consumer.pantown.com
Thai Iatrogenic Network รวมกระทู้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ <<
กลับไปหน้าแรก
เถียงกันไปโลกยิ่งร้อน
เข้ามาเวปนี้แล้วรู้สึกปลงอนิจจังกับชีวิต
เราเป็นหมอค่ะ
หมอก็มีหลายแบบ ยอมรับว่าที่เห็นแก่เงิน และ"หัว-หมอ"จริงๆก็มีเยอะ(แต่มันต่างอะไรกับ
อาชีพอื่น
ล่ะ ใครๆก็อยากได้เงิน เพียงแต่ว่าคนที่ใส่กาวน์ขาวๆมันดู
เลอะง่ายกว่า
เท่านั้นเอง)
คนอยู่กทม.ที่เห็นภาพหมอผู้ภูมิฐาน ขับรถคันงาม เห็นตัวเลขเงินเดือนที่ได้ ก็ย่อมมองว่าเป็นอาชีพที่ร่ำรวย
เราเป็นหมอมาเกือบสิบปี มีเงินเก็บ3แสน มีหนี้อยู่เป็นล้าน ต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวหลายชีวิต และก็ไม่มีความฉลาดหรือเล่นลิ้นเก่งพอจะไปทำธุรกิจอื่นๆด้วยค่ะ ...แต่ในอดีตเคยเป็นคนที่ทุ่มเทกับการดูแลคนไข้จนไม่หลับไม่นอนมาแล้ว ..แถมเคยติดโรคจากคนไข้มาแล้ว
หลังจากสังขารร่วงโรย และรู้จักโลกมากขึ้น ตอนนี้ขอบอกว่าลืมอุดมการณ์ด้านแพทย์ที่เคยมีไปหมดแล้ว และขณะนี้กลับมองในมุมกว้างๆระดับโลกว่า
โลกนี้ถ้ามีมนุษย์ให้น้อยลง ภาวะโลกร้อนคงจะดีขึ้นกว่านี้
(ขอแนะนำตัวไว้สักนิด)
ยังไงก็ตามเข้ามาอ่านกระทู้ต่างๆในเวปนี้แล้วสะท้อนใจค่ะ
กลุ่มคนแรกที่เรารู้สึกเห็นใจและเป็นห่วงคือใครรู้มั้ยคะ
เราห่วงพวก
น้องๆหมอ
ค่ะ ..เด็กๆ ที่ ส่วนใหญ่ยังคงมี
ความตั้งใจอันบริสุทธิ์ของวิชาชีพ อย่างที่ตัวเราเคยเป็นมาก่อน
(ขอบอกว่ามีเด็กส่วนน้อยค่ะ ที่เข้ามาเรียนหมอเพื่อความโก้เก๋ เอาไว้ข่มบ้านอื่นหรือเพื่อ make money ตั้งแต่แรก)
ประเทศเรา ทุกปีมีน้องหมอที่กำลังจะจบ หมอที่กำลังจะจากครอบครัวออกไปเผชิญงานหนักที่ต่างจังหวัด บางที่ไม่มีแม้กระทั่งไปรษณีย์ ต้องตรวจคนไข้ที่พูดคนละภาษาวันละ200คน แถมบ่อยครั้งที่ต้องอยู่คนเดียวในอำเภอตลอดหนึ่งสัปดาห์ รับผิดชอบงานทั้งวันทั้งคืน
บางคนเป็นลูกหลานผู้ร่ำรวยที่แม้ไม่ได้เป็นหมอก็ไม่เดือดร้อน แต่ยังเดินทางไปเป็นหมอบ้านนอกด้วยใจบริสุทธิ์
บางคนฐานะปานกลาง ต้องเป็นความหวังของคนทั้งครอบครัว แต่ก็พกพาความฝันที่จะเป็นแพทย์ที่เก่งมากๆและช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย ด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์เหมือนชื่นชมพระเอกในการ์ตูน
เราคิดถึงน้องๆพวกนี้แล้วไม่อยากให้เข้ามาอ่านเวปนี้เลย(น่าจะจั่วหัวไว้เลยนะว่า
บอร์ดนี้ไม่เหมาะที่จะให้เด็กๆที่จบใหม่ได้อ่านนะ อาจทำให้เกิดอาการ"อุดมการณ์เสื่อมก่อนเวลาอันควร"ได้
)
ก็เข้าใจจิตใจของผู้เสียหายหรอกนะ และก็เข้าใจแพทย์ด้วย และที่สำคัญ นับว่าตัวเองโชคดีที่(ยัง)ไม่เคยเจอเหตุการณ์ฟ้องร้อง จึงยังสามารถมีหัวใจที่มองอะไรแบบกลางๆได้
เราไม่อยากให้เหตุการณ์ฟ้องร้องต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้คนที่ยังเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจในวิชาชีพ ต้องใจฝ่อ
ขอเล่าเรื่อง
เพื่อน
สนิทของเรา เคยโดนฟ้องร้อง...สักนิดนึงนะ
เรารู้ดีแก่ใจว่าเพื่อนเราคนนี้เป็นมนุษย์ที่ดีมากๆ ในตอนนั้นเราเพิ่งจบกันมาใหม่ๆความ
ตั้งใจ
รักษาผู้ป่วยเต็มร้อย ขอบอกว่าเป็นสภาพที่ต้อง"สั่นสู้"จริงๆ และความผิดพลาดที่เกิด มันเนื่องจากการ
ขาดประสบการณ์
ล้วนๆ
ถ้าจะให้หาคนผิดจริงๆก็ต้องโทษที่
ระบบ
ของประเทศน่ะแหละ ในตอนนั้น เด็กจบใหม่อย่างเราต้องระเห็จจากพ่อแม่ไปใช้ทุนไกลถึงชายแดนประเทศ ช่วงปีแรกหลังเรียนจบ(เรียกว่าช่วงฝึกเพิ่มพูนทักษะ) ต้องทำงานกันอย่างเข้มในโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดให้เกิดความมั่นใจก่อนที่จะแยกย้ายไปอยู่ตามอำเภอ
แต่....เนื่องจากในปีนั้น ขาดแพทย์ประจำรพ.อำเภอ ทำให้หมอจบใหม่ต้อง
เป่ายิ้งฉุบ
กัน เพื่อเลือกผู้โชคร้าย 2 คนไปประจำโรงพยาบาลอำเภอโดยที่ยังไม่ผ่านการฝึกเพิ่มพูนทักษะ และเรากับเพื่อนคือผู้โชคร้ายสองคนนั้น (โอละพ่อดีมั้ยล่ะเมืองไทย เป่ายิ้งฉุบเพื่อความอยู่รอดของคนทั้งอำเภอน่ะ จะโทษใครดีล่ะคะ ....แต่ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรนะ ยอมรับว่าinnocentจริงๆ ได้แต่คิดว่า...โอย...ตายแล้ว ต้องรีบเอาตำรามาอ่านทบทวนอีกรอบแล้ว) ถ้าเป็นเมืองนอกเนี่ย ต้องเป็นหมอที่มีประสบการณ์นะ ถึงจะรับผิดชอบทั้งอำเภอได้
ยังจำได้เลยว่า แต่ละคืนที่ตัวเองอยู่เวร เล่นเอานอนไม่หลับ ได้แต่ภาวนาว่าอย่ามีคนไข้หนักๆมาเล้ย ใส่ท่อช่วยหายใจก็ทำมาแค่ไม่กี่เคสเอง ไส้ติ่งก็เคยผ่ามาสองสามเคส ถ้ามีคนไข้มาแล้วเราไม่ทำเองแต่ส่งเข้าจังหวัด พี่ๆเค้าจะโทรมาด่าเรามั้ย ...กังวลไปต่างๆนานา
คือเราจะบอกว่า
สภาพความเป็นไปของประเทศไทย เอื้อให้เกิดความผิดพลาดทางการแพทย์ได้ง่ายอยู่แล้วค่ะ
และก็เอื้อให้เกิดการต่อสู้กันระหว่างแพทย์กับผู้เสียหายแบบไม่มีวันจบสิ้น ในรูปแบบต่างๆ
สังเกตว่าข้อความที่เถียงกันในนี้ดูแล้วเป็นเรื่องของการใช้อารมณ์และปะทะคารมกันซะส่วนใหญ่
คนที่ไม่เคยเข้าไปเอี่ยวกะเหตุการณ์จริงก็อ่านแล้วเอามัน
คนที่เคยเจอเหตุก็อ่านแล้วของขึ้น
แพทย์เด็กๆอ่านแล้วก็ใจฝ่อแถมทำให้เกิดความคิดที่ว่าเราจะเหนื่อยจะเสี่ยง(ต่อการติดโรคและโดนฟ้อง)ไปเพื่ออะไร
เหมือนว่าเถียงกันไปแบบเอาเกลือแลกเกลือ เค็มกันถ้วนทั่ว
ขอบอกว่าก็ไม่ได้เข้าข้างหมอ เพราะเข้าใจค่ะว่านิสัยและการวางตัวอย่างไรของพวกหมอที่ทำให้เป็นเป้าของการถูกหมั่นไส้เอา ตัวเองอยู่ในวงการมาก็เห็นว่าหมอนิสัยแย่ เห็นแก่เงิน ขี้เกียจ ก็มีเยอะ
แต่..อยากจะบอกว่าคนดีๆที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับสังคมโลก ก็อยู่ในวงการหมอมากมายเช่นกัน เพราะโดยมากคนที่เข้าเรียนหมอจะเป็นพวกเด็กเรียน เด็กดีของพ่อแม่น่ะ ที่เข้าขั้นซื่อเอามากๆก็มี
เราห่วงน้องหมอจริงๆ
ก็คงได้แต่บอกว่าตอนนี้ภาวะโลกร้อนก็มีแต่จะแย่ลง มนุษย์เราก็เอาแต่ทะเลาะกัน
ขอให้คนที่มีบาดแผลในใจทั้งหลาย ปล่อยวางบางสิ่งไปทำอะไรเพื่อโลกที่คุณเหยียบอยู่กันบ้างนะ เพราะเดี๋ยวจะไม่เหลือเวทีให้ทะเลาะกันด้วยซ้ำ
ห่วงนะคะ
โดย: หมอห่วง [8 เม.ย. 50 16:41] ( IP A:58.9.108.47 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
เขียนยาวๆทำไม ใครจะอ่าน
โดย: เจ้าบ้าน [8 เม.ย. 50 19:16] ( IP A:222.123.112.230 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
เวรกรรม คุณเจ้าบ้านอย่าทำอย่างนี้สิครับ อยากให้คนอื่นเขามองแย่ๆ หรือไง
โดย: +++ [8 เม.ย. 50 19:33] ( IP A:58.8.88.243 X: )
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณความหวังดีของรุ่นพี่ ผมขอยืมคำของKanu มาใช้นะครับ
..จะเป็นหมอจนเลือดหยดสุดท้าย
โดย: ปริญญา [9 เม.ย. 50 12:42] ( IP A:125.26.124.49 X: )
ความคิดเห็นที่ 4
อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย นานๆจะมีคนที่มองโลกอย่างเป็นธรรมบ้าง
โดย: คนผ่านมา [9 เม.ย. 50 17:22] ( IP A:124.157.186.238 X: )
ความคิดเห็นที่ 5
Reply #2 son of a bitch!
โดย: เจ้าบ้าน
[11 เม.ย. 50 21:40] ( IP A:124.121.136.179 X: )
ความคิดเห็นที่ 6
IP.222.123.112.230
โดย: เจ้าบ้าน
[11 เม.ย. 50 22:03] ( IP A:124.121.136.179 X: )
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณครับและขอตอกย้ำความรู้สึกอีกครั้งว่า .จะเป็นหมอจนเลือดหยดสุดท้าย.
โดย: kanu [12 เม.ย. 50] ( IP A:125.24.166.6 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน