และถามเรื่องcaseคนไข้ ถามความเห็นเจ้าบ้านด้วย
   เมื่อไม่นานนี้ มีคนไข้คนนึง ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง อาการหนักพอสมควร ต้องให้ยาตลอดเวลา(drip continuous)
ได้ทำการอธิบาย อาการโรค ระยะโรค การรักษาที่ให้ไป แผนการรักษา และprognosisของโรคแล้ว ไปทั้งสิ้น3ครั้ง ครั้งที่สามที่ไปอธิบาย ญาติและคนไข้รำคาญและบอกว่าจำได้แล้ว ไม่ต้องอธิบายเพราะเบื่อแล้ว ถามว่าเข้าใจแน่หรือไม่หรือมีอะไรสงสัย ก็บอกว่าไม่สงสัย
คนไข้และญาติต้องการย้ายไปรพ.ในกรุงเทพเนื่องจากเชื่อว่าทางนั้นรักษาดีกว่า (แต่ติดเรื่องระบบ ที่ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าระดับtertiary care ก็ไม่จำเป็นต้องส่ง และอาการไม่ได้stableพอ อธิบายแล้วก็เข้าใจสาเหตุที่ส่งต่อไม่ได้)

ในเวชระเบียน เขียนไปแล้วว่าadviceเรื่องไหนบ้าง ทั้งสามวัน

หลังจากนั้นคนไข้ออกจากwardที่ดู ไปรักษาอีกที่ มีโทรศัพท์มาถามว่า ให้คำแนะนำอย่างไรไป เพราะคนไข้และญาติ ยืนยันว่าตั้งแต่มานอนรพ. หมอไม่เคยพูดอะไรด้วยเลย เอาแต่เดินมาดูแล้วก็ไป ไม่บอกว่าเป็นโรคอะไร ไม่เคยบอกอะไรแม้แต่อย่างเดียว นอกจากบอกว่าจะส่งไปกรุงเทพ

รายนี้เป็นรายที่หนักที่สุดครับ อธิบายอย่างกับสอนนักศึกษาแพทย์ด้วยภาษาชาวบ้าน มีการถามทวนถึงความเข้าใจซึ่งญาติตอบกลับมาได้ด้วยคำพูดของตนเอง แต่กลับไปโพทะนาว่า หมอไม่เคยคุยด้วย

นอกจากนี้ที่นอนอยู่ก็ไปอ้างแบบนี้อีกสองสามราย มีรายนึงพูดด้วยทุกวัน แต่กลับไปบอกญาติที่มาเยี่ยมว่าหมอไม่เคยคุยด้วย พอญาติมาเอาเรื่อง ก็เลยจับเดินไปที่เตียง แล้วลองถามดูว่า "คุณเป็นโรคอะไร และที่หมอบอกไปเมื่อเช้า จำได้ไหม" ก็ตอบได้ตรงหมด.....(แต่หนอย พอญาติมาถาม ก็บอกว่าเราไม่ได้บอก จนเกือบเกิดเรื่อง

ถามว่าประเด็นนี้จะเห็นว่าอย่างไร
โดย: หมอจริงๆนะ ข้างล่างน่ะ [6 ม.ค. 49 15:09] ( IP A:125.25.8.191 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   ถ้าฟังคุณหมอบอกว่าพูดแล้วก็พูดแล้วไม่มีปัญหาอะไร
แล้วผมจะไปเชื่อหรือไม่เชื่อหมอได้อย่างไร หมอพูดคนเดียว
เอาคนไข้มายืนยันซิ
และเอาเวชระเบียนมาดู ว่าเขามีปัญหาอะไร ใครพูดอะไร
ปกติพยาบาลเขาก็จะบันทึกได้ด้วย
ถ้าเป็นปัญหาร้ายแรงได้ หมอก็ต้องเขียนเป็นหนังสือข้อความสั้นๆพอเข้าใจแล้วให้คนไข้เซ็นชื่อรับทราบ(หรือญาติ)
ถ้าเป็นเรื่องไข้ หรือเรื่องอุบัติเหตุสมอง ก็ชี้แจงพร้อมแบบฟอร์มสั้นๆที่อธิบายอย่างเข้าใจแล้วให้คนไข้เซ็นรับทราบ แล้วเก็บไว้ในเวชระเบียน
ที่หมอพูดมาทั้งหมด ถ้าเอาตามหลักเหตุผล บอกได้คำเดียวว่าฟังหมอไม่ได้แม้แต่คำเดียว ถ้าไม่มีญาติมาโต้แย้งกันต่อหน้าหรือไม่มีเวชระเบียนมาดู ถ้ามีพยาบาลบันทึกเข้าได้กับฝ่ายใดก็เชื่อฝ่ายนั้น เว้นแต่บันทึกปลอมทำทีหลัง แต่ก็ดูจากอย่างอื่นได้ ดูการรักษาได้
ปกติ เราก็ไม่เชื่อใครจนกว่าจะได้ฟังทั้งสองฝ่ายและดูเอกสารหลักฐานแล้วก็มาว่ากันอีกที ถ้าสงสัยก็ยกประโยชน์ให้จำเลย(หมอ)
โดย: jjxyz [6 ม.ค. 49 16:02] ( IP A:58.10.74.153 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   แปลกมากครับ เคสนี้ไม่ทราบว่ายาที่ให้มากๆนั้นมี ผลต่อสมองหรือความจำของคนไข้หรือเปล่า อาจเป็นภาวะ delirium ก็ได้
โดย: เจ้าบ้าน [6 ม.ค. 49 19:33] ( IP A:61.91.162.105 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   เคสนี้เป็นทั้งญาติและคนไข้ คงไม่เกี่ยวกับยากระมัง

แต่ว่าถ้าอย่างที่ว่ามาคือต้องให้ญาติและคนไข้เซ็นไว้ด้วย งั้นก็คงเหลวครับ
ไม่มีลายเซ็นญาติ
ถึงมีเขียนและมีพยานว่าadviceจริง ก็คงหาว่าสร้างหลักฐานปลอมอีก
เซ็ง.....
โดย: เบื่อ [9 ม.ค. 49 13:11] ( IP A:125.25.8.191 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   ปกติเวลาคุยกับคนไข้และญาติก็ไม่มีรพ.ไหนเขาเซ็นชื่อกันหรอกครับ ผมคุยกับคนไข้ อธิบายญาติก็ไม่ได้เซ็นชื่อ รึว่าเดี๋ยวนี้จะทำอะไรก็ต้องเซ็นชื่อกันทั้งหมด
ต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกันขนาดนั้นเลยรึ
โดย: 111 [11 ม.ค. 49 17:22] ( IP A:58.147.11.187 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   วันหลังหมออัดเทปสิครับ เอา 2 ก็อปปี่นะ ก็อปปี่แรกให้ผู้ป่วยเก็บไว้ฟังซ้ำๆ ทบทวนความจำ อีกก็อปปี หมอหรือโรงพยาบาลเก็บไว้เป็นหลักฐานยืนยัน ไม่กี่ตังหรอกลงทุนหน่อย บอกผอ.โรงพยาบาลว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่าเสียเวลา และไม่ต้องมารำคาญพวกนี้ ที่อเมริกาใช้แล้ว
โดย: หมอไทยในอเมริกา [15 ม.ค. 49 15:22] ( IP A:24.127.180.140 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ดีเหมือนกันนะ อัดเทปอธิบายโรคน่ะ..............น่าคิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: stellmed@gmail.com [29 ม.ค. 49 12:56] ( IP A:203.151.76.2 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน