ขอให้อายุยืนยาวนะยายทวด
   ผมแปลกใจที่สมัยนี้ คนชอบงานเบา รายได้ดี
เป็นหมอกลัวงานหนัก กลัวถูกฟ้อง บ้ากันใหญ่
ใครสั่ง ใครสอน สมัยผมเขาว่าเป็น นศพ(นักศึกษาแพทย์) ห้ามกินข้าวร้อน นอนตื่นสาย
คนสมัยก่อนกลับบ้านนั่งทำแล็ป ค้นหาความจริง
อ่านประวัติยายทวดแล้ว ละเหี่ยใจแทนพวกบ่นงานหนัก
https://en.wikipedia.org/wiki/Rita_Levi-Montalcini
สมัยนี้ มันบ่นงานหนัก เงินน้อย แดกกันจน *** เป็นโรคหัวใจตายฮ่าหมด ยังบ่นเงินน้อยงานหนัก
โดย: แด่คุณยายสาวที่ได้รางวัลโนเบิล [14 ส.ค. 52 5:32] ( IP A:58.8.6.223 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ดูกันเอง

โดย: ฟฟ [14 ส.ค. 52 5:34] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   สมัยคุณยายสาวๆ

โดย: เล่นหนังได้สบาย [14 ส.ค. 52 5:35] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   คำว่า *** เซ็นเซ่อร์ด้วยหรือ
โดย: ฟฟ [14 ส.ค. 52 5:37] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   คำว่า อ ว น ไม้โท นี่เซ็นเซ่อร์ ปั๊ด
โดย: ฟฟ [14 ส.ค. 52 5:37] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ผมตัดไข่ 15 นาที คิด 5000 (ทำง่ายแบบเดียวกับตอนหมู)
หมอคนอื่นตัดไข่คือ 5 หมื่นถึงแสนสอง
เป็นหมองานหนักรายได้น้อย ฮาๆๆ
โดย: ฟฟ [14 ส.ค. 52 5:39] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   อ้อ ลืมบอกคนไม่ชอบภาษาอังกฤษ
คุณยายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รางวัลโนเบิลคนแรกที่มีอายุถึง 100 ปี
เพิ่งมีคนจัดแฮปปี้เบริดเดย์ให้ปีนี้เอง
ประธานเครือข่ายขืนอายุยืนแบบนี้ วงการแพทย์ตายฮ่าแน่
โดย: เอาแค่ 99 ปีก็พอ เจ๊ เลขสวย [14 ส.ค. 52 5:42] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   คุณยายอีกคน
เขาว่าอายุ 80 ยังวุ่นอยู่กับการทำแล็ป
และเขาว่าพวกแจกรางวัลโนเบลตาถั่ว ลืมยายไปได้
แกเป็นคนผลิตนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลตั้งหลายคน
เป็นคนแรกที่เพาะเชื้อโปลิโอได้
เชื้อนี้เจอบ่อยในคนไข้ที่ฉีดยาแล้วขาเป๋และแพ้คดีมาตลอด
ถ้ายายแกไม่ตายจะส่งคนไข้ขาเป๋แพ้คดีไปให้เพาะเชื้อโปลิโอดู
โดย: แม่งพวกโกหกตาถั่ว [14 ส.ค. 52 6:14] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   https://en.wikipedia.org/wiki/Marguerite_Vogt
โดย: ลืมส่งลิ้งค์ [14 ส.ค. 52 6:15] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   หน้าตายายทวดเป็นแบบนี้

โดย: สวยมั๋กๆ [14 ส.ค. 52 6:19] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ยากดูหน้ายายตอนสาวๆและตอนแก่นั่งทำงานมากกว่าหมอหนุ่มๆสาวๆแถมไม่บ่นเรื่องเงิน คลิกดูได้ ที่นี่
https://www-rcf.usc.edu/~forsburg/vogt.html
แบบนี้ดันไม่เอาไปสอนนักเรียนว่าโชคดีแล้วที่ได้เรียนหมอ
ดันสอนว่าเรียนหมองานหนักถูกฟ้อง
พวก ฮ่า คนไข้แม่งเองอวย ชอบฟ้องหมอ
สอนกันเข้าไป วงการแพทย์จะได้เจริญ ไม่ว่ากันหรอก
โดย: อายเขาไหมหนูๆ นศพ [14 ส.ค. 52 6:23] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   งานหนักเงินน้อยหรือจ๊ะหนู

โดย: ฟฟ [14 ส.ค. 52 6:26] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   นี่ถ้ามาเดินแถวประตูน้ำคนคงนึกว่าเป็นคุณยายหลงทางมา
ที่ไหนได้ โปลิโอตัวเอ้ดั้งเดิม
อย่าหลงไปศาลก็แล้วกัน โปลิโอแถวนั้นเยอะ พวกฉีดยาขาเดี๋ยง แต่หมอว่าเป็นโปลิโอ
โดย: ฟฟ [14 ส.ค. 52 6:29] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   Walter Eckhart "Marguerite supported young people and took pleasure in their success. She was unfailingly kind to others, generous in sharing her knowledge, and an inspiration to generations of aspiring scientists. I feel grateful to have been her colleague."
โดย: อาจารย์อย่างนี้มีไหมในไทย มีครับผมเคยเจอ แต่เจออีกที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม ปั๊ท [14 ส.ค. 52 6:32] ( IP A:58.8.6.223 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
   ไอ้ที่บ่น ไม่ได้ทำงานตัดไข่แบบเอ็งนี่หว่า...
พวกที่บ่น เขาอดนอนดูคนไข้อุบัติเหตุตีสามตีสี่ กินเหล้าเมาแล้วอาละวาดตีกัน มาเย็บแผลตอนผับปิดตี 2 ตี 3
โดย: หมอก้อนหิน [14 ส.ค. 52 22:34] ( IP A:65.49.14.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   ความเห็น 14
คุณคงไม่เคยเปิดคลินิกแล้วผ่าตัด
เอาง่ายๆแค่ผ่าตัดตาสองชั้น คนไข้เขาต้องได้เบอร์มือถือ เพราะถ้าเลือดซึมๆก็ต้องโทรมา แวะมาดู ไม่งั้นตาบอดได้
คนไข้ตาบอดได้ 1 ใน สามหมื่น
ตำราแพทย์เขาสอนว่า คนไข้ต้องตามหมอและกลับมาหาหมอได้ทันที
ต้องนอนกับมือถือ
ผมเคยมีคนไข้ 3 คนในชีวิต ที่ต้องกลับมาตีสองตีสาม มารื้อแผลห้ามเลือด คนหนึ่งตัดไหมไปแล้ว
คนหนึ่งอยู่บ้านคนเดียว สามีเป็นนักดนตรี อยู่ในป่าแถวรามคำแหง หาแท็กซี่ก็ไม่ได้ สมัยไม่มีมือถือ คนนี้ต้องเอาเครื่องมือและเครื่องจี้ไป กะว่าฉุกเฉินก็ทำที่บ้านได้เลย
ผมยังงงที่หมอหลายคนสมัยนี้ผ่าตัดกลางวัน เย็นปิดคลินิก มือถือก็ไม่ให้ นี่เอาเฉพาะเรื่องตาสองชั้น
ผมเคยมีคนไข้ผ่าตัดนมมาจากยะลา ต้องรีบลงรถไฟที่สามเสนตอนเช้า นั่งแท็กซี่มาที่คลินิกผม(ประมาณ 7 โมงเช้า) ตกเลือดผมต้องรื้อห้ามเลือดให้ ตังค์ก็ไม่ได้ คนไข้ผ่าตัดเสร็จเขาบอกขอนอนคลินิกสักคืน หมอก็ไม่ให้
คุณคงคิดว่าหมอผ่าตัดเสริมสวย คลินิกส่วนตัวชีวิตสบาย คุณลองผ่าตัด กระเดือก ผ่าตัดกราม ผ่าตัดนม ดึงหน้า หรือตัดไข่ดูก็ได้ แล้วจะรู้ว่าแน่ยังไงวันหนึ่งก็เจอลูกมะพร้าว ดึกๆถ้ามีโทรศัพท์ นอนผวาได้ก็แล้วกัน อย่าว่าแต่บรรดาญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเวลามีอุบัติเหตุไปโรงพยาบาลเขาก็ตามผมไปดู ก็มีบ่อย
ชีวิตหมอผ่าตัด ไม่ว่าชนิดไหน ไม่สบายหรอกครับ เว้นแต่เป็นหมอผิวหนัง หมอเอ็กเรย์ (ก็ไม่แน่) หมอตรวจชิ้นเนื้อ
นอกนั้นไม่ว่าหมอสูติ หมอผ่าตัดอื่นๆที่เปิดคลินกและทำผ่าตัด ก็คงไม่สบายแบบที่คุณคิด เว้นแต่ว่า คุณจะปิดมือถือ ตายห่ .. ช่างมัน
นี่ตี 4 ครึ่งผมยังไม่ได้นอน เพิ่งทำคดีเสร็จ ตังค์ก็ไม่ได้ หลายคนยังถามว่าทำแล้วได้อะไร
ผมว่าอย่างน้อยก็ช่วยคนไข้รายต่อไปไม่ต้องตายแบบลูกเขาอีก
ชนะก็ดี แพ้คดีกระทรวง ก็ไม่เป็นไร กระทรวงเหนื่อยก็แล้วกัน คดีไหนถ้าชนะคนไข้ โดยการรุมกันเบิกความเท็จ ชนะไปก็นอนไม่หลับหรอก อย่างไรคนไข้ถึงจะแพ้ อย่างน้อยพวกหมอก็คงระวังตัวกันหน่อย
ผมจะได้มีเวลานอนกะเขามากอีกหน่อย
โดย: ฟฟ [15 ส.ค. 52 4:34] ( IP A:58.8.14.185 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   คห.15
ไม่มีคลินิค ทำแต่ รพ.รัฐ อยู่เวรยันเต..
ส่วนอีกอย่าง จะบ้าเหรอ บางคลินิคก็บอก เป็นสถานพยาบาลแบบไม่รับผู้ป่วยค้างคืน บอกว่าขอนอน แล้วจะให้ไปนอนไหน??
โดย: หมอก้อนหิน [15 ส.ค. 52 6:55] ( IP A:117.47.235.21 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   คุณต้องเปิดใจกว้าง ๆ หน่อย ลองสมมุติตัวเองเป็นผู้เสียหายแบบแม่น้องบีม คุณจะทำแบบแม่น้องบีมหรือเปล่า คนไข้ไม่ได้หน้าเงินอย่างที่คุณคิดแต่ที่เขาเรียกเยอะ เพราะเขาคิดว่าเขาเสียหายมากมาย แต่ศาลจะให้เท่าไหร่เขาก็แล้วแต่ศาล คุณดูสิศาลไม่ได้ให้ตามที่เรียกแม้แต่คนเดียว อีกเหตุผลที่เขาเรียกเยอะก็เพราะพฤติกรรมของผอ.หรือหมอบางคนทำให้เขาโกรธ ดูถูกเหยียดหยาม เวชระเบียนก็ไม่ให้เขา เทียวไปเทียวมาตั้ง 4-5 รอบก็ได้ไม่ครบ สัญญาอะไรไว้ก็ไม่ให้ ดุด่าเขาอีก คนจนเจ็บใจไม่เป็นหรือไงหมอ
โดย: อย่าอคติด่าคนที่เขาเสียหายยันเต [15 ส.ค. 52 7:13] ( IP A:58.9.193.38 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   3 คนในชีวิต เยอะมากเลยอะที่กลับมาตอนดึกๆ
ของผมหรอ 3 รายต่อเวรที่มาให้ตรวจรักษานะมากกว่านี้เยอะ
ทำเป็นอวด เรื่องดี เอาเข้าตัวตลอด
โดย: คนอื่นเค้าทำมากกว่านี้ [15 ส.ค. 52 12:08] ( IP A:203.154.66.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   เขามีกฎว่าห้ามค้างคืน แต่นอนจนรุ่งเช้าก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร หากเขาเสี่ยงที่จะกลับ กฎข้อสำคัญกว่าก็คือห้ามละทิ้งคนไข้ที่กำลังอยู่ในอันตราย และห้ามเสือกไสไล่ส่งคนไข้ ห้ามเอาไปทิ้งข้างทาง
ปกติผมก็บอกคนไข้เสมอว่าคุณผ่าตัดแล้วกลับบ้าน ต้องกลับมาได้ภายใน 1 ชั่วโมง ไปพัทยาหรือชลบุรีไม่ได้ (กะเทยพัทยาทำแล้วต้องพักกรุงเทพ)
และผมจะจำหน่ายคนไข้หลัง 1 ทุ่ม ช่วง 3 โมงเย็นถึงทุ่มห้ามกลับ เพราะรถติด และไปแย่งคนอื่นกลับบ้าน ฉุกเฉินกลับมาไม่ทัน
คุณไม่ให้เขานอนก็ต้องบอกเขาว่าต้องอยู่ยะลา สักสามวัน แต่ 24 ชั่วโมงแรกคุณนั่งรถทัวร์รถไฟไม่ได้หรอก รถทัวร์ยังดีแวะกลางทางได้รถไฟแวะแล้วจะหารถได้ที่ไหน
ส่วนเรื่อง 3 คน นี่เป็นความรับผิดชอบผม เป็นเฉพาะคนไข้ตาสองชั้นที่ผมยกตัวอย่างให้ดู เพราะผมแปลกใจมากที่คนไข้ปีใหม่จะมาตัดไหม ตา จมูกที่คลินิกผม เพราะคลินิกคนที่ทำผ่าตัดให้ ปิดปีใหม่ ฉุกเฉินมันจะไปหาหมอที่ไหนได้ ปิดกันหมด ผมทำคลินิกมา 20 กว่าปี ไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว
ส่วนโรงพยาบาลที่เย็บเสร็จแล้วให้ตัดไหมใกล้บ้าน นี่ผมก็ทำให้ประจำ
โดย: ผมก็ทำตามที่ผมต้องรับผิดชอบ [15 ส.ค. 52 14:31] ( IP A:58.8.14.185 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   คห.19
นอนจนรุ่งเช้า เค้าไม่ได้เรียกว่าค้างคืนหรอกเหรอ...สงสัยผมต้องกลับไปเรียนภาษาไทยใหม่...
โดย: หมอก้อนหิน [15 ส.ค. 52 19:34] ( IP A:114.128.220.96 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   ตามกฎหมายอาญา เขาระบุไว้ว่า กลางคืนคือหลังตะวันตกดินถึงก่อนตะวันขึ้น
สมมติว่าวันนี้คือวันที่ 16 สิงหาคม เวลาขณะนี้ 10.00 น.
เวลา 24.00 น.ถึง 6.00 น.(ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น) ของวันที่ 16 (เมื่อคืนนี้) เขาเรียกว่ากลางคืนก่อนเที่ยง(เที่ยงวัน)
เวลา 18.00 น. (หลังอาทิตย์ตกดิน) ไปถึง 24.00 น.ที่กำลังจะมา เขาเรียกว่ากลางคืนหลังเที่ยง(เที่ยงวัน)ของวันที่ 16
ดังนั้นถ้าคุณไม่ค้างคืน
คุณก็ต้องออกไปก่อนตะวันขึ้น
ปกติผมผ่าตัดเช้ากลับเย็น ผ่าตัดกลางวันกลับ 2-3 ทุ่ม ถ้าผ่าตัดตอนเย็น สมมุติว่าเสร็จตอน 1 ทุ่ม (ผมไม่ผ่าตัดหลังสองทุ่ม) คุณก็ต้องนอนพัก 6 ชั่วโมง กลับบ้านได้หลังตี 1 ตี 2 ถ้าจะกลับก็ให้ญาติมารับ ถ้าไม่กลับก็กลับเช้า หรือไม่มีญาติรับกลับจริงๆผมก็จะมีแท็กซี่เจ้าประจำเรียกมารับกลับ แต่คุณต้องมีญาติรอที่บ้าน
แต่ผ่าตัดหลายอย่างเช่น ตัดหน้าท้อง แปลงเพศ ถ้ากลับไม่ไหว ก็มีโรงแรมหลังคลินิก 3 แห่ง ห่างแค่ป้ายรถเมล์เดียว ไปนอนพักได้ ผมจะให้คนเข็นไปส่ง เช้าก็ตามไปดู
สมัยก่อนต้องเข็นข้ามไฟแดงไปนอนโรงแรมอินทราฝั่งตรงข้าม
หรือไม่ผมให้นอนห้องพักที่อพาร์ตเม้นท์ใกล้ที่ผมเช่าไว้จอดรถและให้คนไข้พักฟรีได้ 3 ห้อง แต่ตอนหลังเกรงใจเจ้าของอพาร์ทเม้นท์เพราะญาติเข้าออกพลุกพล่าน ก็เลยให้ไปนอนโรงแรม (พอดีเข้าสร้างโรงแรมใกล้ๆอีกหลายแห่ง) ก็สะดวกดี
ผมสู้หมอฝรั่งที่เขาทำสารคดีในยูบีซีไม่ได้ตรงที่ไม่ได้มีรถพยาบาลขับไปส่งเท่านั้นเอง
เคยมีการทำวิจัยไว้ว่า โรงแรมรอบๆโรงพยาบาลใหญ่ๆ กิจการดีเพราะคนไข้จากโรงพยาบาลและญาติไปพัก ผมจำไม่ได้ว่าใครทำวิจัยไว้ ไม่แน่ใจว่ากสิกรไทยหรือเปล่า
แต่โรงแรมในซอยบ้านผมและบริษัททัวร์ เดี๋ยวนี้เขาเอาโบชัวร์ มาขอวางที่คลินิก
ผมก็ให้เขาวาง ไม่เก็บค่าหัวคิว เถ้าแก่โรงแรมหลายคนเดี๋ยวนี้ชอบพอกันมาก เขาบอกว่าส่งไปที่อื่น ต้องจ่ายค่าหัวคิว ผมบอกไม่ต้องหรอก คุณบริการเขาดีดีก็แล้วกัน (พักหลายคนหน่อยเขาก็ไม่ค่อยว่า)
โดย: ฟฟ [16 ส.ค. 52 10:43] ( IP A:58.8.5.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   กล้าพูดเนอะ ไม่อายปากนะเรา ขำว่ะ มันเทียบได้กับเศษขี้ตินของหมอ รพ รัฐ หรือว่ะ
โดย: หมอตัดไข่ [16 ส.ค. 52 11:01] ( IP A:125.26.110.243 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   คูณหมอตัดไข่ เคยผ่าใน รพ รัฐ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ ถ้าไม่เคย กรุณาหุบปาก
คุณหมอตัดไข่เคยทำงาน รพ รัฐแบบ 72 ชม ติดกันโดยไม่ได้นอนไหมครับ ถ้าไม่เคยหุบปาก
คุณหมอตัดไข่ เคยตรวจคนไข้ OPD คนเดียว 200 คน ข้าวเที่ยงกินตอนบ่าย 2 ไหมครับ ถ้าไม่เคย กลับไปเลียไข่ลูกคุณหมอ แล้วก็ตัดซะนะ
โดย: เลวจริงๆ [16 ส.ค. 52 11:15] ( IP A:125.26.110.243 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   คงเป็นหมอหนึ่งเดียวในประเทศนี้ที่กลางวันตัดไข่ กลางคืนทำงานกฎหมายตัดไข่แพทยสภาเจ้าเล่ห์จนมานขยาด เดี๋ยวนี้ไม่กล้าสู้หน้าผู้เสียหายแล้ว ไม่รู้เอาเวลาตอนไหนพักผ่อน ฟ้ามีตาครับ ขอบคุณ
โดย: ครับ [16 ส.ค. 52 13:34] ( IP A:124.121.135.77 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   สมัยผมเป็นแพทย์ฝึกหัด ก็ยืนผ่าตัดยันเช้า ผ่าไส้ติ่งตั้งแต่เย็นวันศุกร์ เช้าวันจันทร์ยังผ่าไส้ติ่งไม่หมด เพราะว่า มีอุบัติเหตุมาแทรก ไส้ติ่งก็นอนรอ เพราะหมอเขาอยู่เวร วันละชุด ที่เหลือนอน
สมัยหมอสงวนเพื่อนผมที่ตายไปแล้ว คุณหมอวิชัยได้กล่าวสดุดีว่าเป็นคนทำให้ไส้ติ่งไม่ต้องนอนรอ เพราะให้ผ่าตัดแล้วเบิกเงินได้ ก็เลยมีคนยอมมาผ่าตัดให้ ผ่ามากได้มาก จนล่าสุดที่เชียงใหม่เอาคนไข้อุบัติเหตุที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดไปผ่าตัดเปิดกะโหกลจนมีปัญหาตาย เป็นคดีกันอยู่
ผมอยู่บ้านนอกผมก็ทำงาน 24 ชั่วโมงแบบพวกหมอนั่นแหละ อะไรที่ลำบากก็ทำมาก่อน สมัยผมไปอยู่มวกเหล็กน้ำไฟก็ยังไม่มี ต้องปั่นไฟใช้ หม้อนึ่งก็น้ำมันก๊าด ผ่าตัดทำหมันหญิงได้วันละ 14 รายทำหมันชายได้วันละ 10 ราย ก็ทำมาแล้ว
ถ้าว่าผมผ่าตัดคนไข้ใน รพ หลวงเมื่อไหร่ผมก็คงจำไม่ได้ แต่ผมเพิ่งปั๊มคนไข้ท่ามกลางดงระเบิด แล้วไปส่งโรงพยาบาลรามาก็ไม่นานมานี้เอง
ว่าไปแล้วพวกหมอปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หัดหุบๆปากมั่งก็จะดี ผมก็ว่าผมโต้ตอบกันมาหลายทีแล้ว น่าจะพอกันที แต่ยังรักจะต่อยตีก็ไม่ว่า เอาเหอะ ขอกันกิน เพียงแต่อย่าเอาตัวเองไปตัดสินคนอื่น คุณมักจะคิดว่าคนอื่นสบาย คุณลำบาก บอกตรงๆ ชีวิตผมก็ลำบากจนเคยชินเป็นหมอบอกตรงๆยังสบายกว่าเยอะ
ส่วนที่ว่าผมทำคดีให้นั้น ก็ไม่อยากทำหรอก แต่บอกสภาทนายความกับแพทยสภาช่วยทำให้เขาหน่อย เวลาคนไข้ไปฟ้อง หรือร้องขอความเป็นธรรม ถ้าทั้งสองสภาทำงานสนองความต้องการคนไข้ได้ ผมก็จะได้มีเวลานอนและดูฟุตบอล ดูกอฟล์บ้าง
ผมไม่อยากทำหรอกครับ ตังค์ก็ไม่ได้ แต่คุณเคยเห็นหมอที่มีญาติตายแล้วไปฟ้องหมอด้วยกันไหม เขาช่วยเฉพาะญาติเขา ก็มีนี่นาหมอที่ฟ้องหมอ เพียงแต่ว่า เขาจำกัดความยุติธรรมเฉพาะญาติตัวเอง ซึ่งผมเห็นว่า น่าจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่
ส่วนตรวจโอพีดีวันละ 2-300 คนผมตรวจมาแล้ว สมัยโอพีดี รพจ ขอนแก่นเหลือผมเป็นแพทย์ฝึกหัดออกโอพีดีคนเดียว เพราะคนอื่นเขาลากันหมด ผมก็ตรวจมาแล้ว ตรวจไม่หมดหรอก หมดเวลาก็โละมาอีอาร์ก็ผมอยู่เวรก็ตรวจต่อ ก็เจอมาแล้ว อยู่เวรไม่ได้ตังค์ด้วยไม่เหมือนสมัยนี้
สมัยนี้ สบายกว่าเยอะน้องเอ๋ย
โดย: ผมก็เลวตามประสาละครับ ไม่ว่ากัน [16 ส.ค. 52 14:20] ( IP A:58.8.5.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   ผมกำลังว่าจะไปทำงานเป็นอาสาสมัคร มีโรงพยาบาลไหนจะรับไหมยังมันชอบว่าผมทำงานสบาย ผมก็อยากรู้ว่ามันลำบากแค่ไหน สงสัยอยู่ ว่างๆเจออาจารย์สันต์เมื่อไหร่จะลองถามดู ว่าอาจารย์รับนักเรียนอายุ 56 ปีไหม จะลองขัดสนิมดู
โดย: ฟฟ [16 ส.ค. 52 14:23] ( IP A:58.8.5.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 27
   วันที่ 23 เมษายน 2552 16:13เมดิคัลทัวร์ ดันยอดโรงแรมทั่วเอเชียพุ่งโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กระแสการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในเอเชียพุ่ง อโกด้า ชี้จำนวนนักท่องเที่ยวมารักษาตัวจะทะลุ 10 ล้านคนในอีก 3 ปี และส่งผลดีกับยอดจองโรงแรม

บริษัท อโกด้า เซอร์วิสเซส จำกัด เวบไซต์รับจองห้องพักโรงแรมทั่วเอเชีย เผยถึงผลบวกจากการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต่อธุรกิจโรงแรมในเอเชีย โรงแรมพันธมิตรของอโกด้าที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนานาชาติยอดนิยมยืนยันยอดเข้าพักถึง 40% เป็นนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และผู้ติดตามส่งผลด้านบวกให้กับธุรกิจโรงแรมเนื่องจากเป็นกลุ่มที่เข้าพักหลายห้องและพักอยู่ไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์

จากการคาดการณ์ของบริษัทที่ปรึกษาดีลอยท์ ในปี พ.ศ. 2551 ระบุว่า ภายในปี พ.ศ 2555 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในเอเชียถึง 10 ล้านคน

โดยมีปัจจัยด้านค่าใช้จ่ายที่ถูกและการแพทย์ที่ด้านมาตรฐานเป็นสิ่งดึงดูด ค่ารักษาพยาบาลในประเทศยอดนิยมอย่าง ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย คิดเป็นแค่ 10 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณของค่าใช้จ่ายในรายการเดียวกันที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แต่คุณภาพการรักษาพยาบาลไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ก็ได้รับการศึกษาและฝึกหัดมาจากประเทศในซีกโลกตะวันตก คนไข้จำนวนมากยืนยันว่าแม้จะบวกรวมค่าเดินทางเข้ากับค่ารักษาพยาบาลแล้วยังถูกกว่าเฉพาะค่ารักษาพยาบาลอย่างเดียวในประเทศของตน

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจกำลังเป็นปัญหาอยู่ทั่วโลกซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในระยะไกล แต่การท่องเที่ยว เชิงการแพทย์ในเอเชียเชื่อว่าจะยังคงเป็นที่นิยมด้วยเหตุที่จุดมุ่งหมายหลักของการเดินทางนั้นมาเพื่อเข้ารับการรักษาความเจ็บป่วยโดยแลกกับค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าหลายเท่าตัวเปรียบเทียบกับในประเทศตะวันตกอาทิ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา และยังได้รับการบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ทั้งเทคโนโลยีและบุคลากรรวมทั้งความเอาใจใส่ในสไตล์คนเอเชียที่เป็นจุดขายสำคัญ นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ได้กลายเป็นกลุ่มคุณภาพที่สร้างเม็ดเงินให้กับการท่องเที่ยวได้ปีละมหาศาลและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวรวมทั้งธุรกิจโรงแรมต่างได้รับอานิสงฆ์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้

ค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามหาศาลช่วยให้นักท่องเที่ยวมีเม็ดเงินเหลือมากพอที่จะพาครอบครัวหรือเพื่อนฝูงเดินทางมาด้วยเพื่อการพักผ่อนท่องเที่ยวไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งผู้ติดตามเหล่านี้ย่อมต้องการที่พักนอกโรงพยาบาลแต่ไม่ห่างไกลเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปกลับเพื่อเยี่ยมเยียนคนไข้

ยิ่งหากโรงแรมที่พักนั้นๆ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหรือสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ง่ายด้วยก็จะเป็นที่นิยมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากขึ้น จึงเห็นได้ว่าอานิสงฆ์ของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่อุตสาหกรรมการแพทย์อย่างโรงพยาบาลหรือคลินิกเท่านั้น แต่ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็ได้รับผลพลอยได้ไปด้วย

โรงพยาบาลยอดนิยมไนไทยได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ซึ่งมีคนไข้ชาวต่างชาติถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ของคนไข้ทั้งหมด และเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่ได้รับมาตรฐาน JCI Accreditation ในภูมิภาคเอเชีย

ความนิยมในการเข้ารับการรักษาพยาบาลยังไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครแต่ได้กระจายไปตามจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ดังจะเห็นได้จากการขยายสาขาของโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งมีคนไข้ต่างชาติกลุ่มสำคัญคือ ญี่ปุ่นและตะวันออกกลาง โดยปัจจุบันมีสาขาในพัทยา หัวหินและภูเก็ต อีกด้วย

นายไมเคิล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดของอโกด้า ตั้งข้อสังเกตว่า “เราเห็นได้ชัดถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในเอเชียที่ส่งผลบวกต่อธุรกิจโรงแรม โรงแรมพันธมิตรของเราในกรุงเทพฯ เช่น อริยาศรมวิลล่า และฟูราม่าเอ็กซ์คลูซีฟ สุขุมวิท ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ยืนยันว่าแขกที่เข้าพักประมาณ 30-40% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หรือครอบครัวเพื่อนฝูง และมักจะพักหลายห้องและหลายๆ วัน และเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว อโกด้าจึงได้เพิ่มข้อมูลในแผนที่ในเวบไซต์เกี่ยวกับโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลในประเทศต่างๆ ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนไข้ต่างชาติ และยังได้นำเสนอส่วนลดพิเศษสำหรับการเข้าพักต่อเนื่องหลายวันซึ่งเราพบว่าเป็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้”

นายพรชัย ไชยรังสินันท์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ โรงแรมฟูรามาเอ็กซ์คลูซีฟ สุขุมวิท กล่าวถึงจำนวนแขกที่เป็นคนไข้ชาวต่างชาติว่า “โรงแรมเราตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ก็เลยเป็นที่นิยมกับกลุ่มผู้ติดตามคนไข้ของโรงพยาบาล ในเดือนมิถุนายน กรกฏาคมและสิงหาคมของทุกปี เราจะมีแขกที่เป็นคนไข้และครอบครัวหรือเพื่อนฝูงประมาณ 30-35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแน่นอนว่าต้องจองเข้ามา 2-3 ห้อง และยังพักยาวต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อตรวจสุขภาพหรือรับการรักษาอื่นๆ”

มาเลเซียและสิงคโปร์ก็โปรโมทการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ไม่แพ้กัน ในมาเลเซีย มีโรงพยาบาลเอกชนถึง 35 แห่ง ที่พร้อมต้อนรับคนไข้ชาวต่างชาติ และธุรกิจโรงแรมก็ปรับตัวรับกระแสนี้เช่นกัน จี โฮเต็ล และ โรงแรม เบอร์จายา จอร์จทาวน์

ในปีนัง ถึงกับโปรโมทว่าเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (medical tourist-friendly hotels) ด้วยสถานที่ตั้งที่ใกล้กับศูนย์การแพทย์ชั้นนำอย่าง กรีนนีเกิล เมดิคัล เซ็นเตอร์ (Gleaneagles Medical Center) และ โรงพยาบาล ปีนัง แอดแวนตีส (Penang Advantist) ส่วนสิงคโปร์นั้น ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด เทคโนโลยีที่ทันสมัยและบุคลากรทุกระดับสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และเนื่องจากเป็นประเทศเล็ก หลายๆ โรงพยาบาลจึงยังตั้งอยู่ย่านใจกลางแหล่งท่องเที่ยว ชอปปิ้งและมีโรงแรมใกล้ๆ ให้เลือกอยู่มาก อาทิ โรงพยาบาล เม้าท์ อลิซาเบธ (Mount Elizabeth Hospital) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางย่านชอปปิ้งบนถนนออร์ชาร์ด ก็ล้อมรอบไปด้วยโรงแรม 4-5 ดาว อาทิ Elizabeth-A Far East Hotel และ โรงแรม Meritus Mandarin

“มีหลายๆ โรงพยาบาลที่โปรโมทว่าเป็นโรงพยาบาลระดับอินเตอร์เนชั่นแนลชั้นนำสำหรับคนไข้ชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวควรจะใช้วิจารณญาณประกอบกับค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเองอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่ต้องการเข้ารักษา โดยเฉพาะการศึกษาข้อมูลด้านกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ป่วยก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงด้วย การพิจารณาโรงพยาบาลในเบื้องต้นควรเลือกดูจากการเป็นสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานสากล ได้รับรางวัล มีชื่อเสียง รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและบุคลากรทางการแพทย์ก็ควรต้องนำมาพิจารณาประกอบกันด้วยทั้งสิ้น” นายเคนนี่ กล่าวเสริม




Tags : เมดิคัลฮับ • เมดิคัลทัวร์
โดย: aa [16 ส.ค. 52 18:18] ( IP A:58.8.5.242 X: )
ความคิดเห็นที่ 28
    โดยเฉพาะการศึกษาข้อมูลด้านกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ป่วยก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงด้วย

ข้อนี้ของเมืองไทยสอบตกแง๋ ๆ เพราะในแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข รัฐสภา มีแต่พวกโรงพยาบาลเอกชนฮั้วกัน รังแกสิทธิผู้ป่วยมาจนนับไม่ถ้วน
โดย: เจ้าบ้าน [16 ส.ค. 52 22:29] ( IP A:124.122.2.149 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
   ระบบทุนนิยม ครอบงำประเทศไทยไปเกือบหมดแล้ว
น่าสงสารผู้ป่วยต่างชาติ ถ้าเสียหายใครจะช่วยเหลือเขา
พวกเรายังจะเอาตัวไม่รอดกันเลย เจอพวกซ่องโจรเป็นฝูง
โดย: ซ่องโจรเต็มไปหมด [17 ส.ค. 52] ( IP A:58.9.186.105 X: )
ความคิดเห็นที่ 30
   เค้าไม่มั่นใจว่าดี เค้าไม่มารักษาหรอก คิดอะไรอย่าคิดแคบๆ
พวกฝรั่งเรื่องมากจะตายกว่าจะรักษาแต่ละครั้ง
โดย: คิดมุมอื่นมั่ง [17 ส.ค. 52 18:04] ( IP A:61.7.145.154 X: )
ความคิดเห็นที่ 31
   ความเห็น 31

เวลาไปโปรโมทโรงพยาบาล คุณลองเอาเรื่องที่พวกคุณทำคนเจ็บ
ทำคนตายแล้วไม่รับผิดชอบ บอกไปด้วยว่าบ้านเรามีซ่องโจรซ่อน
อยู่แถวกระทรวงเมืองนนท์

ดูสิว่า...ฝรั่งจะคิดอะไรกว้าง ๆ หรือเปล่า
โดย: คิดแคบก็ได้ฟะ [17 ส.ค. 52 19:43] ( IP A:58.9.202.246 X: )
ความคิดเห็นที่ 32
   ขนาดจ่ายยาพาราลดใข้ฝรั่ง เค้ายังถามว่าทำไม เพราะอะไร
เพราะอะไรถึงวินิจฉัยเค้าว่าเป็นงั้นงี้

แล้วถึงกับบินมารักษาบ้านเราเนี้ย เค้าจะไม่หาข้อมูลอะไรเลยหรอ
โดย: หึ [17 ส.ค. 52 21:17] ( IP A:203.154.66.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 33
   บ้านเมืองเรา เห็น ๆ กันอยู่ว่า
มีนโยบาย "ปิดข่าวร้าย ขายแต่ข่าวดี"

น่าสงสารฝรั่งบินมาแต่ไกล กลับไปเขียนเวบไซต์
ด่ารพ.เอกชนระดับห้าดาวของไทย

รพ.ระดับ 5 ดาวโดนด่า นอกนั้นไม่ต้องพูดถึง

ประชาชนคนไทยจะเป็นโรคอะไรก็ได้
สุดแท้แต่ท่านนายกแพทยสภา จะเมตตาตั้งชื่อให้

เวลาตั้งชื่อโรคให้ฝรั่งก็คิดให้ดี ๆ นะ
โดย: เหอะ ๆ [18 ส.ค. 52] ( IP A:58.9.222.45 X: )
ความคิดเห็นที่ 34
   บินมากี่คน ด่าไปกี่คน
โดย: หึ [19 ส.ค. 52 1:14] ( IP A:61.7.145.154 X: )
ความคิดเห็นที่ 35
   หากินกับสถิติ

ที่ด่าไม่ดังเยอะแยะ ไม่มีแรงด่า
ไม่รู้จะด่าผ่านอะไร

คุณปิดข่าวเก่ง ขอชม
โดย: เวง [19 ส.ค. 52 10:06] ( IP A:58.9.204.52 X: )
ความคิดเห็นที่ 36
   ประชาชนคนไทยจะเป็นโรคอะไรก็ได้
สุดแท้แต่ท่านนายกแพทยสภา จะเมตตาตั้งชื่อให้
โดย: ขอบอกขอบใจนายกแพทยสภา [20 ส.ค. 52] ( IP A:58.9.196.209 X: )
ความคิดเห็นที่ 37
   คนไข้แพ้คดีบ่อย ๆ
อีกหน่อยจะมีระเบิดพลีชีพในโรงพยาบาล
555+++
ทำเพื่อชาติไง จะเอาชนิดที่ว่า หาเศษเนื้อไม่เจอ
หรือว่า ระเบิดพลีชีพในกระทรวงสา ฯ ดังดี ตายเยอะ ๆ
ตายระดับใหญ่ ๆ โต ๆ ประกันจ่ายไม่ไหวเลย 555+



ยังไงหนูก็เชียร์คุณหมอเทพ ถึงเป็นหมอตัดไข่
แต่ก็เป็นหมอส่วนน้อยที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย
ดีกว่าหมอที่อวดสรรพคุณตัวเองเชี่ยวชาญอย่างงั้นอย่างงี้
มาเจรจากับคนไข้ที เอาสมองซีกไหนคิดมาพูดไม่รู้
อย่าง ง่าว เลย นะจะบอกให้
โดย: จีเอ็น [21 ก.ย. 52 11:59] ( IP A:118.172.37.65 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน