consumer.pantown.com
Thai Iatrogenic Network รวมกระทู้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ <<
กลับไปหน้าแรก
เอามาฝากอีก
คนไข้ช็อก...หมอป่วย !"พินิจ" จับมีดผ่าตัด "แพทยสภา"
ด้วยท่าที แบบนักการเมืองแท้ๆ ของ "พินิจ จารุสมบัติ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทำให้สถานการณ์ที่เปราะบางระหว่างแพทย์กับคนไข้ ซึ่งไล่ตามฟ้องร้องเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ร้อนระอุขึ้นมาทันที !!
การทุบโต๊ะฟันธง !! แพทย์ผิด กรณี "น้องเซน" ด.ช.พีรชัช ชนะราวี อายุ 1 ปี 9 เดือน เสียชีวิต จากการไม่รับรักษาของ รพ.สมุทรปราการ
คือที่มาของความขัดแย้ง ระหว่างแพทย์แท้ๆ กับนักเมืองเพียวๆ ที่สร้างความอึดอัด คับข้องใจให้กับแพทย์วิชาชีพ อย่างแพทยสภาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แน่นอนว่า กรณีน้องเซน อาจไม่ใช่ กรณีแรก...
หากว่า ที่ผ่านมา ข่าวการร้องเรียนแพทย์ที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันถูกนำเสนออย่างต่อเนื่อง คงเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีถึงวิกฤติความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ นับวันจะเริ่มรุนแรงมาก
ช่องว่างความไม่ไว้วางใจระหว่างหมอกับคนไข้ ถูกเปิดกว้างขึ้น !!
จากท่าทีการบริหารงาน แบบนักการเมือง ที่ต้องโอนอ่อนผ่อนตามกระแสสังคมก่อนเรื่องอื่นใด ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่ส่งผลให้มีจำนวนการฟ้องร้องแพทย์และระบบการรักษาพยาบาลเพิ่มตามมา
ความขัดแย้งระหว่าง แพทย์กับนักการเมือง มีท่าทีจะไม่หยุดลงง่ายๆ เมื่อ "พินิจ" ออกมาประกาศอีกครั้งว่า จะให้เวชระเบียนหรือข้อมูลเป็นสิทธิผู้ป่วย
ประเด็นนี้แพทยสภาไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเวชระเบียนเป็น สิทธิของแพทย์ ที่จะไม่ต้องเปิดเผยก็ได้
ศึกงัดข้อดังกล่าว มีท่าทีลุกลามไปกันใหญ่ หากไม่ได้ ศ.น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เข้ามาเป็นกรรมการไกลเกลี่ย จัดประชุมร่วมระหว่าง "พินิจกับแพทยสภา"
จะว่าไปแล้วหากฟังความหลายด้าน ใช่ว่า กลุ่มผู้ป่วยจะต้องการฟ้องแพทย์
เพราะหากฟังจากคำบอกเล่า ของกลุ่มเครือข่ายผู้ได้รับความเสียหายจากการบริการสุขภาพ ที่ต่างระบายความในใจ สาเหตุที่ต้องฟ้องร้องแพทย์
ไม่เพียงผลกระทบจากการรักษาทั้งทางกายและจิตใจ การสูญเสีย บุคคลอันเป็นที่รักแล้วเท่านั้น
หากยังรวมถึงคำพูดและท่าทีของแพทย์เอง ก่อให้เกิดปัญหา ไม่สื่อสารให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อผู้ป่วยและญาติภายหลังเกิดความบกพร่องทางการรักษาขึ้น
สิ่งที่ผู้ป่วยได้รับ คือ อาการท้าทายของแพทย์ ดังที่ น.ส.สิริมาศ แก้วคงจันทร์ หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสุขภาพ ที่ฟ้องแพทย์กรณีที่แม่ช็อกเสียชีวิตจากการผ่าตัดไส้ติ่ง
เนื่องจากถูกแพทย์ที่ทำการรักษาเป็นผู้ท้าให้ฟ้อง
ต่อมาจึงได้เข้าร้องเรียนต่อแพทยสภา แต่ผลพิจารณาออกมาว่าไม่มีมูล ทำให้ต้องยื่นฟ้องต่อศาล
ขณะที่ฝ่ายแพทย์เองก็มีความอึดอัดกับภาระที่จะต้องแบกรับ การรักษาพยาบาลผู้ป่วยวันละถึง 200 คน ทำให้มีเวลาวินิจฉัยคนไข้แค่คนละ 2-3 นาทีเท่านั้น
และนั่นคือที่มาของความผิดพลาด
โดยจากข้อมูลของ พ.ญ.ประสบศรี อึ้งถาวร รองเลขาธิการแพทยสภา ชี้ให้เห็นถึงการบีบรัดของระบบที่จำกัด โดยเฉพาะแพทย์ ซึ่งทั่วประเทศมีเพียง 30,000 คน แต่ต้องรับผิดชอบผู้ป่วยจำนวนมาก
สรุปแล้ว แพทย์มีเวลาการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยเพียงแค่ 3 นาทีต่อราย
ขณะที่ประเทศสหรัฐ ใช้เวลาตรวจรักษาผู้ป่วยถึง 20 นาทีต่อราย
ที่สำคัญคือ ปัจจุบันพบว่า แพทย์เองเริ่มป่วยเป็นโรคหัวใจมากขึ้น จากการทำงานหนักต่อเนื่องไม่มีวันหยุด ขาดการพักผ่อน
และเมื่อแพทย์เครียด จึงเลือกที่จะหนีปัญหา...
โดยจะพบว่า โรงพยาบาลชุมชน ขณะนี้ ไม่กล้าผ่าตัด เลือกส่งผู้ป่วย รักษาต่อยังโรงพยาบาลจังหวัด เพราะเกรงถูกฟ้องร้อง
แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้น่าเป็นห่วงสำหรับผู้ป่วยเอง
"สันดานแพทย์จะฆ่าใครคงไม่มี แต่ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นจากการวินิจฉัยผิด หรือประมาท เนื่องจากต้องดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้ถูกฟ้องโดยผู้ป่วยเอง
ใครคิดบ้างว่า เรียนเป็นแพทย์มาจะต้องถูกจับใส่กุญแจมือเข้าคุก หากฟ้องร้องขอให้เป็นคดีแพ่ง อย่าถึงขั้นอาญา เพราะแพทย์เองมีเจตนาที่ดีในการรักษา"
นี่คือมุมมองของ น.พ.พินิจ หิรัญโชติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม
อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งคงไม่สามารถที่จะยุติกันได้ หากทั้งสองฝ่ายไม่ปรับท่าทีเข้าหากัน ตามที่กรรมการกลางอย่าง ศ.น.พ.ประเวศ ตั้งกติกาขึ้น
โดยเบื้องต้น ต้องเริ่มจากความเห็นอกเห็นใจกัน ทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการทางการแพทย์
รวมไปถึงการจูนคลื่นในระบบสื่อสาร เพื่อไม่ให้เกิดเส้นแบ่งระหว่างแพทย์กับคนไข้
และแน่นอนว่า การลดท่าทีแบบนักการเมือง ที่มุ่งจะโกยต้นทุนสังคมจากภาวะเช่นนี้ จะช่วยสร้างความเข้าใจ และกอบกู้สถานการณ์ "หมอป่วย" ได้เยอะทีเดียว !!!
โดย: y [15 ก.พ. 49 22:15] ( IP A:61.90.96.108 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
หมอป่วย เพิ่งจะมาป่วยก็คราวที่ผู้ป่วยในสังคมลุกฮือขึ้นมาสู้
กับความชุ่ยที่ผิดพลาดกันมานาน แล้วสังคมไม่มีปากไม่มีเสียง
พอเขาสุดจะทน ก็อย่ามาอ้างว่า "หมอป่วย" มันน่าขำ
จำนวนคนในสังคมป่วยมากกว่า และป่วยมานานแสนนาน
และทุกคนก็อดทน กล้ำกลืนกันมานาน
ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องผ่าตัดวงการแพทย์เสียที
หมอดี ๆ เขาจะได้ทำงานสบายใจ
บอกตรง ๆ แพทยสภานี่แต่ละคน พูดอะไรไม่มีใคร
เขาฟังแล้ว เครดิตไม่มี อย่าตะแบงบิดเบือนกันให้อายหน้าเลย
คนเขาส่ายหน้า ส่ายหัว ก็ยังพูดเรื่องแบบนี้กันอีก อย่างหนึ่ง
ที่จะบอกก็คือ พวกคุณเก่ง ฉลาด แต่ไม่มียางอาย
โดย: เบื่อพวกแพทยสภา [16 ก.พ. 49 5:44] ( IP A:61.90.14.30 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
ผมเป็นแพทย์ที่ยังสนุกกับการรักษาผู้ป่วย
แต่การที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยหลากหลายมากบางครั้งก็สื่อสารกับผู้ป่วยบางคนลำบาก
เวชระเบียนเป็นของใครผมไม่แคร์แต่ขอสิทธิ์ที่จะไม่รักษาผู้ที่ไม่ไว้ใจผมแค่นั้นก็พอได้ไหมครับ
โดย: สมาชิกแพทยสภา [16 ก.พ. 49 8:44] ( IP A:202.149.122.18 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
ได้ครับถ้าไม่ฉุกเฉิน และมีเหตุผลอันสมควร โดยเฉพาะถ้าอยู่เอกชน แต่ถ้าอยู่รัฐบาลคงไม่ได้ เพราะกินภาษีชาวบ้านไปแล้ว ส่วนเอกชนนั้นเงินเดือนหมอ ประชาชนยังไม่ได้จ่าย ไม่ทำก็ได้
โดย: jjxyz [16 ก.พ. 49 10:36] ( IP A:61.90.96.245 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
ชอบเอามาอ้างกันจังเลย เรื่องผ่าไส้ติ่งที่นครศรีฯ เอามาผสมกับแพทย์ไม่มีเวลา คนไข้เยอะ ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น
คนไข้และญาติไม่อยากผ่าที่นั่น แต่แพทย์อยากผ่ามากๆ ไม่ยอมเขียนใบรีเฟอร์ให้อีกต่างหาก ที่เสียชีวิตเพราะไม่เตรียมออกซิเจนไว้แก้ไขตอนคนไข้ช็อก ไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีรองรับ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร แค่เช็คแรงดันถังออกซิเจนก่อนพร้อมกับมียาเพิ่มความดันเตรียมไว้ก็จะไม่แพ้คดี ประมาท
คดีเมียนายบุญชู สีสมน้อย ที่อุดรธานี ก็มาตะเภาเดียวกันเลย
โดย: เบื่อๆๆๆ เทปม้วนเก่า [16 ก.พ. 49 21:24] ( IP A:58.9.176.234 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ไร้สาระ
โดย: เถียงกันอยู่ได้ [17 ก.พ. 49] ( IP A:203.170.228.172 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
คห.4 และพวกคุณในเครือข่ายได้สมใจแล้วนิ เดี๋ยวนี้รพ.อำเภอหลายที่เค้าเลิกผ่าตัดกันเกือบจะหมดแล้ว รอแต่รีเฟอร์ไปรพ.จังหวัดโลด ไม่ต้องคิดมากอีกต่อไป ให้คนไข้ไปออกันรอผ่าตัดที่รพ.จังหวัดแทน
งานนี้...ไม่คนไข้ (ทั้งฉุกเฉินและไม่ฉุกเฉินที่รอคิดผ่าตัดกันเป็นหางว่าว )หรือหมอที่รพ.จังหวัดก็คงตายกันไปข้างนึง
นี่ไงผลงานของท่านในเครือข่าย คงบรรลุจุดประสงค์ไปขั้นนึงสินะ
โดย: สมใจแล้วนิ...ยังจะเอาอะไรอีก [17 ก.พ. 49 1:11] ( IP A:203.170.228.172 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
เหอๆ
โดย: jjxyz [17 ก.พ. 49 3:11] ( IP A:61.90.96.199 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
คห.4 และพวกคุณในเครือข่ายได้สมใจแล้วนิ เดี๋ยวนี้
รพ.อำเภอหลายที่เค้าเลิกผ่าตัดกันเกือบจะหมดแล้ว รอแต่รีเฟอร์ไปรพ.จังหวัดโลด
ไม่ต้องคิดมากอีกต่อไป ให้คนไข้ไปออกันรอผ่าตัดที่รพ.จังหวัดแทน
มันน่าจะคิดทำอย่างนี้ตั้งนานแล้ว คนไข้ไม่ใช่ผักปลา ไม่พร้อมก็ยังชอบลองวิชา
โดย: เทปม้วนเก่า [17 ก.พ. 49 9:20] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 9
โรงพยาบาลไหนไหนมันก็ออกันทั้งนั้นละครับอาคุงหมอ
แต่ออแล้วตาย กับออแล้วหาย จะออแบบไหน
โดย: jjxyz [17 ก.พ. 49 18:22] ( IP A:61.90.98.215 X: )
ความคิดเห็นที่ 10
ตักน้ำรดหัวตอจริงๆ
ขอยอมยกธงให้กับคนในเครือข่าย...
โดย: เบื่อที่ต้องมาเถียงละ [17 ก.พ. 49 19:55] ( IP A:61.19.24.10 X: )
ความคิดเห็นที่ 11
5555555555555
5555555555555
หัวตอ หัวเราะ
555555555555
555555555555
หัวเราพวกที่เบื่อเรา
เขานึกว่าพวกเราไม่เบือเขา
โดย: 5555555 [17 ก.พ. 49 20:52] ( IP A:61.91.160.186 X: )
ความคิดเห็นที่ 12
คห.4 และพวกคุณในเครือข่ายได้สมใจแล้วนิ เดี๋ยวนี้ รพ.อำเภอหลายที่เค้าเลิกผ่าตัดกันเกือบจะหมดแล้ว รอแต่รีเฟอร์ไปรพ.จังหวัดโลด ไม่ต้องคิดมากอีกต่อไป ให้คนไข้ไปออกันรอผ่าตัดที่รพ.จังหวัดแทน
มันน่าจะคิดทำอย่างนี้ตั้งนานแล้ว คนไข้ไม่ใช่ผักปลา ไม่พร้อมก็ยังชอบลองวิชา
===>> คิดอย่างนี้จริงหรือ อยู่รพ.ชุมชนอย่างน้อยแพทย์จบมา 2 ปีขึ้นไป ไปรพ.จังหวัด คนที่ผ่าไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางค่อนข้างแน่ครับแค่เคสไส้ติ่งเนี่ย คนผ่าจริงๆคือใช้ทุนปี 1 หรือ นักศึกษาปี 6 ประสบการณ์น้อยมากๆ
ที่นั่นต่างหาก ที่ลองมือของจริง ก่อนเขาจะส่งพวกผ่านการลองมาแล้วไปรับผิดชอบตัวเองข้างนอก
โดย: จริงๆนะ [18 ก.พ. 49 7:52] ( IP A:202.28.181.9 X: )
ความคิดเห็นที่ 13
แต่อย่าลืมว่า รพ.จังหวัดความพร้อมของเครื่องไม้เครื่องมือครบ และมีผู้เชี่ยวชาญฯรับผิดชอบอยู่
โดย: ก็น่าจะรู้ [21 ก.พ. 49 9:17] ( IP A:210.86.181.20 X: )
ความคิดเห็นที่ 14
ความเห็น 6
เราไม่ถือว่าเป็นผลงานหรอก
เพราะเราไม่ได้เอาไปขอเงินใคร
หรือเราจะไปสมัครเป็นนักการเมือง
เพราะเราเลียใครไม่เป็น เราตีสองหน้าไม่เป็น
รู้เอาไว้เสียด้วย
โดย: ไม่ใช่ผลงาน 555 [1 มี.ค. 49 8:12] ( IP A:61.90.21.128 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน