วิธีสร้างภาพให้ดูดี
   อย่างแรก ต้องกำจัด

" พวกหากิน บนความทุกข์ยากของ เพื่อนร่วมวิชาชีพ"

คอยแต่จะสร้างภาพ

ชงข้อมูล ให้ ชมรม ฟ้องแพทย์

ฟ้อง เพื่อนแพทย์ ด้วยกันเอง


เพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี
https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1261068787
โดย: ไอ้ ห ลองมาสร้างบ้างซิ [19 ธ.ค. 52 2:57] ( IP A:58.8.1.190 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ตัว ห ตัวเดียว บอกจิตใจคนได้เยอะ เพราะว่ามันย่อมาจากคำว่า
ไอ้ ห่ า
ไอ้ หอย
ไอ้ หำ
ไอ้ เหี้ ย
ไอ้ หอก
ใจคุณเป็นแบบไหน ก็เลือกใส่ได้ตามสะดวก
โดย: ฟฟ [19 ธ.ค. 52 3:00] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1261127513

"อาจ" เป็นเหตุผลหนึ่งที่ไปเข้ากับงูเห่า

เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนฟ้องเสียเอง

คนที่เขากลัวฟ้องเขาจะไม่ยุ่งกับคดี เพื่อว่าตัวเองจะได้ไม่โดน
คนที่ยุ่งกับคดี เขาไม่กลัวโดน
ผมหวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันในศาล แต่บอกตรงๆ ผมเจอมาทุกโรงเรียนแพทย์ อย่าให้ด่าเลย
โดย: ห เอ้ย [19 ธ.ค. 52 3:03] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   เยินมาก

ไปครูพักลักจำ แล้วมาลองกับคนไข้เลย

อันนี้ถือว่าดูถูกกันมาก คนรู้จักผมจะรู้ดีว่า ฝีมือผ่าตัดผมไร้เทียมทาน
โดย: ปากเสีย [19 ธ.ค. 52 3:11] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   https://www.ra2.mahidol.ac.th/faculty/thai/webboard/answer.php?ids=7654
ว่างๆแน่จริงมาช่วยกันสร้างภาพกันหน่อย
ผมเจอแต่พวกผู้เสียหายที่มีญาติเป็นหมอ เวลามีเรื่องอธิบายได้ถูกต้องว่าหมอผิดยังไง แต่อุบาทว์มากเลยไม่กล้ามาศาลเป็นพยาน คงไม่อยากสร้างภาพ
โดยหลักกฎหมายแล้ว การมาเป็นพยานศาล ถือว่ามาตามคำสั่งศาล ถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ทำความดีต่อหน้าศาล (หากพูดความจริง) การไม่กล้ามาถือได้ว่าอุบาทว์มาก บางคนต้องขอหมายจับจับหมอมาขึ้นศาล
แต่ถ้ามาอยู่ในคอกพยานแล้วพูดโกหก อันนี้อุบาวท์ที่สุด นรกรออยู่ไม่ต้องห่วง ตายไปหนีไม่พ้นหรอก
โดย: แน่จริงมาสร้างภาพได้เลย คดีมีเยอะ [19 ธ.ค. 52 3:16] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   เรียนท่านคณะบดี
กรณีข่าวดังที่แพทย์สองท่านอาสาจะช่วยชีวิตผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน แต่เกิดผิดพลาดในเรื่องการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายนั้น ในทัศนะของผมคิดว่าความผิดไม่น่าจะถึงกับจำคุก แต่มีแพทย์ศิษย์เก่าของรามาธิบดีท่านหนึ่งช่วยเป็นพยานฝ่ายโจทย์ จึงทำให้ผลออกมาเป็นเช่นนี้
แพทย์ผู้นี้จบแพทยศาสตร์บัณฑิตย์ที่รพ.รามาธิบดี ศึกษาต่อด้านศัลยกรรมความงามจากประเทสฟิลิปปินส์ กลับมาเปิดคลินิคเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ ต่อมาเกิดปัญหาทำผิดจริยธรรมทางการแพทย์หลายครั้ง ทำให้ถูกแพทยสภาเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์ หลังจากนั้นไปศึกษาต่อทางด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กลับมารับจ้างฟ้องแพทย์โดยเฉพาะ คดีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จเช่น คดีตาบอดจากสตีเวนจอนสัน คดีผู้ป่วยเสียชีวิตจากการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง ปัจจุบันสมัครลงเลือกตั้งในสังกัดพรรคการเมืองหนึ่ง นับเป็นความอัปปยศต่อเพื่อนแพทย์รามารุ่นเดียวกันเป็นอย่างยิ่ง
ผมคิดว่าหากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปสังคมแพทย์จะต้อง "ล่มสลาย"เป็นแน่ เพราะจะมีคดีตัวอย่างแบบนี้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคดีต่อไป คดีที่แพทย์ไม่ได้ผิดก็อาจผิดได้ หรือผิดแต่กระทำด้วยเจตนาบริสุทธ์ก็อาจถูกจำคุกได้ แพทย์ไม่อาจประกอบวิชาชีพได้ด้วยเจตนาบริสุทธ์เหมือนอดีต จะมีแต่ความระแวงเรื่องการฟ้องร้อง แพทย์โรงพยาบาลชุมชนจะปัดความรับผิดชอบในการรักษาโดยการส่งต่อเข้าสู่โรงพยาบาลส่วนกลางหมด ระบบสาธารณสุขจะได้รับความเสียหายอย่างมาก
ทางป้องกันหนึ่งที่ผมคิดได้ คือการ "เพิกถอนปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตคืน"ด้วยเหตุผล ใช้ความรู้ทางการแพทย์ที่ได้เรียนมาไปในทางที่ผิดอย่างร้ายแรง" ด้วยวิธีนี้จะทำให้แพทย์ผู้นี้อ้างตัวเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญพิเศษไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนายแพทย์ น้ำหนักในการให้การในศาลย่อมลดลง
หากท่านคณะบดีมีทางออกอื่นที่ดีกว่านี้ที่จะป้องกันไม่ให้แพทย์ผู้นี้ประกอบอาชีพรับจ้างฟ้องแพทย์ต่อไป กรุณาตอบในกระทู้นี้ด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเสียงเรียกร้องนี้จะไม่ถูกเพิกเฉย และกระทู้นี้จะไม่ถูกลบ

ขอแสดงความนับถือ
ศิษย์เก่ารามา
ทำเขาตายปีละหลายหมื่น ฟ้องไม่กี่สิบคดีทำเป็นบ่น

https://www.usatoday.com/news/health/2004-10-27-who-mistakes_x.htm
โดย: ฟฟ [19 ธ.ค. 52 3:23] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   Citing statistics that one in 10 hospital patients are victims of preventable medical mistakes,
ไส้ติ่งร่อนพิบูลย์ ตาบอดนครสวรรค์ ฯลฯ
คงไม่ใช่ตามที่ฝรั่งว่า
โดย: ฟฟ [19 ธ.ค. 52 3:28] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
    ทางป้องกันหนึ่งที่ผมคิดได้ คือการ "เพิกถอนปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตคืน"ด้วยเหตุผล ใช้ความรู้ทางการแพทย์ที่ได้เรียนมาไปในทางที่ผิดอย่างร้ายแรง" ด้วยวิธีนี้จะทำให้แพทย์ผู้นี้อ้างตัวเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญพิเศษไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนายแพทย์ น้ำหนักในการให้การในศาลย่อมลดลง
คิดแบบนี้ ถ้าไม่ดูถูกศาล ก็คงกลัวไอ้งูเห่าตัวนี้มาก
ศาลเขาไม่ได้ดูหน้าตาการศึกษา เขาดูเหตุดูผล
คดีแรกที่ผมไปเป็นพยาน อีกฝ่ายเป็นศาสตราจารย์จากศิริราช
คดีนี้ผู้เชี่ยวชาญทำนมจนเละเทะ
ศาลเขาไม่เชื่อหรอก ศาสตราจารย์ เพราะมันฟังไม่ได้ ศาลท่านพิพากษาว่า ความเสียหายเห็นชัดเป็นที่ประจักษ์ (แปลว่าศาลเห็นเองได้ รู้เองได้ตามประสาชาวบ้าน) ประกอบกับนายแพทย์ ท ให้ความเห็นว่า หัวนมสูงข้างต่ำข้าง และขนาดหัวนมไม่เท่ากัน.........
ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมตกแต่งแพทยสภา ก็เลยต้องจ่ายเงิน
ต่อมาผู้เชี่ยวชาญคนนี้ทำญาติหมอหน้าตาเละเทะอีก ทนายหมอคนี้เสือกไปยียวนกวนโทโสปรมาจารย์ทางศัลยกรรมตกแต่งที่มาเป็นพยานศาลให้ญาติ ก็เลยโดนซะ ท่านไม่อยากมาหรอก มาก็เบิกความนิดหน่อย เสือกไปกวนทีนท่านเลยโดนซะ (ญาติเขาเล่าให้ฟัง)
ปรมาจารย์คนนี้ผมรู้จักดี ฝีมือกับฝีปาก ผมเองต้องขอคารวะ
แต่คำฟ้องคดีผมเป็นคนร่างให้ ได้ข่าวว่า ศาลให้จ่าย 1.5 ล้าน ถ้าจำไม่ผิด
โดย: คิดผิดคิดใหม่ได้ [19 ธ.ค. 52 3:37] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
    ทางป้องกันหนึ่งที่ผมคิดได้ คือการ "เพิกถอนปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตคืน"ด้วยเหตุผล ใช้ความรู้ทางการแพทย์ที่ได้เรียนมาไปในทางที่ผิดอย่างร้ายแรง" ด้วยวิธีนี้จะทำให้แพทย์ผู้นี้อ้างตัวเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญพิเศษไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนายแพทย์ น้ำหนักในการให้การในศาลย่อมลดลง
อันนี้ต้องใช้กับบรรดาศาสตราจารย์ที่ชอบเบิกความเท็จในศาล
แต่ไม่ต้องถอนหรอก วันหนึ่ง คนไข้เขาจะฟ้องเอง เบิกความเท็จระวังติดคุก อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะครับ อาจารย์
โดย: บ่อยนักไม่ดีแน่ [19 ธ.ค. 52 3:41] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ผมไปลาออกแล้ว จากศิษย์เก่า ตอนมีเรื่องตัดไข่
ผมให้เหตุผลว่าหากผมผิดคดีตัดไข่จะได้ไม่เสียชื่อท่าน
และหากผมไม่ผิด ผมก็รับท่านไม่ได้ที่มาด่าผมว่าเป็นศิษย์นอกแถว (ผมเป็นศิษย์หัวแถว ผมรับคำว่านอกแถวไม่ได้ก็เลยลาออก)เรียกว่าดีทั้งสองฝ่าย เวลาจะพิสูจน์
ครั้งหนึ่งผมกับเพื่อนในกรุ๊ป ไปเรียนที่โรงพยาบาลบ้านสมเด็จ อาจารย์เขาขออาสาสมัครทำไอคิวเทสต์ เพื่อนผม นศพ ธ.ที่คะแนนดีที่สุดในกลุ่มยกมือสมัคร (มันเป็นคน extrovert) ส่วนผมเพื่อนถีบเข้าไปแข่ง เพราะไม่มีคนอยากลองกับ นศพ ธ เสียชื่อเปล่าๆ ไอคิวออกมาแพ้มัน ทั้งคู่ทำจนเหลือข้อสุดท้ายทำไม่ได้ทั้งคู่ อาจาย์เขาเลยเยาะเย้ยว่า ทำไม่ได้หรอกข้อนี้ ฉันทดสอบรามามา 7 รุ่น 400 กว่าคน ทำไม่ได้สักคน ผมก็เลยก้มหน้าไปทำใหม่ วางปากกาก็หมดเวลาพอดี คงไม่ต้องบอกนะว่า ใครเป็นคนทุบสถิติ
โดย: หัวแถวครับ ไม่ใช่นอกแถว [19 ธ.ค. 52 3:50] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ผมเคยไปเป็นพยานศาลที่ต่างจังหวัด โดนอีกฝ่ายทั้งซักทั้งถลุง เอาหนังสือแพทยสภาไปอ้างด้วยว่า แพทย์รักษาได้มาตรฐานดีแล้ว แพทยสภาประกอบด้วยแพทย์ผู้หลักผู้ใหญ่ 30 กว่าท่าน ผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น แต่ทำไมแกหมอกระจอกเสือกบอกว่าข้ารักษาไม่ดี ผมก็อธิบายให้ฟัง เถียงกันหน้าดำหน้าแดง เพราะคดีนี้หมอที่ถูกฟ้องยกมือขอศาลซักค้านผมเองไม่ใช่ทนาย ศาลก็อนุญาต ก็เลยฉะกันต่อหน้าศาล
หลังโต้กันไปมาจนจบ ศาลถามผมว่าไงรู้ไหม ศาลท่านถามว่าหมอเคยวัดไอคิวไหม ผมก็เรียนท่านไปว่าเคย ท่านถามต่อว่าวัดแล้วได้เท่าไหร่ ผมตอบไปว่าจำไม่ได้ครับ ไม่กล้าตอบไปอายท่านเปล่าๆ ไอคิวห่างไอน์สไตน์เยอะ ชนะรามาด้วยกัน 6-7 รุ่นทำเป็นคุย ถ้ามากกว่าไอน์สไตน์ค่อยน่าคุยหน่อย
โดย: ฟฟ [19 ธ.ค. 52 4:05] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   คดีล่าสุดที่ศาลตลิ่งชัน ศาลท่านว่าไงรู้ไหม ศาลท่านว่า พยานมาได้ประโยชน์เยอะนะ อะไรที่ไม่กระจ่างก็กระจ่าง ตอนแรกพยานมานึกว่าคงไม่ได้อะไร เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และไม่ได้รักษาคนตายไม่น่าจะรู้อะไรมาก แต่มากลับได้อะไรเยอะ
โดย: เยินมาก ระวังไว้ ผมมีแต่ศาลชม [19 ธ.ค. 52 4:08] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ศิริราชกับรามา ไม่ต้องน้อยใจหรือเคืองที่มีศิษย์ปากเสียอย่างผม ว่าท่านยังไงก็ไม่เสียหายหรอก เหมือนกับที่ผมเคยเปรียบเทียบเสมอ ว่า เป็นเหมือนภูเขา เสาไฟฟ้า หมาเยี่ยวรดหน่อยไม่กระเทือนหรอก
ถ้าผมด่าท่านเสียหายหรือกระเทือนได้ ผมจะด่าทุกวัน คนไข้ท่านจะได้น้อยลง จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก นี่ผู้เสียหายยิ่งด่ายิ่งฟ้อง คนไข้ก็ไม่ได้ลดลงเลย มีแต่มากขึ้นทุกวัน คลินิกผมก็แบบเดียวกันเลย คนปากหมายิ่งด่าคนไข้ยิ่งแน่น บอกตรงๆ ผมไม่มีเวลากินข้าวเลย ทุกวันนี้ล่อแต่มาม่าเช้า เที่ยง เย็นจึงจะมีเวลากินมื้อเดียว
โดย: หยุดด่าคนไข้คงหายหมด [19 ธ.ค. 52 4:18] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   เดล คาร์เนกี เขียนไว้ในหนังสือว่า ไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คนพยายามด่าคู่แข่งที่ตัวเองสู้ไม่ได้เสมอ หวังว่าตัวเองจะดีขึ้น แบบนี้ปัญญาอ่อน แทนที่มันจะไปพัฒนาฝีมือตัวเอง เสือกด่าเขาอีก พวกสมองบอด
โดย: ปากเสีย [19 ธ.ค. 52 4:36] ( IP A:58.8.1.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   ไปลุยมานเลยคุงหมอ
โดย: เจ้าบ้าน [20 ธ.ค. 52 22:37] ( IP A:124.122.2.104 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   เอ้า ผมลอกมาส่วนหนึ่งที่สะกิดใจผมตะหงิดๆเลย

*********************************

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการทางพยาบาล

ในคำให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า

ในรอบ 12 ปีมานี้ มีเรื่องร้องเรียนในด้านการรักษาพยาบาลกว่า 300 เรื่อง ส่วนมากมักมีปัญหามาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน โดยมีคดีที่กระทรวงสาธารณสุขถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลยรวม 98 คดี เป็นคดีแพ่ง 86 คดี คดีอาญา 12 คดี สาเหตุที่ฟ้องมากที่สุด ได้แก่ รักษาผิดพลาดไม่ได้มาตรฐาน 38 เรื่อง ทำคลอด 18 เรื่อง และวินิจฉัยผิดพลาด 12 เรื่อง และแนวโน้มการฟ้องจะสูงขึ้นหากไม่รีบแก้ไข

***************************************

คุณหมอไพจิตร์ ครับ ทั้งหมดของคำพูดท่านที่ผมลอกมาแปะไว้นี้ ผมเห็นด้วยอยู่แค่ประโยคท้ายสุดประโยคเดียวเท่านั้น ก็คือแนวโน้มที่คนไข้จะฟ้องกระทรวงฯ น่ะสูงขึ้นแน่ถ้าไม่รับแก้ไข

ซึ่งเรื่องนี้ชาวบ้านในสังคมไทยทั้งประเทศเค้ารู้กันมาตั้งนานแล้ว

แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเค้าซึ่งรวมทั้งผมด้วยคนนึง รับรู้ว่า ที่เป็นมาโดยตลอดในเรื่องการแก้ไขปัญหานี้น่ะ แก้กันแบบลูบหน้าปะจมูก

คือ แก้ปัญหาแบบไม่กล้าแก้ตรงๆ โกหก มั่ง ทุจริตมั่ง แตะถ่วงมั่ง สารพัดสารเพเล่ห์เหลี่ยมที่ระดมกันออกมาใช้แกล้งแตะถ่วงคดีให้ผู้เสียหายทางการแพทย์เขาหมดแรงล้มลง จนกระทั่งถูกบีบให้ถอย/หายจนเรื่องเงียบไปเอง

แล้ว 12 ปี แค่ 300 กว่าเรื่อง ไม่ทราบว่า ส.ธ. ไปงมโข่งอยู่ไหนมาเอ่ย?

อยากแนะให้ท่านไปลองคุ้ยดูที่แพทยสภาหน่อยเทอะ ผมว่าอีกเยอะเป็นเท่าๆเลยนะ

จะให้ดีนะ ที่ยิ่งกว่านี้ ลองถามไปที่ท่านประธานเครือข่ายฯ ดู ตรงนั้นแกน่าจะมีบางส่วนเท่านั้น แต่ผมก็รับรองว่า เยอะกว่าของที่ท่านมีอยู่ เป็นเท่าๆ เหมือนกัน แต่ผมอยากชี้ว่าแนวโน้มที่น่าจะเป็นไปได้ในอนาคตอันไม่ช้าไม่ไกลนัก

ท่านปลัดฯ น่าจะลองวางแผนให้หมอตามโรงพยาบาลที่เคยมีกรณีพิพาทแบบโกหก/มีลูกเล่นแตะถ่วง/บิดเบือนการรับรู้ของคนไข้คู่กรณีนั่นนะ

ให้พวกหมอกลุ่มนั้นเขามีเสื้อเกราะกันกระสุน หรือ หมวกเหล็ก ไว้สวมป้องกันตัวมั่ง ก็จะดีไม่น้อย

ถ้าจะให้ดียิ่งกว่านั้น ท่านลองแนะให้กรรมการแพทยสภาทั้งคณะนั้นมีกันให้ครบทุกคน ก็ยิ่งดี โดยเฉพาะท่านนายกฯและท่านเลขาธิการฯ

และหากท่านคิดว่าผมขู่หรือกุข่าวเกินจริงอย่างที่ "พวกลิ่วล้อฝ่ายหมอ" มักจะทำกันเป็นนิสัย/สันดานในที่ชุมนุมแห่งนี้

ก็ขอให้คุณหมอไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าไปดูที่กระทู้ 923 นี้เลย

ท้ายนี้ก็อยากเตือนบรรดาท่านๆที่ชอบแสดงพฤติการณ์ใส่ร้ายท่าน ฟฟ. อย่างไม่คล้ายคนดีๆเขาประพฤติกัน ผมก็ว่าอย่าไปทำเลย เพราะยิ่งทำคนที่มีวุฒิภาวะปรกติ ติดตามข่าวสารอยู่บ้าง ก็จะยิ่งยอมรับนับถือแกมากยิ่งขึ้น

เข้าทำนอง ดอกกระดังงา ยิ่งมีไฟลนก็ยิ่งหอม

ดีไม่ดี ผมก็จะกระโจนเข้าไปผสมโรงกับท่านจ้าวบ้านที่ คห ที่ 14 ด้วย

กลายเป็นสามเกลอ "รุมหมอ" ไปซะชิบ เฮ้อ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [21 ธ.ค. 52 9:52] ( IP A:58.8.106.216 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   พวกกระทรวงหลายคน
แพทยสภาหมอหมู่
มานชอบสร้างภาพ
มานไม่ใช่ลูกผู้ชาย ลับหลังให้ร้ายคนไข้
ปากมานเสีย
โดย: พวกชอบสร้างภาพ [22 ธ.ค. 52 22:39] ( IP A:58.9.201.104 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
    เกลียดคนเลว สรรเสริญคนดี จำไว้ (หันไปส่องกระจกเงา)
บางทีวิชาชีพ ไม่ใช่ตัววัด ความดีเลว ในตัวตนที่แท้จริง
โดย: อายเด็กอนุบาล?? [28 ธ.ค. 52 23:49] ( IP A:111.84.15.254 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   จบหมอมาได้ยังงัยเนี่ย....แค่ความคิดถูก ผิด ดี ชั่ว ยังแยกไม่ออกเลย มีแต่ความเห็นแก่ตัว และพวกพ้อง....มีแต่ IQ แต่ EQ ยังสู้เด็กอนุบาลไม่ได้เลย รู้สึก...อ่อนใจและสมเพช..กับสังคมคนไทยในปัจจุบันที่มีหมอที่มีสามัญสำนึกได้แค่นี้จริง ๆ มีแต่ความรู้ในวิชาที่เรียน มีความคิดเหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีจิตวิญญาณ ของความเป็นคนไม่มีเมตตา มนุษยธรรมเลย ถ้าคุณคิดว่าการเรียนจบแพทย์มาเป็นบุคคลชั้นสูงไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ ทำผิดไม่ได้ ไม่มีความผิดพลาดเลย ไม่เคยคิดจะกล่าวคำว่าขอโทษกับการสูญเสียชีวิตของคนไข้ หรือความเสียหาย ทุกอย่างที่ทำคือความถูกต้อง ถูกวิธี ก็คนไข้ดันมาตายเอง หรือพิการเอง...ฉันทำถูกต้องแล้ว....แพทย์ห่วย ๆ และมีสติปัญญาแค่นี้ก็ควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องไปรอที่จะทำให้สูญเสียชีวิต...พิการ...ต่อคนอื่น ...จะได้ไม่ต้องทำบาป...ไม่ต้องตกนรก...และว่าง ๆ หาหนังสือธรรมะ..เล่ม เล็ก ๆ (เล็ก ๆ ก้พอ) อ่านดูสัก 5 นาที...แล้วชีวิตของ แพทย์คนหนึ่ง ในสังคมนี้อาจจะมี จิตสำนึกที่ดีขึ้น. ....
โดย: กลาง กลาง [7 ม.ค. 53 10:45] ( IP A:202.5.84.120 X: )
รายละเอียด :
ชื่อ / e-mail :    แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ
e-mail :
ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการตอบกระทู้       (ใส่ Email เมื่อต้องการให้ส่ง Email เมื่อมีคนมาโพสในกระทู้)
รูปประกอบ :
.jpg .bmp .gif < 100K
จัดตำแหน่งรูป :
ชิดซ้าย
กึ่งกลาง
ชิดขวา
เสียงประกอบ : .wav .mp3 .wma .ogg < 300K
คลิปวีดีโอ (Youtube) :
ตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=k_ufqno7NaE


CAPTCHA code



คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน