บทความจากไทยรรัฐ "เมื่อวิกฤตแพทย์ไทย"
|
ความคิดเห็นที่ 1 ในที่สุดก็ถึงคำถามว่าแล้วใครกันที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตการณ์ ในระบบสาธารณสุขของบ้านเรา คำตอบก็คือคนที่แอบกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชนเอาไว้ในมือ เพราะรู้ว่าในอนาคตบ้านเราต้องประสบปัญหาจากนโยบายประชานิยม.
นักการเมือง และกรรมการแพทยสภาส่วนใหญ่
รวยกระจุก จนกระจาย เงินอยากได้ แต่ตายห้ามฟ้อง | โดย: เครือข่ายฯ [26 ต.ค. 51 20:29] ( IP A:58.9.201.212 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนแพทย์ยังทนอยู่ก็ต้องเผชิญสภาวะขาดกำลังใจในการทำงาน โดยเฉพาะแพทย์ที่เพิ่งจบใหม่ๆ ที่ถูกส่งไปประจำตามโรงพยาบาลเล็กๆ ไม่กล้าทำการผ่าตัดแม้แต่ไส้ติ่งอักเสบ เพราะกลัวโดนคนไข้ฟ้องร้องหากเกิดความผิดพลาด
แล้วแพทย์หน้าเก่าๆ ไปทำไรอะไรกันอยู่ หรือที่หน้าใหม่มีเส้นสาย ไม่ออกต่างจังหวัด ไปอยู่ตามโรงพยาบาลแพทย์ทหาร หรือเป็นอาจารย์ หรือ เรียนต่อเฉพาะทาง แต่ในที่สุดไปเป็นหมอสิว สรุปทำไมไม่มีข้อบังคับให้ทุกคนต้องไปทำงานต่างจังหวัดละครับ สลับกันไป จะได้ยุติธรรม คนต่างจังหวัดก็คนธรรมดาเขาก็ต้องการบริการจากแพทย์เหมือนกันนะครับ
ซํ้าร้ายเกิดปัญหาเด็กจบ ม.6 ที่สอบติดแพทย์ หรือนักศึกษาแพทย์ ตามโครงการต่างๆ ยอมสละสิทธิ์ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่อยากเรียนหนัก เพื่อมาเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง สู้ไปเรียนด้านไอที บริหาร หรือวิศวะไม่ได้ สบายใจ ไม่ต้องลุ้น แถมเงินเดือนก็พอๆกัน ด้วยความจริงที่ว่าวันนี้แพทย์จบใหม่ต้อง รับผิดชอบชีวิตคนไข้ วันละ 150-200 คน หรือเดือนละ 4,500-6,000 คน เพื่อ แลกกับเงินเดือนไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท เฉลี่ยชีวิตคนไข้หนึ่งคนมีค่าแค่บาทกว่าๆ
แล้วไปสอบทำไม ให้ต้องสละสิทธิ์ละครับ คิดเรื่องเงินเป็นใหญ่ ก็เหมาะสมที่ไม่ควรจะเรียน ชีวิตคนไม่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้นะครับ แล้วถ้ากังวลเรื่องเงินทำไม ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องไม่ถือป้ายมาประท้วงละครับ แล้วต้องการเท่าไรถึงจะพอ ทุกคนก็ทำงานให้รัฐเหมือนกัน
อยากจะเขียนบทความประเภทนี้ เหมือนกัน แต่ขอคำแนะนำว่าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อใดจะรับไปลงให้บ้าง ในมุมมองจากคนไข้ วิธีการที่กำลังทำอยู่ใครๆ เขาก็พอทราบนะครับว่ามันคือการประชาสัมพันธ์ ที่เรียกว่าการจัดการประเด็น และภาวะวิกฤตการณ์ จะทำธุรกิจกับชีวิตคนหรืออย่างไรครับ ไม่เสนอความเห็นสองด้าน สมัยนี้คือการประชาสัมพันธ์ยุคใหม่ที่ต้องสื่อสารสองด้าน จะมาใช้วิธีการโน้มน้าวแบบเดิม ระวังของจะเข้าตัวนะครับ | โดย: เห็นแล้วเหนื่อยใจแทน คิดว่าไม่รู้หรือไงกำลังทำอะไร [27 ต.ค. 51 2:34] ( IP A:125.25.52.28 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 การต่อสู้กับวงการแพทย์ เหมือนเรื่องการเมืองในปัจจุบันไม่มีผิด
การแพทย์ กับการเมืองเกี่ยวโยงกัน นักการเมืองเป็นเจ้าของรพ.เอกชนมากมาย
แพทย์เป็นวิชาชีพชั้นสูง ญาติพี่น้อง ลูกผัว ลูกเมีย ก็ล้วนเป็นชนชั้นศักดินาด้วยกัน
ดังนั้นสู้กับวงการแพทย์ ก็คือสู้กับนักการเมือง แล้วการเมืองปัจจุบันเป็นอย่างไร
สื่อปัจจุบันเป็นอย่างไร โฆษณารพ.เอกชนเกลื่อนกลาดไปทั่วแทบทุกสื่อ
ดังนั้นไม่ใช่เครือข่ายฯ จะไม่พยายามจะทำบทความ เราทำมามาก และทำมานาน แต่บางครั้งอำนาจเรา ไม่พอก็จบ
เราต้องการ การเมืองใหม่ | โดย: ได้การเมืองใหม่..เมื่อไหร่ เราจะมีพื้นที่สื่อมากขึ้น [27 ต.ค. 51 9:16] ( IP A:58.9.200.80 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 รัฐบาลน่าจะเอาเงินมาให้เด็กเรียนแพทย์มากขึ้นนะ เอาเป็นทวีคูณเลยก็ได้ ลดพวกเด็กที่เรียนสาขาอื่นลง ใครเก่งพอมีศักยภาพก็ส่งเรียนเมืองนอกไปเลย จบมาให้บังคับมาทำงานที่เมืองไทยใช้หนี้ทำสัญญากันก่อนเรียน ส่วนเด็กสาขาอื่น ๆ ให้ทุนน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับความจำเป็นจริงๆ *เมื่อพูดถึงขั้นวิกฤติ* อย่างที่ข่าวสารมันพูดกัน เด็กจบไม่มีคุณภาพไม่ต้องให้ทุนเรียน ถ้าให้ทุนก็จำกัดและคัดสรรกันจริง ๆ เพื่อไม่ให้เปลืองงบประมาณชาติที่บ่นกันว่า* มันมีน้อย* ปัจจุบันปริญญาตรีเหมือนอาหารโหล เพราะผลิตได้เป็นหมื่น ๆ โหลต่อปี มีคุณภาพน้อยมาก เรียนจบมาไม่มีงานทำ และไม่มีเงินใช้หนี้หลวงอยู่ดี สู้ส่งเด็กที่จบมามีงานทำอย่างแพทย์ แล้วหาเงินส่งคืนหลวงได้จะดีกว่าไหม จบมาก็เพิ่มเงินเดือนให้แพทย์ รพ. รัฐ เท่าเทียมกับ รพ. เอกชน หรือหักเงินเดือนทุกเดือนจากแพทย์ที่จบมาได้งานทำแล้ว เพื่อใช้หนี้หลวงและให้รุ่นน้องเรียนต่อไปอีก
คิดไปงั้น สมองกลวง ๆ ไงไม่รู้ช่วงนี้โดนยาไปเยอะ
เพี๊ยนเปล่าไม่รู้เนี่ย คิดได้แบบนี้เนี่ย !!!
คงทำยาตามเคย ...รัฐบง รัฐบาล
เด็กยากจนบ้านนอกมีเยอะและเก่ง ๆ อยากเรียนแพทย์เชื่อเหอะ
ค่าตอบแทนคุ้มค่าใครก็อยากเรียน ไม่ว่าอาชีพไหน ๆ
นอกจากจะไม่ยึดถือเรื่องเงิน เอาเรื่องใจรักมาก่อนสำหรับแพทย์บางคนนะ ก็มี ที่เขาไม่ได้คิดเรื่องค่าตอบแทนเป็นหลัก เชื่อว่ายังมีอยู่ในเมืองไทยอาจจะน้อย แต่เชื่อว่า มี | โดย: GN+ [27 ต.ค. 51 9:31] ( IP A:222.123.130.127 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 เขียนได้ถูกใจมาก | โดย: คนเก่า [27 ต.ค. 51 10:39] ( IP A:125.26.70.50 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ในที่สุดก็ถึงคำถามว่าแล้วใครกันที่ได้ประโยชน์จากวิกฤตการณ์ ในระบบสาธารณสุขของบ้านเรา คำตอบก็คือคนที่แอบกว้านซื้อโรงพยาบาลเอกชนเอาไว้ในมือ เพราะรู้ว่าในอนาคตบ้านเราต้องประสบปัญหาจากนโยบายประชานิยม.
ต้องพูดต่อให้หมดเปลือกด้วย ว่า อ้ายพวกนี้รวมหัวกันยึดแพทยสภา แพทยสมาคม กระทรวงสาธารณสุข กรรมาธิการสาธารณสุขของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สื่อสารมวลชน ฯลฯ ไว้หมดแล้ว | โดย: เจ้าบ้าน [27 ต.ค. 51 10:50] ( IP A:210.86.181.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 คิดมากไปริเปล่าครับเจ้าบ้าน | โดย: คนเก่า [27 ต.ค. 51 11:03] ( IP A:125.26.70.50 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 น่าคิดแฮะ น่าคิด คิดน้อยไปก็ไม่ดี ก็น่าคิด ถ้าคิดน้อย บางที กลัวบางคนเค้ามาหาว่า โง่ | โดย: ขิง ขิง [28 ต.ค. 51 8:47] ( IP A:115.67.188.115 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 ต่อจากความเห็น 6 เหมือนระบอบทักษิณมันยึดทุกหน่วยงานเวลานี้ เพราะพวกรพ.เอกชนส่วนใหญ่ก็คือพวกของทักษิณนั่นแหละ | โดย: เหมือนกันไม่มีผิด [30 ต.ค. 51 9:37] ( IP A:58.9.198.50 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 เฮ้อ เข้าใจ เข้าใจ | โดย: แย่ [31 ต.ค. 51 20:13] ( IP A:115.67.56.47 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 คนพูดนี่แกรู้จริงนะ แดนสนธยา ณ ศักดินา ลูกหมอ ลูกอาจารย์ เท่านั้นที่มีสิทธิก้าวหน้าสูงสุด ได้รับการยกเว้น ได้รับโอกาส ทุกด้าน แม้กระทั้งการเตรียมตัวสอบเข้า และ อีกหลาย ๆ ขั้น เหลือเดนจริง ๆ ค่อยมาถึงผู้มีสิทธิโดยชอบธรรม มันมีมานานมาก ใครหรือจะจัดการได้ เหมือนที่บอกละ เขาคุมกันเป็นเครือข่าย มานานนน มาก จะเข้าไปสลายเมืองในหมอก ก็ต้องใช้พลังมหาศาล วางระบบใหม่หมด ไม่งั้นไม่มีทางแน่นอน ที่เห็น ผมอนาถใจนักกับห้องฉุกเฉินแต่ละโรงพบาบาลที่มีคนเจ็บปางตายรออยู่ แต่มีหมอเวรอยู่ 2 คน ทำงานน่าสงสารมาก ไม่รู้ว่าผู้บริหารไม่รู้สึกรู้สา หรือแก้ปัญหาอะไรบ้างหรือ คงคิดว่ารอไม่ไหว ก็ต้องไหลไปที่โรงพยาบาลเอกชน ที่พวกท่าน ๆ ถือหุ้นอยู่กระมัง และก็ไม่น้อยที่ได้หัวคิดจากการเป็นแพทย์ที่ปรึกษาของโรงพยาบาลเอกชน ดูแล้วยิ่งเลวร้ายลงทุกวัน เดี๋ยวนี้เลยติดลบกับหมอไปเยอะ มันแย่นะครับ หมอดี ๆ ท่านก็ยังมีอีกมาก แก้ไขเถอะครับ
| โดย: veerasan@hotmail.com [4 มี.ค. 52 14:53] ( IP A:125.24.54.236 X: ) |  |
|