มันน่าละอายไหม หากหมอจะเอาเงินคนไข้ไปคุ้มครองหมอ
   มันน่าละอายไหม หากหมอจะเอาเงินคนไข้ไปคุ้มครองหมอ

มีคนชอบบอกว่า พรบ คุ้มครองผู้เสียหายไม่คุ้มครองหมอ/ พยาบาลในการทำงาน เช่นโดนเข็มตำติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เชื้อเอดส์ ฯลฯ ต้อง พรบ ผู้ได้รับผลกระทอก ซึ่งคุ้มครองทั้งหมอทั้งคนไข้
เรื่องนี้ผมซึ่งเป็นหมอ ผมมองว่าเป็นเรื่องน่าละอายหากจะไปเองเงินคนไข้เขา เพราะ พรบ คุ้มครองผู้เสียหายนั้น คนไข้เขาเป็นคนออกเงิน เนื่องจากเขาไปรักษาโรคกับหมอ เขาไม่รู้ว่าจะซวยเพราะแพทย์เมื่อไร ใครจะโดนหมอลืมกรรไกรไว้ ใครจะแพ้ยาตาบอด ใครจะได้รับยาผิดชนิด ใครจะโดนฉีดยาโดนเส้นประสาทจนขาเป๋ เขาก็เลยยอมจ่ายเงินไว้คนละ 3 % ไว้สะสมเป็นกองทุน ถ้าคนไข้คนไหนซวย ก็ไปเอา ไม่ต้องไปฟ้องหมอ (ของโครงการ 30 บาทก็หักไว้ 3 %จากเงินคนไข้ที่รัฐให้ไว้รักษาโรคไม่เอาคืน) ดังนั้นหมอจะมาเอาเงินกองทุนนี้ไปรักษาเข็มตำมือไม่ได้ เพราะผิดวัตถุประสงค์และไม่ใช่เงินหมอ หากหมอ/พยาบาลจะเรียกร้องเงินจากการถูกเข็มตำมือ ก็ต้องไปเอาเงินจากประกันสังคมซึ่งหักเงินเดือนพวกหมอพยาบาลไว้ เป็นการบาดเจ็บจากการทำงาน ส่วนราชการก็ไปเรียกร้องหรือฟ้องเอากับรัฐ ซึ่งก็ต้องจ่ายเจ้าหน้าที่ตนเองที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน ไม่ใช่มามั่วเอาเงินของคนไข้ แบบนี้ก็ตาย ห ลูกเดียว ทีคนไข้เบิก มันบอกไม่มีมูล ทีเจ้าหน้าที่ตำมือตำไม้ มีมูลตลอด แบบนี้ก็ตายลูกเดียง เงินใครเงินมันแยกกันไม่เกี่ยวกัน อย่ามามั่วนิ่ม มันน่าละอาย
เปรียบเหมือนการขับขี่รถยนต์ ความที่มีอุบัติเหตุแล้วไม่มีประกัน เวลาชนกันบาดเจ็บรถเสียหายก็ไม่มีคนรับผิดชอบทะเลาะกัน ดังนั้น คนขับขี่รถยนต์ กฎหมายบังคับให้ประกันรถยนต์ รถแพงๆคันละ 3-6 แสนบาท ก็ประกัน 3-5 % ต่อ ปี(ปีละ 1-3 หมื่นบาท) เวลาชนกันก็มาเอาไปเยียวยา คนขับรถเมล์จะมาบอกว่าผมนั่งรถขับส่งคนโดยสารนานนาน หมอนรองกระดูกเคลื่อน ต้องเอาเงินประกันรถยนต์มาเยียวยาผมด้วย แบบนี้ก็ไม่ได้ เพราะเงินประกันเขาไว้เยียวยารถชนกัน ส่วนหลังคุณเสียหายจากการทำงาน ก็ต้องไปเอากับประกันสังคม
ผมก็หวังว่าหมอจะเลิกมั่วนิ่ม อย่าติดนิสัยบริษัทยาที่ไล่แจกของกำนัลของชำร่วยจนเคยตัว ที่สหรัฐเขาสั่งห้ามแล้ว https://en.wikipedia.org/wiki/Ethics_in_pharmaceutical_sales
โดย: พรบ กระทอก [1 ต.ค. 53 14:23] ( IP A:58.8.2.132 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หมอลืมกรรไกร <- หมอผิด
แพ้ยาตาบอด <- คนไข้ซวย
ได้รับยาผิดชนิด <- ขึ้นกับสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากเจ้าหน้าที่ผิด ส่วนน้อยอาจเกิดจากคนไข้ซวย
ฉีดยาโดนเส้นประสาท <- คนไข้ซวย
โดย: 222 [1 ต.ค. 53 14:32] ( IP A:202.28.179.4 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   เงินคนไข้ตรงไหน ใครจ่ายภาษี
โดย: ประชาชนต่างหาก [1 ต.ค. 53 15:01] ( IP A:182.52.124.160 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   เงินภาษี รัฐให้ชาวบ้านไปรักษาโรค ปีละแสนล้าน ผ่าน สปสช
ดังนั้นจึงเป็นเงินคนไข้ ซึ่งไม่ได้ระบุ แสดงว่าทุกคนมีสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ได้เลือกเจาะจงใคร
โดย: เงินคนไข้แน่นอน รัฐให้ไปแล้ว [1 ต.ค. 53 21:02] ( IP A:58.8.2.132 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ก็ดีนะ คนไข้สมทบ ช่วยเหลือกันเอง เป็นระบบทำนองรัฐสวัสดิการ
ประชาชนสมทบเงิน รัฐบริหารดูแล
แล้วถ้ากองทุนนี้ไม่ครอบคลุมผู้ปฏิบัติงาน แสดงว่าผู้ปฏิบัติงานกับรพ.ไม่ต้องสมทบ
เพราะเราช่วยเหลือสังคมด้วยการเสียภาษี และ ทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีให้เต็มความสามารถก็พอ
โดย: งั้นรพ.ก็ไม่ต้องสมทบสินะ [2 ต.ค. 53 4:51] ( IP A:124.157.180.205 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   โรงพยาบาลไม่ต้องสมทบ
โรงพยาบาลเพียงแต่ช่วยเก็บเอาไปสมทบกองทุน แค่นี้ก็จบแล้ว
สุดท้ายก็เงินคนไข้อยู่ดีไม่ว่ารัฐหรือเอกชน
ยังเสือกเรื่องมากมาประท้วงแต่งชุดดำอีก
โดย: บ้าชิกหาย [2 ต.ค. 53 13:21] ( IP A:58.8.2.132 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   คห.5
โชว์โง่เหรอครับ

รพ.รัฐนี่เงินไม่ได้มาจากคนไข้นะ
มาจากภาษี ซึ่งมาจากคนที่จ่ายภาษี ซึ่งไม่ใ่ช่ชาวบ้านที่ใช้บัตรทอง
ก็คือไม่ได้มาจากคนไข้เลย
โดย: ไม่ไหวเลยนะ [7 ต.ค. 53] ( IP A:58.9.144.129 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ขออนุญาตแนะนำเว็บไซต์ด้วยครับ

เว็บ https://www.insure108.com รวมความรู้ประกันภัยรถยนต์ , ตัวอย่าง ถาม-ตอบปัญหาประกันต่างๆ และการแก้ปัญหาเมื่อประสบเหตุจริง , หมดปัญหาทำประกันภัยรถยนต์ การดูแลรถ และเนื้อหาอื่นๆ ผมจะเพิ่มเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เรื่อยๆ ครับ
โดย: insure108 [12 ก.ค. 54 16:16] ( IP A:223.207.82.241 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน