ความคิดเห็นที่ 2 การรับรู้ และวิเคราะห์เรื่องราวที่เข้ามาในที่นี้
ไม่ได้ทำด้วย โมหะ หรือ โทสะ เป็นที่ตั้ง แต่
การเข้ามาตั้งกระทู้ ป่าวประกาศ ร้องเรียน ของผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหมอ หรือฝ่ายคนไข้ ยอมให้แสดงอารมณ์ภายในขอบเขตที่เรียกว่า พอหอมปากหอมคอ เพื่อระบายความกดดัน
ซึ่งนี่ "ย่อมทำได้" และที่เกินเลยกว่านี้ ก็มีบรรดา "สองฟาก" ของความขัดแย้งออกมาโต้ตอบ ห้ามปราม แล้วเลิกรากันไปเองอยู่แล้ว
ที่ต้องสะกิดก็คือ ฝ่ายหมอ ทั้งหมอจริงที่ไม่แสดงตัว และหมอแอบอ้างพวกเดียวกัน ใช้กลบุทธ และ/หรือ เล่ห์เหลี่ยมทางความรู้ ทางการจับประเด็นจุดอ่อนทางอารมณ์ หรือ ทางปมในใจผู้เสียหาย เพื่อ "ขยายและกระตุ้นความเจ็บช้ำน้ำใจกันให้ฝ่ายคนไข้ผู้ด้อยโอกาส ด้อยความสามารถในการตระหนักรู้ และควบคุมอารมณ์/ตั้งสติตัวเอง ทำให้การร้องเรียนไม่เข้าประเด็น สื่อสารไม่ตรงจุด กลายเป็นการแสดงอารมณ์เพียงโดด ซึ่งเท่ากับเป็นการลดโอกาสในการบอกความจริงที่เป็นอยู่ และเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของคนกลางที่ผ่านไปมา เข้าทำนองสื่อสารไม่รู้เรื่อง
อย่างนี้ก็มีอยู่เป็นประจำ
เครือข่ายฯ และที่ชุมนุมแห่งนี้ ไม่เคยสนับสนุนให้ใช้อารมณ์ในการต่อสู้ แต่ยอมให้มีการแสดงอารมณ์ (ในฐานะมนุษย์ปรกติภายใต้ภาวะกดดันในสถานะผู้เสียหายและด้อยโอกาสในการต่อสู้ ทั้งต้องการหาความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน อย่างที่ไม่สามารถหาจากที่อื่นใดได้ในประเทศนี้) ได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ ท่ามกลางการประจัญกับ "ฝ่ายหมอ" ที่มากกว่าด้วยความรู้ ด้วยภูมิปัญญาทางวิชาการแพทย์และทางกฎหมายในลักษณะที่ฉ้อฉลมาโดยตลอด ทั้งเป็นฝ่ายที่ถือและมักจะได้รับการ "เอื้อประโยชน์ในลักษณะโกง" ทางกฎระเบียบและกฎหมาย ทำหใด้เปรียบในการต่อสู้ที่ไม่เป็นธรรมมาโดยตลอด
การกล่าวอ้างว่า ฝ่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ หรือฝ่ายคนไข้ที่ผ่านเข้ามาในที่นี้ อาจ เป็นความพยายามที่จะแสดงความไม่ชอบหรือลดความน่าเชื่อถือในสายตาของชาวบ้านที่ผ่านไปมาในที่ชุมนุมนี้ได้ เช่นกัน
ฉะนั้น ทุกท่านที่ผ่านไป-มา ที่ชุมนุมนี้ ต้องเข้าใจสภาพ "ความเป็นจริงพื้นฐาน" ในสถานะของสองฟากฝ่ายที่ขัดแย้งและประจัญกันอยู่ในที่ชุมนุมแห่งนี้ ตลอดมาด้วย |