มาให้กำลังใจน้องเซนต์ครับ
|
ความคิดเห็นที่ 1 ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องแพทยสภาคดี น้องเซนต์ แม่ดิ้นเตรียมฟ้องต่อ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กุมภาพันธ์ 2552 17:58 น.
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นละศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีน้องเซนต์ ชี้ โจทย์ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องแพทยสภาทั้ง 33 คน ปรียนันท์ ดิ้นปรึกษาทนาย ใช้ช่อง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค แทกทีมสู้ฟ้องแพทยสภาเทวดาเอาผิดไม่ได้
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา มารดาของน้องเซนต์ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ได้เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2725/2546 ระหว่าง ด.ช.กฤตบุญ หรือพิทักษ์พงศ์ และนางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนาโจทก์และแพทยสภากับพวกรวม 33 คน จำเลย กรณีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทั้งนี้ ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่พิพากษามาแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ทั้งสอง ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากมติของแพทสภาที่วินิจฉัยสรุปคดีว่าไม่มีมูลให้ยกข้อกล่าวหา ไม่ได้เป็นการกระทำต่อโจทย์ทั้งสองโดยตรง และไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายเป็นพิเศษ เนื่องจากการกระทำผิดตามฟ้อง โจทย์จึงไม่เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) และไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้ง 33 ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปัญหาตามฎีกาของโจทย์ทั้งสองข้อ ข้ออื่นจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยอีกต่อไป
นางปรียนันท์ กล่าวว่า ถือว่าคำพิพากษาของศาลไม่ได้บอกแพทยสภาผิดหรือไม่ผิด เพราะไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงเพียงแต่วินิจฉัยว่าไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ในเมื่อคำตัดสินของแพทยสภาส่งผลกับครอบครัวโดยตรง ดังนั้น จะหารือกับทนายความเพื่อเตรียมจะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษโดยทำสำนวนส่งอัยการต่อไป ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะรับดำเนินการให้หรือไม่ รวมถึงจะขอใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 ด้วย
ทำไมชาวบ้านฟ้องเองไม่ได้เมื่อได้รับผลโดยตรง การต้องไปฟ้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือแจ้งความเอง หรือขอให้ตำรวจทำมันไม่ง่ายเลย จะหวังพึ่งตำรวจอัยการจะมีใครฟ้องให้หรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ ตอนนี้งงจริงๆ เราไม่ใช่ผู้เสียหายได้อย่างไรทั้งๆ ที่ได้รับผลโดยตรง ต่อไปนี้คงไม่มีใครเอาเรื่องแพทยสภาได้ เพราะเป็นเทวดา ที่สุดแล้วจะรวมกลุ่มกันกับผู้ที่ได้รับการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมจากแพทยสภา ที่ฟ้องร้องก็อยากให้แพทยสภาปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ใช่สร้างความเจ็บช้ำให้ชาวบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ยังเอาผิดไม่ได้ ท้อมาก เท่ากับ 6 ปี ที่ผ่านมาไม่สามารถฟ้องเอาผิดแพทยสภาได้ หลงทางหมดเลยไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วนายปรียนันท์ กล่าว
สำหรับนางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา เดิมชื่อ นางดลพร ล้อเสริมวัฒนา เป็นมารดาของน้องเซนต์ ซึ่งต้องพิการขาลีบจากการทำคลอดของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง และต่อสู้เรื่องนี้เป็นคดีความบนศาลมาถึง 17 ปี | โดย: จบข่าว [4 ก.พ. 52 4:57] ( IP A:58.9.185.171 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติว่า 1. รพ.พญาไท 1 ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ให้เยียวยาทันที แต่รพ.ไม่เยียวยา 2. กระบวนการสอบสวนของแพทยสภา ไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้อง ให้รื้อคดีใหม่ภายใน 30 วัน แต่แพทยสภาร่วมกับสธ.ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความว่า "ไม่มีอำนาจรื้อคดีใหม่" จึงไม่รื้อคดีใหม่ พ้นตัวไป | โดย: เรื่องนี้หาคนรับผิดชอบไม่ได้ [4 ก.พ. 52 4:59] ( IP A:58.9.185.171 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 ประธานเครือข่ายผู้เสียหายฯเดินหน้าถวายฏีกาหลังศาลยกฟ้องแพทย์สภา
ข่าววันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 ก.พ.52 ที่ศาลฎีกาจังหวัดนนทบุรี แผนกคดีอาญา ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 12 ชั้น 3 นางปรียนันท์ หรือ ดลพร ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์พร้อมด้วยนายกฤตบุญ หรือพิทักษ์พงศ์ ล้อเสริมวัฒนา อายุ 17 ปี บุตรชาย และครอบครัว ได้เดินทางมายังศาลเพื่อฟังคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2725/2546 ที่นางปรียนันท์และบุตรชาย ได้ยื่นฟ้องให้ดำเนินคดีอาญากับแพทย์สภาและคณะจำนวน 33 คน
ทั้งนี้เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 34 นางปรียนันท์ได้ไปคลอด ด.ช.กฤตบุญ ลูกชายที่โรงพยาบาลพญาไท 1 แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดจากการทำคลอดและการดูแลรักษาหลังคลอด ทำให้บุตรชายติดเชื้อในกระแสเลือด ข้อสะโพกถูกทำลาย ทำให้ขาซ้ายพิการ และต้องถูกผ่าตัดหลายครั้ง รวมทั้งต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกทุก ๆ 10 ปี เนื่องจากกระดูกสันหลังเริ่มทรุด ซึ่งภายหลังเกิดเรื่องทางโรงพยาบาลพญาไท 1 ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบและไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ
ต่อมานางปรียนันท์ได้ตัดสินใจฟ้องแพ่งดำเนินคดีกับโรงพยาบาลพญาไท 1 แต่กลับถูกทางโรงพยาบาลพญาไทฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและอาญาพร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงินถึง 100 ล้านบาท และยังถูกทางแพทย์สภาออกมาชี้นำคดีที่นางปรียนันท์ฟ้องร้องโรงพยาบาลพญาไท 1 ด้วยว่า คดีดังกล่าวไม่มีมูล ทำให้ต่อมานางปรียนันท์ตัดสินใจฟ้องดำเนินคดีอาญากับแพทย์สภาและคณะจำนวน 33 คน เนื่องจากเห็นว่าแพทย์สภาฟังความข้างเดียวและเชื่อในหลักฐานที่เป็นเท็จของโรงพยาบาลพญาไท 1
จากนั้นต่อมาศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ไม่รับฟ้องในคดีดังกล่าวโดยบอกว่าคดีไม่มีมูล และให้เหตุผลว่า แพทย์สภาไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐ แม้จะเป็นความจริงว่าเป็นการช่วยเหลือแพทย์ผู้ถูกร้องไม่ให้ถูกลงโทษ ก็มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายหรือกระทบกระเทือนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยตรงประการใด จึงไม่มีอำนาจฟ้องแพทย์สภาทั้ง 33 คน ต่อมานางปรียนันท์จึงได้ตัดสินใจยื่นเรื่องร้องต่อศาลฎีกา และศาลฏีกามีกำหนดอ่านคำพิจารณาคดีในวันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 52 )
ศาลฏีกาได้ใช้เวลาอ่านคำพิจารณาคดีประมาณ 30 นาที จึงตัดสินยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยระบุว่าแพทย์สภาไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐ และโจทย์ทั้งสองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงตามวิธีการประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จึงได้สั่งให้ยกฟ้องในคดีดังกล่าว
นางปรียนันท์ กล่าวให้สัมภาษณ์หลังฟังคำตัดสินของศาลฏีกาว่า โดยส่วนตัวยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่การต่อสู้ตลอดระยะเวลา 17 ปีของตนเองกับครอบครัวที่เรียกร้องความยุติธรรม ความถูกต้องในวันนี้แทบไม่เหลืออะไร แม้รู้ว่าการต่อสู้กับแพทย์สภา ที่มีเครือข่าย มีระบบช่วยเหลืออุปถัมส์ มีอำนาจ จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนตัวเล็ก ๆ จะเอาชนะหรือเรียกร้องความยุติธรรมได้ แต่ตนก็จะเดินหน้าสู้ต่อไป โดยตนเตรียมที่จะยื่นเรื่องฎีกาถวายในหลวงต่อไปพร้อมกับผลสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่มีมติว่า โรงพยาบาลพญาไท 1 มีความผิดและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงจริง ซึ่งการต่อสู้ของตนเองในวันนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นต่อ ๆไป ในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับผู้ป่วยคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากการรักษาผิดพลาดของแพทย์ โดยตนเองมีตัวเลขมีข้อมูลที่ระบุชี้ชัดว่า ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยคนไทยเสียชีวิตจากการรักษาของแพทย์ปีละไม่ต่ำกว่า 2.5 หมื่นคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาทีมีจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทย
ทางด้านนายกฤตบุญ หรือ น้องเซ้นต์ บุตรชายของนางปรียนันท์ กล่าวว่า แม้จะยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่ตนเองและครอบครัวรู้สึกเสียใจ ปวดร้าว เพราะตลอดระยะเวลา 17 ปี ที่แม่ต้องต่อสู้คดีเพื่อเรียกร้องความถูกต้อง ความยุติธรรม ครอบครัวเราต้องเดือดร้อนขายบ้านเพื่อนำเงินมาใช้เป็นค่าต่อสู้คดีและค่ารักษาตนเอง จนแทบหมดเนื้อหมดตัว โดยที่โรงพยาบาลที่รักษาผิดพลาดไม่ได้มีความรับผิดชอบแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามตนยังหวังว่า การต่อสู้ของครอบครัวตนจะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางสังคมและวงการแพทย์ต่อไป
| โดย: สยามรัฐ [4 ก.พ. 52 5:30] ( IP A:58.9.185.171 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเจ็เข้าวัด และปลงตกมาตั้งแต่ 17 ปีที่แล้วเจ้คงไม่ทุกข์ขนาดนี้หรอก สาธุ | โดย: คนเก่า [4 ก.พ. 52 8:35] ( IP A:125.26.73.63 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกำลังใจให้ค่ะ
อย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่
แพทยสภา มีไว้เพื่อช่วยหมอที่ทำผิดให้เป็นถูก
แพทยสภา มีไว้เข้าข้างหมอด้วยกัน
พี่อุ้ย...คงทำอะไรไม่ได้
นอกจากคำว่า "ทำใจ"
อย่าท้อนะคะ พี่อุ้ยสู้ ๆ ค่ะ
| โดย: บางแค [4 ก.พ. 52 11:49] ( IP A:58.9.117.131 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 --กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง--สาธุ--
เป็นกำลังใจให้นะคะ | โดย: 666 [4 ก.พ. 52 11:49] ( IP A:124.120.86.188 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเจ็เข้าวัด และปลงตกมาตั้งแต่ 17 ปีที่แล้วเจ้คงไม่ทุกข์ขนาดนี้หรอก สาธุ โดย: คนเก่า [4 ก.พ. 52 8:35> ( IP A:125.26.73.63 X: )
ความเห็นแย้งนะครับ
ถ้าพวกท่านอย่าง ผ.อ. โรงพยาบาลพญาตอแหล และ สภาแพทยโจร ยอมรับความจริง และให้การเยียวยารักษาไปตั้งแต่ต้น ป่านนี้ก็ไม่ต้องหน้าแหกไร้ความสง่างาม อยู่ที่ไหนคนไข้ก็ระแวงไม่ไว้ใจ (พอสมน้ำสมเนื้อกับที่พวกท่านหมายหัวประจานรูปคนในเครือข่ายฯให้วงการหมอกลัวไม่รับรักษา) เป็นไงล่ะ หมดเงิน "หยอดน้ำมันใต้โต๊ะ" ไปเลย 57 ล้านหรือยัง ??? ลองนับรวมๆดูทีน่าจะเลยนะ เพราะที่วิ่งเต้นแต่ละเรื่อง "ค่าช่วยเหลือของผู้ใหญ่เป้งๆ" แต่ละคน ผมก็ว่าไม่น้อยนะ นี่ถ้าเป็นนักธุระกิจธรรมดาทั่วไป เจ๊งแล้วตาย ตายแล้วเจ๊ง ไปหลายรอบแล้วล่ะ | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [4 ก.พ. 52 12:32] ( IP A:58.8.106.89 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 คนที่ควรสำนึกและเข้าวัด ควรเป็นกรรมการแพทยสภาชุดที่ประธานเครือข่ายฯ ฟ้องนั่นแหละ อ้อ..ที่เข้าวัดถาวรก็มีแล้ว | โดย: นรกกินกบาล แก่ ๆ กันแล้วไม่รู้สำนึก [6 ก.พ. 52 17:49] ( IP A:58.9.207.113 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 คุณดลพร คลอดลูกออกมา เด็กตัวโตเกินปกติ ทำให้คลอดยาก ทำให้เด็กคือน้องเซนต์ได้รับบาดเจ็บจากการคลอดมีอาการบาดเจ็บ คือ มือ และ ขา ไหล่ ข้างเดียวกันทั้งแถบ ต่อมามีติดเชื้อที่ข้อสะโพก ทำให้แพทย์วินิจฉัยไม่ได้ เพราะอาการไปปนเปกับ การบาดเจ็บจากการคลอด ซึ่งมีการขยับแขนขาไม่ได้อยู่แล้ว ทำให้ผ่านพ้นช่วงเวลาทองในการรักษาไป เป็นเหตุให้ น้องเซนต์มีข้อสะโพกตายจากการขาดเลือดไปเลี้ยง เป็นผลให้พิการ | โดย: สมชาย [6 ก.พ. 52 22:19] ( IP A:125.25.225.166 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 ใครผิด ตามความเห็นผมแล้ว ไม่มีใครผิด เพราะ 1.โดยปกติ เด็กที่คลอดออกมาตัวโตกว่าปกตินั้น จะดูแลอย่างไร ตามข้อมูลที่รวบรวมได้ทั่วโลกจะพบเหมือนกันคือ อัตราตายและพิการยังคงสูงกว่าเด็กตัวปกติอยู่ดี ไม่มีทางจะเท่ากันได้ 2.ในสภาวะเช่นนั้นจะมีหมอในเมืองไทยหรือทั่วโลกวินิจฉัยได้ถูกต้องเพียงใด ถ้าอาการของโรคอาจปนเปกันได้หลายโรค และโดยหลักการคิดของแพทย์นั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นโรค อยู่โรคเดียว ทำให้กุมารแพทย์ซึ่งดูแลเด็กคนนี้ คิดว่าเขาได้วินิจฉัยที่เด็กไม่ขยับขานั้นเป็นเพราะการบาดเจ็บจากการคลอดโดยมีหลักฐานสนับสนุน คือ มีการบาดเจ็บ หลายๆ แห่ง ในร่างกายประกอบด้วย และมีความเป็นไปได้น้อยมากๆ ที่จะเป็นโรค 2 โรคพร้อมๆ กันดังเด็กคนนี้ ในความเห็นของแพทย์ส่วนใหญ่แล้ว จะวินิจฉัยแบบกุมารแพทย์ รพ.พญาไท นี้ ถึงแม้ว่าภายหลังจะพบว่าผิดก็ตาม
3. นั่นอธิบายได้ว่า ทำไมหมอ ถึง ได้คิดว่าตัวเองไม่ได้ผิด และ การกระทำก็ไม่ยอมรับว่าตนเองผิด เพราะถึงแม้เอาหมอทั่วโลกมาวินิจฉัยในสภาพการณ์เช่นนี้ ก็ออกมาเหมือนๆกัน 4.ส่วนกรณี คุณดลพร นั้น แน่นอน ก็ย่อมต้องว่าหมอผิดแน่นอน ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาโดยตลอด | โดย: สมชาย [6 ก.พ. 52 22:28] ( IP A:125.25.225.166 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 5.ทุกคนควรยอมรับว่า การกระทำใดๆ เกี่ยวกับชีวิตและร่างกายคนมีความเสี่ยง และ ผลการรักษาของแพทย์ ไม่ได้แน่นอน 100 % จากหลักการคิดของแพทย์นั้น คิดเชิงสถิติ ว่า ประวัติแบบนี้ อาการแบบนี้ การตรวจพบแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นโรคอะไร แน่นอน ว่า 98 % จะเป็นโรค ก. แต่ก็อาจจะเป็นโรคอื่นๆ ได้อีกเป็น ร้อยๆ โรคก็ได้ และบังเอิญว่า บุตรของคุณดลพร นั้น อยู่ใน 1-2 % ที่เหลือ การรักษาโรคๆ หนึ่ง ให้ยานี้ แล้ว โอกาสหาย มีมากถึง 99 % คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการรักษามักหาย แต่อาจจะมี สัก 1 % ที่ไม่หายและถึงกับตายก็เป็นไปได้ใช่ไหมครับ แนวคิดสำหรับเรื่องนี้นั้น ในประเทศที่เขาเจริญแล้ว เขา จะทำประกันความเสี่ยง ตรงนี้ไว้ ไม่ว่าไปหาหมอครั้งไหน ในบิลการรักษา เขาจะมีเบี้ยประกันอยู่ด้วยเสมอ แต่ข้อเสียคือ บริษัท ประกัน รวย หมอมีเบี้ยประกันเพิ่ม แต่คนไข้จ่ายอ่วม เพราะทุกอย่างจะผลักภาระมาให้ผู้ป่วยจ่ายเองหมด
เท่าที่ฟังดู ประเทศไทยเรายังไม่สนับสนุนแนวทางนี้หรอกครับ เท่าที่ได้ยิน จะเน้นอธิบายให้ความเข้าใจกะคนไข้ ว่าการรักษาเหมือนการเดินทาง เช่นคุณนั่งรถทัวร์หรือเครื่องบิน จาก กทม.ไป ชม.ส่วนใหญ่แล้วจะปลอดภัยดี แต่ในความจริงก็ได้ยินข่าวเสมอๆ เรื่องอุบัติเหตุ จึงเรียกได้ว่า ไม่มีอะไรปลอดภัย 100 % อย่าป่วยจะดีกว่า มารักษาแต่ละครั้งก็ต้องอธิบายแบบนี้ แต่จนแล้วจนรอดหมอก้ไม่มีเวลาจะอธิบายหรอกครับ การเกิดเรืองแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็เพราะไม่ได้อธิบายดีๆ นั่นเองนะครับ
คุณดลพร ก็คงร้อนรนไปตลอดชีวิตนะครับ หันหน้าเข้าวัด สงบสติอารมณ์เสียบ้าง ได้สติยั้งคิดบ้างก็จะดี | โดย: สมชาย [6 ก.พ. 52 22:40] ( IP A:125.25.225.166 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 คุณสมชายคุณไม่รู้อะไรดี และคุณมีดีอะไร อย่ามาอวดเก่ง กลับบ้านไป แพทยสภาเทวดา ใครแตะต้องไม่ได้ | โดย: อภิสิทธิ์ชน [7 ก.พ. 52 9:14] ( IP A:58.9.199.237 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทานให้ฉันได้ไหม ดั่งหยาดฝนบนฟากฟ้าไกล...
| โดย: แด่..น้องเซ้นต์ ด้วยความอัปยศของแพทยสภา [7 ก.พ. 52 17:24] ( IP A:58.9.197.57 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 14 ชีวิตตกอยู่ในห้วงแห่งความแค้น จาก projection (โทษคนอื่น) ไม่ได้มองถึงสาเหตุจริงๆ หรือ ยอมรับความจริงไม่ได้ จึงโทษว่าคนอื่นทำ มันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดลพร ดีขึ้นหรอกนะครับ นอกจากจะจมอยู่กับห้วงของความทุกข์ นี่ถ้าโทษ ต้นไม้ โทษนกได้ คงฟ้องไปหมดแล้ว จะเปลี่ยนชื่อไปกี่หน ก็หนีไม่พ้นสภาพของความทุกข์หรอก หันหน้าเข้าหาธรรมะ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ มิให้เศร้าหมอง จะดีกว่า เอาเวลาไปทำกิจกรรมประเภทนี้ ลูกก็เป็นทุกข์ไปอีกคน นี่คงจะไม่ได้กล่าวที่ไปที่มาให้คนอื่นรู้เลยสินะ คงพูดสรุปไปเลยว่าเป็นแบบนี้ เพราะหมอทำ แพทยสภาปกป้อง ไม่พูดบ้างเลย ว่าที่เด็กคลอดออกมาบาดเจ็บเพราะแม่ทำ แม่ทำให้ลูกตัวโตเกินปกติ ช่องคลอดแม่ทำร้ายลูก ทำให้ลูกบาดเจ็บตั้งแต่คลอดออกมา แม่ทำร้ายลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง ออกมา ก็ทำร้ายจิตใจลูกด้วยการพากระเตงไปทั่ว ไปป่าวประกาศ ว่า นี่ลูกฉัน หมอทำ เจอนก ก็บอกนกเจอไก่ก็บอกไก่ ไม่พูดบ้างว่า นี่ลูกฉัน ฉันทำร้ายลูกฉันตั้งแต่อยู่ในท้อง โดยทำให้ตัวโตกว่าปกติ และ ฉันทำให้ลูกฉันบาดเจ็บ โดยช่องคลอด อันมีฤทธิ์ร้ายกาจของฉัน ไม่เคยนึกถึงจิตใจลูกบ้าง ที่ต้องตกอยู่ในห้วง ของการอาฆาตพยาบาท กับคนอื่น ชีวิตแบบนี้ถ้ามีความสุขดี ก็ทำต่อไปเถอะครับ
แต่ผมยืนยันได้เลยว่า คุณดลพรนั่นแหละ ทำร้ายลูก ทำร้าย ตั้งแต่อยู่ในท้อง โดยทำให้ตัวโตเกินเด็กปกติ แถมซ้ำยังทำร้ายลูกขณะคลอดโดยช่องคลอดอันมีฤทธิ์ร้ายกาจของคุณดลพรเอง คลอดออกมา ยังพาลูกไปทำร้ายสภาพจิตใจ โดยการประจานตนเองและลูก ไปทุกสื่อทุกแขนง และจัดตั้งเครือข่ายประจานลูกอีก รับรองได้เลยว่าลูกคุณดลพร เจอสภาพแบบนี้ เป็นคนไม่ปกติแน่นอน ทั้งชีวิตจะหาความสุขไม่ได้ นอนไม่เคยหลับ ฝันร้ายตลอด
ไม่ยากหรอกครับ ที่จะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ อายุขนาดนี้แล้ว ผ่านโลกมาพอสมควรแล้ว ทำเรื่องร้ายๆ มาตลอดชีวิตแล้ว มิลองหยุดคิด ไตร่ตรอง วิถีชีวิตตนเอง แล้วใครจะช่วยได้ | โดย: สมชาย [7 ก.พ. 52 22:03] ( IP A:125.25.10.32 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 15 คคห.14 แรงไปไม๊ ??? หมอรักษาคนไข้หาย--บอกว่าหมอเก่ง หมอมีบุญคุณ >> ทำไมไม่บอกละว่าร้อยละ 98 ก็หายทั้งนั้น หมอรักษาคนไข้ตาย--บอกว่าโอกาสมี 1-2% >>ไม่เคยบอกว่าเป็นเพราะหมอวินิจฉัยผิด -- ถ้าแค่หมอคิดถึง 1-2% ของโอกาสที่จะเกิด คนไข้ก็อาจรอดหรือไม่เกิดข้อผิดพลาดก็เป็นได้ --ใช่หรือไม่
ร้ายสุดยังจะโยนความผิด โยนบาปให้กับคนไข้ ญาติคนไข้
เคยคิดถึงความยากลำบาก ความทนทุกข์ที่เขาเหล่านั้นได้รับอยู่บ้างหรือไม่ ลองใจเขาใจเราดูบ้างนะ ความเห็นอกเห็นใจยังมีอยู่บ้างหรือเปล่า | โดย: แบบนี้รับไม่ไหว [8 ก.พ. 52 9:48] ( IP A:124.121.242.231 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 16 หมอรักษาคนไข้ตาย--บอกว่าโอกาสมี 1-2% >>ไม่เคยบอกว่าเป็นเพราะหมอวินิจฉัยผิด -- ถ้าแค่หมอคิดถึง 1-2% ของโอกาสที่จะเกิด คนไข้ก็อาจรอดหรือไม่เกิดข้อผิดพลาดก็เป็นได้ --ใช่หรือไม่ ^ ^ ^ 5555555555555555555555555 | โดย: ขำ...ปวดท้อง >_< [8 ก.พ. 52 11:09] ( IP A:202.28.183.10 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 17 คุณสมชาย คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณดลพรเขาทุกข์ คุณตามไปดูเขาที่บ้านหรือ คุณอยู่กับเขา 24 ชั่วโมงหรือเปล่า คุณคงเป็นคู่กรณีของเขา ถึงได้ตามกัดเขาหลายกระทู้แล้ว
สุดท้ายก็สงสารช่องคลอดของแม่คุณ ที่ให้ลูกที่จิตใจโสโครกสกปรกโสมม มองโลกในแง่ร้าย ที่สำคัญถ้าเป็นหมอ ก็คงเป็นหมอที่เกิดจากช่องคลอดที่โชคร้ายที่สุด ลองไปถามแม่คุณดูนะว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่มีลูก จิตใจชั่วร้ายสุด ๆ แบบคุณ | โดย: แพทยสภา..ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้ [8 ก.พ. 52 17:18] ( IP A:58.9.202.146 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 18 นางดลพรร้องเรียนแพทย์ 3 คน คือ 1. นพ.สุรพงษ์ อำพันวงศ์ ผอ.โรงพยาบาล 2. นพ.สันติ สุทธิพินทะวงศ์ กุมารแพทย์ 3. พญ.ยรรยงค์ มังคละวิรัช สูตินรีแพทย์ แต่แพทยสภาสอบสวนแพทย์แค่สองคน ละเว้นไม่สอบสวน นพ.สุรพงษ์ อำพันวงศ์
กรรมการสิทธิมนุษยชน มีมติว่าแพทย์รพ.พญาไททำคลอดและดูแลหลังคลอดด้วยความประมาท รพ.พญาไท 1 ไม่ได้เยียวยาความเสีย หาย จึงก่อนให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงให้เยียวยาทันที และกระบวนการสอบสวนของแพทยสภาไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้องให้รื้อคดีใหม่ภายใน 30 วัน | โดย: นางดลพรคงทำแต่เรื่องร้าย ๆ มาตลอดชีวิต [8 ก.พ. 52 17:27] ( IP A:58.9.202.146 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 19 ภาพมันฟ้อง โดยไม่ต้องพูด ว่าใครผิด-ใครถูก
| โดย: แพทยสภา..ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้ [8 ก.พ. 52 17:31] ( IP A:58.9.202.146 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 20 กรรมการสิทธินะ มีความรู้ทางด้านการแพทย์หรือเปล่าครับ แบบว่า เอาหมอ ไปเป็นช่างไม้ หรือ เอาทนาย ไปดำนา หรือเปล่า
ถ้ามัวนึกถึง 1-2 % ที่มีอีก เป็น ร้อยๆ โรค ใช้เงินรักษาหลายล้านบาท และโอกาสมี สัก 10 ปี พบครั้งเดียว แบบนี้ จะคุ้มหรือไม่
กรณีคุณดลพร ต้องมาดูความเป็นจริง ว่าในสภาพการณ์แบบนั้น เอากุมารแพทย์ 100 คนมาดู จะวินิจฉัยได้ถูกสักกี่คน ยังเป็นที่น่าสงสัย สัก 5-10 % จะถึงหรือไม่ ถ้าเอาหมอเด็กมาดู ว่า ง่ายๆ แบบนี้ หมอ 100 คนก็วินิจฉัยถูกหมด อีแบบนี้สมควรลงโทษ แต่ถ้าเป็นแบบแรก คงยาก
ตามสบายนะครับ เชิญร้องแรกแหกกระเฌอ ไปเถิดครับ แต่ก็บอกได้เลยว่า ชีวิตนี้ทั้งชาติคงไม่สงบสุขหรอก หัดเอาธรรมเข้าขย่มใจเสียบ้าง ไม่เชื่อก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ
ตรรกของพวกคุณคือ ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้ ถ้าคิดแบบนี้ ก็ไม่มีเรื่องจะต้องพูดกันแล้วครับ ใครทำไม่ถูกใจให้ฟ้องได้เลยตามสะดวก เพราะ มีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้ว ใครก็ห้ามไม่ได้ แต่ถ้าศาลท่านตัดสินแล้ว ถ้ายังไม่จบ ก็ตัวใครตัวมันนะครับ
มีสมอง และมีสติ คือแนวทางในการแก้ปัญหาที่แท้จริง ถ้าได้แต่ post ข้อความกักขฬะ ก็สุดแล้วแต่นะครับ เพราะนั่นเป็น ความสุขส่วนตัวของพวกคุณ ใครก็แตะต้องไม่ได้
ปล.ผมยังยืนยัน ว่าต้นเหตุที่ทำร้ายลูกคุณ ดลพร จนขาเป๋ ไปข้างหนึ่งนั้นคือ ช่องคลอดอันร้ายกาจของคุณดลพร เอง ที่บีบรัด ซะขาลูกเดี้ยงไปข้างหนึ่ง ไม่เชื่อ ก็ไปถามหมอของเครือข่ายดูได้ (แบบนี้ชักสงสารสามีคุณดลพรเข้าแล้วสิ) | โดย: สมชาย [9 ก.พ. 52 13:43] ( IP A:118.172.92.144 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 21 เครือข่ายฯ ก็ยังยืนยันว่า ต้นเหตุที่ทำให้คุณสมชายเป็นอีแอบ ปากสุนัขเที่ยวไล่กัดคนเหมือนหมาขี้เรื้อน คือช่องคลอดอัน ร้ายกาจของแม่คุณสมชาย มันถึงบีบรัดจนปากมอมเที่ยวระราน ชาวบ้าน แถมเป็นหมอที่ใจอุบาทว์ชาติชั่วที่ไม่ยอมรับผิดแถม ยังตามรังควานชาวบ้านเขาอยู่ทุกวัน
กรรมการมีมติว่า รพ.พญาไท 1 ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เรียกง่าย ๆ คือชุ่ยไง แถมแพทยสภาก็อัปยศอดสู ขี้โกงไง | โดย: แพทยสภา..ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้ [9 ก.พ. 52 20:28] ( IP A:58.9.218.106 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 22 กรรมการมีมติว่า รพ.พญาไท 1 ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
เออ นึกออกแล้ว ว่าควรจะไปขอความช่วยเหลือจากกรรมการสิทธิ์จะดีกว่าไหมครับ หรือไม่งั้น ขอให้กรรมการสิทธิ์เป็นพยานในศาลก็ได้ หรือ ขอกรรมการสิทธิ์ ช่วยยื่นฎีกาให้ก็น่าจะดีนะครับ
แพทยสภา..ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้
เจอพวกแพทยสภา ก็เดินไปจับตัวดูสิครับ ว่าจับต้องได้ หรือ เป็นแค่เงาๆ จับต้องไม่ได้
เรียกง่าย ๆ คือชุ่ยไง แถมแพทยสภาก็อัปยศอดสู ขี้โกงไง
แพทยสภา เขาเป็นกรรมการห้ามมวย ตัดสินไปตามหลักวิชาการ พวกคุณเป็นคู่ชก ก็ไปไล่ถลุงเอากับหมอที่รักษาสิครับ ไหง ไป ไล่ฟ้อง กรรมการห้ามมวย มันมิแปลกดอกหรือ อย่างนี้ที่ไหนเขาจะรับฟ้อง ฉลาดจริงๆ เลยนะพวกคุณนี่ ฉลาดอย่างนี้นี่เอง งานของพวกคุณถึงวนเวียนแต่เรื่องถือป้ายโชว์สื่อมวลชน ไม่มีกึ๋นเสียเลย น่าสงสาร คราวหลัง ฟ้องรัฐบาลเลย ว่าทำไมผลิตแพทย์ไม่พอใช้ ถ้าศาลไม่รับฟ้อง ก็ฟ้องศาลโลกเลย ว่าเมืองไทยผลิตแพทย์ไม่พอใช้ ศาลโลกไม่รับฟ้อง ก็ฟ้องศาลจักรวาลเลย เอากันเข้าไป
ผมยืนยันว่า ช่องคลอดของคุณดลพรนั่นแหละ ที่ทำร้ายลูกตัวเอง จนขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง ศาลท่านรู้ท่านก็เลยไม่รับฟ้อง 555 555 ไม่เชื่อก็ลองไปถามหมอของเครือข่ายดูสิครับ รับรองได้ว่าเขาไม่ตอบหรอกเพราะเรื่องมันจริง | โดย: สมชาย [9 ก.พ. 52 23:03] ( IP A:125.25.22.76 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 23 " ต่อมานางปรียนันท์ได้ตัดสินใจฟ้องแพ่งดำเนินคดีกับโรงพยาบาลพญาไท 1 แต่กลับถูกทางโรงพยาบาลพญาไทฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและอาญาพร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงินถึง 100 ล้านบาท และยังถูกทางแพทย์สภาออกมาชี้นำคดีที่นางปรียนันท์ฟ้องร้องโรงพยาบาลพญาไท 1 ด้วยว่า คดีดังกล่าวไม่มีมูล ทำให้ต่อมานางปรียนันท์ตัดสินใจฟ้องดำเนินคดีอาญากับแพทย์สภาและคณะจำนวน 33 คน เนื่องจากเห็นว่าแพทย์สภาฟังความข้างเดียวและเชื่อในหลักฐานที่เป็นเท็จของโรงพยาบาลพญาไท 1 " 555 ตลกแห่งปี อยากรู้จัง ว่าเป็นความคิดของใคร นะ ที่ฟ้องแพทย์สภา อย่างนี้ ไม่ฟ้องทั้ง 3 ศาลละครับ ว่าตัดสินไม่ถูกใจ ให้ตัดสินให้ใหม่ ร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิ์ สิครับว่า ศาลทั้งสาม ศาลตัดสินไม่ถูก ตัดสินไม่ถูกใจ
"...... ทั้งนี้เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 34 นางปรียนันท์ได้ไปคลอด ด.ช.กฤตบุญ ลูกชายที่โรงพยาบาลพญาไท 1 แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดจากการทำคลอดและการดูแลรักษาหลังคลอด ทำให้บุตรชายติดเชื้อในกระแสเลือด ข้อสะโพกถูกทำลาย ทำให้ขาซ้ายพิการ และต้องถูกผ่าตัดหลายครั้ง รวมทั้งต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกทุก ๆ 10 ปี เนื่องจากกระดูกสันหลังเริ่มทรุด ซึ่งภายหลังเกิดเรื่องทางโรงพยาบาลพญาไท 1 ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบและไม่ให้ความช่วยเหลือใด ...." โทษแต่หมอ ไม่เคยโทษตัวเองเลย ใครทำให้ลูกในท้องออกมาตัวโตเกินกว่าปกติ ไม่ใช่คุณแม่หรอกหรือ ใครทำให้ลูกบาดเจ็บจากการคลอด แม่หรือ หมอ หมอไม่ใช่เป็นคนทำนะครับ หมอเป็นคนช่วย ถ้าเทียบเคียงกับอุบัติเหตุ หมอเป็นปอเต็กตึ้ง ไม่ใช่เป็นคนชน ไอ้ความคิดแบบนี้จึงเป็นที่มาของการไม่ยอมรับความจริง เรื่องจึงไม่จบ หรือเล่นกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เพราะเกาไม่ถูกที่คัน ฟังๆ ดู ก็น่าสงสาร และ น่าสมเพช
"....ถ้าพวกท่านอย่าง ผ.อ. โรงพยาบาลพญาตอแหล และ สภาแพทยโจร ยอมรับความจริง และให้การเยียวยารักษาไปตั้งแต่ต้น ป่านนี้ก็ไม่ต้องหน้าแหกไร้ความสง่างาม อยู่ที่ไหนคนไข้ก็ระแวงไม่ไว้ใจ (พอสมน้ำสมเนื้อกับที่พวกท่านหมายหัวประจานรูปคนในเครือข่ายฯให้วงการหมอกลัวไม่รับรักษา) เป็นไงล่ะ หมดเงิน "หยอดน้ำมันใต้โต๊ะ" ไปเลย 57 ล้านหรือยัง ??? ลองนับรวมๆดูทีน่าจะเลยนะ เพราะที่วิ่งเต้นแต่ละเรื่อง "ค่าช่วยเหลือของผู้ใหญ่เป้งๆ" แต่ละคน ผมก็ว่าไม่น้อยนะ นี่ถ้าเป็นนักธุระกิจธรรมดาทั่วไป เจ๊งแล้วตาย ตายแล้วเจ๊ง ไปหลายรอบแล้วล่ะ....."
แสดงว่าที่เรียกร้องกันมาทั้งหมดก็เพื่อหวัง ..เงิน..ใช่ไหม แหม ทำไมไม่พูดตรงๆ หรือว่า กลัวว่าพูดไปแล้วมันจะน่าเกลียดไปหน่อย......
".......นางปรียนันท์ กล่าวให้สัมภาษณ์หลังฟังคำตัดสินของศาลฏีกาว่า โดยส่วนตัวยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่การต่อสู้ตลอดระยะเวลา 17 ปีของตนเองกับครอบครัวที่เรียกร้องความยุติธรรม ความถูกต้องในวันนี้แทบไม่เหลืออะไร แม้รู้ว่าการต่อสู้กับแพทย์สภา ที่มีเครือข่าย มีระบบช่วยเหลืออุปถัมส์ มีอำนาจ จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนตัวเล็ก ๆ จะเอาชนะหรือเรียกร้องความยุติธรรมได้ แต่ตนก็จะเดินหน้าสู้ต่อไป โดยตนเตรียมที่จะยื่นเรื่องฎีกาถวายในหลวงต่อไปพร้อมกับผลสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่มีมติว่า โรงพยาบาลพญาไท 1 มีความผิดและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงจริง ซึ่งการต่อสู้ของตนเองในวันนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นต่อ ๆไป ในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับผู้ป่วยคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากการรักษาผิดพลาดของแพทย์ โดยตนเองมีตัวเลขมีข้อมูลที่ระบุชี้ชัดว่า ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยคนไทยเสียชีวิตจากการรักษาของแพทย์ปีละไม่ต่ำกว่า 2.5 หมื่นคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาทีมีจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทย ........'' ตัวเลขนี้กุมาจากไหน มิทราบ ขอแหล่งข้อมูลอ้างอิงหน่อย ฝัน หรือ เพ้อไปมิทราบ
''..........นางปรียนันท์ กล่าวว่า ถือว่าคำพิพากษาของศาลไม่ได้บอกแพทยสภาผิดหรือไม่ผิด เพราะไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงเพียงแต่วินิจฉัยว่าไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ในเมื่อคำตัดสินของแพทยสภาส่งผลกับครอบครัวโดยตรง ดังนั้น จะหารือกับทนายความเพื่อเตรียมจะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษโดยทำสำนวนส่งอัยการต่อไป ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะรับดำเนินการให้หรือไม่ รวมถึงจะขอใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 ด้วย ........"
แสดงว่าเขาไม่รับวินิจฉัย ต่างหาก ทำไมไปตีความ เข้าข้างตัวเองอย่างนั้นละครับ
"......... คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติว่า 1. รพ.พญาไท 1 ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ให้เยียวยาทันที แต่รพ.ไม่เยียวยา 2. กระบวนการสอบสวนของแพทยสภา ไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้อง ให้รื้อคดีใหม่ภายใน 30 วัน แต่แพทยสภาร่วมกับสธ.ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความว่า "ไม่มีอำนาจรื้อคดีใหม่" จึงไม่รื้อคดีใหม่ พ้นตัวไป........."
กรรมการสิทธิ์ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร แพทย์สภา ศาล หรือ หมอ ใครไปละเมิด สิทธิมนุษยชน คุณดลพร หรือ ลูก หรือไม่ เพียงแต่ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่ คุณดลพร คาดเอาไว้เท่านั้น ซึ่งไม่ได้แปลกตรงไหน | โดย: สมชาย [10 ก.พ. 52 16:35] ( IP A:118.172.94.178 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 24 เรียน คุณสมชาย
ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ ไม่ต้องเปลี่ยน IP Address คุณควรแสดงตัว แล้วฉะกับคุณดลพร ตัวต่อตัว ผ่านสื่อที่ไหนก็ได้ตรง ๆ ไปเลย อย่ามาเล่นแบบ ตีหัวแล้ววิ่งเข้าบ้าน เหมือนเด็ก ๆ กล้า ๆ หน่อย อย่าเอานิสัยพญาไท 1 หรือแพทยสภามาใช้ จนชินเป็นนิสัย เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อเป็นคนเก่า เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อเป็นสมชาย จะเอาอะไรให้แน่สักอย่าง | โดย: แพทยสภา..ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้ [10 ก.พ. 52 19:57] ( IP A:61.90.87.183 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 25 ปล.ผมยังยืนยัน ว่าต้นเหตุที่ทำร้ายลูกคุณ ดลพร จนขาเป๋ ไปข้างหนึ่งนั้นคือ ช่องคลอดอันร้ายกาจของคุณดลพร เอง ที่บีบรัด ซะขาลูกเดี้ยงไปข้างหนึ่ง ไม่เชื่อ ก็ไปถามหมอของเครือข่ายดูได้ (แบบนี้ชักสงสารสามีคุณดลพรเข้าแล้วสิ)
เอามาย้ำอีกหน กัวจาจำไม่ด้าย | โดย: สมชาย [10 ก.พ. 52 20:52] ( IP A:125.25.30.218 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 26 แด่..น้องเซ้นต์ ด้วยความอัปยศของแพทยสภา [7 ก.พ. 52 17:24> ( IP A:58.9.197.57 X:
ไม่เข้าใจเลยว่า แพทยสภา ไปรักษา คุณน้องเซนต์ ตอนไหน หรือ ไปบีบขาคุณเซนต์เธอตอนไหน หรือว่า แพทยสภา แอบไปทำคลอด หรือ ไปรักษา ตอนที่ยังไม่รู้สึกตัว จึงมา ต่อกรกับแพทยสภา ยังกะ เกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน ผิดตัวแล้วมั๊ง เขาเรียกว่า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง แข่งขันแพ้ โทษกรรมการ หรือ โทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผมแนะนำนะครับ ฟ้องศาลฎีกาเลย ที่ตัดสินคดีออกมาแบบนั้น เอาให้เข็ด เออ ฟ้องกับกรรมการสิทธิ์ก็ได้ เครือข่ายปัญญาอ่อนนี่ชักเลอะกันไปใหญ่แล้ว | โดย: สมชาย [10 ก.พ. 52 20:56] ( IP A:125.25.30.218 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 27 แนะนำคุณดลพร ฟ้องหมิ่นประมาท สมชาย ไปเลย จะได้รู้ตัวตนจริงๆของคนๆนี้ซักที | โดย: 666 [10 ก.พ. 52 21:20] ( IP A:124.120.73.46 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 28 หนึ่งในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คืออดีตคณะบดีแพทย์ศาสตร์ศิริราช จะผิดจะถูกอย่างไรก็มีมติออกมาแล้ว สังคมแพทย์รู้กันทั่วว่าใครผิดใครถูก แม้กระทั่งนักศึกษาแพทย์พยาบาล
คุณสมชายพยายามที่จะโยนบาปให้คนไข้ผู้เสียหาย อย่างน่าละอายที่สุด คุณควรรับคำท้าคุณดลพร ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุณให้ร้ายเขาเป็นเรื่องจริง แสดงให้สาธารณะทราบไปเลยว่านางดลพร ต่อสู้ในสิ่งที่ไม่สุจริตทั้งสิ้น | โดย: จงรับคำท้า ถ้าแน่จริง [10 ก.พ. 52 23:12] ( IP A:58.9.185.53 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 29 มาช้าหน่อยค่ะ ... ไม่ว่างเลย และก็ติดคนไข้ป่วยที่บ้าน แต่อ่านข่าวแล้วก็อยากให้ประธานเครือข่ายและน้องเซ็นต์ มีกำลังใจเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความยุติธรรม ต้องเหลือให้ครอบครัวท่านบ้าง | โดย: GN+ [11 ก.พ. 52 10:15] ( IP A:222.123.212.242 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 30 หาเหตุผลมาตอบคำถามที่ผมถามให้ได้ รวบรวมความคิดและสติก่อนครับ ไม่ใช่แสดงอากัปกริยาแบบผู้มีการศึกษา(ค่อนข้าง)น้อยออกมาใน web board นะครับ 555 555 | โดย: สมชาย [11 ก.พ. 52 22:28] ( IP A:125.25.21.112 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 31 คำถามของคุณ ป่วยการที่จะตอบ คุณต้องไปตั้งคำถามกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่เขามีมติและชี้มูลว่าคุณผิด (พญาไท+แพทยสภา) ซึ่งดูเหมือนการกล่าวอ้างของคุณ ฟังไม่ขึ้นไม่มีน้ำหนัก เขาไม่รับฟัง แล้วคุณจะมาร้องหาอะไรในเว็บนี้ คุณหวังให้ใครมาตอบ ตอบแล้วคุณจะได้อะไร ในเมื่อสังคมเขาตัดสินไปแล้วว่าคุณไม่มีความรับผิดชอบ และเป็นแพทยสภาที่ขี้โกง
ไม่ต้องมีการรวบรวมสติในการตอบปัญหาอันเกิดจาก อารมณ์อันอาฆาตมาดร้าย และไม่ต้องมาแสดงตนข่มท่าน ในเว็บแห่งนี้ การศึกษาสูงหรือต่ำ ไม่สำคัญเท่ากับการที่ คนคนนั้นมีจิตใจความเป็นมนุษยบ์หรือไม่
หลายคนเรียนมาสูง แต่จิตใจต่ำทรามยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน เที่ยวระรานซ้ำเติมคนที่เขาเป็นทุกข์ให้หนักขึ้น จะเรียกว่าอะไร ถ้าไม่เรียกว่าใจสัตว์ และปากสุนัข
ถ้าคิดว่าแน่จริงอย่าเที่ยวให้ร้ายคนอื่นก่อน ความผิดตนเองมอง ไม่เคยเห็นจนเป็นสันดาน สักวันปากจะเป็นสี ปากเสียเป็นนิสัย มีตำแหน่งเป็นผู้นำคน สันดานต่ำเหมือนตัวที่เตี้ยสั้นม่อต้อ | โดย: แพทยสภา..ไอ้พวกเทวดาแตะต้องไม่ได้ [12 ก.พ. 52 13:11] ( IP A:58.9.198.129 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 32 คุณสมชายพยายามที่จะโยนบาปให้คนไข้ผู้เสียหาย อย่างน่าละอายที่สุด คุณควรรับคำท้าคุณดลพร ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุณให้ร้ายเขาเป็นเรื่องจริง แสดงให้สาธารณะทราบไปเลยว่านางดลพร ต่อสู้ในสิ่งที่ไม่สุจริตทั้งสิ้น โดย: จงรับคำท้า ถ้าแน่จริง [10 ก.พ. 52 23:12>
ว่างๆ มาพบผมได้เลย ถ้าแน่จริง ผมอยู่แถวๆ ดอนเมือง คลินิกใหญ่ๆ มีป้ายสีส้มๆ เขียนว่า ........โอ คลินิก กล้ามาเป่า กล้ามาเป่า 555 555 555 | โดย: สมชาย [12 ก.พ. 52 22:21] ( IP A:125.25.21.202 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 33 ตอบโต้กับนายสมชาย เหมือนเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ปล่อยให้เขาเห่าต่อไปเถอะ | โดย: เหนื่อยก็เลิกเห่าไปเอง [13 ก.พ. 52 7:53] ( IP A:58.9.194.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 34 ใครว่านายสมชายเปรียบเหมือน "เกลือ"
หนูว่าอย่าไปยกย่องมันขนาดนั้นเลยค่ะ เพราะเกลือมันมีความเค็ม มันยังมีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน แต่สำหรับนายสมชายคนนี้ มันไม่ชายสมชื่อเอาซะเลย ดีแต่กัด ดีแต่เห่า ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเพศแม่ เกิดมาก็รกโลก ไม่รู้จะเกิดมาเป็นผู้เป็นคนทำไม ถ้าเปรียบมันเหมือน "ขี้" หนูว่าขี้ยังดีกว่ามันเลยค่ะ
| โดย: เกลียดมันจริงๆ [13 ก.พ. 52 20:26] ( IP A:61.90.103.51 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 35 34-35 อ้าวไม่มีเหตุผลมา ลบล้าง ก็เลยพาลไปเรื่อย แบบนี้ เรียกว่า อะไรดีหนอ | โดย: สมชาย [13 ก.พ. 52 22:06] ( IP A:125.27.55.3 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 36 คุณคนเก่า, คุณข้าเอง, นายสมสาก(แล้วแต่คุณจะเปลี่ยนชื่อ,
สิ่งที่รพ.พญาไท 1 กระทำต่อครอบครัว "ล้อเสริมวัฒนา" สิ่งอัปยศที่แพทยสภากระทำต่อครอบครัว "ล้อเสริมวัฒนา" ขอให้เกิดขึ้นกับลูกหลานและครอบครัวของคุณในวันใดวันหนึ่ง แล้ววันนั้นคุณจะรู้ดีว่าควรจะแสดงออกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณอาจจะปลงอย่างที่บอกให้เธอทำ หรือคุณอาจจะเคียดแค้น อย่างที่คุณพยายามบอกว่าเธอเป็น | โดย: แล้วจะรู้สึก [17 ก.พ. 52 18:40] ( IP A:58.9.184.126 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 37 ใครที่ทำกับคนครอบครัวนี้บาปหนักบาปหนา ชาตินี้ชาติหน้าก็ชดใช้กรรมไม่หมด ดูดร.อาทิตย์ก็ชิบหายไปแล้ว ใครมาซื้อหุ้นรพ.ก็ถูกไล่ออกนอกประเทศไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ไอ้คนที่เหลือคอยดูสิมันต้องมีอันเป็นไป รวมทั้งหัวหงอกหัวดำที่แพทยสภาที่มันทำกับคุณด้วย จะคอยดูว่าครอบครัวลูกหลานกิจการของคนเหล่านี้จะพังพินาศมากกว่าครอบครัวคุณหลายเท่านัก ดูตอนนี้สิสังคมต่างสาปแช่งพวกมันแทนครอบครัวคุณแล้ว ไปไหน ๆ พวกมันไม่สง่างามนักหรอก | โดย: ให้กำลังใจครอบครัวล้อเสริมวัฒนา [21 ก.พ. 52 16:51] ( IP A:58.8.7.151 X: ) |  |
|