เด็กตายอีกแล้ว ยังไม่รู้สาเหตุ
   ข่าวเดลินิวส์ หน้า 1
ศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2548

ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส หนูน้อยวัยเดือนเศษ ดับปริศนา

พ่อเเม่ใจสลาย ตื่นเช้ามาพบลูกน้อยวัย 1 เดือน เป็นศพตายปริศนาคาเบาะ หลังพาไปฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสอักเสบที่คลินิกย่านมีนบุรี เผยหมอบอก ยาเเรงเด็กอาจเจ็บเล็กน้อย ให้ยาน้ำกลับมากินอักเสบ ถึงบ้านเจ้าหนูร้องงอเเงทั้งคืน เเถมท้องบวมเป่ง ก่อนจบชีวิตไปเเบบไม่น่าเชื่อ ลั่นหากตรวจชันสูตรพบเเพทย์บกพร่องฟ้องร้องเล่นงานเเน่

หนูน้อยวัย 1 เดือนพ่อเเม่พาไปฉีดวัคซีนที่คลินิกเเต่มาเสียชีวิตปริศนา เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.ขณะที่ ร.ต.อ.โชคชัย สุทธิฤทธิ์ ร้อยเวร สน.นิมิตรใหม่ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ มีนายภาสกร วิเชียรเนตร อายุ 47 ปี พนักงานบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เเละนางกัญญาวีร์ กุตเสนา อายุ 28 ปี สองผัวเมีย อยู่บ้านเลขที่ 40 /277 หมู่บ้านเคซีรามอินทรา 8 ถนนไทยรามัญ เเขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา อุ้มร่างไร้วิญญาณของ ด.ช.ภูชิตติ หรือน้องบอส วิเชียรเนตร ลูกชายวัย 1 เดือน เข้าเเจ้งความ กรณีลูกตายอย่างปริศนาหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสอักเสบที่คลินิก

นายภาสกร กล่าวด้วยสีหน้าสีเศร้าสร้อยน้ำตาอาบหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาได้พาลูกชายไปรับการฉีดวัคซีนที่คลิกเเห่งหนึ่งย่านมีนบุรี ตามที่เเพทย์นัดไว้ โดยเเพทย์คลินิกดังกล่าวบอกก่อนจะฉีดยาให้เด็กว่า ยาที่ฉีดเป็นยาที่มีฤทธิ์เเรง เด็กอาจปวดเล็กน้อย โดยได้ให้ยาน้ำเเก้ปวดจ่ายมาให้กินบรรเทาอาการปวดด้วย ทุกอย่างก็ดูเหมือนปกติ หลังเสร็จตนกับเมียก็พาลูกกลับบ้าน ซึ่งสังเกตเห็นว่าลูกชายงอเเงผิดปกติ เเต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากคิดว่าเด็กอาจเจ็บเเผลที่ฉีดยาธรรมดาเท่านั้น หลังให้ยาเเก่ลูกก็กล่อมจนหลับ มาสะดุ้งตื่นอีกครั้งตอนเช้ามืด พบว่าลูกตื่นมาร้องงอเเงมาก อีกทั้งยังมีอาการท้องบวมเป่ง ตนก็เลยให้ยาเเก้ปวดกับลูกอีกครั้ง จนเด็กหลับไป
พ่อผู้สูญเสีย กล่าวต่ออีกว่า กระทั่งสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังตนตื่นมาได้สักพัก ขณะเดินไปดูลูกก็ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อพบว่าเด็กอยู่ในสภาพนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ในเบาะเนื้อตัวเขียวซีด จึงรีบเข้าไปจับดูพบว่าลูกเสียชีวิตไปเสียเเล้ว หลังจากนั้นได้โทรไปหาหมอที่รักษา เจ้าตัวเองก็ตกใจอย่างมากเช่นเดียวกัน พร้อมกับเเนะนำให้รีบไปเเจ้งความ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้เเจ้งความดำเนินคดีกับใครทั้งนั้น ต้องรอดูว่าสาเหตุการตายที่เเท้จริงก่อน หากเป็นเพราะเเพทย์บกพร่องก็จะดำเนินการฟ้องร้องทันที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพหนูน้อยผู้น่าสงสารไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชี วิตอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต คาดว่าอีก 10-15 วัน ถึงจะทราบผล ทั้งนี้เเพทย์เจ้าของคลินิกได้ออกมาพบกับพ่อเเม่เด็กที่เสียชีวิต พร้อมยืนยันจะให้การช่วยเหลืออย่างดีหากเด็กเสียชีวิตเพราะตนเอง.



ส่งโดย: หายไปนานโผล่มาอีกแล้ว 61.91.160.*






« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:40:44 »

hebpatitis B vaccine เป็น vaccine พื้นฐานที่ฉีดให้เด็กทุกคนในเมืองไทยอยู่แล้วตอน 0 1 และ 6 เดือนตามลำดับ ถ้าไม่มีข้อห้ามชัดเจน

แจ้งให้ทราบครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ เวลา 12:41:18 by เป็นหมอ กลุ้มเจง ๆ »

--------------------------------------------------------------------------------

** Blended my life with NaTurE **
ส่งโดย: เป็นหมอ กลุ้มเจง ๆ
สถานะ: Executive Member
จำนวนความเห็น: 796

203.113.80.*






« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:42:43 »

ไม่น่าจะเกี่ยวกับ vaccine



--------------------------------------------------------------------------------
piggy111
ส่งโดย: piggy111
สถานะ: Full Member
จำนวนความเห็น: 107

203.156.133.*






« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:56:55 »

ผมว่าคดีนี้โอเคนะ พ่อ-แม่มีการศึกษาดี ซึ่งเขายอมรับผลผ่าพิสูจน์ และแพทย์ของเราในคดีนี้ก็ไม่ได้หายเงียบเหมือนบางคดี ดูแล้วถ้าพิสูจน์สาเหตุการตายได้ก็จะได้เป็นตัวอย่างของสังคมแต่พวกสื่อจะลง ข่าวหรือไม่นี่ซิ เพราะถ้าระบุสาเหตุได้เรื่องก็คงเงียบ ประมาณว่าข่าวขายไม่ได้ จากนั้นไม่รู้ว่าพ่อแม่ที่ฟังข่าวนี้จะพากันกลัวไม่นำลูกไปรับวัคซีนหรือเปล ่า



--------------------------------------------------------------------------------
อย่าพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว อย่าพูดดีเข้าตัว ชั่วให้คนอื่น
ส่งโดย: mr.love
สถานะ: Junior Member
จำนวนความเห็น: 64

203.156.70.*






« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: วันนี้ เวลา 13:04:03 »

อืม ใช่ๆเห็นด้วยกะ ความเห็นที่สาม แต่สงสัยทำไม ท้องบวม เหอๆ
อืม ใช่กลัวพ่อแม่ ไม่พาเด็กมาฉีดวัคซีน จะยิ่งแย่กว่าอีกนะ



ส่งโดย: ฟางหุหุ 203.156.41.*






« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: วันนี้ เวลา 13:08:39 »

งง มาก
สงสารแม่+พ่อเด็กเนอะ



ส่งโดย: NeKo...jung
สถานะ: Newbie
จำนวนความเห็น: 16

210.86.142.193 fwd for 10.5.104.*






« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:51:46 »





ส่งโดย: ssh
สถานะ: Senior Member
จำนวนความเห็น: 487

203.148.193.178 fwd for 192.168.40.*






« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:55:13 »

ใดๆ ในโลกล้วยอนิจจัง

ไม่ใช่เราวันนี้อาจเป็นเราวันหน้า

สงสารพ่อแม่เด็ก สงสารแพทย์ท่านนั้น และเสียวแว๊บกับตัวเอง

ดูพ่อกับแม่เด็กก็ยังไม่ได้ปักใจว่าจากสาเหตุใด แต่ดูข่าวทุกสำนักพยายามบอกว่าเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจากแพทย์

เมื่อเที่ยงดูข่าวเห็น รมต.พินิจ จารุฯ สั่งปิดคลินิคไว้ก่อนก็คงจะลดกระแสสังคม แต่คงสร้างความกดดันและเครียดให้หมอท่านนั้นเป็นอย่างมาก

เด็กรายนี้ถ้าไม่ไปหาหมอท่านนั้นอาจเป็นคราวของข้าพเจ้าเองเพราะอยู่ละแวกเด ียวกัน

รายนี้น่าสนใจมากถ้าผลการตรวจทางนิติเวชออกมาว่าเกิดจากสาเหตุใด คงต้องจัดแถลงข่าวให้ชัดเจนไม่เช่นนั้นคนก็จะจำได้แต่ข้อมูลที่บอกว่าเด็กฉี ดวัคซีนแล้วตาย แพทย์ก็โดนฟรี ผู้ปกครองอาจหวาดระแวงจนไม่กล้าพาลูกฉีดวัคซีน



ส่งโดย: ครั้งต่อไปจะเป็นใคร 203.209.121.*
โดย: เครือข่ายฯ [2 ธ.ค. 48 15:28] ( IP A:61.91.160.104 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   “พินิจ” สั่งปิดคลินิกที่ฉีดวัคซีนเด็กเสียชีวิตชั่วคราวแล้ว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2548 11:41 น.


“พินิจ” สั่งให้ปิดคลินิกที่ฉีดวัคซีนเด็กเสียชีวิตชั่วคราว พร้อมให้ไปตรวจและเก็บวัคซีนที่คลินิกทั้งหมด ใช้เวลาตรวจสอบ 2 - 3 สัปดาห์ หากพบบกพร่องจะปิดถาวร แนะทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำพ่อแม่ต้องบอกข้อมูลกับแพทย์ด้วยหากลูกมีปัญ หาเพื่อให้รู้ประวัติ

นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดูแลคุณภาพสถานพยาบาล โดยกรณีที่พ่อแม่เด็กร้องว่า ลูกเสียชีวิตภายหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนในคลินิกย่านมีนบุรีนั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปที่คลินิกและเก็บวัคซีนทั้งหมด และในชั้นนี้ได้สั่งปิดคลินิกนี้ชั่วคราว คือถอนใบอนุญาตก่อน ถ้าสอบสวนแล้วไม่มีความบกพร่องจากตัวแพทย์ก็จะอนุญาตให้เปิดต่อ แต่ถ้ามีความบกพร่องก็ต้องปิดตลอดไป เพื่อให้แพทย์ที่คลินิกหรือสถานพยาบาลเอกชนตระหนักถึงวิธีการที่จะให้ยาหรือ การรักษาโดยเฉพาะเด็กต้องดูว่าเด็กมีความพรัอมหรือมีปัญหาอื่นใดที่สามารถที ่จะให้วัคซีนนี้ได้หรือไม่

ทั้งนี้ นายพินิจ ระบุว่า จะต้องตรวจสอบว่าวัคซีนชุดนี้มีปัญหาหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนหรือพ่อแม่เข้าใจ และพยายามป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก ในส่วนของพ่อแม่เด็กจะต้องรายงานกับแพทย์ด้วยว่า เด็กมีอาการหรือมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะบางทีไปฉีดวัคซีนเกิดแพ้ หรือเกิดมีโรคอื่นแทรกซ้อนวัคซีนอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นมา จึงต้องมีความร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าแพทย์รู้ข้อมูล รู้ประวัติของเด็ก เด็กเป็นอะไรมากขึ้นเขาก็จะช่วยในการวินิจฉัย หรือในการให้ยา ให้วัคซีนดีขึ้น

“ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องดูว่า มาจากแพทย์ที่เป็นผู้ให้วัคซีน หรือว่ามาจากตัวของเด็กที่อาจจะมีอะไรในตัวเด็กที่พอให้วัคซีนแล้วเกิดปัญหา ขึ้นมา ต้องขอเวลาให้แพทยสภาสอบสวนดู ในชั้นนี้เราก็จะปิดคลินิกนี้ไปก่อน” นายพินิจกล่าว และว่า จะใช้เวลาตรวจสอบเรื่องนี้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์







ส่งโดย: นายติงต๊อง ณ บ้านป่าเดื่อ 61.90.98.*






« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:41:46 »

อย่าให้เจอไอ้พินิจ จะชกให้หน้าแหก
ถ้าไม่ผิดฟ้องกลับมันเลย ไอ้พินิจ



ส่งโดย: เลว 210.86.142.193 fwd for 10.5.104.*






« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:48:00 »

สังคมเมืองไทยกำลังจะบอกว่า
ถ้าหมอถูกร้องให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผิด
จนกว่าพิสูจน์ได้ว่าถูก ถึงจะปล่อย

แต่ถ้านักการเมืองหรือประชาชนทั่วไปถูกร้องให้คิดว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน
ต้องมีหลักฐาน พยานชัดๆ ถึงค่อยตัดสินว่าผิดแล้วค่อยดำเนินการ



ส่งโดย: ถ้าไม่ผิด ฟ้องกลับเลย 203.156.48.*






« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:50:37 »





ส่งโดย: ssh
สถานะ: Senior Member
จำนวนความเห็น: 487

203.148.193.178 fwd for 192.168.40.*






« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: วันนี้ เวลา 15:12:37 »

พวกเราช่วยกันมาโพสต์ด่ามันเร็ว
ไอ้เปรตนี่ไม่รู้เก่งมาจากไหน

“พินิจ” สั่งให้ปิดคลินิกที่ฉีดวัคซีนเด็กเสียชีวิตชั่วคราว พร้อมให้ไปตรวจและเก็บวัคซีนที่คลินิกทั้งหมด ใช้เวลาตรวจสอบ 2 - 3 สัปดาห์ หากพบบกพร่องจะปิดถาวร แนะทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำพ่อแม่ต้องบอกข้อมูลกับแพทย์ด้วยหากลูกมีปัญ หาเพื่อให้รู้ประวัติ

มึงใช้คำว่าแนะ ภาษาไอ้พวก นสพ.แม่งก็โคตร

พวกหมอโดนข่มวันค่ำ aggressive ก็กลัวเค้าด่า

หมอ ก็คนนะ สันดานดิบก็ยังมี



ส่งโดย: kaka 58.147.13.*
โดย: เครือข่ายฯ [2 ธ.ค. 48 15:29] ( IP A:61.91.160.104 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   คดีนี้ผมว่าไม่น่าจะต้องปิดคลินิกหมอก่อนเลย ให้เขาทำคลินิกต่อก็ได้ เพราะไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องถูกผิดก็น่าจะสอบสวนหาสาเหตุได้ไม่ยาก
ไม่เห็นด้วยเรื่องนี้ ถ้าอย่างนี้ก็ปิดโรงพยาบาลหลวงได้ทุกวัน
โดย: jjxyz [2 ธ.ค. 48 17:18] ( IP A:61.90.99.202 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ก็งง ๆ อยู่ว่าคุณพินิจเขาคิดอย่างไรกับเรื่องนี้

ผู้เสียหายเขายังไม่ได้ขอความช่วยเหลือเข้ามา
เราเองก็ยังไม่เข้าไปยุ่ง ให้ทางกระทรวงเขาจัดการ
ไปตามขั้นตอนเสียก่อน ก็ได้แต่หวังว่าจะมีจุดลงเอย
ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดย: เครือข่ายฯ [2 ธ.ค. 48 18:39] ( IP A:61.91.178.42 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ไม่นึกเลยว่า จิ้งจอกจะรู้จักเห็นใจกระต่าย น่าขำ
โดย: dude [3 ธ.ค. 48] ( IP A:203.156.50.25 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   วันนี้ข่าวบอกว่า นิติเวศบอกว่าสาเหตุการตายของเด็ก เกิดจากระบบหัวใจล้มเหลว (ตายไม่หายใจ) อย่าอื่นปกติหมด แต่จะลองตัดชิ้นเนื้อมาตรวจดูใหม่อยู่ แต่ก็ฟังดูแพทย์ท่านนี้ที่เป็นผู้ฉีดยาเขาก็มีความรับผิดชอบดีอยู่น่ะ เพราะว่าตอนที่เกิดเหตุพ่องของเด็กได้โทรไปหาแพทย์ผู้ฉีดยาก่อน แพทย์ก็แนะนำว่าให้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนค่ะ แต่มีความรู้สึกว่ากระบวนการพิสูจน์หาสาเหตุการตาย มันไม่ค่อยโปร่ใสเท่าไรน่ะ เพราะตอนที่เด็กมาตรวจที่คลีนิคและหมอก็ได้จ่ายยาไปให้ทานด้วย และผู้ปกครองเด็กก็บอกว่าให้เด็กทานยาที่แพทย์จ่ายให้แล้วพอตอนเช้าเด็กตาย ตรงส่วนนี้ไม่มีใครพูดถึงเลย และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เขากำลังให้แพทยสภาตรวจสอบอยู่ ก็กำลังหวังว่าแพทย์ก็คงจะได้ความยุติธรรม แต่ผู้ป่วยก็คงจะไดรับคำตอบว่าไม่มีมูลอีกตามเคย นี่แหละแพทยสภาไทย
โดย: หมอภร กวนโลก [3 ธ.ค. 48 12:26] ( IP A:58.10.64.84 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ไม่นึกเลยว่าจิ้งจอกจะรู้จักเห็นใจกระต่าย
พวกหมาจิ้งจอกนี้เลวน้อยกว่า พวกอุบาทว์ที่ถือคติแมลงวันไม่ตอมแมลงวันด้วยกันนิดหน่อย
โดย: โคตรเลว jjxyz [3 ธ.ค. 48 13:01] ( IP A:61.90.97.15 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ความเห็น 5

ถ้าเครือข่ายฯ เป็นจิ้งจอกก็คงเป็นได้แค่หัวโขนที่สวม
และหากคุณเปรียบตัวเองเป็นกระต่ายก็คงเป็นกระต่ายหัว๋โขน
แต่ข้างในเป็นจิ้งจอกร้ายเจ้าเล่ห์

อย่ากระโดดผ่านมาแถวบ้านเรานะ เจออิฐหักก้อนแน่
โดย: หัวโนแน่มึง [3 ธ.ค. 48 16:46] ( IP A:61.90.9.126 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   เห็นด้วกับทางเครือข่าย ทุกคนเป็นที่พึ่งได้ ขออวยพรให้ให้เครือข่าย จงวอดวาย ครอบครัวประสบความลำบาก ตลอดไป
โดย: 141 [3 ธ.ค. 48 17:59] ( IP A:202.28.180.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   หวัดดีเทพ พวกเราเจอท่านแล้ว
โดย: ha ha [3 ธ.ค. 48 18:03] ( IP A:202.28.180.201 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   ทำไมเพิ่งเจอ ผมเจอพวกคุณบ่อยบนศาล
เจ้านายใหญ่คุณก็รู้จักผมดี
โดย: jjxyz [3 ธ.ค. 48 19:28] ( IP A:61.90.97.15 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
   คห 8 สำนวนใช้ได้ บังเอิญผมมันคนเลวอยู่แล้ว ไม่รู้จะสวมหัวโขนไปทำไม และที่สำคัญผมก็ไม่ได้เสแสร้งเป็นคนดีเหมือนใครบางคนที่กำลังทำอยู่
โดย: ถึงเครือข่ายชั่ว [3 ธ.ค. 48 19:45] ( IP A:203.146.191.209 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
   แมวตาย มุสิกร้องให้
โดย: เฮ้อ [3 ธ.ค. 48 19:47] ( IP A:203.146.191.209 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
   คห 8 สำนวนใช้ได้ บังเอิญผมมันคนเลวอยู่แล้ว ไม่รู้จะสวมหัวโขนไปทำไม และที่สำคัญผมก็ไม่ได้เสแสร้งเป็นคนดีเหมือนใครบางคนที่กำลังทำอยู่
โดย: ถึงเครือข่ายชั่ว [3 ธ.ค. 48 19:45> ( IP A:203.146.191.209 X: )
ผมว่าคุณคงเข้าใจอะไรไม่ถูกหรือไม่ก็มีนิสัยยัดเยียดความชั่วความเลว ความดี หรือความแสร้งเป็นคนดีให้คนอื่น ความจริงแล้วเราไม่เคยว่าหมอชั่ว เพียงแต่เราว่าหมอทำไม่ถูกต้องเราเสียหาย เราก็เลยฟ้องหมอตามสิทธิ ให้หมอใช้ค่าเสียหาย โดยเฉพาะโรงพยาบาลหลวงฟ้องหมอไม่ได้ต้องฟ้องหน่วยงาน ส่วนเอกชนเราฟ้องทั้งหมอทั้งโรงพยาบาล หวังว่าหมอจะระมัดระวังและเป็นกรณีตัวอย่างให้หมอคนอื่นระมัดระวัง จะได้ไม่ตายกันแบบไม่จำเป็นอีก คุณก็มายัดว่า คนโน้นเลว เครือข่ายชั่ว คนนี้แสร้งทำเป็นคนดี
ผมเคยพูดเสมอว่าหมอทำผิดพลาด หมอก็ไม่ได้เลวนะ ก็แค่ทำผิดไม่ได้เจตนา แม้ว่าจะไม่สมควรเท่าไหร่ แต่การแก้ตัวไม่รับผิดหรือไม่ก็แถลงข่าวโกหกหรือช่วยเหลือหมอที่ทำผิด อันนี้ทำเลวทำชั่ว เพราะทำผิดโดยเจตนา
คุณหมอถ้ายังไม่เข้าใจและหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันในวงการแพทย์ ก็คงจะต้องรับโทษในศาล หากแม้มีคดีที่ศาลตัดสินว่าหมอผิด และคดีก็ซ้ำๆเหมือนเดิม
ผมว่าคดีดอกรัก และคดีแพ้ยาโรงพยาบาลตำรวจ (คนตายชื่อเลอพงษ์ ทีระฆัง เมียเขาชื่อวิลาวัลย์ ทีระฆัง ) ช่วยสังคมได้เยอะ ต่อไปคนไข้สตีเว่นส์ จอห์นสันซินโดรมก็จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องรวดเร็วขึ้น หมอก็จะได้ไม่เสียใจที่ทิ้งคนไข้ตาบอดหรือพิการหรือตายอีก
แก้ไขเถอะครับ ดีกว่าแก้ตัว หรือด่าคนอื่น
โดย: jjxyz [3 ธ.ค. 48 21:45] ( IP A:61.90.97.15 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
    ทั้งนี้เเพทย์เจ้าของคลินิกได้ออกมาพบกับพ่อเเม่เด็กที่เสียชีวิต พร้อมยืนยันจะให้การช่วยเหลืออย่างดีหากเด็กเสียชีวิตเพราะตนเอง.

ผมชอบแพทย์ที่ออกมาพูดแบบนี้จริงๆ นี่คือผู้มีจริยธรรมพึงปฏิบัติ และผมว่าถ้าคุณหมอท่านนี้ทำอย่างที่พูด ท่านคือหมอที่ผมจะต้องเอาดอกไม้ไปให้ท่าน

หวังว่าเรื่องนี้คงไม่ต้องมาถึงมือพวกเราชาวเครื่อข่ายฯ
.
.
.
.rose
โดย: เจ้าบ้าน คนหนึ่ง [3 ธ.ค. 48 22:39] ( IP A:61.91.161.57 X: )
ความคิดเห็นที่ 15
   บาปกรรมมีจริงนะ เครือข่ายชั่ว ถึงจะไม่เคยเห็นเป็นรูปธรรม แต่มันก็คงอยู่ ระวังจะตก *** หมกไหม้ ไม่ได้ผุดได้เกิด
โดย: พวกเลวเอ๊ย [3 ธ.ค. 48 23:57] ( IP A:203.146.191.209 X: )
ความคิดเห็นที่ 16
   โบราณเขาว่า สีซอให้ *** ฟัง
งานนี้ระยะเวลาจะพิสูจน์ว่า ระหว่างเครือข่ายและอีกฝ่าย ใครจะเป็น *** ในคำพังเพย
โดย: jjxyz [4 ธ.ค. 48] ( IP A:61.90.97.15 X: )
ความคิดเห็นที่ 17
   ความเห็น 16 เขาเรียกว่าคนพาลไม่เข้าท่า
มีพฤติกรรมเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่นแล้วงอแง
เสียผลประโยชน์หรือไง ทำในสิ่งที่ถูกต้องดีกว่า
ชาตินี้มีเวลาทำความดีก็รีบ ๆ ทำ กลับตัวกลับใจเสียใหม่
ก็ไม่สาย
โดย: ไปเฝ้าบ้านไป๊ [4 ธ.ค. 48 7:55] ( IP A:61.90.9.232 X: )
ความคิดเห็นที่ 18
   ข่าวจากเดลินิวส์ มาแล้ว

https://www.dailynews.co.th/today/each.asp?newsid=73673

คาด 'น้องบอส' เป็น 'ซิด ซินโดรม'

อาจไม่เกี่ยววัคซีน พบได้ในทารกเพียง 0.74 ใน 1 พันคน อย.เรียกเก็บยาเจ้าปัญหา

ยังไม่ทราบสาเหตุการตายของ “น้องบอส” ทารกวัย 1 เดือน ผลผ่าพิสูจน์พบ สภาพศพปกติ คงต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อหาสารพิษ ขณะที่หมอเจ้าของคลีนิกที่ฉีดวัคซีน เผย เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ถ้าผลพิสูจน์จากนิติเวชว่าทารกเสียชีวิตจากการรับวัคซีนจะยอมรับผิดทุกอย่าง ส่วน “พินิจ จารุสมบัติ” สั่งปิดคลินิกชั่วคราว พร้อมกับเก็บวัคซีนไปตรวจสอบ และให้แพทยสภาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ด้านอธิบดีกรมการแพทย์ ชี้ กรณีนี้อาจเป็นการตายโดยไม่คาดหมาย หรือ “ซิด ซินโดรม” พบได้ทั่วโลกในเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 1 ปี มีเพียง 0.74 ต่อ 1,000 ราย อย.ส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บวัคซีนเจ้าปัญหาจากท้องตลาดหมดแล้ว

จากกรณีที่ นายภาสกร วิเชียรเนตร กับนางกัญญาวีร์ กุตเสนา สองสามีภรรยา พาลูกชายชื่อ ด.ช.ภูชิตติ วิเชียรเนตร หรือน้องบอส วัย 1 เดือน ไปฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี เมื่อตอนค่ำของวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่หลังจากแพทย์ฉีดวัคซีนให้แล้ว น้องบอส ได้เสียชีวิตลง นายภาสกร กับนางกัญญาวีร์ จึงเข้าแจ้งความเป็นหลักฐานกับตำรวจ สน.นิมิตรใหม่ พร้อมกับส่งศพ น้องบอส ไปให้สถาบันนิติเวช รพ.ตร.ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย โดย นายภาสกร พ่อผู้สูญเสีย เปิดเผยว่า หากการเสียชีวิตของลูกชายเกิดจากแพทย์บกพร่องจะดำเนินการฟ้องร้องจนถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายภาสกร วิเชียรเนตร กับนางกัญญาวีร์ กุตเสนา สองสามีภรรยาผู้สูญเสีย พร้อมกับญาติจำนวนหนึ่งพากันเดินทางไปรับศพ ด.ช.ภูชิตติ วิเชียรเนตร หรือน้องบอส ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ โดย นายภาสกร และนางกัญญาวีร์ ได้ขออนุญาต พ.ต.อ.สมบูรณ์ ตันตระกูล รองผบก.นต.แพทย์ผู้ผ่าศพเข้าไปดูการผ่าพิสูจน์ศพลูกชายด้วย

หลังจากนั้น นางกัญญาวีร์ เปิดเผยว่า ได้รับทราบจากแพทย์ที่ผ่าศพลูกชายว่า สภาพศพเป็นปกติ ไม่มีลักษณะของการแพ้ยา เพราะไม่พบผื่นตามผิวหนัง มีแต่รอยเข็มฉีดยาที่กล้ามเนื้อด้านหน้าต้นขาขวา ซึ่งเป็นหลักการฉีดยาที่ถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุการตายเกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจชิ้นเนื้อดูว่าร่างกายได้รับสารพิษหรือไม่ โดยจะทราบผลในอีก 2 สัปดาห์หรือเดือนครึ่ง พร้อมกับต้องรอดูผลการตรวจสอบของแพทยสภา รวมทั้งผลการตรวจสอบวัคซีนที่ฉีดให้กับน้องบอสว่าเป็นวัคซีนที่ถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นวัคซีนหมดอายุหรือเปล่า

นางกัญญาวีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับแพทย์ที่ฉีดวัคซีนให้น้องบอสคือ นายแพทย์บุญส่ง ระหว่างบ้าน เจ้าของคลินิกบุญส่งการแพทย์ เป็นแพทย์คนเดียวกับที่ตนฝากท้องและทำคลอดให้ตนที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี ซึ่งดูแลตนกับลูกมาตลอดตั้งแต่แรกเกิดได้ฉีดวัคซีนให้เข็มหนึ่งแล้ว และได้นัดว่าน้องบอสมีอายุ 1 เดือนให้นำไปฉีดเข็มที่สอง แต่เห็นว่าพาไปฉีดที่คลินิกจะสะดวกกว่า ตนจึงพาน้องบอสไปฉีดที่คลินิกดังกล่าว หลังจากน้องบอสเสียชีวิตแล้วตนได้โทรศัพท์ไปหา นพ.บุญส่ง โดยหมอบุญส่ง แนะนำให้ตนไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อน และนำศพส่งสถาบันนิติเวชผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายแพทย์บุญส่ง ระหว่างบ้าน เจ้าของคลินิกบุญส่งการแพทย์ เลขที่ 399/5 ซอยวนาทิพย์ ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงและเขตมีนบุรี แพทย์ที่ฉีดวัคซีนให้น้องบอส เปิดเผยว่า ตนเป็นหมอทำคลอดน้องบอสเอง โดยผ่าตัดออกที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี เด็กออกมาร่างกายแข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัว และได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ตั้งแต่แรกเกิด แล้วนัดมารับวัคซีนเข็มที่สองห่างกัน 1 เดือน โดยพ่อแม่น้องบอสพาเด็กมาฉีดวัคซีนที่คลีนิกช่วงค่ำเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้แนะนำกับพ่อแม่เด็กและทำตามขั้นตอนทุกอย่าง วัคซีนที่ใช้นั้นตนใช้ฉีดกับเด็กอื่นๆมานานแล้วไม่เคยมีปัญหาเป็นวัคซีนที่นำเข้ามีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่ทราบจริงๆว่าทำไมเด็กเสียชีวิตหลังจากรับวัคซีน ตนคงพูดอะไรได้ไม่มาก คงต้องรอผลพิสูจน์จากนิติเวช ตนจะยึดถือผลจากนิติเวชเป็นหลัก ถ้าหากเด็กเสียชีวิตจากการรับวัคซีน ตนจะยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนนี้ทางกองควบคุมโรคนำวัคซีนดังกล่าวที่เหลืออยู่ทั้งหมดไปตรวจสอบแล้ว ตนเปิดคลินิกมานาน 13 ปี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ตนเป็นหมอก็รู้สึกเสียใจจริงๆที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ส่วน นายพินิจ จารุสมบัติ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ ได้สั่งการให้ผู้ที่ดูแลด้านโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกไปที่คลินิกเกิดเหตุย่านมีนบุรี และขอเก็บวัคซีนทั้งหมดไปเพื่อตรวจสอบ ในชั้นนี้ได้สั่งปิดคลินิกดังกล่าวเป็นการชั่วคราว คือ ถอนใบอนุญาตเป็นการชั่วคราวก่อน ถ้าสอบสวนแล้วไม่มีความบกพร่องของแพทย์จะอนุญาตให้เปิดต่อ แต่ถ้ามีความบกพร่องคงต้องให้ปิดตลอดไป โดยจะต้องขอเวลาให้แพทยสภาสอบสวนดูก่อนว่าเกิดจากอะไร เรื่องนี้มีระบบอยู่แล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะใช้เวลาตรวจสอบเรื่องนี้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ แม้จะเป็นเรื่องแค่รายเดียว แต่ก็ต้องดูแลให้ดี ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกดังนั้นควรนำเรื่องนี้มาเป็นบทเรียน

เมื่อเวลา 15.00น.วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของน้องบอส ว่า กรณีนี้การเสียชีวิตไม่น่าจะเกิดจากวัคซีนค่อนข้างแน่นอน เพราะเป็นวัคซีนเข็มที่ 2 ปกติการแพ้วัคซีนจะเกิดขึ้นในช่วง 30-60 นาทีหลังจากฉีด ซึ่งอาจมีบ้างแต่ไม่ถึงกับขั้นเสียชีวิตแค่ปวด บวม มีไข้ แต่เรื่องนี้คงต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ศพเพื่อสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง จากสถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งอาจพบสาเหตุหรือไม่พบก็ได้ กรณีนี้อาจจะเป็นการตายที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดหมาย หรือ ที่เรียกว่า Sudden Infant Death Syndrome หรือที่เรียกว่า ซิด ซินโดรม พบได้ทั่วโลกในเด็กอายุ 1 เดือน-1 ปีพบ ประมาณ 0.74 ต่อ 1,000 ราย โดยในจำนวนนี้ 50%หาสาเหตุไม่เจอว่าเกิดจากอะไร แต่อีก 50 % อาจเกิดจากความผิดปกติของหัวใจ ความผิดปกติของต่อมภายในร่างกาย ติดเชื้อ สำลัก การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนตกใจ ตื่นตระหนกกับข่าวการฉีดวัคซีน สามารถฉีดวัคซีนต่อไปได้ตามปกติ เนื่องจากสถานพยาบาลทุกแห่งมีระบบการให้วัคซีนที่มีมาตรฐาน จะมีคลินิกเด็กดี ตรวจสุขภาพเด็กอย่างสมบูรณ์แบบ

ภก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการ อ.ย. กล่าวว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบวัคซีนที่คลินิกย่านมีนบุรี พบว่า เป็นวัคซีนผลิตจากประเทศเบลเยี่ยม ผลิตเมื่อวันที่9 พ.ย. 47หมดอายุวันที่ 31 ต.ค. 2550 นำเข้าโดยบริษัทแห่งหนึ่งทั้งหมด 1,240 ขวดโดย1 ขวดฉีดได้ 2 คน ในวันนี้ได้อายัดวัคซีนทั้งหมด14ขวดโดย อย.ได้เก็บวัคซีนส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อดูความปลอดภัยจะใช้เวลาตรวจประมาณ 2 เดือน ขณะนี้ อย. ได้เรียกเก็บวัคซีนดังกล่าวออกจากท้องตลาดทั้งหมดแล้ว
คาด 'น้องบอส' เป็น 'ซิด ซินโดรม'

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายภาสกร วิเชียรเนตร กับนางกัญญาวีร์ กุตเสนา สองสามีภรรยาผู้สูญเสีย พร้อมกับญาติจำนวนหนึ่งพากันเดินทางไปรับศพ ด.ช.ภูชิตติ วิเชียรเนตร หรือน้องบอส ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ โดย นายภาสกร และนางกัญญาวีร์ ได้ขออนุญาต พ.ต.อ.สมบูรณ์ ตันตระกูล รองผบก.นต.แพทย์ผู้ผ่าศพเข้าไปดูการผ่าพิสูจน์ศพลูกชายด้วย

หลังจากนั้น นางกัญญาวีร์ เปิดเผยว่า ได้รับทราบจากแพทย์ที่ผ่าศพลูกชายว่า สภาพศพเป็นปกติ ไม่มีลักษณะของการแพ้ยา เพราะไม่พบผื่นตามผิวหนัง มีแต่รอยเข็มฉีดยาที่กล้ามเนื้อด้านหน้าต้นขาขวา ซึ่งเป็นหลักการฉีดยาที่ถูกต้องอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุการตายเกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจชิ้นเนื้อดูว่าร่างกายได้รับสารพิษหรือไม่ โดยจะทราบผลในอีก 2 สัปดาห์หรือเดือนครึ่ง พร้อมกับต้องรอดูผลการตรวจสอบของแพทยสภา รวมทั้งผลการตรวจสอบวัคซีนที่ฉีดให้กับน้องบอสว่าเป็นวัคซีนที่ถูกต้องหรือไ ม่ หรือเป็นวัคซีนหมดอายุหรือเปล่า

นางกัญญาวีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับแพทย์ที่ฉีดวัคซีนให้น้องบอสคือ นายแพทย์บุญส่ง ระหว่างบ้าน เจ้าของคลินิกบุญส่งการแพทย์ เป็นแพทย์คนเดียวกับที่ตนฝากท้องและทำคลอดให้ตนที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี ซึ่งดูแลตนกับลูกมาตลอดตั้งแต่แรกเกิดได้ฉีดวัคซีนให้เข็มหนึ่งแล้ว และได้นัดว่าน้องบอสมีอายุ 1 เดือนให้นำไปฉีดเข็มที่สอง แต่เห็นว่าพาไปฉีดที่คลินิกจะสะดวกกว่า ตนจึงพาน้องบอสไปฉีดที่คลินิกดังกล่าว หลังจากน้องบอสเสียชีวิตแล้วตนได้โทรศัพท์ไปหา นพ.บุญส่ง โดยหมอบุญส่ง แนะนำให้ตนไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อน และนำศพส่งสถาบันนิติเวชผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายแพทย์บุญส่ง ระหว่างบ้าน เจ้าของคลินิกบุญส่งการแพทย์ เลขที่ 399/5 ซอยวนาทิพย์ ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงและเขตมีนบุรี แพทย์ที่ฉีดวัคซีนให้น้องบอส เปิดเผยว่า ตนเป็นหมอทำคลอดน้องบอสเอง โดยผ่าตัดออกที่ รพ.นพรัตน์ราชธานี เด็กออกมาร่างกายแข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัว และได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ตั้งแต่แรกเกิด แล้วนัดมารับวัคซีนเข็มที่สองห่างกัน 1 เดือน โดยพ่อแม่น้องบอสพาเด็กมาฉีดวัคซีนที่คลีนิกช่วงค่ำเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้แนะนำกับพ่อแม่เด็กและทำตามขั้นตอนทุกอย่าง วัคซีนที่ใช้นั้นตนใช้ฉีดกับเด็กอื่นๆมานานแล้วไม่เคยมีปัญหาเป็นวัคซีนที่น ำเข้ามีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่ทราบจริงๆว่าทำไมเด็กเสียชีวิตหลังจากรับวัคซีน ตนคงพูดอะไรได้ไม่มาก คงต้องรอผลพิสูจน์จากนิติเวช ตนจะยึดถือผลจากนิติเวชเป็นหลัก ถ้าหากเด็กเสียชีวิตจากการรับวัคซีน ตนจะยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนนี้ทางกองควบคุมโรคนำวัคซีนดังกล่าวที่เหลืออยู่ทั้งหมดไปตรวจสอบแล้ว ตนเปิดคลินิกมานาน 13 ปี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ตนเป็นหมอก็รู้สึกเสียใจจริงๆที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้

เมื่อเวลา 15.00น.วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของน้องบอส ว่า กรณีนี้การเสียชีวิตไม่น่าจะเกิดจากวัคซีนค่อนข้างแน่นอน เพราะเป็นวัคซีนเข็มที่ 2 ปกติการแพ้วัคซีนจะเกิดขึ้นในช่วง 30-60 นาทีหลังจากฉีด ซึ่งอาจมีบ้างแต่ไม่ถึงกับขั้นเสียชีวิตแค่ปวด บวม มีไข้ แต่เรื่องนี้คงต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ศพเพื่อสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง จากสถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งอาจพบสาเหตุหรือไม่พบก็ได้ กรณีนี้อาจจะเป็นการตายที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดหมาย หรือ ที่เรียกว่า Sudden Infant Death Syndrome หรือที่เรียกว่า ซิด ซินโดรม พบได้ทั่วโลกในเด็กอายุ 1 เดือน-1 ปีพบ ประมาณ 0.74 ต่อ 1,000 ราย โดยในจำนวนนี้ 50%หาสาเหตุไม่เจอว่าเกิดจากอะไร แต่อีก 50 % อาจเกิดจากความผิดปกติของหัวใจ ความผิดปกติของต่อมภายในร่างกาย ติดเชื้อ สำลัก การหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนตกใจ ตื่นตระหนกกับข่าวการฉีดวัคซีน สามารถฉีดวัคซีนต่อไปได้ตามปกติ เนื่องจากสถานพยาบาลทุกแห่งมีระบบการให้วัคซีนที่มีมาตรฐาน จะมีคลินิกเด็กดี ตรวจสุขภาพเด็กอย่างสมบูรณ์แบบ

ภก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการ อ.ย. กล่าวว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบวัคซีนที่คลินิกย่านมีนบุรี พบว่า เป็นวัคซีนผลิตจากประเทศเบลเยี่ยม ผลิตเมื่อวันที่9 พ.ย. 47หมดอายุวันที่ 31 ต.ค. 2550 นำเข้าโดยบริษัทแห่งหนึ่งทั้งหมด 1,240 ขวดโดย1 ขวดฉีดได้ 2 คน ในวันนี้ได้อายัดวัคซีนทั้งหมด14ขวดโดย อย.ได้เก็บวัคซีนส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อดูความปลอดภัยจะใช้เวลาตรวจประมาณ 2 เดือน ขณะนี้ อย. ได้เรียกเก็บวัคซีนดังกล่าวออกจากท้องตลาดทั้งหมดแล้ว

โดย: มาแล้ว [4 ธ.ค. 48 8:10] ( IP A:61.90.9.232 X: )
ความคิดเห็นที่ 19
   ยินดีด้วยครับ ขอให้รอดปลอดภัยคนดีพระคุ้มครองครับด
โดย: ดกห [4 ธ.ค. 48 10:23] ( IP A:203.156.50.25 X: )
ความคิดเห็นที่ 20
   ถ้าเป็นSID syndromeจริงๆ ก็น่าเห็นใจนพ.บุญส่งนะ ถูกหลายๆคนมองว่าผิดไปแล้ว แถมยังถูกปิดคลินิกไปล่วงหน้าอีก ประชาชนหลายคนก็คงไม่กล้าเข้าคลินิก เฮ้อ..มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
โดย: Moji [4 ธ.ค. 48 19:50] ( IP A:202.57.173.205 X: )
ความคิดเห็นที่ 21
   แบบนี้เอาไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ด้วยหรือเปล่า

SID เกิดแค่ข้ามคืนหลังจากไปฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าในร่างกาย มันก็ย่อมเป็นที่น่าสงสัย ต่อให้เป็นกับลูกหมอเองก็คงทำใจลำบาก

ถ้าเวรกรรมมีจริง คห.16 ต้องเจอแบบนี้กับลูกตัวเองบ้าง
โดย: g (เจ้าบ้าน ) [4 ธ.ค. 48 22:18] ( IP A:61.91.162.6 X: )
ความคิดเห็นที่ 22
   คงไม่จำเป็นต้องส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มั้ง เพราะตรวจทึ่สถาบันนิติเวชก็เพียงพอแล้ว ตรวจได้เหมือนๆกัน เพียงแต่ต่างกันที่ชื่อแค่นั้นเอง (สถาบันนิติเวชที่อื่นๆก็ส่งตรวจพวกสารพิษ หรือจะตรวจDNAก็ได้เหมือนกัน)
โดย: Amino [5 ธ.ค. 48 15:43] ( IP A:202.57.174.89 X: )
ความคิดเห็นที่ 23
   ไม่ทราบว่าclinic ยังทำตัวเป็นแพทย์พาณิชย์ที่ดีเหมือนเดิมป่ะ
ประตู --โพลีคลีนิค แล้ววันหลังจะเริ่มเอาวีรกรรมเด็ดของท่านมาเผยนา มีรูปปากรอบด้าย แล้วเจอกันเทพ
โดย: ent [5 ธ.ค. 48 19:11] ( IP A:202.28.179.1 X: )
ความคิดเห็นที่ 24
   เล่นกับหมา หมาเลียปาก

อย่าไปโต้ตอบพวกนี้มากเลย เพิ่งรู้จักหมอเทพ แสดงว่ามันใหม่มากๆ ในวงการ

เล่นกับหมอเด็ก ระวังหมอเด็กเลีย .... 5555
โดย: เจ้าบ้าน [5 ธ.ค. 48 19:29] ( IP A:58.9.176.64 X: )
ความคิดเห็นที่ 25
   ยินดีให้ตรวจสอบ ไม่เคยโวยวาย
คนเขาก็ว่าผมเป็นแพทย์พาณิชย์มาหลายปี ก็ไม่ว่าอะไร
แพทยสภาก็พักใบอนุญาตผมไป 5 ครั้ง ก็ไม่มีปัญหา
ตอนเป็นพยานศาลให้คนไข้ ผมก็บอกศาลเองว่าโดนพักใบอนุญาตมา 5 ครั้ง เพราะเป็นหมอทำงานมา เกือบ 30 ปี ไม่เคยผิดพลาดบ้างก็คงประหลาด ผมน่าจะโดนพักโดนฟ้องโดนลงโทษมากกว่านี้ แต่บังเอิญโชคดีที่ผ่านมา มีแต่คดีที่แพทยสภากล่าวหาว่าโฆษณาทั้ง 5 ครั้ง สี่ครั้งแรกสิ้นสุดแล้ว ครั้งสุดท้ายก็ฟ้องศาลอยู่ ถ้าศาลฏีกาให้แพ้อีก ก็โดน 5 ครั้ง ถ้าไม่แพ้ก็เหลือ 4 ครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร คดีสุดท้ายที่ฟ้องศาลปกครองกลางและศาลตัดสินไปแล้ว ศาลก็วินิจฉัยว่า มีการเลือกปฏิบัติกับตัวผมอย่างไม่เป็นธรรมจริงตามหลักฐานที่ผมส่งศาล แต่ศาลไม่ยอมให้แก้กฎหมาย บอกว่าเป็นเรื่องตัวบุคคลในแพทยสภา ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย
ดีเลวคนไข้ตัดสินได้
เรื่องของผมอนุญาตให้แฉได้ ไม่มีเซ็นเซ่อร์
ถ้ากลัวเซ็นเซ่อร์ก็ต้องไปอยู่เงียบๆ ตรวจสอบคนอื่นไม่ได้
ตรวจสอบคนอื่นได้ ก็ต้องให้คนอื่นตรวจสอบได้ไม่มีปัญหา
โดย: jjxyz [5 ธ.ค. 48 19:39] ( IP A:58.10.64.127 X: )
ความคิดเห็นที่ 26
   อ้อ ลืมไป ทุกครั้งที่แพทยสภาลงโทษผม ท่านให้เกียรติผมเสมอ หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ หรือไม่ก็ข่าวทั้งทีวี วิทยุ ท่าน อีเอ็นที ไม่ต้องแฉหรอก คงไม่ทันแพทยสภา เวลาตัดสินปั๊บ จะมีการแถลงข่าวโดยเลขาธิการแพทยสภาเรื่องผม และนักข่าวก็จะสายด่วนผมถามรายละเอียดเพื่อตีพิมพ์ข่าววันรุ่งขึ้น
แต่ผมไปเจอว่าบรรดาหมอใหญ่ๆดังดังโรงพยาบาลใหญ่ๆดังดังเวลาโดนแพทยสภาลงโทษ หลายท่านไม่ค่อยเป็นข่าว ผมก็เลยไปฟ้องศาลปกครองว่าไม่แฟร์ ขอให้แก้กฎหมาย ควรให้เกียรติแฉทั้งหมด เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค แต่ศาลท่านไม่เห็นด้วย
กรณีแฉประวัติหมอนี้ ที่สหรัฐ เดียวนี้ประชาชนเข้าไปขอข้อมูลหมอทุกท่านได้ตามใจต้องการว่า หมอแต่ละท่าน เคยโดนพักใบอนุญาตเพราะทำผิดเรื่องอะไรมาแล้วบ้าง อีกหน่อยเมืองไทยก็คงเดินตาม เพียงแต่ช้าหน่อยเท่านั้น คงไม่เกิน 100 ปี เพราะศาลปกครองไทยก็ตั้งหลังฝรั่งเศสเกือบ 100 ปี เหลือเชื่อไหมละ
เมืองไทยแค่ไปขอทราบว่าหมอ ก. ที่รักษานาง ข. จนเสียงแหบ(ผ่าตัดไทรอยด์) ท่านจบที่ไหน จบเมื่อไหร่ จบสาขาโน้นสาขานี้เมื่อไหร่ จากที่ไหน แพทยสภาบอกเรื่องเหล่านี้ให้ไม่ได้ ผมก็งงเหมือนกัน
โดย: jjxyz [5 ธ.ค. 48 19:57] ( IP A:58.10.64.127 X: )
ความคิดเห็นที่ 29
   เมืองไทย หมอดี ๆ มีเยอะ แต่หมอกล้า ๆ ทำในสิ่งที่ถูกต้องมีไม่
กี่คน และคนที่กล้า ๆ เหล่านี้มักมองว่าเป็นแกะดำ แต่ในหมู่ผู้เสีย
หายแล้ว เรากลับมองว่าท่านเหล่านั้นเป็นแกะขาวในฝูงแกะดำ
ภาวนาว่า จะมีหมอดี ๆ กล้าหาญมาก ๆ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง
วงการแพทย์ ไม่ใช่เก่งแต่หมกปัญหา กลบปัญหา แล้วสร้างภาพ
ว่าไม่มีปัญหา เด็กโกหกยังพอให้อภัยได้ แต่หมออาวุโส หัวหงอก
แถมมีความรู้มากโกหกนี่ มันน่าขยะแขยง น่ารังเกียจ สะอิดสะเอียน
ไม่รู้เอาความดีที่ไหนไปสอนลูกสอนหลาน ว่าปู่ย่าตายายทำบาปทำ
กรรมกับผู้ป่วยไว้มากเหลือเกิน ขอภาวนาอย่าให้ผลกรรมนั้นตกแก่
บุตรหลานผู้บริสุทฺธิ์ของเขาเลย เด็กไม่รู้เรื่องว่าปู่ย่าตายายทำอะไร
กับใครไว้บ้าง
โดย: กรรมติดจรวด [9 ธ.ค. 48 7:28] ( IP A:61.90.14.120 X: )
ความคิดเห็นที่ 30
   ศัลยกรรมเสริมสวยนั่นแหละ หากินกับกิเลสตันหาทั้งคนทำ คนให้ทำ เป็นการใช้การแพทย์ไปในเชิงพาณิชย์ที่ตรงตัวที่สุด
ไอ้ที่ออกมาโวยวายนะ มันพวก บ้าว่างงาน
โดย: ดกห [9 ธ.ค. 48 14:27] ( IP A:125.25.6.37 X: )
ความคิดเห็นที่ 31
   แพทย์พาณิชย์ ถ้าไม่ได้ทำผิดศีลธรรม ไม่ทำร้ายคนไข้ ไม่ดูหมิ่นเหยียดหยามลูกค้า ใครบ้างที่ไม่ทำงานหนักเรียนหนักเพื่อเงินตอบแทนค่าวิชาชีพสูงๆ บอกมาหน่อย จะไปขอกราบตีนจริงๆ
โดย: ผมเอง (เจ้าบ้าน ) [9 ธ.ค. 48 23:20] ( IP A:58.9.175.214 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน