ผู้เสียหาย
   https://www.thesun.co.uk/sol/homepage/news/2680476/Parents-say-farewell-to-son-Arun-after-blunder.html
โดย: เสียลูก [14 ต.ค. 52] ( IP A:58.8.16.92 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   The SUN ของอังกฤษ ข่าววันที่ 14 OCT. 2009 บนเว็บวันนี้

A HEARTBROKEN couple say goodbye to their baby moments before the tot's life support was switched off - after NHS blunders.

คู่สามี/ภรรยา (ชาวอังกฤษ) ที่ใจสลายคู่หนึ่ง "บอกลา" กับลูกที่เพิ่งเกิดใหม่ได้เพียงไม่กี่อึดใจ หลังจากที่เครื่องช่วยชีวิตจากสภาพ TOT ของเด็กแรกคลอดถูกตัดการทำงาน, เป็นเหตุการณ์ของ "ความผิดพลาด" เมื่อสามปีก่อนซึ่งเกิดขึ้นจากหน่วยงานภายใต้ NHS (National Health Service เทียบเท่า สปสช+ประกันสังคมในบ้านเรา)

Devastated Johanne Reese and partner Krishna Grovekar faced the nightmare decision ten days after son Arun's birth.
ผู้เสียหาย (ญ.) Johanne Reese และคู่ของเธอ (ช.) Krishna Grovekar ต้องเผขิญกับการตัดสินใจที่เสมือนกับฝันร้ายเพียง 10 วันหลังจากที่ Arun 10 ลูกชาย (คนแรกและคนเดียว)ของพวกเขาคลอดออกมา

Yesterday the couple, who won ฃ160,000 damages after a three-year battle, told of their agony.
เมื่อวานนี้ สามี-ภรรยาคู่นี้ชนะคดีได้รับเงินชดเชยจำนวน 160,000 ปอนด์หลังจากเสียเวลา 3 ปีในการต่อสู้ เป็นการบอกเล่าของพวกเขาอย่างปวดร้าวใจ

Johanne, 48, was admitted to the maternity unit at 32 weeks with severe abdominal pains. But a doctor FAILED to spot she was in *** bour.
Johanne, ในวัย 48 ถูกรับตัวเข้าไว้ในหน่วยทำคลอดด้วยอายุครรภ์ 32 อาทิตย์ (8 เดือน) ในสภาพที่เจ็บบริเวณท้องอย่างหนัก แต่คุณหมอคนหนึ่งซึ่งรับผิดชอบอยู่ ณ. ที่นั้นไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเธอกำลังเจ็บท้องคลอด

As a result, the mum to be was not properly monitored for two hours and heart readings showing the baby was in distress were missed.

ผลก็คือ ว่าที่คุณแม่ลูกอ่อนรายนี้ไม่ได้รับการติดตาม/ดูแลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง และจากการอ่านค่าสัญญาณชีพซึ่งแสดงว่าเด็กในครรภ์นั้นอยู่ในสภาวะลำบากแล้ว ได้ถูกละเลยในช่วงนั้น

By the time a second doctor realised Johanne needed an emergency caesarean Arun had been starved of oxygen. He was effectively born brain dead.

กว่าที่คุณหมอรายที่สองจะตระหนักว่า ว่าที่คุณแม่ Johanne จำต้องได้รับการผ่าทำคลอดอย่างเร่งด่วน ว่าที่หนูน้อย Arun ก็ตกอยู่ในสภาพ "ขาดอ๊อกซิเจน" ไปแล้ว และในทางปฏิบัติหนูน้อย Arun ก็คลอดออกมาในสภาพสมองตายแล้ว

Ten days *** ter his life support was switched off at University Hospital of Wales, Cardiff. Cardiff and Vale NHS Trust admitted liability and settled out of court.

10 วันต่อมาที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย University Hospital of Wales, Cardiff. เครื่องช่วยชีวิตของหนูน้อย Arun จึงถูกถอดออก (ท่ามกลางความเจ็บปวดใจของพ่อแม่,เท่าที่สังเกตจากรูปในเว็บ) คณะกรรมของ NHS ประจำเขต Cardiff and Vale ยอมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้และดำเนินการไกล่เกลี่ยให้ยุติคดีนี้นอกศาล

Property developer Johanne, who has not worked since the tragedy in November 2005, said: "I was screaming in agony. I just thought they'd do a caesarean straight away but they didn't.
"I was pleading with them to do it because I could see my baby's heart rate dropping."

Johanne, มีอาชีพเป็นนักพัฒนาที่ดินทางธุรกิจ และไม่ได้ทำงานอีกเลยหลังโศกนาฏกรรมดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005 หล่อนกล่าวว่า "ตอนนั้น ฉันร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดรวดร้าว, ใจหนึ่งก็คิดว่า พวกเขา คงกำลังผ่าตัดทำคลอดตรงๆเลย แต่ก็กลับไม่ได้ทำ"
"ฉันวิงวอนให้พวกเขาช่วยทำผ่าตัดเพราะ ฉันรู้แล้วว่าหัวใจของลูกในท้องเต้นช้าลงแล้ว "

Johanne and restaurant owner Krishna said their lives were "absolutely ruined".
Johanne และ Krishna (เจ้าของภัตตาคาร) ต่างกล่าวว่า "ชีวิตของพวกเขาพังทลายไปอย่างไม่มีชิ้นดี"

Experts confirmed baby Arun would have survived if staff had taken earlier action.
ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ยืนยันว่า เด็กชาย Arun รอดชีวิตได้แน่หากคณะแพทย์ลงมือทำงานได้แต่เนิ่นๆ

Johanne, from Penarth, Vale of G *** morgan, says she is unlikely to have a family now because of her age.
Johanne จากเมือง Penarth ย่าน Vale of G *** morgan กล่าวว่า หล่อนคงไม่สามารถมีครอบครัวมีลูกได้อีกแล้วเนื่องจากวัยที่มากแล้ว


She said: "The hospital has robbed me of a family."
หล่อนกล่าวว่า ทางโรงพยาบาลปล้นชีวิตครอบครัวของฉันไปแล้ว

*** st night a hospital spokeswoman apologised again "unreservedly" to the couple.
เมื่อคืนนี้ โฆษกของทางโรงพยาบาล "กล่าวขอโทษอย่างไม่มีการสงวนท่าที" ต่อคู่สามีภรรยาทั้งสอง
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [14 ต.ค. 52 13:10] ( IP A:58.8.108.29 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน