเชย และเป็นฝ่ายถูกเสมอ

ไม่ว่าคนขับจะเมาสุรา ไม่ใส่หมวกกันน๊อค ขับตัดหน้า ซิ่งปาดซ้ายขวา ไม่ระมัดระวัง มักจะไม่อยู่ในสนใจของคน

"ยุให้ฟ้องศาลปกครองไปเลยครับ แล้วกลัวทำไมใครบางคนเสียหน้า "
ก็ขอให้เครือข่ายแสดงทัศนคติอย่างชัดเจนกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ว่า ต้องการให้ฟ้องศาลปกครอง หากเห็นว่าไม่ถูกต้อง และไม่ถือว่า ใจร้าย
โดย: เบื่อแล้ว [22 ส.ค. 53 20:35] ( IP A:110.49.193.39 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เครือข่ายมันก็เกรียนอย่างี้แหละครับ อย่าคิดมาก
โดย: เครือข่ายฯสถุน [22 ส.ค. 53 20:59] ( IP A:182.52.89.249 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ขอโทษนะครับ ช่วยอธิบายส่วนที่ไม่จริงใจหน่อยได้ไหมครับว่าส่วนใหน อยากเห็นเป็นบุญตา
โดย: ไม่เข้าใจ [22 ส.ค. 53 21:45] ( IP A:118.172.84.189 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   อ้าว...มีเครือข่ายสถุนมาเยี่ยมเราด้วยแฮะ
โดย: เครือข่ายใหม่เหรอ [22 ส.ค. 53 23:29] ( IP A:58.9.204.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ความคิดเห็น 8 นี่ไม่ทราบว่าแกล้งโง่ หรือโง่จริง

ถ้าโง่จริง สามารถหาดูได้จากกระทู้ล่างๆว่าเครือข่ายฯสถุนหมายถึงใคร
โดย: เครือข่ายฯสถุน [23 ส.ค. 53 10:20] ( IP A:125.24.57.123 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เข้าเรื่องหน่อยเถอครับอย่าเอาแต่ด่ากัน ไม่ได้ประโยชน์เลย

ขอโทษนะครับ ช่วยอธิบายส่วนที่ไม่จริงใจหน่อยได้ไหมครับว่าส่วนใหน อยากทราบ
โดย: ?? [23 ส.ค. 53 11:37] ( IP A:117.47.125.202 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน