ศาลแพ่งยกฟ้องรพ.พญาไทคดีทำคลอดเด็กออกมาพิการ
|
ความคิดเห็นที่ 2 ถูกใจเราเท่านั้นคือยุติธรรม | โดย: ..... [28 ก.ค. 52 19:00] ( IP A:58.8.89.92 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 30 มี.ค.34 ดิฉันไปคลอด น้องเซ้นต์ ที่รพ.พญาไท 1 สูติแพทย์สั่งให้ยาเร่งคลอดทางโทรศัพท์โดยไม่ได้ตรวจครรภ์ก่อนสั่งให้ยา จึงไม่รู้ว่าน้องเซ้นต์ตัวโตมากหนัก 4,050 กรัม และอยู่ในท่าคลอดที่ผิดปกติคือหงายหน้าออก สูติแพทย์ใช้เครื่องดูดบริเวณท้ายทอยน้องเซ้นต์จนห้อเลือดบวมเป็นก้อนโต การคลอดไม่สำเร็จจึงนำดิฉันไปผ่าตัด
ต่อมาก้อนห้อเลือดละลายกลายเป็นน้ำดีทำให้น้องเซ้นต์ตัวเหลืองมากส่องไฟไม่ลด กุมารแพทย์ถ่ายเลือดผ่านสายสะดือ ทำให้น้องเซ้นต์ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง มีไข้สูง, เม็ดเลือดขาวสูงขึ้นผิดปกติถึง 20,200 ตัว, ร้องกวน, น้ำหนักลด แต่แพทย์ไม่ให้แม้แต่ยาปฏิชีวนะ หนองเข้าไปทำลายข้อสะโพกและข้อไหล่ซ้ายจนเสียหาย กลายเป็นคนพิการขาสั้นยาวไม่เท่ากัน เดินกระเผลก หลังคด นั่งขัดสมาธิไม่ได้ แขนซ้ายสั้นกว่าแขนขวาอ่อนแรงและแกว่งเป็น 360 องศาไม่ได้
น้องเซ้นต์ผ่านการผ่าตัดหลายครั้ง ทุกข์ทรมานเรื้อรังจากอาการปวดขาอย่างรุนแรง ดิฉันต้องทุบขาให้ลูกแรง ๆ ทุกคืนนานนับสิบปี หลังอายุ 20 ปี ต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมทุก 10 ปีและต้องเปลี่ยนข้อไหล่ซ้าย เพื่อแก้ไขความเสียหายของขาและแขนซ้าย และแก้ไขการทรุดเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกสันหลัง การเคยติดเชื้อในกระดูก การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติ ข้อสะโพกเทียมที่จะใช้กับน้องเซ้นต์ต้องทำจากเซรามิกหรือไทเทเนียมซึ่งมีราคาสูงมาก
การดูแลรักษาและการต่อสู้หาความเป็นธรรมให้ลูกครอบครัวถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว รพ.พญาไท 1 ปฏิเสธความรับผิดชอบ
-9 ม.ค. 39 ดิฉันฟ้องรพ.พญาไท 1และแพทย์สองคน เป็นคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 57 ล้านบาท ศาลชั้นต้น+อุทธรณ์+ฎีกา พิพากษาว่าคดีหมดอายุความแพ่ง 1 ปี โดยไม่อาจนับอายุความทางอาญา 10 ปีได้ เหตุเพราะบรรยายฟ้องไม่ครบองค์ประกอบคดีอาญา แม้ดิฉันจะขอให้ศาลพิจารณาอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งมาตรา 448 วรรคสอง ซึ่งให้นับอายุความอาญาที่ยาวกว่า (ใช้เวลา 8 ปี)
-11 ก.พ.46 ดิฉันฟ้องแพทยสภา 33 คนทั้งคณะ เป็นคดีอาญามาตรา 157 ข้อหาละเว้นและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากแพทยสภามีมติว่า คดีไม่มีมูล จากการฟังความข้างเดียว และเชื่อในรายงานเท็จของรพ.พญาไท1และแพทย์ทั้งสอง ศาลชั้นต้น+อุทธรณ์+ฎีกา พิพากษาไม่รับฟ้องโดยวินิจฉัยว่าแม้จะเป็นความจริงว่าเป็นการช่วยเหลือแพทย์ผู้ถูกร้องไม่ให้ถูกลงโทษ ก็มิได้ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือกระทบกระเทือนสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยตรงแต่ประการใด โจทก์ทั้งสองไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องแพทยสภาทั้ง 33 คน (ใช้เวลา 6 ปี)
-22 ต.ค. 45 รพ.พญาไท 1 ฟ้องดิฉันเป็นคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาท ศาลชั้นต้น+อุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง (ใช้เวลา 7 ปี)
-8 ต.ค. 45 รพ.พญาไท 1 ฟ้องดิฉันเป็นคดีแพ่ง ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง (ใช้เวลา 5 ปี)
-3 ก.ย. 45 ดิฉันร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ปี 51 มีมติว่า 1)แพทย์รพ.พญาไท 1 ประมาทเลินเล่อ รวมทั้งรพ.พญาไท 1 ไม่มีมาตรการแก้ไขเยียวยาจึงก่อให้เกิดเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ให้ช่วยเหลือเยียวยาทันที 2)กระบวนการตรวจสอบของแพทยสภาไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้อง ให้รื้อฟื้นเรื่องขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 30 วัน
รพ.พญาไท 1 + แพทยสภา ไม่ทำตามมติ กสม.รายงานนายกรัฐมนตรี +รัฐสภา+วุฒิสภา แต่ไม่สามารถบังคับให้รพ.พญาไท 1 รับผิดชอบได้
วันนี้น้องเซ้นต์อายุ 18 ปี มีอาการปวดหลังร้าวลงไปที่ขามากขึ้น ผลเอกซ์เรย์+MRI พบว่า กระดูกสันหลังเคลื่อน และโพรงไขสันหลังตีบแคบ หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับไขสันหลัง และเส้นประสาท เป็นความเสียหายใหม่ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากความเสียหายเดิม
-19 พ.ค. 52 ดิฉันกับลูกฟ้องรพ.พญาไท 1+แพทย์สองคน ตามกฎหมายใหม่ พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ.2551 มาตรา 13 ที่บัญญัติว่า ในกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัยโดยผลของสารที่สะสมอยู่ในร่างกายของผู้บริโภคหรือเป็นกรณีที่ต้องใช้เวลาในการแสดงอาการ ผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภค ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในสามปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย และรู้ตัวผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องรับผิด แต่ไม่เกินสิบปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย
-15 มิ.ย.52 รพ.พญาไท 1+แพทย์สองคนยื่นคำร้องขอให้ศาลพิพากษา วินิจฉัยชี้ขาดว่า 1)คำฟ้องของดิฉันกับลูกเป็นฟ้องซ้ำ 2)สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย ได้หมดอายุความฟ้องร้องแล้ว
-29 มิ.ย.52 ดิฉันกับลูกยื่นคำคัดค้านขอให้ศาลออกคำสั่ง ยกคำร้องของรพ.พญาไท 1+แพทย์สองคนว่า 1)ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ เนื่องจากในคดีเดิมดิฉันกับลูกแพ้คดีเนื่องจากคดีหมดอายุความ ศาลท่านยังไม่เคยวินิจฉัยว่าแพทย์ของรพ.พญาไท 1ได้กระทำละเมิดต่อน้องเซ้นต์หรือไม่ 2)คดีไม่หมดอายุความ เนื่องจากความเสียหายใหม่ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากความเสียหายเดิม อันเป็นผลจากการประมาทเลินเล่อของแพทย์รพ.พญาไท 1 เป็นกรณีที่ต้องใช้เวลาในการแสดงอาการ ตามมาตรา 13 ของพรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ.2551 มีอายุความ 3 ปี ดิฉันกับลูกรู้ถึงความเสียหายใหม่จากผลเอกซเรย์+MRI เมื่อ14 มิ.ย.51 ดังนั้นฟ้องใหม่นี้จึงไม่หมดอายุความ | โดย: ต้องอุทธรณ์+ฎีกาต่อไป [28 ก.ค. 52 20:04] ( IP A:115.87.128.139 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ไทยรัฐ 28 กรกฎาคม 2552 ศาลแพ่งยกฟ้องคดีที่ "ปรียนันท์" ปธ.เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ยื่นฟ้อง รพ.พญาไท 1 ทำคลอดบุตรชายพิการ โดยสู้กันยาวนานถึง 18 ปี เจ้าตัวลั่นสู้ต่อถึงอุทธรณ์-ฎีกา ไม่ได้ผลอีกจะนั่งประท้วงหน้า รพ...
บ่ายวันนี้ (28 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลแพ่ง ศาลนัดฟังคำสั่งและคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ผบ.1821/2552 ที่นายพิทักษ์พงศ์ ล้อเสริมวัฒนา หรือน้องเซนต์ อายุ 18 ปี โดยนางปรียนันท์ หรือ ดลพร ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ประสิทธิ์พัฒนาจำกัด (มหาชน) เจ้าของ รพ.พญาไท 1, พญ.ยรรยงค์ มังคละวิรัช และ นพ.สันติ สุทธิพินทวงศ์ เป็นที่ 1-3 กรณีร่วมกันทำคลอดเป็นเหตุให้นายพิทักษ์พงค์ เกิดความผิดปกติทางร่างกาย กระทั่งปัจจุบัน อายุ 18 ปี เกิดความเสียหายใหม่ กระดูกสันหลังเคลื่อน โพรงไขสันหลังตีบแคบ และหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท
คดีนี้ทั้งสองฝ่ายยื่นคำคัดค้าน โดยฝ่ายจำเลยอ้างว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีศาลวินิจฉัยว่าขาดอายุความแล้ว ขณะที่ฝ่ายโจทก์ยื่นคัดค้านว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายใหม่ ต่อเนื่องจากความเสียหายเดิม อันเป็นผลจากการกระทำของจำเลย ส่วนประเด็นการฟ้องซ้ำนั้นศาลยังไม่เคยพิจารณาวินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำ ละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ จึงขอให้ศาลยกคำคัดค้านของจำเลย
ศาลพิเคราะห์แล้วคดีมีปัญญาต้องวินิฉัยว่าคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่ เห็นว่าที่โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยที่ 2 และ 3 กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้เสียหายพิการขาสั้นข้าง ยาวข้าง เป็นผู้พิการนั้น เป็นมูลคดีเดียวกับคดีหมายเลขแดงที่ 12300/2543 ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาชี้ขาดให้ยกฟ้อง รพ.พญาไท 1 กับพวกไปแล้ว เนื่องจากเห็นว่าคดีหมดอายุความแพ่ง 1 ปี แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมานั้น เห็นว่าที่โจทก์บรรยายฟ้องในคดีนี้ก็เพื่อให้ศาลนำเข้าสู่การวินิจฉัย แต่เมื่อปรากฏว่าศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าคดีขาดอายุความ และการฟ้องในคดีผู้บริโภคคดีนี้เป็นกรณีที่มีคู่ความเดียวกันฟ้องโจทก์ จึงเป็นการฟ้องซ้ำ มีปัญหาต้องงวินิจฉัยว่า คดีขาดอายุความหรือไม่เห็นว่า โจทก์เคยฟ้องคดีก่อนจะมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2551 บังคับใช้จึงต้องใช้การพิจารณาคดีตามกฎหมายเดิม คดีนี้จึงมีอายุความ 1 ปี เมื่อมีคำพิพากษาว่าคดีขาดอายุความ ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง ทั้งนี้ ศาลได้แนะนำนางปรียานันท์ ว่าหากยังไม่เห็นพ้องกับคำพิพากษา สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้
ด้านนางปรียนันท์ กล่าวว่า ตนต่อสู้คดีนี้มานานกว่า 18 ปี เพราะอยากได้แค่โอกาสที่จะนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาล แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถฝ่าด่านแรกได้สำเร็จจะขอใช้สิทธิในการอุทธรณ์ และฎีกา ในการต่อสู้ต่อไป หากที่สุดแล้วศาลฎีกาไม่รับฟ้อง จะไปนั่งประท้วงที่หน้า รพ.พญาไท 1 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย | โดย: ไทยรัฐ [28 ก.ค. 52 20:11] ( IP A:115.87.128.139 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2552
https://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9520000085326&Keyword
ความคิดเห็นที่ 18 +12 ศาลครับ แม้้ตัวบทกม.จะเขียนว่าอย่างนั้น แต่โดยมนุษยธรรมซึ่งถือว่าเป็นสิงที่โลกยอมรับเหนือกว่า กม. และเป็นเครื่องค้ำจุนโลก กม.ค้ำจุนโลกไม่ได้หรอก ความทุกข์ทรมาณของแม่ที่ปกป้องลูกมา 18 ปี กับความทุกข์พิการของลูกที่ต้องติดตัวไปชั่วชีวิต ศาลจะไม่ช่วยอะไรเธอเลยบ้าง ถ้าไม่ได้ สิ่งเหล่านี้แหละ ที่เป็นเครื่องสอนสังคมว่า กระบวนการยุติธรรมไม่สามารถ ให้ความยุติธรรมได้ แล้วมันก็จะเป็นเชื้อไฟให้คนไม่พึ่งกระบวนการอีกต่อไป ความคิดเห็นที่ 30 เป็น รพ.ของนายใหญ่ ที่ซื้อไว้และปรับปรุง แผนกไหนที่ไม่ทำกำไรก็ปิด แพทย์ พยาบาลหนีหายกันไปเยอะเพราะพี่แกเน้นแต่คำว่า กำไร กำไร และกำไร ลูกค้าแผนก สูติ
ความคิดเห็นที่ 29 โรงพยาบาลนี้ไร้จริยธรรมจริงๆ ฉันรักษากับโรงพยาบาลนี้มาเกือบ10ปี พอจะย้ายโรงพยาบาลก็แจ้งขอประวัติการรักษาที่อยู่ในแฟ้ม เพราะเป็นประวัติของฉัน ฉันควรมีสิทธิ์100%ในประวัติการรักษาของฉัน แต่.......โรงพยาบาลกลับถ่ายเอกสารให้ฉันไม่ถึง25%และบอกว่าให้ได้เท่านี้ พอฉันทวงเพิ่มก็แสดงสีหน้าและน้ำเสียงไม่พอใจที่ฉันจะขอมากกว่าที่เขาจัดให้ และพยายามยัดเยียดให้ฉันเซ็นชื่อว่าได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว นี่แหละเจ้าหน้าที่แผนกทะเบียนของโรงพยาบาลพญาไท1 คนป่วยที่รักชาติศาสน์กษัตริย์ ความคิดเห็นที่ 28 +1 น่าเห็นใจมากๆเขาต่อสู้ด้วยแรงกายแรงใจที่มีเหลืออยู่เพื่อให้ความยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์ในสังคมแต่กลับต้องมาเจอเทคนิคทางกฏหมาย เวลามากกว่าสิบปีถ้าไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความเสียหายแท้จริงใครจะมาเสียเวลาทำแบบนี้ ประชาชนเมื่อทราบข่าวนี้ก็ต้องช่วยกันใช้มาตรการทางสังคมกดดันเข้าไปที่โรงพยาบาลด้วยการปฏิเสธการใช้บริการทุกรูปแบบและประณาม
สำหรับคนมีเงินสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายกว่าคนไม่มีอำนาจไม่มีเงิน โดยมีไอ้หน้าเหลี่ยมเป็นกรณีศึกษาเรียกว่าฟาดหัวฟ้องทุกกรณีล่ะครับ ศาลก็ควรจะได้ลองนัดมานั่งคุยกันเช่นกันว่าอะไรเป็นอุปสรรคกับการจะช่วยเหลือให้ความยุติธรรมกับคนไทยซักคนนึง ant
ความคิดเห็นที่ 27 ขอแสดงความเสียใจต่อคุณปรียนันท์ด้วยครับ ขอพระเจ้าจงประทานความเมตตาด้วยเถิด พรเทพ ความคิดเห็นที่ 26 ความเห็น 18 ถ้าศาลไม่ตัดสินตามกฎหมาย จะตัดสินตามอะไรครับ ศาลเคยถูกด่าว่า ตัดสินตามพจนานุกรมมาแล้ว เรื่องบางอย่าง เขาให้ศาลใช้ดุลพินิจได้ เช่นการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ว่าเป็นอย่างไร ตรงนี้ศาลช่วยได้เต็มที่ แต่การขัดต่อกฎหมายโต้งโต้ง อย่างเรื่องนี้ ขาดอายุความ ก็คือมันขาดอายุความ มันชัดเจนอยู่ว่าฟ้องไม่ทันตามที่กฎหมายกำหนด แล้วตัวบทกฎหมายก็ห้ามไว้ ถ้าจะตัดสินว่าไม่ขาด จะใช้เหตุผลอะไร การตัดสินคดีอะไร ไม่ว่าผลออกมาอย่างไหน ศาลก็โดนด่าจากฝ่ายที่แพ้อยู่แล้ว ดังนั้นศาลทำได้อย่างเดียวคือ ต้องมีเหตุผลหรือกฎหมายอ้างอิงได้ จะเอาอารมณ์มาตัดสินไม่ได้ และ ยังแถมให้อุทธรณ์ฎีกาได้อีก จะได้มั่นใจว่า ศาลล่างไม่ได้มั่ว อีกอย่าง ศาลไม่ใช่คนออกกฎหมายครับ เรื่องอายุความอะไรเนี่ย รัฐสภาออกทั้งนั้น ประชาธิปไตยไงครับ ออกกฎหมายโดยประชาชน เอก ความคิดเห็นที่ 25 โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน โพรงไขสันหลังตีบแคบ หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับไขสันหลังและเส้นประสาทก็พบได้ในคนที่คลอดตามธรรมชาติ มันเกี่ยวข้องกับหมอทำคลอดและโรงพยาบาลเขาตรงไหน ขอความชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย มิฉะนั้นวันหลังอาจมีคนฟ้องชาวนาบ้างว่ากินข้าวแล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ งง ความคิดเห็นที่ 24 สุดยอดคุณแม่ นับถือมาก คุณปรียนันท์ คือคนที่รักน้องเซนต์มากที่สุด รักมาตั้งแต่อยู่ในท้อง จนน้องเขาอายุ 18 ปี ยังสู้เพื่อความยุติธรรม...หากเป็นเราคงเลิกสู้แล้ว ใครจะสู้คดี ขึ้นศาล 18 ปีไหว แม่ย่อมรักลูกที่สุดในชีวิต +นักคิดบวก+ ความคิดเห็นที่ 23 ผมไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก เพราะไม่ได้ติดตามข่าวนี้ เคยแค่อ่านผ่านๆ แต่ขอชื่นชมความใจสู้ของคุณแม่เป็นอย่างยิ่งครับหากคุณแม่เป็นผู้ถูกจริง ขอให้ประสบความสำเร็จในการต่อสู้นะครับ ก ความคิดเห็นที่ 22 เมืองไทยยิ่งนับวัน อย่างกัน นาที่รกจริงๆ ขอให้กำลังใจกับคนไทยที่ดีทุกๆคน รักประเทศไทย แต่เกลียดนักการเมืองโคตะระ เลวเกือบทุกต แก่ป่านนี้ แด่มันได้ทุกวัน พวกฉัด ความคิดเห็นที่ 21 -1 แล้วตอนคุณอุ้ย โดนฟ้องกลับ คดีไม่หมดอายุความเหรอ แล้วเจ้าของ รพ นี้จะมาเป็นหัวหน้าพรรค การเมืองใหม่ คนที่ทํากับเด็กและผู้หญิงคนนึงได้ถึงขนาดนี้ แค่นี้ก็บอก ยี่ห้อมาแล้ว ไม่รู้ พันธมิตรจะโง่ และ ขี้ลืมรึเป่า สงสารพันธมิตรด้วย ความคิดเห็นที่ 20 หัวอกคนเป็นแม่ ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่างแม้นจะล่วงเลยมา 18 ปีแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ ฉันเอง ความคิดเห็นที่ 19 ทำไมต้องมีการขาดอายุความ แบบนี้คนทำผิดถึงได้หนีคดีกันเป็นว่าเล่น ถามหน่อยเถิด ทำบาปทำกรรมแล้วมีการขาดอายุความไหม กา ความคิดเห็นที่ 18 +12 ศาลครับ แม้้ตัวบทกม.จะเขียนว่าอย่างนั้น แต่โดยมนุษยธรรมซึ่งถือว่าเป็นสิงที่โลกยอมรับเหนือกว่า กม. และเป็นเครื่องค้ำจุนโลก กม.ค้ำจุนโลกไม่ได้หรอก ความทุกข์ทรมาณของแม่ที่ปกป้องลูกมา 18 ปี กับความทุกข์พิการของลูกที่ต้องติดตัวไปชั่วชีวิต ศาลจะไม่ช่วยอะไรเธอเลยบ้างถ้าไม่ได้ สิ่งเหล่านี้แหละ ที่เป็นเครื่องสอนสังคมว่า กระบวนการยุติธรรมไม่สามารถ ให้ความยุติธรรมได้ แล้วมันก็จะเป็นเชื้อไฟให้คนไม่พึ่งกระบวนการอีกต่อไป ความคิดเห็นที่ 17 +2 หมดอายุความได้ไงก็เค้าสู้มาตลอด ไม่ใช่ทิ้งเรื่องไปนานๆแล้วค่อยฟ้องนี่เลิกใช้บริการ รพ.นี้เด็ดขาด เห็นใจจริงๆ ความคิดเห็นที่ 16 ความ อยุติธรรม มันอยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็นเวลาช้านาน จนหลายคนชินชากันซะแล้วนาน ๆ จึงจะมีเรื่องฮือฮาสักครั้ง ถ้ามีใครได้รับความ ยุติธรรม george ความคิดเห็นที่ 15 +2 ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความไม่ยุติธรรม เตะถ่วง จนหมดอายุ ความคิดเห็นที่ 14 การหาความยุติธรรมในประเทศไทยนั้น คุณต้องดูก่อนครับว่า คุณเป็นชนชั้นไหน ถ้าเป็นชนชั้นปกครอง คุณก็จะได้รับการเอาใจใส่ กับสิ่งที่คุณเรียกร้อง หรือร้องเรียน แต่ถ้าหากเป็นประชาชนตาดำ ๆ หาเช้ากินค่ำ ต่อให้คุณต่อสู้จนหมดลมหายใจ ก็แทบจะไม่มีใคร ได้รู้ ได้เห็น ได้ยิน นี่คือความเป็นจริง...... อยู่ไหน ความคิดเห็นที่ 13 อย่าท้อนะครับ เป็นกำลังใจให้ เห็นใจครับ ความคิดเห็นที่ 12 +1 ความยุติธรรมไม่มีจริง ความยุติธรรมอยู่ที่ใครเขียนกฎหมาย ความยุติธรรมอยู่ที่ใครเป็นผู้มีอำนาจใช้กฎหมาย ความยุติธรรมอยู่ที่ใครเป็นผู้ตีความกฎหมาย ไม่มีพวก ไม่มีเงิน ไม่มีสิทธิ์ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนที่รักความจริงอาจตายได้ ..... เฮ้อ...... เป็นห่วง ความคิดเห็นที่ 11 เอาใจช่วยด้วยครับ... เห็นใจนะ ความคิดเห็นที่ 10 +4 เรื่องอายุความ ยืดหยุ่นได้หรือเปล่าครับ? ไม่งั้นผู้เดือดร้อนก็ได้เเต่โดนเตะถ่วงไปเรื่อยๆ จนหมดอายุความ คล้ายๆ คดีหลายๆคดีที่ผู้ทรงอิทธิเงิน มักรอดคดีเพราะหมออายุความบ่อยๆ ร.พ.พญาไท เป็นของใคร ครอบครัวไหน ทำไมไร้ซึ่งน้ำใจที่จะหยิบยื่นให้กับเพื่อนมนุษย์ คุณเปิดดำเนินกิจการโรงพยาบาลได้ก็เพราะเพื่อนร่วมสังคมของคุณไปใช้บริการ ทำไมพวกเราไม่ร่วมกันงดใช้บริการโรงพยาบาลนี้ซะ ให้รู้สำนึกของพลังแห่งมวลชนซะบ้างครับ อาร์ม ความคิดเห็นที่ 9 นี่คือ หัวอก คนเป็น "แม่" oriental ความคิดเห็นที่ 8 สู้ๆๆๆๆๆๆ อย่ายอมน๊า ความคิดเห็นที่ 7 ขอแสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้งกับคุณแม่ยอดนักสู้...ช่วยคนอื่นชนะมาหลายครั้ง...แต่กับกรณีของตัวเองมันกลับไปไม่ถึงไหน...เห็นใจจริงๆ -hki=dki ความคิดเห็นที่ 6 +1 ลากกันเข้าไป ขาดอายุความ ทุเรศจริง ๆ cc ความคิดเห็นที่ 5 สู้ต่อไป เป็นกำลังใจให้คนครับ กุเอง ความคิดเห็นที่ 4 +2 ผมจำได้ว่าคดีนี้ เจ้าทุกข์ได้ต่อสู้มาเป็นเวลาสิบ ๆ ปีแล้ว ทำไมถึงบอกว่าคดีนี้หมดอายุศาลน่าจะอนุญาต จะได้เป็นคดีศึกษา ประสพ เตะถ่วงไปเรื่อยๆ จนหมดอายุความ จะเอา.....อะไรไปสู้กับโรงพยาบาล คุณเป็นใครหรือ........แล้วโรงพยาบาลเป็นใคร มีหุ้นส่วนเท่าไร นี่ดีนะไม่ถูก.......จ้างฆ่าเจ้าทุกข์ปิดปาก เตะถ่วงไปเรื่อยๆ จนหมดอายุความ พูดตรงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนจนก็ตกเป็นเหยื่อต่อไป ไม่รู้มีอะไรมาบังความยุติธรรมหรือเปล่า อ้างคดีขาดอายุความ......... พูดตรงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เตะถ่วงไปเรื่อยๆฯ..ใจคุณทำด้วยอะไร ขอให้เรื่องเกิดกับครอบครัวคุณบ้างน๊ะ จะได้รู้สึกถึงคนที่ถูกกระทำ..ฟาย สันดร
อุ้ย..สู้เขาเพื่อนให้มันรู้ไปว่า ตายไปจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ อย่าหยุดเพื่อน เพื่อนเชียงใหม่ ความคิดเห็นที่ 3 +4 18 ปีเลยเหรอ โอโหความยุติธรรมบ้านเราใช้กันชั่วชีวิต ...
ไม่ใช่แค่ 18 ปีน่ะครับ การจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย ก็ต้องวางเงินที่ศาลอีกต่างหาก เเล้วคนจนจะทำอย่างไรล่ะ? r5 ความคิดเห็นที่ 2 +3 น่าสงสารและน่าเห็นใจนะ ยังไงครอบครัวเขาก็เจ็บปวดมากพอแล้ว ยังต้องมาต่อสู้หาความยุติธรรมอีก ไม่โดนกับใคร ไม่มีวันเข้าใจหรอก ความยุติธรรมมีจริงเหรอ???
ความคิดเห็นที่ 1 +3 น่าสงสารพี่เค้านะ เราแค่ต้องการความเป็นธรรม เพื่อจะได้นำสืบหาความจริง ผมเคยคุยกับพี่เค้าสมัยประท้วงรัฐบาลนอมินีทักษินที่มัฆวาน ขอเอาใจช่วยครับ ให้ความจริงได้กระจ่าง สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนไทย | โดย: ผู้จัดการออนไลน์ [28 ก.ค. 52 21:06] ( IP A:115.87.128.139 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 จากเวบนักกฎหมาย
https://www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1156777[/b>
ความคิดเห็นที่ 1 : คดีที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษาดังกล่าว เป็นเรื่องที่ โจทก์ไปทำคลอดกับ รพ. แล้ว หมอทำคลอดไม่ดี ลูกเลยพิกลพิการ มาจนถึงปัจจุบัน
โจทก์จึงฟ้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายจาก รพ.และหมอ
สู้กัน 3 ศาล แพ้เรียบวุธ เพราะ ขาดอายุความ
แพ้ไปแล้ว โจทก์ก้อยังไม่พอใจ มาฟ้องอีก ในมูลเหตุเดิม และจำเลยคนเดิม ซึ่ง ภาษากฏหมายเขาเรียกว่าเป็นการฟ้องซ้ำ ศาลแพ่งจึงพิพากษายกฟ้องไปตามข่าว
สำหรับคดีก่อนที่สู้กันถึงศาลฎีกา เลขคดีตามข่าวไม่น่าจะตรงครับ ที่ถูกควรจะเป็น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3528/2547 จากคุณ : พลายงาม - [28 ก.ค.52 20:07>
ความคิดเห็นที่ 2 : คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3528/2547 เด็กชายกฤตบุญ ล้อเสริมวัฒนา โดยนายสัณหกิจ ล้อเสริมวัฒนา โจทก์ และนางดลพร ล้อเสริมวัฒนา ผู้แทนโดยชอบธรรม กับพวก
บริษัทประสิทธิ์พัฒนา จำกัด (มหาชน) กับพวก จำเลย
ป.พ.พ. มาตรา 420, 448, 1569 ป.อ. มาตรา 95(3) ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง หลังจากโจทก์ที่ 3 คลอดโจทก์ที่ 1 และเกิดเหตุละเมิดจากการทำคลอดของจำเลยทั้งสามต่อโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 3 ได้พยายามให้โจทก์ที่ 1 ได้รับการรักษาทั้งจากจำเลยทั้งสามและโรงพยาบาลอื่น และได้เรียกร้องให้จำเลยทั้งสามรับผิดชอบกับร้องเรียนต่อรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแต่ไม่เป็นผล วันที่ 9 กันยายน 2537 โจทก์ที่ 3 ได้ทำหนังสือร้องเรียนจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกต่อแพทยสภาย่อมชี้ชัดว่า โจทก์ที่ 1 โดยโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมผู้มีอำนาจทำการแทนผู้เยาว์ และโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ในฐานะส่วนตัว ได้รู้ถึงการละเมิดกับรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ที่ 1 และที่ 3 ตั้งแต่ก่อนวันที่ 9 กันยายน 2537 มิใช่ตั้งแต่วันที่โจทก์ทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจากแพทยสภา โจทก์ที่ 1 และที่ 3 ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2539 ล่วงเลยกำหนด 1 ปีแล้ว คดีจึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 448 วรรคหนึ่ง
คำฟ้องระบุเพียงว่า จำเลยที่ 2 ทำคลอดให้แก่โจทก์ที่ 3 โดยประมาทเพราะจำเลยที่ 2 สามารถทราบขนาดของทารกในครรภ์แต่ไม่เลือกวิธีทำคลอดให้เหมาะสม กับจำเลยที่ 3 ซึ่งดูแลรักษาโจทก์ที่ 1 ประมาทเนื่องจากการถ่ายเลือดด้วยวิธีแยงสายสะดือทำให้โจทก์ที่ 1 ติดเชื้อ โดยในส่วนของจำเลยที่ 2 โจทก์บรรยายฟ้องให้ข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 ทำคลอดให้โจทก์ที่ 3 ตามขั้นตอนปกติ พยายามให้คลอดโดยวิธีธรรมชาติ ต่อมาใช้วิธีเอาเครื่องมือดูดศีรษะทารกในครรภ์เพื่อดึงออกจนกระทั่งต้องผ่าตัด ส่วนจำเลยที่ 3 ดูแลโจทก์ที่ 1 จนอาการตัวเหลืองหายไป แต่โจทก์ที่ 1 ติดเชื้อจากการถ่ายเลือด จำเลยที่ 3 ก็ไม่ให้ยาปฏิชีวนะรักษา แต่กลับอนุญาตให้โจทก์ที่ 3 นำโจทก์ที่ 1 กลับบ้าน ข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องจึงเป็นเพียงการแสดงซึ่งสภาพแห่งข้อหาว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ปฏิบัติงานบกพร่องเป็นการกระทำละเมิดในทางแพ่งเท่านั้น มิใช่ข้อเท็จจริงถึงขั้นว่าเป็นการกระทำโดยประมาทที่จะมีมูลความผิดทางอาญาซึ่งจะต้องบังคับใช้อายุความทางอาญาที่ยาวกว่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 448 วรรคสอง
""""" เป็นเรื่องน่าสงสารผู้เสียหายครับ ที่แพ้เพราะคดีขาดอายุความ เฮ้อ... ^^ จากคุณ : พลายงาม - [28 ก.ค.52 20:08>
ความคิดเห็นที่ 3 : น่าสงสาร แต่ว่าถ้าคิดได้เร็วกว่านี้ก็คงดีไม่น้อย บางทีก็หมั่นไส้เจ๊ประธานคนนี้เหมือนกันนะ เข้าใจว่าเจ็บแค้นมากมาทำกะลูกตูได้ยังไง แต่มันก็ชัดเจนแล้วว่าขาดอายุความ อย่าไปประท้วงเลยหน้ารพ.นะ เดี๋ยวพวกหมอ(เทวดา)เค้าจะดูถูกคุณเอา หมอน่ะ งานหนักค่ะรักษาผู้ป่วยที่หายดีก็เยอะแต่ไม่ค่อยจะมีใครสรรเสริญหมอมั่งเลย จากคุณ : งานเยอะ คนเเยะ - [28 ก.ค.52 20:16>
ความคิดเห็นที่ 4 : คห.3 งานหนัก ตังแยะ รักษาแต่คนมีตัง คนจนถีบหัวส่ง จะให้สรรเสริญทำไม ถ้าเป็นแบบหมอโฮจุนสิว่าไปอย่าง หมอมันก็เรียนมาเพื่อกอบโกยอยู่แล้ว ก็ดูเอาถ้าไม่มีการบังคับ จะมีหมอคนไหนไปประจำอยู่ที่กันดาร ชนบทบ้าง คิดเอา จากคุณ : หดหมด - [28 ก.ค.52 20:29>
ความคิดเห็นที่ 5 : มีข้อสังเกตุคือ ทำไมเค้าต้องไปฟ้องอีก เพราะศาลฎีกาก้อตัดสินไปแล้ว หรือ พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค จะมีช่องช่วยให้เขาชนะคดีได้ แต่ ในมุมมองผมนะ ผมว่าคงจบครับ น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ... จากคุณ : พลายงาม - [28 ก.ค.52 20:41> | โดย: เวบนักกฎหมาย [28 ก.ค. 52 21:18] ( IP A:115.87.128.139 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ.2551 มาตรา 13 บัญญัติว่า ในกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรืออนามัยโดยผลของสารที่สะสมอยู่ในร่างกายของผู้บริโภคหรือเป็นกรณีที่ต้องใช้เวลาในการแสดงอาการ ผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภค ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในสามปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย และรู้ตัวผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องรับผิด แต่ไม่เกินสิบปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย
วันนี้น้องเซ้นต์อายุ 18 ปี มีอาการปวดหลังร้าวลงไปที่ขามากขึ้น เมื่อ14 มิถุนายน 2551 จึงไปตรวจร่างกายผลเอกซ์เรย์+MRI พบว่า กระดูกสันหลังเคลื่อน และโพรงไขสันหลังตีบแคบ หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับไขสันหลัง และเส้นประสาท
ถือเป็นมูลละเมิดใหม่ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากมูลละเมิดเดิม ต้องฟ้องได้
ศาลไม่ให้แม้แต่โอกาสในการต่อสู้คดี แล้วใครผู้ใดจะรับผิดชอบต่อความเสียหายของน้องเซ้นต์ ที่อนาคตต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมทุก 10 ปี แล้วข้อเหล็กธรรมดาของบัตรทองก็ใช้กับร่างกายเซ้นต์ไม่ได้ เนื่องจากเคยติดเชื้อในกระดูกมาก่อน ต้องใช้ข้อเซรามิกหรือไททาเนียม ซึ่งราคาสูงมาก
คนที่ว่าครอบครัวนี้ ต้องให้เขาทำใจอย่างเดียวหรือไง แล้วรพ.พญาไท 1 มีเงิน มีอำนาจ ก็ลอยลำสบายใจเป็นสิ่งถูกต้องใช่ไหม | โดย: คดีอัปยศ [29 ก.ค. 52 11:51] ( IP A:58.9.220.114 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 แหม ทั้งหมดนี่ก็เป็นที่ "คาดหมาย" ได้อยู่แล้ว
ลองคิดย้อนกลับ หากประทับรับฟ้องซิ "ที่น่าจะเป็นเรื่องแปลก"
จริงไหมค่ะ?? คุณหมอสุรพงษ์ อำพันวงษ์
เอาน่า งานนี้ถือว่าเป็นการเลียนแบบ "นโยบายเงินผัน" ของท่านหม่อมคึกฤทธิ์ไปในวงการยุติธรรม (นอกระบบ) อีกครั้งหนึ่ง สำหรับรอบระยะเวลานับสิบปีที่ต่อสู้คดีกันมา
ว่าแต่ว่า ท่านหมอสุรพงษ์ ท่านวิชัย และท่านอาทิตย์ ไม่ทราบว่า
ใช้เงินไปทั้งหมด เกิน 57 ล้าน ไหมครับ???????!!!!!!!!!!!!!
ผมว่าน่าจะเลยนะ แล้วก็สำหรับคุณหมอสุรพงษ์ เงินก้อนนี้ไม่ทราบว่าพอจะไปเรี่ยไรเอาจากคุณหมอละออ(หมอเด็กที่โกหกว่าเพาะเชื้อวันเดียวแล้วไม่พบเชื้อ) หมอสันติ หมอยรรยงค์ แล้วก็หมอสุร... อะไรซักอย่างนี่ + หมอ +พยาบาล ในพญาไท๑ มาช่วยจ่าย พอจะไหวไหมครับ??? อ้อ แล้วนี่ยังโชคดีไม่ต้องนับที่จะให้ส่วนลด 10% ตลอดชีวิตนะครับ เพราะเผอิญทางประธานเครือข่ายฯ แก่ไม่เซ่อพออย่างที่ท่านคิดไว้ตอนนั้นน่ะ เฮ้อ | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [29 ก.ค. 52 12:59] ( IP A:58.8.104.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 ที่แน่ ๆ ทนายของรพ.พญาไท 1 รวยไปตาม ๆ กัน น่าจะขอบคุณประธานเครือข่ายฯ ที่นำคดีมาฟ้องใหม่ | โดย: ทนายรวย [29 ก.ค. 52 14:07] ( IP A:58.9.222.209 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 ถูกใจเราเท่านั้นคือยุติธรรม | โดย: เหอๆ [29 ก.ค. 52 16:34] ( IP A:124.157.184.160 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 ความถูกใจของคนในเครือข่ายฯ คือความยุติธรรม ก็น่าจะใช่ เพราะพวกเราควรได้รับความยุติธรรม ที่หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร หน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็เฮง...ซวย ไม่กล้าฟันพวกเดียวกันเอง แถมยังมีปากที่ จรจัดเป็นฝูงตามเห่า ตามกัดผู้เสียหายที่ทุกข์ยากลำบากอีก ขอให้ครอบครัวคุณพบกับความทุกข์แบบพวกเราหลายคนรวมกัน แล้วคุณคงจะรูสึก | โดย: สาธุ [30 ก.ค. 52 14:18] ( IP A:58.9.220.214 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 14 มาดูความเห็นของหมอ 20 กว่าคนจากจำนวนคนเข้าไปดู 820 คลิก ในเว็บ https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1248773604
เมืองไทยมีหมอส่วนน้อยที่คิดไม่เข้าท่า เป็นพวกปลาเน่าทำลายวงการแกพทย์อันสูงส่งทางอ้อม ทำให้สังคมหมดความศรัทธากับวิธีคิดที่ไม่เคยคิดถึงหัวอกผู้เสียหายไม่รู้จักคำว่ามนุษยธรรม เมตตาธรรม คิดห่วงแต่อาชีพข้าใครอย่าแตะ
ความเห็นที่ 1 ท่าทางคนคนนี้ จะตายด้วยจิตอาฆาต ดูชีวิตไม่มีความสุขเลย ส่งโดย: ... a.m. en allemagne ...
ความเห็นที่ 2 ว่าไปก็น่าสงสารเธอนะครับ ผมว่าเธอคงเจ็บแค้นมาก ๆ เลย ถ้าทุกคนเป็นแบบเธอจะเป็นยังไงมั่งน๊อ ส่งโดย: unchi_kun
ความเห็นที่ 3 ผมก็ว่างั้นแหละ เอาเวลาที่เหลือในชีวิต ไปทำอะไรที่มีความสุข มีประโยชน์มากกว่านี้ดีมั๊ยเนี่ยเป็นบาปอย่างนีงนะ ส่งโดย: TheSicDoctor
ความเห็นที่ 4 อยากรู้ว่ามีหมอคนไหนกล้ารักษาคนคนนี้เนี่ย ส่งโดย: Lubercus
ความเห็นที่ 5 อืมมมม....ชีวิตชีทั้งชีวิต คงเต้มไปด้วยความเจ็บแค้น ชีคงจะตายจากโลกนี้ไป โดยพกความเจ้บแค้นลงไปในเมรุด้วย คงต้องแผ่เมตตาให้เธอน่ะนะ ส่งโดย: mr.leo
ความเห็นที่ 6 หาความสุขใด ๆ ไม่ได้อีกแล้ว ในชีวิต ส่งโดย: หมอก้อนหิน (อ้าวไอ้หมอบ้านี่ก็เอากับเขาด้วย)
ความเห็นที่ 7 น่าจะคิดว่าหมอช่วยให้ลูกรอดมาได้มากกว่า โทษเรื่อง complication จากการรักษา ส่งโดย: AI.... CCD mode
ความเห็นที่ 8 ตันก๋งว่าแกเป็นโรคเคียดแค้นแพทย์ ขึ้นสมองหนะ ตันก๋งว่าถึงเป็นจิตแพทย์ ก็ไม่กล้าเข้าใกล้เธอ น่ากลัวจัง ส่งโดย: ตันก๋ง
ความเห็นที่ 9 ผมสงสารนะครับ ทั้งครอบครัว เลยครับ ผมรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังตกนรกทั้งเป็น นะครับ คิดดี ทำดี สิ่งดี ๆ ก็จะเข้าตัวถึงแม้ว่าสิ่งที่เธอทำ เธออาจคิดว่า คิดดีแล้ว แต่จริงๆ แล้วมีพื้นฐานมาจากความพยาบาท อยากให้เธอปล่อยวาง เลิกพยาบาทเป็นทาน แก่เจ้ากรรม นายเวร แล้วชิวิตจะเป้นสุขกว่านี้ ส่งโดย: philosophy
ความเห็นที่ 10 จริงๆแล้ว ชีวิตที่น่าสงสารที่สุดคือลูกชายของเค้า เค้าเติบโตมากับความเจ็บแค้นตั้ง 18 ปี น่าจะปล่อยวาง เริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่จะดีกว่า เพราะอนาคตยังอีกยาวไกล ไปๆมาๆ เหมือนแม่เค้ารังแกลูกมากกว่า วันนั้นดูเค้าออกทีวีแล้วน่าสงสารลูก ส่งโดย: destiny
ความเห็นที่ 11 เหมือนกับว่าแพทย์ทำผิดพลาดกับเธอแค่วันเดียว แต่เธอทำร้ายตัวเธอเองมาตลอดชีวิตที่เหลือ ส่งโดย: True___man
ความเห็นที่ 11 เหมือนกับว่าแพทย์ทำผิดพลาดกับเธอแค่วันเดียว แต่เธอทำร้ายตัวเธอเองมาตลอดชีวิตที่เหลือ ส่งโดย: True___man
ถามหมอที่ให้ความเห็นข้างบนนั้นทั้งหมดเลยว่า 1.พวกคุณเห็นว่าสิ่งที่แม่ต่อสู้หาความเป็นธรรมให้ลูกจากรพ.เอกชนที่ไม่มีความรับผิดชอบนั้นเป็นสิ่งที่ผิดใช่หรือไม่ เพราะอะไร 2.สิ่งที่รพ.พญาไท 1 โกหก ไม่ให้ความช่วยเหลือรับรักษา เป็นสิ่งที่ถูกต้องใช่หรือไม่ 3.การโกหกคนไข้คือทางออกของปัญหาใช่หรือไม่ 4.คนที่รักความถูกต้อง คือคนอาฆาตพยาบาทชีวิตจะไม่มีความสุขในสายตาพวกคุณใช่หรือไม่
ตอบให้ได้ ถ้าตอบไม่ได้ แล้วควรเก็บเอาปากไว้เฝ้าบ้าน ความคิดที่บัดซบเช่นนี้คือสิ่งที่ทำลายวงการแพทย์ สังเกตแพทย์ดี ๆ เขาไม่ได้ให้ร้ายผู้เสียหาย มีแต่พวกปากสวะที่คอยตามกัดตามจิกคนที่เขาทุกข์อยู่แล้วซ้ำเติมความทุกข์
ขออวยพรให้ความทุกข์ของผู้เสียหายทั้งเครือข่ายฯ เกิดขึ้นกับครอบครัวพวกคุณบ้าง แล้วจะรู้สึก | โดย: บัดซบจริง ๆ [30 ก.ค. 52 14:52] ( IP A:58.9.187.84 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 15 ความเห็นที่ 10 จริง ๆ แล้ว ชีวิตที่น่าสงสารที่สุดคือลูกชายของเค้า เค้าเติบโตมากับความเจ็บแค้นตั้ง 18 ปี น่าจะปล่อยวาง เริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่จะดีกว่า เพราะอนาคตยังอีกยาวไกล ไป ๆ มา ๆ เหมือนแม่เค้ารังแกลูกมากกว่า วันนั้นดูเค้าออกทีวีแล้วน่าสงสารลูก ส่งโดย: destiny
น้องเซ้นต์ปวดขาอย่างทรมานทุกคืน หลังอายุ 20 ต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมทุก 10 ปี วันนี้น้องเซ้นต์อายุเพียง 18 ปี แต่กลับมีความเสียหายใหม่เพิ่มขึ้น คือกระดูกสันหลังทรุด หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทและไขสันหลัง ทำให้ปวดหลังร้าวลงมาที่ขามากขึ้น การเคยติดเชื้อในกระดูกมาก่อน ทำให้การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมจะใช้ข้อเหล็กธรรมดาตามสิทธิบัตรทองไม่ได้ ต้องใช้ข้อเซรามิกถึงจะปลอดภัย และมีอายุนานกว่า
ถามว่า 1. ถ้าเป็นลูกคุณ ต้องปล่อยวาง แล้วก้มหน้าก้มตาหาเงินหลักแสนหรืออาจจะเป็นล้าน มาเป็นค่าผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมให้ลูก โดยรพ.เอกชนเฮงซวยแห่งนั้นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยใช่ไหม 2.ถ้าปล่อยวางแล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าชีวิตน้องเซ้นต์จะมีความสุข ใช่คุณพูดได้พล่ามได้เพราะน้องเซ้นต์ไม่ใช่ลูกคุณ คุณไม่ต้องทุบขาให้ลูกทุกคืน ไอ้รพ.เฮงซวยนั่นมันก็ไม่ได้มารับผิดชอบอะไรเลย 3.เก็บปากคุณไว้เห่าหอน+เฝ้าบ้านเถอะ กรุณาอย่าแส่สอนคนอื่นทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักหนา | โดย: บัดซบ [30 ก.ค. 52 21:17] ( IP A:61.90.109.189 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 16 ชีวิตครอบครัวล้อเสริมวัฒนา ถูกความอยุติธรรมทำร้ายมามากพอแล้วยังมาโดนพวกปากสุนัขใจสุนัขทำร้ายอีก | โดย: ระยัมจริง ๆ [30 ก.ค. 52 21:33] ( IP A:61.90.109.189 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 17 1. ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รับการรักษาฟรี 2. ชีวิตลูกอาจจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าแม่มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีกำลังใจ มีจิตใจที่เป็นสุข ปล่อยวาง ไม่ผูกเจ็บ 3. ไม่ใช่คำถาม | โดย: 888 [31 ก.ค. 52 6:17] ( IP A:58.8.86.51 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 19 แหม ได้อ่าน คห ของท่านที่แสดงไว้ใน ThaiClinic.com แล้ว
รู้สึกก็น่าเห็นใจนะ แล้วก็สงสารคนไข้ในอนาคตของประดาหมอเหล่านี้
บางท่านที่กังวลว่า จะมีหมอคนไหนกล้า "รักษา" คุณดลพร+ครอบครัวนั้นน่ะ อืม นี่ก็เรื่องที่เป็นกระแสที่เกิดขึ้น "ตามสมควรอยู่แล้ว" แต่นึกย้อนกลับอีกที วงการแพทย์ทุกวันนี้ โดยเฉพาะ "เมดิคอลฮับ" ก็วิบัติชิบหายไปเยอะ จากความปลิ้นปล้อนของวงการแพทย์ไทยส่วนหนึ่ง แล้วลามเป็นความระแวง/ไม่ไว้วางใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับต่างประเทศนี่ ตัวอย่างเห็น ก็ทีฝรั่งอเมริกันประจานโรงพยาบาลแถวซอยนานาสุขุมวิท ที่นี่เลย
https://bumrungraddeath.com/
ซึ่งก็คงจะพอเหมาะพอสมกับโรงพยาบาลพญาไท๑ นี่
ความเห็นหมอจาก TCC ที่ปรากฏในนี้ ภาพรวมก็น่าจะบอกเราได้ว่า หมอเหล่านั้นไร้สำนึกของความถูกต้อง/ชอบธรรม หรืออาจจะไม่รู้จักเอาเลยก็ได้ และหากจะลองนึกดูให้ซึ้งกว่านั้น คดีอย่างนี้ หลักฐานความเป็นไปที่ "ฉ้อฉลและผิดข้อปฏิบัติทางการแพทย์อย่างสาหัสขนาดนี้" แล้วทั้งโรงพยาบาลพญาไท ๑ ทั้ง แพทยสภา มีพฤติการณ์โกหกและช่วยเหลือกันอย่างที่ศาลเองก็เอ่ยยอมรับขนาดนี้
แล้วบรรดา หมอ พวกเหล่านี้กลับ "มองไม่เห็น"
พวกท่านคุณหมอเองก็น่าห่วงมากๆ ว่า
หาก พวกท่าน วันใดอยากออกไปเปิดคลีนิคหรืออยู่โรงพยาบาลเอกชน จะมีคนไข้คนไหนยอมให้ท่านรักษากัน หากพวกท่านเปิดเผยตัวเองในที่นี้
เพราะแม้เรื่องง่ายๆ หลักฐานชัดๆอย่างนี้ พวกท่านยัง "ตีโจทย์ไม่แตก แยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร"
แล้วหมออย่างพวกท่าน หากคนไข้รู้จักหน้าค่าตา รู้ว่าท่านคิดอย่างไรกับคดีอย่างนี้ "ใครกันจะกล้าเอาชีวิต" ไปฝากไว้กับท่าน
ฉันท์ใดฉันท์นั้น คนไข้ที่อยากประเมินดูความสามารถในการแยกแยะเรื่องราวเหตุผลง่ายๆของ "หมอ" ซักคนหนึ่งก่อนตัดสินใจมอบชีวิตให้รักษา ลองยกกรณี "คดีคุณดลพรนี้" ถามหมอคนนั้นดูว่าคิดอย่างไร?
แล้วค่อยตัดสินใจดูอีกที นี่อาจเป็นกลยุทธในการโยนก้อนหินถามทางที่น่าใช้ทีเดียวนะ ผมว่า | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [31 ก.ค. 52 9:34] ( IP A:58.8.109.162 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 20 ถามความเห็นที่ 22
1.ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รับการรักษาฟรี บัตรทองไม่ครอบคลุมข้อไททาเนียม หรือข้อเซรามิก
2. ชีวิตลูกอาจจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าแม่มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีกำลังใจ มีจิตใจที่เป็นสุข ปล่อยวาง ไม่ผูกเจ็บ การต่อสู้หาความเป็นธรรม ไม่ใช่การผูกใจเจ็บ ถ้าคุณปรียนันท์มีสุขภาพจิตใจที่ไม่ดี คงไม่สามารถผลักดันร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งหมอและคนไข้ คงไม่สามารถช่วยผู้คนในสังคมที่ถูกวงการแพทย์ทอดทิ้ง ถ้าคุณปรียนันท์เห็นความเลวร้ายในด้านมืดของวงการแพทย์แล้วยังเพิกเฉยก็แสดงว่าคุณปรียนันท์เป็นคนใช้ไม่ได้ เพราะวันหนึ่งความเดือดร้อนก็ตกกับลูกหลานคุณเช่นกัน ถ้าคุณปรียนันท์ไม่ปล่อยวางกับสิ่งที่รพ.พญาไท 1 + แพทยสภาทำกับเธอ ป่านนี้เธอลากเอาปืนไปยิงนานแล้ว ไม่ปล่อยให้รอดชีวิตมาให้ร้ายเธออยู่ทุกวันนี้หรอก
3. ไม่ใช่คำถาม ใช่นั่นคือคำด่าที่ยังน้อยไป สำหรับพวกอมนุษย์ | โดย: มอบสำหรับคนบัดซบ [31 ก.ค. 52 9:48] ( IP A:58.9.203.157 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 21 ถือโอกาสเอามาแปะไว้ให้ดูกันว่า
ฝั่งอเมริกันื้อุตส่าห์ไว้วางใจฝากชีวิตลูกไว้กับโรงพยาบาลเครือ "เมดิคอลฮับ" ของไทยแลนด์เรา เขา "ด่า" โรงพยาบาลไทยว่าอย่างไรกัน
***************************************** I am sure that there are good doctors and successful procedures
..but there is also a plethora of botched surgeries
and deaths
which are skillfully covered up by the big interests which run these operations.
I can never bring my son back
and the pain of having lost a son to these murderers is constant and unbearable
the pain is without end. My intention is to do whatever I can to spare others from the suffering I have experienced
and from the realization, that life is essentially CHEAP in the cultures where Medical Tourism/Outsourcing is most active.
Many of these cultures actually look down on Americans and Western Europeans
caring even less about their fates that that of their own people. With all due respect to the people of Thailand and their august King....Thailand is a brutal and corrupt place. On the surface, all appears well...beneath the pleasant smiles are a people who are so imbued in corruption, they don't, I believe, no the difference between what is right and wrong....and in Thailand, EVERYTHING is for sale!
Hospitals like Bumrungrad maintain full time, large PR departments, who spread the word, around the world
.about how good its going to be. US and European drug companies are delighted because they get to sell drugs which are not yet approved in other parts of the world
.and US and British hospital owners, such as Tenet Healthcare and BUPA, actually own or manage the very facilities to which these patients are being sent
or voluntarily going.
******************************************
ขอให้เมดิคอลฮับ ชงเจริญ ตามที่ชงกันนะครับ ใส่สีตีไข่กันเยอะๆ
แล้วก็ปิดเรื่อง "ช้างเน่าๆ" กันให้มิดชิดด้วยนะครับ | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [31 ก.ค. 52 9:51] ( IP A:58.8.109.162 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 22 อะยัม ภาษาชวา มลายู แปลว่า ไก่
ระยัม แปลว่าไรไม่รู้ | โดย: เจ้าบ้าน [31 ก.ค. 52 11:59] ( IP A:210.86.181.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 23 หนูรู้ ระยัม แปลว่า Here ยิ่งกว่า Here ความเลวร้ายยกกำลัง 2 ไม่ต้องเอาคำไหนมาเปรียบเทียบ เพราะเทียบยังไง ก็ไม่ได้ความหมาย เท่ากับคำว่า ระยัม ค่ะ เอ๊ หรือจะใช้ ระยำ คำนี้คะ คำไหนก็ได้เปล่งเสียงออกมา ให้คนตาบอดได้ยินเหมือนคนตาดีก็แล้วกัน จะเขียนยังไงก็ให้มันอ่านออกเสียงมา ว่า ระยัม ละกัน เป็นอันเข้าใจ
เห็นใจพี่อุ้ยและน้องเซ็นต์มาก ๆ มากจนพูดไม่ออก เพราะมันไม่รู้จะเอาคำพูดไหนไปปลอบใจให้ช่วงเวลาวันนั้นให้พี่อุ้ย รู้สึกดีขึ้น ไม่มีอะไรแทนได้เลยในความรู้สึกเสียใจกับความเป็นจริงที่เจอและรับรู้ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที การฟ้องหมอหรือฟ้องคนมีอำนาจ มีเงินตรา ไม่จำเป็นไม่มีใครอยากฟ้อง เพราะมันเป็นเรื่องยากมากในเมืองไทย คนจน จะสู้ กับคนรวย ต้องค้นหาปัจจัยหลายอย่าง นอกจาก ใจถึง ใจสู้แล้ว ต้องมีความทนทานของหัวใจ หัวใจที่ต้องผิดแปลกชาวบ้านที่เกินร้อยอีกด้วย ใจไม่สู้ ใจไม่แกร่งพอ ฟ้องพวก ha นี้ไม่ได้หรอก ...
ยอมรับเลือดนักสู้คนนี้ ครอบครัวนี้เป็นตัวอย่างการต่อสู้ ไม่เป็นไร สุดท้ายก็จะไปนั่งเป็นเพื่อนพี่อุ้ยที่หน้า รพ.พญาไท อีกคน สดุดี ความยุติธรรมกันที่นั่น.... | โดย: จีเอ็น [31 ก.ค. 52 13:11] ( IP A:124.157.189.38 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 24 หนูคิดว่าที่คุณหมอบอกว่าคุณปรียนันท์เป็นคนอาฆาตพยาบาท หนูว่าไม่จริงหรอกนะคะ ถ้าคุณหมอได้มาเป็นอย่างคุณปรียนันท์ คือ ลูกในไส้ของเราต้องมาพิการ เจ็บปวดไปตลอดทั้งชีวิต คุณหมอจะทนได้หรอคะ หนูคิดว่าคุณหมอบางท่านจะเป็นยิ่งกว่าคุณปรียนันท์ด้วยซ้ำ ที่เธอเรียกร้องสิทธิให้ลูกอย่างนี้ ถือว่าถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ สมมุตินะคะ ถ้าลูกคุณหมอ หรือ พ่อแม่ญาติสนิทมิตรสหายของคุณหมอ ต้องมาล้มหายตายจากไปทั้งๆที่ยังไม่ควรที่จะถึงเวลานั้น คุณหมอยอมได้หรอคะ ? คุณหมออย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลยค่ะ ถ้าคุณหมอไม่ได้มารู้สึกอย่างเธอด้วย ก็กรุณาอย่าว่าคุณปรียนันท์อย่างนั้นเลยนะคะ หนุเชื่อว่าที่พวกคุณหมอได้ว่าคุณปรียนันท์ไว้ [หนูไม่ได้แช่งนะคะ> แต่หนูคิดว่า ซักวันสิ่งนั้นที่พวกคุณเคยว่าเธอไว้ จะกลับไปสู่คนที่รักหรือคุณเองนั่นแหละค่ะ เหอะ! 
| โดย: THEGIRLLING [31 ก.ค. 52 18:01] ( IP A:58.9.204.121 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ GN ที่บรรยายได้ตรงใจที่สุด คนเหล่านี้สร้างภาพเก่ง ทำร้ายครอบครัวนี้ไม่พอยังเที่ยวให้ร้ายเขาอีก เช่น 1. เคยเสนอเงินแล้วแต่ไม่เอาจะเอาเยอะ ๆ 2. เคยเรียกกลับมารักษาแต่ไม่ยอม พอลูกพิการมาโทษรพ. 3. ไม่ตัดรองเท้าให้ลูกใส่ ให้ลูกเดินกระเผลกเพื่อเรียกร้องความสนใจ
3 ข้อนี้ ไม่ว่าจะรพ.พญาไท 1 หรือนายกแพทยสภาไปเที่ยวพูดให้ร้ายประธานเครือข่ายฯ ตามที่ต่าง ๆ แล้วแต่ผีจะเจาะปากมันให้พูด ไม่น่าเชื่อว่านับวันจะเลวร้ายยิ่งกว่าผีเปรต ทั้งที่ตนเองมีเครดิตทางสังคม ไม่เอาความจริงเข้าสู้ หน้าตัวเมีย แบบนี้ถ้าคุณปรียนันท์ขอท้าชกปากมันจะเอาไหม ไอ้คนโกหก | โดย: เลวสิ้นดี [1 ส.ค. 52 7:03] ( IP A:58.11.27.247 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 26 คห.30 แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ ที่เค้าพูดน่ะ... ตอบแค่จริงหรือไม่จริงก็พอ.. ไม่ต้องบ่ายเบี่ยง ไม่ต้องอ้อมค้อม | โดย: ก็แค่สงสัย [1 ส.ค. 52 17:57] ( IP A:124.157.146.40 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็น 31 ถ้าไม่หูหนวกหรือตาบอด หรือโง่จนสมองกลวง ก็น่าจะแปลคำว่า "ให้ร้าย" ได้ ตลกกับคำว่าบ่ายเบี่ยง อ้อมค้อม เพราะพวกคุณใช้กันจนเป็นสันดาน | โดย: สันดาน [1 ส.ค. 52 20:21] ( IP A:58.9.195.115 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 28 ความเห็นที่30... ตอบแทนให้ได้ว่า ไม่จริง | โดย: เจ้าบ้าน [2 ส.ค. 52 13:17] ( IP A:124.121.141.46 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 30 มันจะยอมให้ท้าชกปากเหรอคะ ? แค่สบตาก็ยังไม่กล้า เดินหนีลูกเดียว ประธานเครือข่ายต้องอาศัยความเร็วในการใช้หมัดตรง หมัดเดียวเอาตรง ๆ หนัก ๆ รับรองว่า ดังปั๊ก หน้าเด้ง ทันที ไม่งั้นก็ตาแตก เล็งดีดีก็อาจจะได้ตรงคิ้วสัก 5 เข็ม
เดี๋ยวลูกน้องหมอก็เอาไปเย็บเอง มีประกันจ่ายอีกต่างหาก.... งานนี้ไม่ถึงตาย แค่เจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ว่า อย่าดีกว่าวิธีนี้ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าพวกเราป่าเถื่อน ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงาม แต่เป็นแบบนี้บ่อยก็ไม่แน่นะคะ ยอมเป็นคนไร้วัฒนธรรมสักวันน่า | โดย: พวกสันดาน ไร้คุณธรรม [3 ส.ค. 52 18:04] ( IP A:118.172.103.231 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 30 ความเห็นที่ 34
ป๊าดดดด...!.. โดนใจ มันต้องแบบนั้นแหละ ต้องเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แน่ "ประธานเครือข่ายฯ ชกปากนาย...ก.....ปากแตก ฟันร่วง 10 ซึ่ นาย...ก ปากเสียไม่หยุด เจอถอดรองเท้าตบ แว่นตาแตก" | โดย: ข่าวหน้าหนึ่ง [3 ส.ค. 52 18:17] ( IP A:58.11.29.104 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 31 เห็นใจ และ เอาใจช่วยพี่อุ้ยคะ.....ใครดี ใครชั่ว สวรรค์ท่านมีตาคะ...และนรกก็มีตาเช่นกัน....ก็เหมือนหมอดูที่มีชื่อท่านหนึ่งที่สามารถดูในนรกได้ ท่านก็คงเห็นพวกเลว ๆ อยู่ในนรกล่วงหน้าแล้วละค่ะ ตอนอยู่บนโลกมนุษย์พวกมันไม่ทำความดี ตายไปพวกมันก็ต้องไปอยู่ในนรก สิ่งเลว ๆ ชั่ว ๆ ที่มันรังแกคนจน คนพิการ คนเดือดร้อน ช่วยพวกเดียวกัน....ให้การเท็จ ปกป้องผลประโยชน์ชั่ว ๆ เลว ๆ นรกเปิดประตูรออยู่.....คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ...อ่านดูบ้าง...อย่ามัวแต่ดูตัวเลขในบัญชีเงินฝาก...ทรัพย์สินนอกกายตายไปก็เอาไปไม่ได้หรอก ...ความดีกับอริยะทรัพย์ตากหากที่จะตามตัวท่านไป....บอกบุญให้แล้วนะ...ถ้าอยากตกนรก...ไม่อยากขึ้นสวรรค์ก็ตามใจ...พวกจิตใจชั่วทั้งหลาย....ขอให้เวรกรรมสนอง...รังแกคุณปรียนันท์อยู่ได้....คนเขาน่าเห็นใจและมีความเป็นแม่หัวใจเต็มร้อย....น่ายกย่องสรรเสริญ.. | โดย: ไปลงนรกซะ..ไอ่พวกชั่วร้าย.. [23 ส.ค. 52 18:52] ( IP A:124.121.219.239 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 32 ทำดีให้ได้เท่าเค้าก่อนเถอะแล้วค่อยไปว่าคนอืน คห บนหนะ | โดย: ทำอะไรดีๆ มั่งในชีวิต [23 ส.ค. 52 20:22] ( IP A:203.154.66.94 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 33 ขอขอบคุณคุณพี่ปรียานันท์ และครอบครัวเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้คุณพี่ปรียานันท์และครอบครัว และขอสิ่งดี ๆ จงมีแด่ครอบครัวของคุณพี่ฯ และความสำเร็จทั้งปวง | โดย: TNP [28 ส.ค. 52 18:09] ( IP A:115.67.93.203 X: ) |  |
|