ความคิดเห็นที่ 1 เครือข่ายฯ กำลังให้ผู้ป่วยติดต่อขอเวชระเบียนใหม่ เพราะทางรพ.ปฏิเสธการให้เวชระเบียนกับญาติผู้ตาย
ทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ควรจะให้ญาติเขาตรวจสอบได้ ว่าการทำงานของท่านผิดพลาดอย่างไร
ญาติคนไข้เขาไม่ได้ต้องการฟ้องร้องเป็นอันดับแรก เขาอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร จากนั้นแล้วคงเป็นการพูดคุย กันมากกว่า
การที่ท่านปฏิเสธไม่ให้เวชระเบียน แล้วไม่พูดคุย ยิ่งกระพือความโกรธให้ญาติเขา คิดดูสิเงินทองเขา ก็ไม่ค่อยมี ต้องนั่งรถถ่อสังขารมาขอความช่วยเหลือ จากเครือข่ายฯ ถึงกรุงเทพฯ ค่าเดินทางนั่นมันค่า อาหารของครอบครัวเขาหลายมื้อเชียวนะท่าน
ภรรยาผู้ตาย เป็นอสม. ด้วยทำคุณประโยชน์ให้กับ ชุมชนมานาน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น กลับไม่มี ใครให้ความช่วยเหลือ ใจดำกันมากไปหน่อยหรือเปล่า
ใจเขาใจเรา ทางกระทรวงเลิกทะเลาะกันเสียที หันมาให้ความสนใจเรื่องผู้ป่วยได้แล้ว | โดย: เครือข่ายฯ [15 ต.ค. 48 8:54] ( IP A:61.90.15.115 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 2 หนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรม . วันที่ 14 ตุลาคม 2548 .
เรื่อง สามีเสียชีวิตจากการเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลจังหวัด XXXXX . เรียน เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ .
ประมาณต้นเดือน กันยายน 2545 สามีเข้ารับการรักษาอาการ ไอและช็อกเป็นระยะๆ ที่โรงพยาบาลนี้ โดยแพทย์แจ้งว่าเป็นโรคหอบ หลังเข้ารับการรักษาเป็นเวลาหลายวันอาการไม่ดีขึ้น ข้าพเจ้าจึงขอร้องทาง รพ.xxxxx ขอให้ส่งไปรักษายังรพ.สุราษฎร์ธานีหลายครั้ง แต่ทางรพ.ปฏิเสธการร้องขอตลอดมา ข้าพเจ้าจึงพาสามีกลับบ้าน เพื่อพาสามีไปรพ.สุราษฎร์ฯด้วยตนเอง แต่เมื่อไปถึง รพ.สุราษฎร์ฯได้รับแจ้งว่าไม่มีเตียงว่างจึงได้แนะนำให้นำสามีกลับมาที่โรงพยาบาลxxxxx ข้าพเจ้าจึงนำสามีกลับมาที่รพ.เดิมอีกครั้งตามคำแนะนำดังกล่าว เพื่อให้รพ. Xxxxx ทำหนังสือส่งตัวสามีไปสุราษฎร์ฯอีกครั้งเพื่อความสะดวกของรพ. สุราษฎร์ธานี แต่ทางรพ.xxxxx ก็ไม่ยอมดำเนินการส่งตัว สามีจึงต้องอยู่โรงพยาบาลxxxxxอีกสองวัน อาการสามีก็ทรุดลงไปอีก มีอาการช็อกสองครั้ง และได้รับการปฏิบัติดูแลจากรพ.น้อยมาก จึงเห็นว่าหากอยู่ในสภาพนี้ต่อไปสามีคงไม่รอดแน่ ข้าพเจ้าจึงได้ไปขอร้องกราบไหว้นายแพทย์นรเทพ(ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นแพทย์เวรประจำวันของโรงพยาบาลจังหวัด xxxxx จนกระทั่งนายแพทย์นรเทพได้ทำเรื่องส่งตัวสามีไปยังรพ.สุราษฎร์ธานีเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2546 ผลการรักษาที่รพ.สุราษฎร์ธานีเป็นเวลาหนึ่งคืน อาการของสามีดีขึ้นเป็นลำดับ โดยแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น มาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ( ระหว่างนั้นได้ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ) .
สองปีต่อมา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2548 สามีมีอาการหอบและไอค่อนข้างมาก ข้าพเจ้าจึงได้นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล xxxxx อีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่เข้ารับการรักษาประมาณสองวัน ปรากฏว่าสามีอาการทรุดหนัก จึงได้ขอร้องให้โรงพยาบาลxxxxx ช่วยดำเนินการส่งตัวสามีไปรับการรักษาที่ รพ.สุราษฏร์ธานี หรือโรงพยาบาลศิริราช (เนื่องจากที่รพ.ศิริราชมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและรู้จักกับนายจ้างของสามีจึงได้แนะนำมา) โดยได้ขอร้องตั้งแต่วันที่ 2-5 พค. 2548 แต่ทางรพ.xxxxx โดยนายแพทย์ xxx ccccc (แพทย์เจ้าของไข้) ได้ปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวตลอดมา (เท่าที่ทราบจากบุคลากรของ รพ. แพทย์ผู้นี้ เพิ่งจบมาปีแรก กล่าวกันว่ามาทำงานเพื่อปลดทุน และทราบจากผู้เข้ารับการรักษารายอื่นๆว่าได้รับการปฏิบัติในลักษณะเช่นเดียวกัน) . มีพยาบาลที่ทราบว่าคนไข้เคยไปรักษาและหายจากอาการป่วยที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีมาก่อน ได้บอกกับหมอ แต่แพทย์เจ้าของไข้ คือนายแพทย์ xxx ccccc ไม่สนใจ กลับดุด่าว่าพยาบาลอย่างรุนแรงจนพยาบาลไม่กล้าพูดออกความเห็นเรื่องนี้อีกต่อไป . ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม 2548 อาการของสามีทรุดหนักลงเป็นลำดับ โดยสามีบอกให้ทราบว่าใจสั่นมากต้องเสียชีวิตแน่ ข้าพเจ้าจึงได้แจ้งให้พยาบาลทราบ พยาบาลได้เอายามาฉีดให้ ภายหลังสามีได้รับยามีอาการแสบมาก ทุรนทุราย กระหายน้ำตลอดเวลาจนกระทั่งหมดสติในที่สุด ทางพยาบาลแจ้งว่าเป็นยาเพื่อให้คนไข้พักผ่อน ขณะเดียวกันก็ได้รับทราบว่าทางโรงพยาบาล xxxxx ปฏิเสธการส่งตัวสามีไปรับการรักษายังที่อื่นใด วันรุ่งขึ้น 7 พฤษภาคม 2548 เวลา 11.30 น. สามีข้าพเจ้าจึงได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลแห่งนี้ . ภายหลังจากการเสียชีวิตของสามี ทำให้ข้าพเจ้าเกิดคำถามหลายๆคำถามในใจ เช่นทำไมไม่ส่งตัวสามีไปที่อื่นตามที่เราร้องขอ ทำไมสามีอาการทรุดหนักจึงไม่ส่งไปห้องฉุกเฉิน ตลอดจนการปฏิบัติการต่างๆต่อข้าพเจ้ามีลักษณะซ่อนเร้นไม่ชอบมาพากลมากมายซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว จะได้เรียนให้ทราบต่อไป ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สามีต้องเสียชีวิตทั้งๆที่น่าจะรักษาได้ .
ข้าพเจ้าได้เข้าพบ ผู้อำนวยการ รพ.xxxxx และได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังทั้งหมด ผู้อำนวยการฯ กลับแจ้งให้ไปพบรองผู้อำนวยการ ด้วยเหตุผลว่าตัวเองต้องไปประชุมไม่มีเวลา และเมื่อไปพบรองผู้อำนวยการ ก็ได้รับแจ้งให้ไปพบหัวหน้าพยาบาลแทนโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ทราบเรื่อง เมื่อได้พบหัวหน้าพยาบาลและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หัวหน้าพยาบาลถามว่าต้องการอะไร ข้าพเจ้าจึงขอให้ทางหัวหน้าพยาบาลช่วยประสานให้ได้มีโอกาสพบนายแพทย์ผู้รักษาสามีพร้อมกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพื่อขอความเป็นธรรม แต่ได้รับการปฏิเสธ และหัวหน้าพยาบาลบอกว่า หากอยาได้ความเป็นธรรมให้ไปฟ้องร้องโรงพยาบาลเอาเอง . สามีอาชีพเป็นไต๋เรือ เป็นหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวเมื่อขาดสามีไปสภาพครอบครัวก็แร้นแค้น ลูกก็กำลังเรียนอยู่ในชั้นอุดมศึกษา ตนเองก็มีโรคประจำตัวรุมเร้า จึงอยากขอความเป็นธรรมว่าหากสามีเสียชีวิตเพราะเกิดจากความบกพร่องต่างๆของแพทย์ที่ทำการรักษา ทางโรงพยาบาลxxxxx ก็น่าแสดงออกถึงความรับผิดชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆเลย ข้าพเจ้าจึงต้องหาช่องทางเอาเองทุกๆทาง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และให้ความจริงปรากฏจนถึงที่สุด . ทั้งนี้มิได้เรียกร้อง ต่อสู้และขอความเป็นธรรมเฉพาะเพื่อตนเองเท่านั้น แต่เป็นการเรียกร้อง ต่อสู้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อสังคมและต่อผู้เสียหายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลทั้งปวง . ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
นางวราภรณ์ รัตนแก้ว โทรศัพท์ 04-8377512 . . | โดย: วราภรณ์ [15 ต.ค. 48 14:48] ( IP A:61.91.163.155 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 3 โรงบาลแถวๆระนองมั้ง ไม่รู้นะเดาเอา ข่าวว่าชาวบ้านแถวนั้นโดนมาถ้วนหน้า | โดย: . [15 ต.ค. 48 21:46] ( IP A:58.9.175.35 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 4 ทางโรงพยาบาล ได้งบประมาณมาจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งก็คือเงินภาษีของพี่น้องประชาชนทุกคนนะครับ และไม่ได้มีงบประมาณเอาไว้แจกญาติคนตาย เพราะทั้งประเทศมีคนตายทุกวัน วันหนึ่งอาจหลายร้อยคน ถ้าแจกคนละ สิบล้าน วันหนึ่งก็คงหลายพันล้าน ปีหนึ่งอาจถึงหลายแสนล้าน ถ้าอยากได้เงินใช้ น่าจะทำประกันชีวติไว้ดีกว่านะครับ รัฐบาลจ่ายไม่ไหวหรอก | โดย: ผ่านมา [15 ต.ค. 48 22:23] ( IP A:203.188.26.249 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 5 อยากได้เวชระเบียน ก็รวมตัวกันออกเป็นกฏหมายเลยสิครับ ทำได้นะครับ แค่ 5 หมื่นชื่อ ก็ออกได้แล้ว หมอจะได้ไม่ต้องลำบากใจ กับคำสั่งของกระทรวงที่ห้ามให้ญาติคนไข้ไปด้วย ได้แค่สรุปให้เท่านั้น ซึ่งเครือข่ายและชาวบ้านก็จะหาว่าแพทย์สรุปเข้าข้างตัวเองอีก ออกเป็นกฏหมายเลยดีกว่า สะดวกใจกันทุกฝ่าย คุณเห็นด้วยไหม | โดย: ผ่านมา [15 ต.ค. 48 22:25] ( IP A:203.188.26.249 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 6 ที่ รพ.ผม มีคนไข้เสียชีวิตจากโรคหอบหืดทุกวัน เลย ไม่เห็นมีใครเอาไปร้องเรียนบ้าง อยากเป็นข่าวจัง | โดย: ผ่านมา [15 ต.ค. 48 22:26] ( IP A:203.188.26.249 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 7 Thanks for replies 5-6-7 | โดย: Patient no 222048 [16 ต.ค. 48 9:16] ( IP A:210.86.181.20 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 8 กฎหมายมีอยู่แล้วครับ ถ้าไม่ให้ก็ปิดสถานพยาบาลและถอนใบอนุญาตหมอได้ ไม่ต้องเป็นหมออีก (ในกรณีทำบ่อยๆ) ส่วน พรบ ข้อมูลข่าวสาร ก็บังคับว่าต้องให้นะครับ ขนาดศิริราชไปแจ้งความว่า เวชระเบียนหาย คิดดูก็แล้วกัน ปัญหาไม่ใช่ไม่มีกฎหมาย แต่เป็นปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย ถ้าจับคณบดีติดคุกสัก 3-6 เดือน ต่อไปก็ให้หมดนั่นแหละ ว่าแต่ว่ากล้าบังคับใช้กฎหมายหรือไม่เท่านั้นเอง กฎหมายดียังไง คนใช้มันห่วยก็เหมือนเศษกระดาษ ไม่ต้อง 5 หมื่นคนหรอก ไปขุดเปาบุ้นจิ้นมานั่งที่ศาลไคฟงรับรองได้หัวขาดเป็นแถวๆ | โดย: jjxyz [16 ต.ค. 48 13:04] ( IP A:61.90.97.172 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าต่อไปคงเหมือนกับวงการครูที่มีช่วงหนึ่งครูเน้นทำงานเอกสารเพื่อเลื่อนขั้นจนสอนนักเรียนน้อยลง.....หมออาจให้เวลากับเวชระเบียนมากขึ้นเพื่อชนะคดีแต่ผลการรักษาดีขึ้นหรือเปล่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเวชระเบียนสักเท่าไร | โดย: หมอแนวใหม่ [16 ต.ค. 48 13:40] ( IP A:202.149.122.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 10 หมอแนวใหม่ หมอต้องกลับไปเรียนใหม่นะครับ การจดและจัดทำเวชระเบียนให้ดีเป็นขั้นแรกของการเป็นหมอที่ดี เพราะเวชระเบียนเป็นตำราและเอกสารสำหรับการทำวิจัยและการเก็บข้อมูลไว้ศึกษา ทุกวันนี้เราไม่ค่อยใส่ใจจึงทำให้เมืองไทยหาข้อมูลยาก ทำวิจัยอะไรก็ไม่ได้ ความก้าวหน้าทางวิชาการก็ไม่เกิด จึงต้องตามก้นฝรั่งไปเรื่อยๆ คนไข้หลายๆรายที่ตายไปไม่ได้เป็นเพราะหมอไม่จัดทำเวชระเบียน แต่เป็นเพราะไม่เอาใจใส่คนไข้ และคิดว่าเป็นน้อยๆ เป็นหมอต้องระมัดระวังเสมอ หมั่นอ่านตำราฉุกเฉิน และอ่านความผิดพลาดของคนอื่นไว้สอนตัวเอง จะได้ไม่ผิดพลาดมานั่งเสียใจอีก เวชระเบียนบันทึกไว้ดีจึงลงโทษหมอได้ แต่ถ้าไม่บันทึกเลย คนไข้อ้างอะไร หมอก็ไม่มีข้อต่อสู้ ก็จะเป็นแบบศาลว่า คืออ้างลอยๆ ไม่รับฟัง แต่คนไข้เขาอ้างพร้อมความเสียหายที่ชัดเจนหรือความตายซึ่งแกล้งทำไม่ได้ หมอจะเหนื่อย สำรวจตัวเองและวงการแพทย์ใหม่ดีกว่าไหม ว่าทุกวันนี้ทำงานดีแล้วหรือยัง หรือเห็นคนไข้เป็นชาวบ้านธรรมดา จะทำอะไรก็ได้มีปัญหาจะฟ้องหมอหรือ มีความรู้ไหมละ เดี๋ยวนี้เขารวมกลุ่ม รวมใจต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม ถ้าวงการแพทย์ไม่ปรับตัวสงสัยจะลำบาก สำรวจตัวเอง ทำงานให้ดีที่สุด ผิดพลาดยอมรับ ขอโทษและใช้เขาบ้าง(หลวงจ่ายอยู่แล้วหมอไม่เกี่ยว) สังคมก็จะไม่เดือดร้อน | โดย: jjxyz [16 ต.ค. 48 14:25] ( IP A:61.90.97.168 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 11 ขึ้นต้นประโยคแรกก็ให้ผมไปเรียนหมอใหม่เลยหรือครับ ผมแค่อภิปรายถึงความเป็นไปได้ของวงการแพทย์ที่จะเกิดขึ้น...อะไรที่สุดโต่งมากไปมักไม่ดี...เดิมคนไข้ถูกละเมิดมากไป,ไม่ดี....ต่อไปแพทย์รักษาแบบป้องกันตัวมากไป,คงไม่ดีเช่นกัน....ทางสายกลางดีที่สุดครับ ผมจะดีใจมากถ้าเครือข่ายจะยึดทางสายกลางเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมไทย เช่นพาดหัวกระทู้นี้ถ้าใช้คำว่า"กรณีล่าสุด"จะดีกว่า"เหยื่อรายล่าสุด" การเรียกร้องค่าชดเชยเป็นสิ่งที่ทำได้ครับซึ่งแพทย์ที่ดูแลอาจตั้งใจรักษาแบบมั่นใจตนเองมากเกินไป(หมอจบใหม่เป็นแบบนี้กันมาก)..แพทย์ไม่ถูกไล่เบี้ยไม่ใช่ประเด็นที่เครือข่ายหรือวงการแพทย์ควรยอมให้มีการฟ้องร้องมากขึ้นเพราะการฟ้องร้องเสียเวลามากทั้งสองฝ่าย...กรณีไหนที่คิดว่าเกิดจากความบกพร่องในรบบบริการก็ฟ้องเป็นกรณีไปจะดีกว่า...ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองโดยมองผลกระทบต่อคนส่วนต่างๆในสังคม(แบบเอื้ออาทรกัน)เป็นสิ่งดีครับ | โดย: หมอแนวใหม่ [16 ต.ค. 48 15:06] ( IP A:202.149.122.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 12 ที่จริงผมไม่อยากให้ตัดกรณีไล่เบี้ยออกไปด้วยซ้ำเพราะอาจเกิดเหมือนในหนังเรื่องหนึ่งที่หมอร่วมมือกับคนไข้เคลมประกัน(หมอทำประกันฟ้องร้องไว้แล้วนัดเพื่อนมาผ่าตัดแบบให้มีerrorแล้วคนไข้ฟ้องร้องชนะได้เงินจากทุนประกันที่หมอทำไว้) ไล่เบี้ยเถอะครับถ้าหมอผิดเพราะถ้าไม่ไล่เบี้ยเครือข่ายก็บรรลุวัตถุประสงค์เพียงข้อเดียวคือได้เงินชดเชยแต่ไม่ได้ทำให้แพทย์ที่ไม่ดีต้องปรับตัว | โดย: หมอแนวใหม่ใส่ใจอนาคตไทย [16 ต.ค. 48 15:15] ( IP A:202.149.122.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 13 ขยายความนิดหนึ่งในคห.ที่13 ในหนังเขาร่วมมือกันแต่ในแบบของไทยคงไม่ใช่เรื่องร่วมมืออาจเป็นว่าหมอไม่ชอบรัฐบาลหรือไม่ชอบระบบ30บาทก็แกล้งให้มีerrorมากๆครับ | โดย: หมอแนวใหม่ใส่ใจอนาคตไทย [16 ต.ค. 48 15:23] ( IP A:202.149.122.18 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 14 ผมจะดีใจมากถ้าเครือข่ายจะยึดทางสายกลางเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคมไทย เช่นพาดหัวกระทู้นี้ถ้าใช้คำว่า"กรณีล่าสุด"จะดีกว่า"เหยื่อรายล่าสุด"
ขอบคุณครับที่ช่วยท้วงติงมา เห็นด้วยครับจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น
. | โดย: .เจ้าบ้าน (เจ้าบ้าน ) [16 ต.ค. 48 18:55] ( IP A:58.9.175.247 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 15 กรณีล่าสุด กับเหยื่อรายล่าสุด
อันหลังตรงกับความรู้สึกมากที่สุด ไม่อยากหลอกตัวเอง และหลอกสังคม เพราะพวกเราคือเหยื่อ | โดย: เครือข่ายฯ [25 ต.ค. 48 11:28] ( IP A:61.91.110.253 X: ) |  |
ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับกระทู้ | โดย: An iatrogenic victim [25 ต.ค. 48 22:46] ( IP A:61.91.163.64 X: ) |  |
|