ดอกรักตาเห็นแล้ว 1 ข้าง
   **“ดอกรัก” มองเห็นแล้ว! ตาซ้าย 1 ข้าง หมอราชวิถีใช้กระจกตาเทียมประกบรากฟัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2552 17:51 น.



นางดอกรัก เพ็ชรประเสริฐ (ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต)


“ดอกรัก” มองเห็นแล้ว ตาซ้าย 1 ข้าง ดีใจสุดๆ แพทย์ราชวิถีใช้วิธีการใช้กระจกตาเทียมด้วยวิธีใช้รากฟันฝังเลนส์เทียมแทนประสาทตาสำเร็จ พรุ่งนี้กลับบ้านได้ ก่อนพาไปตรวจวัดสายตา-ตัดแว่น แต่ต้องติดตามอาการต่อ 2-3 เดือน

นพ.อภิวัฒน์ โพธิกำจร ภาควิชาจักษุวิทยา โรงพยาบาลราชวิถี แพทย์เจ้าของไข้ นางดอกรัก เพ็ชรประเสริฐ ซึ่งตาบอดทั้งสองข้างด้วยโรคสตีเวน จอห์นสัน ซินโดรม เนื่องจากการแพ้ยา กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปี 2552 ได้ทำการรักษา นางดอกรัก ด้วยวิธีการใช้กระจกตาเทียมที่ประกบกับรากฟัน (Tooth-in-eye operation) หรือทางการแพทย์เรียกว่า Osteo-odonto keratoprosthesis ( OOKP) ซึ่งเป็นการใช้กระจกตาเทียมด้วยวิธีใช้รากฟันฝังเลนส์เทียมแทนประสาทตา วิธีดังกล่าวถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยกระจกตาระยะสุดท้าย ซึ่งโรงพยาบาลราชวิถีได้เริ่มแนวคิดที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีการใช้เทคนิคที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ในการรักษา สำหรับในกรณีของนางดอกรัก ถือเป็นรายที่ 9 ที่การผ่าตัดประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

นพ.อภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเทคนิควิธีการนี้ จะนำกระจกตาเทียมไปปลูกตรงรากฟัน โดยต้องตัดรากฟันและกระดูกกรามออกมา จากนั้นเอาตัวฟันออก แล้วเอากระจกตาเทียมฝังลงไปตรงรากฟันที่จะใช้ จากนั้นเอาชิ้นรากฟันฝังไปใต้ผิวหนังบริเวณแก้มประมาณ 3-6 เดือน ก่อนผ่าตัดออกมา ซึ่งในรายของดอกรัก ต้องใช้รากฟันของลูกชาย เพราะผลกระทบจากการแพ้ยาทำให้ฟันและเล็บของนางดอกรัก หลอและหลุดออกหมดไม่สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งเนื้อเยื่อของลูกชายและนางดอกรักสามารถเข้ากันได้ไม่การการต่อต้าน จนถึงปัจจุบันยังไม่พบว่า มีปัญหาแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเป็นการปลูกถ่ายเนื้อเยื้อจากบุคคลอื่น ดังนั้น อนาคตอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงต้องมีการตรวจเช็คทุกปี ซึ่งโดยทั่วไปเทคนิคดังกล่าวสามารถใช้ได้ 20-30 ปี

“ภายในอีก 1-2 วันนี้ แพทย์จะอนุญาตให้นางดอกรัก สามารถกลับไปรักษาตัวพักฟื้นที่บ้านได้ โดยต้องตรวจดูว่ามีอาการแทรกซ้อนของปอดหรือไม่ รวมถึงอาการอักเสบและเลือดที่อาจหยดมาบังตาได้ โดยเฉพาะในสตรีเลือดสามารถออกได้ง่ายกว่าผู้ชาย อย่างไรก็ตามไม่สามารถยืนยันได้ว่าตาของนางดอกรักใช้ได้ เพราะยังไม่ผ่านการตรวจสอบการใช้งานของดวงตา เพียงแต่เป็นคำบอกกล่าวของนางดอกรักเอง ส่วนสาเหตุที่ยังไม่มีการตรวจสอบข้างนอกเพราะเกรงว่าจะเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ ต้องรอให้นางดอกรักฟื้นตัวแข็งแรงดีก่อน โดยแพทย์จะต้องติดตามอาการต่อเนื่องอีก 2-3 เดือน ซึ่งต่อจากนี้จะต้องทำการตรวจวัดสายตาและตัดแว่น” นพ.อภิวัฒน์ กล่าว

นพ.อภิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ โชคไม่ดีที่นางดอกรัก มีข้อจำกัดด้านสุขภาพร่างกายหลายอย่างทั้งปอดบวมและเป็นโรคหอบหืด ทำให้ไม่สามารถเริ่มต้นรักษาได้ตั้งแต่ 3 ปี ที่แล้ว จึงต้องรอให้ปอดได้พักฟื้น การทำงานของปอดดีขึ้น สามารถทนต่อการผ่าตัดใหญ่ได้ด้วยการดมยาสลบ ซึ่งการผ่าตัดไม่มีปัญหาอะไร และได้แจ้งกับนางดอกรักก่อนการผ่าตัดว่า ความคาดหวัง 80% เท่านั้น ซึ่งผลที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ส่วนค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากเป็นผู้ป่วยที่ใช้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจึงไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ขณะนี้ค่ารักษาในลักษณะดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 4 แสนบาท

ด้านนางดอกรัก กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่สามารถมองเห็นได้อีกครั้งหนึ่ง แม้จะมองเห็นได้เพียงข้างเดียว คือ ตาข้างซ้ายแต่ก็เหมือนได้ชีวิตใหม่ เพราะสามารถที่จะมองเห็นเม็ดข้าวและทานข้าวได้เอง ตนอยากให้กำลังใจคุณหมอที่ช่วยทำการรักษาแลดูแลมาตั้งแต่ต้น ซึ่งตนเอง ตาบอดทั้งสองข้างด้วยโรคสตีเวน จอห์นสัน ซินโดรม เนื่องจากการแพ้ยา ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งไม่คิดว่าจะสามารถมองเห็นแล้ว ส่วนลูกชายก็ภูมิใจมากที่ได้เสียสละฟันให้แม่ 1 ซี่ เพื่อมารักษาตา โดยคุณหมดผ่าตัดตาให้เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ประมาณ วันที่ 17 พฤศจิกายน ก็สามารถมองเห็นได้
โดย: เมเนเจอร์ [2 ธ.ค. 52 21:27] ( IP A:58.8.209.29 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   จะได้กลับมาฟ้องหมอถนัดๆหน่อย
โดย: ดีใจด้วย [2 ธ.ค. 52 22:08] ( IP A:125.26.112.135 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ดีใจกับพี่ดอกรัก
ได้มองเห็นเสียที

อย่าไปสนใจเสียงเห่าหอน
โดย: ดีใจด้วย [2 ธ.ค. 52 23:43] ( IP A:58.9.195.23 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ขอบคุณคุณหมอน้ำใจงามทุกท่าน ที่ได้กรุณาช่วยเหลือพี่ดอกรักมาตลอด ซึ่งหาได้ยากยิ่งในแพทยสภาไม่มี
โดย: เจ้าบ้าน [3 ธ.ค. 52 13:08] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   แพทย์ไทย เจ๋งได้อีก ใช้เทคนิคพิเศษ นำกระจกตาเทียมไปปลูกตรงรากฟัน โดยต้องตัดรากฟันและกระดูกกรามออกมา จากนั้นเอาตัวฟันออก แล้วเอากระจกตาเทียมฝังลงไปตรงรากฟันที่จะใช้ จากนั้นเอาชิ้นรากฟันฝังไปใต้ผิวหนังบริเวณแก้มประมาณ 3-6 เดือน ก่อนผ่าตัดออกมา ซึ่งในรายของดอกรัก ต้องใช้รากฟันของลูกชาย

ถือเป็นการผ่าตัดโดยใช้ชิ้นส่วนของคนอื่นเป็นรายแรกของประเทศไทย
โดย: เก่งมาก [3 ธ.ค. 52 18:04] ( IP A:113.53.102.135 X: )
คลิก เพื่อเปลี่ยนกลับไปแสดงความคิดเห็นแบบเดิม

ชื่อไฟล์รูปห้ามมีอักขระพิเศษ เช่น (#),(<),(>),(&) เป็นต้นค่ะ
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน