ความคิดเห็นที่ 10 แหม อ่านแล้วคัน อดไม่ได้อีก ขอ เจือก ด้วยคน (ขอยืมคำนี้จากคุณจีเอ็นหน่อย)
ผมว่านะ เชื้อสาเหตุที่เป็นต้นเรื่องที่มาของการทะเลาะกันของวงการแพทย์จนลามปามมาเป็นบอร์ดนี้ เรื่อยมาจนถึงกระทู้นี้
ก็เพราะวงการแพทย์ (ซึ่งมีแพทยสภาที่ร่วมมือกับแพทยสมาคมที่มีพฤติการณ์ซ่องโจรเป็นคนนำ, ) มีการประพฤติทั้งโดยที่ลับมาจนถึงที่แจ้ง (เพราะถูกจับได้คาหลักฐาน) ให้ปิดบังความจริงหากมีการเรียกร้อง/ตรวจสอบโดยคนไข้ที่เสียหายและมีข้อสงสัย
นี่น่ะ ก็คือที่มาว่า ทุกวันนี้ หมอคนไหนที่เกิดเรื่องขึ้น หรือหมอที่ขาดวุฒิภาวะและถูกหู/ยุส่งมาเป็นทอดๆ ก็มักโทษฝ่ายคนไข้ว่าเป็นคนผิด เป็นคนเรื่องมาก เป็นคนก้าวก่าย/แทรกแซงการทำงานของหมอ แล้วก็ขู่ฟอดๆว่า จะตั้งแง่ทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อคุกคามจิตใจคนไข้หรือ "ผู้ที่ไม่ใช่หมอแต่กลัวเรื่องในอนาคตที่ยังไม่เกิดว่าจะต้องเกิดไปขอเพิ่งหมอ" ให้กลัวคำขู่
ผมว่านะ ทุกอย่างจะจบลงได้สวย ก็โดยเริ่มที่ คุณหมอที่ทำเรื่องผิดพลาด ที่ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย (ตัวเองต้องมีใจเป็นกลาง ไม่เข้าข้างตัวเองและไม่เชื่อลมที่เป่าหูโดยอาจารย์หรือหมอรุ่นพี่แบบผิดๆ) ให้รู้จักยอมรับและเปิดเผยตรงไปตรงมากับคนไข้ และยอมรับการขอเวชระเบียนโดยไม่ลังเลทุกกรณ๊โดยไม่มีเงื่อนไขก่อน
ขั้นถัดไป
ก็คือช่วยกันตรวจสอบเพื่อนร่วมอาชีพ รุ่นพี่ หรือแม้แต่อาจารย์ที่พบความไม่ชอบมาพากล ทำเรื่องผิดๆแล้วพูดหรือโกหกในเรื่องที่ขัดกับหลักการแพทย์ที่ตัวเองรู้อยู่
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ พบได้อยู่ทั่วไป "จำนวนมาก" ที่แพทยสภา ที่กองประกอบโรคศิลปะ แล้วก็ที่แพทยสมาคมนั่นแหละ
ซึ่งทุกเรื่องที่ผมกล่าวอ้างนั้นน่ะ คนที่เสียหายทางเลือดเนื้อและเงินทองค่ารักษา และ/หรือ กระทั่งชีวิต (มีตัวเลขทางการที่ ส.ธ. ยอมรับเองว่า มีถึง 65,000 ศพในปี 2551 ทั้งประเทศ) ก็คือคนไข้ไทยที่เป็นทั้งคนที่ไม่ใช่หมอ และอาจรวมที่เป็นหมอหรือพยาบาลหรือญาติที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ปนอยู่)
ส่วนหมอที่เสียหายนั้น ก็คือหมอที่ถูกจับโกหกได้คาหนังคาเขา (บางคนก็ยังหน้าด้านโกหกอยู่ทุกวันนี้ แหมหัวจะหงอกเต็มกะบานก็ตาม) จนทุกวันนี้ชื่อเสียงเสียหายวายป่วงจากการยอมรับของสาธารณชน
ทั้งหมดนี่ก็เพราะ พวกท่านหมอเห็นเพื่อนร่วมอาชีพโกหกกันตำตากันอย่างโจ๋งครึ่ม แต่ก็พากันไม่รับรู้ และ/หรือ แกล้งมองไม่เห็น
แต่กลับอดทนและทนอด เสียเวลาพักผ่อนของตัวเองมาโต้เถียงกับคนไข้ในเรื่องหมอๆในบอร์ดสำหรับคนไข้นี้ ที่เต็มไปด้วยเรื่องฉ้อฉล+โกหก ซึ่งหมอเป็นคนก่อซะส่วนใหญ่
เฮ้อ เหนื่อยนะ ท่านจ้าวบ้านเบื่อด้วย เมื่อไรกะพ้มจะได้เลิกซะที
เอ้า ขอตบท้ายว่า ขออ้างคำสอนของท่านพุทธทาส ซึ่งกล่าวย้ำโดยท่านอาจารย์ ดร. สนอง วรอุไร (อดีตอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่) ว่า
ใน ทางธรรม นั้น ปัญหาทุกๆอย่างแก้ได้หมด และ ไม่มีปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่ เราต้องเริ่มต้นจากการยอมรับและมองเห็นปัญหาอย่างถี่ถ้วนรอบด้านก่อน และธรรมนั้นคือ "ความจริง" |