สำนึกของครอบครัว "มหิดล" / สำนึกในค่าและความทุกข์ยากของชีวิตคน
   ถ้าผมเป็นหมอ

แม้จะมีกรณีที่คนไข้ตาย "อย่างสุดวิสัย" เมื่ออยู่ในมือผมผู้เป็นเจ้าของไข้ ย่อมเสียใจโดยสำนึกในหน้าที่ แต่ที่มากกว่านี้คือ ต้องเข้าใจว่า คนที่ตายไป เขาไม่ใช่ต้นไม้ใบหญ้าที่งอกขึ้นโดดเดี่ยวตามธรรมชาติ เขาต้องมีอย่างน้อยพ่อแม่ หรือ พี่น้อง หรือผู้ปกครองและผู้ที่พึ่งเขาอยู่

คนไข้ที่ตายในมือหมอสักคนหนึ่ง หรือพิการช่วยตัวเองไม่ได้หนึ่งคนย่อมทำให้เกิด "คนไข้หมายเลข๒" ขึ้นอย่างน้อยหนึ่งคนทันทีเสมอไป

ความที่อาชีพหมอชี้เป็นชี้ตายชีวิตคนได้ทันตาเห็น จึงเป็นอาชีพที่สังคม ไม่ว่าประเทศไหนในโลกนี้ ให้การยอมรับนับถือ และ "เชื่อถือ" ไว้วางใจตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทยและเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยมาจนกระทั่งประเทศไทยโดยระบบฉ้อฉลทางนโยบายสาธารณสุขระดับชาติ แตกระบบและส่วนหนึ่งของทรัพยากรระบบที่สำคัญและหายากทั้งขาดแคลนอยู่ (ก็คือหมอ+บุคลากรข้างเคียง) ให้หันเหไปหาการเป็น "เมดิคอลฮับ"

แล้วเราก็ได้ "โจรหมอมากลุ่มหนึ่ง" ที่ร่ำรวยภายในชั่วอายุคนเดียวแทบจะพริบตาจากการค้าขายกับเลือดเนื้อและชีวิตมนุษย์ แต่ปิดบังซ่อนเร้นและโกหกเรื่องความเสียหายทางการแพทย์ทั้งที่เป็นเฉพาะราย และทั้งที่รวบรวมได้จากระบบทั้งหมด ซึ่งมีอยู่มากมายมากกว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่รวบรวมกันได้ในแต่ละปี

พอสังคมรับรู้ มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ความเชื่อถือต่อวิชาชีพนี้จึงค่อยๆหมดไปโดยเฉพาะในช่วงสิบปีหลังมานี้

ถ้าจะหวนนึกย้อนดู เรามีพระบรมราชชนกซึ่งทรงเป็นบิดาแห่งวิชาการแพทย์แผนใหม่ของไทย ถามว่าท่านเคยพลาดไหม? ผมก็แน่ใจว่าท่านเคย ทางหนึ่งก็จำได้จากการบรรยายที่ไหนสักแห่งว่า ท่ายเคยโทมนัสมากจากกรณีหนึ่งที่คนไข้มาถึงโรงพยาบาลท่าน แต่ท่านทรงติดดูแลคนไข้รายอื่นอยู่แล้วมาช่วยไม่ทัน คนไข้ก็มีอันเป็นไป นี่จึงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่ด้วยสำนึกโดยจิตวิญาณของความเป็นแพทย์ที่มีในตัวท่าน จึงทรงแสดงอาการเช่นนั้น จริยวัตรเช่นนี้ที่ทรงดำรงอยู่ตลอดพระชนม์ชีพที่สั้นเกินไปจากการตรำงานดูแลผู้ป่วย จึงทำให้เรามีอนุเสาวรีย์ของท่านปรากฏอยู่ที่หน้าคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และเช่นเดียวกับองค์สมเด็จย่า เรื่อยตลอดไปถึงพระพี่นางฯ แม้แต่องค์ในหลวงรัชกาลปัจจุบันซึ่งแม้จะไม่ได้ทรงเป็นหมอ แต่ก็ทรงงานสานต่อกิจทางสาธารณสุขเพื่อมวลชนมาตลอดพระชนม์ชีพ

ครอบครัว "มหิดล" นี้อุทิศชีวิตสมาชิกในครอบครัวถึง 2 รุ่นแล้วเต็มๆให้กับ "กิจทางสาธารณสุขมวลชน" อย่างมีสำนึกของความเป็น "หมอ" โดยตลอด ไม่ว่าพระองค์ไหนหรือองค์ใดจะทรงเป็นหมอหรือไม่

พวกเราๆท่านๆทั้งหลาย ลองเปรียบเทียบจริยวัตรของครอบครัว "มหิดล" ซึ่งทรงเป็นหมอโดยหน้าที่อยู่เพียงพระองค์เดียว และกับทั้ง ๔ พระองค์ซึ่งทรงมีสำนึกอย่างเต็มเปี่ยมต่อค่าของชีวิตมนุษย์

ลองนึกดูไหมว่า มีกฎมณเทียรบาลข้อไหน??? หรือ มีรัฐธรรมนูญฉบับใด??? ที่บัญญัติให้สมาชิกในครอบครัวนี้ต้องมีสำนึกและอุทิศทั้ง "เวลาและงานในชีวิตเกือบทั้งหมด" ให้แก่มหาชนมากมายขนาดนี้

แล้วเทียบดูกับครอบครัวของบรรดากรรมการแพทยสภา แพทยสมาคมที่เป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนในโรงพยาบาลเอกชน ที่ประชาสัมพันธ์การเป็น "เมดิคอลฮับ" ของประเทศนี้ เพื่อคนไทยได้หน้าแต่ผลประโยชน์เกือบท้งหมดตกอยู่กับครอบครัวพวกพ้องของ "หมอ" เพื่อแลกกับการเสี่ยงชีวิตคนไข้เพิ่มขึ้นที่มาจากหมอเก่งๆซึ่งขาดแคลนมากอยู่แล้วถูกดูดไปเพื่อแสวงผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า "การมีสำนึกและจรรยาบรรณในวิชาชีพ" ดังที่ "องค์พระบรมราชชนกและสมเด็จย่า" ทรงพร่ำสอน

ท่านก็จะเห็นความแตกต่างระหว่างคำสอนที่ทรงให้ไว้สำหรับอาชีพหมอว่า "กิจเพื่อประโยชน์ของตนต้องเป็นที่สอง กิจเพื่อประโยชน์ของมหาชนต้องเป็นที่หนึ่ง" กับประโยคที่ว่า "แค่ 30 บาท จะเอาอะไรกันหนักหนา"
หมอในภาครัฐนั้น เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น แม้จะไม่ได้เกิดจากตนเอง แต่ในเมื่อตนเองเป็นหมอซึ่งรับผิดชอบคนไข้ ซึ่งหมายถึงสวัสดิภาพในชีวิตของเขา เมื่อเขาตายหรือเจ็บในมือเรา เราย่อมมีหน้าที่และทั้งมีเครื่องไม้เครื่องมือทางกฎหมาย กฎกระทรวงและงบประมาณทางภาษีที่ท่านสามารถจะใช้ช่วยเหลือเยียวยาให้ทันท่วงทีก่อน และยังสามารถป้องกันตัวเองจากการรับผิดชอบทางคดีแพ่งและคดีอาญาได้ด้วยพร้อมกัน นี่จึงเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องหมดจดและอย่างมีสำนึกในหน้าที่และอย่างรู้สำนึกในค่าของชีวิตมนุษย์

แต่หากพวกท่านยังพากันหลงติดในตัวตน ในอัตตาแห่งวิชาชีพ ทั้งหลงในลาภในประโยชน์ที่มาจากเลือดเนื้อของคน พากันตั้งแง่มองคนไข้และระแวงคนไข้ว่าเป็นงูเห่าที่พร้อมจะแว้งกัดชาวนาอย่างที่คิดว่าท่านเป็น

วงการแพทย์ก็จะเป็นเช่นที่ "เป็นอยู่ทุกวันนี้" และวิบัติยิ่งๆขึ้นต่อไป
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [19 มี.ค. 52 10:17] ( IP A:58.8.104.53 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   มนุษย์เราโดยธรรมชาติก็เห็นแก่ตัวกันทุกคนแหละ หรือเครือข่ายเห็นแก่ส่วนรวมเหรอนั่นน่ะนิยายที่เขาเขียนไว้หลอกเด็ก ฟ้องเพื่อให้เกิดการปรับปรุง และจะได้ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง สุดท้ายมันก็คือเพื่อเงินนั่นแหละ หรือเพื่อการล้างแค้นแล้วสังคมได้อะไรเหรอ ฟ้องเยอะเยอะแหละจะได้เพิ่มค่ารักษาได้มากมากตามใจชอบหน่อย จะได้รวยไวไวไงจะได้ลาออกจากการเป็นหมอซักทีเบื่อแล้ว
โดย: คนเก่า [19 มี.ค. 52 15:05] ( IP A:125.26.68.16 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    เกิดเป็นคน สำนึกในหน้าที่ ทำผิดก็ควรรับผิดชอบความผิด
ไม่ว่าเป็นอาชีพไหน ๆ ก็ต้องมีการรับโทษ
หรือรับการสรรเสริญเมื่อทำดี



คนในเครือข่ายฯใครรวยบ้าง ?
ยกมือขึ้น เหอๆ
โดย: จีเอ็น [19 มี.ค. 52 15:23] ( IP A:222.123.70.133 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   หมอที่ดียังมีมากมาย แต่เครือข่ายไม่เคยสนใจและก็ไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง และก็ไม่เคยมีสื่อใหนมาสนใจ รักษาหวัดหาย คออักเสบหาย ผ่าใส้ติ่งได้ก็ไม่เคยมีสื่อใหนเอาไปออกทีวีมีคนไข้รอดตายปีหนึ่งหลายล้านคนก็ไม่เคยเอาไปนำเสนอ แล้วนี่เหรอคือสังคมที่อยากให้คนอยากเป็นคนดี หมอรักษาคนไข้1ครั้งนอกจากทำตามหน้าที่แล้วยังทำตามจริยธรรมที่มนุษย์พึงมีต่อกันยามเจ็บไข้ได้ป่วยส่วนค่าจ้างก็เป็นค่าเหนื่อยและค่าเสียโอกาสแต่เครือข่ายกลับมองแค่เป็นหน้าที่หากมองแค่เป็นหน้าที่ค่ารักษาคงเป็นแสนต่อการพบแพทย์แต่ละครั้ง เครือข่ายต้องการเล่นงานหมอที่รักษาแล้วเกิดผลที่ไม่ได้คาดฝันขึ้น แต่แพทยสภาปกป้องแพทย์ที่ปฏิบัติชอบแล้วด้วยมาตรฐานวิชาชีพเพราะหากลงโทษคนที่สุจริตก็ถึงจุดต่ำสุดแล้วของขบวนการยุติธรรม ทางออกทางเดียวของเครือข่ายคือการลดเครดิตของแพทยสภาลงจะได้สิ่งที่ต้องการตามใจชอบ เครือข่ายไม่พอใจแพทยสภาก็พลอยไม่พอใจหมอทุกคนที่เป็นสมาชิกแพทยสภา สุดท้ายหมอที่ดีแล้วก็จะเกิดอาการหวั่นไหวรู้สึกว่าถูกจ้องและตรวจสอบจากคนไข้ทุกคนที่รักษา การเกื้อกูลกันระหว่าหมอกับคนไข้ก็จะหายไปเรื่อยๆ จนเหลือแต่หน้าที่การให้บริการรักษา และหน้าที่การรับบริการ แน่นอนค่ารักษาต้องแพงขึ้นเรื่อยๆ ตามกลไกตลาดรัฐบาลให้รักษาฟรีแต่ก็ต้องเพิ่มค่าตอบแทนให้บุคลากรเรื่อยๆทุกปีเพราะถ้าไม่เพิ่มให้แน่นอนย่อมไม่มีใครอยากทำงานให้สุดท้ายรัฐบาลต้องถังแตกเพราะจ่ายค่าแรงไม่ไหว คนที่ได้จากการฟ้องกลับเป็นหมอที่อยู่ๆค่าแรงกลับแพงขึ้นโดยไม่ได้ต้องการ (อยากได้คนไข้น่ารักน่ารักคนเดิมกลับมา ) ขอบคุณเครือข่ายที่ทำให้ค่าแรงหมอไทยจี้ค่าแรงหมอสหรัฐมาติดติด
โดย: คนเก่า [19 มี.ค. 52 15:54] ( IP A:125.26.68.16 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   วันนี้ข้าพเจ้าได้พบบัวเหนือน้ำที่ผลิช่อใหม่แล้ว
ขออนุโมทนาสาธุกับกระทู้นี้
สาธุ
โดย: ทรทร [21 มี.ค. 52 13:52] ( IP A:124.120.215.215 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   สมมติ นะ คุณคนเก่า สมมตินะ

ถ้าผมเป็นหมอ ร.พ. เอกชนที่ชื่อกระฉ่อน ตัวเองก็มือฉมัง รักษาเคสยากๆมาเป็นร้อยๆเคสหายรอดปลอดภัย

วันดีคืนดี ลูกสาวหรือลูกชายสุดที่รัดของท่านมาขอให้ผมรักษาด้วยเรื่องที่ผมเชี่ยวชาญ ผมก็คิดราคาปรกติ รักษตามวิธีปรกติด้วยความเคยชินเพราะ "ทำมาเยอะ" อย่างที่ท่านมักจะอ้าง

เผอิญท่านซวยจริงๆ เพราะลูกท่านนั้นซวยกว่า เพราะดันเสือกตายเพราะว่าผมลืมตรวจพื้นฐานทางสุขภาพบางข้อที่เป็นเงื่อนไขในการรักษาตามความเชี่ยวชาญเฉพาะของผม งานนี้ลูกท่านตายในมือผม

แต่เพราะผมทำงานเป็น "ผู้รับจ้างทำสิ่งของ" เหมือนอย่างที่หมอใช้อ้างกันในศาลเป็น pattern เดียวกัน จึงต้องขอเก็บค่ารักษา ก็ไม่มากมายอะไร แค่ 370,000 บาท

ท่านยังจะพูดอย่างอย่างที่พูดมาไหมเอ่ย??? แล้วท่านจะยอมจ่ายไหม???

อ้อ คุณ ทรทร ท่านควรไปตรวจสายตาและตรวจสภาพจิตด้วย บางทีตาบอกสิ่งที่ท่านเห็น แล้วใจตีความออกมาเป็นชนิด ฟ้ากับเหว ก็เป็นไปได้ คนไข้ก็คน หมอก็คน รักได้ โกรธได้ แล้วก็ "หลงและบ้า" ได้พอๆกัน สำคัญที่รู้ตัวหรือเปล่าเท่านั้นเอง ถ้ายังไม่รู้ตัว ลองปรึกษาคุณ GN ดู ผมว่าขอแกช่วยวิเคราะห์ให้ แกน่าจะยอมนะถ้าท่าน "ไม่เหลือขอ" จนกู่ไม่กลับ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [23 มี.ค. 52 8:11] ( IP A:58.8.103.180 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
    ปรึกษาหนูไม่ได้หรอกค่ะ เพราะคนเหล่านี้ต้องขั้นเหนือเทพ ให้คำปรึกษาเท่านั้น


เพราะคนประเภทนี้ ไม่ยอมเข้าใจชีวิตคนอื่นหรอกค่ะ
ต้องเจอกับครอบครัวเขาเอง แบบเสือกตายเพราะหมอทอดทิ้งสักคน
หนึ่ง....นั่นแหล่ะ

โดย: จีเอ็น [23 มี.ค. 52 9:08] ( IP A:117.47.231.187 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ไม่เป็นไร คุณจีเอ็น

ผมขอคำปรึกษาเองก็ได้ ครือว่า

อย่างตัวผมเองเนี่ย ถ้าเป็นอย่างท่าน "คนเก่า" หรือ ท่าน "ทรทร" นะสมมตินะ ผมจา โกหกเป็น หลงหรือบ้า หรือ แอบจิตเป็น ได้เหมือนคนทำมะดาคนอื่นๆที่ไม่ใช่ "หมอ" อะป่าวคับ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [23 มี.ค. 52 14:54] ( IP A:58.8.103.180 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ก็ต้องตอบแบบสมมุตินะสมมุติว่า...
น่าจะเป็นไปได้
เพราะพวกนี้เขาจะมีวิทยายุทธชั้นสูงในชีวิตประจำวัน
บางวันก็สวมวิญญาณเป็นหมอได้ หลอกด่าคนไข้ผู้เสียหายได้ทู๊กวัน
บางวันก็เป็นขั้นเหนือเทพมาเหนือเมฆเกินกว่าเครื่องบินจะขึ้นไปลอยถึง.....เพราะไม่รู้จะสรรหาคำตอบไหนมาโต้ตอบท่านเหล่านี้ให้สาแก่ใจ เพราะไม่รู้จะใช้คำพูดประโยคไหนให้ท่านเหล่านี้เข้าใจว่า หมอทำเกือบตาย แล้วไม่ให้มีความผิดได้ไง และไม่รู้จะใช้คำพูดไหนให้เข้าใจว่า เสือกรอดตายมาได้เพราะว่า ไหวตัวทันไปให้หมอที่อื่นรักษา เพราะว่าหมอที่นั่น ที่นี่ไม่รักษาและทอดทิ้ง เพราะไม้รู้จะใช้คำพูดไหนว่าหมอทำอวัยวะหายไปนะ หมอยังจะบอกว่าไม่รู้ ไม่ชี้ ได้อีกหรือในความเป็นจริง เพราะไม่รู้จะใช้คำพูดไหนบอกว่า หมอทำพิการแบบนี้นะมันเสียหายไปทั้งตระกูลจน ๆ ที่มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าตระกูลรวยแล้วรวยอีก ของหมอ ๆ นั่นแหล่ะค่ะ

และสมมุตินะสมมุติว่าเขาเป็น หมอ กันจริง ๆ
ที่ไม่ใช่คนทำมะดา ก็แสดงว่า เป็นหมอที่แล้งน้ำใจและแบ่งอยู่ในสปีชี่หนึ่งไปเลย ...ที่ประมาณว่า "กรูไม่เข้าใจคราย และครายก็ไม่ต้องมาเข้าจายกรู"


แล้วหนูตอบถูกหรือเปล่าเนี่ยคำถามที่ถามมา
หนูโง่ ตอบได้แค่นี้แหล่ะค่ะ
เพราะหนูตีความหมายออกมาแล้วมันตอบได้แค่นี้ เจงๆ


.....
คุณคนเก่า...
น่าจะบอกว่า ขอบคุณเครือข่ายที่ทำให้หมอไทย ปากจัดลดลง
ขอบคุณเครือข่ายที่ทำให้หมอไทย เห็นคนไข้เป็นเทวดามากขึ้น
ขอบคุณเครือข่ายที่ทำให้หมอไทยดูแลคนป่วยระมัดระวังมากขึ้น
ขอบคุณเครือข่ายที่ทำให้หมอไทยรู้จัก คุณปรีย์นันท์ ล้อเสริมวัฒนา
ขอบคุณเครือข่ายที่ทำให้ประชาชนอาชีพอื่นรู้จักเครือข่ายมากขึ้น
ขอบคุณเครือข่าย ที่ทำให้หมอไทยบางคนเดินทางมาศาลได้ตามนัด เห่อๆ

จบค่ะ หนูตอบได้เท่านี้หนูโง่..

โดย: จีเอ็น [23 มี.ค. 52 15:30] ( IP A:222.123.211.157 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ถ้าตอบไม่ถูก
ตั้งคำถามขึ้นมาใหม่
หนูจะใช้วิทยายุทธชั้นสูงเหนือขั้นเทพ
มาตอบค่ะ ...
โดย: เห่อๆ [23 มี.ค. 52 19:34] ( IP A:222.123.211.157 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   เออ ก็ตอบเข้าประเด็นเป๊ะ เอ้า ขอถามต่อว่า

หากเราสองคนถูกหาว่า "บ้า" จากหมู่หมอ 2-3 คนที่ตีตราเราไว้

ต่อมาภายหลังชาวบ้านพบว่า หมอที่ตัดสินเรานั้น "บ้าเหมือนกัน แต่เนียนๆและเลือดเย็นกว่า"

อย่างนี้สรุปแล้ว เรายังจะแอบอ้างได้ไหมว่า เราไม่บ้า????

เพราะเป็นคนบ้าในอาชีพหมอ ที่กล่าวหาเรา สงสัย เจ็งๆ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [25 มี.ค. 52 7:28] ( IP A:58.8.109.249 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   โหย!!!!! มีหมู่หมอ2-3 คน บังอาจว่าเราหนูกับท่าน บ้า เหรอคะ ?
ถ้าหมู่หมอที่ว่า 2-3 คนมากล่าวหาอย่างนั้น
หนูค้นพบแล้วว่า หมู่หมอ 2-3 คนนี้ไม่น่าจัดอยู่ในกลุ่มคนที่มีสติสัมปชัญญะดีหรอกค่ะ เพราะดูจากการโต้ตอบแล้ว จะมาในแนวไร้เหตุและผล แถมไม่มีน้ำใจในความเป็นมนุษย์ เพราะตามจิตสำนึกบางอย่างของความเป็นคนดีหรือคนที่มีเหตุผล เขาจะต้องวิเคราะห์คนอื่นออกว่าทำไม คนคนนี้ถึงออกมาพูดจา เรียกร้องสิทธิ์กันแบบนี้ ความเป็นมา ความเป็นไปได้ในการมาเรียกร้องสิทธิ์ เพราะเหตุผลอันใด ลึก ๆ จะต้องมีความสงสัยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ว่าการที่มีคน 1 หรือ 2 คน มาเรียกร้องปาว ๆ อย่างนี้ เรามีสาเหตุมาจากอะไร ?....

1. ถ้าเราไม่มีใครมากระทำ เราจะมาแหกปากปาว ๆ อย่างนี้ไหม ?
2. เราทำมาหากินอะไร ที่วันวันจะต้องมาตะโกนแหกปากให้หมอมีจรรญาบรรณมากกว่านี้ หมายถึง หมอบางคนไม่ใช่ทุกคน
3. เรามีความคับแค้นใจอันใด ที่ทำให้เรามาแหกปากปาว ๆ เพื่อขอคำตอบจากบางเรื่อง ตรงนี้
4. เรามีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับหมอและการรักษาบางขั้นตอน แบบไม่ชอบมาพากลหรืออย่างไร และเขาก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้การรักษาขั้นตอนนั้น เพราะมันเป็นสิทธิ และชีวิตของเรา
5. นึกไม่ออกแระ วันนี้นึกได้แค่นี้ ....

การที่เราออกมากระทำการแบบนี้ มันแสดงถึงความบ้า ก็ต้องให้เขาแยกเราออกมาด้วย บ้าในระดับไหนอันนี้ตามทฎษฎีความบ้าของหนูนะ
1.ระดับฆ่าคนตายได้
2.ระดับพูดจาภาษาคนยังรู้เรื่อง
3.ระดับพูดไม่เข้าหูใครเลย ขวางหู ขวางตาคนอื่นๆไปหมด
4.ระดับไม่มีใครเดินเฉียด
5.ระดับไม่มีใครชำเลืองตามามอง
6.ระดับไม่รู้จักตัวเอง จำตัวเอง และคนรอบข้างไม่ได้
7.ระดับโต้ตอบอะไรกับใครไม่ได้ มองหน้าจะหาเรื่องอย่างเดียว
ต้องให้เขาอยกเราออกมาด้วยว่าเรา จัดอยู่ ความบ้า ระดับไหน ?

ถ้าของหนู อยู่ในระดับพูดจาภาษาคนยังรู้เรื่อง
และอีกขึ้นหนึ่งอาจจะเป็น ระดับฆ่าหมอตายได้ .....เพราะถูกใส่ร้ายและไม่ได้ความเป็นธรรม ...

แหม๋ ถ้าคนบ้าในอาชีพหมอกล่าวหาเราสงสัยว่า เราบ้าจริง ๆ
เราก็จัดอยู่ในระดับเราบ้าพูดจายังรู้เรื่อง และฉลาดกว่าคนบ้าคนอื่น ๆอีกเยอะ จงภูมิใจในความบ้าของเราเหอะค่ะ เพราะบ้าอย่างเรามันทำเพื่อสังคม ทำเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ให้คนอื่น ๆ และก็ทำเพื่อให้หมู่หมอบางคน คิดไม่ถึงว่าคนบ้าอย่างเรา จะชี้วัดว่าหมู่หมอที่เขาบอกกันเองว่าเขาดีเลิศและอยู่ระดับแนวหน้าชั้นนำ มีจรรญาบรรณแบบห่วยๆ ได้
ซึ่งตามหลักแล้ว คนบ้าอื่น ๆ อาจไม่สามารถทำได้อย่างเรา ๆ ...

แต่หนูภูมิใจ ที่หมู่หมอ 2-3 คนว่าเราบ้า เพราะคนบ้าฆ่าคนตายไม่ผิด และไม่ติดคุก เพราะบางทีวันนั้นหนูอาจจะฆ่าหมอบางคนตายได้
เห่อๆ

เอ๊า !!! ถ้าผลสรุปตอนท้ายออกมา
ถึงเราจะบ้าได้ไม่เนียน และไม่เลือดเย็นอย่างหมู่หมอ 2-3 คนเขา
แต่เราน่าจะภาคภูมิใจนะ ท่าน เพราะเราบ้าแบบมีคุณภาพ และได้มาตรฐานเป๊ะ ๆ .....



หรือท่านจะแยกตามมาตรฐานความบ้าของกระทรวงสาธารณะสุขเขา
ก็จะแยกได้ดังนี้ค่ะ (กรมสุขภาพจิต)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้คำจำกัดความของคำว่า "บ้า" ไว้ว่าหมายถึง "เสียสติ วิกลจริต สติฟั่นเฟือน หลงใหลหรือมัวเมาในสิ่งนั้นๆ จนผิดปกติ เช่น บ้ากาม บ้ายศ บ้าฟุตบอล หรืออาการของสัตว์บางชนิด เช่น หมาเป็นโรคกลัวน้ำเรียกว่า "หมาบ้า" เพราะฉะนั้นถ้ามนุษย์คนไหนหรือสัตว์ตัวใดมีอาการอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังกล่าวแล้ว มนุษย์และสัตว์นั้นจัดอยู่ในจำพวกบ้า

คนบ้าหรือสัตว์บ้าเป็นอันตรายแก่สิ่งที่อยู่ใกล้

โดยเฉพาะคนที่เป็นบ้าน่าจะเป็นอันตรายมากกว่าสัตว์บ้า เพราะอาการบ้าของคนบางทีก็ดูยากกว่าสัตว์ เห็นเฉยๆ เรียบร้อยดูแล้วไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไร แต่ถึงเวลาจะบ้าขึ้นมาแล้ววิ่งหนีแทบไม่ทันก็มี

อาการบ้าของคนจำแนกได้หลายลักษณะตามอากัปกิริยาที่แสดงออก เช่น บ้าจี้ บ้าดีเดือด บ้าน้ำลาย บ้าบิ่น บ้าระห่ำ บ้าลำโพง บ้าอำนาจ เป็นต้น

ในพจนานุกรมเช่นเดียวกันที่ให้ความหมายของอาการบ้าลักษณะต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนว่า ลักษณะความบ้าดังกล่าวประกอบด้วยอาการอย่างไร เช่น

บ้าจี้ คืออาการที่พูดหรือแสดงโดยขาดสติเมื่อถูกจี้ทำให้ตกใจ หรือเป็นอาการที่ทำตามโดยปราศจากการไตร่ตรองเมื่อถูกยุหรือถูกแนะ

ถ้าจะขยายความนอกพจนานุกรมด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมก็คงจะเห็นได้จากอาการของคนบางคนบางจำพวกที่แสดงอาการแบบ "นายว่าขี้ข้าพลอย" ก็ได้ มีใครตำหนิว่ากล่าวนายของตนเมื่อไรเป็นต้องพรูกันออกมาปกป้องอย่างไม่ต้องไตร่ตรองว่าสิ่งที่เขาตำหนิว่ากล่าวนั้นถูกหรือผิด อาการประเภทนี้เห็นได้ทั่วไปในสภาผู้แทนราษฎร

บ้าดีเดือด คืออาการคลุ้มคลั่งมุทะลุดุดันเป็นคราวๆ โดยปริยายหมายความว่ามีอารมณ์หุนหันพลันแล่น ชอบทำอะไรรุนแรง

ถ้าจะขยายความนอกพจนานุกรมด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็คงจะเห็นได้จากอาการของคนบางคนเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าการวิพากษ์วิจารณ์นั้นจะมาจากพวกขาจรหรือขาประจำ เป็นต้องออกอาการคลุ้มคลั่งสวนกลับด้วยอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นอย่างขาดสติทุกครั้ง

บ้าน้ำลาย คืออาการที่ชอบพูดพล่าม พูดเพ้อเจ้อ

ถ้าจะขยายความนอกพจนานุกรมด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็คงจะเห็นได้จากอาการจ้อไม่หยุดของคนบางคน ไม่ว่าเรื่องอะไรรู้หมดจ้อได้หมด จ้อผิดจ้อถูกไม่เป็นไรขอให้จ้อไว้ก่อน พวกที่ชอบใช้น้ำลายเลียอวัยวะที่อยู่ต่ำกว่าหัวเข่าก็จัดอยู่ในจำพวกบ้าน้ำลายก็ได้ พบเห็นประจำได้แถวสภาผู้แทนราษฎรและที่ทำเนียบ

บ้าบิ่น คืออาการมุทะลุ หุนหันพลันแล่น อวดกล้า ทำการอย่างไม่มีสติยั้งคิด

ถ้าจะขยายความนอกพจนานุกรมด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็คงเห็นได้จากอาการของคนอวดกล้าท้าตีท้าต่อยกับคนนั้นคนนี้ ด่าว่าเขาเสียๆ หายๆ แม้กับต่างประเทศที่ทำอะไรหรือพูดอะไรไม่ถูกใจ หรือจะใช้กับคนที่ออกอาการไม่รับรู้รับฟังความเห็นใดๆ ความบ้าประเภทนี้ ไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่งก็ต้องบิ่นเพราะความหุนหันพลันแล่นอวดกล้าเช่นนี้

บ้าระห่ำ คืออาการมุทะลุ ทะลึ่งตึงตัง

ถ้าจะขยายความนอกพจนานุกรมด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็คงเห็นได้จากอาการของคนประเภทบ้าดีเดือดซึ่งนำมาอนุโลมใช้กันได้ เพราะอาการที่แสดงออกมีความใกล้เคียงกันเหมือนดีเอ็นเอเดียวกัน

บ้าลำโพง คืออาการที่แสดงออกผิดปกติเพราะกินเมล็ดลำโพง มีอาการซึมหรือพล่าม โดยปริยายหมายถึงพูดโผงผาง หรือแสดงกิริยาโมโหโกรธาอย่างในหนังสือเรื่องพิเภกสอนบุตรว่า "ทำโมโหโกรธาบ้าลำโพง เที่ยวโป้งโหยงหยาบช้าสาธารณ์"

ถ้าจะขยายความนอกพจนานุกรมด้วยการยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็คงเห็นได้จากอาการของคนบางคนที่แสดงอาการโมโหโกรธาในเรื่องเงินที่มีผู้ออกมาแฉว่ารัฐมนตรี งาบเข้ากระเป๋า ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันจะรู้เลยว่าเป็นเรื่องใด แม้ไม่กินเมล็ดลำโพงก็รีบออกอาการเหมือนคนบ้าลำโพง

บ้าอำนาจ คืออาการเหิมเกริมไม่กลัวใคร เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ ไม่ชอบใจใครหรือไม่ถูกใจใครก็ใช้อำนาจที่มีอยู่นั้นจัดการตามใจชอบ

ถ้าขยายความนอกพจนานุกรมให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็คงเห็นได้จากอาการของรัฐบาลชุดนี้ ตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวอวดเก่งอวดดีอย่างสุดๆ เข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ได้ไม่กี่วันก็อวดอิทธิฤทธิ์ย้ายราชการระดับสูงไปแล้วหลายคน

ข้อสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ ข้าราชการที่ถูกย้ายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้กุมคดีสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับ "นายใหญ่" "นายหญิง" ทั้งสิ้น
บ้าประเภทนี้แหละที่จะฆ่าตัวเอง


^
^
^
หนูก็ตอบตามความบ้าของหนูแหล่ะค่ะ
ได้เท่านี้....
โดย: จีเอ็น [25 มี.ค. 52 10:31] ( IP A:114.128.40.157 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
    เอ๊า !!! แยกความบ้า พาลไปด่ารัฐบาลได้ไงหว่า
มาจาก กรมสุขภาพจิตน๊า....หนูไม่ได้ว่าเอง

โดย: เห่อๆ [25 มี.ค. 52 10:38] ( IP A:114.128.40.157 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน