การเรียนการสอนแพทย์ไทยติดอันดับโลกครับ
   หมอไทยสร้างชื่อ! “พญ.พาฝัน มุสิกวัตร” จาก รพ.มหาราชนครศรีฯ คว้ารางวัลเอมี อวอร์ด สาขาการประเมินความก้าวหน้าจากสมาคมแพทยศาสตร์ศึกษานานาชาติแห่งยุโรป จากผลงานเรื่องการใช้แฟ้มบันทึกข้อมูลประเมินความก้าวหน้าการเรียนรู้นักศึก ษาแพทย์ ในการประชุมวิชาการด้านแพทยศาสตร์ศึกษานานาชาติแห่งยุโรป ประจำปี 2552 ที่ประเทศสเปน

วันนี้ (20 ก.ย.) นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการนำคณะอาจารย์แพทย์จากศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก สถาบันสมทบการผลิตแพทย์ จำนวน 16 คน เดินทางไปร่วม ประชุมวิชาการด้านแพทยศาสตร์ศึกษานานาชาติแห่งยุโรป ประจำปี 2552 หรือเรียกชื่อย่อว่า เอมี (Association for Medical Education of Europe Conference : AMEE) ซึ่งเป็นการประชุมวงการเรียนการสอนแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อพัฒนากระบวนการสอนนักศึกษาแพทย์ให้มีความกลมกลืนระหว่างภาคทฤษฎีกับภาค ปฏิบัติกับผู้ป่วย จัดขึ้นที่เมืองมาลากา ประเทศสเปน ช่วงต้นเดือนกันยายนมานี้ มีอาจารย์แพทย์ และผู้บริหารของสถาบันผลิตแพทย์จากประเทศต่างๆ เข้าประชุม 2,300 คน จาก 81 ประเทศนั้น ในการประชุมครั้งนี้มีการจัดประกวดผลงานทางวิชาการยอดเยี่ยมด้านการเรียนการ สอนนักศึกษาแพทย์ เพื่อรับ เอมี่ อวอร์ด (Amee Awards) มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทั้งหมด 450 เรื่อง

นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขไทยได้ส่งผลงาน 7 เรื่อง ปรากฏว่าผลงานของ แพทย์หญิงพาฝัน มุสิกวัตร อาจารย์ประจำศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษา รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในสาขาการประเมินความก้าวหน้า จากผลงานการใช้แฟ้มบันทึกข้อมูลประเมินความก้าวหน้า การเรียนรู้ของนักศึกษาแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช (Implementing portfolios in an objective-bases curriculum at the MEC Maharaj Nakorn Si Thammarat Hospital Thai *** nd) สร้างชื่อเสียงให้ไทย ทำให้วงการเรียนการสอนของแพทย์ไทยเป็นที่ยอมรับระดับโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขจะให้สิทธิ์แพทย์หญิงพาฝันเข้าร่วมประชุมวิชาการแพทยศาส ตร์ศึกษาในปีหน้าที่ประเทศอังกฤษ เป็นขวัญกำลังใจด้วย

นายแพทย์สุวัฒน์ เลิศสุขประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร โครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท กล่าวว่า ในการประชุมวิชาการครั้งนี้ได้เน้นเรื่องการฝึกทักษะประสบการณ์ให้นักศึกษาแ พทย์ โดยใช้คนที่ไม่ป่วยมาเป็นคนป่วย หรือเรียกว่าคนป่วยจำลอง เพื่อฝึกการซักประวัติ การตรวจร่างกาย ให้นักศึกษาก่อนเรียนรู้กับผู้ป่วยจริง ซึ่งไทยใช้อยู่แล้ว

สำหรับ “เอมี อวอร์ด” เป็นรางวัลที่สมาคมแพทยศาสตร์ศึกษานานาชาติแห่งยุโรป มอบให้อาจารย์แพทย์ที่มีผลงานดีเด่น ใน 5 ด้าน ได้แก่ การวางแผนจัดหลักสูตร การประเมินความก้าวหน้า การจัดระบบการเรียนการสอน สาขาของนักศึกษาแพทย์ และการวิจัยในด้านการศึกษาของแพทย์ รางวัลที่ได้รับประกอบด้วย ใบประกาศเกียรติคุณ ให้สิทธิการเป็นสมาชิกของแพทยศาสตร์ศึกษานานาชาติแห่งยุโรป ซึ่งปกติต้องเสียค่าสมาชิกปีละ 100 ปอนด์ และยังได้รับวารสารด้านการการเรียนการสอนแพทย์เป็นเวลา 1 ปี
โดย: เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ [20 ก.ย. 52 23:42] ( IP A:125.26.112.109 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   น่าชื่นชมจริงงานนี้

ลองนึกดูอีกที เมืองไทยเรามีหมอเก่งๆอยู่ถมเถไป ต่างยุคต่างสมัยก็มีมาเรื่อยๆ

แต่ แต่นะแต่

กี่ปี กี่ชาติ กี่สมัย ก็ผลิต "คุณหมอ" มือใหม่ๆออกมาได้ไม่ทันกับประชากรคนไข้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยธรรมชาติที่คนไม่ปัญญาอ่อนจนเหลือขอคนไหนๆ ก็นึกก็เห็นได้เองอยู่แล้ว

แล้วกระทรวงสาธารณสุขในหลายสิบปีมานี้ ก็ได้งบประมาณของประเทศชาตินี้ไปใช้ แต่ละปีไม่เคยหล่นไปเกินอยู่อันดับ 3 - 4 เลย

ทำไม๊ ทำยังไงก็ผลิตหมอได้ไม่ทันซักกะที

แต่อีกด้านหนึ่ง ก็มีบรรดาหมอกรรมการแพทยสภาส้องสุมกันเปิดโรงพยาบาลเอกชน จนเจริญเติบโตกันเป็นล่ำเป็นสัน แต่ละคนมีทุนขึ้นมาในระดับร้อยล้านพันล้านจากแค่ชั่วอายุคนเดียว โดยที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีพื้นร่ำรวยมาจากครอบครับเดิมเลย

มันมีคำอธิบายไหมเนี่ย??? จำนวนหมอไม่เคยพอ แต่โรงพยาบาลเอกชนเติบโตแข่งกับโรงพยาบาลของรัฐ แล้วยังมีกระทรวงฯที่ใช้เงินภาษีของคน 50-60 ล้านคนไปส่งเสริมให้เมดิคอลฮับให้บรรดาเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนกับคนอีกแค่หยิบมือเดียว รวยขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป แล้วอ้างว่า "คนไทยได้หน้า"

แล้วที่สิบปีหลังมานี้ มีข่าวคนไข้ฟ้องหมอ มีข่าวแพทยสภาที่ในท้ายที่สุด ก็คือ สภาแพทยโจร ที่เอื้ออยู่กับศาลกับกระบวนการยุติธรรมกันอย่าง "เห็นจะแจ้ง" มีหลักฐานชัดเจน แสดงพฤติการณ์ "โกหกและฉ้อฉล" เป็นสันดานทางการปฏิบัติ

ขณะที่ มีคนไข้ที่ตายจากสาเหตุความผิดพลาดทางการแพทย์ซึ่งป้องกันได้ปีละนับหมื่นนับแสน ที่กลับต้องให้ฝ่ายหรือพวกคนไข้ที่รวมกลุ่มกันขึ้นจาก "ผลของการทำงานด้านมืดของอาชีพหมอส่วนนี้" เป็นผู้ออกมาประกาศ

ก็เลยสงสัยเพิ่มยิ่งขึ้นว่า ตกลง "หมอไทย" เก่งจริงๆโดยเฉลี่ย หรือเพราะว่า "เรามีแต่หมอที่นิสัยเป็นโจรแฝงตัวอยู่"

ก็เลยต้องขอปิดท้ายแย้งเจ้าของกระทู้ว่า

"คุณภาพต้องมาหลังความซื่อสัตย์และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ หรืออย่างน้อยต้องมีเท่าๆกัน"

มิฉะนั้น หมอที่เก่งแค่ไหน ก็ไม่ต่างจากจากโจรหรือปีศาจในเสื้อกาวน์

เท่านั้นเอง ซ.ต.พ.
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [21 ก.ย. 52 7:39] ( IP A:58.8.111.82 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   แถม ครับ แถม

ข้อความของ คุณเปลว สีเงิน ของไทยโพสท์ เมื่อ 20 พ.ค. 2552 นี้เอง เชื่อมโยงข้อความเต็ม ที่นี่เลย

https://www.thaipost.net/news/200509/4957

*************************************

อืมมมม...พูดถึง "ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล" ปลัดกระทรวงการคลังแล้ว อดนึกถึงอีกปลัดหนึ่งไม่ได้ คือ "ปลัดกระทรวงสาธารณสุข" นามว่า "ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์"

อนาคตของท่านจะมีจุดจบทางราชการ "ก่อนเกษียณ" เหมือนปลัดศุภรัตน์ หรือจะอยู่ไปจนมีจุดจบทางราชการ "หลังเกษียณ" เหมือนคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ยากบอกได้?

ก็ขึ้นอยู่กับมิติของเจ้ากระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน "นายวิทยา แก้วภราดัย" ว่า จะบริหารเรื่องราวที่เป็นคดีความทุจริตคอรัปชั่นในกระทรวง ด้วยมาตรฐานแบบไหน เพราะผมจำได้ว่า เมื่อต้นปี "สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน" ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีอาญากับ "นายปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์" ปลัดสาธารณสุข และคนอื่นๆ อีกหลายคน

ในข้อหา "จัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินโดยวิธีพิเศษ" จนเข้าข่าย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒!

โน่นแน่ะ เรื่องตั้งแต่ปี ๔๗-๔๘ เริ่มในยุคเจ้ากระทรวงนายหญิงส่งมา ทั้งล็อก ทั้งรื้อสเปก ทั้งประมูล ทั้งล้มประมูล นัวเนียกันถึง ๘-๙ ครั้ง จนครั้งสุดท้าย คงด้วยปาฏิหาริย์แห่งนายหญิงนั่นแหละ ข้าราชการประจำพร้อมคณะกรรมการจัดซื้อจึงทำให้เสร็จสมอารมณ์หมายด้วยคำว่า "จัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินด้วยวิธีพิเศษ"

ฉุกเฉินไปด้วยวงเงินตั้ง ๓๐๐-๔๐๐ ล้าน สำหรับรถพยาบาลฉุกเฉิน ๒๐๐ กว่าคัน ที่ สตง.ตรวจแล้วชี้มูลความผิดว่า

"มีความพยายามในการปรับปรุงคุณลักษณะเฉพาะเพื่อให้เอื้อต่อบริษัทที่เข้าประกวดราคาได้เพียงบริษัทเดียว ถือเป็นการไม่เปิดให้มีการแข่งขันอย่างป็นธรรม และการปรับลดคุณลักษณะเฉพาะ จนถึงลงมติให้มีการจัดซื้อนั้น มีการดำเนินการอย่างรีบร้อนและรวบรัด โดยใช้เวลาเพียงแค่ ๓ วันเท่านั้น"

ท่านปลัดปราชญ์นี่แหละ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง หรือพูดตรงๆ ก็คือ เป็นหัวหน้าทำงานทุกสิ่งทุกอย่างนำไปสู่การจัดซื้อพิเศษนี้ และขณะนี้ทาง สตง.ทำหนังสือแจ้งให้ดำเนินคดีอาญาปลัดปราชญ์กับคณะไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภา แต่ก็เห็นเงียบจ๋อย ไม่เห็นนายวิทยา หรือนายกฯ จะเดินตามมาตรฐานที่เคยปฏิบัติต่อข้าราชการที่ถูกชี้มูลความผิดอาญาร้ายแรงแต่อย่างใด?

ผมเห็นไล่ออกนายศุภรัตน์ ก็เลยนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จะต่างกันตรงที่คดีนายศุภรัตน์ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีแล้วแจ้งมติให้เจ้ากระทรวงทราบ และ อ.ก.พ.ลงมติให้ไล่ออกตามมติ ป.ป.ช. ส่วนรายของปลัดปราชญ์ เรื่องยังอยู่ในขั้นตอน ป.ป.ช. โดย สตง.ตรวจสอบ พบความผิดจึงแจ้งให้ตำรวจดำเนินคดีอาญาด้วย
ตามมาตรฐานระเบียบปฏิบัติ ในขั้นแรก เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น จะต้องย้ายปลัดฯ ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มายุ่งเหยิงพยาน-หลักฐาน เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วตามกำหนด ถ้าพบว่ามีมูลตามที่ สตง.แจ้ง ก็เข้าสู่กระบวนการกฎหมายขั้นตอนต่อไป แต่ถ้าพบว่าไม่มีมูล ก็ย้ายเขากลับมาเป็นปลัดเหมือนเดิม

แต่นี่...รัฐมนตรีสาธารณสุข "นายวิทยา" ไม่ทำอะไรให้ปรากฏว่าเป็นการเอื้อเฟื้อต่อกฎระเบียบบ้านเมืองซักอย่าง และทั้งไม่ทำให้ปรากฏด้วยว่า เอาจริงเอาจังต่อการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นในวงราชการ การทำเป็นไม่รู้-ไม่ชี้อย่างนี้ ระวัง...จะเป็นบรรทัดฐานเลวทางบริหารที่รัฐมนตรีประชาธิปัตย์สร้างไว้ให้เป็นตัวอย่าง

หรือจะคิดว่า อีกไม่กี่เดือนปลัดปราชญ์ก็เกษียณแล้ว ทำเป็น (แกล้ง) ลืมๆ แล้วก็เลือนหายไปเอง ผมจะบอกให้ นอกจาก "ของหลวง" จะตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้แล้ว คดีความก็เหมือนกัน ใช่ว่าเกษียณแล้ว เรื่องคดีจะเกษียณตามไปด้วย ดูอย่างคุณหญิงทิพาวดีเห็นมั้ยล่ะ?

เรื่องก็ค้างคา มาตั้งแต่สมัยที่เป็นเลขาฯ ก.พ.จนกระทั่งไปเป็นรัฐมนตรีใหญ่โต ออกจากรัฐมนตรีไปเที่ยวรอบโลกสบายใจเฉิบ แล้วเมื่อตอนต้นปีนี้ กรรมเพิ่งมาส่งผล ป.ป.ช.มีมติให้พิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบทางราชการ

จะถูกเรียกเงินเดือน บำเหน็จ-บำนาญคืนย้อนหลังก็ยังพอทำเนา แต่ที่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา มีคุก-ตะรางเป็นเดิมพันนี่ซี กินทิฟฟี่ทั้งแผงก็ไม่หายปวดหัว!

นี่...ปลัดปราชญ์ดูไว้เป็นมรณานุสติ นึกว่าจะหนีคดีความทางราชการพ้นหรือ ไม่ถูกวันนี้ เกษียณไปแล้ว นอนกระสับกระส่ายรอว่าเรื่องจะย้อนกลับมาหาตัววันไหน มันทรมานใจมิใช่เล่นนะ

****************************************

เอวัง ก็ด้วยประการละฉะนี้ !!!!!!!!!!!!
โดย: คนรู้ทัน ไม่รู้จริง [21 ก.ย. 52 8:19] ( IP A:58.8.111.82 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   หนูว่าก็ 1 ใน 100 นั่นแหล่ะ สำหรับหมอดีดี
ยินดีกับคุณหมอท่านนี้ด้วยค่ะ

ปล.ลองจัดงานหมอห่วย หมอชุ่ย หมอตอแหล๋เก่งที่สุดในโลกซิ
ไม่แน่อาจได้มาเหมือนกัน รางวัลนี้ ...

ที่แน่ ๆ รพ.ลำพูน น่าจะส่งไปสักคนสองคน อาจจะได้รางวัลนี้มาครอง
ง่าย ๆ หนูเชียร์อยู่ 555+
โดย: จีเอ็น [21 ก.ย. 52 10:26] ( IP A:118.172.37.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   จากหัวข้อแล้ววกมาหมอปราช ได้ไงน้อ คนตอบจะเปลี่ยนหัวข้อต้องการอะไร นายแพทย์จะโดนอะไร ถ้าเป็นผลจากการที่เค้าเคยทำ เราก็เห็นด้วย

เราเห็นด้วยกับหมอปราชก็แค่เรื่องเดียวคือ เรื่อที่เค้าได้ต่อต้านเครือข่ายนี่แหละ
โดย: ตามสบาย [21 ก.ย. 52 11:27] ( IP A:125.26.112.111 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   หมอปราชญ์ ต่อต้านเครือข่าย เพราะอะไร ?
ทำไมไม่ถามย้อนไป มันต้องมีที่มาและมีเหตุ มีผล ของมันเอง
เครือข่ายไปทำอะไรให้หมอ มีแต่เรื่องมาหาเครือข่ายที่ต่างโดนหมอกระทำทั้งนั้น หมอดีดีใครจะไปว่าอะไร
ก็ไม่เห็นจะแปลก หมอก็คน คนว่าก็คน มีค่าเท่ากันในการต่อสู้
ทำดี สักวันก็ได้ดีเอง แล้วหมอจะไปเดือดร้อนอะไรเมื่อคิดว่าตัวเองทำแต่ความดี คนเราดีเลวมีสิทธิ์ทำได้เท่ากัน เว้นแต่ว่าสำนึกในการกระทำของตัวเองหรือเปล่า ความเลวของตัวเองมองไม่ค่อยเห็นหรอก
ความชั่วของคนอื่นเห็นตัวเท่าช้าง เมืองไทยเสียอย่างเวลาคนดีดีทำงาน กลับถูกมองว่าเป็นพวกก่อกวน พวกบ้าระห่ำ ต้องพวกตามน้ำเก่ง ๆ พวกนี้แหล่ะ เจริญรุ่งเรืองกันนัก พวกดีดีไม่ค่อยได้เกิดหรอก เพราะส่วนมากอำนาจวาสนาไม่เท่าพวกเลว ๆ เกิดได้เกิดดี เกิดแต่ละทีเอาเปรียบกันทั้งนั้น นึกถึงใจเขามาใส่ใจเรา คนไม่เสียหายเขาจะเอาขามาเสี่ยงตารางทำไม ทำมาหากินแบบมีความสุขไปวันวันไม่ดีเหรอ จะมาตั้งเครือข่ายหาเรื่องหมอทำไม ถ้าคนมีสมองและน้ำใจคิดเรื่องตรงนี้ได้ เขาจะไม่ใช้คำถามว่า ทำไมเครือข่ายหาเรื่องหมอ !!!! (เครือข่ายก็อยากจะตอบว่ากรูไม่เคยคิดหาเรื่องใคร มันมีเรื่องมาให้กรูหาก่อนทุกที )


แล้วเราจะบ่นอะไร ทำไม ให้คนไม่มีน้ำใจฟังทำไม
ไปดีกั่ว !!!!!
โดย: จีเอ็น [21 ก.ย. 52 11:49] ( IP A:118.172.37.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ต่อต้านเพราะเครือข่ายเลวไง เราก็ไม่ได้ชอบหมอปราชญ์ แต่ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร
โดย: เกลียดคนเลวทุกชนิดครับ [21 ก.ย. 52 17:39] ( IP A:125.26.109.67 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   เครือข่ายฯ เลวยังไง บอกมาให้จะแจ้งซิ

เลวเพราะแย่งงานแพทยสภา+กองประกอบทำหรือ
เลวเพราะเปิดโปงความชั่วความเลวของหน่วยงานที่ไม่ทำงานหรือ
เลวเพราะอะไร ไม่เข้าจายยยยยยยยยยยยย
โดย: ไม่เข้าจายเลยยยยยยยยยยยยย [21 ก.ย. 52 20:47] ( IP A:115.87.129.168 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   เลวจนไม่รู้ว่าตัวเองเลวยังไง ไง
เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว
โดย: มันเห็นจะเข้าใจยาก [21 ก.ย. 52 22:34] ( IP A:125.26.109.67 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   อ้าว....ว่าตัวเองก็เป็นแฮะ ความเห็น 9 คงลืมไปว่าชี้ไปที่คนอื่นหนึ่งนิ้ว แต่ชี้เข้าหาตัวเองหลายนิ้ว
โดย: 555 [21 ก.ย. 52 23:12] ( IP A:58.9.187.208 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
    คนที่เลว ย่อมรู้ตัว แต่ยังพยายาม....ทำให้คนอื่นมองว่าตนเอง..ดี

คนดี ยอมรับผิด คิดแก้ไข น่าให้อภัย
แต่คนชั่ว ย่อมพยายาม หาร่ม หาหมวก หาพวก มาช่วยตน
ใครที่หลงผิดคิดไปช่วย ระวังสักวันไม่แคล้ว ต้องก้มหน้ารับการกระทำของตน


ใครทำอะไรไว้กับข้า ขอให้มันได้รับคืนมากกว่าหลายเท่าตัว
โดย: เคารพคนดี [23 ก.ย. 52 20:43] ( IP A:115.67.13.255 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   เก่งมากๆๆๆเลยครับ
โดย: molovebe@hotmail.com [11 ก.พ. 53 11:58] ( IP A:118.172.207.227 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน