NO BRAIN
   จดหมายเปิดผนึกถึง อธิการบดี ม. ธรรมศาสตร์
เรื่อง ธรรมาภิบาลของ “ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”
นพ. เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ (พบ. ประสาทศัลยศาสตร์ นบ. miniMM. In health)

เมื่อวันที่ 23 กย. 2553 ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดประชุมเสวนาในเรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการระบบบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... ใครได้ ใครเสีย เหมือนต่างจาก ร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....” ที่ห้องประชุม จิตติ ติงศภัทิย์ คณะนิติศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยผู้จัดและดำเนินการประชุมคือ อาจารย์ ไพศาล ลิ้มสถิต ซึ่งเป็นนักวิชาการกฎหมายของศูนย์ และเป็นผู้เชิญ ผู้เขียนบทความนี้ให้ไปร่วมอภิปราย ความแตกต่างระหว่างเนื้อหาของสองร่างนี้ ในฐานะที่เป็นตัวแทนฝ่ายยกร่างกฎหมาย พรบ.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบ ฯ ซึ่งผู้จัดได้ระบุวัตถุประสงค์ของการจัดว่า “เป็นการพิจารณาร่วมกันเพื่อมุ่งหาข้อดีข้อเสียของร่างทั้ง 2 ฉบับเพื่อนำไปปรับปรุงเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนต่อไป” โดยมีผู้ร่วมการประชุมที่สำคัญคือ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค นักกฎหมาย ตัวแทนกฤษฎีกา ผู้พิพากษา และ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ม.ธรรมศาสตร์ (ซึ่งไม่ได้เข้าร่วม) ด้วยเหตุที่ผู้เขียนมีส่วนในการยกร่างกฎหมายดังกล่าว จึงเห็นว่าเป็นเรื่องสมควรและจำเป็นที่จะต้องไปอภิปรายชี้แจงด้วยตนเอง ผู้เขียนรู้จักและรับทราบการดำเนินงานของศูนย์กฎหมายดังกล่าวจากการได้เข้าร ่วมประชุมในฐานะผู้ฟังหลายครั้ง สิ่งที่วิตกต่อการประชุมและได้กล่าวเรียนผู้จัดประชุมล่วงหน้าคือ ขอให้เป็นการประชุมที่เป็นกลาง เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวและไม่มีลักษณะของการเมืองนอกรูปแบบคือการ ประท้วง ทั้งนี้ผู้จัดได้ยืนยันกับผู้เขียนว่าจะเป็นการประชุมเชิงวิชาการที่เน้น เนื้อหาและการทำความเข้าใจร่วมกัน จะไม่มีการกดดัน ไม่มีการยกป้ายใด ๆ แบบที่พบเห็นบ่อยครั้ง (ซึ่งประเด็นนี้นับได้ว่าผู้จัดได้ดำเนินการอนุเคราะห์แก่ผู้เขียนตามที่ได้ รับปากไว้แล้ว จึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้) ผู้เขียนไว้ใจและให้เครดิตแก่ผู้จัดอย่างมากจึงได้ตกลงรับปากไปร่วมในฐานะวิทยากร
การอภิปรายช่วงแรกดำเนินไปด้วยดี แม้ว่าจะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน รวมทั้งคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างหนักจากวิทยากรซึ่งมาอภิปรายสนับสนุน “พรบ.คุ้มครองผู้เสียหาย ฯ” เช่น ศจ. นพ. วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ หรือคำวิจารณ์กลาง ๆ ที่เป็นลักษณะติเพื่อก่อ โดย ท่านผู้พิพากษา “ดล บุนนาค” หรือ ท่านอัยการ และตัวแทนกฤษฎีกา ผู้เขียนคิดว่าการอภิปรายดังกล่าวเป็นการติชมด้วยความหวังดี ซึ่งต้องน้อมรับและได้กล่าวคำขอบคุณในห้องประชุม แต่สิ่งที่ผู้เขียนผิดหวังและเสียใจอย่างมากคือ การดำเนินการจัดการประชุมที่ทำให้เข้าใจมาตลอดว่า เป็นการจัดโดย อ. ไพศาล ในนามของศูนย์กฎหมาย ฯ กลับถูกดำเนินการเกือบตลอด โดย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค คุณ สารี อ๋องสมหวัง ถึงขนาดออกตัวว่า ขอควบคุมการประชุมทั้งหมดรวมทั้งการตัดไมค์ผู้เขียนและผู้ร่วมอภิปรายที่มิได้เป็นตัวแทนมูลนิธิ เนื่องจากเห็นว่า คุณไพศาล ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างที่ควร (ซึ่งผู้เขียนเห็นว่า คุณไพศาล ก็ไม่ได้ทำหน้าที่บกพร่องแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการขลุกขลักบ้าง เช่น การขาดการประสานกันเรื่องเอกสารที่จะนำเข้าสู่การอภิปราย) และที่แย่ไปกว่านั้นคือ อ. ไพศาล ซึ่งมีฐานะ Moderator ที่จะต้องควบคุมและเป็นกลางในการจัดประชุม (ไม่ว่าจะมีธงเช่นไรไว้ในใจ ก็ไม่ควรแสดงออกจนเกินเลย) กลับไม่คัดค้านการกระทำของคุณสารี และยังขึ้นเวทีร่วมอภิปรายเสมือนหนึ่งเป็นตัวแทนมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคเอ งด้วย และสุดท้ายเมื่อสิ้นสุดการประชุม กลับยกเวทีให้มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค แถลงข่าวเสมือนเป็นผลสรุปการประชุม ซึ่งมีทั้งประธานและเลขาธิการมูลนิธิ ขึ้นแถลงข่าว ทั้ง ๆ ที่หน้าที่ดังกล่าวควรเป็นของผู้จัดประชุมเพียงผู้เดียว ยังไม่นับที่การแถลงข่าวเน้นแต่มุมมองที่มูลนิธิต้องการให้เป็นไป โดยไม่เสนอเนื้อหาการประชุมของอีกฝ่ายที่มีความเห็นต่างออกไป (รวมทั้งเสนอข้อมูลที่เป็นกลางที่ท่านผู้พิพากษา อัยการหรือกฤษฎีกา ให้คำแนะนำ)
ผู้เขียนรู้สึกผิดหวังกับมาตรฐานและจริยธรรมของ “ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยธรรม” ต่อกรณีการประชุมดังกล่าว และขอตั้งคำถามว่า
(๑) ศูนย์กฎหมาย ฯ มีฐานะเป็นหน่วยงานภายใต้การดำเนินการองค์กรใดกันแน่ ระหว่างของคณะนิติศาสตร์ หรือ ภายใต้ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ซึ่งเป็นกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ และ เป็นผู้ผลักดันกฎหมาย “พรบ.คุ้มครองผู้เสียหาย ฯ” หรือเป็นองคาพยพส่วนหนึ่งของมูลนิธิคุ้มครองเพื่อผู้บริโภค
(๒) ศูนย์กฎหมาย ฯ รับทุนสนับสนุนและการวิจัยจากแหล่งใด ระหว่างคณะนิติศาสตร์ สวรส. มูลนิธิ หรือแหล่งอื่นใด ในการดำเนินการประชุมเช่นนี้ และทำไมถึงกลายเป็นการประชุมเพื่อโจมตีร่างกฎหมายใดกฎหมายหนึ่งเป็นการเฉพาะ
(๓) ทำไมผู้ดำเนินการประชุมอย่างเป็นทางการ ถึงไม่ทำหน้าที่ของตนเองและซื่อสัตย์ต่อผู้ถูกเชิญให้เข้าร่วมประชุม รวมทั้งไม่ปกป้องตามสมควรต่อการแสดงออกในเชิงดูถูก ดูหมิ่น ผู้อภิปราย อย่างที่มาตรฐานสากลพึงกระทำ รวมทั้งการที่ผู้อภิปรายในนามของมูลนิธิและมีฐานะเป็นอาจารย์ คณะเภสัชศาสตร์ และมีฐานะเป็นกรรมการในบอร์ดของสปสช.(ในนามของกลุ่มเกษตรกร!!) ใช้วาจาเชิงดูถูก เช่นการใช้คำพูดว่า “no brain” แทนที่จะให้คำแนะนำที่สร้างสรรค์แก่ผู้เข้าร่วมการประชุม มิใยที่มีผู้คัดค้านและขอให้ถอนคำพูดที่แม้ไม่หยาบคายแต่ก็ไม่ใช่คำพูดที่ครูบาอาจารย์จะนำมาใช้ในที่ประชุมสาธารณะต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้เข้าประชุม
(๔) ที่ผ่านมาผลงานวิจัยและการประชุมของศูนย์สุขภาพ ฯ มักถูกมูลนิธิหยิบยกไปอ้างต่อสาธารณชนรวมทั้งผู้สื่อข่าวในทำนองว่า “...เรื่องนี้ ได้รับคำแนะนำ ความคิดเห็น ความสนับสนุนจากนักกฎหมายในมหาวิทยาลัย....ว่า.....” หลายเรื่องถูกนำไปใช้อ้างอิงในการเขียนกฎหมายที่ผลกระทบต่อการแพทย์และสาธาร ณสุข เมื่อประกอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เขียนอดตั้งคำถามถึงมาตรฐานและความ เป็นกลางที่ผ่านมา
(๕) ในการประชุมดังกล่าว ผู้เข้าร่วมรับฟัง ได้ทักท้วงผู้ดำเนินการจัดประชุม (ซึ่งจนบัดนี้ ผู้เขียนก็ยังไม่ทราบว่าใครดำรงตำแหน่งกันแน่) ถึงการควบคุมการประชุมให้เป็นกลาง การกำหนดประเด็น การตัดบทผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นแตกต่าง การกำหนดจำนวนผู้อภิปรายให้เป็นกลาง แต่ทำไมผู้จัดประชุมอย่างเป็นทางการถึงไม่แสดงความพยายามที่จะกระทำหน้าที่ข องตนเอง ปล่อยให้ผู้จัดอย่างไม่เป็นทางการตัดสินใจเองโดยพลการ
(๖) ระหว่างการประชุม มีผู้ทักท้วงให้ดำเนินการอภิปรายถึงข้อเสียของร่าง “พรบ.คุ้มครองผู้เสียหาย ฯ” แต่กลับถูกผู้ดำเนินการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ตัดบทตลอด ไม่ยอมให้พูดถึงข้อเสียต่อหน้าสื่อมวลชน ทำไมผู้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ ถึงไม่แสดงบทบาทตรงนี้
(๗) การตัดบทปิดการประชุม โดยคำอ้างของ เลขาธิการมูลนิธิ ว่าต้องรีบปิดและไม่ยอมให้ผู้ไม่เห็นด้วยแสดงความคิดเห็นต่อ โดยอ้างว่า มีกำหนดการใช้ห้องประชุมต่อ แต่ทราบภายหลังว่า ห้องประชุมดังกล่าวว่างอยู่ ทำไมเลขาธิการมูลนิธิถึงทราบความเป็นไปของการใช้ห้องประชุมของคณะนิติศาสตร์ และทำไมในภาคบ่ายกลับไม่มีการใช้ห้องประชุม
(๘) การสรุปการประชุม การแถลงข่าว ทำโดยบุคคลที่มิได้มีตำแหน่งในคณะนิติศาสตร์ มิได้เป็นผู้จัดประชุม (ในความเข้าใจของผู้เขียน) อีกทั้งยังเป็นการแถลงข่าวในมิติเดียว ตามที่ผู้แถลงต้องการให้สื่อมวลชนนำไปตีพิมพ์และลงเป็นข่าวในทิศทางที่ตนเอง ต้องการ (ทำการสรุปเนื้อหาให้สื่อมวลชนไปในตัว) เป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการโดยคณะนิติศาสตร์ว่าเป็นการจัดประชุมโดยมูลนิธ ิในนามของคณะใช่หรือไม่
เอกสารอ้างอิง
(๑) https://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000133930
(๒) https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action= display;num=1285260408
(๓)https://www.youtube.com/watch?v=5MVG3WCRny0&feature=player_embedded#a t=91
(๔) นักข่าว สื่อมวลชน ในห้องประชุม
โดย: คำนี้มิได้มาเพราะโชคช่วย [4 ต.ค. 53 15:05] ( IP A:58.8.18.146 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ผมว่าสิ่งที่หมอประท้วงนั้น ฟังไม่ค่อยขึ้นหรอก
สิ่งที่หมออีกกลุ่มหนึ่งซึ่งหมออาจจะอยู่ร่วมด้วยหรือไม่นั้นผมไม่ทราบ แต่หมอรู้ดี เวลาเขาประชุม เขาไม่เชิญแม้กระทั่งอีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยไปเสวนา เคยเจอครั้งเดียวที่เห็นในสื่อก็คือหมอวิชัยซึ่งรอดมาได้ก็นับว่าฝีมือ
เรียนแพทย์ก็ต้องมีใจอยากช่วยผู้ป่วยให้พ้นทุกข์
เรียนกฏหมายก็ต้องมีใจรักความเป็นธรรม
สิ่งที่หมอทำอยู่ถ้าหมอเป็นเหมือนข้างบนสองอย่าง หมอก็ทำต่อไป
แต่หากไม่ใช่ หมอจะกลับตัวยังทัน
แต่ผมอาจ พรบ หมอมาหลายทีแล้ว ก็บอกเสมอว่าไปกฤษฏีกาก่อนดีไหม แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง จนท่านดล บุนนาค ต้องเอ่ยปาก ทั้งชมทั้งติ แต่ผมตีความว่าด่าแบบสุภาพ
หมอไม่ต้องเห็นด้วยกับผมหรอก ผมแก่แล้ว 57 ก็จะวัยเกษียณอยู่แล้ว อาจจะหัวโบราณล้าสมัย
หมอลองทบทวนดูเอง แต่สิ่งที่หมอทำตามคำแถลงนี้ ผมก็ยืนยันอีกทีว่าหมอทำไม่ถูกหรอก ขนาดอาจารย์วิฑูรย์ ยังไม่อยู่ในสายตาหมอเลย ก็จบแล้ว คนระดับนั้น เขาพิสูจน์มาด้วยผลงานและกาลเวลา
หมอติเขาไม่ได้หรอก
โดย: ฟฟ [4 ต.ค. 53 15:14] ( IP A:58.8.18.146 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   จีเนียส กับ อีเดียท มันอยู่ใกล้ๆกัน ไม่ฟังใครหรอกพี่
โดย: อ้ายตี๋น้อย [4 ต.ค. 53 19:51] ( IP A:124.122.2.196 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   หมอต้านพรบ.พวกนี้
นับวันยิ่งตลาดยังไงก็ไม่รู้
โดย: ไปขายผักไป๊ [4 ต.ค. 53 21:29] ( IP A:58.9.106.169 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ขายผักก็ไม่ได้เดี๋ยวเอาผักเน่าๆไปขายให้คนกินซะอีก
ไปพ้นๆ เลยจะดีกว่า
โดย: ขอบอก [5 ต.ค. 53 18:15] ( IP A:58.8.18.212 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน