ให้ยาผิดลูกป่วยเรื้อรัง แม่ต้นกล้าปัดไกล่เกลี่ย เรียก11ล้านจากสธ.
   ให้ยาผิดลูกป่วยเรื้อรัง แม่ต้นกล้าปัดไกล่เกลี่ย เรียก11ล้านจากสธ.
คดีฟ้องกระทรวงสาธารณสุข เหตุจ่ายยากันชักให้ลูกชาย ทำเอาเด็กแพ้ยาป่วยเรื้อรัง พิการตลอดชีวิต แม่เรียกค่าเสียหาย 11 ล้านบาท ตัวแทน สธ.เข้าหารือกับแม่น้องต้นกล้า หวังไกล่เกลี่ยเรื่องก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการของศาล สุดท้ายครอบครัวยืนยันขอสู้ถึงที่สุด


กรณี นางอัญชลี เกษวิชิต อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.อ.เมือง สุราษฎร์ธานี เพื่อเอาผิดกับแพทย์ประจำโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พร้อมยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท ฐานที่สั่งจ่ายยากันชักให้กับ ด.ช.ภูวริช เกษวิชิต หรือน้องต้นกล้า อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนอนุบาลบ้านเด็ก อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ ด.ช.ภูวริช มีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง เป็นแผลตามผิวหนังและดวงตาแห้ง ลืมตาแทบไม่ขึ้น รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี น.พ.บรรพต ต้นพีระวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนคณะอนุกรรมการการไกล่เกลี่ย กระทรวงสาธารณสุข พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นัดหารือกับ นางอัญชลี เกษวิชิต เพื่อไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับคดีความดังกล่าวเพื่อยุติกระบวนการทางศาล โดยห้ามผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังการเจรจาในครั้งนี้เพราะเป็นการเจรจาทางลั บ ทั้งนี้ใช้เวลาในการเจรจาร่วม 90 นาทีจึงสิ้นสุดลง

นางอัญชลี เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงสาธารณสุขนัดไกล่เกลี่ยนั้น เชื่อว่าเพื่อต้องการให้ยุติกระบวนการทางศาลในระดับหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องถอนคำฟ้อง ซึ่งก็เข้าใจในส่วนนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ต้องการจะฟ้องร้องเอาผิดแพทย์หรือใคร แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บุตรชายต้องพิการไปตลอดชีวิต ที่สุดแล้วจึงขอปฏิเสธที่จะไกล่เกลี่ยอย่างถึงที่สุด และจะต่อสู้ในเรื่องนี้เพื่อบุตรชายเท่าที่กฎหมายจะให้ความเป็นธรรมได้

"อาการของน้องต้นกล้าในตอนนี้ สภาพทางผิวหนังเริ่มดีขึ้นตามลำดับ แม้ว่าจะกะดำกะด่างทั้งตัวก็ตาม แต่ก็ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องทาโลชั่นต่อเนื่องทุกวัน ถูกแดดไม่ได้ ส่วนอาการทางตายังต้องหยอดน้ำตาเทียม เพียงแต่ตอนนี้น้องต้นกล้าเริ่มปรับตัวได้ในระดับหนึ่ง และร่าเริงขึ้นกว่าเดิม" นางอัญชลี ระบุ

ด้าน น.พ.บรรพต กล่าวว่า อีก 2 สัปดาห์จะติดต่อมาทางนางอัญชลีอีกครั้ง เพื่อเจรจาในเรื่องนี้
โดย: jjxyz [2 ก.ย. 48 19:13] ( IP A:61.90.96.65 X: )
Add to Facebook  Add to Twitter  Add to Multiply  Add to Google  Add to Blogger  Add to Live
ความคิดเห็นที่ 1
   หัวอกแม่ ขอให้กำลังใจแม่น้องต้นกล้าด้วยคน
โดย: เข้มแข็งนะ [2 ก.ย. 48 23:27] ( IP A:61.90.15.190 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
   ฟ้องไปเหอะครับ เครือข่ายเป็นตัวแทนเลย
เวลาถูกฟ้องกลับจะได้ช่วยจ่าย
ศึกษาดูดีๆนะครับก่อนฟ้อง
โดย: ผมเอง [3 ก.ย. 48] ( IP A:203.144.193.54 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
   หยั่งงี้ต้องฟ้องให้ถึงที่สุด ชนะแน่ๆ
ถ้าได้น้อยกว่า 8 แสน ถือว่าขาดทุน
โดย: Fifth line [6 ก.ย. 48 15:32] ( IP A:61.7.131.145 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
   เอาเลยครับฟ้องเลย อย่างนี้แบเบอร์ จะได้เท่าไรก็คอยลุ้นกันอีกที ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ระวังเรื่องฟ้องกลับด้วยนะ ดูข้อมูลละเอียดๆ ปรึกษาผู้รู้ ศึกษาหาความรู้ดีๆ โดนฟ้องกลับเดี๋ยวอ่วมกลับมาอาจขาดทุนบักโกรกได้
โดย: ผ่านมา [6 ก.ย. 48 21:31] ( IP A:203.188.53.22 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
   ที่อเมริการ หมอฟ้องคนไข้แทบไม่เคยชนะเลย
เพราะศาลเห็นว่าหากให้คนไข้แพ้ อีกหน่อยจะไม่
มีใครกล้าลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์

แต่หมอก็มีสิทธิ์ฟ้องนะ ไม่ใช่ไม่มี แต่ถ้าไม่ใช่
เรื่องจริง ก็ระวังเจอคดีฟ้องเท็จ

มีหมอที่ปราจีณบุรี ฟ้องกลับคนไข้ตั้ง 2 ร้อยกว่าล้าน
ฟ้องนายอำเภอ พ่วงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และข่าวสดด้วย
รวมแล้วหมอฟ้องคนไข้ 3 คดี

ขึ้นศาลอ่วมเลย แกคงคิดว่าคนไข้จะกลัว
แต่เปล่า เพราะคนไข้มีชีวิตเป็นทุนเขาไม่มีอะไรจะเสีย
เพราะคนไข้เสียขา และลูกในท้อง คนไข้ยากจนมาก

อนิจจา หมอแกไปเชื่อทนายและใครบางคนที่วิ่งรอก
ไปเป็นพยานให้แก

เลยหาจุดบรรจบ คุยกันกับคนไข้ไม่รู้เรื่อง
เพราะหมอแกไม่เคยคุยกับคนไข้ดี ๆ เลย
โดย: อนิจจา [7 ก.ย. 48 10:30] ( IP A:58.11.10.160 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
   ไม่กลัวครับถ้าหมอไม่ผิด ฟ้องมาเหอะ จะฟ้องกลับเช่นกัน
อ้อ รวยมาจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่ได้ทำคลินิกหรือเอกชนครับ
โดย: มีปัญญาเสียค่าทนาย [8 ก.ย. 48 1:00] ( IP A:203.118.72.1 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
   ฟ้องมาเลย อาจเสียค่าทนาย ค่าขึ้นศาลฟรีๆ หลายแสนบาท เอาอย่างนี้ดีกว่า คุณลองไปยืนริมถนน แล้วชี้บอกว่าใครเกิดวันใหนได้ถูกต้องหมด หมอคงรู้หรอกว่าคนใครแพ้ยาอะไร ถ้าคนไข้บอกว่าแพ้ยาอะไรแล้วหมอยังดันทุรังให้อย่างนี้หมอก็ผิดเต็มประตู แต่ไม่รู้มาก่อน ใครจะรู้ได้ อยากฟ้อง ก็เชิญตามสบาย แล้วก็คงต้องย้ายเมืองหนี เพราะไม่มีหมอคนใหนจะกล้ารักษาให้อีกแล้ว เขากลัวถูกฟ้อง เสียเวลา
โดย: ผ่านมา [9 ก.ย. 48 21:41] ( IP A:203.188.47.203 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
   เอ่อ รายนี้ไม่ใช่แค่ว่า "ไม่สามารถเดาได้ว่า ผู้ป่วยรายใดจะแพ้ยาไหน"
แต่เป็นกรณีที่ว่า หมอวินิจฉัยล่าช้าด้วย
ผมว่า ไปคุยกันในศาลก็ดีครับ จะได้เอาหลักฐานมาดูกันว่า
1. วินิจฉัยล่าช้าแค่ไหน
2. การให้ยานั้นสมควรให้หรือไม่
3. หมอได้รักษาอย่างไรบ้าง หลังวินิจฉัยได้ว่าแพ้ยา
ถ้าหมอตอบได้หมด พวกบอกให้ฟ้อง ก็เอาหน้าไปมุดชักโครกที่บ้านด้วย
โดย: เบื่อ [10 ก.ย. 48 22:55] ( IP A:203.151.140.121 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
   ก็ฟ้องๆไปดิครับมา post หาอะไร
มั่นใจนักว่าชนะ ว่าหมอห่วยนักก้อ
โดย: รำคาญรีบฟ้องเร้ว [13 ก.ย. 48 2:06] ( IP A:203.118.72.116 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
   วันหลังก็บอกหมอว่า
ปล่อยให้ลูกฉัน ชักจนตายเถอะคะ
จะได้ไม่แพ้ยากันชัก

หมอเขาจะได้เอาเวลาไปรักษาคนป่วยคนอื่น
โดย: ตาสว่างกันบ้างนะ [19 ก.ย. 48 20:29] ( IP A:202.12.97.119 X: )

คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน