แพ้ยา แพทย์ผิด อาจติดคุกได้
   « ความเห็นที่ #17 เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:04:18 »

เรียนพญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา

ช่วยเพิ่มเติมตรงนี้ให้ด้วยครับ

ความเสียหายบางอย่าง อาจไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของแพทย์ เช่นการแพ้ยา ยาที่แพ้อาจเกิดจากการที่คนไข้ไปซื้อยากินเอง(แล้วแพ้ยา)นอกเหนือจากยาที่แพ ทย์จ่ายให้ แล้วเหมารวมว่าแพ้ยาที่แพทย์จ่ายให้ (บ้านเราใครมีตังก็ซื้อยาจากร้านขายยาได้ทุกชนิด)
โดย: คิดแบบนี้คุกรออยู่ [5 พ.ย. 53 8:19] ( IP A:58.8.240.188 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   แพ้ยา สุดวิสัย ไม่เคยมีคนไข้ฟ้องหมอว่าแพ้ยาหมอผิด
เขาฟ้องว่าหมอไม่ยอมรับว่าแพ้ยา แม้คนไข้แจ้งว่าสงสัยแพ้ยา หรือคนไข้มีผื่นจนตาแฉะมาแล้ว ไข้สูงปรีด หมอก็วินิจฉัยไม่ได้ว่าแพ้ยารุนแรงทั้งๆที่เป็นคนจ่ายยาให้เขาเอง(ตำราเขาว่าคนไข้กินยาอยู่มีผื่นให้สงสัยว่าแพ้ยาเสมอจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่ และแพ้ยาอันตรายถึงตายได้ จำใส่กระบาลไว้มั่ง น้องๆ)
เขาฟ้องอีกว่าแพ้ยาแล้วรักษาไม่ถูกรักษาไม่ทัน (แบบนี้ถือว่าหมอผิดติดคุกได้)
คดีดอกรักและคดีแพ้ยา รพ ตำรวจ ถ้าเขาเล่นอาญาต่อ หมอก็รอคุกได้เลย
คดีแรก เขารับเงินเพราะกระทรวงไม่อุทธรณ์ คดีที่สอง เขาก็ไม่ต้องการทำร้ายหมอขนาดนั้น แต่ถ้าพวกหมอยังดื้อดึง วันหนึ่งคงจะได้เจอดีหากคนไข้เขาไม่พอใจมากๆ
คุณต้องเห็นใจเขาบ้าง ว่าเขาตาบอด ผัวเขาตาย
โดย: ใจเขาใจเรา [5 พ.ย. 53 8:24] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1288915285
โดย: อ่านความเห็นแล้วเศร้าใจ คิดไปได้ หมอไม่เคยผิดหรือไง [5 พ.ย. 53 8:25] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   https://www.dmh.go.th/sty_libnews/news/view.asp?id=2395
โดย: อ่านซะอีกที [5 พ.ย. 53 8:26] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   https://www.pantown.com/board.php?id=12163&area=&name=board5&topic=358&action=view
โดย: อ่านซะผลงานเครือข่าย ห [5 พ.ย. 53 8:28] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   คนเสื้อสีฟ้านั่น เศรษฐีใหญ่ ขี่รถเบนซ์ เมียก็เสียชีวิต แต่เขาไม่เอาเรื่องเอาราว เขาไม่เดือดร้อนเหมือนบางคนที่ผัวตาย ตาบอด ตกงานไม่มีข้าวกิน เพียงแต่เขาอยากให้เมียได้รับความเป็นธรรมบ้าง
ผมเคยได้ยินเขาเล่าว่าขนาดปรมาจารย์ทางการนิติแพทย์ ยังปรารภว่าไม่รู้ว่าอาจารย์จะได้เห็นความเป็นธรรมไหมในชีวิตนี้
โดย: ความเป็นธรรมมีไหม [5 พ.ย. 53 8:31] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   เอาไว้จะมาชำแหละให้อ่าน
https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1288915285
โดย: ค้านทุกเรื่อง [5 พ.ย. 53 8:52] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   เอานี่ไปอ่านก่อนก็ได้
https://www.strasburger.com/p4p/publications/why_people_sue_hospitals.htm
โดย: ฟฟ [5 พ.ย. 53 9:04] ( IP A:58.8.240.188 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ขยันโพสแต่เช้าเลยครับ ขอบคุณ smile
โดย: เจ้าบ้าน [5 พ.ย. 53 9:18] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   วันนี้ผมนัดฝรั่งดึงหน้าแต่เช้า
ก็ต้องนอนแต่หัวค่ำ(ตี 1) แล้วตื่นเช้ามานั่งกินกาแฟรอ(7.00)
ฝรั่งเขามักจะมาตรงเวลา แต่ลูกน้องผมบางทีมาสายเปิดร้านไม่ทันฝรั่ง
อายมัน
โดย: ฟฟ [5 พ.ย. 53 13:29] ( IP A:58.11.88.160 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   หัวค่ำของคุณหมอคือตีหนึ่ง
โดย: ตีหนึ่ง [5 พ.ย. 53 14:56] ( IP A:61.90.122.149 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ประชาชนเสี่ยงอันตรายจากการไปโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข
****ตอบ อันนี้ไม่ค้าน ดูรูปด้านล่างเอาเอง
**********************************************************************************************************************************************************************************
พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
ปัจจุบันนี้ ประชาชนที่เจ็บป่วยหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ หรือตั้งครรภ์ คลอดบุตร และไปรับบริการตรวจรักษาสุขภาพที่โรงพยาบาลต่างๆแล้ว จะเกิดปัญหาความไม่พึงพอใจ กล่าวหาหรือฟ้องร้องแพทย์และโรงพยาบาลมากขึ้นจากเดิม จนปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เป็นประจำ จนถึงกับมีการตั้งเครือข่ายผู้ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ เพื่อช่วยกันฟ้องร้องแพทย์ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา ประชาชนต้องการค่าชดเชยจากม.41ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และหลังจากการได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 แล้วประชาชนบางคนก็ยังนำคดีไปฟ้องต่อที่ศาล เพื่อขอค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินรายละหลายร้อยล้านบาท
นอกจากฟ้องแพ่งแล้ว ประชาชนบางคนยังนำคดีเข้าสู่ศาลอาญาอีกด้วยเหตุผลที่สำคัญประการหนึ่งคือต้อ งการยืดอายุคดีแพ่งออกไปให้ยาวนานกว่าปกติที่อายุความจะสิ้นสุดเร็ว แต่ถ้าคดียังอยู่ในศาลอาญา อายุความของคดีแพ่งก็ยังไม่สิ้นสุดลง
กระทรวงสาธารณสุขพยายามที่จะแก้ปัญหาการฟ้องร้องแพทย์ โดยการจัดตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ย และจัดหานิติกรมาช่วยแก้ต่างในคดีฟ้องร้อง ส่วนประชาชนก็เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายในการจ่ายเงินชดเชยแก่ประชาชนผู้ได ้รับความเสียหายจากการไปรับบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาล เช่นมีการเสนอพ.ร.บ.ชดเชยความเสียหายจากการไปรับบริการทางการแพทย์ (ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่)
แต่กระทรวงสาธารณสุขยังไม่เคยคิดวิธีป้องกันไม่ให้เกิดการฟ้องร้องแพทย์ โดยการทำให้ประชาชนปลอดภัยจากการไปรับบริการทางการแพทย์เลย
****ตอบ อันนี้ค้าน เขาก็ทำแล้ว พยายามหยุดการฟ้อง ก็เขาหา พรบ ผู้เสียหายให้ ให้ก็ไม่เอา ดันจะเอา พรบ กระทอก
**********************************************************************************************************************************************************************************ถ้าถามว่า ทำไมประชาชนจึงฟ้องร้องแพทย์? ก็จะตอบได้ว่า เพราะตัวเขาเองหรือคนในครอบครัวของเขาได้รับผลเสียหายต่อชีวิตและสุขภาพ หรือไม่พอใจในการรักษาของแพทย์และ/หรือโรงพยาบาล และประชาชนคิดว่า ความเสียหายเหล่านั้นต้อง “เป็นความผิดของแพทย์” อย่างแน่นอน ฉะนั้นแพทย์ต้องชดใช้ “ความเสียหาย” หรือ “สมควรถูกลงโทษเพราะทำความผิด”
แต่ผลเสียหายต่อชีวิตและสุขภาพที่เกิดขึ้นกับประชาชนและครอบครัวนั้น เกิดจาก “ความผิดพลาด” ของแพทย์ทุกครั้งหรือไม่? ประชาชนก็คงคิดว่า ใช่แน่ๆ ถึงแม้สภาวิชาชีพตรวจสอบว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของแพทย์ ประชาชนก็จะกล่าวหาว่าสภาวิชาชีพ(แพทยสภา) เข้าข้างแพทย์ จึงไม่ตัดสินลงโทษแพทย์ แม้บางครั้งที่ประชาชนนำคดีไปฟ้องศาลและศาลตัดสินว่าแพทย์ไม่ผิด ประชาชนก็คงยังไม่พอใจในคำตัดสินของศาล และดำเนินการเรียกร้องต่อไป เช่นการเดินขบวน ออกข่าวสื่อมวลชน และร้องเรียนให้ “เครือข่ายผู้ได้รับความเสียหายทางการแพทย์”
****ตอบ อันนี้ค้าน เขาทำการศึกษามาแล้ว The Report of the Secretary’s Commission on Medical Malpractice (DHEW Publication No. {OS} 73-88, 1973) The commission found that the primary factor generating medical malpractice claim was injurious or adverse result of treatment .Factors such as poor physician patient rapport , patient frustration with the handling of specific complaints, unrealistic expectations about what can be achieved with treatment and increase patient suit-consciousness are of only secondary important. A rational prescription for curing the medical malpractice problem would be to reduce patient injury by instituting aggressive risk management programs (especially in the hospital setting), improving personal communication between health care providers and their patients and adoption of arbitration provisions at the outset of the physician-patient relationship.
**********************************************************************************************************************************************************************************

แต่อันที่จริงแล้ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนในการไปรับการรักษาจากแพทย์นั้น อาจเกิดจากอาการผู้ป่วยที่มากจนเกินเยียวยา หรือมีโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในการรักษาตามมาตรฐานที่ดีที่สุด หรือเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา อาการของผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั้งๆที่แพทย์ได้ใช้ความระมัดระวังอย่ างดีที่สุดแล้ว หรือยา เครื่องมือ และเทคโนโลยี ไม่เพียงพอที่จะรักษาอาการผู้ป่วยได้
และสุดท้ายแล้วก็อาจ เกิดจากความ “ผิดพลาด” ของแพทย์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากความด้อยประสบการณ์ ความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงานมากเกินไปและ/หรือขาดการพักผ่อน หรือความผิดพลาดนี้ อาจเกิดขึ้นเพียง เพราะว่าแพทย์เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชน อาจจะทำความผิดพลาดได้ เหมือนคนในวิชาชีพอื่นๆ แต่แพทย์ต้อง “ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ตามภาวะวิสัยและพฤติการณ์” ของผู้ที่เป็นแพทย์จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างดีที่สุด เพราะวิชาชีพแพทย์นั้น ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้น ย่อมมีผลเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ป่วยของตน
แต่ความผิดพลาดทางการแพทย์ จะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้าแพทย์ต้องทำงานมากเกินไป อดนอน และรีบเร่งตรวจผู้ป่วยมากเกินไป รวมทั้งแพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์(skill) ในการดำเนินการทางการแพทย์
****ตอบ อันนี้ค้านครับ เพราะคนไข้น้อย หมอมาก เงินมากเครื่องมือพร้อมแบบสหรัฐ หรือเอกชนในไทยก็เดี๊ยงทุกวัน อย่าแก้ตัวเลยครับ แก้ไขดีกว่าไหม ส่วนประสบการณ์ ต้อง ใช้ experience ไม่ใช่ skill ไม่คิดว่าอาจารย์แปลไม่รู้เรื่อง เชื่อว่าอาจารย์รู้ภาษาดี ถือว่าผิดหลงเล็กน้อยก็แล้วกัน
**********************************************************************************************************************************************************************************
โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์จำนวนน้อย แต่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้แพทย์มีเวลาทำงานมากถึงสัปดาห์ละ 120 ชั่วโมง( เวลาทำงานมากกว่า 3 เท่าของคนปกติ) และแพทย์ต้องตรวจผู้ป่วยมากเกินไป จนแพทย์มีเวลาตรวจผู้ป่วยแต่ละคนเพียง 2- 4 นาทีเท่านั้น ซึ่งภาวะการณ์เช่นนี้ ทำให้มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดความผิดพลาดอันจะนำไปสู่ความเสียหายแก่ผ ู้ป่วย

ฉะนั้นการป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับความเสียหาย ก็จะต้องลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดทางการแพทย์ ต้องทำให้มีจำนวนแพทย์มากขึ้น และ/หรือมีผู้ป่วยน้อยลง

ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขจึงควรเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์อย่างเร่งด่วน โดยต้องจัดสรรให้มีบุคลากรแพทย์เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้มีจำนวนเหมาะสมกับจำนวน ผู้ป่วย
และบริหารจัดการให้มีผู้ป่วยน้อยลง โดยการส่งเสริมประชาชนให้มีความสามารถในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และพึ่งพาตนเองและครอบครัวในการดูแลรักษาความเจ็บป่วยเล็กน้อยได้เอง อันจะทำให้จำนวนผู้ป่วยน้อยลง และใช้บริการโรงพยาบาลเมื่อจำเป็นเท่านั้น
****ตอบ อันนี้ค้านครับ เพราะคนไข้น้อย หมอมาก เงินมากเครื่องมือพร้อมแบบสหรัฐ หรือเอกชนในไทยก็เดี๊ยงทุกวัน อย่าแก้ตัวเลยครับ แก้ไขดีกว่าไหม ส่วนประสบการณ์ ต้อง ใช้ experience ไม่ใช่ skill ไม่คิดว่าอาจารย์แปลไม่รู้เรื่อง เชื่อว่าอาจารย์รู้ภาษาดี ถือว่าผิดหลงเล็กน้อยก็แล้วกัน
**********************************************************************************************************************************************************************************
ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขเป็นปัญหาที่เกิดขึ้น มาอย่างยาวนาน และไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ ถ้าดูจากข้อมูลของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ระหว่างปีพ.ศ. 2547และพ.ศ.2551เปรียบเทียบจำนวนแพทย์ไทย ที่มีอยู่ทั้งหมดกับแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขตามตารางข้างล่างนี้ จะเห็นได้ว่า แพทย์มีจำนวนน้อย และเพิ่มไม่มากนักในช่วง 4 ปีนี้

ตารางที่ 1 เปรียบเทียบจำนวนแพทย์ภาครัฐและเอกชน(1)

ปีพ.ศ. 2547 ร้อยละ 2551 ร้อยละ
จำนวนแพทย์ทั้งหมด 18,918 100 27,000 100
ราชการทั้งหมด 15,324 81 22,000 81.5
สธ. 9,375 49.5 11,000 40.75
ราชการนอกสธ 5.945 31.5 11,000 40.75
เอกชน 3,594 19 5,000 18.5
****ตอบ อันนี้ค้านครับ เพราะคนไข้น้อย หมอมาก เงินมากเครื่องมือพร้อมแบบสหรัฐ หรือเอกชนในไทยก็เดี๊ยงทุกวัน อย่าแก้ตัวเลยครับ แก้ไขดีกว่าไหม **********************************************************************************************************************************************************************************

จะเห็นได้ว่าในปีพ.ศ. 2551 มีแพทย์ทั้งหมด 30,000 คน เกษียณอายุราชการแล้ว 3,000 คน ทำให้มีแพทย์ที่ทำงานเต็มเวลาเพียง27,000 คน
จะเห็นได้ว่าในพศ. 2551 มีจำนวนแพทย์เพิ่มขึ้นจากพ.ศ. 2547 ประมาณ 9,000 คน โดยจำนวนแพทย์ในราชการทั้งหมดคิดเป็นอัตราส่วน 81% เท่าเดิม แต่จำนวนแพทย์ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขคิดเป็นอัตราส่วนลดลงจาก49.5% เหลือเพียง 40.75%
และถ้าไปดูจำนวนแพทย์ที่บรรจุเข้ากระทรวงสาธารณสุขและลาออก ก็จะพบว่าในปีพ.ศ. 2547- 2550 มีแพทย์บรรจุเข้ากระทรวงสาธารณสุข 4,527 คน แต่มีแพทย์ลาออกจากกระทรวงสาธารณสุขถึง3,027 คน ดังรายละเอียดในตารางข้างล่างนี้ (เป็นข้อมูลจากสำนักงานบริหารบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ณเดือนมิถุนายน 2551)

ตารางจำนวนแพทย์ที่ลาออกจากกระทรวงสาธารณสุข(1)

ปีพ.ศ. จัดสรรใหม่ ลาออก ลาออกร้อยละ คงเหลือ
2547 995 408 41.01 547
2548 1177 485 41.09 692
2549 1148 520 46.16 628
2550 1207 47 3.89 1,160
รวม 4,527 1,460 32.3 3,027

ถ้าดูจากแนวโน้มนี้ในปีพ.ศ. 2550 จะเห็นว่าจำนวนแพทย์ที่ลาออกจากกระทรวงสาธารณสุขในปีพ.ศ. 2550 นั้นลดน้อยลงมาก

ซึ่งอาจจะถือเป็นแนวโน้มที่ดีว่า จะมีจำนวนแพทย์เพิ่มมากขึ้น

แต่ก็คงต้องคอยติดตามประเมินผลกันต่อไป

ถ้ามาดูจำนวนแพทย์ไทยที่เหลือทำงานในกระทรวงสาธารณสุขในปีพ.ศ.2550แล้วจะพบว ่ามีจำนวนเพียง 11,415 คน แต่ถ้านับจำนวนผู้บริหารที่เป็นแพทย์แล้วจะพบว่ามีจำนวนประมาณ 1,000 คน และยังมีแพทย์ที่ลาไปศึกษาต่อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสถาบันฝึกอบรม ที่เป็นโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ส่วนใหญ่) และส่วนน้อยที่มาเรียนต่อในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอีกทั้งสิ้นประม าณ
2,000 คน ก็จะเหลือแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ ประมาณ 8,000 คนเท่านั้น(1)
แต่จำนวนประชาชนที่ไปรับบริการตรวจรักษาโรคที่โรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขนั้ นตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขในปีพ.ศ. 2548 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยไปรับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทั้งหม ด134,057,237 ตรั้ง มีผู้ป่วยนอนอยู่ในโรงพยาบาล 8,477,543 รายคิดเป็นจำนวน 35,656,391 วัน(2)
ความหมายจำนวนวันที่ผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาลหมายความว่า มีผู้ป่วยที่แพทย์ต้องตรวจรักษาเป็นจำนวนอย่างน้อย 35,656,391 ครั้งหรือมากกว่านั้น เพราะแพทย์ต้องไปดรวจรักษาผู้ป่วยที่นอนในโรงพยาบาลอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยหนัก แพทย์ต้องไปตรวจผู้ป่วยวันละหลายๆครั้ง และอาจต้องไปทำการผ่าตัด ทำหัตถการทางการแพทย์เพื่อตรวจและทำการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีต่างๆ เช่นเจาะหนองจากปอด เจาะไขกระดูกเพื่อวินิจฉัยโรค ดึงกระดูก ใส่เฝือก ทำคลอด ผ่าตัดต่างๆ ฯลฯ อีกมากมายหลายครั้งสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน
ฉะนั้นจึงเท่ากับว่า แพทย์ต้องทำการตรวจรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขถึง 134,057,237 ครั้งรวมกับ 35,656,391 (หรือมากว่านั้นตามที่อธิบายแล้วข้างบน) ประมาณ 170 ล้านครั้งต่อปี
โดยแพทย์ผู้ทำงานตรวจรักษาผู้ป่วยเหล่านี้มีประมาณ 8,000 คนเท่านั้น
****ตอบ อันนี้ค้านครับ เพราะคนไข้น้อย หมอมาก เงินมากเครื่องมือพร้อมแบบสหรัฐ หรือเอกชนในไทยก็เดี๊ยงทุกวัน อย่าแก้ตัวเลยครับ แก้ไขดีกว่าไหม **********************************************************************************************************************************************************************************

จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า แพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขจะต้องทำงานคนละ 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์(3) แต่มีเวลาตรวจผู้ป่วยนอกเพียงคนละ 2-4 นาที (3,4)และผู้ป่วยเสี่ยงต่อความผิดพลาด ได้รับอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ จนมีปัญหาฟ้องร้องแพทย์เพิ่มขึ้นมากมาย (5)ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา จนถึงกับมีคำพิพากษาให้จำคุกแพทย์ เพราะรักษาผู้ป่วยแล้วไม่รอดชีวิต(6)
ฉะนั้น เราจึงเห็นว่า แพทย์ลาออกจากกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้นทุกปี แม้ว่าในปี 2551 จำนวนแพทย์ลาออกจะน้อยลง แต่จำนวนแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่จำนวนผู้ป่วยกลับเพิ่มมากขึ้นทุกปี ประชาชนก็เรียกร้องค่าชดเชยทางการแพทย์มากขึ้น(7) และต้องการเห็นแพทย์ถูกลงโทษมากขึ้น
แต่จะมีใครคิดป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องและความเสียหายของประชาชนจา กการไปรับ
****ตอบ อันนี้ค้านครับ เพราะคนไข้น้อย หมอมาก เงินมากเครื่องมือพร้อมแบบสหรัฐ หรือเอกชนในไทยก็เดี๊ยงทุกวัน อย่าแก้ตัวเลยครับ แก้ไขดีกว่าไหม ส่วนประสบการณ์ ต้อง **********************************************************************************************************************************************************************************
แต่จะมีใครคิดป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องและความเสียหายของประชาชนจา กการไปรับบริการทางการแพทย์บ้างหรือไม่?
หรือจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ คือปล่อยให้แพทย์พำงานแบบเร่งรีบต่อไป เมื่อเกิดความเสียหายกับประชาชนแล้ว ก็ตั้งกองทุนชดเชยผู้เสียหาย และหาทนายมาช่วยหมอแก้คำฟ้องไปวันๆ


ประชาชนต้องการความปลอดภัยจากการไปโรงพยาบาล

แพทย์ก็ไม่อยากทำงานแบบเร่งด่วน เพราะเสี่ยงต่อผลเสียหายต่อประชาชน

และแพทย์เองก็เสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง


แต่สถานการณ์ที่มี “ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล” (ใครจะช่วยป้องกันปัญหาความเสี่ยงของประชาชนและป้องกันปัญหาความเสี่ยงของ แพทย์

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขหรือนายกรัฐมนตรีจะช่วยคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจ ากการไปโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่?

จะทำให้เกิดอานิสงค์ต่อแพทย์ให้ได้มีเวลาทำงานอย่างมีคุณภาพมาตรฐาน และรอดจากการ “ติดคุกเพราะรักษาคน” อีกด้วย
****ตอบ อันนี้ค้าน เขาก็ทำแล้ว พยายามหยุดการฟ้อง ก็เขาหา พรบ ผู้เสียหายให้ ให้ก็ไม่เอา ดันจะเอา พรบ กระทอก
**********************************************************************************************************************************************************************************
หมายเหตุ ตีพิมพ์ในวารสารวงการแพทย์ 2553: 12 ( 32 : 26-27

เอกสารอ้างอิง
1.จำนวนแพทย์ไทยจำแนกตามการทำงาน : ข้อมูลจากกลุ่มบริหารงานบุคคล สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข มิถุนายน 2551
2.สถิติการตรวจรักษาผู้ป่วยของหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข จากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข
3.พญ.ฉันทนา ผดุงทศและคณะ. ชั่วโมงการทำงานของแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2550 ;16 (4) : 493-502
4. ศ.ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษและคณะ. โครงการกำหนดยุทธศาสตร์กำลังคนภาครัฐ. กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
5. สถิติการฟ้องร้องแพทย์ แพทยสภา
6.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ คำพิพากษาให้แพทย์ต้องโทษจำคุก วารสารวงการแพทย์ 2551; 262, 263 :16-20
7.นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ . การช่วยเหลือเบื้องต้นตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศง


การป้องกันอันตรายจากการไปรับบริการตรวจรักษาจากกระทรวงสาธารณสุข โดยการ "พัฒนาคุณภาพมาตรฐาน มีจำนวนบุคลากรเพียงพอ มีอาคารสถานที่เพียงพอ มีเงินซื้อยาเพียงพอ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยจนมีหนี้สินท่วมโรงพยาบาล"

ย่อมต้องดีกว่า การปล่อยให้เกิดความเสี่ยงต่ออันตรายของทั้งประชาชน และแพทย์

การปล่อยให้ประชาชนบาดเจ็บ พิการ ล้มตาย แล้วมาให้เงินชดเชยจากพ.ร.บ.นี้ มันคุ้มค่ากันแล้วหรือ?
****ตอบ อันนี้ค้าน เงินชาวบ้านเขาออกมาช่วยกันเอง หมอจะไปยุ่งเขาทำไม **********************************************************************************************************************************************************************************
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนนี้ สมควรได้รับความไว้วางใจจากพรคร่วมรัฐบาล ให้อยู่บริหารกระทรวงสาธารณสุขต่อไปหรือไม่?

ปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนนี้ ที่ทำงานสนองแต่รัฐมนตรี

แต่ไม่พยายามชี้แจงให้รัฐมนตรีเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องตามสาเหตุแห่งปัญหา

แต่ทำตามคำสั่งของรัฐมนตรีอย่างเดียว ไม่เหลียวแลผู้ใต้บังคับบัญชา กล้าบิดเบือนความเห็นของที่ประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์

ปลัดกระทรวงคนนี้ ทำความผิดในการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร

สมควรให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกหรือไม่?
****ตอบ อันนี้ค้าน เขาก็ทำแล้ว พยายามหยุดการฟ้อง ก็เขาหา พรบ ผู้เสียหายให้ ให้ก็ไม่เอา ดันจะเอา พรบ กระทอก แต่พวกที่โกหกพกลม ไม่สมควรจะเข้าไปทำงานในแพทยสภา **********************************************************************************************************************************************************************************

โดย: ชำแหละรายมาตรา [5 พ.ย. 53 17:39] ( IP A:58.11.88.160 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน