consumer.pantown.com
Thai Iatrogenic Network รวมกระทู้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ <<
กลับไปหน้าแรก
ฉีดเจ้าโลกแล้วเน่า
ไทยรัฐ
11/3/52
โจ๋เมืองบุรีรัมย์ทุกข์หนัก ฉีดขยายจ้าวโลกแล้วเน่า
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีวัยรุ่นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ไปฉีดขยายขนาดอวัยวะเพศ แล้วเกิดอักเสบหวิดเน่า ต้องไปให้แพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ผ่าตัดรักษา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
โดยวันรุ่นคนดังกล่าว คือ นายหนุ่ม (นามสมมติ) อายุ 20 ปี อยู่ที่หมู่บ้านละเวี้ย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ สภาพอิดโรยมีบาดแผลบริเวณอวัยวะสำคัญ แพทย์ใช้ผ้ากอตช์ปิดรักษาไว้ นายหนุ่มเล่าว่า เมื่อ 3 ปีก่อน มีเพื่อนร่วมงาน และหนุ่มรุ่นน้องมาเล่าให้ฟังว่าไปฉีดขยายขนาดอวัยวะเพศมา ได้ผลขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเท่าตัว พร้อมโชว์ให้ดูว่าได้ผลจริง จึงเกิดความสนใจ แม้จะทราบดีว่าอันตราย เพราะในอดีตมีข่าวตลอดว่าผู้ไปฉีดขยายขนาดจ้าวโลกแล้วเน่าต้องตัดทิ้ง แต่เพราะความคึกคะนอง และความอยากใหญ่ตามเพื่อนจึงตัดสินใจทำ
นายหนุ่ม เล่าต่อว่า ต่อมาจึงไปซื้อยาคอแลม ชนิดน้ำ มา 2 หลอดขนาดหลอดละ 5 ซีซี. พร้อมไซริงฉีดยา แล้วให้เพื่อนจัดการฉีดให้ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ปรากฏว่า อวัยวะสำคัญมีขนาดใหญ่ขึ้นสมใจ และยังใช้งานได้เป็นปกติ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา อวัยวะเพศเกิดอักเสบ และบวม เจ็บปวดเป็นอย่างมาก จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องผ่าตัดรักษาให้ พร้อมนัดมาผ่าตัดรอบสองในอีก 3 เดือนข้างหน้า และต้องรักษาต่อเนื่องอีก 2 เดือน รวมเบ็ดเสร็จประมาณ 5 เดือน จึงจะหายเป็นปกติ และไม่รับประกันว่าจะใช้งานได้เหมือนเดิม
หนุ่มอยากใหญ่แต่ต้องทุกข์หนัก กล่าวด้วยว่า อยากจะขอเตือนเพื่อนวัยรุ่นด้วยกันว่า อย่าไปทำ เพราะไม่คุ้มค่ากับความทรมานที่ได้รับ ทั้งยังทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนกับค่ารักษาพยาบาล เพราะบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ใช้ไม่ได้ เนื่องจากโรงพยาบาลระบุว่าเป็นการผ่าตัดทำศัลยกรรม แต่ไม่เข้าเกณฑ์ ซึ่งครอบครัวตนยากจน แม่ต้องขายข้าวเปลือกในยุ้งข้าวมาเป็นค่ารักษาพยาบาล เบื้องต้นประมาณ 20,000-30,000 บาท
นายหนุ่มยังเป็นห่วงรุ่นน้องในหมู่บ้าน และเพื่อนร่วมงานอีกหลายคน ที่ทราบมาว่าไปฉีดขยายขนาดมา แต่ยังไม่แสดงอาการ ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องทยอยไปรักษาเหมือนอย่างตนในเร็วๆ นี้ อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เวลานี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่วัยรุ่นว่ามีการฉีดอวัยวะเพศให้ใหญ่ และมีวัยรุ่นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ไปฉีดมาแล้วจำนวนมาก และนำมาอวดกัน ว่าไปทำมาแล้วได้ผล ขนาดใหญ่ขึ้น อย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนสนใจไปทำตาม สำหรับยาคอแลม ก็มีขายตามร้านขายยาทั่วไป ในราคาหลอดละ 15 บาท หากวัยรุ่นคนไหนสนใจจะฉีดก็ไปซื้อมา พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งจะฉีดเองหรือให้เพื่อนฉีดให้ก็ได้ โดยหลังฉีดอวัยวะเพศจะบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้น อวัยะจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเท่าตัว โดยไม่มีอาการข้างเคียง เป็นที่นิยมมากกว่าน้ำมันมะกอก
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า แพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ต้องรักษาผู้ป่วยเคสเดียวกันนี้ถึง 4 รายรวด ภายในวันเดียวกัน
โดย: สมน้ำหน้า [11 มี.ค. 52 18:44] ( IP A:58.9.203.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
เห่อ ๆ
โดย: จีเอ็น [11 มี.ค. 52 20:06] ( IP A:117.47.47.196 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
เฮ้อ เวรกรรม สังคมวิบัติ ไร้การรับรู้แนวคิดและภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมไปแล้วจริงๆ
สื่อมวลชนเองก็ขาดสำนึกในการถ่ายทอดข่าวอย่างสร้างสรรค์และเตือนสติ "คนบริโภค" ข่าว
ประชาชนคนรับรู้ข่าว ก็มีส่วนที่ขาดวุฒิภาวะและสติในการรับรู้ข่าวด้วย
หากจะย้อนเปรียบเทียบ "วงการแพทย์" โดยเฉพาะในวงการแพทย์ภาครัฐ ที่ตื่นตูมกับการกลัวถูกคนไข้ฟ้องร้อง
ก็มีส่วนหนึ่ง (ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนใหญ่) เชื่อการปลุกปั่นสร้างภาพการถูกฟ้องร้องที่น่ากลัวสำหรับตน โดยมองข้ามความจริงที่แฝงอยู่หลังข่าวพวกนั้น ลืมนึกไปว่าที่มาของข่าวที่นับจำนวนน้อย แต่ถูกกระพือให้ดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต มาจากทิศทางไหน? ต้นตอ
คนให้ข่าว
"เป็นใคร"
อย่างลืมว่า กิจกรรมเต็มรูปแบบที่พยามยามสนับสนุนให้มีกฎหมายพิเศษเฉพาะขึ้นเพื่อยกเว้นโทษอาญาของคนในอาชีพหมอ มีมาอย่างต่อเนื่อง เป็นแบบเป็นแผน ไม่ว่าจะที่แพทยสภา ที่รัฐสภา ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา หรือมาทางข้อเขียนผ่านสื่อต่างๆ จากบุคคลข้างเคียงวงการแพทย์มั่ง จากบุคคลในวงการยุติธรรมที่มีภาพเป็นที่น่าเชื่อถือ (แต่พื้นหลังมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับคนในอาชีพหมอ
ซึ่งถูกละไว้ไม่พูดถึง)
ต่างๆเหล่านี้ ก็มีอยู่ ที่น่าเสียดายก็คือ หมอที่มีอายุมีวุฒิภาวะพอสมควรแล้ว กลับมองไม่เห็นหรือนึกไม่ออก หลงเชื่อปักปำกับสื่อกับข่าวที่ได้รับมาทั้งหมด
โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง
เอาแต่เชื่อ "รุ่นพี่" หรือ เชื่อเพราะ "เป็นอาจารย์หรือไม่ก็เป็นหัวหน้างาน"
ความเชื่อถือของวงการแพทย์ที่ประชาชนมีให้ในทุกวันนี้ จึงได้วิบัติชิบหายอย่างที่เป็นอยู่
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [13 มี.ค. 52 8:18] ( IP A:58.8.101.182 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
คห.2
จากข่าวรายเดือน เป็นข่าวรายสัปดาห์ เป็นข่าวรายวัน....
คิดว่าการที่แพทย์จะตื่นตระหนก ก็คงไม่ผิดอะไร...
เพราะถ้าไม่ตื่นตระหนก ก็คงกลายเป็นกบแป๊ะซะในไม่ช้า
คำว่า "ทำถูก ไม่ต้องกลัว ไม่มีคนฟ้อง" ใช้ไม่ได้ในสังคมที่พิการแบบนี้
โดย: หมอก้อนหิน [13 มี.ค. 52 8:26] ( IP A:124.157.230.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น
ทำถูกกฎหมาย ร้องเรียนตามกฎตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด
ก็ใช่ว่าคนทำหน้าที่ตาชั่ง ไม่ว่าจะที่แพทยสภา ที่ศาล จะไม่ลำเอียง จะไม่โกง
สำคัญที่ ลำเอียงเข้าข้างความถูกต้อง หรือ ลำเอียงเข้าข้างพรรคพวก และการฉ้อฉล
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [13 มี.ค. 52 10:38] ( IP A:58.8.101.182 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
คห.4
นั่นก็เรียกว่าลำเอียงไม่ใช่หรือ..???
โดย: หมอก้อนหิน [13 มี.ค. 52 12:09] ( IP A:124.157.230.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
คห.4
ต่างคน ต่างฝ่าย ต่างก็บอกว่าตัวเองถูก อีกฝ่ายผิด
ถ้าเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ย่อมต้องมีคนกลางมาตัดสิน
ซึ่งถ้าคนกลางตัดสิน ลำเอียง ตามความรู้สึกตัวเอง
ก็เรียกได้ว่า เป็นคนกลางที่ใช้มิได้
โดย: หมอก้อนหิน [13 มี.ค. 52 12:16] ( IP A:124.157.230.19 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
ท่านพุทธทาสฯ ให้ค.ห. กับท่าน อ. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง (คลิปรายการรู้ทันประเทศไทย) ที่ชัดเจน เข้าใจง่ายๆว่า
ประชาธิปไตยต้องเป็นไปเพื่อประชาชน และประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ เพราะ
ประชาชนเป็นใหญ่นั้น มันไม่แน่ ประชาชนอาจบ้อบอ (อาจขี้ฉ้อขี้โกงได้อย่างแพทยสภาหรือที่ศาลบางกรณีก็เข้าข้างหมอ, ตรงนี้ ค.ห. ผมเอง ใครจะแย้งเชิญ ใครจะฟ้องหรือศาลท่านใดจะเอาเรื่อง ผมก็ยอมรับ ได้เลยและท่านจ้าวบ้านไม่เกี่ยว ขออย่าได้ลบตรงนี้เด็ดขาด ไม่งั้นผมฟ้องจ้าวบ้านด้วยเอ้า)
เอ้า ต่อถ้อยคำของท่านพุทธทาสฯ
ของประชาชน โดยประชาชน ถ้าประชาชนเห็นแก่ตัวล่ะก็
ชิบหายหมด
ค.ห. ผมอีกนะ
ถ้าศาลท่านจะ ตัดสิน "ลำเอียง" เข้าข้างความชอบธรรมของประชาชนทั้งหมด โดย "ผลการตัดสินนั้นไปขัดกับประโยชน์ทางฉ้อฉลของกลุ่มทุจริตผิดกฎหมายชัดเจน"
มันจะน่าเกลียดที่ตรงไหนกัน????!!!!!!
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [16 มี.ค. 52 8:28] ( IP A:58.8.99.219 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน