เพื่อนแพทย์ รู้ รึยัง ทำไมถึงชอบมีเรื่องแพทย์ออกทีวี
   https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1247052219
โดย: ก็อป์เขามา [8 ก.ค. 52 18:41] ( IP A:58.8.2.24 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หากหน่วยงานทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
ชาวบ้านคงไม่ไปพึ่งสื่อ

ทั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน

ถ้าพวกคุณทำงานได้รวดเร็วเหมือนสื่อ
มีหรือชาวบ้านจะไม่วิ่งเข้าหา
โดย: ไม่ต้องโทษสื่อ [8 ก.ค. 52 20:51] ( IP A:58.9.187.21 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
    "สรยุทธ" โว ใครจะปรับเล่าข่าวอย่างไร แต่เรตติ้งตนก็ยังนำโด่ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กรกฎาคม 2552 20:21 น.




คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น









"สรยุทธ" ไม่สนช่อง 7 ซื้อเฮลิคอปเตอร์สู้รายการข่าวช่อง 3 เจ้าตัวบอกบุคลากรสำคัญกว่าส่วนเทคโนโลยีใครมีเงินก็ซื้อได้ พร้อมปัดเป็นเบอร์หนึ่งเล่าข่าวแต่คุยใครจะเปลี่ยนยังไงเรตติ้งตนก็นำโด่งตลอด ก่อนแย้มช่องอื่นทาบทำรายการสไตล์ “ถึงลูกถึงคน”

เป็นการปรับเปลี่ยน-ลงทุนครั้งใหญ่ทีเดียวสำหรับรายการข่าวของช่อง 7 ที่ลงทุนใช้เฮลิคอปเตอร์เข้ามาช่วยเสริมในการรายงานข่าว ซึ่งเมื่อสอบถามความคิดเห็นไปยัง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" หนึ่งในผู้ประกาศของครอบครัวข่าวทางช่อง 3 ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรงนั้น เจ้าตัวได้แสดงความคิดเห็นว่า...

“ในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ คุณมีเงินคุณสามารถซื้อได้หมด แต่สิ่งที่คุณหาไม่ได้คือบุคลากร สิ่งที่คุณต้องใช้เวลาในการพัฒนาคือคน หรือไม่กระทั่งผมเองหรือคนอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ข่าว อันนี้มันต้องใช้เวลาในการสร้าง มีเงินแค่ไหนก็ซื้อมันไม่ได้"

"สองคือเทคโนโลยีอยู่ดีๆ คุณคิดจะให้ผมหายตัวไปจากตรงนี้ ไปยืนอยู่ตรงโน้นก็ได้เทคโนโลยีสามารถทำได้หมดถ้าคุณมีตังค์ แต่ทำยังไงที่จะทำให้มันเหมาะกับรายการและคนดู คือมันต้องไม่เยอะไป เข้ากับรายการแล้วมันยังคงความน่าเชื่อถือ เพราะยังไงเราก็เป็นรายการข่าว"

เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ผมพยายามทำตลอด จริงๆ แล้วทางช่องเองก็มีอะไรมาให้เราทดลองเยอะ แต่ผมว่ามันต้องจัดระเบียบของรายการ ส่วนตัวผมเองก็อยากจะสร้างผู้ประกาศใหม่ๆ นะ เพราะการที่ได้สร้างคนขึ้นมามันเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ"

ผมมีความสุขมากที่เห็นภาษิต(ภาษิต อภิญญาวาท) กับกุ๊ก กฤติกา (กฤติกา ศักดิ์มณี) คือเห็นแล้วมีความสุข นี่คือคนรุ่นใหม่ที่เขาสามารถที่จะนำเสนออะไรออกมาแล้วน่าสนใจ ก็เหลือแต่เรื่องของความน่าเชื่อถือที่ต้องเติมเข้าไป เราก็จะเป็นพี่เลี้ยงช่วยประคับประคองเขาไป แล้วก็พร้อมที่จะสร้างคนใหม่ๆ อยู่เสมอ”

เพราะเป็นเจ้าแรกๆ ในการทำให้รายการประเภทเล่าข่าวจนเกิดเป็นกระแสขึ้นมา หลายคนจึงมองว่าเขาเป็นที่หนึ่ง ขณะที่เจ้าตัวบอกไม่เคยคิดเช่นนั้นเพราะจะเป็นการกดดันตัวเองล
“อย่าไปคิดว่าเป็นเบอร์หนึ่งสิ ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่า เราก็เป็นคนทำงานข่าว เพราะฉะนั้นถ้าไปคิดว่าเป็นเบอร์หนึ่งแล้วมันกดดัน มันก็คงจะกดดันตั้งแต่มาทำงาน มันต้องคิดว่าตอนที่เราเข้ามาทำงานตอนนั้นยังเป็นเบอร์อะไรก็ไม่รู้นะ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ในฟรีทีวีครึ่งชั่วโมงครั้งแรก มันก็อยู่ของมันไปที่สำคัญก็คือว่าประคับประคองคนดู”

“ใจผมมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เราจะอยู่ตลอดกาลมันต้องมีคลื่นลูกหลัง แต่อีกใจหนึ่งผมมักจะถูกมองว่า เอ๊ะ อย่างเรื่องเล่าเช้านี้ 6 ปีที่ผ่านมา ปีละประมาณ 3 ครั้งที่ผมจะถูกถามว่าคู่แข่งอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็บอกทุกครั้งว่าเราต้องแข่งกับตัวเองแล้วมันก็พิสูจน์ให้เห็น"

คุยเรตติ้งยังเป็นที่หนึ่งตลอด..."เรตติ้งใครจะว่ายังไงก็ตามทีแต่ว่ามันห่างอย่างสม่ำเสมอก็คือเรตติ้งนำมาก แต่เขาก็ยังส่งรายงานมาให้ดูผมก็ดู ประมาณว่าวันนี้ที่มันน้อยหรือเยอะเพราะเหตุผลอะไรยังไง เขาเรียกว่าไม่ประมาท แต่ดูของตัวเองนะ”

“ผมต้องแข่งกับตัวเองตลอด เราอยู่นิ่งไม่ได้ จริงๆ เราเองก็พัฒนาของเราอยู่ตลอดอยู่แล้ว ถ้าเราหยุดนิ่งก็เหมือนกับว่าเราถอยหลัง เพียงแต่ว่าก็เป็นปกติเหมือนวันหนึ่งไม่เคยมีการเล่าข่าว วันนี้ก็มีเล่าข่าวกันเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็ต้องเดินหน้าพัฒนาคิดของเราไปว่าเราอยากทำอะไร ยังไง"

"ไม่ได้มองเรื่องแข่งอะไรมากไปกว่าว่าเราจะตอบโจทย์คนดูยังไง หรือจินตนาการของเรากับคนดู แล้วอีกอย่างต้องไม่ให้ไปกระทบกับแฟนประจำ บางทีพยายามอะไรมากไปจนไปกระทบกับแฟนพันธุ์แท้ของเราก็ไม่ได้ อันนี้ก็ต้องรักษาไว้ ส่วนแฟนใหม่นั้นตอนนี้ก็คิดว่าเยอะมาก"

"อยากให้ไปดูด้วยกัน วันไหนที่ไปต่างจังหวัดหรือไปชุมชนจะเห็นเลยจริงๆ ไอ้ที่บางทีไม่อยากจะพูดอะไรเพราะรู้สึกว่าพิธีกรข่าวเดี๋ยวนี้เป็นดารา ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะคุณเป็นดาราคนเห็นเขาก็จะกรี๊ดๆ แต่พอทีมเรื่องเล่าลงไปเยี่ยมเขาจะรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อน เขาก็จะมีมาตี มาจับแขนจับขา ไม่ว่าจะเป็นคนแก่เด็กเล็กๆ เองก็ติดตามรายการเรากันหมด”

ย้ำรายการของตนยังคงเน้นเรื่องการเมืองเป็นหลัก?
“บางคนอาจจะมองว่าผมเป็นพวกอนุรักษ์นิยมมาก ทำไมเรื่องเล่าเช้านี้ต้องยืนยันว่าข่าวสำคัญของประเทศนี้ต้องอยู่อย่างข่าวการเมือง บางช่วงเวลาของรายการอื่น นี่ผมไม่ได้ว่าใครนะ คืออย่างบางรายการมันหายไปเลย ข่าวเศรษฐกิจสำคัญๆ มันหายไปเลย แต่ไปอยู่กับกระแสอะไรบางอย่าง"

"แต่เรื่องเล่าเช้านี้เรายืนยันว่าต่อให้มีเคอิโงะ ต่อให้มีแพนด้าต่อให้มีเรื่องรากหญ้าอะไรยังไง แต่ข่าวสำคัญของประเทศต้องมี เรายังยืนยันว่าต้องทำให้ข่าวสำคัญ น่าสนใจอยู่เสมอสำหรับคนดู นี่คือสิ่งที่ยืนยันมาตลอดตั้งแต่ช่วงทำงานที่ผ่านมา"

"คนพูดถึงเรื่องเล่าเช้านี้ นี่คือรายการข่าวที่ยังมีความน่าเชื่อถือสูงมาก มีสีสันที่ดูแล้วสนุกสนานดูได้ทั้งครอบครัว แล้วก็มีการพัฒนาตลอดเวลา มีลูกเล่นที่น่าสนใจ แต่จุดสำคัญที่สุดคือเนื้อหาของรายการ อย่างอื่นเป็นแค่องค์ประกอบที่ทำให้มันดีขึ้น”

ส่วนกรณีของรายการ “จับเข่าคุย” ต้องลาจอไปเพราะเจอ ”ทูไนน์โชว์” ของ “ไตรภพ ลิมปพัทธ์” เสียบแทนนั้น เจ้าตัวบอกยังไม่รู้เหมือนกันว่า รายการดังกล่าวจะกลับมาสู่หน้าจออีกเมื่อไหร่ พร้อมเผยมีช่องอื่นๆ มาทาบให้ไปทำรายการสไตล์ "ถึงลูกถึงคน"

“ยังไม่รู้ แต่ว่าพักเหนื่อยอยู่ ทุกวันนี้เองก็ยังรู้สึกว่าเหนื่อยอยู่ ช่วงเย็นเองก็ไม่เบานะ เพราะว่าความคาดหวังเขาก็สูง เขาก็บอกว่าอยากให้ช่วยทำให้เรื่องเด่นเย็นนี้ดูคึกคัก เข้มข้น เพราะฉะนั้นเรื่องแต่ละเรื่องที่จะสัมภาษณ์ คือจะบอกว่ายุคนี้การทำข่าวมันเปลี่ยนไปเยอะ เมื่อก่อนหยิบอะไรมาก็สัมภาษณ์ไป อย่างเขาบอกว่าเรตติ้งผู้ใหญ่เขาคาดคั้นมาอะไรยังไง"

"ผมก็ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความสำคัญกับความน่าสนใจ อย่างบางวันเรื่องโรคสำคัญมาก วันสองวันก็เบื่อกันนักหนา แต่ว่ามันตายกันถึง 3 คนแล้ว คนในประเทศตาย 3 คนไม่ใช่เรื่องเด่นประจำวันเหรอ แต่อีกวันหนึ่งเนาวรัตน์โป๊มันก็ต้องคุยกันบ้างล่ะ ซึ่งเราก็จะเอามาสลับสับเปลี่ยนเพื่อให้มันสมดุล แต่ผมจะพยายามรักษาเรื่องความสมดุลในรายการอยู่เสมอ”

“จะไปไหนล่ะ ไม่มีหรอกเราจะอยู่ตลอดกาล อาจจะมีช่องอื่นทาบทามเกี่ยวกับรายการทอล์คเขาอยากได้ดูแบบถึงลูกถึงคน แบบรายวันมันๆ เวลาเต็มที่หน่อย เขาก็มีทาบทามมาพอสมควร ผมก็ให้ทีมงานคุยรายละเอียด ผมทำงานเนื้อหาอย่างเดียว (จะขอนายทำรายการแบบนั้นไหม)คงไม่ ทุกวันนี้ผมเองก็เยอะแล้ว”
โดย: อยากให้มีถึงลูกถึงคนอีก [8 ก.ค. 52 20:58] ( IP A:58.9.187.21 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   สื่อบางแห่งไม่ค่อยอยากแตะหมอหรอก (อ่านดีดีไม่ใช่เตะ)
แตะนิดเดียวรายการเจ๊งเลย
อย่างรายการซ่องโจรนี่ ยังไม่ได้คืนจอเลย
ใครทำเขาเจ๊งรับผิดชอบด้วยนา
โดย: รายการหนี้สินค้างชำระ [8 ก.ค. 52 22:09] ( IP A:58.8.2.24 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   รายการ"ขบวนการแก้โกง" ทางช่องเก้า
เปิดเผย ตีแผ่ การฉ้อฉลเรื่องเวชระเบียน (ประวัติการรักษา)
ออกรายการได้เพียงเทปเดียว แพทยสภาตบเท้าทั้งฝูง
(เอ๊ยทั้งเก๊ง) ไปพบผอ.ของช่อง 9 ให้งดออกเทปตอน 2
ที่ประธานเครือข่ายเปิดโปงวิธีการโกง วิธีการต่อสู้ของ
แพทยสภาที่กระทำกับชาวบ้านตาดำ ๆ ยังไม่ทันได้ออก
แพทยสภาแทรกแซงสื่อ มีอำนาจสั่งช่อง 9 ไม่ให้ออกเทป
ตอน 2 แถมแพทยสภา(ผู้หน้าด้าม) ยกแก๊งกันไปออกรายการ
สดแทนอีกต่างหาก
โดย: แพทยสภาหน้าด้ามมาก
โดย: 6 [9 ก.ค. 52 9:35] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ต้องสงบปากสงบคำให้สังคมย่ำยี
เครือข่ายถึงจะพอใจหรือ?
โดย: 7 [10 ก.ค. 52 6:18] ( IP A:203.154.66.94 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ก็ไม่ได้มีใครไปปิดปากไว้นี่ครับ

เห็นแพทยสภาเอย เห็นกรรมการแพทยสภาเอย (ที่มีหุ้นหรือเป็นเจ้าของกิจการแพทย์เอกชน) เที่ยวตีกันบ้าง ต่อรองเชิงบีบตอนจะซื้อเวลาโฆษณา กันไม่ให้ข่าวทางด้านผู้เสียหายได้ออกอากาศ ไม่ใช่หรือ???

แล้วอย่างนี้ จะหาว่าโดนปิดปากหรือ???

ที่ถูกนะ น่าจะบอกว่า "กลัวโดนจับโกหก โดนจับได้ไล่ทันล่ะ" ไม่ว่า

หรือไงสมสาก???
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [10 ก.ค. 52 11:00] ( IP A:58.8.229.252 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   อ้อ

ถ้าพร้อมที่จะ "เปิดปาก" ต่อสู้กันกลางแจ้งละก็

นัดมาเลยนะ เรื่องอะไร ซอกไหน รูไหนของวงการแพทย์หรือเมดิคอลฮับก็ได้ เอาออกมาแฉมาพูดกันจะจะแจ้งแจ้งให้รู้ดีรู้ชั่วกันเลย

ดีไหมล่ะ???!!!
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [10 ก.ค. 52 11:03] ( IP A:58.8.229.252 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน