ผู้สมัครแพทยสภา...หาเสียงแบบนี้
   แนวทางแก้ไขปัญหา“การฟ้องร้องแพทย์” โดยผู้สมัครกรรมการแพทยสภา เบอร์ 1
1. ทำให้แพทยสภาเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี และศักดิ์สิทธิ์ คำวินิจฉัยของแพทยสภาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องรับฟังและให้เป็นที่สุด โดยมีตัวแทนจากราชวิทยาลัยแต่ละสาขาร่วมพิจารณาด้วย

2. เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ โดยอาจมีบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านร่วมเป็นกรรมการทำหน้าที่พิ จารณาคำร้องอุทธรณ์ของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเป็นกลาง หลังจากมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่แล้ว

3. สมาชิกแพทยสภาท่านอื่นๆไม่สามารถไปให้การใดๆในศาลในฐานะพยาน ผู้เชี่ยวชาญที่ขัดแย้งกับข้อสรุปของแพทยสภาตามข้อ 1 ยกเว้น สมาชิกผู้นั้นจะสามารถพิสูจน์ทางวิชาการได้ว่าข้อสรุปของแพทยสภาไม่ถูกต้อง

4. จัดตั้งให้มีคณะกรรมการแพทย์ด้านกฎหมาย หรือ ชมรมแพทย์นักกฎหมาย เป็นองค์กรถาวรเพื่อให้คำปรึกษา ช่วยเหลือสมาชิกแพทยสภาทุกท่านที่มีปัญหาการฟ้องร้อง รวมทั้งพิจารณาไกล่เกลี่ยและเยียวยา ก่อนคดีขึ้นสู่ศาลด้วย

5. มีตัวแทนจากคณะกรรมการแพทย์ด้านกฎหมายออกไปบรรยาย ให้ความรู้ร่วมสัมมนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคลากรทางกฎหมาย และการยุติธรรม ทุกระดับชั้นนับตั้งแต่นักศึกษาและคณาจารย์ทางนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัย สภาทนายความ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนติบัณฑิตสภาสำนักงานอัยการสูงสุด ศาลทุกระดับกระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาและสื่อมวลชนด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจข้อเท็จจริงทางการแพทย์ อย่างแท้จริงโดยมีตารางเวลาที่แน่นอนและจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

6. เสนอให้มีศาลชำนัญพิเศษ เพื่อทำการพิจารณาคดีทางการแพทย์โดยเฉพาะเช่นเดียวกับศาลคดีแรงงานศาลคดีเยา วชนและครอบครัว ศาลภาษีอากรหรือศาลทรัพย์สินทางปัญญา โดยอาจเสนอให้มีผู้พิพากษาศาลสมทบทางการแพทย์ร่วมนั่งพิจารณาคดีด้วย

7. คดีทางการแพทย์ต้องแยกออกจากคดีผู้บริโภค เพราะที่มาของนิติสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

8. การรักษาและการผ่าตัดตามมาตรฐาน ถ้าเกิดมี Morbidity, Mortality ที่อยู่ใน normal range ตาม standard textbook ย่อมได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา

9. การออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบกับวงการแพทย์ ต้องผ่านการประชาพิจารณ์จากสมาชิกและได้รับการ Approve จากแพทยสภาก่อนทุกครั้ง ไม่ใช่ปล่อยให้กฎหมายผ่านสภาออกมาบังคับใช้แล้ว ค่อยคิดหาทางแก้ไขที่หลัง ซึ่งเป็นเรื่องยากกว่ามาก

“.............ถ้าท่านสมาชิกคิดว่า ผมมีประโยชน์ต่อท่าน โปรดพิจารณาเลือก........”

นพ. วิสุทธิ์ ลัจฉเสวี เบอร์ 1
-วิทยาศาสตร์บัณฑิต, แพทยศาสตร์บัณฑิต (เชียงใหม่)
-วุฒิบัตรสาขาศัลยศาสตร์(จุฬาฯ) , อนุมัติบัตรเวชศาสตร์ครอบครัว
-นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ2)-มสธ ; Mini-MBA (ม.ร.)
-จบทฤษฎีวิชาว่าความสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความ - สภาทนายความ
โดย: นี่ของเบอร์ 1 [21 ธ.ค. 51 11:02] ( IP A:58.9.183.168 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ขอเชิญสมาชิกแพทยสภาทุกท่านโปรดใช้สิทธิเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาวาระ พ.ศ.2552-2554

โดยส่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา ส่งไปยังสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ทางไปรษณีย์ หรือนำบัตรลงคะแนนดังกล่าวไปใส่หีบเลือกตั้ง ที่สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา อาคาร 6 ชั้น 7 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

หมดเขตการรับบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 20 มกราคม 2552 เวลา 16.30 น.

เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการตรวจนับคะแนน
1.อย่าลืมเซ็นชื่อของตัวท่านเอง
2.โปรดระบายดินสอ ให้เต็มวงกลม ไม่เกิน 26 หมายเลข

อนึ่ง ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งหรือต้องการบัตรแทน โปรดแจ้ง ความจำนงด้วยตนเอง พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นใดที่สามารถอ้างอิงได้ โดยลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร ไปยัง

สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา อาคาร 6 ชั้น 7 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

หรือ โทรสาร 0-2591-8614-5 ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2551 – 9 มกราคม 2552

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0-2590-18881 , 0-2590-1888 ต่อ 610 ,620

กำหนดตรวจนับคะแนนบัตรเลือกตั้ง วันที่ 21 มกราคม 2552 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมไพจิตร ปวะบุตร อาคาร 7 ชั้น 9 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

คณะกรรมการแพทยสภาวาระ พ.ศ. 2550 - 2552 (ตาม พรบ. มาตรา15) https://www.tmc.or.th/about_commitee.php

นโยบายคณะกรรมการแพทยสภา วาระ พ.ศ. 2550-2552
https://www.tmc.or.th/about_policy.php
โดย: ข่าวของแพทยสภา [21 ธ.ค. 51 11:16] ( IP A:58.9.183.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   มาแล้วทีมปากไม่มีหูรุด

โดย: บริหารโดยสากปากห.... [21 ธ.ค. 51 11:23] ( IP A:58.9.183.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   รายชื่ออยู่นี่
ผลงานคือ
ไล่เช็กบิลหมอเทพ

โดย: คนเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ ไม่มีวันได้รับการแก้ไข [21 ธ.ค. 51 11:24] ( IP A:58.9.183.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ต้องผ่าเอาหัวใจออกมา
ใครใจดำไม่มีเมตตาต่อผู้เสียหายทางการแพทย์
อาจได้รับเลือก แต่แน่นอนพวกเราไม่ยินดีด้วย
แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหาที่คนพวกนี้จะสนใจ
โดย: ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ [21 ธ.ค. 51 11:26] ( IP A:58.9.183.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ตนเองเป็นแพทย์ผู้ใหญ่
สังคมจับตามอง...
ว่าที่ผ่านมาทะเลาะกับคนไข้เสียเอง

และแล้วก็ไอ้คนกลุ่มเดิม ๆ นี่แหละ
ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเครือข่ายฯ ทั้งที่เราคือ
ผู้เสียหาย แต่ไม่เคยมีนโยบายว่าจะช่วยเหลือ
หรือคุ้มครองพวกเราแต่อย่างใด

มีแต่นโยบายจะปกป้องพวกพ้อง ขอให้ได้ชื่อว่า
เป็นหมอ
โดย: ฉลาด...แต่มีมนุษยธรรมหรือไม่..ก็เห็น ๆ กันอยู่ [21 ธ.ค. 51 14:16] ( IP A:58.9.202.60 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   แล้วก็ได้รับเลือกเหมือนเดิม
โดย: จริงไหม [21 ธ.ค. 51 18:53] ( IP A:203.118.92.202 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   การเมืองไม่เปลี่ยน
ก็คงมีความหวังยากทีจะเปลี่ยน
ไม่ว่าวงการไหน ๆ ไม่เว้นแม้แต่วงการแพทย์

ได้รับเลือกเข้ามาอีก เพราะมันมีการผูกขาด
ให้เฉพาะแพทย์ที่เลือกได้ ถ้าเป็นประชาชน
เลือกได้สิ จะมีน้ำหน้าเข้ามากันอีกไหม
โดยเฉพาะคนเลว ๆ ที่ไม่เคยมีจิตใจความเป็นมนุษย์

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตสำนึกถึงสังคมส่วนรวม
มากกว่าประโยชน์ส่วนตน....เท่านั้นนจริง ๆ
โดย: จิตสำนึก [22 ธ.ค. 51 6:42] ( IP A:58.9.184.253 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   แล้วแพทย์เคยไปเลือก คุรุสภาไหม สภาทนายความอีก ผู้พิพากษาด้วย แต่งตั้งกันเองทั้งนั้น
โดย: เจได [22 ธ.ค. 51 7:50] ( IP A:125.26.109.237 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   I saad
โดย: เจ้าบ้าน [22 ธ.ค. 51 20:00] ( IP A:124.121.144.166 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ก็ในเมื่อแพทยสภาเป็นองค์กรวิชาชีพที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย

คณะกรรมการแพทยสภาก็ครึ่งหนึ่งมาจากตำแหน่งหน้าที่ทางราชการโดยตำแหน่งทางบริหาร/ทางวิชาการแพทย์

อีกครึ่งหนึ่งมาจากการเลือกตั้งตรงจากผู้ที่กฎหมายต้องให้การรับรองผ่านกระบวนการของแพทยสภาให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

ฉะนั้น โดยสามัญสำนึกของเราท่าน

กรรมการแพทยสภาย่อมเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ร่วมกับการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย

ฉะนั้น การกระทำฉ้อฉลใดๆของกรรมการแพทยสภา ย่อมเข้าข่ายการถูกดำเนินคดีและพิจารณาคดี ใน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช่หรือไม่???!!!

แล้วบรรดาผู้เสียหายที่มี หรือ เคยมี เรื่องร้องเรียนที่แพทยสภา แล้วได้ผลของเรื่องร้องเรียนเป็น "คดีไม่มีมูล" แบบฉ้อฉล

ผมก็ขอให้ท่านเตรียมตัวศึกษาเรื่องนี้กันไว้ให้ดี หาข้อมูลติดต่อคุณวีระ สมความคิด/ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่นพกไว้ เตรียมเอกสาร/หลักฐานทั้งเก่าและใหม่ (ที่ขุดคุ้ยเอาจากที่ถูกกระบวนการหมอขี้ฉ้อแก๊งค์นี้ซุกไว้) รวบรวมกันเข้า

ถึงเวลาที่เหมาะที่ควร ก็น่าจะชวนกันไปล้างบางแพทยสภาโสโครกนี้กันซักกะที เฮ้อ
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [24 ธ.ค. 51 8:53] ( IP A:58.8.114.228 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   แล้วสภาทนายความมิได้แต่งตั้ง ตรา กฏหมายรึ

แล้วผูพิพากษาละ

เวลาลูกผม เอนท์ไม่ผิดผมก็ไม่เคยไปฟ้อง ว่า ครูสอนไม่ดีีเลย
โดย: ดด [24 ธ.ค. 51 10:28] ( IP A:61.19.66.4 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   ของบางอย่าง ในโลกนี้ ไม่สามารถรับประกันผลสำเร็จได้ ถึงแม้จะทำอย่างเต็มความสามารถแล้ว
ทำไมไม่รวมตัวกันฟ้องทนายที่ว่าความแล้วทำให้เราแพ้คดี
ฟ้องครู ที่ทำให้ลูกเรียนไม่ดี
ฟ้องพ่อ แม่ ที่เลี้ยงเรา ไม่ได้เป็นนายก
ฟ้อง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
การที่เค้ารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องใจดำ ไม่มีหัวใจ
แต่มันคนละเรื่องกับความถูกต้อง หรือความเป็นจริง
ถึงจะสงสาร เห็นใจ แค่ไหน
บางครั้งมันก็ต้องเป็นไปตามกฏแห่งธรรมชาติ
ทุกคนยินดีชดใช้ ให้เพราะความเห็นใจ สงสาร
แต่ไม่ยอม ถ้าให้รับผิด ทั้งที่ไม่ผิด
โดย: สังคม จะกลายเป็น Preventive Medicine [26 ธ.ค. 51 13:31] ( IP A:125.27.198.213 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   นายกแพทยสภา และผู้บริหารชุดเดิมของหมอสมศักดิ์ มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชนทั้งนั้น แล้วจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่เป็นผู้บริโภคได้อย่างไร
ลองไปอ่าน "วารสารคลินิก" เดือนธันวาคม 2551 ดู จะรู้ว่าต่างประเทศเขาไม่ยอมรับหมออย่างพวกคุณ พวกที่มีผลประ
โยชน์ทับซ้อน หาเสียงแบบ สส.พลังประชาชน พวกหน้าเหลี่ยม หลอกชาวบ้านไปวันๆ
โดย: อย่าเลือกเบอร์ 30-50 [29 ธ.ค. 51 21:36] ( IP A:58.10.71.68 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   เลือกไปแล้วนะ เสียใจด้วยกับพวกเอรงว่ะ
โดย: คนเก่า [1 ม.ค. 52 10:18] ( IP A:125.26.68.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   15 มกราคม 2552 กองบรรณาธิการ "ไทยโพสท์"

เชือด 6 บิ๊ก ขรก. "ทิพาวดี" ผิดวินัยร้ายแรง ทำความเสียหายให้แก่ระบบราชการ "สมใจนึก-สมหมาย-ศุภรัตน์" เจอฟันทางอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ปลัดกระทรวงการคลังโดนหนัก ถูกพ่วงความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ "ป.ป.ช." เตรียมส่งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย "กรณ์" แหยงเผือกร้อน ไม่กล้าให้ความเห็น อ้างยังไม่ทราบรายละเอียด

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกฯ แถลงเมื่อวันพุธถึงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ตามที่ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องกล่าวหาคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีหนังสือสำนักงาน ก.พ.แจ้งเวียนไปยังส่วนราชการ โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 และกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการคัดเลือกไม่เป็นไปตามมติ ครม.

นายกล้านรงค์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังได้รับเรื่องกล่าวหานายสมใจนึก เองตระกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง กับพวก ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 (กระทรวงการคลัง) ดำเนินการคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากรโดยมิชอบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน

โฆษก ป.ป.ช.ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คุณหญิงทิพาวดีได้นำเสนอเรื่องระบบนักบริหารระดับสูงต่อ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ และอนุมัติให้นำระบบดังกล่าวมาใช้ โดยสำนักงาน ก.พ.จะจัดทำบัญชีของผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหารระดับสูง กลุ่มที่ 1 (นักบริหาร 9) จากผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและผ่านการประเมิน โดยผู้ที่ผ่านการประเมินจะมีชื่ออยู่ในบัญชีนักบริหาร และบัญชีจะมีอายุ 2 ปี ซึ่งที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2543 มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน ก.พ.นำระบบดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2544

เขากล่าวว่า แต่ในวันที่ 15 ส.ค. 2544 คุณหญิงทิพาวดีได้ดำเนินการออกหนังสือเวียน แจ้งส่วนราชการเพื่อดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว ซึ่งหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายและฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง จนในที่สุดศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่า การที่สำนักงาน ก.พ.กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังกล่าวไม่ชอบด้วยมติ ครม. และไม่เป็นธรรมแก่ผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ผ่านการประเมิน ดังนั้นหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2544 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

"คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าผลจากการกระทำของคุณหญิงทิพาวดี ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ได้สร้างความเสียหายแก่ ครม.และระบบราชการในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างร้ายแรง ส่งผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงในด้านข้อกฎหมาย และคำสั่งทางปกครองทำให้สถานภาพความเป็นข้าราชการและการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งของผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรง การกระทำของคุณหญิงทิพาวดีจึงเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบราชการ มติ ครม.หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 85 วรรคสอง"

ส่วนกรณีกล่าวหานายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลังขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 (กระทรวงการคลัง) นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รองปลัดกระทรวงการคลังในขณะนั้น นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากรขณะนั้น ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงการคลัง นายวีระ ไชยธรรม ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ. และนายเมธี ภมรานนท์ ผู้แทน ก.พ. ใน อ.ก.พ. กระทรวงการคลัง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตในการคัดเลือกข้าราชการเพื่อดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากร

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ผู้ได้รับความเสียหายจากการคัดเลือกได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้มีการพิพากษาว่าการดำเนินการคัดเลือกไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมีการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สมัคร โดยพฤติการณ์เชื่อได้ว่ามีการกำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น จึงทำให้คำสั่งแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายกล้านรงค์กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของนายสมใจนึก นายสมหมาย นายศุภรัตน์ และนายวีระ มีมูล ถือเป็นความผิดอาญา ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ส่วนนายเมธี ซึ่งในขณะกระทำผิดได้พ้นจากราชการไปแล้ว มีมูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86

"นอกจากนี้ นายศุภรัตน์ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการด้วย โดย ป.ป.ช.จะส่งรายงานเอกสารและความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาต่อไป" นายกล้านรงค์กล่าว.....

กฎหมายเริ่มเป็นกฎหมายกันแล้ว กฎหมายควรจะเดินไปในทิศทางที่เอื้อความชอบธรรมของมวลชนซะที ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของผู้ถือหรือผู้บัญญัติกฎหมายในการฉ้อฉล/เอื้อประโยชน์แก่ตนและพวก

เมื่อไหร่เราจะเห็น "ผู้เสียหาย" กล่าวโทษ ป.ป.ช. ให้สอบ "แพทยสภา" มั่งนะ คนไทยเจ็บ/ตาย/ชิบหายต่อเนื่องไปแบบคดี "ไม่มีมูล" ชุ่ยๆ มักง่าย แล้วก็ "ขี้ฉ้อ" ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยคดี??? กันแล้ว
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [15 ม.ค. 52 11:09] ( IP A:58.8.114.52 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน