ผมว่ามากกว่า 65,000 รายต่อปี
   ผมว่าตัวเลข 65,000 น่าจะน้อยไปครับ...เพราะคนไทยนั้นโดยธรรมชาติแล้วจะไม่ค่อยให้ข้อมูลในทางด้านลบเพื่อมาพัฒนาระบบป้องกันเสียเท่าไร...เช่น การค้าประเวณีผิดกฏหมายแต่ก็มีมากมายในสถานบริการอาบ อบ นวด ทั่วประเทศ(โดยเฉพาะใจกลางเมืองหลวง) การเปิดบ่อนการพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายแต่ในความจริงก็มีบ่อนทั่วไป รวมถึงพวกที่ขนเงินไปเล่นในต่างประเทศโดยเฉพาะบริเวณชายแดน(คนไทยไปเล่นทั้งนั้น).........จะเห็นว่าธรรมชาติของคนไทยไม่ค่อยจะยอมรับในทางไม่ดีแต่ก็ไม่เคยมีวิธีการแก้ไขได้ ทำได้แต่เพียงเก็บมันแอบเอาไว้ไม่ให้ใครเห็นเท่านั้น
โดย: 65,000 น้อยไปแน่ๆ [15 ก.พ. 54 10:08] ( IP A:125.27.208.131 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   โง่แล้วอย่ามาสะเออะวิพากย์วิจารณ์เลย ไปเรียนกศน.ให้จบก่อนนะ
โดย: กุเซ็ง [15 ก.พ. 54 10:27] ( IP A:58.8.169.45 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ผมโง่ครับยอมรับ....แต่ไม่เคยฆ่าใครตาย ไม่เหมือนพวกฉลาดๆที่มั่นใจในตัวเองแล้วฆ่าคนตายด้วยความประมาท....แล้วไปซุกกระโปรงพวกเดียวกัน
โดย: ยอมรับ [15 ก.พ. 54 14:19] ( IP A:125.27.208.131 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ไม่เคยยืดอกพกถุง.......เอ่ย ยืดอกรับผิดชอบแบบลูกผู้ชาย แบบนี้ผมว่าต้องทบทวนเรื่องจริยธรรมของพวกหมอบ้าง ว่ามีกันหรือเปล่า
โดย: ยืดอกแบบลูกผุ้ชาย [15 ก.พ. 54 17:31] ( IP A:202.44.135.34 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ที่แน่ๆ แม่ผมถูกอาจารย์หมอระดับรองศาสตราจารย์โรงเรียแพทย์ชื่อดังให้ยาลดความดันอมใต้ลิ้นแล้วก็ไม่คอยดู ไม่คอยระวัง ผล...ความดันตกจนมิดสกอร์ สมองขาดเลือดไปเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่นานโข ภายหลังตาย แล้วยังมาหาว่าแม่ผมตายด้วยโรคประจำตัวอีก............แบบนี้หมอมันห่วยหรือแม่ผมซวยกันแน่.........
โดย: หนึ่งใน 65,000 [15 ก.พ. 54 17:45] ( IP A:202.44.135.34 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   คนเป็นครูบาอาจารย์เนี่ยต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกศิษย์.....ถ้าอาจารย์เ ล ว เสียเอง แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าลูกศิษย์จะไม่ซึมซับมาเมื่อจบมาเป็นหมอแล้ว........
โดย: จรรยาบรรณครู [15 ก.พ. 54 17:57] ( IP A:202.44.135.34 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   "จุรินทร์" เร่งตั้งคกก.ตรวจสอบข้อมูลเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ค

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
15 กุมภาพันธ์ 2554 17:50 น.

https://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000020468

สธ.เร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ค คาดรู้รายละเอียดข้อเท็จจริงภายใน1 สัปดาห์ ขณะที่สนย.จวกเครือข่ายผู้ป่วย ฯ อ้างตัวเลขคลาดเคลื่อน ชี้ข้อมูลที่อ้างอิงเป็นของรพ.แค่ 2 แห่ง

จากรณีที่สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่ว ไป (สพศท.) ได้มีการแถลงข่าวประณามการกระทำของเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ในเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลอัตราการตายของผู้ป่วยจำนวน 65,000 ราย ที่ระบุว่าเกิดจากความผิดพลาดทางการแพทย์ผ่านเฟสบุ๊ค(Facebook) โดยเครือข่ายฯ อ้างอิงว่าเป็นข้อมูลจากการศึกษาของ นพ.สรรธวัช อัศวเรืองชัย ซึ่งนำข้อมูลการเสียชีวิตจากความผิดพลาดทางการแพทย์ในการประชุมขององค์การ อนามัยโลกเมื่อปี 2549 ซึ่งเป็นบุคลากรในสำนักนโยบายแผนและยุทธศาสตร์ (สนย.) ซึ่ง สพศท.ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการอ้างข้อมูลเท็จนั้น

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.พ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและได้มอบหมายให้นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.ตั้งคณะทำงาน 1 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อมูลการเผยแพร่ทั้งหมด ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยคาดว่ารายละเอียดต่างๆจะแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์

ด้านนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ที่มีการเผยแพร่ทางเฟสบุ๊ค เข้าใจว่าผู้เผยแพร่ได้นำข้อมูลจากการประชุมร่วมกับแพทย์รายหนึ่งที่เคยทำงานที่สนย.และได้ลาออกไปแล้วมาใช้ในการอ้างอิง โดยแพทย์คนดังกล่าวได้เคยกล่าวไว้ในการประชุมว่า จากการทบทวนระเบียนผู้ป่วยในของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 2 แห่ง พบว่า 10 % เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ในจำนวนนี้ 10 % เสียชีวิต โดยเกิดจากสิ่งที่สามารถป้องกันได้ครึ่งหนึ่งและแพทย์รายนี้ได้กล่าวไว้เพียงเท่านี้

นพ.ศุภกิจ กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวคิดว่า การเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว อาจมีตัวเลขบางส่วนที่เกินความจริง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้เผยแพร่ได้นำข้อมูลดังกล่าวมาผนวกรวมเข้ากับจำนวนคนไข้ในที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ในปี 2552 โดยเป็นข้อมูลของปี 2551 ซึ่งระบุว่ามีผู้ป่วยใน 13 ล้านครั้ง หมายถึง 13 รายโรคไม่ใช่ผู้ป่วย 13 ราย เพราะในจำนวนนี้อาจมีผู้ป่วยซ้ำรายกันก็ได้ โดยมีจำนวนผู้ป่วยเพียง 6.3 ล้านราย แต่ผู้นำไปเผยแพร่ไม่เข้าใจและไม่ได้สอบถามสนย. จึงใช้ตัวเลข 13 ล้านครั้งมาคำนวณว่าเกิดอาการไม่พึงประสงค์ 10 % คือ 1.3 ล้านครั้ง เสียชีวิต10 % คือ 1.3 แสนครั้ง และสรุปว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่เสียชีวิตเกิดจากเหตุที่ป้องกันได้ คือ 65,000 ครั้ง

“ข้อสรุปของผู้ที่นำมาเผยแพร่มีความคลาดเคลื่อน โดยมีข้อสังเกตอย่างน้อย 3 ประเด็น คือ 1.ข้อมูลที่แพทย์รายดังกล่าวนำมาใช้ในการรายงานการประชุมเป็นข้อมูลจากโรงพยาบาล 2 แห่ง ไม่สามารถใช้เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลทั่วประเทศได้ อีกทั้ง ข้อมูลของแพทย์รายนี้เป็นตัวเลขก่อนปี 2549 จะสรุปว่าเป็นตัวเลขปี 2549 ไม่ได้ 2.การนำตัวเลขมาคำนวณโดยใช้ตัวเลขผู้ป่วยใน 13 ล้านคน เป็นการคำนวณตัวเลขที่มีความคลาดเคลื่อนไปมาก เนื่องจากปี 2551 มีผู้ป่วยจำนวน 6.3 ล้านราย มีจำนวนโรค 13.4 ล้านรายโรค เพราะผู้ป่วย 1 คน อาจมีหลายโรค และ3.การที่แพทย์คนดังกล่าวใช้คำว่า มีแนวทางการป้องกันได้ อาจหมายถึงเกิดจากตัวผู้ป่วยเองก็เป็นได้ ซึ่งอาจแตกต่างจากความผิดพลาดทางการแพทย์ตามที่ผู้เผยแพร่สรุปก็เป็นไปได้” นพ.ศุภกิจ กล่าว
โดย: ผจก. [15 ก.พ. 54 18:25] ( IP A:58.9.211.137 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   อย.ร่วมกับราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทยชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับยาชาเฉพาะที่ฉีดเข้า ไขสันหลังยี่ห้อ มาร์เคน สไปนอล เฮฟวี่ หลังพบรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่มีการบล็อกหลัง 6 ราย โดยไม่ทราบสาเหตุแน่นอน ขณะนี้ได้สั่งอายัดและเรียกคืนยาล็อตที่เกี่ยวข้องจากโรงพยาบาลทุกแห่งแล้ว
น.พ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย ผศ. พญ.สุรีรัตน์ ศรีสวัสดิ์ ประธานราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีระบบติดตามอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคจากการใช้ยาประเภทต่าง ๆ ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคม 2546 – เมษายน 2547 ที่ผ่านมา อย.พบว่ามีตัวเลขการเสียชีวิตของผู้ป่วย 6 ราย ที่ไม่แน่ชัดว่าสาเหตุการตายเกิดจากอะไร แต่เนื่องจากมีการใช้ ยาชาเฉพาะที่ฉีดเข้าไขสันหลังในผู้ป่วยทั้ง 6 ราย จึงได้ตรวจสอบพบว่ายาดังกล่าว คือ ยายี่ห้อมาร์เคน สไปนอล เฮฟวี่ (Marcain Spinal Heavy) รุ่นการผลิต Batch no. B 220473 นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย Lot no. EF2060 และ EE 2049 นำเข้าจากประเทศสวีเดน โดยบริษัท แอสตร้า เซเนก้า จำกัด มีตัวยาสำคัญ คือ บูพิวาเคน เอชซีแอล (Bupivacaine HCl) และ เด็กซ์โทรส โมโนไฮเดรต (Dextrose Monohydrate) ยาตัวนี้ได้ถูกส่งกระจายไปโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่ง อย. มีรายชื่อโรงพยาบาลทั้งหมดไว้แล้ว จึงได้แจ้งให้แพทย์ระงับการใช้และสั่งอายัดยาทั้ง 3 รุ่นทันที พร้อมให้บริษัทเจ้าของยาเรียกเก็บยาคืนจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2547 พร้อมทั้งได้ส่งตัวอย่างยาดังกล่าวไปตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานที่โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นปรากฏว่ายาดังกล่าวมีคุณภาพได้มาตรฐาน ไม่มีสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม อย.จะได้มีการติดตามตรวจสอบต่อไป โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานกับประเทศผู้ผลิต
น.พ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ เลขาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยปกติยาชาและยาสลบเป็นยาที่มีอันตรายสูงอยู่แล้ว จากสถิติการศึกษาทางวิชาการที่มีอยู่พบว่ามีอัตราการตายจากการใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดเข้าช่องไขสันหลังเพื่อทำการผ่าตัดประมาณ 2-5 คนต่อผู้ป่วย 1 หมื่นคน การจะพิจารณานำยาดังกล่าวมาใช้ จึงขอให้แพทย์ใช้เมื่อมีความจำเป็นและใช้ด้วยความระมัดระวังตามข้อกำหนดของราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ หากพบปัญหาในการใช้ยาขอให้ติดต่อศูนย์ติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โทรศัพท์ 0 2590 7261 โทรสาร 0 2590 7253
https://elib.fda.moph.go.th/elib/cgi-bin/opacexe.exe?op=dsp&wa=922344D&bid=33939&qst=@76003,@11,@25284,%5E,@14425,%5E,$&lang=1&db=Jindex&pat=%E1%B6%C5%A7%A2%E8%D2%C7&cat=gen&skin=u&lpp=40&catop=&scid=zzz
โดย: ส่งมาให้เครือข่ายตรวจสอบหน่อย [16 ก.พ. 54 2:25] ( IP A:58.11.88.129 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ยามันดี แล้วอะไรมันห่ว ย
โดย: แบะๆ [16 ก.พ. 54 2:26] ( IP A:58.11.88.129 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   เป็นข้อมูลที่น่าสนใจครับ....ขอบคุณครับ
โดย: 65000 [16 ก.พ. 54 9:38] ( IP A:125.27.211.70 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ยาดี โรงเรียนดี คนเรียนก็ฉลาด แต่ระบบ safety awareness และ quality assurance ห่วยคับพี่
โดย: เจ้าบ้าน [17 ก.พ. 54 23:01] ( IP A:124.121.36.85 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ไอ้ปื๊ดมันห่วย
โดย: โทษไอ้ปื๊ดมันดีกว่า [17 ก.พ. 54 23:52] ( IP A:58.9.47.185 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน