ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง ห้องฉุกเฉินแต่ไม่มีหมอ ???
   วันที่ 14 ก.พ.52 พาแม่ไปโรงพยาบาลกล้วยนำไท 1 ห่างจากบ้านแค่ 3 ป้ายรถเมล์เท่านั้น ที่ต้องพามาที่นี้เพราะเห็นว่าใกล้บ้านมากที่สุดแล้ว แม่เราไม่สบายเรารู้แต่ว่าแม่เวียนหัว ไม่มีแรง หายใจไม่ค่อยออก ปกติเราก็เคยเห็นว่าแม่เวียนหัวบ่อยแต่กินยาหอมแก้วนึงก็หาย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เราพาแม่ไปถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ยังไม่ 7 โมงเช้า รีบพาเข้าห้องฉุกเฉินแล้วเราก็ไปติดต่อทำบัตรและยื่นเอกสารขอใช้สิทธิ์การรักษาของประกันชีวิต และก็กลับมานั้งรอนอกห้องตรวจตามระเบียบ สักพักนึงได้ยินเสียงแม่ร้องโวยวายดังออกมาว่า "น้องมียาดมให้ดมมั้ย หายใจไม่ออก มีหมอมั้ยเนี่ยถ้าไม่มีก็บอกมาอย่าโกหก เพราะไม่ไหวแล้วจะตาย จะได้ไปที่อื่น ป้ามีเงินนะ และก็มีบัตรประกันชีวิตจะให้รอไปถึงไหน " เราก็ตกใจว่าแม่เป็นอะไรอีก และก็ได้ยินเสียงคนวิ่งกันอลม่านไปหมด แล้วก็เห็นเค้าเข็นแม่ออกมา พยาบาลบอกว่าทางนี้ไม่มีหมอ แต่ทางโน้นมี (เค้าหมายถึงแผนกผู้ป่วยนอก)เราก็รีบตามแม่เราไป แต่เค้าก็ไม่ได้พาไปห้องตรวจนะ แต่ให้นั่งรอคิว เหมือนคนไข้ทั่ว ๆ ไป เราก็เห็นว่าแม่เราจะเป็นลม ก็เลยวิ่งไปขอแอมโมเนีย พยาบาลคงเห็นว่าแม่จะไม่ไหวแล้วก็เลยพาแม่ไปนอนในห้องรอตรวจ แต่หมอก็ยังไม่มา ผ่านไปอีก 10 นาที หมอถึงมา หมอก็ถามอาการว่าเป็นอะไร แม่เราก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีแรงจะพูด ลืมตาก็ไม่ขึ้น มือเย็น เท้าเย็น และก็ตัวสั่นเหมือนกับผีเข้า เราก็เลยตอบแทนว่าแม่เวียนหัวมาก มีอาการแบบว่าบ้านหมุนตลอดเวลา หายใจไม่ออก
หมอเค้าก็ฟังตามที่เราบอก แล้วก็บอกว่าจะต้องฉีดยา เราก็ไม่ยอมให้หมอฉีดยาแม่ เพราะว่าหมอไม่ได้ตรวจอะไรแม่เลย หูฟังหมอก็ไม่มี ไม่มีแม้แต่การตรวจจับชีพจร วัดความดัน แม้แต่จับตัวคนไข้ก็ไม่ได้จับ แล้วบอกจะฉีดยาให้ ใครจะไปยอม เราก็เลยบอกว่าขอแค่ยากินก่อนแล้วกัน หมอก็เลยบอกพยาบาลให้เอายามาให้กิน แล้วก็ออกไป เราขอผ้าห่มให้แม่ แต่พยาบาลบอกว่าไม่มี เพราะจะมีผ้าห่มเฉพาะที่ห้องพักผู้ป่วยเท่านั้น แต่พยาบาลเค้าก็ยังอุตสาห์ไปหาผ้าคลุมเตียงมาให้แม่ห่มเป็นการแก้ขัดไปก่อน เราก็เลยทนไม่ไหวถามว่าทำไมไม่ให้ไปพักที่ห้องพักผู้ป่วยหละ และทำไมไม่เห็นมาตรวจอาการอะไรเลย แต่เค้ากับถามกลับเรามาว่าจะนอนพักเหรอ เราก็บอกว่านอน ขอห้อง VIP เค้าก็สาธยายค่าใช้จ่ายให้เราฟังอีกยืดยาว สงสัยจะกลัวว่าไม่มีเงินจ่าย เราก็เลยบอกว่าจะเท่าไหร่ก็เอามาเหอะ รีบ ๆ หน่อย แม่ไม่ไหวแล้ว และหมอหายไปไหน สักพักหมอก็เข้ามา แต่ก็แค่มาดูอาการว่าหลังกินยาเป็นไงบ้าง และก็ยังยืนยันว่าจะต้องฉีดยา เพราะกินยาแล้วไม่ดีขึ้น แล้วก็ออกไปอีก เราก็ยังยืนบีบ ๆ นวด ๆ แขนขาให้แม่่ ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง แม่ก็บอกว่าอยากอ้วก เราก็เลยวิ่งไปหาพยาบาลเพื่อขอถุง และก็พาแม่ไปเข้าห้องน้ำ พยาบาลก็ถามนะว่าจะไปไหน เราก็บอกเค้าไป แต่ให้ตายเถอะ ขนาดคนไข้จะไปห้องน้ำ ยังไม่มีพยาบาลมาช่วยเลย เราก็เลยตัดสินใจมาหารถเข็นและก็พาแม่ลงจากเตียงเข็นไปห้องน้ำและก็พากลับมานอนที่เตียงเหมือนเดิม พอกลับมาเค้าก็บอกว่าเตรียมห้องพักไว้ให้แล้ว แต่ก่อนไปขอตรวจเลือดและจะฉีดยาก่อน เราก็หันไปหาแม่ว่าจะเอาไง แม่ก็เลยบอกว่าไม่ไหวหรอกถ้าจะฉีดยาเข้าไปอีก เพราะเพิ่งกินยาไปไม่ทันครบชั่วโมงเลย จะฉีดยาอีกเแล้วคงจะช็อคแน่ ๆ เพราะร่างกายไม่ไหว เราก็เลยบอกกับพยาบาลว่ายังไม่ฉีดยาตอนนี้ขอให้ขึ้นไปพักห้องผู้ป่วยก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที พยาบาลเค้าก็ไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็จำเป็นต้องทำตามที่เราบอก แม่ได้ขึ้นไปพักบนห้องพักผู้ป่วยตอน 10โมง
พอเราขึ้นมาถึงห้องพัก VIP โอ้ย...จะเป็นลม ห้องอับทึบมากพร้อมกับมีเสียงดังเนื่องจากชั้นบนมีการก่อสร้างขนานใหญ่ ก็ถามพยาบาลว่ามีห้องพักที่ดีกว่านี้หรือที่ไม่เสียงดังมีมั้ย เค้าก็บอกว่าทุกห้องก็เสียงดังเหมือนกันหมด แต่เย็น ๆ ก็ไม่มีเสียงแล้ว เราก็เลยบอกเค้าว่า ต้องรอจนกว่าจะเย็นคนไข้คงตายแน่ไหนจะไม่สบาย ไหนจะเสียงดังอึกทึกอีก แต่ก็ต้องทำใจอีกแล้ว เพราะไม่รู้จะย้ายไปตรงไหนดี พอเปิดแอร์ แอร์ก็ไม่เย็นอีก รู้สึกแย่มากๆ
สักพักใหญ่ ๆ หมอก็เข้ามาในห้อง พร้อมกับพยาบาลคนนึง มามือเปล่าเหมือนหมอคนแรกเลย ถามเหมือนคนแรกอีกเหมือนกัน ว่าเป็นอะไร แม่ก็ตอบหมอไป และหมอก็สรุปอาการมาว่า เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้เวียนหัวอย่างแรง ทำให้ไม่มีแรง หายใจไม่สะดวก ให้นอนพักสักชั่วโมงนึง ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะต้องฉีดยา โห..เรานะทึ่งในตัวหมอของโรงพยาบาลนี้มาก ๆ ไม่ต้องตรวจอะไรเลย แค่ถามคนไข้ว่าเป็นอะไรก็ตอบได้เลยว่าคนไข้ป่วยเป็นโรคอะไร ทั้ง ๆที่ไม่มีการแต่ตัวคนไข้ดูแม้แต่น้อย
พยาบาลได้เข้ามาดูอาการเมื่อผ่านไปหนึ่งชั่วโมงตามที่หมอบอกไว้ พยาบาลได้วัดความดัน เจาะเลือดและฉีดยาให้แม่ 2เข็ม แล้วก็จากไป เราก็นั่งเฝ้าอาการแม่ไม่กล้าไปไหนกลัวว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาอีก แต่โชคดีที่หลังจากฉีดยาแล้วแม่ดีขึ้นพอจะลุกขึ้นไปห้องน้ำได้ และก็นั่งพูดกับลูกได้บ้างแล้ว พอกินข้าวกลางวันเสร็จ พร้อมทั้งกินยาหลังอาหาร เราก็ให้แม่นอนต่อเพื่อดูอาการว่าจะต้องค้างที่โรงพยาบาลสักคืนหนึ่งรึเปล่า ประมาณ 4 โมงเย็นแม่บอกกับเราว่าจะกลับบ้านแม่ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ความจริงเราก็อยากให้แม่อยู่ดูอาการสักคืนนึง แต่เห็นการบริการของโรงพยาบาลนี้แล้วเราขอพาแม่กลับบ้านดีกว่า ก็เลยเดินไปบอกพยาบาลที่เคาร์เตอร์ว่าคนไข้จะกลับบ้าน เค้าก็เลยจัดการให้ตามที่เราบอก รวมทั้งนำใบแสดงความคิดเห็นมาให้เขียน แน่นอนในนั้นเขียนไปเยอะจนพยาบาลตกใจเลยหละ และเราก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่เช้าที่เหยียบเข้ามาถึงโรงพยาบาลตอนก่อน 7 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ค่าเสียหายทั้งหมด 4,300 บาท แถมให้เราสำรองจ่ายเงินก่อนโดยทางโรงพยาบาลอ้างว่าเคลมประกันไม่ทัน ปิดแล้ว เราก็ไม่ว่าอะไร ไม่ทันก็ไม่ทันฉันไปทำเองก็ได้ ตอนนั้นอยากจะไปจากที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด และก็ไม่คิดจะกลับมารักษาที่นี้อีกเลย ไม่คิดเลยว่าโรงพยาบาลเอกชนมีชื่อจะเป็นอย่างนี้
เพื่อนบ้านที่รู้ว่าแม่เราไม่สบายและรู้ว่าพาแม่ไปโรงพยาบาลนี้ก็ถามเราว่าทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลอื่น พาไปทำไมที่นี่ คนที่เพิ่งตายไปเมื่อเดือนที่แล้วที่อยู่ซอยถัดไปก็เป็นเหมือนแม่นี่แหละและก็ไปตายที่โรงพยาบาล ดีแต่ว่าแม่เราไม่มีโรคประจำตัว แต่คนที่เพิ่งตายไปเค้าเป็นโรคความดันด้วยก็เลยทนไม่ไหว เพราะที่ห้องฉุกเฉินไม่มีหมอมาคอยรักษา เอาไปนอนรอในห้องไว้เฉย ๆ สงสัยว่าจะต้องรอให้ถึงเวลาราชการก่อนมั่งถึงจะได้เวลาทำงานและก็รักษาได้ ตอนนั้นเราก็ไม่คิดหรอกว่าห้องฉุกเฉินจะไม่มีหมอ ก็เข้าในนะว่าหมอก็เป็นคนธรรมดาต้องมีชีวิตส่วนตัว มีเวลาเข้างานเป็นเวลา แต่ทางโรงพยาบาลก็น่าจะมีการตรวจสอบและเตรียมหมอให้พร้อมตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าโรงพยาบาลไม่ว่ารัฐหรือเอกชนก็ตาม ใครจะไปรู้ว่าจะป่วยและต้องเข้าโรงพยาบาลกี่โมง
โดย: sojiraja@yahoo.com [23 ก.พ. 52 23:19] ( IP A:119.31.39.14 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   งานเข้า
โดย: อิอิ [24 ก.พ. 52] ( IP A:58.9.139.145 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   เห็นใจเจ้าของกระทู้นะ

แต่ที่คุณโดนมานี่ แค่เบาะๆ แล้วความเห็นผมนะ เรื่องปรกติของวงการแพทย์ยุคนี้ ยุคที่รัฐบาลไทยหลายยุคส่งเสริมเมดิคอลฮับจนเราได้แพทยสภาโจรสุมหัวกันดูดเงินจากวงการแพทย์เป็นสรณะ

ขอบอกกันอย่างเปิดเผยว่า หากท่านเข้ามาเป็นสมาชิกเครือข่ายนี้ ที่ท่านจะเจออาจแรงกว่านี้ คือ ไปถึงห้องฉุกเฉินด้วยเหตุวิกฤตถึงชีวิตแล้วมีหมออยู่ แต่ "อยู่เฉยๆยืนดู" ผมไม่ได้ขู่นะ ยินดีช่วยท่านด้วย แต่ผมและบางคนแถวนี้ก็เคยเจอมากะตัวจริงๆ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [24 ก.พ. 52 8:26] ( IP A:58.8.108.68 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   แล้วมันผิดจากที่หมอเค้าว่าไม๊ละครับ แม่คุณเป็นโรค BPPV ผมเองก็ฟังจากที่คุณเล่าเหมือนกัน ไม่ได้จับตัวแม่คุณเหมือนกัน ผมก็รู้ว่าแม่คุณเป็นโรคอะไร ไม่เห็นต้องตกใจเลย ฉีดยา dimen ประมาณ 3 เข็มก็หาย แต่ ส่วนใหญ่ก็เข็มเดียว เค้าจะฉีดให้แม่คุณตั้งแต่เช้าแล้ว แต่คุณก็ยื้อไว้ไม่ยอมให้เค้าฉีด มันเพื่ออะไรครับ โรคนี้ไม่ต้องต้องเอาหูฟังมาแนบคนไข้ก็ได้ครับ กรณีแม่คุณก็ยังไม่ข้ามคืนก็หาย

ส่วนคุณเป็นโรคของคนมีเงินครับ จะเรียกร้องสูงกว่าชาวบ้าน ต้องการการดูแลชั้นหนึ่ง นี่ถ้า มา รพ ผม (รพ รัฐ) มา 7 โมงเช้า อาจจะได้ตรวจ 11 โมง ก็เป็นได้ ส่งไปรอคิว ไม่ได้เข้าห้องฉุกเฉินหรอกครับ

ส่วนคุณคนรู้ทันแต่ดันบ๊องตื้น นี่ คอยซ้ำ ตลอดเลยนะเรา เห็นช่องไม่ได้ ต้องสร้างความแตกแยกให้ได้นะเรา
โดย: จิตตกนะเรา [24 ก.พ. 52 9:39] ( IP A:125.26.107.85 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   อพิโธ่ คนที่ไปมาแถวนี้ ใครเค้าจะบ้องตื้น ฟังลมคนเป่าหูแล้วเชื่อล่ะ

ที่เข้ามาในนี้ มาขอความเห็น ความช่วยเหลือ ก็เพราะโดนหลอกหรือไม่ก็โดน "ละทิ้ง" จากคนที่มี "หน้าที่" ต้องดูแล ไม่ใช่หรือ???

ตกลงที่คิดว่า คนอื่นเขาบ้องตื้น น่ะ เพราะโดน "สะกิดแผล" หรือครับ??
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [24 ก.พ. 52 11:44] ( IP A:58.8.108.68 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   แหม เผอิญนึกขึ้นได้ ฟังวิทยุ FM 97.75 ของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกเล่าเรื่อง พ.ธ.ม. รายหนึ่งเจ้าของโรงงานทำกระเบื้องมุงหลังคาที่รวยระดับพันล้าน แต่ตอนเกิดเรื่องนี้เขาเพิ่งจะเริ่มรวย แต่ดันชอบแต่งตัวใส่ขาสั้นแบบผ้าขี้ริ้ว (ห่อเพชร)

คุณสนธิแกเล่าว่า เถ้าแก่รายนี้ ชอบขี่มอเตอร์ไซด์เป็นชีวิตจิตใจตอนสมับหนุ่ม แล้วก็เลือกขี่ยี่ห้อ BMW เยอรมัน วันดีคืนหนึ่งกลางดึกแกดันชี่กินลมชมวิวใจกลางกทม.แล้วประสบอุบัติเหตุ ขาโดนทับขาด แต่ตอนนั้นแกหมดสติ พลเมืองดีพาไปส่ง ร.พ. เอกชนพร้อมเก็บขาที่ขาดไปด้วยอย่างรู้งาน (อย่าให้ผมบอกเลย เจ้าของร.พ.ตอนนั้นเป็นใคร?ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในกรรมการแพทยสภาตอนนี้อยู่ด้วย) ความที่แกแต่งตัวปอนๆ ญาติก็ไม่รู้เป็นใครเพราะกลางดึกแล้ว ร.พ. เลยรอจนเช้าเพื่อดูสภาพญาติหรือทางบ้านว่ามีปัญญาจ่ายค่ารักษาไหม? ก็เผอิญเจ้าของโรงงานรายนี้ดวงแข็ง รอดอยู่ถึงเช้าจนทางบ้านตามหาเจอ แต่ ขอโทษครับ ท่อนขาที่มีคนอุตส่าห์เก็บมาให้ด้วยก็เลยเน่าสนิทไปแล้ว ทุกวันนี้เถ้าแก่รายนี้เป็นระดับพันร้าน แต่ขาพิการครับ ผมก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นเพราะแกไม่ยอมอวดรวย หรือว่า เพราะ ร.พ. ห่วงว่าคนไข้ไม่มีเงินจ่ายมากกว่านึกถึงจรรยาบรรณในอาชีพ "หมอ" กันแน่ ใครคิดออกช่วยสงเคราะห์บอกมาที งานนี้ผมยอมรับว่า "บ้องตื้น" จริงๆครับ คุณจิตไม่ตก แต่แผลทางจริยธรรมเหวอะหวะไปหมดนะ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [24 ก.พ. 52 15:35] ( IP A:58.8.108.68 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ท่าน จขคห ที่ 4 หายไปไหนล่ะ???? ไม่มาต่อฤๅ!!!!!!

กับที่กล่าวหาว่า ผมยุแยง ตะแคงรั่ว ให้หมอกับคนไข้ตีกันน่ะ

ไม่มาว่าต่อหรือ???? ท่านคิดว่า คนที่ผ่านไปมาแถวๆนี้เขาจะพากันคล้อยตามตะบี้ตะบันเกลียดหมอทั้งวงการ เพราะคำยุของผมหรือ????

เฮ้อ ท่านเองน่ะ ไม่ได้รับรู้เลยว่า วุฒิภาวะของคนแถวนี้ เขาสูงไปถึงไหนกันแล้ว ทั้งหมดนั้นเขาแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้กันได้ตั้งนานแล้ว

เหลือแต่พวกโจรหมอในแพทยสภา+ ส.ธ. ที่ยังไม่เลิก ยุแยง ตะแคงรั่วให้วงการหมอทั้งระบบ ระแวงขี้หด พากันกลัวคนไข้ฟ้องร้องกันซะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต คดีร่อนพิบูลย์นั่นก็หนึ่งตัวอย่างละ คดีคุณดอกรักนี่ก็สองละที่ชัดเจนว่ายุให้หมอหรือ ส.ธ. อุทธรณ์คดีเพื่อไม่ให้จ่ายเงินชดเชยความเสียหายที่เขาตาบอดตลอดชีวิต แค่เพราะ "ศักดิ์ศรีอุปโลกของวิชาชีพเป็นข้ออ้าง" แล้วก็อีกหลายคดีทำนองนี้ จนขี้เกียจพิมพ์

แต่ทีคนไข้ไทย ตายปีละนับหมื่นจากความผิดพลาดของหมอ "ที่ป้องกันได้" ไม่ยักกะเต้นแร้งเต้นกาประโคมข่าวกัน

เงียบกริบเชียว จริงไหม? ท่านนายก+เลขา แพรดสะพา เฮ้อ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [27 ก.พ. 52 12:09] ( IP A:58.8.105.30 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   เออเนาะ ต่างฝ่ายต่างก็ตอบโต้กัน เฉพาะประเด็นที่ตัวเองโต้ได้
พอเจอประเด็นที่โต้ไม่ได้ ก็ละกันไว้เฉยๆ
เป็นกันทั้งคู่เลย - -''
โดย: 1075 [27 ก.พ. 52 12:31] ( IP A:58.8.86.72 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   ห้องฉุกเฉินมีหมอครับ แต่ดูจากที่อ่านแล้ว ไม่ใช่กรณีฉุกเฉินครับ เลยไม่ได้เข้าห้องฉุกเฉิน

เพราะลักษณะการป่วยนี้ตามหลักการคัดกรอง ไม่ต้องตรวจทันที เพียงแต่ต้องตรวจในวันนั้น

คุณพาคุณแม่ไปผิดโรงพยาบาลครับ ทีหลังอย่าไป ขอร้อง
ไปเอกชนเถอะ
โดย: ZtahC [27 ก.พ. 52 20:25] ( IP A:58.136.50.220 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ไม่รู้จะต่อความยาวไปทำไม ขี้เกียจเขียน คุณบ๊องตื้นก็แค่พวกเก็บกดในสังคมแล้วมาระบายอารมณ์ในเนต หาคนทะเลาะไปวันๆ เสพติดอารมณ์ระบายความความรู้สึกด้อยของตตัวเองในเนต ไม่อยากตต่อความให้้คุณสมหวังหรอก นิ่งๆดีกว่า ดูคคนอย่างคคุณอึดอัดเล่นๆดีกว่า

ที่่สำคัญ เคส vertigo แบบนี้ ถ้ามา รพ ผม ตอนนอกเวลาก็ไม่เจอหมอหรอกครับ เจอพยาบาลฉีด dimen แล้วก็ให้กลับบ้านแล้ว เค้าไม่รบกวนให้หมอมาตรวจหรอก

อย่ามา รพ ผมละ(รพ รัฐ) เด๋วจะเข้าใจว่า รพ ผม ไม่มีหมออยู่ห้องฉุกเฉินอีก
โดย: พยบ ก็รักษาได้ [27 ก.พ. 52 20:44] ( IP A:125.26.109.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   อ้อ !!!!!!!!!!!
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [3 มี.ค. 52 12:33] ( IP A:58.8.107.106 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   ไม่ทราบว่า มีหมอท่านใดที่กล้าออกมาประกาศยืนยันได้บ้างงว่า

ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โรงพยาบาลที่ท่านทำงานอยู่ หรือ ที่ท่านใช้คำสมมติว่า "รพ ผมละ(รพ รัฐ)"

ไม่มีคนเจ็บหรือคนตาย "จากความผิดพลาดของแพทย์" แม้แต่รายเดียว

มีใครกล้ายืนยัน ผมจะยกนิ้วซูหกเลยจริงๆ!!!!!!
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [4 มี.ค. 52 8:02] ( IP A:58.8.106.252 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ไม่มีใครยืนยัน เพราะโรงพยาบาลมีคนตายทุกวัน และแต่ละคนหากคิดจะเอาเรื่อง คิดจะจ้องจับผิด มันก็คงจะหาที่ผิดกันได้ทุกกรณี
โดย: 000 [4 มี.ค. 52 12:52] ( IP A:202.28.183.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   ผมก็ยืนยัน ครับ ว่า มี จริง แต่ ตอนนี้เราพูดเรื่องอะไรอยู่ เรากำลังพูดเรื่องคนไข้ เวียนหัวแล้วมาห้องฉุกเฉินไม่ใช่หรือ และ เคส เวียนหัว มันไม่ฉุกเฉินไม่ใช่หรือ เลยไม่เจอหมอที่ห้องฉุกเฉิน

และยิ่ง มา รพ ผม ตอนนอกเวลา ก็เจอแต่ พยาบาล

คุณบ๊องตื้น กรุณาอย่าแถนอกเรื่อง
โดย: บ่างช่างยุเอ๊ย [4 มี.ค. 52 14:26] ( IP A:125.26.109.4 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   คห ที่ 13 และ คห ที่ 14

ผมขอกล่าวหาทั้งสองท่าน ว่า ถ้าท่านเป็นหมอ ท่านต้องคิดอย่างคนที่มีเมตตาและเข้าใจคนไข้ และมองความจริงพื้นฐานของอาชีพที่ท่านกำลังทำอยู่ให้เข้าใจแจ่มแจ้งมากกว่านี้ แล้วก็ลดการยึดติด "ตัวตนแห่งวิชาชีพ" ที่ถูกปั่นหรือไปเชื่อไปฟังใครมาก็ตาม

ผมขออ้างว่า ผมแกล้งบ้องตื้น แต่คนตัดสิน "อันเป็นที่สุด" ไม่ใช่ทั้งผม แล้วก็ไม่ใช่ทั้งท่าน แต่เป็น "คนที่อ่านกระทู้นี้ รวมทั้ง จขกท" ด้วย

ที่บ้องตื้น และไม่เข้าใจคนอื่นๆเอาซะเลย กลับเป็นตัวท่านเอง

ท่านไม่เข้าใจว่า สามัญสำนึกของคนธรรมดาทั่วไป ต่างก็เข้าใจว่า ห้องฉุกเฉินของ ร.พ. นั้นต้องมีหมอเวรประจำอยู่ตลอดเวลา ลองไปเร่ถามคนเดินถนนธรรมดาที่ไหนก็ได้ว่า ต่างเข้าใจอย่างนี้ทั้งนั้น หรือไม่งั้น "ก็ไม่ต้องเป็นห้องฉุกเฉิน" หรือไม่ ก็ต้องให้ราชบัณฑิตสถานเขาบัญญัติความหมายของคำนี้ให้เป็น "อย่างอื่น"

แล้วที่ผมตั้งคำถามเรื่อง ความผิดพลาดทางหมอ ว่ามีทุกวันไหม? ก็เพื่อรอคนอื่นตอบ แต่เผอิญท่านตอบเอง ยิ่งดี!!!

ก็ในเมื่อท่านยอมรับเองว่า มีคนเจ็บคนตายจากความผิดพลาดทางการแพทย์ แม้ในโรงพยาลบาลท่านเอง ไม่ต้องพูดถึงทุกวันอย่างที่ WHO เคยมาสำรวจใน กทม. เราเมื่อปี 48-49 หรอก แต่ใช้แค่คำว่าบ่อยมากก็พอ แล้วหากในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลของท่าน มีข้อยกเว้นบางวันว่าจะไม่มีหมอประจำอยู่ หรือ มีข้ออ้างว่าบางกรณีไม่จำเป็น

ผมก็อยากถามท่านว่า คนไข้ที่ "บังเอิญ" ต้องมาที่ห้องฉุกเฉินของ ร.พ. ของท่าน หรือ ร.พ. ไหนๆก็ตาม เขาเลือกเวลา และ/หรือ เลือกโรคที่จะเป็น ให้เหมาะเจาะพอดีกับที่ตั้ง "ตั้งข้อยกเว้น" ได้ไหม???

แค่นี้ ขอคนดูคนอ่านทั้งหลาย ช่วยตรองดูทีว่า ผมควรได้รับสมญาว่า บ้องตื้นไหม? หรือมีใครอื่นที่ควรได้ไปด้วย

อ้อ ที่ท่านทั้งสองหมออ้างว่า คนไข้แถวนี้หรือทั่วๆไปเขาจ้องฟ้องหมอนี่ ท่านไม่ลองคิดอย่างไร้ความบ้องตื้นหน่อยหรือว่า คนไข้ที่ฟ้องหมอนั้น เขาฟ้องด้วยความมันหรือ ไม่ลองดูว่าเขาเสียหายกันตรงไหนบ้าง และขนาดไหน??? แล้วไม่ลองนึกย้อนดูว่า ถ้าท่านเป็นเขาและโดนอย่างเขาและถูกทำให้อยู่ในสภาพที่พิการ ทำมาหากินไม่ได้ หรือสูญเสียรายได้เพิ่มจนเขาแบกไม่ไหว และไม่มีใครช่วยได้ คุณจะทำอย่างเขาไหม???

ผมเสนอว่า ท่านทั้งสองน่าจะใช่สามัญสำนึกให้มากขึ้น รู้จักมองว่าคนไข้ที่ออกมาเรียกร้องนั้น เป็นคนเหมือนกับท่าน หิวเป็น เจ็บเป็น และตายได้เหมือนกับท่าน ขณะที่ "คู่กรณีของคนเหล่านี้ที่เป็นหมอ เป็นผู้กระทำให้เกิดเรื่อง แต่ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้พิการ ไม่ได้เสียทรัพย์สินเงินทองในทันทีและต่อเนื่องเฉกเช่นเดียวกัน" แต่กลับมีข้ออ้างทางวิชาการได้มากมายทางอาชีพที่จะไม่ต้องรับผิดชอบ แล้วอย่างท่านมากล่าวหาว่าผมหรือใครแถวนี้ ที่นี้ คอยยุให้เกลียดหมอ

ถ้าท่านมองไม่เห็นข้อเปรียบเทียบตรงนี้ที่ผมว่า ไม่ท่านบ้องตื้นโดยธรรมชาติ ก็คงเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันกับแพทยสภานั่นแหละ ขอเดา
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [5 มี.ค. 52 10:09] ( IP A:58.8.99.96 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   แล้วผมบอกเมื่อไรว่าห้องฉุกเฉินไม่มีหมอละครับ มันมี แต่เอาไว้ดูเคสฉุกเฉิน

ไม่ฉุกเฉินก็รอตรวจตอนเช้า เหมือน จขกท ถ้าเป็น รพ รัฐ ไม่ฉุกเฉิน พยาบาลก็ตรวจให้

หมอฉุกเฉินจะออกมาก็ต่อเมื่อเป็นเคสฉุกเฉินไง ใครว่าไม่มี ผมพูดเหรอ

คุณไม่บ๊องตื้นหรอก โง่มากกว่า ภาษาไทยดันอ่านไม่เข้าใจ

และขอร้อง อย่าแถนอกประเด็น อย่าใช่สีข้าง
โดย: โง่งี่เง่ามากกว่า [5 มี.ค. 52 10:21] ( IP A:125.26.108.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   แน่นอน คนไข้สมัยนี้เลือกป่วยเลือกมา รพ ตอนไหนก็ได้ เพราะป่วยย่อมไม่เลือกเวลา แต่ก็มีบางคนชอบมานอกเวลา เพราะไม่ต้องรอ คิวนาน

ซึ่งทาง รพ ก็ ให้บริการคนกลุ่มนี้โดยการเปิด OPD นอกเวลา บางทีก็ ถึง 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม ก็แล้วแต่ที่

หลังจากนี้ ก็ไม่มีหมอแล้ว แต่จะมีหมอฉุกเฉินไว้ดูแล ซึ่งจะมี พยบ คอยดูแลให้ ถ้ามันฉุกเฉินต้องตามหมอหมอก็จะออกมาจากห้องพัก ถ้าไม่ฉุกเฉิน พยบ ก็จะสั่งการรักษาให้ รพ นะครับไม่ 7-11 ได้ให้บริการตรวจให้ตลอด 24 ชม แต่ เคสฉุกเฉิน 24 ชม แน่นอน
โดย: กลับไปเรียนภาษา ป 1 ไหม่ดีไหม [5 มี.ค. 52 10:37] ( IP A:125.26.108.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   แล้วอย่าง กรณี แม่ของ จขกท นี่ ฉีด dimen เข็มเดียว ตอนเย็นก็ขอกลับบ้านแล้ว คิดว่าฉุกเฉินรึเปล่า แล้วตั้งแต่เช้าหมอเค้าจะฉีดยาให้ทำไมไม่ยอมให้ฉีด ถ้ายอมฉีด แล้วพักสักครึ่งถึงหนึ่ง ชม ก็หายแล้ว ไม่ต้องนอน รพ ด้วยซ้ำ แต่นี่เอาแต่โวยวาย ไม่ยอมให้ฉีดยา แสดงว่ารู้ว่ารู้ดีกว่าหมอ แล้วจะมาหาหมอทำไม

คนสมัยนี้ชอบคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางความถูกต้อง ไม่เคยสนใจอะไรเลย
โดย: จักรวาลไม่ได้หมุนตอบตัวท่านนะครับ [5 มี.ค. 52 10:42] ( IP A:125.26.108.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   ขี้เกียจอธิบาย เหมือนสอนลิงเขียนหนังสือ ไม่พัฒนา คงอีกหลายชาติถึงจะวิวัฒน์

จะไม่ตอบต่อความแล้วนะ เมื่อยนิ้ว งานมันเยอะ ถ้าจะให้ผมสอนขอสอนพวกบัวปริ่มน้ำกะเหนือน้ำดีกว่า สอนง่าย
โดย: ผมไม่ใช่ครูที่ดี [5 มี.ค. 52 10:46] ( IP A:125.26.108.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   บัว 4 เหล่าที่คุณว่า
มันเป็นอย่างไร
คุณจะอธิบายได้อย่างไร ถ้าคุณไม่เคยเป็นมาก่อน

1.บัวใต้น้ำที่ถูกก้อนหินทับ
2.บัวใต้น้ำเฉย ๆ
3.บัวปริ่มน้ำ
3.บัวเหนือน้ำ

สำหรับเรา บางทีวันหนึ่งก็เป็นมันทั้ง 4 เหล่านั่นแหละ
ก็เพราะเจอหมอบางคน บางกลุ่มที่มันเป็นแบบ 4 เหล่า
เหมือนกันนั่นแหละ

มันไม่มีใครดีกว่าใครหรอก สำคัญว่าอย่าเลว หรือชั่วชาติแบบ
ใครบางคน หรือบางกลุ่มก็แล้วกัน
โดย: แพทยสภา...เทวดาใครแตะต้องไม่ได้ [13 มี.ค. 52 1:15] ( IP A:58.9.196.107 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   อืม...หลังจากที่ฟังพวกคุณทั้งหลายด่าเอ๊ยไม่ใช่โต้ตอบกันมานานก็เลยอยากขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะคะ
คือว่าต่างคนก็ต่างที่มานะคะ ต่างพ่อแม่ ต่างการเลี้ยงดู การที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันนะคะ จะมาเถียงกันให้มันได้อะไรขึ้นมาคะเนี่ย ??? ทำไมไม่รักกันเข้าไว่หล่ะคะ ส่วนคุณเจ้าของกระทู้ถ้าไม่ชอบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ชอบใจโรงพยาบาลที่ไป คราวหลังก็เปลี่ยนโรงเพยาบาลซะนะคะ อย่าไปอีกจะได้ไม่มีอะไรมาทำให้ขุ่นข้องหมองใจอีกนะคะ รักกันไว้เยอะ ๆ นะคะ จะได้ไม่ทะเลาะกันแบบนี้ค่ะ
โดย: chincalchen_mickeymouse@hotmail\'com [17 เม.ย. 52 13:52] ( IP A:124.121.171.185 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน