consumer.pantown.com
Thai Iatrogenic Network รวมกระทู้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ <<
กลับไปหน้าแรก
ถ้าสื่อยังถล่มหมอแบบนี้ อะไรจะเกิอขึ้น
คนที่เรียนมาเป็นหมออาจมีเป้าหมายต่างๆกันไป บางคนชอบเป็นหมอ (ลองถามตัวคุณเองว่าทำไมเราจึงชอบบางสิ่งบางอย่างโดยไม่มีเหตุผล) บางคนเห็นว่าอาชีพที่มั่นคง (ยังไงก็มีงานทำ) บางคนคิดว่ามีรายได้ดี (ถ้าได้เป็นหมอดังๆ ทำงานในรพ.เอกชน ส่วนรพ. รัฐเงินเดือนไม่ต่างกับรราชการอื่นมากนักเมื่อเทียบกับชั่วโมงการทำงานต่อวัน) บางคนคิดว่าเป็นงานมีเกีรติคนนับถือ แต่ปัญหาของอาชีพนี้คือ หมอกำลังทำงานกับชีวิตคน (อยู่หรือตาย) การผ่าตัดล้วนแต่มีความเสี่ยง ถ้าคุณรักษาหายคุณก็ได้รับความนับถือเหมือนเทวดา ถ้าคุณรักษาคนไข้ตายหรือไม่หาย (คุณแทบจะเป็นปีศาจ ) ปัญหาถัดมาคือมีโรคมากมายที่คุณไม่รู้สาเหตุ หาสาเหตุไม่พบ บางโรคกว่าจะพบก็สายเกินไป หรือบางโรคแม้จะรู้ก็ไม่มีทางรักษาได้ แม้จะรักษาสุดฝีมือ (หลายกรณีใช้หมอเป็นคณะ รักษา) คนไข้ก็ยังตาย หมอหรือคนที่คิดจะเรียนเป็นหมอเริ่มถามตัวเองว่าจะทำอย่างไรดี คำตอบคือ คนที่ไม่ชอบอาชีพนี้จริงๆคงเลือกอาชีพอื่นแทน คนที่เป็นหมออยู่แล้วก็เริ่มหาวิธีป้องการตัวเอง (ธรรมชาติของ *** โลก) เช่นทำน้อยผิดน้อยทำมากผิดมาก (ทำอย่างไรที่ไม่ผิดระเบียบเป็นใช้ได้ ที่คนไข้ฟ้องร้องไม่ได้) หรือหารายได้มากๆให้คุ้มกับการถูกฟ้อง
ในเมืองไทย คนที่จะเรียนเป็นหมอ อาจพูดได้ว่าเป็นนักเรียนพวกที่เรียนเก่ง (สาขาอื่นก็มี เพราะเขาไม่ชอบเป็นหมอ) เพราะเป็นสาขาอาชีพที่ต้องศึกษาอย่างมาก เนื้อหามาก และมีตัวแปรมาก ความไม่แน่นนอนมาก มีหลายๆกรณีไม่อาจตอบได้ว่าเป็นขาวหรือดำ (เพราะถ้าแยกแยะได้แบบคณิตศาสตร์ เราคงสามารถให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตรวจแทนหมอได้ทั้งหมด หลายกรณีต้องต้ดสินใจ ด้วยสถิติ ข้อมูลทางการแพทย์ในอดีต ตั้งข้อสงสัยในอาการ โอกาศผิดพลาดย่อมเกิดได้เสมอ (โรคในลักษณะนี้หมอ ต้องใช้ความสามารถอย่างสุดๆ และมีโอกาศถูกฟ้องมากที่สุด) และแน่นนอนเราใช้คนเรียนเก่งๆ กับคนเรียนไม่เก่ง มาตัดสินเรื่องแบบนี้คุณจะเลือกคนกลุ่มไหนดี และถ้าคนเก่ง (คนเรียนเก่งน่าจะฉลาดกว่า อาจไม่เสมอไป แต่เปอร์เซ็นน่าจะฉลาดมากกว่า) ไม่มาเป็นหมอ มีแต่คนไม่ค่อยเก่งมาเป็นหมอ คุณภาพหมอคงต่างออกไป
เมืองไทยยังโชคดีที่มีคนเก่งมาเป็นหมอ (และความรู้ทางการแพทย์ไม่แพ้ประเทศอื่น) แต่มีข้อด้อยของตัวหมอเอง คือ " ท่าที " ไม่ว่าการพูดจา ท่าที การวางตัว สีหน้าไม่เป็นมิตร เฉยเมย ไม่ใส่ใจพูดคุย ไม่ถามแม้เรานั้งรอนานแสนนาน นัดไม่เป็นนัด เวลาของคนไข้ดูไม่มีค่า (หมอและ รพ. บางแห่ง) ความกดดันเหล่านี้ถูกสะสมอยู่ในตัวคนไข้เอง ญาติคนไข้ (ไม่หาหมอก็ไม่ได้) และสุดท้าย ถ้าผลการรักษาไม่ประสพความสำเร็จ หรือถึงขั้นตาย มันก็เหมือนทำนบผังทลาย และไม่รู้จะไปด่าหมอเรื่อง "ท่าที "ได้อย่างไร ก็ต้องหาเรื่องถึงวิธีการรักษา ผลการรักษา ส่วนหมอเองก็คิดว่ารักษาดีที่สุด แล้วยังถูกต่อว่าฟ้องร้องอีกก็จะน้อยใจ เสียขวัญ ผมยังเชื่อว่าหมอเกือบทุกคนต้องการให้คนไข้หายจากโรค (เพราะถ้ารักษาไม่หาย ตัวหมอเองจะรู้สึกว่าต้วเองไม่เก่ง เหมือนสอบตก) ความไว้วางใจระหว่างคนไข้กับหมอน้อยลงทุกวัน คนไข้จะฟ้องไว้ก่อนเพราะรัฐบาลให้ท้าย (มีแต่ได้กับเสมอตัว) หมอเองก็หาทางป้องกันตัวเอง หรือถ้าเสี่ยงก็ต้องให้มีรายได้คุ้มกับการเสียงนี้( นี้เป็นสาเหตุหมอลาออกจาก รพ. ของรัฐ) และคนที่จะเข้ามาอาชีพนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นคนที่มีแนวคิดไปอีกแบบหนึ่งในอนาคต และคนที่จะได้รับผลกระทบคือชาวบ้านธรรมดา ที่ไม่มีญาติหรือเพื่อนที่เป็นหมอ
โดย: คนเดือนตุลา [20 ม.ค. 49 11:48] ( IP A:203.114.117.178 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
ผมว่าสื่อถล่มอย่างไร หมอก็ไม่เสียหายหรอกครับ คนไข้ก็ต้องพึ่งหมออยุ่ดี สิ่งที่ทำให้หมอเสียหายได้ก็มีแต่พฤติกรรมของหมอ เท่านั้นเอง
แต่ผมเห็นว่าควรผลิตหมอและพยาบาลให้มากกว่านี้ และให้ทำงานสบายหน่อย รกคนดีกว่ารกหญ้า เพราะผิดพลาดขึ้นมาความเสียหายมีมากกว่า ทั้งทางจิตใจและทางเศรษฐกิจ
สมมุติว่ามีคนไข้ตายเพราะหมอทั้งที่ป้องกันได้ปีละ 10000 คน ถ้าศาลให้จ่ายรายละ 1 ล้านโดยเฉลี่ย ก็ 1000 ล้าน เอามาผลิตหมอพยาบาลไม่ดีกว่าหรือ เงินตั้งเยอะแยะ
คนไข้แบบแม่ศิริมาศนอนโรงพยาบาล 1/2 เดือนหมดเท่าไหร ไอซียู ความศุนย์เสียทางเสรษฐกิจนั้นประเมินค่ามิได้ ควรหาทางผลิดหมอเพิ่มดีกว่า เหมือนถ้าไม่ลงทุนทำทางด่วน รถไฟฟ้า สพานข้ามแยก ก็ต้องเสียเงินเสียค่านำมันรถติด อันไหนจะคุ้มกว่ากัน
ใช้เงินแก้ไขความผิดพลาดและผลิตหมอและพยาบาลให้มากอีกหน่อยน่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไหนจะได้คนเพิ่มมาอีก
สมัยนี้เรียนหนังสือก็ไม่ใช่ยาก สื่อยุคอีเล็กโทรนิก ราคาถูก การสอนก็สามารถเรียนทางเน็ทได้ โอกาสกำลังมา ถ้ายังคิดแบบเดิมๆก็ ช่วยไม่ได้จริงๆ
โดย: jjxyz [20 ม.ค. 49 17:56] ( IP A:61.90.96.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
โทษที่ 10000 ล้านไม่ใช่พันล้าน
โดย: jjxyz [20 ม.ค. 49 17:57] ( IP A:61.90.96.41 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
เสนอทางแก้ไขวิกฤติ
ในแนวทางที่เป็นไปได้
ข้อเดียว แพทย์ทุกท่านต้องเรียกร้องให้ กระทรวงไม่มาไล่เบี้ยแพทย์ และทำประกันความเสียหายในการรักษาพยาบาลให้แพทย์ของรัฐทุกท่าน เอาเงินที่จะให้พิเศษนั่นแบ่งไปปีละสามสี่หมื่นคงไม่เดือดร้อนใครมากนัก
แพทย์ที่จะไหลออกไปเอกชนก็จะลดลง หรืออาจหมดไปเลย (ต้องขอโทษท่านประธานเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนเป็นอย่างยิ่ง)
ความเชี่ยวชาญก็จะตกผลึกอยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาล แพทย์ใช้ทุนก็จะได้มีแม่แบบที่ดี ปัญหาความผิดพลาดในระบบก็จะน้อยลง คนไข้ก็จะไว้วางใจโรงพยาบาลของรัฐ เมื่อผลการรักษาออกมาดี ปริมาณการรักษาโรคที่เกิดแทรกจากความผิดพลาดก็น้อยลง
การเรียกร้องแบบนี้คนไข้ทั้งประเทศจะช่วยสนับสนุนท่าน
โดย: . [20 ม.ค. 49 23:26] ( IP A:61.91.162.54 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่เห็นด้วยกับหมอ jjxyz หลายเรื่อง
สมัยนี้เรียนหนังสือก็ไม่ใช่ยาก สื่อยุคอีเล็กโทรนิก ราคาถูก การสอนก็สามารถเรียนทางเน็ทได้ โอกาสกำลังมา ถ้ายังคิดแบบเดิมๆก็ ช่วยไม่ได้จริงๆ
อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ตอนเรียนเคยมีอาจารย์บอกว่า วิชาแพทย์ เป็นวิชาที่ไม่สามารถเรียนได้โดยทางไปรษณีย์ครับ ต้องมีคนคอยสอน คอยจ้ำจี้จ้ำไช คอยcover เรา คนที่อ่านหนังสืออย่างเดียวไม่มีคนสอน ไม่สามารถเป็นหมอรักษาคนได้
แต่ผมเห็นว่าควรผลิตหมอและพยาบาลให้มากกว่านี้ และให้ทำงานสบายหน่อย รกคนดีกว่ารกหญ้า
อันนี้ก็ไม่เห็นด้วยมากๆ เพราะว่า วิชาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล วิศวกร เนี่ยต้องการการผลิตอย่างพิถีพิถันนะครับ ไม่งั้นสร้างออกมาไม่ได้มาตารฐานจะเป็นปัญหาเสียมากกว่า ไม่ใช่คนงานสร้างถนนนะครับ จะได้เอาใครมาทำก็ได้
ถ้าหากซักแต่สร้างๆๆๆ ออกมาเนี่ย อันนี้มากกว่าที่จะทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจและเศรษฐกิจ ถ้าได้หมอไม่ได้มาตราฐานออกมามากๆ เคสไม่พึงประสงค์น่าจะมากๆๆๆ ขึ้นด้วย
โดย: ไม่เห็นด้วย [21 ม.ค. 49 16:57] ( IP A:61.90.246.105 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่เห็นด้วยกับหมอ jjxyz หลายเรื่อง
สมัยนี้เรียนหนังสือก็ไม่ใช่ยาก สื่อยุคอีเล็กโทรนิก ราคาถูก การสอนก็สามารถเรียนทางเน็ทได้ โอกาสกำลังมา ถ้ายังคิดแบบเดิมๆก็ ช่วยไม่ได้จริงๆ
อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ตอนเรียนเคยมีอาจารย์บอกว่า วิชาแพทย์ เป็นวิชาที่ไม่สามารถเรียนได้โดยทางไปรษณีย์ครับ ต้องมีคนคอยสอน คอยจ้ำจี้จ้ำไช คอยcover เรา คนที่อ่านหนังสืออย่างเดียวไม่มีคนสอน ไม่สามารถเป็นหมอรักษาคนได้
แต่ผมเห็นว่าควรผลิตหมอและพยาบาลให้มากกว่านี้ และให้ทำงานสบายหน่อย รกคนดีกว่ารกหญ้า
อันนี้ก็ไม่เห็นด้วยมากๆ เพราะว่า วิชาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล วิศวกร เนี่ยต้องการการผลิตอย่างพิถีพิถันนะครับ ไม่งั้นสร้างออกมาไม่ได้มาตารฐานจะเป็นปัญหาเสียมากกว่า ไม่ใช่คนงานสร้างถนนนะครับ จะได้เอาใครมาทำก็ได้
ถ้าหากซักแต่สร้างๆๆๆ ออกมาเนี่ย อันนี้มากกว่าที่จะทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจและเศรษฐกิจ ถ้าได้หมอไม่ได้มาตราฐานออกมามากๆ เคสไม่พึงประสงค์น่าจะมากๆๆๆ ขึ้นด้วย
โดย: ไม่เห็นด้วย [21 ม.ค. 49 16:57] ( IP A:61.90.246.105 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าหมอเรียนทางเน็ทได้ คนไข้คงรักษาทางเน็ทได้ครับ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่เข้าใจนะครับ ถ้าคนไข้กับหมอไม่ศรัทรากัน อย่างไปรักษาเลยครับ ต่างระแวงกันคงรักษากันลำบากครับและคงไม่หายป่วยแน่นๆ ถ้าคนไข้ศรัทราในหมอพระ หมอผี ก็จงไปหาเถิดครับ เพราะยังไงเกิดไม่หายหรือผิดพลาด คุณคงไม่ไปฟ้องเรียกร้องความเสียหายจากหมอผีแน่นๆ เพราะคุณศรัทราเอง แม้คุณต้องตายแต่คุณก็สบายใจครับ ถือเป็นกรรมเก่า แต่ถ้าคุณไปหาหมอที่รพ. ความรู้สึกต่างไปครับ เพราะรัฐบาลบอกมาว่า 30บาทรักษาได้ทุกโรค คุณถือว่าหมอจะต้องดูแลเขารักษาเขาตามที่รัฐบาลบอกมา เป็นหน้าที่คุณหมอ ความศรัทราไม่มีในตัวหมอ ถ้าหมอพลาดเมื่อไร ตูเอาเรื่องแน่นๆ
โดย: คนเดือนตุลาที่ไม่ใช่หมอ [24 ม.ค. 49 11:27] ( IP A:203.188.19.204 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
เห็นด้วยกับ 5 และ 6 เป็นอย่างยิ่ง
โดย: ปสด. [25 ม.ค. 49 21:24] ( IP A:125.24.19.235 X: )
ความคิดเห็นที่ 8
คงต้องสร้างหมอที่มีคุณภาพด้วยไม่ใช่สักแต่สร้างๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะได้มีปัญหาน้อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ .......................เน้นคุณภาพด้วย
โดย: stellmed@gmail.com [29 ม.ค. 49 11:51] ( IP A:203.151.76.2 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน