อีก๑ สุนทรพจน์ของ บารัค โอบามา /ยก ๒ ของการต่อสู้กับกลุ่มทุนทางประกันสุขภาพ
   กระทู้นี้เป็น สุนทรพจน์ของ บารัค โอบามา เมื่อ 15 Aug. 09 ที่ Healthcare Town Hall, Colorado
จากเว็บ

https://latimesblogs.latimes.com/washington/2009/08/barack-obama-colorado-healthcare-text.html

ฉบับที่เปิดเผยโดยทำเนียบขาวซึ่งยังไม่ได้ผ่านการตรวจทาน/เรียบเรียง

ซึ่งจะทยอยแปลส่งมาเป็นส่วนๆ แต่สามารถแบ่งสาระของประเด็นที่ต้องการสื่อออกมาได้เป็น ๓ ส่วนคือ

* ช่วงเวลาของการต่อสู้ในสนามสื่อมวลชน เพื่อรณรงค์และผลักดันการปฏิรูประบบดูแลสุขภาพของอเมริกา
ทั้งระบบ โดยมุ่งที่การทำให้คนอเมริกันราว 1 ใน 4 (46 ล้านคน) ที่ยังไม่มีได้มีการประกันสุขภาพสามารถมี
ได้ในราคาที่แบกรับได้เอง ลดการทำกำไรที่มากเกินไปและไร้มนุษยธรรมของบริษัทประกันภัยเพื่อคืน
ประโยชน์ให้ประชาชน ลดค่าใช้จ่ายทั้งที่สูญเปล่าและที่เกินจริงนำกลับมาชดเชยให้กับระบบ เอื้อให้
ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บกับประชาชนถูกลง และทุกคนแบกรับได้เอง
* เนื้อความส่วนแรกเป็นภาพฉายที่คมชัดของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ-สังคมที่ล้มเหลว, ทั้งเป็นสาเหตุหลัก
ของการขาดดุลงบประมาณก้อนมหึมาของประเทศ เพราะการกระจุกตัวของเงินที่สมควรเป็นเงินออมใน
ครัวเรือน แต่กลับถูกดูดอย่างไม่เป็นธรรมไปอยู่ในภาคการประกันภัย (ภาคการเงินซึ่งไม่ใช่ real sector),
ภาคการบริการสุขภาพ (ภาคบริการที่มีประชากรส่วนน้อย) และ ภาคการผลิตยา (ภาคการผลิตผู้ขาดโดย
กลุ่มทุนยาไม่กี่กลุ่ม)
* เนื้อความท่อนหลังเป็นถาม-ตอบที่เผ็ดร้อนในประเด็นข้อเสนอทำประกันสุขภาพโดยรัฐบาลโอบามา,
ท่ามกลางเสรีภาพของประชาชนในการเปิดประเด็นคำถามโดยตรงกับโอบามาในที่ชุมชนบนการโต้แย้งที่
ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม พ่วงกับการป้ายสีของกลุ่มผู้เสียประโยชน์จากการนี้ ให้เป็นการระแวงการเคลื่อน
เข้าผูกขาดธุรกิจด้านนี้โดยรัฐบาล ซึ่งต้องห้ามสำหรับระบอบเสรีทุนนิยมแบบอเมริกัน
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [20 ส.ค. 52 16:42] ( IP A:58.8.100.91 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เมื่อวานขณะที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในเมืองมอนทาน่า เราได้พูดถึงผู้คนที่จู่ๆก็โดนยกเลิกกรมธรรม์ประกันสุขภาพอย่างฉับพลันทั้งๆที่พวกเขาได้จ่ายค่าเบี้ยประกันครบแล้ว แต่ด้วยเหตุผล (ข้ออ้างของบริษัทประกัน) ว่าเพราะพวกเขา (ผู้เอาประกัน)ป่วย มาวันนี้เราจะมาพูดกันถึงผู้คนอย่างคุณ Nathan และครอบครัวของเขาซึ่งมีประกันทางสุขภาพอยู่แต่ก็ยังต้องสะดุดกับบิลค่าใช้จ่ายก้อนโต เพียงเพราะพวกเขาเจอเข้ากับการปฏิเสธการจ่ายค่าชดเชยตามกรมธรรม์ของพวกเขา หรือไม่ก็ถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่สูงลิบลิ่วเกินกว่าเงินที่พวกเขามีอยู่

และเมื่อเราได้ยินได้ฟังเรื่องราวแบบนี้ เมื่อเราต้องมานึกถึงผู้คนนับจำนวนเรือนล้านซึ่งถูกปฏิเสธความรับผิดชอบตามกรมธรรม์เพียงเพราะสภาพความเจ็บป่วยหรือไม่สมประกอบที่มีอยู่ก่อน และกับผู้คนอีกจำนวนพันๆที่ถูกยกเลิกกรมธรรม์เนื่องจากสภาพความเจ็บป่วยของพวกเขา เช่นเดียวกับผู้คนอย่าง Nathan ข้าพเจ้าอยากให้พวกท่านจำไว้สิ่งหนึ่ง นั่นมันตรงข้ามกับความเมตตาที่พระเจ้าทรงมอบให้สำหรับพวกเราทุกๆคนและข้าพเจ้าจะไปนำมันคืนมา

นี่คือบางสิ่งบางอย่างซึ่งบางครั้งเราลืมมันไปในระหว่างที่เราอยู่ท่ามกลางการโต้เถียงเรื่องของระบบดูแลสุขภาพ คนเหล่านี้เป็นชาวอเมริกันปรกติทั่วๆไป และก็ไม่ได้แตกต่างกับใครๆอื่นเลย พวกเขาทำงานหนัก พวกเขาบรรลุความรับผิดชอบตามส่วนของเขา แต่พวกเขากลับถูกยึดเป็นตัวประกันโดยบรรดาบริษัทประกันภัยทั้งหลายซึ่งปฏิเสธที่จะจ่ายค่าชดเชยตามกรมธรรม์ หรือทิ้งการรับผิดชอบต่อพวกเขา หรือเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มซึ่งพวกเขาไม่สามารถรับไหวสำหรับบริการทางสุขภาพซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องมีอย่างขาดเสียไม่ได้

เรื่องเหล่านี้เป็นความเจ็บปวดสำหรับหลายๆครอบครัวและหลายๆหน่วยธุรกิจ มันเป็นเรื่องที่ผิด และเรากำลังจะแก้ไขสิ่งที่ผิดเหล่านี้เมื่อเราได้ผ่านร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูประบบประกันสุขภาพภายในปีนี้

ทุกวันนี้เป็นที่ชัดเจนว่า เรากำลังอยู่ในห้วงเวลาของความยากลำบากสำหรับครอบครัวใน Colorado และครอบครัวอื่นๆทั่วทั้งอเมริกา ข้าพเจ้าอยากย้อนเวลากลับไปเล็กน้อยเพื่อเตือนให้นึกถึงเหตุการณ์ทีเพิ่งผ่านเราไปเมื่อ 7-8 เดือนที่แล้ว เพราะเมื่อ 6 เดือนที่แล้วเรากำลังอยู่ในท่านกลางภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในชั่วชีวิตของเรา เรามีคนตกงานถึง 700,000 คนต่อเดือนในช่วงนั้น

และบรรดานักเศรษฐศาสตร์ทั้งซีกซ้ายและซีกขวา ทั้งที่เป็นพวกเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม ต่างหวาดกลัวกันว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่อีกครั้งอย่างที่เคยเกิดเมื่อหลังสงครามโลกใหม่ๆกำลังจะหวนกลับมาเป็นหนที่สอง ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าพวกเราทุกคนจะจำเหตุการณ์นั้นได้หรือไม่? นั่นมัน 6 เดือนที่แล้ว และนั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องลงมืออย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการผ่านแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อหยุดการตกต่ำอย่างไร้การควบคุมแบบนั้น และจากตรงนั้นก็ได้เกิดปรากฏการณ์จำนวนมากของการมีข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับแผนงานเหล่านั้น ดังนั้น ขอให้ข้าพเจ้าได้เพียงแต่พูดสั้นเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้ทำกันไปแล้ว ดังนี้
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [20 ส.ค. 52 16:45] ( IP A:58.8.100.91 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กล่าวถึงแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน งบประมาณ 1 ใน 3 ของแผนตามกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจนี้เป็นส่วนที่เรียกว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถูกอัดฉีดเข้าไปในรูปของการลดการจัดเก็บภาษีเงินได้ ซึ่งส่วนนี้ได้เห็นกันแล้วในเช็คเงินเดือนของครอบครัวคนทำงานชาวอเมริกันเกือบ 2 ล้านครัวเรือนใน Colorado รวมทั้งที่อยู่ ณ. ที่แห่งนี้ใน Grand Junction ด้วย ทั้งนี้ข้าพเจ้าเพียงต้องการให้ทุกท่านรับทราบอย่างชัดเจนว่า 1 ใน 3 ชองงบก้อนนี้ก็คือการลดภาษี ไม่ใช่การเพิ่มภาษี ซึ่งก็คือเงินในกระเป๋าของท่านที่เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะใช้จ่ายได้ตามใจ

นอกจากนี้เรายังได้ลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดย่อมในส่วนของการลงทุนที่ได้ทำไป และธุรกิจขนาดเล็กนับจำนวนร้อยๆรายใน Colorado นี้ก็มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับรับเงินกู้ก้อนใหม่ที่จะมาจากกฎหมายฉบับเดียวกันนี้ รวมถึงธุรกิจอีก 11 แห่งเพียงใน Grand Junction นี้เท่านั้น

ทีนี้ อีก 1 ใน 3 ของเงินก้อนนี้จะใช้สำหรับการบรรเทาปัญหาแบบฉุกเฉินให้กับบรรดาท่านที่ประสบกับผลโดยตรงของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนี้ โดยที่เราได้ขยายการจ่ายชดเชยการว่างงานให้กับชาว Colorado กว่า 150,000 คน เราทำให้การประกันสุขภาพสำหรับครอบครัวที่กำลังอยู่ในระบบประกันของ COBRA นั้นมีราคาถูกลง 65% อันเนื่องมาจากการตกงานและพวกเขาเหล่านั้นอยู่ข้างนอกนั้นทีไหนซักแห่งกำลังมองหางานอยู่

และสำหรับมลรัฐที่กำลังประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณสะสมมาจากในอดีต เราได้ให้ความช่วยเหลือในรูปที่สามารถรักษาตำแหน่งงานนับจำนวนหลายหมื่นตำแหน่งของงานบริการพื้นฐานของรัฐ เช่น งานครู ตำรวจ และในเรื่องนี้ผู้ว่าการรัฐ Ritter จะบอกให้พวกท่านทราบได้ว่าหากเราไม่ได้แบ่งบางส่วนของเงินก้อนนั้นออกมาให้ที่นี่ นั่นหมายถึงรัฐ Colorado นี้จะต้องบอกเลิกจ้างงานอย่างเจ็บปวดสำหรับตำแหน่งงานบริการพื้นฐานสำคัญๆ ทั้งอาจจะต้องมีการเพิ่มภาษีที่เจ็บปวดมากๆทั้งในระดับมลรัฐและในระดับท้องถิ่น และนั่นคือส่วนที่ 2 จาก 3 ส่วนของกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ทีนี้ก็มาถึงส่วนที่ 3 ของกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นส่วนที่เตรียมไว้สำหรับการลงทุนซึ่งกำลังสร้างงานให้กับประชาชนได้ทำอยู่แล้ว เรามีโครงการทางด้านระบบขนส่งเกือบ 100 โครงการที่ได้รับการอนุมัติและเครื่องจักรกลอยู่ในสภาพพร้อมเดินเครื่องแล้วใน Colorado นี้และกำลังเริ่มสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ ตัวอย่างเช่นไม่ไกลจากที่นี่ เรากำลังมีโครงการปูผิวถนนและเพิ่มช่องจราจรฝนทางหลวงหมายเลข 92 และงานส่วนใหญ่นั้นรับไปทำโดยผู้รับเหมาในพื้นที่ และนั่นคือวิธีที่เราสร้างงานขึ้นใหม่และทำให้เศรษฐกิจกลับเติบโตขึ้นอีกได้อย่างไร

และภายในเดือนหน้านี้ จะมีโครงการที่เดินเครื่องอยู่ในอุทยานแห่งชาติกว่า 100 แห่งทั่วสหรัฐอเมริการวมทั้ง Colorado นี้ด้วย ทั้งหมดนี้ก็คือโครงการซึ่ง ฟื้นฟูทางสัญจร ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้อุปกรณ์/สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในสถานที่ตั้งมีประสิทธิภาพทางการใช้พลังงานดีขึ้น และเมื่อเช้านี้เองบางท่านในที่นี้อาจทราบแล้วว่า ข้าพเจ้าได้ไปเที่ยวชมที่อุทยานแห่งชาติ Yellowstone พร้อมกับภรรยาของข้าพเจ้า Michelle และลูกสาวของเราทั้งสอง เราได้ไปเห็นน้ำพุร้อน Old Faithful อีก ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นมันมาตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ 11 ขวบแล้ว ดูมันยังพุ่งได้สูงดี พรุ่งนี้พวกเรากำลังจะไปเยือนที่หุบเขา Grand Canyon

และขณะที่เรากำลังชุลมุนกับความท้าทายที่มากมายเหล่านี้ เช่นที่เรากำลังเผชิญอยู่กับการแก้ไขระบบดูแลสุขภาพอยู่ งานของคนรุ่นก่อนๆหลายๆรุ่นที่ผ่านมาได้ย้ำเตือนข้าพเจ้าถึงภาระหน้าที่ของเราที่มีต่อคนรุ่นหลังเราไปซึ่งเป็นลูกหลานของเราที่จะตามมา

ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าแผนงานฟื้นฟูทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่นี้กำลังทำงานอย่างที่เราได้พูดกันไว้ ซึ่งก็คือวางพวกเราไว้บนแนวทางที่นำไปสู่การฟื้นฟู แน่นอนว่ามันไม่ได้กำลังแก้ปัญหาทั้งหมดที่มีอยู่ การว่างงานยังอยู่ในแนวทางที่สูงเกินไป แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราเพิ่งได้เห็นว่าภาพรวมของการจ้างงานกำลังเปลี่ยนไป เรากำลังเริ่มที่จะเห็นสัญญาณของการลงทุนทางธุรกิจที่กำลังย้อนกลับมา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราก้าวพ้นออกจากการ “หลงป่า” แล้ว

และแม้ว่าก่อนที่เราจะประสบกับวิกฤตการณ์ทางการเงินที่นอกเหนือธรรมดามากเช่นนี้เราก็ยังมีเศรษฐกิจที่ยังคงเดินไปได้ค่อนข้างดีสำหรับกลุ่มชาวอเมริกันผู้มั่งคั่งที่สุด ระบบที่ยังทำงานได้ดีสำหรับนักการธนาคารย่านถนน Wall Street และสำหรับกลุ่มวิสาหกิจขนาดใหญ่ แต่มันกลับเป็นระบบที่เดินได้ไม่ค่อยดีนักสำหรับทุกๆคนไม่ว่าใครก็ตาม มันยังเป็นเศรษฐกิจแบบฟองสบู่และการแตกตัวของมัน เป็นระบบเศรษฐกิจซึ่งคนงานโดยเฉลี่ยทั่วๆไปมีค่าแรงและรายได้อื่นๆที่ไม่ได้ขึ้นลงมาเป็นเวลานับทศวรรษแล้ว ระบบซึ่งตอบแทนเราด้วยความไม่ยั้งคิดไปบนความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ดังนั้น เราไม่สามารถกลับไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบนั้นอีกแล้ว

หากพวกเราต้องการให้ประเทศนี้ประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21 เราต้องวางรากฐานใหม่สำหรับความมั่งคั่งที่ยั่งยืนระยะยาว และการปฏิรูปการประกันสุขภาพจะเป็นเสาเข็มต้นสำคัญในฐานรากใหม่นี้ ทั้งนี้เพราะระบบเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ณ. ขณะนี้จะไม่ใช่สำหรับพวกเราทุกๆคนจนกว่าคนอย่างคุณ Nathan และครอบครัวของเขาจะไม่ต้องถูกผลักเข้าสู่สภาพล่อแหลมต่อการล้มละลายจากค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และจนกว่าบรรดาบริษัทห้างร้านจะไม่ตัดทอนเงินเดือนและสูญเสียส่วนกำไรไปเพื่อจ่ายค่าประกันสุขภาพ และจนกว่าปัจเจกชนชาวอเมริกันทั้งหลายจะมีความมั่นคงและมีความวางใจต่อบริการทางสุขภาพที่เปี่ยมคุณภาพและสามารถแบกรับไว้ได้ด้วยตัวเขาเอง
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [20 ส.ค. 52 16:48] ( IP A:58.8.100.91 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   และแน่นอนว่าชีวิตของพวกเราชาวอเมริกันทั้งหมดล้วนต้องสัมผัสกับระบบดูแลสุขภาพในแบบที่ลึกซึ้ง ซึ่งนั่นหมายถึงมันจะเป็นปรกติตามธรรมชาติของมนุษย์ที่การโต้เถียงกันในประเด็นอย่างที่เป็นอยู่นี้จะเป็นไปอย่างมีอารมณ์ เพราะนั่นหมายถึงมีเดิมพันก้อนใหญ่ที่เกี่ยวพันผลประโยชน์ของแต่ละคนวางอยู่ และข้าพเจ้ายังทราบดีว่าผู้คนจำนวนมากในบางแห่งของการพบปะกลุ่มใหญ่ตามใจกลางเมืองทั่วประเทศกำลังใจจรดใจจ่อกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในจุดที่อารมณ์ของที่ประชุมปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งสื่อทางโทรทัศน์ชอบเหตุการณ์แบบนี้ และหากมีเพียงหนึ่งจุดของที่ประชุมเหล่านี้ซึ่งใครเพียงคนเดียวเกิดระเบิดอารมณ์ออกมา นั่นคือภาพที่กล้องทีวีชอบที่จะจับไว้ !

แต่ที่พวกท่านไม่เคยได้เห็นก็คือภาพการพบปะกันในบรรยากาศเชิงสร้างสรรค์ที่กำลังเป็นไปทั่วทั้งประเทศ ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าผู้คนเหล่านั้นพากันเห็นด้วยกับข้าพเจ้าในทุกประเด็นที่ข้าพเจ้าเสนอ แต่มันหมายถึงเรากำลังพยายามหาว่าเราจะแก้ปัญหาซึ่งเราต่างก็รู้ว่าไม่ยั่งยืนสำหรับระบบดูแลสุขภาพของเราได้อย่างไร?

และเมื่อวานนี้เอง เมื่อวานซึ่งข้าพเจ้าจัดการพบปะกับฝูงชนกลางใจเมือง Belgrade ใน Montana และเราได้พบกับฝูงชนที่น่าประทับใจ บางคนในนั้นเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของการปฏิรูป บ้างก็แสดงความกังวลและมีหลายคำถามที่ต้องการคำตอบ บางคนถึงกับเต็มไปด้วยความหวาดระแวง และข้าพเจ้าก็ได้รับคำถามที่ยากมากที่จะให้คำตอบอยู่หลายคำถามด้วยกัน

แต่แม้ว่าชาว Montana เหล่านั้นจะมีความเห็นที่แข็งกร้าว พวกเขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใส่กัน พวกเขาปรากฏตัวที่นั่นเพื่อรับฟัง และนั่นสะท้อนภาพของความเป็นอเมริกันและตัวตนของประชาธิปไตยอย่างที่เราเป็น ซึ่งนั่นมากกว่าเรื่องราวที่ปรากฏในจอทีวีในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ และนั่นก็คือที่มาซึ่งข้าพเจ้าอยากขอบคุณพวกท่านทั้งหลายที่มาแสดงตัว ณ.ที่นี้ ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือคัดค้านการปฏิรูประบบดูแลสุขภาพนี้ก็ตาม
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [21 ส.ค. 52 8:08] ( IP A:58.8.103.66 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   จังหวะนี้ข้าพเจ้าจะเริ่มการต้อนรับคำถามจากพวกท่านทั้งหลาย แต่ก่อนอื่นข้าพเจ้าเพียงอยากชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิรูประบบดูแลสุขภาพให้พวกท่านได้ทราบว่า มันหมายถึงอะไรบ้างสำหรับพวกท่าน ทั้งนี้เพราะได้เกิดความสับสน การเข้าใจผิดๆในหมู่พวกเราชาวอเมริกันในขณะนี้
ประเด็นแรกที่สุด สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังเสนอแก่พวกท่านก็คือ มาตรการปกป้องผู้บริโภคชุดหนึ่งที่กำหนดขึ้นตามสามัญสำนึกทั่วไปสำหรับผู้คนซึ่งมีประกันทางสุขภาพ คลุมอยู่แล้ว ซึ่งก็คือคนที่ถือกรมธรรม์ของบริษัทประกันของเอกชนอยู่ ข้าพเจ้าคาดหวังไว้ว่าหลังจากการปฏิรูปผ่านไปแล้ว ชาวอเมริกันกลุ่มใหญ่เกือบทั้งหมดยังคงได้รับประกันทางสุขภาพจากบริษัทประกันภัยเอกชน ดังนั้น เราจำต้องมีมาตรการปกป้องบางอย่างขึ้นมาเตรียมไว้สำหรับผู้คนอย่างคุณ Nathan และพวกเราทุกๆคนที่ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพอยู่ด้วย

ดังนั้น บริษัทประกันภัยทั้งหลายจะไม่สามารถจำกัดวงเงินอย่างไม่มีที่มาที่ไป ซึ่งต้องคลุมค่าใช้จ่ายที่คุณควรได้ในการเรียกชดเชยตามกรมธรรม์ หรือ ไม่สามารถเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากเบี้ยประกันของท่านสูงลิบเกินกว่าเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าพวกท่านได้อีกต่อไป ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคนอย่าง Nathan และภรรยาของเขา ทั้งนี้เพราะก่อนหน้านั้นลูกชายของเขาทั้งสองถูกตรวจพบว่าเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุดเมื่อแรกคลอด จากนั้นบริษัทประกันภัยได้เพิ่มค่าเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับครอบครัวของเขา และยังรวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมงานของเขาทั้งหมดซึ่งอยู่ในกรมธรรม์ฉบับเดียวกันด้วย (ไร้เหตุผล น่าจะตรวจสอบว่ามีเรื่องทำนองนี้เกิดกับกรมธรรม์ประกันสุขภาพในบ้านเราไหม? ผู้แปล) ทำให้วงเงินในการเรียกค่าชดเชยตามกรมธรรม์ของพวกเขากำลังขยับใกล้ขีดจำกัดเข้าไปเรื่อยๆ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [21 ส.ค. 52 8:11] ( IP A:58.8.103.66 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   และนอกจากความกังวลในการดูแลลูกชายของพวกเขา พวกเขายังวิตกเพิ่มขึ้นในการหาบริษัทประกันที่จะยอมรับการประกันสุขภาพของลูกชายอีกชั้นหนึ่ง รวมทั้งเงินก้อนอีกนับหลายๆพันดอลล่าร์นอกเหนือจากที่พวกเขามีในกระเป๋าที่ต้องเตรียมไว้สำหรับค่ารักษาในอนาคต Nathan กับภรรยาของเขาถึงกับคิดกันว่าอาจต้องหย่ากันเพื่อที่หล่อนอาจมีโอกาสพาลูกเข้ารับการรักษาตามโปรแกรม Medicaid

จังหวะนี้ต้องขอบคุณกฎหมายของรัฐ Colorado ที่ไม่อนุญาตให้การเว้นความรับผิดชอบในการเรียกค่าชดเชยตามกรมธรรม์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในความเจ็บป่วยที่มีอยู่ก่อนเช่นที่เกิดกับลูกชายของพวกเขาทำได้แบบถาวร ดังนั้นในที่สุดพวกเขาก็หาพบบริษัทประกันที่ยอมรับลูกชายเขา แต่พวกเขาก็กำลังจ่ายค่าเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังคงต้องเจอกับโอกาสสูงที่จะใช้วงเงินในการรักษาสูงเข้าใกล้ขีดจำกัดของกรมธรรม์ใหม่นั้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่เล่ามานั้นเป็นเรื่องราวที่ข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมาจากทั่วทุกมุมของประเทศนี้ ข้าพเจ้าได้ยังได้ยินเรื่องของวัยรุ่นคนหนึ่งใน Indiana ซึ่งถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด การบำบัดด้วยวิธีทางเคมีและในสภาวะฉุกเฉินซึ่งเขาได้รับมานั้นเป็นค่าใช้จ่ายนับหลายแสนเหรียญ ครอบครัวของเขานั้นใช้วงเงินการรักษาตามกรมธรรม์ที่กำหนดไว้สำหรับตลอดชีวิตนั้นหมดไปในระยะเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี พวกเขามีประกันทางสุขภาพ แต่บริษัทประกันกลับไม่ได้คลุมค่าใช้จ่ายสำหรับการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกไว้ และครอบครัวนั้นก็ไม่สามารถหาเงินที่จำเป็นในการรักษามาได้ พวกเขาจึงประกาศขอความช่วยเหลือจากสาธารณชน แต่เด็กนั้นก็เสียชีวิตก่อนที่เขาจะได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก

ถ้าพวกท่านคิดว่านั่นคงไม่เกิดขึ้นกับพวกท่านหรือครอบครัวของท่าน ก็ขอให้ทบทวนกันอีกครั้ง เพราะ เกือบ 90% ของกรมธรรม์การประกันสุขภาพได้จำกัดวงเงินชดเชยค่ารักษาชั่วชีวิตหนึ่งไว้แน่นอน และประมาณ 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันสุขภาพหมู่สำหรับครอบครัวในตลาดของการประกันสุขภาพส่วนบุคคลต่างล้วนกำหนดวงเงินนี้ไว้ที่ 3 ล้านเหรียญ และหากท่านหรือคู่ชีวิตหรือเด็กๆของท่านใช้วงเงินนี้จนถึงขีดจำกัด ทันที มันก็เหมือนกับว่าพวกท่านไม่ได้มีประกันทางสุขภาพอยู่เลย

และนี่ก็เป็นเพียงส่วนเดียวของเรื่องราวที่มากยิ่งกว่าของบรรดาชาวอเมริกันจำนวนมากที่กำลังจ่ายมากขึ้นและมากขึ้นเกินกว่าเงินออมที่มีในกระเป๋า ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาค่าเบี้ยประกันภัยได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวไปแล้วสำหรับครอบครัวชาวอเมริกันเฉลี่ยทั่วๆไป และยอดเงินค่าใช้จ่ายรวมส่วนที่เกินจากเงินออมที่พวกเขามีอยู่ได้เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 50% นั่นหมายถึงเงินกว่า 2000 เหรียญต่อคน และไม่มีใครเรียกร้องความรับผิดชอบจากบรรดาบริษัทประกันทั้งหลายต่อข้อปฏิบัติเช่นนี้ และอย่างไรก็ตามนายจ้างของพวกท่านยิ่งต้องจ่ายมากกว่านี้อีก และพวกท่านอาจไม่ได้รับรู้ถึงค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มเหล่านั้น นอกจากความจริงที่ว่าทำไมค่าแรง/ค่าจ้างของพวกท่านถึงไม่เพิ่มขึ้น?
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [21 ส.ค. 52 8:20] ( IP A:58.8.103.66 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   สิ่งที่สหรัฐแก้ไม่ได้ก็คือการผูกขาดของวงการแพทย์
โดยอ้างเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยมากีดกัน
ถ้าสหรัฐยอมให้ยาอินเดีย หรือหมอต่างชาติเข้าไปทำมาหากินได้
ทุกอย่างก็จะราคาถูกลง คนจนมีทางเลือก หมอสหรัฐจะคิดแพงไม่ได้ มีการแข่งขัน
วอลมาร์ทจะเปิดคลินิกในห้างยังถูกด่าเลย
สินค้าอะไรที่ราคาแพงขึ้นทุกวัน ไมเคิล อี พอร์ทเตอร์ บอกไว้นานแล้ว ว่าจะต้องมีการแอบผูกขาดไม่มีการแข่งขันเสรี ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยี่ดีขึ้น ราคาถูกลง
สมัยก่อนทีวี คนรวยเท่านั้นที่มีได้ ทีวีขาวดำ20 นิ้วราคา 15000 เท่ากับทอง 4 บาท (60000 สมัยนี้)
สมัยนี้ทีวีสีภาพชัด 21 นิ้ว 3000 บาท
แล็ปท็อป เฮ ง ซ วย สมัยก่อนเครื่องละ 140,000
เดี๋ยวนี้ 14000 ดีกว่าเป็นพันเท่า
การแพทย์กับรถยนต์ เหมือนกันเด๊ะเลย อ้างความปลอดภัย สเปค สุดท้ายแพงขึ้นทุกวัน
ทำได้ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่พวกหมอจะบ่น และพวกเอกชนจะบ่น
คุณภาพจะแย่ (เพราะไม่มีการแข่งขัน) เป็นสัจจะธรรม
แต่ยังดีกว่าทำมากได้มาก จนไปฆ่าคนไข้ด้วยการผ่าตัดหัวใจแบบนี้บ้านเราก็มี เจอมาหลายราย
เอาไปอ่านซ้ำอีกทีก็ได้ กรณีคลาสสิค
https://www.cbsnews.com/stories/2003/07/17/60minutes/main563755.shtml?CMP=ILC-SearchStories
โดย: พวกหมอชอบผูกขาด สบายดี [22 ส.ค. 52 9:43] ( IP A:58.11.71.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   สุนทรพจน์ของโอบาม่า (ต่อ)

ซึ่งก็เป็นเพราะส่วนทีเพิ่มนั้นถูกจ่ายเข้าสู่การประกันสุขภาพของพวกท่านแทน ที่จะเป็นเงินเดือนและรายได้ของพวกท่าน

ดังนั้นเรากำลังจะยกเลิกการกำหนดเพดานของการจ่ายค่าชดเชยประกันทางสุขภาพแบบอุปโลกน์กันขึ้นเหล่านั้น เราจะกำหนดขอบเขต ที่พวกท่านจะถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มนอกกระเป๋าของท่านเหล่านั้น และจะต้องไม่ใครก็ตามในอเมริกานี้ต้องหมดตัวเพียงเพราะเขาเกิดป่วยขึ้นมา(ผู้ฟังปรบมือ)

ทีนี้นอกจากนี้แล้วเรายังต้องห้ามบริษัทประกันภัยในการปฏิเสธความรับผิดชอบต่อพวกท่านจากเหตุที่พวกท่าน “ป่วย” หรือปฏิเสธการคุ้มครองตามกรมธรรม์อันเนื่องมาจากประวัติทางการแพทย์ในอดีตของท่าน (ผู้ฟังปรบมือ) และตรงนี้เช่นกันที่ หากท่านคิดว่าประเด็นเช่นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกท่านแต่ละคน ข้าพเจ้าก็ขอท่านคิดดูอีกครั้ง !

จากรายงานเมื่อเร็วๆนี้เราพบว่า ย้อนหลังไปเพียงไม่กี่ปีมีชาวอเมริกันมากว่า 12 ล้านคนถูกเลือกปฏิบัติจากบริษัทประกันภัยบนเหตุของสภาพของสุขภาพ “ที่มีอยู่ก่อนแล้ว” และหากเราทำการปฏิรูปการประกันสุขภาพแล้ววันเวลาของเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว ทั้งเราจะกำหนดให้บริษัทประกันภัยคลุมค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกายตามระยะเวลาเป็นประจำรวมทั้งบริการสุขภาพเชิงป้องกันอื่นๆด้วย เช่น การตรวจมะเร็งเต้านม (Mammogram) และการสแกนหามะเร็งลำไส้ ซึ่งนั่นจะประหยัดเงินค่ารักษาและชีวิตพวกเราได้ด้วย (ผู้ฟังปรบมือ)
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [25 ส.ค. 52 15:44] ( IP A:58.8.107.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ในขณะเดียวกันนี้ข้าพเจ้าก็อยากพวกท่านได้เข้าใจกันอย่างปราศจากข้อสงสัย ว่าเข้าได้พูดย้ำแล้วย้ำอีกกับที่จะพูดต่อไปนี้ซึ่งหลายๆคนก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะรับฟัง ว่าหากท่านพึงใจกับการประกันสุขภาพของท่านที่มีอยู่แล้วท่านก็เก็บมันไว้ด้วย จะไม่มีใครบีบบังคับให้ท่านทิ้งมันไปได้ และถ้าท่านชอบพอกับหมอของท่านที่มีอยู่แล้วท่านก็ยังคงหาหมอคนเดิมของท่านไป ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ขั้นตอนปฏิบัติทางราชการเข้าไปยุ่มย่ามกับแผนประกันสุขภาพของท่าน แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าพเจ้าก็ ไม่ต้องการให้ขั้นตอนปฏิบัติของบริษัทประกันภัยเข้าไปยุ่มย่ามในบริการทางสุขภาพของท่านด้วยเช่นกัน( ผู้ฟังปรบมือ)

ดังนั้นขอให้เราคิดเพียงว่า มันคล้ายกับเราเพียงกำลังปะยางที่รั่วอยู่ หากท่านเป็นหนึ่งในประชากร 46 ล้านคนซึ่งยังไม่ได้มีประกันทางสุขภาพอยู่ พวกท่านก็จะได้ตัวเลือกในการได้รับประกันทางสุขภาพที่มีคุณภาพและสามารถแบกรับได้เอง และถ้าหากท่านมีอยู่แล้วเราจะช่วยทำให้ประกันสุขภาพของท่านเบาภาระขึ้นและมั่นคงมากขึ้น

ภายใต้ข้อเสนอตามแผนการปฏิรูปซึ่งเราได้วางไว้แล้วนั้นประมาณว่า จะมีชาว Colorado ราว 700,000 คนของชนชั้นกลางที่จะได้รับเครดิตทางภาษีสำหรับประกันทางสุขภาพ และมากกว่า 1 ล้านคนที่จะได้ช่องทางเข้าถึงตลาดซื้อ-ขายใหม่ ที่ซึ่งพวกท่านสามารถเปรียบเทียบได้ง่ายๆ และธุรกิจขนาดเล็กใน Colorado ราว 87,000 แห่งก็จะได้รับความช่วยเหลือจากผลประโยชน์ทางภาษีแบบใหม่นี้ ดังนั้นเมื่อพวกเขาผู้ประกอบการในธุรกิจเหล่านั้นทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับลูกจ้างของเขา พวกเขาก็จะไม่ถูกลงโทษสำหรับสิ่งนั้น และเราจะทำบรรดาเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดโดยไม่ไปเพิ่มการขาดดุลงบประมาณในช่วงสิบปีข้างหน้าจากนี้ไป ทั้งนี้ ก็โดยการที่ส่วนใหญ่ของเงินจะมากจากการลดทอนการสูญเปล่าและยกเลิกบรรดาข้อตกลงพิเศษที่หอมหวานสำหรับบริษัทประกันภัย แต่ไม่ได้ทำให้ใครคนใดก็ตามมีสุขภาพที่ดีขึ้นเลย(ผู้ฟังปรบมือ)

ทีนี้ ณ. ที่นี้หากท่านไม่... ข้าพเจ้าทราบว่ายังมีความหวาดระแวงปะปนอยู่ในความนึกคิดของบางท่าน เอาล่ะ ปัญหาคือเราจะประหยัดเงินในระบบดูแลสุขภาพได้อย่างไร? และข้าพเจ้าก็ขอบอกว่า “ก็ที่นี่ไงใน Grand Junction นี้เลย” พวกท่านรู้ไหม? รู้ไหมว่าเราอาจลดค่าใช้จ่ายลงได้หากเพียงแต่เราวางเงื่อนไขจูงใจที่แยบยลลงในระบบ และหากท่านเพียงคำนึงถึงว่า เราควรทำยังไงกับการบำบัดรักษาตัวคนโดยองค์รวม ไม่ใช่เฉพาะที่อาการเจ็บป่วยเท่านั้น และหากเราจะมองไปที่ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับตัวโรงพยาบาลหนึ่งหรือหมอคนหนึ่ง แต่มองคลุมที่ปัญหาในมุมกว้างทั้งระบบซึ่งมีร่วมกันอยู่

และนั่นคือความเป็นไปทั้งหมดของชุมชนทางการแพทย์ในเมืองนี้ที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้พวกท่านกำลังเสพผลลัพธ์ที่ดีกว่าขณะที่เสียเงินน้อยกว่า และข้าพเจ้ายังรู้ว่าวุฒิสมาชิก Michael Bennet ของพวกท่านกำลังทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างหนักเพื่อร่างกฎหมายที่จะเป็นรากฐานในการวางนวัตกรรมซึ่งมีอยู่แล้วใน Grand Junction นี้ให้กลายเป็นแนวปฏิบัติที่เป็นจริงไปทั่วทั้งระบบ และข้าพเจ้ามองไม่เห็นเหตุผลใดเลยที่เราจะทำเรื่องนี้ไม่ได้ (ผู้ฟังปรบมือ)

ดังนั้นความจริงก็คือ เรากำลังเข้าใกล้การบรรลุการปฏิรูปมากยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา เราได้การสนับสนุนจากสมาคมพยาบาลอเมริกัน เราได้การสนับสนุนจากสมาคมแพทย์อเมริกันอยู่ในมือ ซึ่งก็เพราะทั้งบรรดาหมอและพยาบาลของประเทศนี้ต่างรู้ว่าเราจำเป็นมากแค่ไหนที่จะต้องมีการปฏิรูปนี้(ผู้ฟังปรบมือ) เรามีข้อตกลงกว้างๆในสภาคองเกรสสำหรับราวๆ 80%ของเรื่องที่เราต้องการไปให้ถึงสำหรับการปฏิรูปนี้ เรามีข้อตกลงกับบริษัทยาที่จะทำให้ยาจากใบสั่งของแพทย์มีราคาที่ผู้สูงวัยสามารถแบกรับไว้ได้ ซึ่งก็คือราวๆ 80,000 ล้านเหรียญที่สามารถตัดไปได้ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของวงค่ายาตามใบสั่งที่เคยใช้กัน(ผู้ฟังปรบมือ) ทั้ง AARP ก็ให้การสนับสนุนนโยบายนี้และตกลงกับเราว่าการปฏิรูปจะต้องเกิดขึ้นในปีนี้

ดังนั้นความจริงก็คือ เรากำลังเข้าใกล้การบรรลุการปฏิรูปมากยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา เราได้การสนับสนุนจากสมาคมพยาบาลอเมริกัน เราได้การสนับสนุนจากสมาคมแพทย์อเมริกันอยู่ในมือ ซึ่งก็เพราะทั้งบรรดาหมอและพยาบาลของประเทศนี้ต่างรู้ว่าเราจำเป็นมากแค่ไหนที่จะต้องมีการปฏิรูปนี้(ผู้ฟังปรบมือ) เรามีข้อตกลงกว้างๆในสภาคองเกรสสำหรับราวๆ 80%ของเรื่องที่เราต้องการไปให้ถึงสำหรับการปฏิรูปนี้ เรามีข้อตกลงกับบริษัทยาที่จะทำให้ยาจากใบสั่งของแพทย์มีราคาที่ผู้สูงวัยสามารถแบกรับไว้ได้ ซึ่งก็คือราวๆ 80,000 ล้านเหรียญที่สามารถตัดไปได้ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของวงค่ายาตามใบสั่งที่เคยใช้กัน(ผู้ฟังปรบมือ) ทั้ง AARP ก็ให้การสนับสนุนนโยบายนี้และตกลงกับเราว่าการปฏิรูปจะต้องเกิดขึ้นในปีนี้

แต่ยังก่อน! เพราะว่าตอนนี้เราคืบใกล้ความสำเร็จมากแล้วและการต่อสู้กันก็ทวีความเข้มข้นมาก แล้วประวัติศาสตร์ก็เป็นที่เห็นชัด ซึ่งทุกๆครั้งที่การปฏิรูปใดก็ตามใกล้เข้ามาในระยะสายตา กลุ่มที่เสียผลประโยชน์พิเศษซึ่งพัวพันอยู่ด้วยก็จะโต้กลับมาด้วยอาวุธทุกชนิดที่พวกเขามี พวกเขาจะใช้อิทธิพลที่พวกเขามี จะทุ่มโฆษณาของพวกเขา และด้วยเหตุนี้ขอให้พวกเราหันหน้าสู้ พวกเขาปั่นให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว และเป็นที่เข้าใจได้สำหรับข้าพเจ้าว่าทำไมผู้คนถึงได้รู้สึกอ่อนไหวตาม การประกันสุขภาพย่อมเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของพวกเราทุกๆคน ซึ่งที่จริงแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่อเมริกาทั้งประเทศตั้งมั่นที่จะแก้บรรดาปัญหาที่หนักหน่วงของเรา ก็มักจะปรากฏกลุ่มคนผู้ซึ่งพยายามที่จะรักษาสถานะของตัวเองโดยการปั่นกระแสความหวาดกลัว ขึ้นในหมู่พวกเราชาวอเมริกันด้วยกัน

และนั่นคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อแฟรงคลิน ดี รูสเวลท์ พยายามที่จะผ่านร่างกฎหมายประกันสังคม และผู้คนเหล่านั้นก็เคยกล่าวหาว่านั่นมันระบบสังคมนิยม และเน้นเช่นนั้นทุกๆคำ พวกเขาเคยอ้างว่า นั่นจะหมายถึงชาวอเมริกันทุกๆคนจะต้องห้อยคอด้วยแถบชื่อ และนั่นจะเป็นแผนสำหรับรัฐบาลในการติดตามประชาชนทุกๆคนในทุกฝีก้าว และเมื่อ จอห์น เอฟ เคเนดี้ และต่อมาด้วย ลินดอน บี จอห์นสันพยายามผ่านร่างกฎหมาย Medicare พวกนั้นก็กล่าวหาเช่นกันว่านี่หมายถึงรับบาลจะเข้าครอบครองกิจการดูแลสุขภาพทั้งหมด พวกเขาเหล่านั้นกำลังพยายามแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างพวกท่านกับคุณหมอของพวกท่าน ข้ออ้างเดียวกันกับที่พวกเขากำลังทำอยู่ในเวลานี้
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [25 ส.ค. 52 15:52] ( IP A:58.8.107.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   การต่อต้าน/ขัดขวางต่างๆเหล่านี้มักจะขมวดตัวเข้าจนกลายเป็นการประชันกันระหว่างสองประเด็นคือ ความหวังและความกลัว ซึ่งมันเป็นความจริงเมื่อขณะที่กฎหมายประกันสังคมคลอดออกมา และมันก็เป็นความจริงอีกด้วยเมื่อโปรแกรม Medicare ถูกก่อร่างขึ้น แล้วมันก็จริงอีกด้วยในวันนี้ท่ามกลางการโต้แย้งกันอย่างเผ็ดร้อน (ผู้ฟังปรบมือ)

แต่ไม่ว่าพวกท่านจะมีประกันทางสุขภาพอยู่หรือไม่ก็ตามพวกเราทั้งหมดต่างรับรู้กันว่าเราไม่สามารถปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ค่าใช้จ่ายด้านนี้กำลังพุ่งขึ้นเร็วกว่าค่าจ้างแรงงานที่เราได้รับกัน และการตัดค่าใช้จ่ายก็เป็น “ระบบซึ่งทำงานได้ดีกว่ามากๆสำหรับบริษัทประกันเมื่อเทียบกับที่ทำกับบรรดาครอบครัวชาวอเมริกันทั้งหลาย” และเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดในระบบดูแลสุขภาพของเราให้กับพวกท่านที่จะเก็บมันไว้ได้ถ้าท่านพอใจกับมันอยู่แล้ว นั่นก็คือ ระบบนี้ “จำต้องมีการเปลี่ยนแปลง”

ทั้งนี้เราจำเป็นต้องคงไว้ซึ่งสิ่งที่ดีอยู่แล้วสำหรับระบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหมอ, พยาบาล, และบรรดาคนไข้ของพวกเขา ขณะที่ก็ต้องแก้ไขสิ่งที่เสียหายต่อระบบ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า สำหรับบรรดากลยุทธ์ทั้งหลายข้างนอกนั้นที่กำลังปั่นกระแสของความหวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในหมู่พวกเรา สิ่งที่กลับน่ากลัวอย่างแท้จริงก็คือ หากเราไม่ทำอะไรเลยต่างหาก นั่นแหล่ะที่น่ากลัว !!

นั่นก็คือเราจะเห็นชาวอเมริกันราว 14,000 ครอบครัวถูกยกเลิกกรมธรรม์ประกันสุขภาพทุกๆวัน ขณะที่ค่าเบี้ยประกันก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับจรวด และพุ่งสูงขึ้นเร็วเป็นสามเท่าของค่าจ้างแรงงานของพวกท่าน ทั้งการขาดดุลงบประมาณก็จะเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก เนื่องจากส่วนใหญ่ของการขาดดุลนั้นก็คือค่าใช้จ่ายของโปรแกรม Medicare และ Medicaid บัญชีรายรับ/รายจ่ายของ Medicare จะวิ่งเป็นตัวแดงภายในระยะเวลาน้อยกว่า 10 ปีข้างหน้า และบริษัทประกันภัยก็จะทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องกันไปโดยการเลือกปฏิบัติกับบรรดาผู้เอาประกันเพียงเพราะ “สภาพการเจ็บป่วยที่มีอยู่”

ดังนั้นหากพวกท่านต้องการอนาคตที่แตกต่างจากนี้ อนาคตที่สดใส ข้าพเจ้าก็ต้องได้รับความช่วยเหลือจากพวกท่าน ข้าพเจ้าจำต้องให้พวกท่านยืนหยัดกับความหวัง จำต้องให้พวกท่านบอกกล่าวออกไปปากต่อปาก จำต้องให้พวกท่านแจ้งข่าวออกไปให้โลกรู้ ทั้งนี้เพราะว่าเรากำลังจะทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในปีนี้ ขอขอบคุณชาว Grand Junction ทั้งหลาย ขอบคุณ (ผู้ฟังปรบมือ)

ขอบคุณ ขอบคุณ เอาล่ะ ทีนี้ ข้าพเจ้ายังมีเวลาพอสำหรับตอบคำถามจำนวนหนึ่ง และเราก็มีผู้คนจำนวนหนึ่งด้วยในที่ชุมนุมนี้ซึ่งมีไมโครโฟนอยู่ คุณคนนั้นน่ะ โปรดถือไมโครโฟนไว้ เอาล่ะ ทีนี้ ข้าพเจ้าจะตอบคำถามพวกท่านด้วยวิธีนี้นะ คือข้าพเจ้าจะเดินไปรอบๆห้องประชุมนี้ ยกมือของคุณขึ้นนะ ทุกๆคนที่ต้องการป้อนคำถาม แล้วก็เพื่อให้ยุติธรรม ข้าพเจ้าจะเลือกตอบคำถามจากคุณผู้หญิง แล้วก็คุณผู้ชายสลับกันเรื่อยไป
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [25 ส.ค. 52 16:01] ( IP A:58.8.107.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ขออนุญาตแนะนำเว็บไซต์ด้วยครับ

เว็บ https://www.insure108.com รวมความรู้ประกันภัยรถยนต์ , ตัวอย่าง ถาม-ตอบปัญหาประกันต่างๆ และการแก้ปัญหาเมื่อประสบเหตุจริง , หมดปัญหาทำประกันภัยรถยนต์ การดูแลรถ และเนื้อหาอื่นๆ ผมจะเพิ่มเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เรื่อยๆ ครับ
โดย: sure [23 เม.ย. 54 15:45] ( IP A:49.49.86.86 X: )
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ : .wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน