มะรุม รักษาเอดส์ได้จริงหรือ ?
   ไปตรวจสุขภาพมา คุณหมอ รพ.แม่ทา ให้หนังสือนาฬิกาชีวิต ตอน2
มา 1 เล่มเล็ก ๆ คุณหมอซื้อมาจากร้านหนังสือ และแนะนำให้ทานใบมะรุมตากแห้ง เพราะคุณหมอบอกว่า รพ.ศิริราช กำลังทำวิจัยเรื่องนี้
โดยเฉพาะวิจัยเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ HIV

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=angel-exx&month=12-2008&date=12&group=19&gblog=5

มะรุมรักษาโรคเอดส์

AIDS: Artemisia Annua Anamed (A.3)
and Moringa

เราได้รับข่าวมหัศจรรย์จากเมืองมูโซมา ประเทศแทนซาเนีย Africa Inland Church ใน Tanzania (AICT) ซึ่งมีศูนย์สุขภาพท้องถิ่นที่มีแพทย์ชาวแทนซาเนียเป็นผู้ดูแล ชื่อคุณหมอ Feleshi กับพยาบาลชาวเยอรมันชื่อ Maike Ettling ทำการช่วยเหลือกลุ่มคนที่กำลังเป็นโรคเอดส์ ที่เรียกตัวเองว่า เผ่า Kazo Roho

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ทำการรักษาคนไข้โรคเอดส์มากกว่า 100 คน โดยใช้ชา Artemisia Annua และมะรุมร่วมด้วยการดูแล อย่างใกล้ชิด ด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคมของผู้ป่วย ผู้ป่วย 5 คนที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เป็นผู้ที่ได้เปลี่ยนจาก HIV+ เป็น HIV- และแต่ละกรณีได้รับการยืนยัน

ตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนป่วยจะได้รับการรักษาจนหายจากโรคเอดส์แล้ว เขาจะยังคงมี HIV+ อยู่อย่างเดิม ดังนั้น ผลการรักษาครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์และลึกลับมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือสุขภาพของคนป่วยทุกคนดีขึ้นอย่างมาก น้ำหนักเพิ่มขึ้น และสุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงขึ้น และผลการตรวจ CD4 cell count ก็เพิ่มขึ้น

หมอและพยาบาลได้ใช้การรักษาด้วยวิธีเพิ่มภูมิต้านทาน ให้คนไข้โรคเอดส์ที่ Musoma คุณหมอได้ใช้วิธีเดียวกันนี้และยาสมุนไพรธรรมชาติรักษาทุกโรค ตั้งแต่ไอ นอนไม่หลับ ปวดศรีษะ และโรคต่างๆ และหมอยังให้ความช่วยเหลือด้านอารมณ์ และจิตวิญญาณของคนไข้อย่างมาก

คนไข้ # 1 C.M.
- อายุ 62 ปี มีภรรยา 3 คน และเมื่อพบว่าตัวเองเป็น HIV+ ได้ทิ้งภรรยาทั้ง 3 ไว้ที่หมู่บ้าน เพื่อไปรักษาตัว
-จาก HIV test ในปี 2002 ที่ AICT ศูนย์สุขภาพได้ผลบวก (จากการตรวจ 2 แบบ Capillar (เจาะเลือด) และ Determine (การวินิจฉัยของแพทย์))
- อาการขณะนั้น : อ่อนเพลีย ไม่มีแรง และมีไข้
- เริ่มใช้ A-3, มะรุม และเมล็ด pawpaw
- อาการทั่วไปเริ่มดีขึ้น
- ตรวจดูอีกครั้งในปี 2003 (AICT ศูนย์สุขภาพ)
- ผล : บวก
- ตรวจอีก 3 ครั้งในเดือนมีนาคม 2004 (1.AICT ศูนย์สุขภาพ 2.DDH Bunda 3.โรงพยาบาลของรัฐ, Musoma) ทั้ง 3 ครั้งได้ผล : ลบ

คนไข้ # 2 T.C.
- เสียชีวิตในปี 2004 ด้วยปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเมื่ออายุ 45 ปี อย่างไรก็ตาม เธอเป็นตัวอย่างที่ดีที่ผลการรักษาทำให้เธอกลายเป็น ผลลบ
- แต่งงานและสามีเสียชีวิตปี 2000 มีบุตรธิดารวม 5 คน
- ตรวจที่ ร.พ. Musoma Government Hospital ปี 2001 ผลบวก
- เริ่มมารักษาที่ Kaza Roho ในปี 2003
- เริ่มทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขในเขต Mara & Ukerewe โดยการไปเยี่ยมคนไช้ตามบ้าน
- เริ่มใฃ้ยา A-3 และมะรุม
- ตรวจที่ศูนย์สุขภาพ AICT ในปี 2002 ก.พ. 2003 และ มิ.ย. 2003 ตรวจเลือดและหมอวินิจฉัยทั้ง 3 ครั้ง ได้ผลบวก
- ตรวจอีกครั้ง ก.ย. 2003 ที่ศูนย์สุขภาพ Musoma - ผลลบ
- ตรวจอีกที่ Muhmbili/dar, Musoma Government Hospital อีก 2 ครั้ง ผลทั้งหมดเป็นผลลบ

คนไข้ # 3 N.M.
- อายุ 25 ปี แต่งงานปี 2004
- เป็นพยาบาลและผดุงครรภ์ ทำงานที่ศูนย์สุขภาพ Bunda AICT จนถึงปี 2004
- ตรวจ ธ.ค. 2003 ที่ศูนย์สุขภาพ Bunda AICT - ผลบวก
- เริ่มใช้ A-3, กระเทียม และมะรุม
- ตรวจอีกครั้งที่ศูนย์สุขภาพ AICT มี.ค. 2003 - ผลบวก
- ตรวจอีกครั้ง ก.ค. 2004 ผล : ลบ

คนไข้ # 4 S.M.
- ตรวจปี 2002 ที่ศูนย์สุขภาพ AICT เมือง Musoma ผล : บวก
- เป็นวัณโรคในปี 2002
- เริ่มรับ A-3 และมะรุม
- 6 เดือนหลังจากนั้นอาการทั่วไปดีขึ้นมาก
- ตรวจอีกครั้ง ก.ย. ที่ศูนย์สุขภาพ AICT ผล:ลบ
- ตรวจในปี 1999 โดยวิธี Capillars (ตรวจเลือด) (โดยได้ไปบริจาคเลือดที่ศูนย์สุขภาพ AICT เมือง Kazilankanda ผล : ลบ
- ตรวจอีกครั้งปี 2000 ณ ทีเดิม ผล : ลบ

คนไข้ # 5 M.K.
- แต่งงานแล้ว
- ปี 2001 เริ่มจากรักษากับหมอท้องถิ่นท่ Ukerewe
- ตรวจ 2 ครั้งในปีนั้น ผลทั้ง 2 ครั้ง : ผลบวก
- ปี 2003 เริ่มใช้ A-3 ที่ศูนย์สุขภาพ AICT Mesoma ผล : บวก
- ตรวจ มิ.ย. 2004 ที่ ที่เดิม ทั้งตรวจเลือดและหมอวินิจฉัย ผล : ลบ
- ตรวจ 2 ครั้งที่ ร.พ. Bugando, Mwanza ผล : ลบ
- ตรวจ CD4 ในเดือน ก.ย. 2004 ได้ผล 815
- ตรวจอีกครั้งที่ศูนย์สุขภาพ Musoma ในเดือน ก.ย. 2004 ผล : ลบ
- ผลของการใช้ A-3 และมะรุมในการรักษา ช่วยเพิ่ม cell CD4 จะเห็นได้จากกรณีดังต่อไปนี้

คนไข้ # 6 M.N.
- อายุ 32 ปี
- มาที่ศูนย์สุขภาพ AICT Musoma ในปี 2002 ด้วยอาการค่อนข้างหนัก
- ตรวจพบผลบวกมาก่อนแล้ว
- ตรวจที่ศุนย์ ผล : บวก
- ขณะนั้น CD4 มีค่า 34
- เริ่มใช้ A-3 และมะรุมในการรักษา
- 3 เดือนหลังจากนั้น CD4 มีค่า 280


หมายเหตุ
ได้รับรายงานจากคุณไพลิน มีเดช กรุณาแจ้งมาด้วยความปรารถนาดีว่า ท่านใดที่เป็นโรคเม็ดโลหิตแดงแตกกระจาย TG6PD การทานมะรุมจะทำให้เป็นอันตรายต่อเม็ดโลหิตแดงอย่างมาก ขอขอบพระคุณในข้อมูลนี้เป็นอย่างสูงค่ะ

ข้อสรุป
การใช้วิธีธรรมชาติเพื่อช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้โรคเอดส์เพิ่มขึ้นขอแนะนำให้คนไข้ใช้ 3 ข้อ จากข้อเสนอต่อไปนี้

1. กระเทียม Allium Sativum, ควรกินกระเทียมดิบอย่างน้อยวันละ 3 กลีบ
2. Artemisia Annua เป็นพืชล้มลุกที่ปลูกได้ผลมากที่สุดในประเทศจีนเท่านั้น และยังไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทยที่ถูกต้อง น่าจะหาได้ตามร้านขายยาจีนแผนโบราณ การใช้ในเดือนแรกให้ดื่มชานี้โดยใช้ใบแห้ง 5 กรัม ชงดื่มทุกวัน หลังจากนั้นเดือนละ 1 สัปดาห์ ให้ดื่มชานี้ซ้ำอีก
3. Neem ใบสะเดา, Azadirachta Indica : ให้รับประทานผงที่ทำจากใบ Neem ใบสะเดาแห้ง 1 ถึง 2 ช้อนชาพูนๆ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
4. ตะไคร้ (Lemon Grass) Cymbopogon Citratus: ให้ดื่มชาตะไคร้ 2 ลิตร โดยใช้ใบสด 1 กำมือ ต้มน้ำ 1 ลิตร ต่อวัน
5. ว่านหางจระเข้ ดื่มน้ำว่าน (เป็นวุ้น) 1-2 ช้อนโต๊ะทุกวัน วุ้นว่านนี้อาจจะนำมาผสมกับน้ำผึ้งในปริมาณเท่ากับว่านก็ได้
6. มะนาว : ให้ดื่มน้ำมะนาว 1 ลูก / ต่อวัน
7. มะรุม : ใช้ใบมะรุมที่ป่นเป็นผง โรยใส่อาหารวันละ 3 เวลาทุกวัน ตลอดชีวิต

ในการศึกษานี้ เราสนใจผลของ Arternisia Tea และผงใบมะรุมเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าส่วนประกอบอื่นๆ จะใช้ก็ได้



มะรุม ต้นไม้มหัศจรรย์
จากหนังสือ นาฬิกาชีวิตตอน๒
เขียนโดย ดร.วิไลวรรณ อนุสารสุนทร


https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=angel-exx&month=12-12-2008&group=19&gblog=6 ลิงค์มะรุมรักษาโรคเอดส์

คุณหมอเวปนี้มีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้างคะ ?
โดย: GN+ [19 มี.ค. 52 15:37] ( IP A:222.123.70.133 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   แสดงว่า หมอ ไม่เชื่อแน่ๆ

เฮ้อ เหนื่อย

แร้วจะได้เป็น ลบ ไหมเนี่ย ?

ช่างมัน เป็น ลบ เป็น บวก ก็ตายเหมือนกัน

แค่อยากรู้เฉยๆ ว่ามันจริงหรือเปล่าค่ะ

โดย: จีเอ็น [21 มี.ค. 52 12:59] ( IP A:222.123.25.73 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ถ้ารักษาได้จริงก็ดีสิ
ถูกกว่าarvมากโขนัก
ถ้ามันเจ๋งจริงเรียกทีมวิจัยมาทำให้เป็นล่ำเป็นสันสิ
จะมาทำเป็นอวดรู้แต่ปากเก่งแต่ปาก
พอรักษาหายก้อมะรุมเทวดาหารู้ไม่ว่าออนเออาร์วีตลอด
พอตายก้อไม่ใช่ความผิดกู
เรื่องควายๆก็เหมาะกับคนในสปีชี่ควาย
โดย: ทรทร [21 มี.ค. 52 13:55] ( IP A:124.120.215.215 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   พี่เอถูกยั่วซะแล้วอย่าเต้นตามเขาเลย
ถ้าเรารู้ว่าเขาต้องการอะไรแต่เราอดทนที่ไม่สนองให้เขาเราชนะไปครึ่งแล้วละพี่
"ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีระบบของมัน"เมือเรารู้เท่าทันระบบเราจะอยู่เหนือมัน
เหมือนกับชีวิตมันก็มีระบบของมันอยู่เมื่อเรารู้ "ความตายก็มิอาจอยู่นอกเหนือการควบคุมอีกต่อไป"
ต่างกันตรงที่เราจะมอบให้ใคร!
โดย: อนาคตมีทางเลือกเสมอ [21 มี.ค. 52 21:38] ( IP A:222.123.132.8 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   หมอที่ให้ข้อมูลมา ไม่ใช่หมอที่เราฟ้องหรอกนะ
เพียงแต่ไปตรวจร่างกาย
แล้วคุณหมอคุยให้ฟังว่า ทาง รพ. ศิริราช กำลังทำวิจัยเรื่องนี้
แล้วคุณหมอบอกว่า ลองเอามากินดูเผื่อ cd4 จะได้ขยับมากกว่านี้


เมื่อเชื่อไม่ได้เลย แล้วหนังสือพวกนี้มาวางขายได้อย่างไร
ไม่มีมาตรการอะไรควบคุมได้เลยเหรอ ?
ก็หนังสือพวกนี้ไม่ใช่ ควาย เขียน และก็ไม่ได้ให้ ควาย อ่านนี้นา
แล้วไม่มีใครดูเรื่องนี้เลยเหรอ แล้วมาวางขายทำไม
ขนาดหมอยังซื้อมาอ่านเลย...

ปล.ตอนนี้เฉยๆ แล้วเรื่อง คดี รอเจอกันที่ศาลอย่างเดียว
อยากเบิกความ อยากให้หมอคนที่ฟ้องมาเบิกความ
อยากรู้ว่า มันจะเสียงดังได้ใจเหมือนวันมายืนด่าประจานเราหรือเปล่า
เท่านั้นแหล่ะ ในความเป็นจริง

ความโง่ ความฉลาด มันมีในความจริงเสมอ
คงไม่เกี่ยวกับ ใครกินมะรุมอัดเม็ดแล้วโง่ทุกคนหรือ ฉลาดทุกคนหรอกนะ

แต่เรากิน....
โดย: จีเอ็น [22 มี.ค. 52 12:40] ( IP A:222.123.29.64 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   มีอยู่ช่วงนึงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงข่าวว่า ปัสสาวะรักษาโรคเอดส์ได้
และอีกช่วงนึงบอกว่าคนเป็นไข้รากสาดใหญ่ CD4 ลดต่ำจนเป็นศูนย์
โดย: เรื่องจริง [22 มี.ค. 52 14:43] ( IP A:61.19.66.171 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ดื่มปัสสาวะ ก็ไม่เอาหรอก
มะรุมยังว่าเป็นผัก สมุนไพร
ก็ต้องดูด้วยว่าจะกินอะไรเข้าไป
ใช่ว่าเขาให้กินอะไรหายแล้วก็กิน
ไม่ถึงขนาดนั้น
เพราะ ตอนนี้ไม่กินไรมาก แค่อาหารครบ 5 หมู่
อาหารเสริม นม น้ำผลไม้ วิตามิน
แค่นนี้ก็อ้วนกระจายแล้ว

ถ้าผลพวงจากการกินมะรุมแล้ว ซีดี4 เพิ่มขึ้นมันก็ถือว่า ดี

ไม่ได้คิดไรมาก เอาแค่อยู่ได้แบบคนปกติก็พอแล้ว
อาจจะโดนรถชนตายก่อนเป็นเอดส์ตายก็ได้....เห่อๆ

โดย: จีเอ็น [22 มี.ค. 52 18:23] ( IP A:117.47.228.48 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   https://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000033632
โดย: ลองอ่านดู อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ [25 มี.ค. 52 10:01] ( IP A:58.8.8.235 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ขอบคุณค่ะ คห. 8
งั้นหนูขอพิสูจน์
เพราะตอนนี้หนูไม่เชื่อ แต่อยากรู้ว่ามันจะมีความจริงระดับไหน
หนูก็เลยกินมันทุกวันค่ะ ...
โดย: จีเอ็น [25 มี.ค. 52 10:42] ( IP A:114.128.40.157 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ต้องมีการศึกษาที่มีโครงสร้างเป็นเรื่องเป็นราวมายืนยันครับ ไม่ใช่เอาคนไข้ 6 คน ที่อาจจะมีอาการดีขึ้นจากอะไรก็ได้แล้วพอดีกินมะรุมอยู่มาให้ดู

ถ้าศึกษาแล้วได้ผลดีน่าเชื่อถือก็น่าดีใจมากครับ
โดย: 000 [25 มี.ค. 52 22:06] ( IP A:58.8.88.3 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   มะรุมผงบรรจุแคปซูล
สรรพคุณ : ควบคุมโรคเบาหวาน, ควบคุมโรคความดันโลหิตสูง, อาการเวียนหัว, ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย, ลดสารก่อมะเร็ง, บรรเทาโรคเก๊าต์, โรคภูมิแพ้ ฯลฯ
การผลิตเราใส่ใจตั้งแต่การเลือกใบมะรุมโดยเลือกแต่ใบที่เขียวสด ล้างด้วยด่างทับทิมตามด้วยล้างน้ำสะอาด พึ่งแดดจนใบมะรุมกรอบ จากนั้นเราใช้วิธีการบดด้วยครก (ไม่ใช้การปั่น)โดยจะได้ผงมะรุมที่ละเอียดมากกว่าการปั้น จากนั้นทำการบรรจุแคปซูลโดยอัดผงมะรุมแน่นเต็มแคปซูล(ทดสอบได้โดยการปีบจะต้องไม่นิ่ม) ขณะบรรจุต้องสวมหมวกป้องกันเส้นผมร่วง และสวมหน้ากากปิดทุกครั้ง (ในขั้นตอนการบดมะรุมเป็นผง เราใส่ซองกันชื้น(Silica Gel) เพื่อเป็นการป้องกันความชื้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่ามะรุมแคปซูลของเราสะอาด และปลอดภัย)

ติดต่อสั่งชื้อ : โทรศัพท์ 086-123-8332 คุณไพฑูรย์ ลี้พงษ์อนันต์
1ซองบรรจุ 100แคปซูล ราคา 150บาท รวมค่าจัดส่งด่วน 50บาททั่วประเทศ
โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าเรือ-อยุธยา เลขที่ 387-0-32954-1
โอนเงินแล้วกรุณาโทรแจ้งการโอนเงินด้วยเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการจัดส่ง

โดย: thejetsada@yahoo.com [4 พ.ค. 52 14:27] ( IP A:202.149.24.161 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน