บ่นทำไมว่าหมอไม่พอ พยาบาลไม่พอ เงินไม่พอ
   ความคิดฝรั่ง
https://news.bbc.co.uk/2/hi/health/7487391.stm
ความเห็นพี่ไทย
https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1237108487
โดย: ใช้หัวดีกว่าไหม [15 มี.ค. 52 20:48] ( IP A:58.8.9.141 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   เอ้า!!!!

ขอเถียงคุณหมอเชิดชูหน่อยนะ ในฐานะ "ผู้เสียหายทางการแพทย์" และ "ประชาชนธรรมดาที่ไม่ใช่หมอ และมีส่วนได้ส่วนเสีย" กับข้อมูลความจริงที่คุณหมอเชิดชู "ไม่พูดถึง" ในบทความของท่านที่ถูกเชื่อมโยงมา ณ. ที่นี้

ก่อนอื่น ต้องขอชี้ว่า ตัวคุณหมอเชิดชูเอง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนอย่างน้อยหนึ่งแห่งซึ่งตั้งอยู่มาช้านาน และเป็นหนึ่งในกรรมการแพทยสภาที่ "ได้" ตำแหน่งมาจากการเลือกตั้งหลายครั้ง และเป็นผู้หนึ่งที่ต่อต้าน "เครือข่ายฯนี้" มาโดยตลอด

ประเด็นแรก

เรื่องหมอขาดแคลนนั้น ไม่ได้เพิ่งมี และก็ไม่ได้เพิ่งรู้กัน แต่กระทรวง ส.ธ. ซึ่งเรา/ท่านคนธรรมดาก็รู้กันอยู่ว่า เป็นกระทรวงหนึ่งเดียวที่พิเศษเฉพาะว่าเกือบทั้งหมดตั้งแต่ ร.ม.ต. เรื่องไปถึงหัวหน้ากอง "เป็นหมอ" โดยอาชีพอยู่ก่อน

ฉะนั้น ความเป็นไปง่ายๆที่รับรู้กันได้ก็คือ ประชากรของประเทศเพิ่ม จำนวนแพทย์และบุคคลากรที่เกี่ยวเนื่อง "ก็ต้องเพิ่มอยู่แล้ว" ปัญหาการขาดแคลน "แพทย์" ย่อมเล็งเห็นได้และต้องวางแผนกันล่วงหน้าโดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงคือ ส.ธ. และแพทยสภา และควรมีแผนแม่บทที่ไม่ต้องขึ้นกับการเมืองในการผลิตแพทย์ไว้ล่วงหน้าเป็นสิบปี ซึ่งต้องเป็นอย่างนี้กันทั่วโลก ไม่เฉพาะประเทศไทย

การอ้างว่าแพทยขาดแคลนเพราะ "กลัวการถูกฟ้องร้อง" และ "บีบโดยเหตุการณ์รอบข้าง" ให้ไปอยู่เอกชน ย่อมเป็นการพูด "ด้านเดียว"

อีกด้านหนึ่งที่ "ไม่ได้พูดออกมา" ก็คือ การดำเนินนโยบายทางการเมืองทางอำนาจรัฐในการส่งเสริมเมดิคอลฮับให้เจริญเติบโต ที่หมายถึงผลประโยชน์มหาศาล โดยมองข้ามปัญหาการขาดแคลนแพทย์และบุคคลาการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งไม่ได้มีการ "ดำเนินการรองรับไว้ให้ทัน" (แผนคงมีอยู่ แต่นโยบายธุรกิจการเมืองอาจจงใจซุกเก็บไว้) จึงทำให้เมดิคอลฮับต้องเติบโตขึ้นโดยการแย่งหมอและบุคลากรไปจากระบบ ส.ธ. ของรัฐ เนื่องจากรายได้ดีกว่า งานเบากว่า และถูก "หลอก" ในเบื้องต้นว่า "เสี่ยงและรับผิดชอบน้อยกว่า" หากโดนคนไข้ฟ้อง ซึ่งวันนี้เรา/ท่านก็เห็นกันแล้วว่า "ไม่จริง" ซึ่ง "หมอที่ด้อยวุฒิภาวะกว่า ขาดการตรวจสอบให้แน่แท้" ก็เข้าใจอะไรผิดๆได้เหมือนกัน

ประเด็นที่สอง ------> ต่อ คห. ถัดไป
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [16 มี.ค. 52 7:41] ( IP A:58.8.99.219 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ต่อ ประเด็นที่สอง

เรื่อง หมอถูกฟ้องร้องโดยคนไข้ผู้เสียหาย

เมื่อมองภาพใหญ่ทั้งระบบ การที่หมอทั้งระบบ (ซึ่ง ณ. วันนี้ก็ยังหมายถึงหมอภาครัฐ แต่ต่อไปในอนาคตก็ไม่แน่ ระบบการเมืองอาจยึดผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มที่เอื้อให้ประชากรหมอทรงตัวหรือเพิ่มน้อยๆ แต่ให้หมอของระบบสาธาณสุขของรัฐโดนผ่องถ่ายด้วยเงื่อนไขแวดล้อมให้ไปอยู่เอกชนจนเพิ่มขึ้นจนมากกว่าก็ได้) ถูกกระตุ้นให้หวากกลัวการถูกฟ้องร้องนั้น เป็นการ "ป้องและบิดเบือนความจริง" อย่างชงและเตี๊ยมกันมาอย่างเห็นกันชัดเป็นกลุ่มก้อนแล้ว ณ. วันนี้ จะเห็นได้ว่า แพทยสภาและ สน. ปลัด ส.ธ. ในหลายกรณีตัวอย่างที่เห็นชัดว่า "ฉ้อฉล" ในหน้าที่และให้ข่าวผิดๆผ่านสื่อมวลชนเพื่อสร้างกระแส "ขัดแย้งระหว่างอาชีพหมอ"และคนไข้" โดยพยายาม "ซุก" ความจริงพื้นฐานของแต่ละกรณีไว้ และบางกรณีถึงกับ "โกหก" ในตำแหน่งหน้าที่อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ความเสียหายถึงตาย ถึงพิการ ถึงความเสียหายในการทำมาหากินและต่อเนื่องกันไปทางด้านคนไข้นั้น "มีอยู่จริง" และมาก

แต่กลับถูกปิดและบิดไปบิดมาให้เป็น "เรื่องเล็ก" หรือพยายามให้เรื่องปรากฎว่า "คนไข้เสียหายนิดเดียว แต่จะเอาค่าชดเชยเยอะๆ" โดยไม่แยกแยะว่า เรื่องผิดพลาดโดยสุดวิสัยนั้นมีอยู่

เรื่องรักษาเกินโรค เอาชีวิตคนไข้มาล้อเล่น ก็มีอยู่ (โดยเฉพาะในภาคเอกชน)

และเรื่องคนไข้ที่เสียหายน้อยและขี้ฉ้อ จะเอาเยอะๆ ก็มีอยู่เช่นกัน

แต่ตัวผู้มีหน้าที่ต้องอำนวยความยุติธรรม หรือ/และ แก้ไขเยียวยา กลับละเว้นอย่างจงใจหรือไม่ก็ฉ้อฉลอย่างลอยนวลโดยที่เล่นพรรคเล่นพวกกันอย่างโจ๋งครึ่มตั้งแต่แพทยสภาไปจนถึงศาล

ที่หมอภาครัฐโดนหลอกให้เข้าใจผิดมาตลอด ซึ่งท่านอาจารย์วิฑูรย์ อี้งประพันธ์ก็ทั้งเขียนบทความและพูดไว้หลายหน ว่า มีกฎหมายพิเศษที่ให้รัฐเป็นผู้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายกรณีผิดพลาดโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกรณีเป็นเหตุสุดวิสัยโดยได้ทำตามขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐานแห่งวิชาชีพแล้ว ศาลก็ไม่สามรถลงโทษทางอาญาอยู่แล้ว

ยิ่งกว่านั้น ด้วยแง่มุมทางกฎหมายและกระบวนพิจารณาคดีควบกับอำนาจรัฐนั้น "อาชีพหมอ" ได้เปรียบ "คนไข้" อยู่แล้วเมื่อต่อสู้กันทางคดีความ

ฉะนั้น ตราบเท่าที่เราไม่ยอมรับความจริงกัน ตราบเท่าที่วงการแพทย์ซึ่งมีจำนวนประชาการเพียงไม่ถึงสี่หมื่นคน แต่ยังคงปล่อยให้ "กลุ่มหมอผลประโยชน์เล็กๆทางฉ้อฉลทำอะไรที่ท้าทายความถูกต้องชอบธรรม ท้าทายกฎหมายไปได้เรื่อย ปัญหานี้ "ไม่รู้จบ" แน่นอน
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [16 มี.ค. 52 8:08] ( IP A:58.8.99.219 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   จริงหรือ ที่ว่าแกเป็นหุ้นรพ.เอกชน หรือว่าเป็นที่ปรึกษา
จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แกไม่ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการ
แพทยสภาชุดปัจจุบัน

แพทยสภาเขาก็แย่งอำนาจกันอยู่เหมือนกันนั่นแหละ
โดย: แต่ที่รู้ ๆ แกปากมากเกินไป [16 มี.ค. 52 12:41] ( IP A:58.9.221.175 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ท่านผู้เจริญ
อย่าไปเถียงพวกคนสปีชี่ควายเลย
หนังมันหนาฟันแทงไม่เข้าหรอก
เด๋ยวข้าพเจ้าจะใช้กุมารทอง
เสกเด็กเข้าท้องลูกสาวมัน
เด๋วมันก้อเลิกมายุ่งกะพวกเราเองแหละ
เรื่องในครอบครัวจัดการให้ดีก่อนดีกว่ามั้ย
ทิ้งลูกทิ้งเมียมานั่งแก้ต่างให้พรรคพวกตัวเอง
ไม่บอกก็รู้ว่าสปีชี่ใด
โดย: ทรทร [21 มี.ค. 52 13:59] ( IP A:124.120.215.215 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน