ถ้าผ่าตัดดวงตาดอกรักไม่สำเร็จ จะฟ้องหมอทีมนี้เท่าไรดี
   กรณี “ดอกรัก” จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ภายหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี มาวันนี้แพทย์ผู้รักษาเปิดตา “ดอกรัก” สามารถมองเห็นสีเสื้อ สีเนกไท และจำนวนนิ้วของแพทย์ที่ชูเพื่อทดสอบการมองเห็นได้แล้ว เจ้าตัวเผยเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่

วันนี้ (29 ส.ค.) นางดอกรัก เพ็ชรประเสริฐ ซึ่งตาบอดทั้งสองข้างด้วยโรคสตีเวน จอห์นสัน ซินโดรม เนื่องจากการแพ้ยา และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. แพทย์ที่ให้การรักษาได้เปิดดวงตาให้ ในตอนแรกยังมองเห็นไม่ชัด แต่สักพักสามารถมองเห็นแพทย์ที่ให้การรักษาได้ชัดเจน ในระยะประมาณ 50 เซ็นติเมตร และสามารถตอบแพทย์ที่รักษาได้ว่าแพทย์ใส่เสื้อสีขาว ผูกเนกไทสีแดง และตอบได้ว่าแพทย์ชูนิ้วกี่นิ้ว ในขณะที่แพทย์ทดสอบการมองเห็นหลังเปิดตา

“ดิฉันดีใจมากเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ตอนนี้คุณหมอให้อยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการไปก่อน คุณหมอบอกว่าจะค่อยๆ มองเห็นระยะไกลขึ้นเรื่อยๆ แต่เห็นแค่นี้ก็ดีใจแล้ว เพราะอย่างน้อยก็เห็นเค้าหน้าหมอที่ให้การรักษา เมื่อเช้าก็มีหลวงพ่อก็มาเทศน์ให้ฟัง มาสอนธรรมะ และพอตอนบ่ายตาก็เริ่มมองเห็น ดีใจที่มีบุญแบบนี้ และดิฉันขอขอบคุณและชื่นชมคุณหมอและผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ให้การรักษาจนมีวันนี้” นางดอกรักกล่าวด้วยความตื้นตันใจ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.20 น. น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมคณะแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เปิดแถลงข่าวว่าคณะแพทย์ได้เปิดตานางดอกรัก พบว่าผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ โดยตาข้างขวาที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มองเห็นในระยะ 1 ฟุตและบอกสีได้ ส่วนสาเหตุที่ยังมองไม่ชัดเจนเนื่องจากเนื้อเยื่อรกที่นำมาคลุมตาไว้เพื่อป้องกันการอักเสบยังไม่ละลายหมด

น.พ.ชาตรีกล่าวว่า ขณะเดียวกันพบว่าแก้วตาที่ปลูกถ่ายมีเลือดมาเลี้ยงได้ดี ทางคณะแพทย์คาดว่าอีก 3-4 วัน นางดอกรักจะกลับบ้านได้ โดยแพทย์จะนัดมาดูอาการทุกสัปดาห์ ใช้เวลาประเมินสายตาอีก 3 เดือนเพื่อดูว่าจะต้องผ่าตัดอีกครั้งหรือไม่

น.พ.อภิวัฒน์ โพธิกำจร จักษุแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี แพทย์เจ้าของไข้กล่าวว่า คณะแพทย์พอใจผลการรักษาพอสมควร แต่ต้องติดตามอาการเป็นระยะๆ ให้รับประทานยาป้องกันการปฏิเสธเนื้อเยื่อเป็นเวลา 3-12 เดือน หลังจากนั้นจะประเมินผลว่ายังต้องกินต่อไปหรือลดปริมาณยาลง ส่วนตาด้านซ้ายยังไม่ได้ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพของคนไข้ สำหรับเนื้อเยื่อรกที่คลุมตานำมาจากรกของทารก ช่วยให้บาดแผลหายเร็ว

“เมื่อทุกอย่างปกติ ผมจะให้กลับบ้าน จะนัดมาดูเป็นระยะว่าตัวสเต็มเซลล์เข้ากันได้กับเนื้อเยื่อหรือไม่ และเจริญเติบโตมาคลุมดีหรือไม่ เราใช้ขี้ตาเป็นตัววัดว่ามีการติดเชื้อมั้ย ถ้ามีติดเชื้อจะมีขี้ตาตาจะแดง ตอนนี้ตาดี เส้นเลือดมาเลี้ยงดี” น.พ.อภิวัฒน์กล่าว

ขณะที่นางดอกรักกล่าวว่า อยากฝากทุกคนว่าอย่าท้อถอย ให้ต่อสู้ตรงนี้ต่อไป วันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จ อย่าท้อถอย ยังมีคนดีอีกมากที่จะช่วยเหลือเราอาจมายังไม่ถึง ขอให้อดทน ขอขอบคุณคนแรกคือ น.พ.อภิวัฒน์ ท่านอธิบดี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทุกท่านทุกคน รวมทั้ง น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ ที่พามารักษา” นางดอกรักกล่าวด้วยนำเสียงสั่นเครือ และว่าหากมีการผ่าตัดซ้ำอีกตนก็พร้อม แม้ขณะนี้มองเห็นระยะแค่ 1 ฟุต ตนก็พอใจอย่างมากแล้ว และได้รับดอกเบี้ยเงินชดเชยจากกระทรวงสาธารสุขจำนวน 3 แสนกว่าบาทแล้ว


กรณี “ดอกรัก” จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ภายหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี มาวันนี้แพทย์ผู้รักษาเปิดตา “ดอกรัก” สามารถมองเห็นสีเสื้อ สีเนกไท และจำนวนนิ้วของแพทย์ที่ชูเพื่อทดสอบการมองเห็นได้แล้ว เจ้าตัวเผยเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่

วันนี้ (29 ส.ค.) นางดอกรัก เพ็ชรประเสริฐ ซึ่งตาบอดทั้งสองข้างด้วยโรคสตีเวน จอห์นสัน ซินโดรม เนื่องจากการแพ้ยา และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. แพทย์ที่ให้การรักษาได้เปิดดวงตาให้ ในตอนแรกยังมองเห็นไม่ชัด แต่สักพักสามารถมองเห็นแพทย์ที่ให้การรักษาได้ชัดเจน ในระยะประมาณ 50 เซ็นติเมตร และสามารถตอบแพทย์ที่รักษาได้ว่าแพทย์ใส่เสื้อสีขาว ผูกเนกไทสีแดง และตอบได้ว่าแพทย์ชูนิ้วกี่นิ้ว ในขณะที่แพทย์ทดสอบการมองเห็นหลังเปิดตา

“ดิฉันดีใจมากเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ตอนนี้คุณหมอให้อยู่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการไปก่อน คุณหมอบอกว่าจะค่อยๆ มองเห็นระยะไกลขึ้นเรื่อยๆ แต่เห็นแค่นี้ก็ดีใจแล้ว เพราะอย่างน้อยก็เห็นเค้าหน้าหมอที่ให้การรักษา เมื่อเช้าก็มีหลวงพ่อก็มาเทศน์ให้ฟัง มาสอนธรรมะ และพอตอนบ่ายตาก็เริ่มมองเห็น ดีใจที่มีบุญแบบนี้ และดิฉันขอขอบคุณและชื่นชมคุณหมอและผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ให้การรักษาจนมีวันนี้” นางดอกรักกล่าวด้วยความตื้นตันใจ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.20 น. น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมคณะแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เปิดแถลงข่าวว่าคณะแพทย์ได้เปิดตานางดอกรัก พบว่าผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ โดยตาข้างขวาที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มองเห็นในระยะ 1 ฟุตและบอกสีได้ ส่วนสาเหตุที่ยังมองไม่ชัดเจนเนื่องจากเนื้อเยื่อรกที่นำมาคลุมตาไว้เพื่อป้องกันการอักเสบยังไม่ละลายหมด

น.พ.ชาตรีกล่าวว่า ขณะเดียวกันพบว่าแก้วตาที่ปลูกถ่ายมีเลือดมาเลี้ยงได้ดี ทางคณะแพทย์คาดว่าอีก 3-4 วัน นางดอกรักจะกลับบ้านได้ โดยแพทย์จะนัดมาดูอาการทุกสัปดาห์ ใช้เวลาประเมินสายตาอีก 3 เดือนเพื่อดูว่าจะต้องผ่าตัดอีกครั้งหรือไม่

น.พ.อภิวัฒน์ โพธิกำจร จักษุแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี แพทย์เจ้าของไข้กล่าวว่า คณะแพทย์พอใจผลการรักษาพอสมควร แต่ต้องติดตามอาการเป็นระยะๆ ให้รับประทานยาป้องกันการปฏิเสธเนื้อเยื่อเป็นเวลา 3-12 เดือน หลังจากนั้นจะประเมินผลว่ายังต้องกินต่อไปหรือลดปริมาณยาลง ส่วนตาด้านซ้ายยังไม่ได้ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพของคนไข้ สำหรับเนื้อเยื่อรกที่คลุมตานำมาจากรกของทารก ช่วยให้บาดแผลหายเร็ว

“เมื่อทุกอย่างปกติ ผมจะให้กลับบ้าน จะนัดมาดูเป็นระยะว่าตัวสเต็มเซลล์เข้ากันได้กับเนื้อเยื่อหรือไม่ และเจริญเติบโตมาคลุมดีหรือไม่ เราใช้ขี้ตาเป็นตัววัดว่ามีการติดเชื้อมั้ย ถ้ามีติดเชื้อจะมีขี้ตาตาจะแดง ตอนนี้ตาดี เส้นเลือดมาเลี้ยงดี” น.พ.อภิวัฒน์กล่าว

ขณะที่นางดอกรักกล่าวว่า อยากฝากทุกคนว่าอย่าท้อถอย ให้ต่อสู้ตรงนี้ต่อไป วันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จ อย่าท้อถอย ยังมีคนดีอีกมากที่จะช่วยเหลือเราอาจมายังไม่ถึง ขอให้อดทน ขอขอบคุณคนแรกคือ น.พ.อภิวัฒน์ ท่านอธิบดี ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทุกท่านทุกคน รวมทั้ง น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ ที่พามารักษา” นางดอกรักกล่าวด้วยนำเสียงสั่นเครือ และว่าหากมีการผ่าตัดซ้ำอีกตนก็พร้อม แม้ขณะนี้มองเห็นระยะแค่ 1 ฟุต ตนก็พอใจอย่างมากแล้ว และได้รับดอกเบี้ยเงินชดเชยจากกระทรวงสาธารสุขจำนวน 3 แสนกว่าบาทแล้ว
โดย: ถามเครือข่าย [29 ส.ค. 48 20:28] ( IP A:203.154.138.2 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   คำถามที่ดีนะครับ

อ่านแล้วอึ้งกิมกี่ ... ปัญญาขนาดผมคงตอบไม่ได้

เลยขอนำคำสั่งสอนของท่านอาจารย์พระพยอมฯ ที่พระคุณเจ้าท่านส่งมาถึง คุณรัตนา สัจจเทพ ติดอยู่ที่หน้าที่ว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้มาถ่ายทอดให้ดูกัน เพราะกินใจเรามาก ไม่ทราบว่าจะพอเป็นคำตอบแทน ชมรมเพื่อนร่วมทุกข์ได้ไหมครับ
.
.
ขออภัยที่ตอนนี้คณะทำงานของสี่เครือข่ายฯ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ไม่ได้ติดตามเคสของคุณดอกรักแล้ว เพราะได้ทุ่มกำลังเข้าไปช่วยการต่อสู้ของคุณรัตนา ฯ ที่หน้า กทม.ทุกวันทุกคืน จึงเปิดหน้าแรกของเวบ เป็นเครือข่ายฯของผู้เสียหายจากการซื้อบ้านแทนชั่วคราว

ขอบคุณที่กรุณาส่งข่าวมาด้วยครับ ดีใจจริงๆ ช่วย update ข้อมูลให้เรา ไม่ได้ประชดนะครับ เพราะผมเองก็ลุยแก้ปัญหาเรื่อง พายุพัด น้ำท่วมเต็นท์ของคุณพี่รัตนาฯ ตลอดสามวันที่ผ่านมา เลยไม่ได้ดูข่าวดอกรักเลย
.
.
.มีอะไรดีๆ เอามาฝากกันบ่อยๆ นะครับ
.
.
ผ่านไปหน้า กทม. แวะดูหน้ากันบ้างก็ดีนะครับ บรรยากาศเหมือนไปพักแรมกลางกรุง นี่แหละครับชีวิตพวกเราชาวเครือข่ายฯ
.
.

โดย: LEX [29 ส.ค. 48 21:37] ( IP A:61.91.163.106 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   สิ่งที่พี่ดอกรักอยากได้มากที่สุดในชีวิตก็คือ อยากเห็นหน้าน้องจูนอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาได้แต่ใช้มือคลำนึกภาพลูกมาตลอดเกือยสิบปีแล้ว ลูกสาวที่แกเห็นหน้าครั้งสุดท้ายตอนสองขวบ ผมคิดว่าถ้าได้เห็นหน้าลูกอีกครั้ง ตาแกจะบอดไปอีก ( ซึ่งคุณหมอของเราก็บอกแกก่อนหน้านี้แล้วว่าต้องทำใจ) แกก็คงพอใจแล้วหละ
โดย: LEX (เจ้าบ้าน ) [29 ส.ค. 48 22:44] ( IP A:61.91.163.226 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   ที่ชายฝั่ง เชสซาพีค ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ทำได้แค่คอยเฝ้าดู และคาบคนที่จมน้ำลากขึ้นฝั่ง

หน้าที่ CPR ผายปอด มันทำไม่เป็น

มันทำได้คือกลับไปลากคนที่เหลือมาขึ้นฝั่งอีก จนกว่ามันจะหมดแรง
.
.
โดย: Not only a \"watch\" dog (เจ้าบ้าน ) [29 ส.ค. 48 23:22] ( IP A:61.91.161.215 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ช่วยตามข่าวบุตรชายของคุณดอกรักสองคนด้วยว่าหายไปไหน เพราะพ่อก็ไม่อยู่ทำร้ายแล้วนี่ครับ อยากทราบรายละเอียด
โดย: เป็นห่วง [31 ส.ค. 48 21:10] ( IP A:202.142.219.172 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   คิดว่าถ้ายังอยู่ก็คงกลับมาขอเงินนะ
โดย: . (เจ้าบ้าน ) [4 ก.ย. 48] ( IP A:61.91.162.147 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน