เรื่องทะแม่งๆจาก สธ. เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
   เมื่อวานตามข่าว ท่าน รมช. สธ. กับ ท่านวิทยา รมต. เอง ออกมาอ้อมแอ้มประกาศยอมรับว่า มีคนไทยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ตัวใหม่นี้แล้ว 2 คน

แต่จากข่าวเมื่อวานซืน ในรายการวิทยุ 97.75 FM ของ ASTV ตอน 4 โมงเย็นแก่ๆ คุณมนตรี จองพันธ์ ที่ออกรายการคู่กับคุณบัณฑิต ปิ่นมงคลกุล เอ่ยไว้ตอนหนึ่งว่า แกรู้สึกทะแม่งทะแม่งว่า ข่าวการส่งเชื้อที่พบจากข้าราชการหญิงรายหนึ่งที่พึ่งกลับจาก ต.ป.ท. ซึ่งมีการระบาดของเชื้อนี้แล้วออกอาการไข้ จึงส่งไปตรวจพิสูจน์เชื้อที่อเมริกา แล้วรองปลัด สธ. ก็ออกมาประกาศให้เตรียมรับมือการแพร่ระบาดของโรคนี้หลังทราบผลของการตรวจเชื้อจากคนไข้รายนี้ในวันพรุ่งนี้ (ซึ่งก็ยังเป็นเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงขณะกำลังออกข่าว) พอออกข่าวตูมเมื่อวานก็ "เป็นจริงสมดังปากว่าของท่านรองปลัด สธ. แป๊ะ ดั่งผู้หยั่งรู้อนาคต" ยังไงยังงั้นเลย

ผมฟังดูก็เห็นจริงตามที่คุณมนตรี จองพันธ์ ของ FM 97.75 ว่านั่นเลย

แล้วยังคิดไปถึงข่าวแพร่ระบาดของโรคนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่สถานีวิทยุเดียวกันนี้ ออกข่าวของกระทรวงวิทยศาสตร์ (ที่มีท่านประพันธ์ คูณมี เป็นที่ปรึกษา รมต. อยู่) ออกข่าวว่าเคยพัฒนาชุดตรวจจับการติดเชื้อ "ไข้หวัดนกจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H5N1" ให้ทราบผลในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะเป็นอาทิตย์อย่างแต่ก่อน และด้วยราคาชุดตรวจจับที่พัฒนาได้นี้น้อยกว่าระดับหลายๆเท่าของที่สั่งซื้อจาก ตปท. เข้ามาใช้อยู่ พร้อมกับเสริมว่า กระทรวงวิทยฯ เองได้พัฒนาวัคซีนต้านไข้หวัดนกต้นแบบไว้ใช้เองแล้ว และเพียงแต่รอขอรับ "เชื้อตัวอย่างจากประเทศแคนาดา" มาทดสอบเปรียบเทียบ "ก็มีความมั่นใจว่าสามารถต่อยอดงานพัฒนาชิ้นเดียวกันให้ได้วัคซีนต้าน "ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009" ต่อได้เลยในเวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์

ทั้งหมดนี้ ผมก็ลองคิดประติดประต่อประสาชาวบ้านรู้น้อยๆว่า ก็ในเมื่อเราเก่งขนาดพัฒนาวัคซีนต้านไข้หวัดนกได้ พัฒนาชุดตรวจพิสูจน์การติดเชื้อที่เห็นผลว่องไวทันใจได้ (เผอิญเป็นผลงานของกระทรวงวิทยฯ ที่เป็นคนละกระทรวงกับ สธ. ซึ่งน่าจะเป็นหน่วยที่พัฒนาเรื่องนี้ขึ้นจากหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง)

แล้วทำไมเราต้องเสียเงินเปลืองทอง แล้วก็เสียเวลา (อันมีค่ามากกว่าเป็นไหนๆ) ส่งไอ้เจ้าเชื้อตะหวักตะบวยนี่ไปตรวจถึงอเมริกา เพียงเพื่อให้ได้ผลที่ "ตรงตามคำทำนายล่วงหน้าก่อนได้รับผล หนึ่ง วันของท่านรองปลัด สธ." แล้วก็มาประกาศโครมเดียว ที่ทำให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย มีทางเอียงไถลเซแซดๆไม่เป็นท่าหลังปล่อยข่าวนี้ออกมา

ตกลงนี่เราต้องจ่ายเงินค่าตรวจพิสูจน์ถึงที่อเมริกา เพื่อให้ผลการพิสูจน์จากประเทศทางซีกโลกฝั่งโน้น มาฟาดฟันอนาคตการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศเราที่อยู่ฝั่งนี้ งั้น????

ทำไมเราไม่ให้กระทรวงวิทยฯ เป็นคนตรวจพิสูจน์เชื้อ ?????!!!!!!!!!

งานนี้ทำไมสองกระทรวงนี้ ไม่ร่วมมือกัน??? มีอะไรเกี่ยวข้องกับการจัดหา และ/หรือ จัดซื้อยาต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ในเงื่อนไขแบบ "เร่งด่วนจี๋" ในปริมาณมหาศาลเพื่อมวลชนคนไทย "ที่อาจจะบังเอิญอย่างเหนือคำบรรยายไปเข้าเท้าท่านใดเข้า หรือเปล่าน๊อๆๆๆ"

ผมน่ะ รอทาง ASTV หรือ ท่านประพันธ์ คูณมี ช่วยกันคุ้ยต่อมาแถลงเล่าแจ้งให้ประชาชนคนจ่ายภาษีให้ได้รับรู้หน่อยเด้อ ถือว่าทำบุญเด้อ
โดย: คนด้อยความรู้+ขี้สงสัย [13 พ.ค. 52 11:43] ( IP A:58.8.229.149 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   การลงทุนเพื่อทำการตรวจมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

เทียบกับส่งไปอเมริกา ลองคิดดูเองกับการตรวจแค่ 2 ตัวอย่าง

ไม่เหมือนไข้หวัดนกที่เราเป็นแหล่งระบาด
โดย: ZtahC [13 พ.ค. 52 18:12] ( IP A:58.136.50.191 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ตกลงโรคนี้น่ากัวกว่าเอดส์หรือเปล่าเนี่ย ?

เฮ้อ !!+++ เอาเข้าไปซิ ...
โดย: ต๋ายแต้ก่ะ [13 พ.ค. 52 19:31] ( IP A:114.128.109.136 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ข้อเท็จจริงของหน่วยงานที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข 1. ไม่มีมูล แสดงว่ามีมูล
2. ให้ผู้เสียหายกลับบ้านไปก่อนแล้วจะช่วยเหลือ แสดงว่าไม่ช่วย
3. เวชระเบียนหรือขอได้ แสดงว่าชาติหน้าตอนบ่าย ๆ ก็ขอไม่ได้

อะไรที่คิดว่าใช่ มักไม่ใช่
กระทรวงนี้มีผีสิง มันชอบหลอกชาวบ้าน

ท่านวิทยามาทีหลัง ระวังผีหลอก
โดยเฉพาะผีเปรตหน้าขาว ๆ
หลอกผู้เสียหายมามากแล้ว
โดย: กลัวผีเปรตตตตตตต [13 พ.ค. 52 23:55] ( IP A:58.9.189.215 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ตายหล่ะ

นี่เรามีส่งได้แค่ 2 ตัวอย่างไปตรวจเชื้อถึงอเมริกา

เราคงจะประหยัดเงินได้หลายแสนบาทมั๊ง???!!!

แต่ผลตรวจที่ออกมา แล้วก็ความจำเป็นเร่งด่วนที่รองปลัด ส.ธ. แสดงออกเองว่าต้องเตรียมตัวป้องการแพร่ระบาด แล้วก็ "การเล็งเห็นได้ถึงความอ่อนไหวของผลการพิสูจน์นี้ที่จะชี้ชะตาทางเศรษฐกิจและสวัสดิภาพทางสาธารณสุขมวลชนของประเทศอย่างทันตาเห็น" ซึ่งผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะและฝีมือ ที่ไม่ใช่ "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน" จำเป็นจะต้องมีเมื่ออยู่ในหน้าที่ซึ่งต้อง รับผิดชอบต่อประโยชน์สาธารณะ

เฮ้อ เราประหยัดเงินแสนบาท แต่ล่อแหลมต่อการเสียหายสาธารณะระดับสิบระดับร้อยล้านบาท ดูว่าผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ คิดกันได้แค่นี้

แล้วยังคิดต่อไปได้ว่า ในเมื่อกระทรวงวิทยฯ ก็ตั้งตารอ "เชื้อตัวอย่าง" นี้อยู่อย่างขะมักขะเม้นจากต่างประเทศ แล้วเราก็มีตัวเชื้ออยู่ในมือ "ที่ผ่านเข้าสู่ร่างคนไทยเป็นต้นแบบไว้แล้ว" ด้วยเพื่อเอาไปเพาะไปฟักหายาต้านได้เลย

เรากลับพลาดโอกาสนี้ไปต่อหน้าต่อตา ด้วยความไร้เดียงสา

อย่างนี้ พอจะเรียกว่า คิดเป็นและทำงานเป็น ทำงานเก่งได้ไหมเนี่ย????
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [14 พ.ค. 52 7:33] ( IP A:58.8.102.146 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ช่วยหาข่าวไห้ด้วยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
โดย: noey-nan@hotmail.com [19 ส.ค. 52 20:20] ( IP A:113.53.43.11 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน