ผมท้าไปหลายวันแล้ว เมื่อไหร่จะรับคำท้า
|
ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้ผมผ่าตัดตั้งแต่เช้า บ่ายๆมีโทรศัพท์ บอกเชิญเข้าสายหน่อยจะพูดเรื่อง พรบ โจร ผมบอกโอเค คุยกันทางโทรศัพท์ได้นิดเดียวหมดเวลาไม่หายอยาก ต้องไปขอเขาต่อหลังไมค์ บอกตรงๆ ผมเห็นว่าพวกคัดค้าน พรบ นี่ ผมยังหาคำอธิบายไม่ได้เลยว่าคิดด้วยเหตุผลอะไร ว่างๆ จัดเวทีใหญ่ๆ เอาเวลาเยอะๆ แล้วเชิญผมหน่อยหน่า อย่าดีแต่รังแกชาวบ้านที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันพวกหมอ | โดย: แล้วอย่าหลบหน้าละ [6 ก.ย. 53 21:39] ( IP A:58.8.213.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 Staff Full Member
กระทู้: 188
พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ เพื่อใคร? นพ.อรุณ วิทยะศุภร « เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553, 00:11:31 »
--------------------------------------------------------------------------------
ตามที่ทราบกันทั่วแล้วว่า มีการเสนอร่าง พรบ.เพื่อคุมครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข ถึง 6 ฉบับ ซึ่งทั้งหมดทุกฉบับไม่ว่าจะใช้ร่างฉบับใดหนึ่ง หรือนำทุกร่างมาผสมพันธ์กัน ก็จะได้ พรบ.ที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านการให้บริการที่มากกว่าและหนักกว่าที่เคยประสบ มาใน พรบ.ประกันสุขภาพ และอาจมี...........
ตามที่ ทราบกันทั่วแล้วว่า มีการเสนอร่าง พรบ.เพื่อคุมครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข ถึง 6 ฉบับ ซึ่งทั้งหมดทุกฉบับไม่ว่าจะใช้ร่างฉบับใดหนึ่ง หรือนำทุกร่างมาผสมพันธ์กัน ก็จะได้ พรบ.ที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านการให้บริการที่มากกว่าและหนักกว่าที่เคยประสบ มาใน พรบ.ประกันสุขภาพ และอาจมีการหมกเม็ดสร้างขุมทรัพย์กองใหม่ที่รีดมาจากสถานบริการทุกระดับ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งรายเล็กใหญ่ แม้กระทั่งคลินิคต่างๆ รวมถึงร้านขายยา จึงเห็นควรยกเลิก พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ทั้ง 6 ฉบับ ไม่จำเป็นต้องแก้ไข ด้วยเหตุผลพอสรุปได้ ดังนี้
1. ประชาชนผู้เจ็บป่วย ไม่ว่าจากสาเหตุใด ควรสามารถเข้าถึง (accessibility) การบริการทางสาธารณสุขที่มีคุณภาพ (quality) ได้อย่างเสมอภาค (equality) ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของภาครัฐที่ต้อง ดำเนินการ ในส่วนการประเมินตรวจสอบคุณภาพมีองค์การของสภาวิชาชีพต่างๆด้านสาธารณสุข ดูแล เนื่องจากการบริการทางสาธารณสุขเป็นที่คาดหวังของผู้ขอรับบริการ แม้ให้บริการอย่างเต็มความสามารถตามมาตรฐานแล้วก็ตาม สามารถเกิดผลอันมิพึงปรารถนาได้ ฉนั้นการมาขอรับ บริการย่อมหวังผลหายจากความเจ็บป่วย มิใช่หวังผลว่าเมื่อมารับบริการแล้วสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่พบว่าในร่าง พรบ. ทุกฉบับมีมาตราที่บังคับใช้ไม่ตรงตามเจตนารมย์ของกฎหมาย หรือมีเจตนารมย์ของกฏหมายไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมกับสิทธิและเสรีภาพของผู้ให้บริการ อันจะ ส่งผลต่อมูลค่าการบริการที่จะสูงขึ้นเกินจำเป็น เนื่องจากสถานบริการต้องระมัดระวังตัวอย่างเข้มงวดและให้บริการในลักษณะการ ป้องกันตนเองอย่างมาก เช่น การกำหนดให้มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการจำนวนมาก ให้การรักษาที่เกินความจำเป็นมากขึ้น ในขณะเดียวกัน บุคลากรผู้ให้บริการจะมีการป้องกันตนเองมากขึ้น โดยพยายามหลีกเลี่ยงการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีโอกาส หายน้อย ทำให้ความสามารถในการเข้าถึงบริการของประชาชนไม่เสมอภาค ดังที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศ รวมทั้งหลายๆกรณีในบ้านเรา เช่นการส่งต่อผู้ป่วยไปเรื่อยๆ จนการดำเนินของโรคก้าวหน้าไปมาก ท้ายที่สุดผลเสียทั้งหมดก็กลับมาตกอยู่ที่ประชาชนนั่นเอง และ กรณีมีการร้องเรียนหรือฟ้องร้อง ผู้ประกอบวิชาชีพก็สูญเสียศักดิ์ศรีทางสังคมตั้งแต่บัดนั้น ดังนั้น การเยียวยาผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุขไม่ เพียงแต่ต้องไม่ให้ประชาชนเข้าใจว่าเมื่อรับบริการแล้วไม่ถูกใจจะได้รับเงิน ชดเชย จะต้องไม่มีเจตนารมย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบวิชาชีพไม่ให้ถูกฟ้องร้องด้วย หากประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้มาตรฐานอันเหมาะสมสมควร (การประกอบวิชาชีพ มี พรบ.เฉพาะควบคุมกำกับอยู่แล้ว) ดังนั้น การเยียวยาควรมุ่งที่ผู้ รับบริการที่ได้รับความเสียหายภายหลังเข้ารับบริการทางสาธารณสุขที่สมควรได้รับการเยียวยา ไม่ใช่ทุกคน `กล่าวคือ เราต้องการให้เมื่อประชาชนเจ็บป่วยควรเข้ารับการบริการด้านสาธารณสุข และเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยา ควรเป็นการเยียวยาทางสังคมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกคน โดยไม่คำนึงว่าเป็นความบกพร่องหรือผิดพลาดของผู้ใดหรือไม่ โดย(คณะ)ผู้ พิจารณาควรเป็นผู้ที่รู้จักหรือเข้าใจสภาพเศรษฐานะและความรับผิดชอบในครอบครัวของผู้รับความเสียหาย ตลอดจนได้รับความกระจ่างในแง่ความเจ็บป่วยและมาตรฐานการรักษาจากสถาบัน วิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาว่า จะเยียวยา เพียงใด อย่างไร ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องการบริการผิดมาตรฐานวิชาชีพ เนื่องจากมีสภาวิชาชีพ และหน่วยงานที่รับผิดชอบคอยกำกับ ดูแล และยังมีศาลยุติธรรมในกรณีที่ต้องการคำตัดสิน ผิด ถูก
2. ในความเป็นจริงโดยระเบียบบริหารราชการในปัจจุบัน สามารถให้การเยี่ยวยาผู้ได้รับความเสียหายได้อยู่แล้ว โดยอยู่ในอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข และเราได้ให้การเยียวยาโดยอำนาจดังกล่าวมาเนืองๆในหลายกรณี เช่นให้การรักษาพยาบาลฟรีตลอดชีพ (ก่อนมี พรบ.ประกันสุขภาพ) การให้ทุนเรียนด้านสาธารณสุขแก่บุตรหลาน การให้การเยียวยาทางจิตใจ แม้แต่การให้เงินอุดหนุน เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้ใช้คณะกรรมการ ไม่ได้ใช้กองทุน แต่อาศัยการเจรจาโดยสถานบริการกับผู้เสียหายหาย และอาจมีผู้แทนจากส่วนกลางเข้าร่วม ซึ่งในปัจจุบัน หากกระทรวงจะพิจารณาทุเลาปัญหานี้ กระทำได้โดยใช้อำนาจทางกฏหมายที่มีแต่งตั้งคณะกรรมพิจารณาฯโดยให้บุคคลที่ ประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆให้ความเคารพนับถือ เช่น ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ (พิจารณาตามความเหมาะสมของสถานะของผู้เสียหาย) เป็นต้น ในส่วนของวิชาชีพต่างๆด้านสาธารณสุขนั้น ควรเป็นแค่เพียงที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรเป็นกรรมการ โดย คณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่พิจารณาว่าควรให้การเยี่ยวยาหรือไม่ เพียงใด อย่างไร แล้วนำเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป (ปลัดฯหรือรัฐมนตรี ขึ้นกับวงเงินการอนุมัติ)
3. การกำหนดให้มี เงื่อนไขทางการแพทย์ในการเยียวยานั้น หากพิจารณาเผินๆเป็นการดี แต่ถ้าพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว จะเห็นว่า กว่าจะเยียวยาได้ (ในผู้ที่สมควรได้รับการเยียวยาทางสังคม) คงต้องใช้เวลานาน เพราะต้องตัดสินให้แน่ชัดก่อนว่าไม่ผิดเงื่อนไข แต่ ร่าง พรบ.ต่างๆพยายามซ่อนปมโดยร่างทุกฉบับพยายามให้มีวิชาชีพเข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย ซึ่งเนื้อแท้แล้ว ผู้แทนเหล่านี้ไม่มีสิทธิตัดสินแทนสภาวิชาชีพ หรือผู้พิพากษา หากผ่านร่างกฏหมายเหล่านี้ไปได้ ก็จะยิ่งมีปัญหามากขึ้นต่อสภาวิชาชีพ และในคณะกรรมการยังมีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่วิชาชีพ และน่าจะไม่มีโอกาสรู้พีดเถาเหล่ากอผู้เสียหายเลย โดยเฉพาะ NGO ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ มาเป็นคณะกรรมการร่วมตัดสินมาตรฐานการปฏิบัติของวิชาชีพได้อย่างไร
4. ร่าง พรบ.ทุกฉบับ เหมือนมีความต้องการแอบแฝงสร้างพลังอำนาจในการให้ หรือเพียงต้องการระดมเงินมากองรวมไว้เพื่อใช้จ่าย คล้ายๆ พรบ.ทางสาธารณสุขหลายๆฉบับที่ผ่านมา จะมี NGO กลุ่มเดิมๆ คนเดิมๆ เข้ามามีบทบาทเป็นคณะกรรมการมากมาย ทำให้รัฐต้องสูยเสียเงินส่วนหนึ่งเพื่อเป็นค่าเบี้ยประชุม เบี้ยงเลี้ยง ค่าเดินทาง การดูงาน ฯลฯ ทั้งๆที่ หากดำเนินตามข้อ 2 ค่าใช้จ่ายจะน้อยมาก และเป็นที่ยอมรับมากกว่า
5. การระดมเงินเพื่อนำ มาใช้นั้นมองในแง่ผิวเผินเป็นการดี แต่หากมองลึกๆแล้ว จะเห็นว่าหลายๆกองทุนเพิ่มภาระและทำให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากเงินมีจำนวนมาก ในกรณีนี้ การระดมเงินทุนจากโรงพยาบาลของรัฐดูเป็นเรื่องแปลก เพราะหยิบเงินกระเป๋าซ้าย(ซึ่งเป็นรูกลวงโบ๋อยู่แล้ว) ไปไว้กระเป๋าขวา (เพื่อให้อีกกลุ่มมาทำหน้าที่ใช้จ่ายแทน) เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่ประหยัด การเรียกเก็บ เงินจากสถานบริการเอกชน ไม่ทราบว่าใช้เกณฑ์ใดในการเก็บ เพราะค่าบริการภาคเอกชนสูงกว่าภาครัฐตั้งแต่ 2 เท่าในชนบท จนถึง 10 เท่าในเมืองใหญ่ ร้าน ขายยารับผิดชอบอย่างไรในเมื่อการขายยาที่มีอยู่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน
โดย ความสรุป ไม่จำเป็นต้องมี พรบ.คุ้มครองฯ เราก็สามารถทำได้ดีเกือบร้อยอยู่แล้ว เห็นควรคิด ร่าง พรบ. ใหม่ให้เหมาะสมกับเจตนารมย์จริงๆ ไม่มีเรื่องแอบแฝงแล้วค่อยนำเสนอดีกว่านะครับ
นพ.อรุณ วิทยะศุภร | โดย: นี่เพิ่งเห็นว่าคนก่อนผมเป็นใคร บอกตรงๆ กระทรวงผมเลิกนับถือนานแล้ว kanamycin รักษาหวัดได้หรือไม่ต้องถามแพทยสภา [6 ก.ย. 53 21:41] ( IP A:58.8.213.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 หัวหน้า คปส.กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนเข้าใจเป็นพอ ว่าบุคลากรทางการแพทย์ต้องการความเป็นธรรม และป้องกันกลุ่มคนที่จะเข้ามาแสวงประโยชน์จากกองทุน จึงอยากให้มีการจัดเวทีถกระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านร่างพรบ.รายมาตราแบบตัวต่อตัว อย่งไรก็ตาขณะนี้ทราบว่ากรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎรจะเปิดเวทีสัมมนาเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.นี้ที่รร.มิราเคิลแกรนด์ ใ นวันที่ 23 ส.ค.นี้ https://www.pantown.com/board.php?id=12163&area=4&name=board12&topic=1422&action=view | โดย: aa [6 ก.ย. 53 22:06] ( IP A:58.8.213.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 เอารถมาเชิญหน่อย ขอร้อง
| โดย: ฟฟ [6 ก.ย. 53 22:07] ( IP A:58.8.213.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 เชิญมาให้ไว อย่าให้ึคุณหมอเรารอนาน เอารถมาเชิญมาให้ไว
หรือเิชิญมาเลย พวกเราจะไปส่งคุณหมอเอง แต่คนที่จะมาปะทะคารมกับคุณหมอ เอามาให้เข้าท่าเข้าทางหน่อยนะ ให้พกปัญญามาด้วย อย่าเอามาแต่หัวที่มีผม คุณหมอหนูจะไม่ชอบเอามากๆ และจะอารมณ์เสียอย่างรุนแรง เอามาให้สมน้ำสมเนื้อหน่อย ขอร้องเช่นกัน
| โดย: ลูกน้องฝ่ายเหนือ [7 ก.ย. 53 9:11] ( IP A:1.47.28.196 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 โห...หมอหมู่ | โดย: ชัด ๆ [7 ก.ย. 53 11:33] ( IP A:58.9.187.102 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 ชมตัวเองก็เป็น สมองดี กร๊ากกกก | โดย: 55+ [9 ก.ย. 53 11:17] ( IP A:118.174.120.65 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 คนเก่งชมตัวเองไม่แปลกหรอก เก่งเป็นประโยชน์ คนเฮียๆ ชมตัวเองว่าดีซิ แปลก | โดย: 6666+++ [10 ก.ย. 53 8:48] ( IP A:111.84.163.195 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 เเซวเค้ามากๆระวังโดนตัดไข่นะ | โดย: กัว [10 ก.ย. 53 22:10] ( IP A:202.28.24.162 X: ) |  |
|