consumer.pantown.com
Thai Iatrogenic Network รวมกระทู้เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ <<
กลับไปหน้าแรก
สองสามีภรรยาโวยโรงพยาบาลทำคลอดลูกตาย
สองสามีภรรยาโวยโรงพยาบาลทำคลอดลูกตาย แม่เด็กมดลูกแตกอาการโคม่า ถูกส่งต่อ จ.ขอนแก่น ฝากศพเด็กเก็บรักษาไว้โรงพยาบาลหวังรักษาตัวเสร็จจะนำไปบำเพ็ญกุศล กลับถูกโรงพยาบาลเผาทิ้งก่อน ร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผอ.รพ.และสาธารณสุขอำเภอ เรื่องกลับเงียบ คู่กรณีแจงทารกตายเป็นเหตุสุดวิสัย
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 กรกฎาคม นายสุรศักดิ์ พลสวัสดิ์ อายุ 39 ปี และนางจำลอง พลสวัสดิ์ อายุ 40 ปี สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 1 บ้านโอโล ต.โอโล อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หอบเอกสารเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน จ.ชัยภูมิ ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไปคลอดบุตรและเด็กเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ ่งใน จ.ชัยภูมิ เมื่อฝากศพลูกไว้โรงพยาบาลกลับนำไปเผา
นางจำลอง กล่าวว่า ระหว่างตั้งครรภ์ได้ฝากท้องกับแพทย์หญิงที่โรงพยาบาลดังกล่าว และได้รับการตรวจครรภ์อย่างต่อเนื่อง แพทย์แจ้งว่าเด็กสมบูรณ์ดี แต่เนื่องจากแม่เป็นโรคเบาหวาน แพทย์จึงระบุในสมุดฝากครรภ์ว่าให้คลอดด้วยการผ่าตัดหน้าท้อง จนกำหนดวันคลอดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2549 ที่ผ่านมา แต่วันคลอดแพทย์เจ้าของไข้ไม่อยู่ มีแพทย์หญิงอีกคนมาทำคลอด โดยมีพยาบาลมาช่วย 3 คน แต่ระหว่างการคลอดรู้สึกเจ็บปวดมาก กระทั่งมีการประสานแพทย์อีกคนให้มาผ่าตัดทำคลอดให้ โดยหลังตรวจอัลตราซาวนด์ก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย มาฟื้นอีกทีบ่ายวันรุ่งขึ้น ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น แพทย์บอกว่ารับตัวมารักษาต่อในสภาพมดลูกแตก ต้องตัดมดลูกทิ้งและไม่สามารถมีบุตรได้อีก
นายสุรศกดิ์ เล่าว่า ทารกเป็นเพศหญิง เสียชีวิตตอนคลอด ส่วนภรรยาอาการหนัก จึงรีบส่งตัวมารักษาต่อที่ขอนแก่น ระหว่างนั้นได้ฝากศพลูกไว้ที่ห้องเก็บศพ จ่ายเงินค่าฉีดยาฟอร์มาลินกันศพเน่าไว้จำนวน 100 บาท เพราะหวังว่าหลังจากภรรยาหายเป็นปกติจะมารับศพลูกสาวกลับไปบำเพ็ญกุศล แต่ภรรยารักษาตัวอยู่ประมาณ 3 เดือน เมื่อกลับมาขอรับศพลูก ก็รับแจ้งว่าเผาไปแล้ว สอบถามผู้บริหารโรงพยาบาลก็ไม่มีคำตอบ จึงเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ยุติวิชญ์ โฉมสะอาด พนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม และทำหนังสือร้องทุกข์ต่อสาธารณสุขอำเภอ แต่เรื่องกลับเงียบไป
น.พ.ชูรัตน์ คูสกุลรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ระหว่างนี้ สสจ.จะหาเงินช่วยเหลือครอบครัวนี้ต่อไป เพื่อบรรเทาทุกข์ได้บางส่วน ระหว่างรอการสอบสวนจะสิ้นสุด
ด้าน ร.ต.ท.ยุติวิชญ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ในข้อหาทำคลอดเด็กเสียชีวิต และผู้เสียหายยังได้รับผลกระทบมดลูกแตกด้วย โดยเกิดจากความประมาทของแพทย์ ส่วนกรณีที่ศพเด็กถูกโรงพยาบาลเผาทำลายทิ้งก่อนนั้น เป็นเรื่องทางคดีอาญาที่จะต้องดำเนินคดีต่อไป
น.พ.ประทีป เมฆประสาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับคนไข้ คือ นางจำลอง พลสวัสดิ์ โดยรายละเอียดแล้วคนไข้รายนี้ตั้งครรภ์เป็นครั้งที่ 4 โดยครรภ์แรกสามารถคลอดเองได้ แต่ครรภ์ที่ 2 และ 3 ทำแท้งมา และพอมาครรภ์ที่ 4 คนไข้ไม่ได้มาฝากครรภ์กับทางโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลก็รับดูแล และตรวจพบว่าคนไข้รายนี้มีโรคเบาหวานแทรกซ้อนเข้ามาด้วย
เมื่อถึงกำหนดคลอดวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา แพทย์ก็ให้คนไข้คลอดเอง เพราะจากการประเมินการคลอดลูกคนแรก สามารถคลอดเองได้โดยไม่ต้องผ่า แต่จังหวะที่จะคลอดแม่เด็กมีแรงเบ่งไม่พอ จึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีการผ่าตัดทางหน้าท้องช่วย
ด้วยเหตุที่ว่าคนไข้รายนี้เคยทำแท้งมา 2 ครั้ง มดลูกจึงบาง ทำให้มดลูกแตก เด็กจึงขาดเลือดนานและเสียชีวิต และโรงพยาบาลก็ได้ช่วยชีวิตคนไข้ด้วยการส่งตัวไปผ่าตัดมดลูกที่โรงพยาบาลเอก ชนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย ที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ชี้แจงให้ญาติคนไข้รายนี้เข้าใจแล้ว แต่สามีของคนไข้ไม่ยอมฟัง และไปแจ้งความในที่สุด
ส่วนเรื่องศพของทารกนั้น ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อไปทางญาติของคนไข้ ซึ่งญาติก็ยินยอมให้จัดการ เราก็เลยต้องทำไปตามหน้าที่ เพราะคนไข้คลอดตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2549 และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.ขอนแก่น นานถึง 3 เดือน ทางโรงพยาบาลเห็นว่าเป็นเวลานานจึงทำการฌาปนกิจ
น.พ.ประทีป กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลยินดีที่จะชดเชยค่าเสียหาย แต่สามีของคนไข้กลับไม่ยอม และไปแจ้งความ ส่วนกรณีที่มีการตั้งกรรมการสอบสวนก็พร้อมที่จะรายงานให้ทราบถึงเหตุการณ์ที ่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
โดย: copy มาฝาก [29 ก.ค. 49 7:58] ( IP A:58.9.186.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 1
สรุปข้อเท็จจริง
กรณีนายสุรศักดิ์ พลสวัสดิ์และ นางจำลอง พงสวัสดิ์ ร้องเรียน สื่อมวลชนจังหวัดชัยภูมิ
วันที่ 27 กรกฎาคม 2549
ตามที่ หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน และหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2549 ได้ลงข่าว ตามที่ นายสุรศักดิ์ พลสวัสดิ์ อายุ 39 ปี และนางจำลอง พลสวัสดิ์ อายุ 40 ปี สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 1 บ้านโอโล ต.โอโล อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หอบเอกสารเข้าร้องเรียนสื่อมวลชน จ.ชัยภูมิ ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไปคลอดบุตรและเด็กเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ ่งใน จ.ชัยภูมิ เมื่อฝากศพลูกไว้โรงพยาบาลกลับนำไปเผา
โรงพยาบาลภูเขียว ขอแจ้งข้อเท็จจริงโดยเรียงลำดับเหตุการณ์ดังนี้
วันที่ 29 สิงหาคม 2548 ฝากครรภ์ครั้งแรก จากการซักประวัติพบว่า ตั้งครรภ์ที่ 4 ครรภ์ที่ 1 ได้เลี้ยงบุตร ครรภ์ที่สอง ทำแท้ง ครรภ์ที่ สาม แท้ง เอง ประจำเดือนครั้งสุดท้าย วันที่ 4 มิถุนายน 2548 อายุครรภ์ 12 +2 สัปดาห์ ระดับมดลูก 1/3 เหนือกระดูกหัวเหน่าทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้ทราบถึงความเสี่ยงในการตั้งครรภ์
วันที่ 9 กันยายน 2548 อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ได้ทำการคัดกรองพบว่าเป็นโรคเบาหวาน ได้ทำการรักษาโดย การฉีดอินซูลิน และนัดมาตรวจในระหว่างตั้งครรภ์ทุก 2 สัปดาห์ อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ได้ทำการตรวจคลื่นหัวใจทารก และนัดมาตรวจที่โรงพยาบาลเป็นช่วง ๆ และทำการตรวจอัลตราซาวด์เป็นช่วง ๆ
วันที่ 8 มีนาคม 2549 มาพบแพทย์ตามนัดครั้งสุดท้ายแพทย์ให้การรักษาโดย
ตรวจเลือดเบาหวาน
ตรวจคลื่นหัวใจทารก
สอนนับลูกดิ้น
และนัด 15 มีนาคม 2549 เพื่อทำการกระตุ้นการคลอดโดยใช้ยา
เหตุการณ์ วันที่ 15 มีนาคม 2549 เวลา 08.30 น. ผู้ป่วยได้เข้าพักอยู่ในโรงพยาบาล แพทย์ได้ให้การรักษาตามวิธีปฏิบัติเรื่องการใช้ยาเพื่อการคลอด พยาบาลประจำห้องคลอดได้ให้การดูแลรักษามารดา และทารกตามวิธีปฏิบัติ เรื่อง การดูแลมารดาและทารก
หลังจากพบมดลูกเปิดหมด และไม่มีการเคลื่อนต่ำของศรีษะ นาน 15 นาที แพทย์ตัดสินใจช่วยคลอดโดยเครื่องดูดสุญญากาศ แต่พบไม่มีการเคลื่อนต่ำของศรีษะทารก จึงตัดสินใจทำการคลอด โดยการผ่าตัดทางหน้าท้องโดยได้แจ้งให้สามีผู้ป่วยและผู้ป่วยทราบก่อนการผ่าต ัด และได้ทำการประสานงานและปรึกษากับแพทย์อีก 2 ท่านเข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยขณะทำการผ่าตัดและแพทย์อีก 1 ท่านเพื่อดูแลทารกหลังการผ่าตัด
ขณะผ่าตัดพบว่ามีการแยกตัวของชั้นมดลูก มีเลือดออก จึงได้ทำการคลอดทารกโดยเร็ว หลังคลอดทารกพบว่า ทารกไม่มีสัญญาณชีพในเบื้องต้น จึงได้ส่งต่อให้แพทย์อีก 1 ท่านดูแลทารก และพบว่าไม่สามารถฟื้นคืนชีพทารกได้ในที่สุด
ส่วนการผ่าตัดหลังจากได้นำทารกส่งต่อให้แพทย์อีกท่านหนึ่งดูแลแล้ว พบว่ามีเลือดออกจากมดลูกมาก และพบมีรอยฉีกขาดของมดลูกมาก จึงได้ทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ นรีเวช เพื่อช่วยในการผ่าตัด หลังจากแพทย์ผู้เชียวชาญเข้ามาช่วยแล้วตรวจพบว่ามีการฉีกขาดของมดลูกมาไม่สา มารถเย็บกลับเป็นปกติได้ รวมทั้งมีเลือดออกมาก จึงได้แจ้งให้สามีผู้ป่วยทราบถึงความจำเป็นที่ต้องผ่าตัดมดลูกเพื่อความปลอด ภัยของมารดา สามีผู้ป่วยทราบและอนุญาตให้ทำการผ่าตัดได้ โดยทางวาจา เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ ฉุกเฉิน หลังการณ์ผ่าตัด พบว่าสัญญาณชีพของมารดาเป็นปกติ นอนพักอยู่ในหอผู้ป่วย โรงพยาบาลได้แจ้งให้สามีผู้ป่วยทราบถึงการเสียชีวิตขิงทารก และวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับศพของเด็กทารก สามีได้อนุญาตให้โรงพยาบาลดำเนินการตามวิธีปฎิบัติของโรงพยาบาล โดยได้ชำระค่าฉีดยาศพ และเก็บศพ เป็นเงิน 100 บาท เพื่อเก็บศพไว้ และเพื่อทำการเผารวมกันกับกรณีอื่น ๆ (โดยทำการเผาทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ของทุกสัปดาห์ สามีได้รับทราบ และลงลายมือชื่ออนุญาต
เช้าวันรุ่งขึ้น (16 มีนาคม 2549 ) แพทย์ทำการตรวจผู้ป่วยอีกครั้ง พบสัญญาณชีพปกติ รู้เรื่อง พูดคุณไม่สับสน เจ็บแผลเล็กน้อย และแพทย์ได้ให้ยาแก้ปวด เวลา 15.30 น. ผู้ป่วยและญาติได้แจ้งความจำนงขอย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดข อนแก่น ทางโรงพยาบาลได้จัดรถและเจ้าหน้าที่พยาบาลนำส่งตามความประสงค์ของผู้ป่วย โดยมีสัญญาณชีพและอาการผู้ป่วยอยู่ในสภาพปกติ
โดย: ต่อ [29 ก.ค. 49 7:59] ( IP A:58.9.186.65 X: )
ความคิดเห็นที่ 2
ดูความเห็นของหมอเขาสิ
https://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1154106987
โดย: กรูไม่ผิด กรูไม่ออก [29 ก.ค. 49 15:42] ( IP A:58.8.13.43 X: )
คลิกที่นี่เพื่อกลับหน้าบ้าน