"ความเสียหายเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความผิดพลาด"
|
ความคิดเห็นที่ 1 ใครเป็นคนพูด เหตุการณ์ไหน หรือแค่เล่นลิ้น ไม่ผิดพลาดแล้วมันจะเสียหายได้ไง ยกตัวอย่างซิ...ที่เสียหายโดยไม่ผิดพลาด | โดย: เล่นลิ้น [27 ก.ค. 52 22:41] ( IP A:115.87.128.194 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 มีได้ครับ ยืมหนังสือเพื่อนบ้านติดกันมาอ่านที่บ้านทั้งคู่เป็นทาวน์เฮ้าส์สองชั้น อ่านเสร็จกะว่าพรุ่งนี้จะเอาไปคืน เก็บไว้ชั้นสอง พอดีวันนั้น ฝนตกหนัก พายุพัดบ้านพังทั้งสองหลัง หนังสือเสียหาย อันนี้ไม่ผิดพลาด ไม่จำเป็นต้องใช้ค่าเสียหาย (หนังสือโรเมโอ จูเลียต ต้นฉบับ เล่มละ 10 ล้าน) แต่ถ้าเอาไปอ่านหน้าบ้าน กินเบียร์ แล้วเผลอลืมไว้ใต้ต้นไม้ พายุพัด มาแล้วหนังสือปลิวไปตกในสระ บ้านไม่พัง แบบนี้ ผิดพลาดแล้วเสียหาย ต้องจ่ายตังค์ค่าเสียหาย แต่ที่เจอๆ นี่ เป็นความผิดพลาดทางการแพทย์ ที่คนจ่ายตังค์ (30 บาท ) บอกว่าไม่ผิดพลาดแต่จ่ายให้ เจอเยอะ เท่าที่นึกได้ ยังไม่เคยเจอว่าประมาทผิดพลาดแล้วจ่ายตังค์(ดูมาหลายคดี ที่ร่อนพิบูลย์เห็นมาสองคดี) | โดย: ฟฟ [27 ก.ค. 52 22:56] ( IP A:58.11.71.78 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 อ่าน คห ที่ 2 แล้ว
ถ้าผมเป็นหมออาชีพนะ คงรู้สึกแสบๆคันๆ พิลึกล่ะ อีท่านี้ | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [28 ก.ค. 52 10:12] ( IP A:58.8.103.7 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 คนไข้โดนเครนทับ ขาขาด มา รพ ทำ debride close stump ให้ atb เต็มที่ ติดเชื้อเข้ากระแสเลือด คนไข้ตาย กรณีนี้ก็มีความเสียหาย ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ไม่ใช่ความผิดพลาด | โดย: ไม่เล่นลิ้น [28 ก.ค. 52 12:25] ( IP A:125.26.112.188 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 ถ้า ผมมี โรมิโอต้นฉบับ คงไม่ให้ใครมายืมอ่าน ผมยินดีไปซื้อฉบับตามแผงเล่มใหม่ เชิญเอาไปปู้ยี่ปู้ยำได้ ต่อให้ทำเบียร์หกใส่ก็ไม่ต้องใช้คืนผมหรอก | โดย: ต [28 ก.ค. 52 12:28] ( IP A:125.26.112.188 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ตอนหนึ่งจากสุนทรพจน์ของประธานาธบดีบารัค โอบาม่า เมื่อเร็วๆนี้ที่สามคมแพทย์อเมริกัน
********************************* แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่พวกท่านถูกกำหนดให้มีอาชีพหมอ และนั่นก็ไม่ใช่เหตุที่ทำให้พวกท่านใช้เวลานับชั่วโมงๆไปกับการศึกษาสรีระร่างกายมนุษย์จากศพหรือหุ่นจำลอง หรือที่แผนกผู้ป่วยนอก นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะนำพวกท่านกลับไปยืนอยู่ที่ข้างเตียงคนไข้เพื่อตรวจเยี่ยมไข้หรือทำให้ท่านต้องเรียกญาติคนไข้มาปลอบว่าคนไข้จะปลอดภัย พวกท่านไม่ได้เข้าสู่วิชาชีพนี้เพื่อเป็นคนทำบัญชีหรือเสมียนงานเอกสาร แต่พวกท่านเข้าสู่วิชาชีพนี้เพื่อเป็นผู้บำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยให้แก่เพื่อนมนุษย์ และนั่นคือสิ่งที่ระบบการดูแลสุขภาพของประเทศนี้สมควรกำหนดให้พวกท่านเป็น
************************************
ผมว่านะ เปล่าประโยชน์ว่าจะมานั่งเถียงกันเรื่องการแยกแยะว่าอะไรเป็นความผิดพลาดที่ป้องกันได้ แล้วก็อย่างไหนเป็นเหตุสุดวิสัย??!!
ทั้งหมดนั่นก็เพียงเพราะต้องการแยกแยะว่า จะโทษ "หมอผู้ให้บริการ" ได้หรือไม่เท่านั้น หากมีการเสียเลือด/เนื้อ/พิการ หรือ ตายขึ้น
ผมกลับเห็นว่า เบื้องต้นก็คือ ต้องพิสูจน์ออกมาให้ได้ก่อนว่า ในกรณีเช่นนั้น ฝ่ายหมอ "ได้เปิดเผยความจริงอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่?" และต้องไม่ทำให้กระบวนการตรวจสอบนั้น "ถูกป้ายสีว่า" เป็นการจ้องจับผิดฝ่ายหมอ หรือ ฝ่ายหมอต้องผิดเสมอไป
การเปิดเผยความจริงอย่างตรงไปตรงมาและครบถ้วน ต้องเป็นไปเพื่อความถูกต้องสบายใจแก่ทั้งสองฟากของผู้เกี่ยวข้องและสาธารณชนเท่านั้น และเพื่อการบอกต่อเป็นมาตรการป้องกันการซ้ำรอยเดิม และให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกลไกที่มีอยู่แล้ว
ทั้งหมดนี้ แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย ซ้ำร้ายกลับเป็นตรงกันข้ามอย่าง "หน้ามือเป็นหลังเท้า" เสียด้วยซ้ำ ซึ่งตัวอย่างตรงๆที่ครบถ้วนของการบิดเบือน/ฉ้อแลในกระบวนการตรวจสอบดังว่า ก็กรณีของประธานเครือข่ายฯ กับ โรงพยาบาลพญาไท๑ และแพทยสภา และศาล ที่มีการเอื้อประโยชน์กันอย่างผิดจริยธรรมร้ายแรงโดยจะแจ้ง
ที่สุดของที่สุดสำหรับกรณีเรื่องหมอๆนี่นะ ผมว่าให้ดูที่ผมขอฉายซ้ำซากอีกทีข้างล่างนี้นะ สำหรับวาทะอมตะของท่านเซอร์เลียม โดนัลสัน
ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องของความปลอดภัยของคนไข้ภายใต้บริการทางสาธารณสุข (เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น) ไม่ได้อยู่ที่ "หาคนผิด" หรือ "ลงโทษคนทำพลาด" แต่อยู่ที่ "การป้องกันความผิดพลาด ทั้งที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์และที่เกิดจากระบบ เพื่อไม่ให้มัน" เกิดขึ้น " และนั่นเป็นเรื่องที่ต้องการความโปร่งใสที่มากยิ่งกว่าของตัวระบบบริการ รวมทั้งต้องการความสมัครใจที่ยิ่งใหญ่กว่าของบรรดาผู้อยู่ในวงวิชาชีพนี้ที่จะกล้ายอมรับอย่างซึ่งๆหน้าต่อความผิดพลาดของเรากันเอง เหนือสิ่งอื่นใด ความผิดพลาดเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ แต่การปิดบังความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ และการล้มเหลวที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดก็เป็นเรื่องที่ยกโทษให้ไม่ได้ พวกเราหมอทุกคนล้วนทำเรื่องผิดพลาดได้ทั้งสิ้น | โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [29 ก.ค. 52 12:30] ( IP A:58.8.104.251 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 ผมเคยไปเที่ยว พักโรงแรมวอลดอฟ แอสโตเรียในนิวยอร์ค ชั้นใต้ถุนมีร้านหนังสือเก่าขาย มีฉบับดั้งเดิม ตั้งแต่ ไบเบิลเล่มตีพิมพ์ครั้งแรกโดยโกเตนเบิร์ก หนังสือของชาร์ลดาร์วิน หนังสือของวิลเลี่ยมเช็คเปียร์ส หนังสือของนิวตัน ทั้งคัลคูลัสและกลศาสตร์ ผมยืนดูน้ำลายหกทุกเช้า อยากซื้อของนิวตันมาอ่านเล่นหน่อย แต่เสียดายตังค์ ตอนนั้น 5 แสนบาท (เหรียญละ 25 บาทยุคเงินบาทยังไม่ตก) คนขายมันเชียร์ทุกวัน บังเอิญตอนนั้น ปัญญาอ่อน ก็เลยไม่ตัดใจซื้อ ตอนนี้กะว่าถ้ามีโอกาสไปจะซื้อมาฝากลูกชายหน่อย มันบ้าคณิตศาสตร์ เป็นครูสอนคณิตศาสตร์เด็กมัธยม มันบอกอาชีพหมอลำบากไม่มีเวลา แต่ตอนนี้มันนั่งตรวจการบ้าน แต่ผมนั่งดูทีวี เลยไม่รู้ว่าใครลำบากกว่ากัน ปีหน้ามันจะรับปริญญา ได้เหรียญทอง เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคุรุศาสตร์ แต่คราวนี้คงต้องแบกเงินไป สัก 3 ล้านบาท เพราะของคงขึ้นราคา และค่าเงินตก เป็นหมอก็โง่กว่าพ่อค้า ตอนนั้นซื้อไว้ก็กำไร 2 ล้าน 5 ไม่ต้องนั่งผ่าตัด | โดย: เล่าให้ฟัง [29 ก.ค. 52 16:27] ( IP A:58.11.71.127 X: ) |  |
|